Home / รักโบราณ / เพียงนางที่ข้าจะรัก / บทที่ 6 แต่งกับไก่ตามไก่ แต่งกับสุนัขย่อมต้องตามสุนัข ตอนปลาย

Share

บทที่ 6 แต่งกับไก่ตามไก่ แต่งกับสุนัขย่อมต้องตามสุนัข ตอนปลาย

last update Last Updated: 2025-10-05 21:59:47

ข้ารับใช้และนางกำนัลคนอื่นๆ รีบหันหลังหนี ไม่กล้าแอบมองเจ้านายใกล้ชิดกัน ‘ว้าย มาเกี้ยวกันต่อหน้าแบบนี้ พวกบ่าวเขินนะเจ้าคะ’

แม้แต่องครักษ์และเหวินนกงกงยังต้องรีบหันหน้าไปทางอื่น แสร้งทำเป็นชมดาวชมเดือนไปเรื่อย

“หานจิ้ง หานเย่ คืนนี้ดาวสวยนะ พวกเจ้าว่าไหม” เหวินกงกงชี้มือชี้ไม้ไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆครึ้มไม่มีดาวสักดวง!

ในขณะที่บ่าวไพร่กำลังเขินกันตัวแทบแตก มู่ซูซินมุมปากกระตุกไม่หยุด นึกไม่ถึงว่าคนตัวโตจะมาไม้นี้ แล้วไหนบอกจะไม่ยอมเข้าหอกับนางไง แล้วการที่มาขอนอนด้วยแบบนี้ มันหมายความยังไงกันเนี่ย โอ้ย ลิลลี่สับสน

นี่มันท่านอ๋องไบโพล่าชัดๆ! จะปฏิเสธตรงๆก็คงไม่ได้เสียด้วย ไม่งั้นมีหวังงานใหญ่เข้าแน่ๆ ลองหาข้ออ้างอื่นก็แล้วกันเผื่อจะได้ผล

“แต่ว่า ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ท่านอ๋องผลัดเปลี่ยน ซินเอ๋อร์เกรงว่า…” ยังไม่ทันที่นางจะได้พูดจบ สุรเสียงทุ้มต่ำพลันดังขึ้นแทรก “หานจิ้ง ไปเอาชุดนอนกับชุดที่ข้าต้องใส่พรุ่งนี้มา คืนนี้ข้าจะค้างกับพระชายา”

ม่ายยยยยย!!! มู่ซูซินกรีดร้องในใจเสียงดัง ปล่อยให้คนตัวโตโอบเอวกลับเขาไปในเรือนด้วยอาการสติหลุดลอย

สาวใช้สองลี่รีบรุดเข้าไปในเรือนนอนเพื่อเตรียมอ่างน้ำอุ่นให้เจ้านายได้ใช้อาบก่อนเข้านอน

เวลานี้เรือนกายสูงของเฟิ่งเสวียนจี ยืนตระหง่านอยู่หน้าฉากกั้นซึ่งด้านหลังคืออ่างอาบน้ำใบใหญ่มีไอน้ำลอยฉุย บนผิวน้ำโรยด้วยกลีบกุหลาบหลากสีสัน

เจ้าของดวงพักตร์หล่อเหลาจ้องมองร่างบางที่เหมือนยังไม่ได้สติดีสักเท่าไหร่ด้วยแววตาขบขัน

“ชายารัก มัวยืนทำอะไรอยู่ มาช่วยปรนนิบัติสามีอาบน้ำทีสิ” รับสั่งจบก็ยืนกางแขนออกรอให้มู่ซูซินช่วยถอดเสื้อผ้า

มู่ซูซินทอดถอนใจให้กับชะตากรรม เห็นทีวันนี้นางคงก้าวขาผิดข้างออกห้องตั้งแต่เช้า ถึงถูกเจ้ากรรมนายเวรตามตอแยไม่เลิกจนถึงตอนนี้

ร่างระหงเดินก้มหน้าเข้ามาหาคนตัวโตนิสัยเสียโดยไม่พูดไม่จา กำลังท่องยุบหนอพองหนออยู่ในใจอย่างเงียบๆ

