Share

บทที่ 3/2

last update Last Updated: 2025-10-05 21:58:07

“ได้ เปิ่นหวางจะลองเชื่อเจ้าดูสักครั้ง แต่ถ้าจับได้ว่าเจ้ากล้าวางยาเปิ่นหวางล่ะก็ ถึงตอนนั้นก็อย่าหาว่าเปิ่นหวางอำมหิต!” น้ำเสียงในท้ายประโยคเหี้ยมเกรียมไร้ซึ่งความปราณี

ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัว รีบปฏิเสธน้ำเสียงหนักแน่น

“หม่อมฉันมิกล้าทำเช่นนั้นแน่นอนเพคะ ขอท่านอ๋องทรงวางพระทัย” นางไม่ได้โกหกจริงๆนะ

คนที่วางยาเขาไม่ใช่นาง แต่เป็นลี่เจิน อีกทั้งยากระทิงเมามายมิใช่ยาพิษอยู่ในร่างกายเพียงครึ่งชั่วยามก็จะสลายไปเอง ตรวจไปก็ไม่มีทางพบ แถมฝีมือการวางยาของลี่เจินก็ไม่ใช่ง่อยๆ ท่านตาของนางสั่งสอนมากับมือเชียวนะ

ดวงพักตร์หล่อเหลาพิศมองชายาพระราชทานของตนด้วยสายตาอ่านยากครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเปล่งเสียงรับสั่งถามถึงเรื่องที่นางเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้

“ที่เจ้าบอกต้องการเจรจากับเปิ่นหวางเรื่องการใช้ชีวิตในตำหนักนี้ ไหนลองว่ามาซิ”

เรือนร่างอรชรในชุดเจ้าสาวสีแดงงดงาม ที่กำลังยืนก้มหน้าอย่างเจียมตัว รีบเงยขึ้นด้วยความกระตือรือร้น ก้าวขาเดินไปที่ปลายเตียง หยิบสมุดพับขึ้นมาจากข้างเสาของเตียงและยื่นให้เขาด้วยสองมือ

“ท่านอ๋องจะทรงเมตตาซินเอ๋อร์ ช่วยอ่านข้อความในนี้สักเล็กน้อยจะได้หรือไม่เพคะ”

ในนั้นคือข้อตกลงที่นางร่างไว้ มุมล่างซ้ายมือคือชื่อและลายนิ้วของนาง เฟิ่งเสวียนจีคิ้วกระตุกเมื่อได้อ่านข้อตกลงในสัญญาการแต่งงาน สตรีตรงหน้าเป็นใครถึงคิดว่าเขาจะยอมให้ความร่วมมือ

“เฮอะ! เจ้าคิดว่าเปิ่นหวางเป็นคนใจดีมีเมตตา จนยอมทำตามคำขอ ปล่อยให้เจ้าเสวยสุขอยู่ในตำหนักแห่งนี้เป็นเวลาครึ่งปีเชียวรึ มู่ซูซิน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเยียบเย็นกึ่งข่มขู่

คนตัวเล็กหลุบตาต่ำ บีบมือตัวเองแน่นเปลี่ยนไปนั่งพับเพียบบนพื้น ขยับปากสีแดงสดต่อรองกับคนตัวโตด้วยท่าทางบอบบางราวกับจะแตกหักได้ทุกเมื่อ

“ท่านอ๋องโปรดคิดเสียว่า เลี้ยงซินเอ๋อร์ไว้ดูเล่นหรือเอ็นดูแบบน้องสาวก็ได้นี่เพคะ ซินเอ๋อร์กินไม่เยอะรับรองว่าไม่เปลืองแน่นอน นอกจากนี้ยังทำอาหารเป็นและอร่อยด้วยนะเพคะ

