“คุณเนี่ยนะ มาเดินเล่นที่สวนลุม”
มณีรัชดาเริ่มสีหน้าไม่พอใจบ้างนี่มันเรื่องของหล่อน แล้วแววตาของหล่อนบึ้ง ทำไมล่ะเขามากักกันสิทธิ์ของหล่อนหรือยังไง จึงย้อนถาม
“ทำไมคะผู้หญิงเข้ามาเดินสวนลุมเป็นยังไงหรือ ผิดด้วยหรือคะ”
“มันดูไม่ดี เขาจะกล่าวหาว่ามาอ่อยเหยื่อล่อเอ้อ ดักผู้ชายแถวนี้ไงครับ”
เขาต้องหนีบความสุภาพเอาไว้ก่อนวาจาร้ายแดกดันคอยเอาไว้ใช้เฉพาะยามที่ต้องการแค่นี้ ต้องการให้นางสมันน้อยตายใจก่อน
มณีรัชดาแปลกใจกับผู้ชายคนนี้ เหมือนเขาประชดหล่อน หากแต่หล่อนไม่สนใจหรอก แค่คนแปลกหน้าที่เผอิญมาพบเจอกันครั้งที่สอง
“คุณคงทำงานอยู่แถวนี้ แต่มีเวลาเหลือเฟือมาเดินเล่นหรือคะ”
“เป็นเพราะผมนัดลูกค้าเอาไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลานัดครับ”
เขาจำใจปดหล่อน
มณีรัชดาก็มีสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อนักหรอก หากแต่ก็พยักหน้า
“ค่ะคุณเลยมีเวลาว่างถมเถ”
วาจาหล่อนย้อนเหน็บก็ไม่เบานี่
“แล้วคุณล่ะ ทำงานที่ไหนครับ”
“เอ้อฉันตกงานอยู่ค่ะ”มณีรัชดาหันมาตอบเขา“
“ยังหางานทำไม่ได้”ตอบแล้วก็เบือนหน้าไปทางอื่น
ชายหนุ่มทราบแต่เขาก็เอ่ย
“สนใจไหมครับถ้าผมจะช่วยหางานให้คุณทำ”
ย่อมทำให้มณีรัชดาแปลกใจและตาโตอย่างแน่นอน ด้วยเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่หล่อนจะเจอลูกฟลุ้กอย่างนี้ แต่หล่อนก็ต้องชั่งใจก่อน ไม่ผลีผลามเพราะกลัวเหลี่ยมเล่ห์อีกฝ่าย
ก็หล่อนรู้นี่ว่าผู้ชายยุคนี้อันตรายจะตายยิ่งหล่อรวยสง่างามอย่าคิดว่าหล่อนไม่รู้ทันแววตาที่พราวกริ่มของเขา
ถ้ามณีรัชดาโง่ หล่อนคงถูกผู้ชายหลอกไปตั้งนานแล้วละ แต่นี่หล่อนไม่โง่
“ว่าแต่งานอะไรล่ะคะฉันยังไม่รู้ว่างานที่ทำเกี่ยวกับอะไร” หากชายหนุ่มยิ้มให้เมื่อหล่อนสนใจอีกครั้งดวงตาของเขาพราวยิบหยีเมื่อเอ่ย
“อ๋อ มีแน่ครับ เรื่องงาน เอ แต่ว่าผมขอเบอร์โทร.ของคุณเอาไว้ก่อน แล้วผมจะให้นามบัตรของเพื่อนผมนี่ไป”
เขาขอข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งมณีรัชดาชั่งใจ หากว่าใจอยากได้งานก็อยากได้.. อีกใจหนึ่ง ก็แค่ลองให้เบอร์โทร.คงไม่เป็นไรมั้ง คงไม่มีอะไรเสื่อมเสียนี่ จึงพยักหน้า
“ได้ค่ะ” คิดว่าไม่ลองก็ไม่รู้ แต่ถ้ารู้แล้วหล่อนยังเฉลียวใจทันว่าจะอยากเดินเข้าไปในหลุมกับดักที่เขาพยายามจะขุดหรือเปล่า
เพราะมณีรัชดาไม่ใช่คนโง่ที่หล่อนพอจะรู้ว่าจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่คนดีนัก หากแต่หน้าตาเขาดีเท่านั้น หล่อนคิดว่าเขามีเล่ห์เลศนัยซ่อนอยู่
เมื่อเขายิ้มรับ
