Home / LGBTQ+ / เพรงพ่าย / เธอทิ้งฉัน

Share

เธอทิ้งฉัน

Author: ลลนล
last update Last Updated: 2025-11-12 06:48:15

มาทีละคน เธอยังพอรับมือไหว แต่ถ้าจะต้องเผชิญหน้ากัน คนที่เธอเป็นห่วงก็คือปริญญ์นี่ล่ะ เพราะเป็นฝ่ายที่รู้เขารู้เรา ผิดกับอีกฝ่ายที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

หากแต่พอขึ้นมานั่งเบาะข้างคนขับ กิดากานต์ที่เข่าชนเข้ากับคอนโซลก็พยายามนิ่งเงียบ เธอรู้ตัวว่าสามารถทนกับความอึดอัดนี้ได้ แต่ทว่าพอปริญญ์หันมาเห็นเข้าก็ทำหน้าถอดสีอีกรอบ

เหมือนไหมนั้นตัวพอๆ กับกิดากานต์ แต่คนรักเก่ามีช่วงขายาวกว่าค่อนข้างมาก มันเลยทำให้เจ้าของรถต้องพูดเบาๆ ออกมาว่า “เลื่อนได้นะคะ”

“ไม่เป็นไร นั่งได้ เดี๋ยวปรับคืนไม่เหมือนเดิม”

คำนิ่มๆ แต่ทำไมมันแสบร้อนได้ขนาดนี้ แต่ยิ่งทำให้เจ็บเท่าใด ปริญญ์ก็ยิ่งรู้สึกมากเท่านั้น และในที่สุด เธอก็นึกอยากจะลองดี

“ช่างมันดิ มานี่ เดี๋ยวปรับให้”

เพียงพรวดเดียว...ทั้งตัวของปริญญ์ก็พุ่งเข้าหา ตัวประชิดตัว กระดุมเสื้อแทบจะเกี่ยวเกาะเข้าหากัน จนกิดากานต์ต้องเบือนหน้าหนีทั้งตัวแข็งทื่อ

“บอกดีๆ ไม่ชอบ”

“...................”

กิดากานต์กลับนิ่งเชิดหน้า เธอเหนื่อยหน่ายที่จะต่อปากต่อคำ ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายเริ่มเองแท้ๆ

ก็อยากมาบอกว่าโสด แต่ที่นั่งหน้ารถมันอยู่ในระดับที่ไม่เป็นมาตรฐาน มันก็อดคิดไม่ได้สิน่า แต่ช่างเถอะ...กิดากานต์ไม่ได้รู้สึกเจ็บรู้สึกปวด เพราะมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่า คนอย่างหมอปริญญ์ไม่มีทางไม่มีใคร เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็ไม่วายที่จะคลานขึ้นเตียงหากันอยู่ดี และดูจากท่าทีแล้ว เธอก็คิดว่าตัวเองน่าจะเดาไม่ผิด

เมื่อเห็นว่ายังปรับระดับไม่เสร็จเสียที สายตานิ่งเฉยก็กดลงมาหาคนที่ช้อนตาขึ้นไปมองหา และดวงตาเช่นนี้เองของกิดากานต์ที่เคยทำให้ปริญญ์ใจเต้นสั่น

“มุกนี้ไม่ผ่าน พี่ไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อตัวตอนไม่รู้ตัวก็รู้นี่”

แม้จะโดนตำหนิมาตรงๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความงดงามของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าลดลงไปเลย มีแต่จะทำให้ใจเต้นแรงขึ้นก็เท่านั้น

ปริญญ์ได้ยิน แต่สายตาและทั้งตัวเหมือนเป็นอัมพาต ความใกล้ชิดนี้มันช่วยยืนยันว่าเศษซากความรักมันยังเหลืออยู่มาก

“เสร็จยัง ขยับไป พี่ทำเองได้”