ถ้าท่านอ๋องไม่เชื่อ พรุ่งนี้ให้ซินเอ๋อร์ทำอาหารมาให้ลองเสวยดีไหมเพคะ นอกจากทำอาหารอร่อยแล้ว ซินเอ๋อร์ยังดูแลม้าก็เก่งมากเลยนะเพคะ” นางรีบบรรยายสรรพคุณความดีของตนให้เขาฟังเสียงเจื้อยแจ้ว พร้อมคลี่รอยยิ้มประจบประแจงร่วมไปด้วย

ประโยคที่ว่า ‘ดูแลม้าเก่ง’ ดึงความสนใจของเฟิ่งเสวียนจีได้จริงๆ

เขารู้มาจากอาเต๋อว่า ในจวนเจ้าเมืองตงเฉิงมีคอกม้า ที่นั่นมีแม่พันธุ์ม้าเหงื่อโลหิตสวยมากตัวหนึ่ง ส่วนม้าตัวอื่นๆ ก็แข็งแรงสุขภาพดี รูปร่างสง่างามได้สัดส่วนเทียบได้กับม้าของเขาเลยทีเดียว

การที่จะดูแลม้าให้สุขภาพดีมีรูปร่างสวยงามได้ขนาดนี้ ผู้ดูแลต้องมีความรู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับม้ามากพอสมควร

จากที่ตั้งใจจะสั่งให้องครักษ์สังหารนางทิ้งด้วยการจับแขวนคอ แล้วบอกว่ากับทุกคนว่านางผูกคอตายไปเองเพราะอับอายที่ถูกเขาทอดทิ้งในคืนเข้าหอ เปลี่ยนเป็นมานั่งฟังข้อเสนอของนางต่อด้วยความสนใจ

“เจ้าแน่ใจนะว่าดูแลม้าเป็น ถ้าพูดไม่จริง เปิ่นหวางจะจับเจ้ายัดใส่โลงแล้วส่งกลับเมืองตงเฉิง”

แหม! ขู่เก่งเหลือเกินนะท่านอ๋อง!!

“แน่ใจที่สุดเลยเพคะ!” ถ้าไม่แน่ใจนางไม่กล้าเสนอตัวเป็นอันขาด เรื่องดูแลม้ากับเรื่องกินนางมั่นใจเต็มสิบส่วน

พอได้เห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของคนตัวเล็ก เฟิ่งเสวียนจียกมุมปาก รับสั่งถามย้ำเรื่องข้อตกลงในการสัญญาแต่งงานระหว่างเขากับนาง “เมื่อครบหกเดือนเจ้าจะเดินทางกลับเมืองตงเฉิงและจะไม่กลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก?”

“เพคะ” มู่ซูซินพยักหน้ารัวเป็นไก่จิกข้าวสาร

“ทำไมถึงต้องเป็นหกเดือน สามเดือนก็พอมั้ง”

“สามเดือนสั้นไปเพคะ หกเดือนกำลังดี ฝ่าบาทจะได้ไม่เพ่งเล็ง…” รีบยกฮ่องเต้มาเป็นข้ออ้างอย่างเต็มปากเต็มคำ

“อา เป็นเช่นนั้น” แม้ว่าน้ำเสียงจะเย็นชาแต่กลับแฝงความยียวนอยู่ในนั้น

“เป็นเช่นนั้นเพคะ” มู่ซูซินยังคงยิ้มหวานตอบกลับไป

“หึ!…” เสียงแค่นจมูกดังขึ้นสั้นๆ จ้องตาโฉมสะคราญด้วยแววตาคมปลาบ ราวคมกระบี่ที่พาดอยู่บนคอระหงของนาง

มู่ซูซินพอจับทางได้จึงรีบเอ่ยวาจาต่อทันที

“พอครบหกเดือนปุ๊บ ซินเอ๋อร์จะหายเข้ากลีบเมฆปั๊บ ไม่ข้องแวะเรื่องใดๆ ของท่านอ๋องแน่นอนเพคะ…แค่ท่านอ๋องอย่างเพิ่งแต่งชายาใหม่หรือรับอนุเข้าตำหนักก่อนครบสัญญาก็พอ ซินเอ๋อร์ไม่อยากให้ท่านพ่อท่านแม่ต้องเสียหน้าก่อนที่ซินเอ๋อร์จะย้ายกลับไปเมืองตงเฉิงถาวรน่ะเพคะ” รอยยิ้มประจบประแจงหายไป ใบหน้างามก้มต่ำเล็กน้อย เปล่งวาจาออกมาเสียงเบา ท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัวสุดๆ

