공유

บทที่1

last update 최신 업데이트: 2024-12-04 03:30:03

บทที่1

“อธิฐานสิ่งใดหรือ” หลิวเหว่ยที่กำลังช่วยยกโคมไปลอยที่ลำธารเอ่ยถามหญิงสาวที่เขารัก

“ข้าไม่บอกหรอก ท่านก็ลองเดาดูสิเจ้าคะ”

ชายหนุ่มทำท่าขบคิด “ต้องมีเรื่องที่อยากให้ข้ากลับมาเร็ว ๆ แน่ ๆ”

ลู่จื้อรีบก้มหน้างุด “หลงตัวเองยิ่งนัก” หญิงสาวบ่นออกมาเบา ๆ

แต่ถึงกระนั้นคำของชายหนุ่มก็ถูก นางอธิฐานขอให้ชายหนุ่มได้กลับมาในตำแหน่งที่เจ้าตัวต้องการ ที่บอกเช่นนั้นเพราะไม่ว่าเขาจะเป็นเพียงหัวหน้านายกองเล็กหรือพลทหารสำหรับลู่จื้อนางก็ไม่สนทั้งนั้น ขอเพียงเป็นเขาตำแหน่งใดในกองทัพสำหรับนางนั้นมิสำคัญเลยสักนิด

“ข้าสัญญาว่าจะกลับมาเร็ว ๆ” ดวงตาคมเข้มมองไปยังใบหน้าที่ยังคงไร้เดียงสาแม้เวลาจะผันผ่านไป “จะได้ตำแหน่งที่เหมาะแก่เกียรติของเจ้า และจากนั้นจะขอเจ้ากับท่านราชครูในทันที”

ใบหน้าสวยบูดบึ้งขึ้นมาทันที “ต้องรอนานขนาดนั้น มิมีอะไรแสดงให้ข้าเห็นถึงความจริงใจเลยหรือ แม้จะเชื่อใจท่านแต่หากกลับมาแล้วทำเป็นมิรู้มิเห็น ข้าที่ต้องรอจนอาจจะเกินวัยออกเรือนจะทำเช่นไร”

หลิวเหว่ยยกยิ้มกับคำพูดของนาง “ที่จริงข้าขอเจ้ากับท่านราชครูไปแล้ว แม้จะยังไม่ถือว่ายกให้แต่ก็ให้สัญญาหมั้นหมายเอาไว้ก่อน ยามนี้ชื่อวันเดือนปีเกิดของเจ้าข้าก็เอาติดตัวไปด้วย เจ้าไม่ต้องห่วงนะเสี่ยวจื้อ ข้าจะรักและมั่นคงต่อเจ้าเพียงผู้เดียว”

ใบหน้าสวยแดงระเรื่อเมื่อได้ฟังคำของชายหนุ่ม

“ทางนั้นคนเริ่มจางแล้วเราไปเดินเล่นดีกว่า” ลู่จื้อเอ่ยแก้เก้อไปอย่างนั้น แต่มินึกว่าเมื่อเดินมาถึงตรงที่มีคนตั้งแผงค้าขายจะทำให้นางอายเสียยิ่งกว่าตอนลอยโคมกระดาษ

“ด้ายแดงเชื่อมชะตาไหม ของสำหรับคู่รัก นี่เจ้าทั้งสองด้ายแดงไหม” เสียงของพ่อค้าข้างทางที่เอ่ยเรียกไม่ได้ทำให้หญิงสาวสนใจสักเท่าไร เพราะนาง มั่นใจในชะตาของตนกับหลิวเหว่ยอยู่แล้ว

แต่คนที่กำลังจะต้องเดินทางไกลแล้วมีสิ่งช่วยยึดเหนียวหัวใจในยามที่คิดถึงและโหยหาบ้างก็คงจะดี “เอาให้ข้ากับคู่หมั้นหน่อยสิ”

คำของหลิวเหว่ยไม่ใช่แค่คนขายเท่านั้นที่ได้ยิน บรรดาสาวน้อยใหญ่ที่แอบมาเดินวนไปเวียนมาอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินกันไปไม่น้อย

“ใส่เครื่องรางด้วยไหมขอรับคุณชาย”

หลิวเหว่ยยิ้มมุมปากน้อย ๆ “หากมีอะไรที่บอกว่าเราทั้งสองจะเคียงคู่กันชั่วนิรันดร์ได้ก็ใส่มา”

ใบหน้าของลู่จื้อแดงดั่งผลอิงเถา เมื่อยามนี้คนรอบ ๆ เริ่มพูดกันถึงเรื่องของนางและชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