กิดากานต์พูดออกมาเป็นคำก็ยังไม่สามารถทำให้อีกคนขยับได้เสียที เธอเลยตัดสินใจหยิกเล็บเข้าสีข้างกันแรงๆ จนสะดุ้งดีดตัวออกไปทันที

“โอ๊ยพี่” ปริญญ์โอดโอยเพราะมันเจ็บมากจริงๆ เล่นเอาน้ำตาซึมขึ้นมาเลยทีเดียว

“เมื่อไหร่จะไปคะ” แทมแทมที่นั่งอยู่เบาะหลัง ถามขึ้นมาในท่าเกาะขอบกระจกด้วยสีหน้าที่เริ่มเซ็งขึ้นทุกขณะ

“จ้าๆ  เลสโก!”

เสียงดังที่ตะโกนสวนกลับไป มันไม่แค่จะสร้างเสียงกรี๊ดดีใจให้กับแทมแทมเท่านั้น แต่ยังมีอีกคนที่กดยิ้มลงมุมปากแล้วเบือนหน้าออกนอกหน้าต่างรถไปอีกคน

เมื่อรถเริ่มแล่นออกจากโรงพยาบาลช้าง ทั้งรถก็อยู่ในความเงียบ เพราะบางคราวแทมแทมก็ดูจะเงียบกว่าเด็กๆ ทั่วไป เวลานั่งรถเธอไม่รู้ตัวว่ายังรู้สึกไม่ปลอดภัย เหตุการณ์ที่จดจำได้เพียงลางๆ มันเลยทำให้เธอนิ่งขึง นั่งมองออกนอกหน้าต่าง ไม่กล้าแม้นจะงีบหลับ

กระทั่งรถจอดสนิท และบานประตูถูกเปิดออกด้วยคนขับ เด็กน้อยก็พลันเปลี่ยนเป็นคนละคน รีบวิ่งแซงคนทั้งคู่เข้าไปใน 7-11 ด้วยท่าทีร่าเริงสดใส

“ขนมได้แค่สองชิ้นนะคะ” กิดากานต์บอกกฎกันก่อนที่จะปล่อยให้เด็กน้อยเป็นอิสระ

ว่างเปล่า...หญิงสาวไม่ได้ต้องการซื้ออะไร แต่ก็เดินดูครีมซองไปเรื่อยๆ กระทั่งไปถึงชั้นวางยาสระผม จากที่คิดว่าจะเดินหนี เพราะอดีตคนรักยืนดูของอยู่ตรงนั้น หากแต่พอแทมแทมที่เดินวนมาเจอปริญญ์เข้าก็หยุดคุยทันที

“เหมือนของป่าป๊ะหนูเลย” แทมแทมพูดขึ้น เมื่อเห็นแชมพูสูตรเย็นสำหรับผู้ชายที่ปริญญ์หนีบไว้กับรักแร้ตัวเอง

“อะไรกันน่ะสองคน” กิดากานต์แทรกขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าลังเลของอดีตคนรัก

“น้าคีย์ใช้ของผู้ชาย เหมือนป่าป๊าเลยค่ะ”

“แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าอันไหนของผู้หญิงผู้ชาย”

“ของผู้ชายจะสีดำๆ น้ำเงินๆ ป่าป๊าสอน”

“แล้วป่าป๊าเคยใช้ขวดสีขาวๆ ชมพูๆ ของหนูบ้างมั้ยคะ” กิดากานต์ย้อนถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

“เคยค่ะ”

“ฉะนั้นมันใช้ร่วมกันได้ค่ะ น้าคีย์แค่ชอบกลิ่นสปอร์ตแบบนั้น แต่วันก่อนก็ยังใช้แบบของแม่อูนนะคะ แบบที่หนูเห็นในห้องน้ำแม่ไง”

“น้าคีย์ชอบกลิ่นนี้เหรอคะ” แทมแทมเงยหน้าขึ้นถามด้วยความอยากรู้

“ชอบสิ”