ส่วนเหตุผลแท้จริงที่มู่ซูซิน ขอให้เฟิ่งเสวียนจีอย่าเพิ่งรับชายารองหรืออนุชายาเข้าตำหนัก เพราะนางขี้เกียจมาเสียเวลารับมือหญิงสาวพวกนั้น หาใช่เพราะหึงหวงสามี

เพราะเท่าที่ได้ยินมา คุณหนูฉู่ฟางอิ๋งสตรีที่ฉีอ๋องพึงใจ ถูกเลี้ยงดูมาประหนึ่งไข่มุกล้ำค่ากลางมือของบิดา ภายนอกดูงดงามบริสุทธิ์ประดุจดอกบัวขาว แต่กลับมีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจและชอบเอาชนะเป็นที่สุด หากฉู่ฟางอิ๋งแต่งเข้ามาเป็นชายารองในเร็วๆนี้ อีกฝ่ายคงได้มาหาเรื่องกลั่นแกล้งนางไม่เว้นวันแน่ พนันได้เลย!

และด้วยนิสัยแท้จริงของนาง จะให้มาเล่นบทพระชายาเอกผู้มีจิตใจเมตตา ไม่ถือสาหาความอีกฝ่ายคงไม่มีทางเป็นไปได้ ฟาดมาฟาดกลับนะเจ้าคะ อย่าหาว่าไม่เตือน

ยังไม่รวมที่นางต้องลอบออกจากตำหนัก ไปสวมบทนายน้อยเหว่ยซินเมื่อถึงเวลาเป็นบางครั้ง

ส่วนเรื่องจะรับมือฉีอ๋องอย่างไรในหกเดือนนี้ นางคงต้องวางแผนดีๆ เพราะทรราชอย่างเขาคงรับมือได้ไม่ง่าย มู่ซูซินต้องพร้อม!

บรรยากาศในห้องหอที่สมควรอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความหวานชื่นกลับอึมครึมจนน่าอึดอัด

ชั่วขณะหนึ่ง เฟิ่งเสวียนจีรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นอายของนางอย่างประหลาด ท่าทางประจบประแจงแต่แฝงการต่อรองแบบนี้ เหมือนเคยประสบมาจากที่ไหนสักแห่ง…

*****************

อ๋อง คุ้นๆชิมิ นึกไม่ออกล่ะสิท่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 12/2

    ในระหว่างที่มู่ซูซินเดินไปคอกม้า บ่าวรับใช้ก็กำลังยกฟูกที่นำมาจากเรือนอู่ถง เข้าไปเปลี่ยนในห้องนอนของฉีอ๋องอย่างระมัดระวัง ตามคำสั่งของเหวินกงกง เจ้าของตำหนักเองก็เพิ่งหารือกับกุนซือของตนเสร็จ ทั้งสองเดินไปยังเรือนของเฟิ่งเสวียนจี เพื่อรับมื้อกลางวันที่นั่น ได้ทันเห็นเหวินกงกงยืนคุมบ่าวชาย กำลังย้ายฟูกออกมาจากเรือนของตนพอดี วรกายสูงเดินแยกจากสหาย ตรงเข้าไปถามไถ่ด้วยความฉงน “เหวินกงกง ท่านกำลังทำอะไร ยกฟูกออกมาจากเรือนนอนของข้าทำไม” ครั้นได้ยินเสียงของนายเหนือหัว เหวินกงกงรีบหมุนตัวกลับมา จีบปากจีบคอรายงานด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “เรียนท่านอ๋อง พระชายาขอให้กระหม่อม นำฟูกที่เรือนอู่ถงมาเปลี่ยนให้ท่านอ๋องพะย่ะค่ะ จะได้ทรงนอนหลับสบายยามค่ำคืน ไม่ต้องลำบากเสด็จไปอาศัยนอนที่เรือนอู่ถง” เฟิ่งเสวียนจีนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก คาดไม่ถึงว่ามู่ซูซินจะกล้าสั่งให้เหวินกงกงยกฟูกมาเปลี่ยนให้เขา พรืดด ซ่งเฉินซีได้ยินคำบอกเล่าของเหวินกงกงก็หลุดขำ ชี้พัดจีบในมือชี้ไปที่เฟิ่งเสวียนจีพร้อมทำหน้าตาล้อเลียน “กระหม่อมเพิ่งรู้ว่าที่แท้ท่านอ๋องเป็นคนนอนยาก ฮ่าๆๆ กระหม่อมชักอยากพบหน้าพระชายามู่ขึ้นมาเสียแล้ว