“นี่ครับนามบัตรของเพื่อนผม”
เพราะว่าเขาฉลาดพอไม่เอาเบอร์ของตัวเอง เพราะว่าน้องชายของเขาต้องสงสัย เพราะเขาตั้งใจจะโทร.หาหล่อนด้วยเบอร์สาธารณะ ซึ่งยากแก่การสืบทราบ
และถือว่าหล่อนพลาดไปแล้วไม่ใช่เรื่องอื่นแค่ให้เบอร์มือถือเขาไป ทั้งที่มณีรัชดาคิดแล้วว่า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขอบคุณที่เขาตั้งใจดิบดีหยิบยื่นไมตรีที่จะหางานทำให้แก่หล่อน
ในแง่นี้มณีรัชดาย่อมคิดว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง แง่มีน้ำใจให้หล่อน คนที่เพิ่งจะรู้จักกันแค่ครั้งสองครั้ง
แล้วโชคชะตาก็ซัดเหวี่ยงให้หล่อนได้เจอกับเขาอีกครั้ง กำนามบัตรของเขาติดมา เหลือบมองดูข้อความที่ตัดสินใจพลิกดูข้อความช้าๆ
“จราดลแอนด์แซคโปรโมชั่น”
ข้อความระบุถัดไปบอกว่าเขารับจัดงานอีเว้นท์เป็นออแกไนเซอร์ระดับอาชีพ จัดเตรียมศิลปินดาราและเป็นโมเดลลิ่งที่ค้นคว้าปั้นดาวเข้าสู่วงการบันเทิง..
แค่นี้ความรู้สึกของหล่อนก็เพ้อเคลิ้มไปว่า มันคงสวยสดงดงามอย่างที่คิดเอาไว้ แต่เปล่าหรอก หล่อนชะงักเอาไว้ ไม่ใช่หลุมเล่ห์อำพรางด้วยหรือไง งานการพวกนี้
หล่อนคิดว่าน่าจะต้องเอาอะไรบางสิ่งเข้าแลกด้วยต่างหาก เคยอ่านข่าวซุบซิบในวงการบันเทิง หญิงสาวใจกล้าเหล่านั้นมีเปอร์เซ็นต์ส่วนมากที่จะได้อวดโฉมบทบาทในวงการบันเทิง
คงเป็นเพราะหล่อนคงทั้งกล้าได้กล้าเสียกระมัง
ถึงมณีรัชดาเป็นคนสวยแต่หล่อนไม่เลือกความเสื่อมเสียเป็นของรางวัลให้แก่ตัวเองหรอก เก็บหย่อนนามบัตรใส่กระเป๋าตามเดิม
ในเวลานั้น ใครว่าชายหนุ่มรีบกลับ เขาซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้นั่นนานพอ ที่จะเห็นความพึงพอใจจากดวงตาของหล่อน
ถึงกับดีดนิ้วเปาะ งั้นแสดงว่าหล่อนเริ่มเดินเข้ามาหลงเป็นเหยื่อในกับดักที่เขาพยายามวางต้อนให้เต็มที่
ต่อมา มณีรัชดาได้นั่งรถเมล์เพื่อกลับไปบ้านอีกครั้ง ไม่อยากให้ค่ำมืด กลับก่อนเวลาที่ผู้คนส่วนมากจะเลิกงานด้วย เพราะหล่อนกลัวรถติด
หลังจากเสร็จธุระในสวน
หากเขานั้น เมื่อได้พบเจอหล่อนเสร็จเรียบร้อย กับแผนการขั้นที่หนึ่งจากนั้นจอมภูก็โผล่หน้าเข้าไปในออฟฟิศฝั่งตรงกันข้ามของเพื่อน
“เฮ้ย ไอ้เสือ บอกว่าจะเข้ามาตั้งนาน แกไม่โผล่มาซักที โทร.มาบอกแค่ครั้งเดียวแล้วหายต๋อม”
เพื่อนรักบ่น
คำทักของสหายเพื่อนสนิทที่มีออฟฟิศอยู่ย่านสุรวงศ์พระรามสี่ชื่อจตุทิศเขามีเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัทอีกคนชื่อสถากรไม่ได้ไปหา
แต่ตั้งใจมาหาจตุทิศมากกว่า เขายิ้มเพื่อน