ปากตอบคำถามกับเด็ก แต่ทว่าสายตากลับละไม่ได้ไปจากวงหน้าคนที่เพิ่งชี้แจงในเรื่องที่ไม่ต้องทำก็ได้ แต่พอทำขึ้นมาแล้ว ทำไมมันทำให้ปริญญ์รู้สึกขยุกขยิกในใจขึ้นมาเสียอย่างนี้ล่ะ

“แล้วเราได้ขนมครบยังคะ” กิดากานต์ก้มลงไปถามคนตัวเล็ก เลยไม่ทันได้เห็นแววตาอาลัยอาวรณ์ที่ไม่คิดปกปิดนั้นของปริญญ์แม้สักนิด

“เหลืออีกชิ้น งั้นหนูไปหาก่อนนะคะ”

พอเด็กตัวน้อยเดินลากเท้าจากไป ปริญญ์ก็ถามเขินๆ ขึ้นว่า “มันแปลกเหรอพี่”

“คีย์ชอบคีย์ก็ใช้เถอะ”

“เมื่อก่อนไม่เคยจะสนใจนะ แต่พอเด็กทักแล้วแบบ คีย์ลองเปลี่ยนไปใช้แบบของพี่ดีป่ะ”

“จะไปเอาอะไรกับเด็ก นานๆ มาเจอกันที แต่ตัวเองใช้เองทุกวัน ประสาทจะเสียเองนะ”

“แล้วพี่ว่าไงอ่ะ”

“พี่ไม่ชอบห้ามใคร ใช้ไปเถอะ” กิดากานต์พูดไปโดยไม่ได้มองหน้ากันสักวินาที หญิงสาวกอดอกเขยิบขาทีละน้อยเพื่อดูของใช้อื่นๆ ไปอย่างเรื่อยเปื่อย

“ทีเมื่อก่อนใช้พี่ยังว่าหอมดีเลย”

“ไม่ต้องมาทำเป็นว่าชอบแบบไหนจะซื้อแบบนั้น ฉันไม่ไปดมหัวเธอหรอก”

“เมื่อก่อนก็ดมนี่”

“จะอ้วก”

“ไรอ่ะ คีย์สระทุกวันนะถ้าไม่ลืม”

“ฉันหมายถึงอย่าพยายามรื้อฟื้นน่ะคีย์ อย่าใช้ไม้นี้เลย เธอทิ้งฉัน เรื่องมันจบมาตั้งแต่ตอนนั้นละ” กิดากานต์พูดได้สะดวกปากและไร้อารมณ์ได้อย่างชนิดที่คนฟังต้องหน้าชา และไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกเลย จนกระทั่งรถเข้ามาในหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองขอนแก่น

“ไม่ต้องลงนะ อยู่ในรถนี่แหละ” กิดากานต์กำชับก่อนที่จะมีการผิดคิวเกิดขึ้น

“ก็ไม่คิดอยากจะเจอเหมือนกันแหละ”

“แล้วจะตามมาด้วยทำไมก็ไม่เข้าใจ”

“คอมันยังไม่หายดีขนาดนั้น นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกนะ”

“ซ้ายมือ อ้าวนั่น ป่าป๊ามาแล้วนี่ ขับจากสนามบินเร็วจัง” กิดากานต์หันไปบอกคนที่ร้องกรี๊ดออกมาเสียงดัง

แต่แล้วจังหวะนรกที่กิดากานต์ควบคุมไม่ไหวก็เกิดขึ้น เพราะอยู่ๆ กฤษกรก็เดินออกมาเปิดประตูบ้านพอดี พอเห็นกิดากานต์เปิดประตูรถออกมา เขาก็เต้นฮิปฮอปร้องแรปต้อนรับแม่ลูกกำมะลอด้วยความสนุกสนาน...ความสุขสันต์เหล่านั้นมันช่างดูอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกัน ก็เหมือนจับเอาหัวใจคนที่นั่งอยู่ในรถทุ่มลงกับพื้นให้แหลกเหลว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพรงพ่าย   ออกมาหาได้มั้ย

