LOGINในนาทีนั้นเองฉันแกะมือไอ้ตรีออกข้อมือ แล้วหมุนตัวแล้วจระเข้ฟาดหางไปบนลำตัวไอ้ปากหมาให้ไปนอนบนพื้นทรายอีกรอบ
ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายจับข้อมือไอ้ตรี และยัยนุ่นเดินลิ่วไปจากตรงนั้นทันที
ฉันยังไม่ปล่อยมือจากไอ้ตรี ตั้งใจจะพามันไปซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันสงสัย แต่ไอ้ปีกับไอ้พัทวิ่งตามหลังมา
“เฮ้ย พวกมึงจะไปไหนเนี่ย ไม่เล่นน้ำกันหรือไง”
“พอดีกูมีเรื่องจะคุยกับไอ้ตรีมัน พวกมึงไปเล่นก่อนเหอะ นุ่นด้วย ไปเล่นกับไอ้สองคนนี้ก่อนนะ” พูดจบฉันก็ลากแขนไอ้ตรีกลับไปยังบ้านพัก
“ตกลงมึงกับไอ้ปากหมานั่นคือ...” พอมานั่งในห้องโถงบ้านพักฉันก็ตั้งคำถามที่พอจะเดาออกอยู่บ้าง แต่อยากฟังชัดๆ จากปากไอ้ตรี
“มันคือลูกบุญธรรมของพ่อกูเอง”
“ตกลงมันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อมึง”
“ไม่ใช่ มันเป็นหลานของแม่เลี้ยงกู ที่เขารับมันเป็นลูกบุญธรรมน่ะ กับเมียใหม่ เขาไม่ได้มีลูกด้วยกันหรอก”
“อือ...แบบนี้เอง แล้วเรื่องที่ไอ้นั่นพูด มันคืออะไร เร่ร่อนที่ลอนดอน แล้วแฝดคนละแม่คืออะไร ชื่อไรนะ โทเหรอ ลงนรกคือหมายความว่าไงอะ” ฉันจำคำพูดของไอ้ปากหมานั้นได้อย่างแม่นยำ
“ตายไง ไอ้โท พี่ชายกูเอง”
“เฮ้ย มึงไม่เคยบอกเลยนะว่ามีพี่ชาย และเป็นแฝดคนละแม่คืออะไรวะ” ทำไมเรื่องราวมันดูซับซ้อนแบบนี้ แล้วเรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมมันไม่เคยบอกฉัน
“ไอ้โทกับกูหน้าตาเหมือนกันมาก ทั้งที่คนละแม่ ต่างกันตรงมันสูงกว่ากูสี่เซนฯ คนที่เห็นกูกับมัน คิดว่าเป็นฝาแฝด เพราะเราสองคนหน้าเหมือนพ่อด้วยกันทั้งคู่ และที่กูไม่เคยบอกมึง เพราะตอนนั้นกูเกลียดมันมาก ไม่เคยคิดว่ามันเป็นพี่ มันชอบแกล้งกูจนเกือบตายมาแล้ว”
“เกือบตายเลยเหรอวะ”
“มันเคยผลักกูตกสระว่ายน้ำในบ้านน่ะ”
“เฮ้ยที่มึงไม่กล้าฝึกว่ายน้ำตอนนั้น เพราะพี่มึงหรอกเหรอ ที่มึงเคยบอกว่ามีญาติแกล้งผลักลงสระน่ะ”
“อือ...” มันพยักหน้ารับ
“นิสัยมันแย่จริงๆ แกล้งน้องได้ขนาดนั้น แล้วทำไมมันถึงตายล่ะ ไม่ใช่มึงฆ่ามันนะ” ท้ายประโยคฉันแกล้งแหย่ แต่เห็นสีหน้าเศร้าๆ ของมัน ฉันก็รีบขอโทษ