ทว่าอีกฝ่ายกลับเข้าใจว่านางกำลังเขินที่ต้องถอดอาภรณ์ให้เขา เห็นอย่างนั้นจึงแกล้งส่งเสียงเร่งเข้าไปอีก

“เร็วเข้าสิ อย่ามัวชักช้าเปิ่นหวางเริ่มง่วงนอนแล้วนะ”

“เพคะ” เจ้าของเสียงหวานรีบเดินเข้ามาใกล้ อ้อมแขนไปด้านหลังร่างสูงเพื่อปลดเข็มขัดออกก่อน จากนั้นจึงถอดเสื้อคลุมผ้าไหมเนื้อดีสีน้ำเงินออก ถัดมาคือเสื้อตัวในสีดำ ทันทีที่ปลดเชือกมัดข้างลำตัว สาบเสื้อแหวกให้เห็นรูปร่างแข็งแกร่งสมส่วนของหนุ่มวัยฉกรรจ์

เมื่อได้ประจักษ์เรือนกายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ร่มผ้าของเฟิ่งสวียนจี มู่ซูซินถึงกับลอบกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่

‘อื้อหือ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ กล้ามอกแน้นแน่น อุ้ย จุกนมสีชมพูน่ารักเชียว กรี๊ด ซิกแพ็คเน้นๆ หุ่นน่ากินมากพ่อคุณเอ้ย…ลิลลี่ใจเย็นๆ อย่าโดนผู้ชายล่อลวงง่ายๆแบบนี้สิ ท่องไว้ว่าคนตรงหน้าคือทรราช ไม่ใช่พระเอกสายอบอุ่นในนิยาย’

นางรีบห้ามความคิดสัปดนเน้นย้ำกับตนว่าฉีอ๋องคือทรราช ไม่ใช่พ่อไมโครเวฟ!

ร่างบางไม่รู้ว่าผิวขาวผ่องของตนเป็นสีแดงก่ำตั้งแต่คอไปจนใบหู นางไม่กล้าเงยหน้ามองตาคนตัวโตเพราะกำลังเขินมาก เมื่อช่วยถอดเสื้อตัวในให้เขาเสร็จ ก็รีบถอยกรูดออกมา “เสร็จแล้วเพคะ”

“กางเกงล่ะ ไม่ถอดให้รึ?”

เอาจริงดิ!

คำถามนี้มู่ซูซินรีบตอบกลับไปอย่างไม่ต้องคิด “รบกวนท่านอ๋องถอดเองดีกว่าเพคะ ซินเอ๋อร์เกรงใจไม่กล้าถอดให้ กลัวเจอ เอ่อ…” หยุดคิดไปชั่วอึดใจว่าเรียกตรงนั้นของเขาว่าอะไรดี “หนอนน้อย ของท่านอ๋องเพคะ” เรียกแบบนี้แล้วกันดูไม่ลามกดี

เพียงแต่…

“…” เฟิ่งเสวียนจี นางกำลังดูถูกลูกชายเขาว่าเป็นหนอนน้อย! บังอาจนัก! ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้!

“มาถอดกางเกงให้เปิ่นหวางเดี๋ยวนี้!” สุ้มเสียงที่ใช้เจือความขุ่นเคืองอยู่หลายส่วน

“ก็ได้เพคะ” คนตัวเล็กตอบรับเสียงอ่อย ขยับขาเข้ามาหาเขาอีกครั้ง ยกมือสั่นเทาแก้เชือกผูกเอวกางเกง จากนั้นรีบหลับตาปี๋คลายมือของตนออก ปล่อยให้ปราการด่านสุดท้ายของเฟิ่งเสวียนจีร่วงลงพื้น

“เสร็จแล้วเพคะ เชิญท่านอ๋องอาบน้ำได้ ซินเอ๋อร์จะไปรอด้านนอกนะเพคะ” พูดจบก็ก้าวถอยเตรียมเผ่นหนี

“เดี๋ยว! ลืมตาขึ้นมามองเปิ่นหวาง” เฟิ่งเสวียนจีไม่ยอมปล่อยนางออกไปจากตรงนั้นง่ายๆ นางต้องเห็นว่าลูกชายเขาไม่ใช่หนอนน้อย!