    “ไม่ไปได้ยังไงคะป๊า ตั๋วเค้าก็จองให้หมดแล้ว แล้วอูนก็แค่ไปช่วยงาน ยังไม่ได้ย้ายสักหน่อย”“หนูไม่ต้องมาใช้คำว่าสักหน่อยกับป๊า แค่หนูป่วยแค่นิดเดียว หัวใจป๊าก็เจ็บปวด...”พูดยังไม่ทันจะจบ ลูกสาวขี้วีนก็สวนกลับทันที“อย่ามาลิเกค่ะป๊า”“ป๊าไม่ได้ลิเก แต่คราวนี้ป๊ายอมไม่ได้”“ก็บอกแล้วว่าแค่ไปช่วยงาน”“อูนเอาคำว่าแค่ช่วยงานมาอ้างให้ป๊าตายใจ ไปลาออกเลย ลูกสาวคนเดียวป๊าเลี้ยงได้ ไม่ต้องทำงานเป็นหมอแล้ว ป๊านอนไม่หลับสักวันเพราะเรื่องหนูนี่แหละ”“ป๊าลองเป็นช้างสิ ถ้าป่วยมาแล้วไม่มีหมออย่างอูน ป๊าจะรู้สึก”“หนูอย่ามาแช่งป๊านะ”“ไม่ได้แช่ง แต่ป๊าเองไม่ใช่เหรอที่เลี้ยงหนูมาให้รักสัตว์ ป๊าเองไม่ใช่เหรอที่ชอบช้างมากที่สุด หนูก็เดินตามทางที่ป๊าเคยขีดไว้ให้แล้วไง หนูจะสี่สิบแล้ว หนูถึงขอให้เลิกยุ่งกับชีวิตหนูสักที”“ก็หนูทำตัวน่าเป็นห่วง ให้ตายยังไงป๊าก็ไม่ยอมให้หนูไปลำปาง”“งั้นป๊าก็ต้องช่วยหนูแล้ว

  • เพรงพ่าย   ใช้ของด้วยกัน

    “กวนประสาท...ฮือ ทำไงดี เด็กต้องตกใจแน่ๆ ตาพี่แดงไปหมดเลย”ว่าแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิด มันก็ดันมาเกิดกลางทาง และหากจะพากันไปทั้งสภาพนี้ มันคงแย่พอๆ กับการไม่ไปร่วมขบวน ดังนั้นคนทั้งคู่เลยพากันกลับไปล้างหน้าที่บ้านอีกรอบ“แว่นคีย์ที่พี่เคยซื้อให้อยู่ไหนอ่ะ ใส่อันนั้นพรางตาได้ดีนะ” ปริญญ์บอกคนที่ยืนล้างหน้าอยู่ในครัว“อยู่บนห้องอ่ะ หยิบให้หน่อย”และเมื่อปริญญ์เดินกลับลงมาอีกครั้ง เธอก็เดินเข้าไปสวมกอดผ่านแผ่นหลังกันไปอย่างอ่อนโยน“เลิกเกลียดคีย์เรื่องเพลงน้า”“คนพูดน่ะพูดง่าย”“คีย์ขอโทษ ตอนนี้คีย์อยากเห็นคุณมีความสุข เพลงพวกนั้นมันแค่ข้ออ้างของคนปากเสีย ไม่ได้ขอให้คุณให้อภัยนะคะ แต่อยากให้เข้าใจว่า มันไม่ใช่สิ่งที่คีย์คิดจริงๆ เพราะเพลงที่คีย์ไม่ชอบจริงๆ อ่ะคือเพลงเพื่อชีวิต พี่ก็น่าจะรู้ตั้งแต่เราคบกันแรกๆ”“ไม่ใช่แค่นี้ใช่มั้ยที่โกหกพี่”“มันนานมากแล้วอ่ะ จำไม่ค่อยได้...”“แล้วที่ทำน่ะ เพราะเข้าใจว่าพี่ยังรั