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 12/1 ไม่เอาปลาแล้วเจ้าจะเอาอะไร

    มู่ซูซินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อรู้ว่าลี่มี่ยังปลอดภัยดีไม่ได้ถูกเฟิ่งเสวียนจีจัดการอย่างที่เคยขู่นางไว้ เพียงแต่ข้องใจว่าไฉนลี่มี่ถึงได้ยอมให้คนตัวโต แอบมานอนบนเตียงแทนที่มันได้อย่างง่ายดาย ดวงตาคู่สวยมองมายังร่างแกร่งที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นอนยิ้มกริ่มหน้าตาสดใสประหนึ่งได้นอนหลับสนิทแปดชั่วโมงขั้นต่ำ “ชายารักมองสามีจริงจังแบบนี้ กำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่รึเปล่า” พูดจบก็ขยับนอนตะแคงพิงแขน สาบเสื้อนอนเจ้ากรรมแหวกออกจนเห็นแผ่นอกแกร่งกับหน้าท้องเป็นลอนขาวจั๊วะยั่วยวนสายตาคนมองแต่เช้า “…” มู่ซูซิน เรียกแทนตัวเองว่าสามีด้วย กรี๊ดดด อารมณ์ไหนแต่เช้าเนี่ย ตามไม่ทันโว้ย!! พร้อมกับลอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ “ท่านอ๋อง เหตุใดถึงมานอนที่นี่ได้เพคะ ทรงเมาแล้วเดินละเมอมาหรือ” รีบเอาข้อเรื่องเมาขึ้นมาดักคอ นางอยากรู้นักว่าเขาจะแก้ตัวยังไง “ฟูกที่เรือนนี้นอนสบายกว่าฟูกที่เรือนของเปิ่นหวาง” ง่ายๆได้ใจความ แต่ทำคนฟังหน้าเหวอไปอีกรอบ รับสั่งจบก็ลุกออกจากเตียงเพื่อไปล้างหน้าล้างตา ปล่อยให้มู่ซูซินนั่งอ้าปากค้างมองตามแผ่นหลังกว้างตาแป๋ว พูดอะไรไม่ออกไปโดยปริยาย พฤติกรรมของมนุษย์ทั้งสองสร้างความขบ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 11/2