“ขอโทษมึง กูล้อเล่น”
“ที่มันชอบแกล้งกูเพราะว่าหลังจากแม่มันตาย พ่อก็พากูกับแม่เข้าบ้าน และก่อนแม่จะเข้าบ้าน แม่กูเคยเป็นเมียน้อยพ่อมาก่อน”
นี่คงเป็นอีกเหตุผลที่ไอ้ตรีไม่ค่อยอยากพูดเรื่องพ่อหรือครอบครัวของตนเองให้ใครฟัง รวมทั้งฉันด้วย
“ไอ้โท มันตายเพราะเกิดอุบัติเหตุรถชนเมื่อห้าปีก่อน”
“เฮ้ย น่าสงสารเหมือนกันนะ”
“ใช่ มันน่าสงสารมาก”
ไอ้ตรีพูดพร้อมกับทำตาแดง เหมือนกำลังจะปล่อยโฮ ฉันเลยเข้าไปกอดมัน
“ขอโทษว่ะ กูไม่น่าถามมึงเลย และกูเข้าใจแล้วว่าทำไมมึงถึงไม่เคยพูดถึงพี่มึงเลย แต่ที่ไอ้หมอนั่นพูดเรื่องลอนดอนคือยังไง”
“ตอนที่กูกับแม่กลับมาที่กรุงเทพฯ กูเรียนมอสี่แค่เทอมเดียว พ่อก็ส่งกูไปเรียนที่ลอนดอนกับไอ้โท แต่พอไอ้โทเสีย กูก็กลับมา แต่อย่างที่รู้นั่นแหละ กูไม่ได้กลับไปอยู่บ้าน เพราะที่นั่นกูก็ไม่มีแม่แล้ว และพ่อกูก็...ไม่ได้อยากให้กูอยู่ที่นั่นด้วย”
“โห พ่อมึงใจร้ายมากนะ รับลูกคนอื่นมาเป็นลูกบุญธรรมได้ แต่ไล่ลูกตัวเองออกจากบ้าน”
“กูเป็นลูกที่ไม่ดีเองแหละ”
“โห ไอ้เวรนั่นดีตายล่ะ กูล่ะงงพ่อมึงจริงๆ รับคนแบบนั้นเป็นลูกบุญธรรมได้ยังไง สักวันมันจะก่อเรื่องให้เดือดร้อน นิสัยเสียแบบนั้น แล้วตอนที่มันพูดถึงพี่มึงว่าลงนรกไปแล้ว คือมันพูดออกมาได้ไงวะ”
“มันเกลียดไอ้โท เพราะตอนมันมาอยู่บ้านแรกๆ โดนไอ้โทเล่นงานซะอ่วม”
“ไอ้พี่มึงคนนี้ก็นะ ชอบแกล้งคนจังเลย”
“ก็ไอ้แทนไทปากหมาใส่มันก่อน และไอ้โทมันเป็นไม่ยอมคนด้วยไง”
“ดูท่าว่ามึงจะเลิกเกลียดพี่มึงแล้วนะ”
“เลิกเกลียดตั้งแต่ตอนไปอยู่ลอนดอนด้วยกันแล้ว พอไปอยู่ด้วยกันก็เข้าใจกันมากขึ้น แถมเรายังรบรากับไอ้แทนไทอีก ยิ่งต้องสามัคคีกัน แต่สุดท้ายมันก็ทิ้งกูไป”
น้ำเสียงเศร้าๆ ของมัน ทำให้ฉันไม่อยากถามอะไรเกี่ยวกับพี่มันแล้ว แต่ก็ยังมีอีกเรื่อง
“แล้วที่ไอ้ปากหมานั่นพูดเรื่องที่มึงมาที่นี่ เพื่อระลึกความหลัง คืออะไรเหรอ”
“ครอบครัวเรามีบ้านพักที่นี่ ตอนเด็กๆ ก็มาอยู่ทุกครั้งช่วงปิดเทอม”
“งั้นที่มึงเลือกบ้านพักที่นี่ เพราะคิดถึงสมัยเด็กๆ และบ้านของครอบครัวใช่มั้ย”
“อือ...”