  • เพรงพ่าย   รู้ใจ

    จริงดั่งที่เข้าใจมาตลอด ยิ่งปริญญ์พยายามทำให้อีกคนเจ็บมากเท่าใด แต่หัวใจของเธอกลับเจ็บยิ่งกว่า เธอมองเห็นความอ่อนล้าเหล่านั้นก็อยากจะโผเข้าไปกอด แต่หากจะทะเล่อทะล่าแสดงออกไปเช่นนั้น คนที่มีปมแน่นในใจ คงไม่ยอมเปิดใจให้กันง่ายๆเธอเลยทำได้แค่แสร้งทำเป็นว่าไม่เข้าใจ หญิงสาวไม่พูดอะไร นอกจากการเดินเข้าไปหา แล้วค่อยๆ เอนตัวลงนอนหนุนตักคนที่รักสุดหัวใจนั้นไปเงียบๆ“อืมม์...คีย์คะ คือจริงๆ ไม่ต้องพาไปก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ไปเองก็ได้”นั่นไงล่ะ ปริญญ์คิดเอาไว้ไม่มีผิด ว่าจะต้องได้ยินอะไรแบบนี้ ดังนั้นจากที่เคยนอนหงาย ก็ค่อยๆ พลิกตัวเข้าไปกอดกันเอาไว้เพียงหลวมๆ ศีรษะได้รูปทำท่าส่ายหน้า ไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น ก่อนจะงึมงำบอกออกมาว่า“ของีบสักห้านาทีนะ แค่ห้านาที หมดเวลาแล้วปลุกเลย”“เหนื่อยเหรอคะ”“ค่ะ ปีนขึ้นปีนลง มาหลายตัวด้วย”“ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปช่วย”“ถึงพี่อยู่คีย์ก็ไม่ยอมให้พี่ทำหรอก”“งั้นนอนพักดีกว่ามั้ย ไม่ต้องไปหรอกเนาะ”“ไม่เอา ขอแค

  • เพรงพ่าย   ถ้ายังรักกัน

    และยิ่งกิดากานต์ปฏิเสธกันเท่าใด อีกคนก็ยิ่งอยากฟาดกันให้ราบคาบเสียแต่ตอนนี้ หญิงสาวเอาแต่ยืนหายใจฟืดฟาด จ้องหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้น“ก็บอกว่าจะเข้าไปส่งไง”“ก็แล้วจะเข้าเมืองไปทำไม”“จะไปส่งเมียตัวเองมันผิดตรงไหน”“เมียไหนกันแน่ ที่แน่ๆ พี่ยังไม่ใช่เมียเธอ ยัยเด็กคนไหนล่ะที่อยากไปหา มันไม่ใช่แค่อยากไปส่งพี่หรอก”และนี่ก็กลายเป็นการยืนยันว่า พวกเธอยังคงไม่เชื่อใจกันอย่างชัดเจน“ไม่อยากเป็นแล้วเหรอ ไหนเมื่อคืน...”พูดยังไม่ทันจบ อีกคนก็ทุบกำปั้นลงไหล่กันไม่เบานัก“เลิกพล่ามถึงตอนนั้นได้ป่ะ”“ความจริงคนเรามันออกมาตอนนั้นไม่ใช่เหรอ”“แล้วมันจะเป็นไปได้ไง ในเมื่อเธอไม่ได้ต้องการฉันจริงๆ”“.........................”เมื่อไม่อยากจะเถียง ปริญญ์ก็ทำเพียงยิ้มเยาะใส่หน้า เป็นท่ากวนประสาทที่อีกฝ่ายอยากจะตะโกนใส่หน้าให้สุดเสียง“ไม่ต้องด้อยค่ากันถึงขนาดนั้นก็ได้”“เปล่

  • เพรงพ่าย   รู้เป็นคนสุดท้าย?