“ไม่เพคะ” ศีรษะเล็กส่ายไปมาเป็นพัลวัน

“เปิ่นหวางบอกให้ลืมตามองอย่างไรเล่า!“

“ซินเอ๋อร์ไม่กล้าเพคะ” นางกลัวกำเดาพุ่งไม่ใช่อะไร

“เจ้ากล้าขัดคำสั่งเปิ่นหวางอย่างงั้นรึมู่ซูซิน!” น้ำเสียงของเขาเย็นชาแฝงการข่มขู่ชัดเจน

มู่ซูซินที่ยังหลับตาปี๋ส่ายศีรษะดิก ยืนยันว่าอย่างไรตนก็ไม่ยอมลืมตาเด็ดขาด เหตุผลที่แท้จริงเพราะนางกลัวเห็นของดีแล้วจะเก็บอาการไม่ทัน แค่กล้ามอกแน่นๆกับซิกซ์แพ็คเน้นๆกำเดาก็แทบพุ่งอยู่รอมร่อ

ทว่าสิ่งที่นางคาดไม่ถึงพลันบังเกิด วงแขนแกร่งของร่างสูงช้อนนางลอยหวือขึ้นจากพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง

“ว้าย ท่านอ๋องปล่อยซินเอ๋อร์ลงนะเพคะ” ดวงตากลมโตคู่งามเปิดขึ้น จ้องดวงพักตร์หล่อเหลาอย่างตื่นตระหนก นี่ฉีอ๋องเห็นนางเป็นตุ๊กตาหรืออย่างไรถึงอุ้มได้อุ้มดี!

“หึ! ทีนี้ยอมลืมตาได้แล้วรึ” รับสั่งเสร็จก็พาคนตัวเล็กลงไปในอ่างน้ำอุ่นใบใหญ่พร้อมกับตน เสื้อผ้าของมู่ซูซินเปียกลู่ไปกับเรือนกายทันที หากนางกลับไม่สนใจเพราะกำลังโมโหคนตัวโต

“ท่านอ๋องทำแบบนี้จะเกินไปหน่อยแล้วนะเพคะ!” นางแหวใส่เขาเสียงเขียว จ้องดวงเนตรคู่คมเขม็งอย่างลืมตัว

เฟิ่งเสวียนจีคล้ายมองเห็นลูกแมวน้อย กำลังพองขนขู่ฟ่อใส่พยัคฆ์ตัวโตอย่างไม่กลัวตาย หัวใจรู้สึกคันยุบยิบ เกิดอาการหมั่นเขี้ยวอยากกัดแก้มป่องๆของนางสักคำโตๆ

เขาจ้องตานางกลับอย่างท้าทาย กระตุกยิ้มร้าย เปล่งเสียงรับสั่งเหี้ยมเกรียม

“เจ้าอยากบังอาจมาเรียกความเป็นชายของเปิ่นหวางว่าหนอนน้อยก่อนทำไม ทีนี้ดูเสียให้เต็มตาว่ามันใช่หนอนน้อยอย่างที่เจ้าเข้าใจหรือไม่!”