“มึงน่าสงสารจังเลยว่ะตรี กูเดาว่าครอบครัวมึงคงมีฐานะ เพราะมึงกับพี่มึงเรียนเมืองนอก มีบ้านพักที่หัวหินอีก แล้วมึงตอนนี้สิ ต้องร้องเพลงหาเลี้ยงตัวเองจนเรียนจบ พ่อมึงใจร้ายจังวะ”
“มึงก็รู้ว่ากูก็มีความสุขดีนะ แม้จะไม่ได้มีชีวิตสุขสบายเหมือนอยู่บ้าน แต่มีอิสระดี กูชอบนะ โดยเฉพาะที่ได้อยู่กับมึงและเพื่อนๆ”
“จ้า พ่อคุณหนูตกยาก แต่ตอนยังเด็ก มึงก็ไม่เคยบอกกูเลยนะว่าบ้านมึงรวย”
::::::::::::::::::::::
เวลารัดสะโพกกูจะเป็นยังไง แต่คืนนั้นมึงทำให้ความฝันกูเป็นจริง”“แต่วันนั้นมึงร้องไห้นะ”“กูสารภาพ ร้องไห้เพราะดีใจว่ะ”“ไอ้ตอแหล” ฉันตีไหล่มันเต็มแรง“ที่ผ่านมามึงหวังฟันกูตลอดเลยใช่มั้ย”“เออ”“ไอ้เพื่อนเหี้ย” ถึงจะด่ามันแบบนั้น แต่ฉันก็รู้สึกไม่ได้โกรธมันจริงจัง อาจเพราะมันพูดความจริง ซึ่งมันดีกว่าการโกหกอยู่แล้ว“แต่กูไม่ได้มีนมใหญ่อย่างกิ๊กมึงนะ หุ่นกูก็ผอมแห้งขนาดนี้”“แต่หอยมึงอวบ กูชอบ”“ไอ้เวร” ฉันตีมันอีกครั้ง และมันก็หัวเราะเสียงดัง“ต่อให้มึงนมเล็กยิ่งกว่านี้ และหอยมึงไม่อวบ กูก็ชอบ กูชอบทุกอย่างที่เป็นมึงนั่นแหละ” น้ำเสียงมันจริงจัง และแววตาก็อ่อนโยนลึกซึ้งจนฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าจะรักมันแบบเพื่อนต่อไปได้หรือเปล่า“มึงรักกูเหรอ” จู่ๆ ฉันก็ถามมันออกไปตรงๆ“ก็แน่นอนกูรักอยู่แล้ว แต่อย่าถามว่าแบบไหน เพราะกูรักมึงทุกแบบ”ฉันคงหวั่นไหวแล้วจริงๆ เพราะจู่ๆ ฉันก็อยากจูบมันอีกครั้ง และฉันก็ทำตามที่คิดอย่างว่องไว มันจูบตอบ เป็นจูบที่ต่างจากเมื่อครู่ เพราะเป็นจูบที่อ่อนโยน ดูดดื่ม ลึกซึ่ง ก่อนจบลงที่มันจูบไปทั่วดวงหน้าของฉันอย่างทะนุถนอม จบลงที่จูบเม้มปลายจมูกฉันเบาๆ แล้วกอดฉันไว้ พร้อม
ยืดที่เวลาลอยคอในน้ำแบบนี้ มันก็รั้งขึ้นสูง กระทั่งมือใหญ่นั้นไล้วนอยู่บนทรวงอก แม้จะมีชุดว่ายน้ำแบบทูพีชที่ซ่อนอยู่ข้างในอย่างมิดชิด แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงแรงสัมผัสจนใจสะท้าน วาบหวิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ไม่คิดจริงๆ ว่าตัวเองจะไวต่อสัมผัสของมันเร็วขนาดนี้“มึงชอบให้กูทำแบบนี้ ทำไมต้องปฏิเสธ” มันพูด ตอนนี้ก็บีบเค้น และปัดป่ายไปทั่วทรวงอก ฉันสั่นสะท้านกว่าเดิม“ตรี ขอร้องอย่าทำ ไม่ยังงั้นกูจะเป็นคนเหี้ยๆ คนหนึ่งที่นอกกายแฟนจริงๆ เพราะตอนนี้กูไม่ได้ถูกยาปลุกเซ็กซ์ที่ไหน ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ”“กูหยุดก็ได้ แต่คิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเหรอระหว่างเรา มึงควรบอกเลิกน้องริน ก่อนที่มันจะสายเกินไป”ฉันนิ่งกับคำพูดของมัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่คิด แต่ยอมรับว่าลังเล และยังอยากจะลองนอนกับน้องรินอีกครั้ง เพราะฉันไม่อยากให้เรื่องราวของตัวเองกับไอ้ตรีไปไกลกว่านี้“ถึงกูจะบอกเลิกน้องริน มึงกับกูก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”“เพื่อนที่สามารถนอนกันได้” มันต่อคำของฉันหน้าตาเฉย“มึงเห็นกูเป็นที่ระบายเซ็กซ์ของมึง ไม่ต่างจากกิ๊กของมึงใช่มั้ย”“การที่ได้นอนกับคนที่ผูกพัน มันต่างมาก กูไม่รู้จะอธ