    “มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ นะอูน”“นี่คีย์เค้าคิดว่าอูนกลับไปมีอะไรกันกับพี่แทคงั้นเหรอคะ ป้าขา...เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ นะคะ” กิดากานต์พูดเสียงแหบแห้งออกมาจากใจที่อ่อนล้า“ป้าจะไม่ลงรายละเอียดนะ ให้คุยกันเอง”“ไม่ได้มีจริงๆ นะคะ”“ไปคุยกันเอาเอง เพราะเจ้าปริญญ์มันก็ไม่ฟังใคร มันเชื่อที่ตามันเห็น”“ก็หนูอธิบายเค้าตั้งหลายครั้งแล้วว่าไม่ได้ทำๆ ถึงว่าสิ พอพูดถึงพี่แทคเมื่อไหร่แล้วคีย์จะกลายเป็นคนบ้าไปเลย”หลังจากวางสาย กิดากานต์ก็เพิ่งจะมานั่งคิดทบทวนว่า ปริญญ์เริ่มเปลี่ยนแปลงแหนงหน่ายกันตั้งแต่เมื่อไร และก็ถึงกับน้ำตาซึมว่ามันเกิดหลังจากสาเหตุนั้นจริงๆ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอมั่นใจว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงแม้กฤษกรจะทรงแบดดูกินไม่เลือกในเวอร์ชั่นผู้ชาย แต่เขาจะให้เกียรติเธอเสมอ จนกระทั่งตอนนี้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขายังดีอยู่ ก็เพราะเขาไม่เคยหาจังหวะรังแกกันเลยสักครั้งแต่แล้วในขณะที่นั่งไล่เรียงไทม์ไลน์อย่างรวดเร็ว พลันอีกหนึ่งความสงสัยก็ผุดขึ

  • เพรงพ่าย   ไม่แฟร์

    “โอเค คีย์อาจจะขอผิดเวลา แต่ขอให้มั่นใจกับอะไรกว่านี้อีกสักหน่อย คีย์จะกลับมาขอคบอีกครั้ง”“มั่นใจเรื่องอะไรคะ”“ไว้ถึงเวลาแล้วจะบอกค่ะ”“เรื่องที่พี่เคยถามน่ะเหรอ”ทันทีปริญญ์ก็แสยะยิ้มเครียดออกมา ทำเอาอีกคนยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก“นอนเถอะ...จะได้หายเร็วๆ ไว้หายแล้วค่อยคุยกัน”“ค่ะ”แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรกัน เป็นเรื่องน่าปวดหัวที่ไม่มีใครกล้าตั้งมันขึ้นมาเป็นคำถาม...ตั้งแต่ที่ปริญญ์เดินเข้ามาจุ๊บหน้าผากก่อนออกไปทำงาน กิดากานต์ก็กลับไปเป็นคนคลั่งรักได้อย่างเงียบๆ สมองมันแล่นแปลบปลาบ ฉายแต่ภาพซ้ำๆ ที่ทำเอานอนหน้าร้อนเป็นสีระเรื่อปริญญ์เป็นเพียงคนเดียวในชีวิต ที่รู้จักร่างกายเธอดียิ่งกว่าผู้ใด การเคลื่อนไหวอย่างรู้ใจและแสนจะช่ำชอง มันพร้อมจะหลอมละลายกายที่เกร็งสั่น ให้ปวดมวนไปทั่วร่างด้วยความกำซาบฝ่ามือเจ้าเล่ห์ปาดฉวัดเฉวียนเฉียดผ่าน แต่ไม่แตะต้องเพชรเม็ดงามที่ฉ่ำลื่นจนเจ้าตัวต้องถอนหายใจซ้ำซากด้วยความอึดอัด เพราะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status