    
 แผนการมาดักรอพบฉีอ๋องในวันนี้นับว่าไม่สูญเปล่า นอกจากฝ่ายชายจะยอมให้นางอาศัยรถม้า เขายังทิ้งพระชายาที่เพิ่งอภิเษกได้เพียงไม่กี่วันให้กลับตำหนักเว่ยจงไปคนเดียว แล้วเลือกมากินมื้อเย็นกับนางที่นี่แทน ฉู่ฟางอิ๋งรู้สึกราวกับตนเป็นผู้ชนะ “คุณหนูฉู่อิ่มแล้วหรือ เปิ่นหวางเห็นเจ้ากินไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ไม่กินอีกสักหน่อยเล่า เจ้าดูเหมือนซูบผอมไปนะ” เขาพูดไปตามที่เห็นเมื่อเดือนก่อนนางยังดูมีเนื้อหนังมากกว่านี้ ภายในใจของฉู่ฟางอิ๋งลิงโลด แผนอดข้าวอดน้ำมาระยะหนึ่ง จนทำให้ร่างกายซูบผอมลงเหมือนคนตรอมใจถือว่าไม่เหนื่อยเปล่า ฉีอ๋องสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้จริงๆ “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่ทรงห่วงใย อิงเอ๋อร์อิ่มแล้วเพคะ คงเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยอยากอาหารเท่าใดนัก” “เจ้าซูบผอมแบบนี้ใต้เท้าฉู่ไม่เป็นห่วงแย่หรือ” ฉู่ฟางอิ๋งเม้มปาก สีหน้าเผยถึงความน้อยใจยามนึกถึงบิดา “ช่วงนี้ท่านพ่อถ้าไม่อยู่ที่ทำงาน ก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องหนังสือหลังกลับมาจากในวัง กระทั่งข้าวปลาก็ไม่ออกมากิน พ่อบ้านต้องยกไปให้ที่นั่น มีบางวันที่ออกไปกับพี่ใหญ่จนมืดค่ำถึงกลับจวน อิ๋งเอ๋อร์กับท่านแม่แทบจะไม่ได้เห็นหน้า

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 11/1 ลี่มี่เกลียดคนจำพวกนี้น่ะคุณหนูฉู่

    นอกจากรับสั่งถามมู่ซูซินเสียงลอดไรฟัน เฟิ่งเสวียนจียังเผลอปล่อยไอสังหารออกมาบางส่วน ทำหญิงสาวบอบบาง ผู้มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเป็นช่วงเวลาอย่างฉู่ฟางอิ๋งแทบหายใจไม่ออก ใบหน้างามเริ่มซีดเป็นไก่ต้มยกมือกุมหน้าอกคล้ายจะเป็นลม พระชายาฉีอ๋องผู้ใจกว้างดั่งมหาสมุทร รีบฉวยโอกาสเบี่ยงเบนความสนใจของสามีอารมณ์แปรปรวนอย่างแนบเนียน “ตายแล้ว คุณหนูฉู่ ทำไมหน้าซีดขนาดนี้ล่ะ ท่านหน้ามืดอีกแล้วหรือ หานเย่! บอกให้สาวใช้ของคุณหนูฉู่เข้ามาด้านในหน่อย คุณหนูฉู่ตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอท่านอ๋องจนลมจับแน่ะ” “…” เฟิ่งเสวียนจี 0_0! ฉู่ฟางอิ๋ง หลังจากจิกกัดคู่สร้างคู่สมไปคนละคำ มู่ซูซินรีบกุลีกุจอหยิบยาดมสมุนไพรขึ้นมาจ่อจมูกตนเอง สูดกลิ่นเสียงดัง ฟื้ดดดด ไม่ส่งให้ฉู่ฟางอิ๋งทันที “ข้าดมให้ดูก่อนว่าไม่มีพิษ เพื่อความบริสุทธิ์ใจ” เกิดมีคนตั้งใจใส่ร้ายว่าถูกพิษจากยาดมของนาง จะได้มีคำแก้ต่างรวมทั้งพยานตัวโตข้างๆมายืนยัน เสี่ยวจู สาวใช้ของฉู่ฟางอิ๋งก้าวเข้ามาด้านในรถม้าพอดี มู่ซูซินจึงส่งยาดมให้ “เอาให้คุณหนูของเจ้าดม อาการหน้ามืดจะได้ดีขึ้น” สาวใช้กล่าวขอบคุณพระชายาฉีอ๋อง รีบนั่งลงจ่อยาดมให้เจ้านายด้วยความเป็นห่ว