หลิวเหว่ยก็เหมือนจะรู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบคนพลุกพล่านหลังจากได้ด้ายแดงจึงพาลู่จื้อมายืนดูบรรยากาศของงานโคม ลำธารที่เต็มไปด้วยโคมไฟทั้งที่เขียนคำอธิฐานและวาดรูป ไหลตามกระแสน้ำ คนเดินกันกวักไขว้ทั่วทั้งบริเวณ แต่บนสะพานนี้กลับมีเพียงแค่คนทั้งสอง

“ข้าคงคิดถึงบรรยากาศที่นี่มาก ๆ รวมถึงเจ้าด้วย”

ดวงตาคมที่เหม่อมองออกไปด้านหน้าในตอนแรกหันกลับไปมองหญิงสาวที่ยืนอยุ่ข้างกาย

“ข้าจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดและจะดูแลตัวเองให้ดีเพื่อเจ้านะ”

ลู่จื้อยิ้ม นางรู้ว่าอีกฝ่ายทำตามที่พูดได้แน่นอน “ต้องไม่มองผู้ใดด้วย”

คำของคนรักทำให้หลิวเหว่ยหัวเราะ

“รักเจ้าขนาดนี้แล้วจะมองใครได้อีก หรือที่ข้าทำยังไม่เพียงพอ เช่นนั้นข้าให้คำมั่นกับเจ้า ไม่ว่าจะมีหญิงสาวเสนอตัวหรือปีนขึ้นเตียงข้า ข้าก็จะสังหารนางเสียดีหรือไม่”

มือเรียวฟาดไปที่บ่ากว้างของชายหนุ่ม “เย้าข้าเช่นนี้ ขอแค่ท่านรักข้ามีเพียงข้าคนเดียวอย่างปากว่าก็เพียงพอแล้ว”

หลิวเหว่ยยิ้มจาง ๆ ดวงตาคมเข้มยังคงจ้องมองไปที่หญิงสาว พลางแบมืออก

“อันใดกันหรือ” ใบหน้าไร้เดียงสาที่ดูกี่ทีก็ทำให้ใจหวั่นไหวเอ่ยถามอย่างสงสัย

“จะผูกด้ายแดงให้กับเจ้า” ลู่จื้อมองชายหนุ่มที่บรรจงผูกด้ายแดงให้นางด้วยใจคนึงหา ยังไม่จากยังรู้สึกคิดถึงถึงเพียงนี้

“กลับเถอะ ถึงเวลาพักผ่อนของเจ้าแล้ว และยามรุ่งข้าก็จะต้องเดินทางแล้ว”

ดวงตาสวยคลอไปด้วยน้ำใส แม้ไม่ได้เอ่ยแต่นางเก็บกลั้นอารมณ์ของตนมาตลอด มิอยากให้เขาจากไปไกล แต่ก็ห้ามไม่ได้

มือที่กอบกุมกันระหว่างเดินกลับไปที่จวน แม้จะดูผิดวิสัยของหลิวเหว่ยไปหน่อยที่แสดงท่าทางเปิดเผยเช่นนี้นอกจวน แต่มือที่สั่นและชื้นน้อย ๆ ของคนที่เดินนำหน้าอยู่หนึ่งก้าวทำให้ลู่จื้อเข้าใจว่ามิใช่นางแค่คนเดียวหรอกที่ไม่อยากแยกจากกัน

“กลับกันมาแล้วหรือ” ยังไม่ทันจะก้าวเข้าจวนดี บิดาของหญิงสาวก็เอ่ยทักชายหนุ่มและบุตรสาวของตน

“ขอรับท่านราชครู”

“ท่านพ่อยังไม่พักผ่อนหรือเจ้าคะ”

คนชรายิ้มหวานให้กับบุตรีที่รักยิ่ง “รอเจ้า เสี่ยวจื้อไปพักเถอะพ่อจะคุยกับพี่เขา”

ลู่จื้อมองคนที่นางกำลังจะผละออกไปด้วยสายตาอาวรณ์ พรุ่งนี้ก็คงแทบจะไม่ได้คุยกันแล้ว แต่รอยยิ้มน้อย ๆ และการพยักหน้าราวกับบอกให้ทำตามคำสั่งบิดานั้นคล้ายจะเป็นการย้ำเตือนให้หญิงสาวเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างที่ควรเป็น

“หลิวเหว่ยมาคุยกับลุงหน่อยเถอะ”

หลิวเหว่ยเดินตามชายชราไปด้วยใจที่สั่นรัว แม้จะคุยเรื่องการหมั้นหมายไปแล้ว แต่สินสอดและพิธีการที่สำคัญก็ล้วนยังไม่ได้ทำให้เรียบร้อย มีเพียงแค่การแลกวันเดือนปีเกิดเพื่อยืนยันคำสัญญานี้เท่านั้น