******************

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~4

    สองปีต่อมา มู่เหยียนเติบใหญ่ขึ้นมากร่างกายกำยำจากการฝึกวรยุทธ์กับท่านตาอย่างหนัก สุ้มเสียงแตกหนุ่มบัดนี้ทุ้มต่ำเสนาะหู รูปโฉมหล่อเหลาอันตรายต่อจิตใจของสตรีมากขึ้นทุกวัน บรรดาแม่สื่อต่างย่ำเท้ามาทาบทามคุณชายมู่เหยียน จนธรณีประตูทางเข้าจวนเจ้าเมืองแทบสึก! หลังปีใหม่ หอเหว่ยตี้ก็ได้รับเทียบเชิญอย่างเป็นทางการจากชินอ๋องแห่งแคว้นต้าเซี่ย เขาประสงค์ให้หอโอสถเหว่ยตี้ไปเปิดที่เมืองหลวงของแคว้น เนื่องจากในหน้าหนาวของทุกๆปี ประชาชนของต้าเซี่ยจำนวนไม่น้อยมักเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบ ชินอ๋องเซี่ยหย่งเหอ ทราบมาว่าหอเหว่ยตี้มีโอสถชั้นยอดหลายอย่าง จึงอยากให้หอเหว่ยตี้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยการไปเปิดหอโอสถที่เมืองหลวงเป็นสาขาแรก หยางหย่าถิงในฐานะนายใหญ่ตอบรับคำเชิญนี้ โดยที่นายน้อยเหว่ยอี้จะเป็นตัวแทนไปเจรจา ใช้เวลาในการเดินทางราวยี่สิบวันจากต้าเฟิ่งมายังเมืองหลวงของต้าเซี่ย ตำหนักชินอ๋อง งานเลี้ยงรับรองนายน้อยเหว่ยอี้ ถูกจัดขึ้นที่ลานตำหนักติดกับสระบัวและน้ำตกจำลองเพื่อคลายร้อน การตกแต่งประดับประดาสวยงามสมเกียรติชินอ๋องแห่งต้าเซี่ย เมื่อได้เวลาเซี่ยหย่งเหอและพระชายาทั้งสอง รวมถึ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~3

    แม่เล้าของหอราตรีจรัส ครั้นได้เห็นเด็กหนุ่มรูปงามสองคน แต่งกายด้วยอาภรณ์ราคาแพง ก็รีบปรี่เข้ามาต้อนรับพร้อมรอยยิ้มการค้าอย่างมืออาชีพ “คุณชายสองท่านนี้ไม่ทราบว่าคืนนี้มากินดื่มหรือต้องการมาหาความสำราญกันเจ้าคะ” มู่เหยียนผู้มีประสบการณ์รีบออกตัวรับหน้าอย่างทันท่วงที “พี่สาวคนสวย คืนนี้พวกข้าขอเริ่มด้วยการกินดื่มก่อนก็แล้วกัน หากนึกครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมาทีหลัง ค่อยหาความสำราญก็ยังไม่สาย ลูกน้องของข้าจองระเบียงส่วนตัวชั้นสองมองเห็นแม่น้ำไว้ ถ้าอย่างไรพี่สาวคนสวยช่วยพาน้องชายไปที” พูดจบก็วางถุงใส่เงินที่มีน้ำหนักไม่น้อยใส่มือแม่เล้าอย่างรู้งาน แม่เล้ายกพัดกลมขึ้นมาแตะแผ่นอกของเด็กหนุ่มเบาๆ อย่างมีจริต “แหม ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ “จากนั้นจึงเดินนำไปยังระเบียงชั้นสองที่ถูกจับจองไว้ ” เชิญคุณชายตามข้ามาทางนี้เจ้าค่ะ” อาหรงดวงตาเบิกโพลงยิ่งกว่าเก่า คาดไม่ถึงว่าสหายของตนจะเชี่ยวชาญการใช้ชีวิตในหอโคมแดงขนาดนี้! องครักษ์ของมู่เหยียนที่เดินตามหลังมากลั้นขำกันจนไหล่สั่น คุณชายน้อยเลียนแบบจดจำท่าทางการพูดการจาของพี่สาวมาได้เหมือนเป๊ะ บนระเบียงส่วนตัวชั้นสอง ประตูเปิดกว้างสามารถมองเห็

