LOGINนานหลายนาทีที่สายตาคมกริบจดจ้องประสาน ต่างฝ่ายต่างดูเชิงกันนิ่งนานโดยไม่เอ่ยอะไร ทำให้บรรยากาศตึงเครียดและย่ำแย่ลงเรื่อย ๆจนคนกลางที่นั่งคั่น รับรังสีของคนทั้งคู่เข้าเต็มๆ เริ่มรู้สึกหายใจติดขัด ยกน้ำขึ้นจิบรัว ๆ อย่างคนทำตัวไม่ถูกถึงพวกเขาจะหน้าตาดีชนิดที่บรรดาสาว ๆ ในร้านพร้อมใจกันเหลียวมามองเป็นตาเดียว แถมสถานการณ์ยังชวนให้คนนอกเข้าใจผิดว่าเกิดศึกชิงนางทั้งที่จริง ๆ แล้วมันคือศึกกลางเมือง!ไม่ต้องมาจิกตาทำหน้าอิจฉาฉันนน มาค่ะมา มาแท็กมือเปลี่ยนกัน ฉันยินดี!บริ้งค์โอดครวญในใจ ทำหน้าจะร้องไห้ เพราะในความรู้สึกที่เผชิญอยู่ตอนนี้คือเหมือนชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย ติดแหง่กอยู่ท่ามกลางสงครามที่ผู้คนกำลังกระหนำสาดกระสุนใส่กันจนสนั่นเมืองไม่มีผิดก็พอเข้าใจนะว่าการทำธุรกิจมันต้องมีการขัดแข้งขัดขา ขัดผลประโยชน์กันเป็นเรื่องปกติ แต่ช่วยไปตีกันที่อื่นได้ไหมฮืออ อยากกลับบ้าน!~ และคล้ายว่าจะมีคนได้ยินเสียงกู่ร้องภาวนา ในที่สุดผู้มาเยือนตรงหน้าก็ผุดลุกขึ้น แสดงออกว่ายอมเป็นฝ่ายล่าถอยไปก่อน"นี่ก็ครบสิบนาทีแล้ว ยังไงผมต้องขอตัวก่อน"เตชินท์หันมาก้มศีรษะให้ชายหน้าดุผู้มีศักดิ
@อีกด้านทำไมไม่กดรับสักทีวะ?ครุ่นคิดพลางเหลือบตาไปมองหน้าจอเป็นหนที่ห้า ความหงุดหงิดเพิ่มพูนมากขึ้นทุกขณะหลังพบว่าเด็กสาวไม่ยอมกดอนุญาตเสียที แตกต่างจากของลูกน้องคนสนิทที่โอ้อวดว่ามันใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที"นายจะไปรอที่ร้านเลยไหมครับ""รอใคร?""รอคุณบริ้งค์ไงครับ"แววตาดุดันตวัดมองปรามลูกน้องทันควัน รอเรออะไร ที่เขาต้องมาทานมื้อเย็นที่ห้างนี้ก็เพราะมีคนเสนอหน้า จัดแจงให้ทุกอย่างเสร็จสรรพไม่ใช่เหรอส่งคำก่นด่าไปให้ทางสายตาก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาล้อเลียนไปอีกทาง พลันสองเท้าก็ชะงักหยุดกึกกลางคัน ใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง ทันทีที่สายตาสะดุดเข้ากับสองชายหญิงซึ่งกำลังนั่งหัวร่อต่อกระซิกอยู่ในร้านไอศกรีมแบบนี้สินะถึงไม่มีเวลาดูโทรศัพท์!ติณณ์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เท้าใหญ่เปลี่ยนทิศอย่างกะทันหันก่อนเร่งฝีเท้าเดินปรี่เข้าไปหาเด็กสาว ไม่ได้คิดปรายตามองพนักงานที่วิ่งสวนออกมาต้อนรับพร้อมรอยยิ้มที่หน้าร้านเลยแม้แต่น้อยก่อนที่กรกันต์ซึ่งเพิ่งเห็นภาพเหตุการณ์เดียวกันจะรีบก้าวตามหลังมาติด ๆ สีหน้าเคร่งเครียด เพราะไม่ใช่แค่ทุกอย่างผิดไปจากแผนที่เขาตระเตรียมไว้อย่างสิ้นเชิงแล้ว ดูท่ามื้อเย็นวันนี้จะล