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เพราะความไว้ใจ ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม   บทที่30

    บทที่30“อี้อัน เออร์หมิง เลิกฝึกดาบแล้วมากินขนมได้แล้ว” ลู่จื้อเดินไปหาสามีที่มีใบหน้าดูแก่กว่าอายุจริงมากนัก ผมของเขาเริ่มเปลี่ยนสีเร็วกว่าที่ควร ร่างกายก็เริ่มไม่แข็งแรง ทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม แต่ร่างกายกลับเหมือนชายวัยกลางคนแต่ถึงกระนั้นนางก็ยินดีที่สุดแล้วเพราะอย่างน้อย ๆ ผ่านมาเกือบจะเจ็ดปีแล้ว แต่สามีของนางก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากกว่านี้ แน่นอนว่าคงไปช่วยงานแม่ทัพหานไม่ได้อย่างแต่ก่อนแต่หลิวเหว่ยฝึกบุตรชายทั้งสองก็ไม่ถือว่าหนักหนาจนเกินไป “ท่านพี่น้ำชาเจ้าค่ะ” ลู่จื้อเอ่ยก่อนจะจับผ้าเช็ดหน้ายกขึ้นเช็ดไปตามกรอบหน้าของสามี“ท่านแม่มิเห็นเช็ดให้ข้าบ้าง” อี้อัน เด็กชายวัยเกือบหกขวบเอ่ยขึ้น “ท่านพี่ให้ข้าเช็ดให้มา ๆ ” น้องชายวันสี่ขวบหัวเราะขำพี่ชายที่ดูคล้ายจะอิจฉาบิดาของตน ต่างกับเออร์หมิงที่ติดท่านตามากกว่า ดาบฝึกได้แต่เจ้าตัวกลับชอบที่จะอ่านเขียนเรียนตำรา สมแล้วที่เป็นหลานที่ได้ใช้แซ่เหลียง หลานชายที่จะสืบสกุลเหลียงของราชครูมิเหมือนบุตรชายคนแรกอย่างอี้อันที่ชื่นชอบการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นแบบที่ใช้อาวุธหรือไม่ แม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะมีอายุเพียงแค่นี้แต่ความสามารถก็เรียกได

  • เพราะความไว้ใจ ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม   บทที่29

    บทที่29หลิวเหว่ยและลู่จื้อกลับเมืองหลวงมาช่วยท่านราชครูจัดการเรื่องต่าง ๆ ในจวน แต่บางครั้งแม่ทัพหานก็มาขอให้หลิวเหว่ยไปช่วยดูการฝึกเหล่านายทหารใหม่ ไม่ได้ให้ไปออกกำลังฝึกทหาร เพียงแค่ให้ไปนั่งดูการซ้อมเพื่อขวัญกำลังใจ อย่างไรหลิวเหว่ยก็เปรียบเสมือนวีรบุรุษสงครามในศึกคราก่อนงิ้วเรื่องเดิมเกี่ยวกับความรักที่น่าสงสารระหว่างหนึ่งแม่ทัพหนึ่งบุตรสาวของราชครู ถูกปรับเปลี่ยนเสียใหม่จนเป็นที่นิยมไปทั่วทั้งเมืองหลวงหรือแม้กระทั่งหัวเมืองเรื่องความรักมั่น และเชื่อใจในคนรักของตน จับใจหนุ่มสาวยิ่งนัก แม้จะเป็นเรื่องเล่าในโรงงิ้ว แต่ก็มีคนไม่น้อยที่คาดเดาได้ว่าแม่ทัพและคุณหนูผู้นั้นคือใคร จึงมักมีเสียงนินทากระทบกระเทียบอยู่เสมอยามงิ้วเรื่องนั้นเล่น หญิงสาวบางคนว่างิ้วเรื่องนั้นประโลมโลกจนเกินพอดี บุตรสาวราชครูในงิ้วช่างโง่งมเหลือเกิน เป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่แต่กลับหลงใหลชายหนุ่มที่ใกล้ตาย ลู่จื้อฟังคำนินทานั้นก็เพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ใครจะว่านางโง่งม นางหาได้ใส่ใจไม่ เพราะท้ายที่สุดเป็นนางที่ได้รักแท้เอาไว้ในกำมือคนที่จับกลุ่มนินทาชีวิตรักของผู้อื่น หาความรักได้ดีเท่าครึ่งที่นางมีหรือไม่ ก็ไม่ สา