“เผอิญฉันเจอผู้หญิงที่น่าติดตามคนเดิมว่ะ ถือว่าหล่อนก็สวยนะ แต่ไม่รู้ว่าต้องการอะไรกันแน่ กับการที่มาคบกับน้องชายของฉัน”
เขาคิดว่าผู้หญิงประเภทนี้ ฐานะก็ดูออก หล่อนอาจจะเห็นเงินแล้วรีบกระโดดใส่
เพราะมณีรัชดาตั้งหวังในการมองครั้งแรกสำหรับเขา ถึงยังไงหล่อนก็ดูไม่สวยโสภาอยู่แล้ว ในแง่มุมของจอมภู
เขาประคองมณีรัชดาเป็นความผูกพันลึกซึ้งยามอยู่ห่างไกลบ้าน มณีรัชดาคิดถึงพ่อแม่คิดถึงกรุงเทพ แต่แน่นอนละภาวะของหล่อนคือคนมีครรภ์อดฟุ้งซ่านไม่ได้และจอมภูพยายามทำดีกับหล่อนสารพัดทุกอย่าง ที่เขาแสนจะเอาใจ จนมณีรัชดายากที่จะปฏิเสธได้ หล่อนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หากจอมภูถึงกับเสียสละทุกอย่าง บางทีทิฐิมันเหมือนกับน้ำกรดราดรดดวงใจตัวเองเหมือนกัน หล่อนครุ่นคิด แต่ถึงกระนั้น หล่อนก็ควรที่จะให้บทเรียนอันแสนจะเจ็บปวดให้เขาด้วยเหมือนกันจนกระทั่งมณีรัชดาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเป็นลูกสาวในอีกสามวันต่อมา ประเทศที่หล่อนอาศัยอยู่ณบัดนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว หนาวเหน็บจัดพร้อมด้วยหิมะโปรยปราย จอมภูพยายามใช้การกระทำของเขามากกว่าคำพูด ให้มันราดรดในดวงใจของหล่อนถึงความซื่อสัตย์และภักดีตลอดกาล เพื่อทดแทนสิ่งที่ผิดพลาด ณเสี้ยวหนึ่งของหัวใจหล่อนรับทราบแล้วว่า เขาเป็นคนที่ดีมากพอ แต่ในด้านเลวร้ายนั่นล่ะ ซาตานดีๆนี่เอง หล่อนจะไม่พยายามคิดในเมื่อความดีของเขาก็ราดรดลงไปในหัวใจของหล่อน ให้ความอบอุ่นดูแลลูกสาว ในฐานะของพ่อเกินที่มณีรัชดาจะท้วงหรือปราม เขาทำไปด้วยความสุจริตใจหล่อนรับรู้ตลอดเวลาที่มีเข
จนกระทั่งมณีรัชดาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเป็นลูกสาวในอีกสามวันต่อมา ประเทศที่หล่อนอาศัยอยู่ณบัดนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว หนาวเหน็บจัดพร้อมด้วยหิมะโปรยปราย จอมภูพยายามใช้การกระทำของเขามากกว่าคำพูด ให้มันราดรดในดวงใจของหล่อนถึงความซื่อสัตย์และภักดีตลอดกาล เพื่อทดแทนสิ่งที่ผิดพลาด ณเสี้ยวหนึ่งของหัวใจหล่อนรับทราบแล้วว่า เขาเป็นคนที่ดีมากพอ แต่ในด้านเลวร้ายนั่นล่ะ ซาตานดีๆนี่เอง หล่อนจะไม่พยายามคิด เมื่อเขาชี้แจงว่า “ผมมาจากเมืองไทยที่อยู่ทราบจากคุณรังสินัย” เมื่อเอ่ยอ้างถึงหลานชายของหล่อน ทำให้คุณนันทนิจรับทราบ “ผมมีปัญหาบางอย่างที่ต้องปรับใจกับณี” เขาเอ่ย ทำให้คุณนันทนิจเข้าใจทันที “มณีรัชดา” หล่อนอุทาน “ใช่ครับ ผมเป็นสามี เธอหนีจากผมมา” “หนีหรือคะ” “ผมขออนุญาตได้ไหม”เขาเอ่ยหลังจากที่ชี้แจง ไม่มีการบอกกล่าวมาล่วงหน้าเพื่อตรวจดูความผิดพลาด คุณนันทนิจขอตัวโทร.ทางไกลไปเมืองไทยเพื่อถามหลานชาย ได้รับคำตอบแบบเดียวกันคือ ยืนยันถึงความเป็นสามีของลูกจ้างสาว “ดิฉันไม่ทราบหรอกนะคะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลานชายต้องการพึ่งพา ให้พา