“ตอนนั้นพ่อแม่กูเลิกกัน แม่ก็ไม่อยากให้กูพูดเรื่องพ่อ และตอนนั้นกูกับแม่ก็ไม่ได้รวยไง”“ตอนมึงไปเรียนลอนดอนก็ไม่ได้บอกนะ”“ก็...นั่นแหละ ตอนนั้นมึงกับกูก็แทบไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ ตอนนั้นมึงมีแฟนด้วยนี่ ใช่มั้ย มึงเองก็ไม่ได้สนใจกูเท่าไหร่”“เออ ก็ตอนนั้นเพิ่งเคยมีแฟนก็เลยเห่อหน่อย มึงคงไม่น้อยใจหรอกใช่มั้ย”“นิดหน่อย แต่ตอนนั้นชีวิตกูก็ยุ่งๆ กับการปรับตัวทั้งที่โรงเรียนและปรับตัวเพื่อจะอยู่กับไอ้โทแบบสงบสุข แถมต้องรับมือกับการหาเรื่องของไอ้แทนไท ซึ่งมันก็ดันเรียนที่นั่นเหมือนกัน ดีที่มีไอ้โทคอยจัดการมัน”“ฟังมึงพูดแล้ว ไอ้พี่มึงคนนี้เอาเรื่องเหมือนกันเนาะ เสียดายกูไม่ทันได้รู้จัก ก็ไปซะแล้ว หวังว่าคงไม่ลงนรกเหมือนไอ้ปากหมามันพูดนะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ที่กูรู้แน่ๆ ไอ้แทนไทน่ะ ตายไปมันได้ลงนรกแน่!”ประโยคสุดท้ายของไอ้ตรีทำฉันขนลุก เพราะน้ำเสียงเย็นยะเยือกของมันพอฉันมองมันอึ้งๆ มันก็หัวเราะ“ก็นิสัยแม่งเหี้ยแบบนั้น มึงคิดว่ามันจะได้ขึ้นสวรรค์เหรอ”“เออ ก็จริงของมึง ขนาดกูเจอมันครั้งแรก มันยังเหี้ยใส่ขนาดนี้ บอกตรง ถ้ากูเป็นมึง กูคงฆ่ามันไปแล้วแหละ ไหนจะมาแย่งพ่อ แล้วไหนจะมาเยาะเย้ยถ
ในนาทีนั้นเองฉันแกะมือไอ้ตรีออกข้อมือ แล้วหมุนตัวแล้วจระเข้ฟาดหางไปบนลำตัวไอ้ปากหมาให้ไปนอนบนพื้นทรายอีกรอบก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายจับข้อมือไอ้ตรี และยัยนุ่นเดินลิ่วไปจากตรงนั้นทันทีฉันยังไม่ปล่อยมือจากไอ้ตรี ตั้งใจจะพามันไปซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันสงสัย แต่ไอ้ปีกับไอ้พัทวิ่งตามหลังมา“เฮ้ย พวกมึงจะไปไหนเนี่ย ไม่เล่นน้ำกันหรือไง”“พอดีกูมีเรื่องจะคุยกับไอ้ตรีมัน พวกมึงไปเล่นก่อนเหอะ นุ่นด้วย ไปเล่นกับไอ้สองคนนี้ก่อนนะ” พูดจบฉันก็ลากแขนไอ้ตรีกลับไปยังบ้านพัก“ตกลงมึงกับไอ้ปากหมานั่นคือ...” พอมานั่งในห้องโถงบ้านพักฉันก็ตั้งคำถามที่พอจะเดาออกอยู่บ้าง แต่อยากฟังชัดๆ จากปากไอ้ตรี“มันคือลูกบุญธรรมของพ่อกูเอง”“ตกลงมันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อมึง”“ไม่ใช่ มันเป็นหลานของแม่เลี้ยงกู ที่เขารับมันเป็นลูกบุญธรรมน่ะ กับเมียใหม่ เขาไม่ได้มีลูกด้วยกันหรอก”“อือ...แบบนี้เอง แล้วเรื่องที่ไอ้นั่นพูด มันคืออะไร เร่ร่อนที่ลอนดอน แล้วแฝดคนละแม่คืออะไร ชื่อไรนะ โทเหรอ ลงนรกคือหมายความว่าไงอะ” ฉันจำคำพูดของไอ้ปากหมานั้นได้อย่างแม่นยำ“ตายไง ไอ้โท พี่ชายกูเอง”“เฮ้ย มึงไม่เคยบอกเลยนะว่ามีพี่ชาย และเป็นแฝดคนละแม่คื