  • เพราะความไว้ใจ ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม   บทที่28

    บทที่28ความเจ็บปวดในร่างกายและความร้อนแบบที่เคยเป็นตอนที่โดนพิษเข้าไปช่วงแรก ๆ เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่หลิวเหว่ยก็ไม่แสดงอาการอะไรให้ลู่จื้อเห็นมากนัก เพราะเขากลัวว่าภรรยาจะเป็นกังวลมิใช่ว่าเคยเป็นอย่างนี้ครั้งแรกเสียหน่อย และถ้าหากทนไม่ไหวจริง ๆ ยาแก้เจ็บแก้ปวดที่นางว่าก็คงไม่ต้องหรอก เพราะร่างกายจะทำให้เขาหมดสติไปเอง เหมือนเมื่อตอนที่โดนครั้งแรกลู่จื้อมองสามีก็รู้ว่าอีกคนกำลังอดทน นางไม่เอ่ยอะไรเพราะไม่ว่าคำไหนก็พูดออกไปยากทั้งนั้น หญิงสาวทำเพียงแค่เช็ดเหงื่อที่ไหลออกมา ให้กับคนเป็นสามีก็เท่านั้น“เป็นอย่างไรบ้างอาการมาครบแล้วหรือยัง” เหมือนหมอเทวดาจะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังพยายามอดทนต่อหน้าภรรยาของตน “ขอรับท่านหมอ” มือที่เหี่ยวย่นลูบเคราตนเองก่อนจะใช้เข็มแทงเข้าไปตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายหลิวเหว่ย พอดึงออกมาปลายเข็มเป็นสีดำขึ้นมาทันที“น่าจะได้เวลาแล้ว” คนมีอายุพูดก่อนจะเดินไปหยิบยามาให้กับหลิวเหว่ย ชายหนุ่มรีบรับไปกินในทันที เขารู้มาหลายวันแล้วว่าลิ้นของตนเองไม่รับรู้รสชาติไปแล้ว แต่เพราะอย่างอื่นในร่างกายยังคงดีจึงไม่ได้พูดอะไร จะเสียดายก็แค่จะไม่สามารถรับรู้รสชาติอาหารที่ลู่จื้อทำ แม้

  • เพราะความไว้ใจ ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม   บทที่27

    บทที่27“เช่นนั้นคนผู้นี้ก็คือคนที่เจ้ารักษาไม่ได้ในรอบหลายปีสินะตาเฒ่า” หลิวเหว่ยมองชายสูงอายุสองคนคุยกันราวกับเขาและลู่จื้อมิได้อยู่ตรงนี้“ใช่ข้ารักษาไม่ได้เพราะไม่มีว่านตู๋” เสียงหัวเราะดังลั่นหลุดออกมาจากคนที่ทุกคนเรียกว่าอาจารย์ “เจ้าเองก็มีวันนี้เหมือนกันสินะ ถ้าหากข้าบอกว่าข้ามีบางสิ่งที่จะทำให้เจ้าอาจจะรักษาเขาได้ เจ้าจะยอมแลกเปลี่ยนกับข้าหรือไม่” ทั้งสองพูดคุยเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องท้าทายของตนเองแต่สำหรับลู่จื้อไม่ใช่“ท่านหมอเทวดา ท่านอาจารย์ หากมีอะไรที่ช่วยสามีของข้าได้ ก็ได้โปรดช่วยด้วยเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะยอมทำทุกอย่างเอง” ยังไม่ทันจะจบประโยคของหญิงสาวผู้เป็นสามีก็เอ่ยขึ้น “ไม่นะเสี่ยวจื้อ ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องรักษาก็ได้”ดวงตาของผู้เฒ่าทั้งสองมองไปยังคนตรงหน้า “เจ้าจะแลกเปลี่ยนอะไรก็เอามา แต่ชีวิตของเขามิใช่เรื่องที่เจ้าจะมาทำเป็นเล่น พวกเราในเมืองนี้ทุกคนล้วนเป็นหนี้เขา” หมอเทวดาเห็นท่าว่าการเย้ากันระหว่างสหายจะเลยเถิดจนทำให้ภรรยาของคนป่วยคิดมาก จึงรีบตัดบทเสียงจิ๊ปากดังจากผู้เฒ่าที่ทุกคนเรียกว่าอาจารย์ “ข้ามีโสมที่ปลูกใกล้กับว่านตู๋ คนที่ให้ข้ามาบอกว่ามันจะมีสรรพคุ

  • เพราะความไว้ใจ ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม   บทที่26

