LOGIN“มึงก็คิดดีๆ นะเก้า เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อน อย่าปล่อยให้มันสายเกินไป เพราะน้องรินรักมึงมากนะ ถ้ามึงไม่สามารถคบน้องได้แบบคู่รัก มึงก็ควรบอกน้องรินตรงๆ”
“ทำไมมึงดูห่วงน้องรินจัง” ฉันถามเพื่อนสนิทอย่างสงสัย
“น้องรินเคยปรึกษากูเรื่องมึง เพราะมึงแค่กอดจูบกับน้อง แต่ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นไง น้องคงสงสัยว่ามึงคิดยังไงกับเขากันแน่ แต่กูก็เชื่อนะว่ามึงรักน้องรินจริงๆ น้องเขาก็รู้สึกได้ แต่ถ้ามึงไม่ใช่มีรสนิยมทางเพศเดียวกันกับน้อง มันจะไม่ทำร้ายจิตใจน้องเขาเหรอวะ และมึงเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน ถึงมึงจะไม่เคยถึงขั้นนอนกัน แต่มึงต้องรู้นะว่าคนเป็นแฟนกัน คบกันนานๆ เรื่องเซ็กซ์มันก็ต้องมีเปล่าวะ ถ้ามึงไม่สามารถทำได้ น้องเขาก็สงสัยเป็นธรรมดา”
“เอ่อ กูรู้ เดี๋ยวกูจะลองดู” ฉันคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นไบฯ ที่สามารถรักได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่เรื่องการมีเซ็กซ์นั่น ฉันเริ่มไม่แน่ใจจริงๆ
“ลองนอนกับน้องรินน่ะนะ”
“อือ...” เพราะฉันเองก็อยากรู้ว่า หลังจากนอนกับไอ้ตรีแล้ว ฉันสามารถนอนกับน้องรินได้หรือไม่
“ผลเป็นไงบอกกูด้วย”
“ดูมึงอยากรู้มากเลยนะ” ฉันประชด ยัยนุ่นหัวเราะคิกคัก
จากนั้นเราก็คุยกันเรื่องอื่นๆ กระทั่งผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงโวยวาย หัวเราะ ก่นด่ากันมาจากด้านนอก แว่วๆ ว่ามีคนเล่นเกมแพ้
“โอ๊ย ไอ้พวกเวรเสียงดัง” ยัยนุ่นพึมพำงัวเงีย แล้วเปิดประตูโผล่หน้าออกไป
“พวกมึงเสียงดังเกิ๊น”
“เอ่อ มึงกับไอ้เก้าจะได้ตื่นไง นี่มันบ่ายสามครึ่งแล้วนะโว้ย ไปชายหาดกันเถอะ ถ้าใครจะเล่นน้ำก็เตรียมเสื้อผ้าไปด้วย เพราะจะนั่งชิลริมทะเลถึงค่ำเลยนะโว้ย” ไอ้ปีบอก
“เอ่อๆ” ยัยนุ่นปิดประตูห้อง
“แต่มึงกับไอ้เก้าไม่ต้องขนาดบิกินี่นะโว้ย กูขี้เกียจเป็นตากุ้งยิง” ไอ้ปีปากปีจอตะโกนไล่หลัง
“คนเยอะขนาดนี้ใครจะกล้าใส่บิกินี่วะ” ยัยนุ่นพึมพำ ขณะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบเล็กอีกชุด
“มึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว” มันหันมาบอกฉัน ที่ยังง่วงๆ แต่ก็ต้องจำใจลุก
ฉันกับยัยนุ่นใส่ขาสั้นกับเสื้อยืดธรรมดา แค่นี้ก็เล่นน้ำได้สบาย เดินเล่นชายหาดแบบไม่ต้องกลัวโป๊ แค่ใส่บิกินี่แทนชุดชั้นในเท่านั้นเอง
พอถึงไปชายหาดเราก็ได้โต๊ะที่ต้องการ ห่างจากโต๊ะอื่นๆ อยู่มาก เพราะเกิดเสียงดัง ทั้งจากร้องเพลงเล่นกีตาร์ หรือพูดคุย โวยวายกันตามประสาเพื่อนจะได้ไม่รบกวนคนอื่น
หลังจากได้โต๊ะฉันกับนุ่นและไอ้ตรีก็เดินไปดูอาหารสดจากทะเล เราต่างเลือกสิ่งที่อยากกิน ทั้งหอย ปู กุ้ง และยำไข่แมงดา และอาหารตามสั่งอื่นๆ