“เขาให้แม่มาไกล่เกลี่ยหรือไงคะ”มณีรัชดาเอ่ยโดยไม่ยอมเอ่ยชื่อเขา นางรัชนีถอนใจ กับลูกสาวที่เริ่มจะทิฐิขึ้นมา“นี่แม่นะนี่แม่ของแก จะดีจะชั่วยังไงก็ยอมรับว่าแกเป็นลูก” มณีรัชดากำลังทำใจอย่างหนัก การที่มารดามาที่นี่เหมือนท่านบุกเข้ามาหาหล่อนที่คอนโดไม่เคยมีใครทราบมาก่อน และเขาคนเดียวเท่านั้นที่พามา มันเป็นเรื่อง ที่ตัดสินใจลำบากทั้งเรื่องส่วนตัวเหตุผลอีกทั้งความรัก รวมทั้งความเจ็บแค้นที่ผสมผสานกันและความผิดของเขาเกิดขึ้นมานาน และสะสมสั่งเอาไว้พอกพูนจนมันเต็มไปด้วยอัตราของความแค้นที่เหมือนไฟเผาผลาญจู่ๆหล่อน จะมาอภัยให้เขาง่ายๆในสิ่งที่เขาทำกับหล่อนอย่างเจ็บปวด “แม่ไปถามผู้ชายคนที่เขาบอกที่อยู่ของหนูสิคะว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง” มณีรัชดากลับตอบไปอย่างนั้นทำให้รัชนีเงียบ และเริ่มเข้าใจถึงสภาพจิตใจของบุตรสาว “ถึงอย่างไรแม่ก็ไม่อยากให้แก หนีแม่ไปอีก อย่าไปเลยนะลูก เมืองนงเมืองนอก แม่ห่วง ไปดูหมอเขาทักไว้ว่า ลูกไม่ควรเดินทางออกไปต่างประเทศ อย่าขึ้นเครื่องบิน” มณีรัชดาตกใจอย่างมากที่สุดกับคำกล่าวของมารดาไม่เคยทราบด้วยว่า ท่านจะเอาดวงของหล่อนไปให้ห
ความจริงที่ว่าคือเขารักมณีรัชดาอย่างมาก ต้องการครองคู่ อยู่กับหล่อนตลอดไปในเส้นทางอนาคต ทำให้จอมภูต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของมารดาคลายลงจากคำพูดที่น้องชายเอ่ยออกมาพร้อมแฟนสาวช่วยสนับสนุนในรักครั้งนี้ของเขา อีกทั้งช่วยแก้ต่าง ให้กับมณีรัชดา ภรรยาของเขาให้พ้นผิดด้วย เพราะภรรยาของเขานั้น หล่อนไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนกำลังกล่าวหาสักนิด หล่อนสะอาดและบริสุทธิ์เสมอ อย่างที่เขาเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน ในอดีตเขาเคยร่ำร้อง ที่จะเดียดฉันท์ โกรธอาฆาตแค้นหล่อนที่กลายเป็นนางแม่มดเจ้าเสน่ห์เพื่อหลอกล่อให้น้องชายของเขามาตกหลุมรักเพราะหวังในความสุขสบาย เพราะภูวพลมีฐานะร่ำรวยเป็นทายาท ของนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย นี่คือความโง่เขลาอย่างมากที่สุดที่เขาได้ทำมา จนจอมภูอยากเขกหัวของตัวเอง ย้อนหลังกลับไปสองร้อยกว่าครั้งถึงจะสาสม กับความผิด และความโง่ของเขาด้วยซ้ำ เวลาเนิ่นนานที่เขามีอคติต่อหล่อน กลายเป็นคนที่โง่บรมโง่ เหลือเกิน ยอมรับว่าเขาหูตามืดมัวเพราะรักและห่วงน้องชาย คนเดียวที่กลัวจะตกเป็นเหยื่อและเป็นคำสั่งของมารดา ที่ท่านต้องการจะกีดกันทั้