    บทที่26ลู่จื้อเช็ดเนื้อเช็ดตัวสามีของนาง ทั้ง ๆ ที่หมอเทวดาบอกว่าอาการเช่นนี้จะไม่มีอีกแล้ว แต่คงเพราะเหนื่อยจากการเดินทางสุดท้ายไข้ของชายหนุ่มก็ขึ้น ในการพักโรงเตี๊ยมที่สอง โชคยังดีที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ มีบ่อน้ำแร่ร้อนซึ่งทำให้สมุนไพรที่ใช้แช่อาบตัวนั้นได้ผลดีขึ้นกว่าเก่าอาการไข้จึงมีเพียงแค่ไม่กี่วันแล้วก็เดินทางต่อได้ ลู่จื้อไม่ได้พูดถึงความลำบากที่ต้องดูแลสามี มันไม่ได้ลำบากเลยสักนิด แต่มันหนักใจเสียมากกว่าที่เห็นเขาต้องเจ็บป่วยและทรมาน“พ้นเขาลูกนี้ไปก็จะถึงหมู่บ้านของอาเฉิงแล้ว” ลู่จื้อมองตามไปอย่างยิ้ม ๆ “สวยจังนะเจ้าคะ”“อื้อสวยพี่ก็เพิ่งรู้ว่าหมู่บ้านที่อาเฉิงอยู่งดงามถึงเพียงนี้ แต่เขาก็ต้องไปรบ” แม้ว่าจะเป็นหน้าที่แต่บางครั้ง ลู่จื้อก็อยากตัดพ้อสวรรค์บ้างเหมือนกันที่ต้องให้พี่หลิวเหว่ยของนางนั้นรับเคราะห์แต่เพียงผู้เดียวและสำหรับลู่จื้อแล้วชื่อเสียงที่หลิวเหว่ยได้มาจากการกระทำครั้งนี้นางก็ไม่สนใจเลยสักนิด ที่จริงเป็นหลิวเหว่ยคิดไปเองว่ามันสำคัญ แน่นอนมันสำคัญสำหรับคนอื่นไม่ใช่ในสายตาของนาง“ท่านพี่มาเช่นนี้ไม่ได้บอกก่อนเขาจะอยู่หรือไม่เจ้าคะ หมู่บ้านก็ดูเงียบ ๆ พิกล” หลิว

  • เพราะความไว้ใจ ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม   บทที่25

    บทที่25“พี่มีเพื่อนบ้านอยู่นอกเมืองเห็นว่าเป็นเขาที่งดงามเจ้าอยากจะไปหรือไม่” ลู่จื้อไม่ปฏิเสธอีกคนอยู่แล้ว หญิงสาวมองคนรักที่แม้จะดูคล้ายกับคนปกติไม่ได้เป็นอะไรแต่เหงื่อที่ซึมอยู่น้อย ๆ ที่ขมับก็ทำให้รู้ว่าเจ้าตัวก็รู้สึกไม่สบายตัวอยู่บ้างเหมือนกันมือเรียวยกผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดเหงื่อนั่นออก “หากท่านพี่เจ็บปวดหรือเป็นอะไรก็ต้องบอกข้าทันทีนะเจ้าคะ ห้ามฝืนเด็ดขาด” แม้แต่เอ่ยคำเช่นนั้นออกไปแต่ก็ไม่แน่ใจว่าคนดื้อรั้นอย่างหลิวเหว่ยจะยอมเชื่อฟังนางไหมเพราะพี่หลิวเหว่ยที่นางรู้จักที่จริงก็ดื้ออยู่พอควร “ถ้าไม่บอกเจ้าแล้วพี่จะบอกใครกัน” ลู่จื้อหัวเราะคิกคัก “ไม่ต้องมาเย้าข้าเลย ก่อนหน้านี้ถ้าข้าไม่ดึงดันคงไม่มีทางรู้ ว่าแต่บนเขาที่ว่ามีอะไรบ้างหรือเจ้าคะ” หลิวเหว่ยส่ายหน้า “พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่เขามาเยือนแถวนั้นจึงอยากจะไปเยี่ยมเขาบ้าง เขาเป็นคนที่พี่ไว้ใจตอนที่ไปรบน่ะ”“จะต้องเป็นสหายที่ดีของท่านพี่แน่ ๆ แต่ว่าหนทางยังอีกยาว ท่านพี่เล่าเรื่องที่สนามรบให้ข้าฟังได้หรือไม่เจ้าคะ” หลิวเหว่ยมีสีหน้าแปลกใจ “ในบันทึกพวกนั้นเจ้ายังอ่านไม่เต็มที่อีกหรือ” ลู่จื้อทำหน้างอน “ก็นั่งรถม้าไปตั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status