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~2

    เฟิ่งเสวียนจียืนกอดอกอยู่ในเงามืด เอียงคอถามน้องภรรยาที่กำลังตั้งท่าจะกระโจนขึ้นหลังคาด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ “…” มู่เหยียน หมดกันถูกจับได้เสียแล้ว! “แหะๆ พี่เขยดึกๆ ดื่นๆ ไม่หลับไม่นอน ออกมาทำอะไรแถวๆ นี้หรือพะย่ะค่ะ พระชายาหลับแล้วหรือ ท่านอ๋องถึงออกมาเดินชมดาวยามค่ำคืนคนเดียว” “ข้าต้องถามเจ้ามากกว่า ดึกดื่นค่อนคืนไม่หลับไม่นอน แต่งตัวซะหล่อแบบนี้มีนัดกับใครที่ไหนรึเปล่า” ดวงเนตรคู่คมมองสำรวจเสื้อผ้าที่มู่เหยียนใส่ ถึงจะเป็นสีเข้มทว่ากลับดูหรูหรามีระดับ แค่มองก็รู้ว่าเจ้าตัวต้องมีนัดแน่ๆ มู่เหยียนถอนหายใจแผ่ว คำว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนมันเป็นอย่างนี้เองสินะ แค่เห็นชุดที่เขาสวมใส่ก็ดูออกทันที “ปิดบังท่านอ๋องไม่ได้เลยจริงๆ กระหม่อมมีนัดจริงๆ นั่นแหละพะย่ะค่ะ” “แล้วทำไมไม่ออกทางหน้าตำหนักให้มันดีๆ จะโดดขึ้นหลังคาหนีออกไปให้องครักษ์สงสัยทำไม หืม?” “เดินออกไปง่ายๆ แบบนั้นมันไม่เร้าใจพะย่ะค่ะ แอบออกไปแบบนี้มันตื่นเต้นกว่า” (*_*’) เฟิ่งเสวียนจีถึงกับเงิบเมื่อได้ยินคำตอบจากปากน้องภรรยา พี่น้องคู่นี้สมกับที่มีสายเลือดเดียวกันจริงๆ! ชอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ ให้คนสงสัย…พี่เขยอย่างเขาหัวจะ

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ นายน้อยคนใหม่แห่งหอเหว่ยตี้ ~1

    ช่วงปลายวสันตฤดู จวนเจ้าเมืองตงเฉิงมีงานใหญ่ คุณชายน้อยมู่เหยียนปีนี้อายุครบสิบห้าแล้ว จึงได้เวลาทำพิธีสวมหมวกครั้งแรก ซึ่งเป็นพิธีที่แสดงว่าเขาได้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว และเป็นการบ่งบอกว่าเขาพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อสังคมและครอบครัว นั่นหมายถึงหลังเสร็จสิ้นพิธี มู่เหยียนจะกลายเป็นนายน้อยคนใหม่ของหอเหว่ยตี้แทนพี่สาวทันที นามที่ใช้คือ เหว่ยอี้ ในวันสำคัญนี้ แม้แต่หยางเทียนอี้ผู้เป็นตาก็เดินทางมาจากเมืองชิงหลินเพื่อร่วมฉลอง มู่ซูซินพร้อมสามีและลูกๆ ของนางเดินทางจากเมืองหลวงเพื่อมาร่วมงานสำคัญนี้ ตลอดการเดินทางหลายวันเฟิ่งเสวียนจีแทบเก็บอาการไม่อยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาดีใจมากแค่ไหน ที่ต่อไปชายาตัวน้อยไม่ต้องรับผิดชอบหน้าที่นายน้อยแห่งหอเหว่ยตี้อีกแล้ว เขาใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทุกครั้ง ยามที่ชายาต้องเดินทางไปต่างเมืองเพื่อทำงาน หลังเสร็จสิ้นพิธีสมาชิกทุกคนในครอบครัวก็มารวมตัวกันอยู่ที่โถงพักผ่อนในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า มู่เหยียนในวัยสิบห้าปีรูปร่างสูงสง่ามีราศีมิต่างจากเชื้อพระวงศ์ ใบหน้าหล่อเหลาค่อนไปทางงดงามดูราวปีศาจจิ้งจอกจำแลงเหมือนพี่สาวไม่มีผิด อีกทั้งช่างเจรจาพา