ไม่กี่นาทีต่อมาฉันกับยัยนุ่นก็เดินลงมาหาด หาดกว้างก็จริง แต่ผู้คนก็เยอะมาก ไม่รู้พวกมันเดินไปถึงไหน หรือลงเล่นน้ำกันไปแล้ว ฉันกับยัยนุ่นจึงถ่ายรูปกันสองคนไปก่อน“มึงถอยหลังไปอีก ไม่ต้องถ่ายโฟกัสหน้ากู ถ่ายให้เห็นทั้งตัว และให้เห็นทะเลกว้างๆ”ยัยนุ่นบอก“อือ...” ฉันครางรับ แล้วถอยหลังตามที่ยัยนุ่นบอก กระทั่งฉันชนกับร่างใครบางคน“เชี่ย!” ได้ยินเสียงสบถอย่างอารมณ์เสีย ฉันจึงรีบหมุนตัวเพื่อจะขอโทษ เห็นหน้าผู้ชายตัวสูงกว่าฉันแค่นิดหน่อย หน้าตาดีแบบกลางๆ ที่สำคัญดูหัวเสียมาก“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ฉันลนลานขอโทษ คิดว่าจะโดนด่าหรืออะไรมากกว่านั้น แต่อีกฝ่ายมองกวาดร่างฉันอย่างสำรวจ จ้องขาที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นของฉันแล้วยิ้มออกมา“โอ๊ะ ไม่เป็นไรน้อง คนเราไม่ได้มีตาหลังนี่เนาะ ว่าแต่น้องชื่ออะไรครับ”“ขอบคุณนะคะที่ไม่โกรธ ฉันชื่อเก้าค่ะ” ฉันบอกไปตามตรง ไม่ได้ชอบสายตาของหมอนี่นักหรอก แต่เห็นว่าฉันผิดที่ไปชนเขาก่อน เลยไม่อยากแสดงท่าทีอะไรออกไปให้มาก“พักอยู่ที่ไหน”“เอ่อ แถวนี้แหละค่ะ”“บ้านพักของพี่ก็อยู่แถวนี้ บ้านหลังนั้นน่ะ ตึกสีขาวตรงนั้น เห็นมั้ย” เขาชี้มือไปยังบ้านพักเป็นตึกสีขาวทรงโมเด
Chapter 3: กลางทะเลรุ่งเช้าเราเช็กเอ๊าท์แบบเฉียดฉิว ก่อนเดินทางไปหัวหิน เพราะยังไม่ได้เวลาเช็กอิน เราจึงไปกินมื้อเที่ยงกันก่อน กินเสร็จก็ใกล้เวลาเช็กอินจึงเดินทางไปบ้านพักติดชายทะเล บรรยากาศดีมาก จนฉันกับนุ่นร้องกรี๊ดอย่างถูกใจ เพราะเราค้างคืนที่นี่สามคืน“ไอ้ตรีแม่งจองบ้านพักถูกใจมาก”“บ้านดี ติดทะเลขนาดนี้ คืนละสามพันโคตรถูกเลย” ฉันพึมพำขณะเดินชมบ้าน ที่ห้องนอนถึงสามห้อง“นั่นสิ อย่างต่ำมันน่าจะห้าพันเปล่าวะ” ยัยนุ่นพึมพำ ก่อนจะเอ่ยต่อ“ช่างเถอะ เราจ่ายเงินไอ้ตรีไปแล้วนี่ มันก็คงราคาแค่นั้นแหละ”“อือ...” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนเราสองคนจะได้เป็นคนเลือกห้องก่อน แน่นอนเลือกห้องที่วิวดี มองเห็นทะเลจากหน้าต่างข้างห้องพอเก็บเสื้อผ้าข้าวของส่วนตัวเรียบร้อย ยัยนุ่นก็หันมาทางฉัน มองตามันก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร“มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”“วันที่กินเลี้ยงวันนั้น” ฉันจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ยัยนุ่นฟังเรื่องที่อีหมวยมันวางยาปลุกเซ็กซ์ในแก้วเหล้าฉัน“เวรจริงๆ” ฟังจบยัยนุ่มก็พูดเหมือนไม่รู้อะไรมากกว่านั้น“แต่เมื่อคืนจูบกัน หมายความว่าไงวะ”“เอ่อ กูไม่รู้เหมือนกัน ไอ้ตรีมันบ้าว่ะ จู่ๆ ก