"เอ้าา ไม่รับเหรอ"บริ้งค์ส่ายหน้าหวือ "ไม่อะ น่าจะพวกแอคอวตาร"จากนั้นก็คว่ำโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก ความเข็ดขยาดจากประสบการณ์เก่า ๆ ที่มักเจอโรคจิตส่งของลับมาอวดอ้างสรรพคุณความใหญ่โตบวกกับเมื่อครั้งถูกรถทัวร์ขบวนใหญ่แวะเวียนมาถล่มบัญชีคราวก่อน ทำให้บริ้งค์ค่อนข้างเพิ่มความระมัดระวังในการสแกนและกดรับ Follower มากขึ้นเท่าตัวแต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ยอมแพ้ ยื่นมือมาคว้าเอาโทรศัพท์ของเธอไปเปิดดูชื่อแอคเคาน์อย่างถือวิสาสะ ให้ข้ออ้างด้วยสีหน้ากระดี๊กระด๊าว่า"เดี๋ยวฉันแอดไปส่องให้เอง จะได้รู้ว่าหล่อจริงหรือหล่อทิพย์!""โอ้ยยย ปวดหัวจัง ต้องพาไปโรงบาลไหนนะถึงจะมีคนรักษาอาการบ้าผู้ชายของเพื่อนได้""ถ้าหมอหล่อก็อาจจะรักษาได้นะ คิกคิก""งั้นไม่พาไปละฉันสงสารหมอ ไม่อยากเห็นใครประสาทเสียเพราะแก!"แต่มีหรือคำด่าแค่นี้จะระคายหูคนอย่างขวัญข้าว อย่าไปหวัง!บริ้งค์ส่ายหน้า เปล่งเสียงหัวเราะร่วนประสานไปกับเพื่อนสาวแล้วหันมาง่วนกับของหวานตรงหน้า ปล่อยให้เพื่อนจมจ่อมกับโปรไฟล์ปริศนานั่นต่อไปเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ขณะที่สองมือผลัดกันผลักภาระโยนไปให้อีกฝ่ายเมื่อหน้าท้องตึงเกินกว่าจะ
ติณณ์ขึงตาดุพลางโบกไม้โบกมือไล่คล้ายไม่พอใจ ทว่าคล้อยหลังลูกน้องคนสนิทเดินผิวปากออกจากห้องไปได้ไม่กี่วินาที คนที่แสร้งทำเป็นวุ่นวายกับงานตรงหน้าอยู่นานสองนานก็วางมือ เอื้อมไปหยิบอุปกรณ์สื่อสารของตนขึ้นมากดปลดล็อกปลายนิ้วสากชะงักค้างอยู่เหนือโลโก้สีรุ้ง ลังเลในการกระทำของตนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่สุดท้ายจะวางทาบลง สแกนลายนิ้วมือเพื่อโหลดโปรแกรมที่ว่ามาประดับเครื่องตามคำยุยงจนได้ทันทีที่ตัวโปรแกรมพร้อมใช้งาน คนโลว์เทคก็เริ่มกระบวนการสมัครแอคเคาน์ตามวิธีการที่เหล่ากูรูแปะไว้ให้อ่านประกอบบนโลกออนไลน์อย่างเงอะ ๆ งะ ๆเพียงชั่วอึดใจชายหนุ่มผู้เป็นถึงซีอีโอของบริษัทในเครือยักษ์ของ NAVA Group ก็มีบัญชีสำหรับท่องโลกโซเซียลเป็นครั้งแรกในวัยสามสิบสองและบัญชีที่เขาเลือกกดติดตามเป็นคนแรกก็คือ @PrincessBlink++ครืดครืดแรงสั่นเตือนสั้น ๆ ดึงให้บริ้งค์ที่กำลังส่งขนมสีหวานเข้าปากชะงัก หันไปมอง ก่อนที่คิ้วเรียวจะเลิกขึ้นเล็กน้อยในจังหวะที่สายตาสะดุดเข้ากับชื่อของแอคเคาน์ล่าสุดซึ่งเพิ่งกดติดตามเธอเมื่อไม่กี่นาทีก่อนThinnabhop? ทำไมคุ้นตาจัง ...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชื่อหรือภาพเสี้ยวหน้าคมคายที่มีมือใหญ่