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~4

    เย่เฟิงคล้ายเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง รีบพยักหน้ารับด้วยความมั่นใจ ผู้ช่วยแม่ครัวจึงคลายมือออก ปล่อยให้ชายหนุ่มเริ่มนวดแป้งด้วยตนเอง ในขณะที่มือก็กำลังนวดแป้ง ในหัวก็จินตนาการไปว่า ตนกำลังนวดต้นขานุ่มๆของลี่เจินไปด้วย และอาจเป็นเพราะตั้งใจมากไปนิดเลยเผลอคิดดังไปหน่อย ”ขาของเจ้าช่างนุ่มนวลเหลือเกินเจินเอ๋อร์“ ”…“ ทั้งแม่ครัวและผู้ช่วยคิ้วกระตุกยิกๆ พ่อหนุ่มองครักษ์กำลังสิ่งใดอยู่กันแน่!!! จากแป้งสีขาวนวลเวลานี้กลายเป็นก้อนแป้งสีชมพูเข้ม เพราะชายหนุ่มใส่ผงกุหลาบหนักมือไปนิด แต่ไม่เป็นไรแม่ครัวบอกกับเขาอย่างนั้น คราวหน้าค่อยลดปริมาณลง ถึงตอนนี้ แป้งพร้อม ไส้พร้อม ในที่สุดก็มาถึงขั้นตอนการห่อก่อนกดใส่พิมพ์ขนม ผู้ช่วยแสดงวิธีนวดแป้งทั้งสองสีให้กลายเป็นก้อนเดียว รวมไปถึงวิธีแผ่แป้งและห่อไส้ ก่อนนำไปกดใส่พิมพ์ขนมบัวหิมะ “น่ากินมากเลยขอรับ” เอ่ยชื่นชมจบก็ลงมือทำเองบ้าง เพียงแต่… “ทำไมมันยากเย็นอย่างนี้เนี่ย! ทำไมข้าห่อแล้วแป้งถึงแตกไส้ทะลัก ไม่เห็นเรียบเนียนเหมือนของท่านป้าเลย” “…” ผู้ช่วยแม่ครัว ข้าควรเวทนาคนหรือสงสารขนมดีเนี่ย “แรกก็เป็นแบบนี้แหละ ทำบ่อยๆเดี๋ยวก็ชำนาญขึ้

  • เพียงนางที่ข้าจะรัก   ตอนพิเศษ เมื่อองครักษ์มีรักย่อมต้องทุ่มสุดตัว ~3

    ไม่ใช่เพียงแค่หานจิ้งที่เดินหน้าเกี้ยวพานลี่อิ่งอย่างเปิดเผย แม้แต่องครักษ์เงาขั้นหนึ่งอย่างเย่เฟิง ก็ขอฉีอ๋องย้ายตำแหน่งงานมาเป็นองครักษ์ขั้นหนึ่งของพระชายามู่ซูซินแทน เหตุผลหลักคือเขาทำงานให้พระชายาจนคุ้นเคยไปแล้ว ส่วนเหตุผลรองคือหัวใจของเขาเฝ้าติดตามลี่เจินไปแล้วนั่นเอง เรียกกลับมาเท่าไหร่หัวใจเจ้ากรรมก็ไม่ยอมเชื่อฟัง เย่เฟิงเลยตั้งปณิธานว่า เขาจะไม่ยอมแพ้องครักษ์รุ่นน้องอย่างหานจิ้งเด็ดขาด ชีวิตนี้เขาต้องได้แต่งลี่เจินเป็นภรรยาผูกผม! หากทำไม่ได้ก่อนอายุสามสิบ เย่เฟิงจะไปออกบวชมันให้มันรู้แล้วรู้รอด! ครัวหลักของตำหนักเว่ยจง แม่ครัวฝ่ายขนมหวานมุมปากกระตุกยิกๆ ขณะยืนมององครักษ์ของพระชายากวนแป้งทำขนมบัวหิมะกุหลาบ “เอ่อ ท่านองครักษ์เจ้าคะ กวนแป้งไม่ต้องออกแรงขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ค่อยๆทำไป ท่านเล่นกวนแรงและเร็วแบบนี้ แป้งมันก็กระเด็นออกจากกระทะหมดสิเจ้าคะ แล้วจะเหลือให้กินไหมเนี่ย! โอย ข้าจะเป็นลม” พูดจบก็ยกยาดมขึ้นมาสูดเข้าปอดดัง ฟื้ด... บรรดาสาวใช้ในโรงครัวยกมือป้องปากหัวเราะคิกคักด้วยความเอ็นดูในตัวเย่เฟิง คาดไม่ถึงว่าองครักษ์หน้าเข้มผู้นี้ จะยอมลงทุนมาเรียน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status