“ทำไม?ผมถามคุณไม่ตอบล่ะว่าไปอยู่ที่ไหนและผมไม่ยอมให้คุณไปอยู่ที่ไหนอีกแล้วนะต้องอยู่กับผมตลอดไปจะต้องช่วยเลี้ยงลูกของเรา ให้เจริญเติบโตเป็นคนดี” “ฉันไปพักอยู่กับเพื่อนรุ่นที่ ที่เขาใจดีมากค่ะ เขาเป็นพี่ชายที่ฉันเคารพรักและมีบุญคุณเสมอมา” “แล้วเขาเป็นใครล่ะ” “เขาชื่อ คุณรังสินัยค่ะ” “คราวหลัง ถ้าผมได้เจอเขาแล้วนั้นผมจะขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยดูแล เมียผมกับลูกผมให้ปลอดภัย” คราวนี้มณีรัชดาหันมามองเขาสายตาของหล่อนเงยขึ้น “คุณไม่ตะขิดตะขวงหรือยังไงคะที่ฉันไปอยู่อย่างนั้น” “คงไม่หรอก ผมรู้ว่า ผมนั้นทำผิดอะไร” จอมภูตอบเสียงนุ่มอย่างรู้ดีว่า เขาทำผิดอะไร “แล้ว ขอให้ผมได้ไถ่โทษความผิดครั้งนี้ด้วยการขอคุณแต่งงานได้ไหม ผมจะไม่รีรอเลยนะณีและต้องการให้เรื่องนี้เร็วที่สุด” มณีรัชดาถึงกับอึ้งที่เขาพูดเช่นนี้ยิ้มอย่างอายและเขิน “เอ้อ ค่ะ” “ผมดีใจที่คุณเข้าใจผมและเข้าใจความรู้สึกของเรา คงไม่โกรธใช่ไหม กับเรื่องที่ผ่านมา เอ้อที่ผมล่วงเกินคุณ ใครล่ะจะอดใจได้ ก็คุณสวยขนาดนั้น” จอมภูกระซิบพร่ำที่ริมกกหูของ
จอมภูจึงขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านเช่าของเธอที่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับบิดามารดา และเขาเคยมาแล้วหนหนึ่งแต่ว่าไม่พบกับมณีรัชดาซึ่งบิดาและมารดาของเธอก็ไม่สามารถให้คำตอบเขาได้เช่นกัน เขามั่นใจว่ามณีรัชดาต้องอยู่ เพราะว่าเขารู้สึกไม่สบายใจเลยที่ทำแบบนี้กับหล่อน แม้แต่คาดคิดก็ตามและมณีรัชดาก็เช่นกัน เขาคิดว่าหล่อนคงจะเป็นเหมือนเขา ที่เป็นอย่างนี้เพราะเขาแน่ใจอย่างนั้นว่าเขารักหล่อนมาก มันไม่ใช่เรื่องที่หลอกลวง หรืออยากจะแก้แค้นหล่อน ความรักที่บริสุทธิ์นั้น ยากที่จะบอกได้ ซึ่งขับรถมุ่งตรงมาที่บางแค ก็ด้วยความหวัง ขณะเดียวกันนั้นมณีรัชดาลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ทำให้นางรัชนีกับนายมิ่งผู้เป็นบิดาต่างมองด้วยความตกใจและดีใจเช่นกันเมื่อได้มองเห็นชัดเจนว่า ลูกสาวตั้งท้อง จึงเป็นคำตอบที่ทราบดีว่าที่ลูกสาวหายไปจากบ้านเป็นเพราะสาเหตุนี้ นางรัชนีปรามผู้เป็นสามีและทั้งคู่ปรึกษากันว่าจะไม่ซักถามมณีรัชดาที่เพิ่งมาถึง เพราะกลัวว่าลูกสาวจะเตลิดไปไกลอีกนางรัชนีกับไพจิตรจึงพยายามพูดดีๆ “กลับมาแล้วเหรอเข้าไปพักผ่อนข้างในก่อนเถอะลูก มีอ