แม้วันนั้นคู่กรณีจะแต่งหน้าจัดจ้านจนแทบไม่เหมือนนักศึกษาวัยใสอย่างในวิดีโอ ทว่าด้วยโครงหน้าและตำหนิสีดำเม็ดเล็ก ๆ ใต้ดวงตาคู่สวยนั่น ทำให้เขาสามารถจดจำเจ้าหล่อนได้อย่างแม่นยำไม่ผิดแน่ ยัยตัวแสบ! กรกันต์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถูกตีเข่าจนสีข้างฟกช้ำไม่พอ หล่อนยังใจจืดใจดำทิ้งให้เขานั่งสลบเหมือดอยู่ในห้องน้ำหญิงทั้งที่ใบหน้าเปรอะเลือดกว่าครึ่งซีกหากไม่ได้แม่บ้านช่วยพาส่งโรงพยาบาล เขาคงได้นอนกอดชักโครกไปถึงเช้า ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ฮึ้ย!คิ้วหนาขมวดมุ่นแน่น หรี่ตามองท่าทางแปลก ๆ ของลูกน้องแล้วเอ่ยถามย้ำเสียงเข้ม "ว่าไง เธออยู่ไหน"ทำให้กรกันต์เก็บแววตาขุ่นขวางลงแล้วรีบรายงานต่อ "อ้อ ร้าน BW ที่ห้าง Cen ใกล้ ๆ กับบริษัทครับ นี่ครับ" พร้อมวางโทรศัพท์มือถือที่ปรากฏภาพเคลื่อนไหวประกอบคำพูดทำไมดูแค่นี้ก็รู้ว่าเธออยู่ที่ไหนในตอนนี้คิ้วหนาขมวดมุ่นแน่น ความฉงนฉายชัดขณะที่สายตายังคงไม่ละไปไหนแม้ตัววิดีโอจะสิ้นสุดแล้วเด้งกลับมาเป็นหน้าแอคเคาน์ของเด็กสาวแล้วก็ตามแล้วนี่มันคืออะไรกันอยากรู้แต่ไม่อยากถามด้วยกลัวว่าจะโดนลูกน้องปากปีจอกระแหนะกระแหนเข้า ติณณ์จึงใช้วิธีชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พลางใช้ปลายนิ้วต
"ตอนที่กูขอร้องให้พวกมึงหยุด เคยมีใครฟัง เคยมีใครเห็นใจกูกับแม่บ้างไหม! เหอะ ก็ไม่มี! ไม่เคยมี!!"เสียงทุ้มตวาดกร้าว สองมือกำเข้าหากันแน่น ร่างกายเริ่มสั่นเทาตามแรงอารมณ์ที่กำลังก่อตัว ยิ่งเมื่อภาพใบหน้าซีดเซียวของมารดาในวันนั้นผุดขึ้นมาในความทรงจำ ความคับแค้นใจก็พลันพรั่งพรูออกมายาวเหยียด"ในเมื่อกฎหมายทำอะไรคนอย่างพวกมึงไม่ได้ กูก็จะทำหน้าที่เป็นกฎแห่งกรรม ทำลายพวกมึงให้ย่อยยับ ให้สมกับความเสียใจที่แม่กูต้องตรอมใจถึงสามปี! เพราะฉะนั้นฝากไปบอกตาแก่นั่นด้วยล่ะว่าอย่าเพิ่งใจเสาะ หนีตายไปก่อน เพราะนี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!"พูดจบติณณ์ก็กดตัดสายทิ้งโดยไม่สนใจฟังเสียงร้องขอความเห็นใจจากอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย หรือต่อให้ฟังเขาก็ไม่คิดเห็นใจคนพวกนั้นสักนิดเพราะตราบใดที่เขายังทวงความยุติธรรม ลากคอคนที่ทำผิดมาคุกเข่าขอขมาต่อหน้าหลุมศพมารดาผู้ล่วงลับไม่ได้ เขาขอสาบานว่าชาตินี้เขาจะไม่ยอมให้พวกมันได้ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข! มือใหญ่กระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงานอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง ปรายตาไปมองลูกน้องคนสนิทหมายจะทวงถามถึงความคืบหน้าของงานอีกหนึ่งอย่างของวันนี้ทว่าพอเห็นใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของอีกฝ่