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 10/2

    ทุกคนในห้องหันขวับมองเฟิ่งเสวียนจีเป็นตาเดียว แม้แต่ลี่มี่ที่กำลังปล่อยให้หยางซื่อเกาพุงยังรีบลุกขึ้นมาจ้องชายหนุ่มด้วยอีกตัว มู่ซูซินเอียงหน้ามองเขาตาค้าง เพียงแค่ระยะเวลาสองสามวันฉีอ๋องทำนางตกตะลึง ประหลาดใจ แปลกใจ สติหลุดและอีกหลากหลายอารมณ์ไปไม่รู้จักกี่ครั้งแล้ว “ทรงถามความคิดเห็นของหม่อมฉัน?” ตำหนักก็ของเขาจะมาถามความเห็นนางทำไม “อืม มู่เหยียนเป็นน้องชายของพระชายา เปิ่นหวางจึงให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ” คนฟังแทบไม่เชื่อหูตนเอง ฉีอ๋องเพิ่งบอกว่าให้นางเป็นคนตัดสินใจ จริงดิ! อารมณ์สามีให้เกียรติภรรยาว่างั้น แต่ไม่ดีกว่า บุรุษตรงหน้ายิ่งหาความแน่นอนทางอารมณ์ไม่ได้ ขอกลับไปทำข้อตกลงกับเขาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของน้องชาย ตรองได้ดังนั้นมู่ซูซินจึงหันไปพูดกับมู่เหยียนแทน “เสี่ยวเหยียน พี่ใหญ่ขอกลับไปหารือกับท่านอ๋องก่อนนะ ได้คำตอบอย่างไรพี่ใหญ่จะส่งคนมาบอก” มู่เหยียนเป็นเด็กฉลาดรู้ความ เขาไม่งอแงเอาแต่ใจ หากพี่สาวขอหารือกับพี่เขยก่อนเขาก็ไม่มีปัญหา ผ่านไปพักหนึ่งเฟิ่งเสวียนจีจึงชวนชายากลับ มู่ซูซินร่ำลาครอบครัว รับลี่มี่มาจากอ้อมแขนของมู่เหยียน ที่เพิ่งก

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   บทที่ 10/1 ทรงถามความคิดเห็นของหม่อมฉัน?

    ลี่มี่ได้ยินเสียงในความคิดของเฟิ่งเสวียนจี มันเงยหน้าจ้องตามู่ซูซินคล้ายสื่อสารบางอย่าง หญิงสาวหน้าตาเลิ่กลั่ก ก้มกระซิบกับแมวของตน “เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือลี่มี่” เมี้ยว ลี่มี่ส่งเสียงหวานตอบรับ พร้อมหรี่ตามองนางทาสของมันด้วยสายตาจับผิด และนี่คือความลับอีกหนึ่งเรื่องของมู่ซูซิน ลี่มี่หาใช่แมวปกติ แต่เป็นแมวพิเศษที่ยมทูตมอบให้นางตอนอายุครบสิบปี หลังมื้อกลางวันที่จวนตระกูลมู่ พ่อตากับลูกเขยสูงศักดิ์ก็พากันไปเดินหมาก ร่วมกับการเสวนาเรื่องอาชากันอย่างถูกคอ ปล่อยให้มู่ซูซินได้ใช้เวลากับคนที่เหลือในครอบครัว องครักษ์สองหานลอบพยักหน้าให้กันอย่างโล่งอก ในชีวิตของฉีอ๋องนอกจากอาชาและการทำศึก…หมากล้อม อาหารและสุรารสเลิศ คือสิ่งที่ทรงโปรดปราน นับว่าคนตระกูลมู่มาถูกทางเลยทีเดียว ภายในเรือนส่วนตัวของหยางซื่อ เมื่อประตูของเรือนปิดลง ลี่อิ่ง ลี่เจิน รวมถึงองครักษ์ตระกูลหยาง หรือพูดให้ถูกว่าองครักษ์ของหอเหว่ยตี้ได้เข้าประจำที่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าใกล้เรือน ขณะที่นายใหญ่และนายน้อยของหอเหว่ยตี้กำลังหารือเรื่องสำคัญ “ซินเอ๋อร์ เรื่องที่ลูกสงสัย คนของเราสืบมาได้ว่า พ่อลูกตระกูลฉู่แอบติด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status