“เฮ้ยๆ ไอ้ตรี มึงเพลาบ้าง สั่งเยอะไปมั้ย” ฉันเบรกมันไว้ เพราะสั่งเยอะเกินลิมิต
“ไม่เป็นไร ถ้ามันเกินคนละสามร้อยบาท กูจ่ายเอง” มันบอก เหมือนลืมไปแล้วมั้งว่าตัวเองไม่มีเงินจ่ายค่าหอ ถึงต้องระเห็จไปขอพักอยู่กับฉัน
จากนั้นมันก็หันไปสั่งของกินต่อ เท่านั้นยังไม่พอ มันก็ข้ามถนนไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อของกินเล่น รวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆ ด้วย สรุปของกินเต็มโต๊ะ จนแทบไม่มีใครเล่นน้ำทะเล เพลิดเพลินกับการกินอย่างเดียวเลยทีนี้
“ไอ้เก้า มึงไปตั้งกล้องถ่ายรูปกลุ่มหน่อยสิ” ไอ้พัทบอก แน่นอนในแก๊งเรา ฉันเป็นคนที่ถ่ายรูปดีที่สุด
ฉันจึงหยิบโทรศัพท์มือถือที่เน้นถ่ายรูปสวยไปวางบนขาตั้งกล้อง จัดมุมที่จะถ่ายคนทั้งกลุ่มได้อย่างสวยๆ
ขณะจัดมุมอยู่นั้น ไอ้ปีปากปีจอก็เอ่ยขึ้น
“ขาไอ้เก้ายาวไปถึงสุไหงโกลกเลยมั้งเนี่ย ส่วนขายัยนุ่นยาวนั้น...”
“แดกนี่เลยมึง” ไอ้ปียังพูดไม่จบประโยค ยัยนุ่นก็ยัดกุ้งเผาที่เพิ่งแกะเสร็จเข้าปากของมัน
เรื่องขาสั้นขายาวของฉันกับยัยนุ่น ไอ้ปีมันล้อทุกครั้งที่เห็นฉันกับยัยนุ่นใส่กางเกงขาสั้น
ฉันจึงไม่ได้สนใจคำพูดของมันมากนัก แต่รู้สึกแปลกๆ ยามที่ไอ้ตรีชำเลืองมองขาฉันแล้วมันยิ้มน้อยๆ ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่ แต่ฉันดันเห็นภาพตัวเองในคืนนั้น ยามที่ฉันสองขารัดสะโพกของมันไว้แน่นตอนที่มันขยับสะโพกเข้าหาร่างฉันเป็นจังหวะ จังหวะที่ไม่ต่างจากคลื่นกระทบฝั่งในตอนนี้
“ยืนเหม่ออยู่นั่นแหละ จะได้ถ่ายรูปกันมั้ย” เสียงไอ้พัทดังขึ้น กระชากฉันออกจากมาจากภาพในคืนนั้น
“เออ ได้ถ่ายแน่” เมื่อได้มุมที่สามารถถ่ายได้ครบแก๊ง ฉันก็ตั้งเวลาถ่ายไว้ จากนั้นฉันก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง
ไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเราก็ส่งยิ้มและส่งเสียงเฮ เพื่อจะได้ภาพที่บ่งบอกว่าวันนี้พวกเราได้ใช้เวลาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเติบโตในเส้นทางของตัวเอง
กิน ดื่ม พูดคุย ทะเลาะ และร้องรำทำเพลงไปตามเรื่อง กระทั่งถึงตอนที่ไอ้ตรีเล่นกีตาร์
สาวๆ ที่เพิ่งมานั่งโต๊ะข้างๆ มองมันพร้อมกระซิบกระซาบ แถมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปมันอีก
“โห ไอ้ตรี มึงนี่ไปที่ไหนก็กลายเป็นจุดเด่นตลอด แถมยังมาถอดเสื้อโชว์รอยสักรูปพี่สิงห์และซิกแพ็กอีก” ไอ้ปีบ่นอย่างไม่จริงจังนัก
“มึงนี่นะ ถึงไม่อยากเป็นดารา แต่ก็เหมือนดารา ไปที่ไหนก็เรียกสายตาสาวๆ ได้ตลอด”
ไอ้ปียังไม่หยุดบ่น ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง ที่ไอ้ตรีมันเป็นคนดึงดูดสายตาของผู้หญิงหรือคนทั่วไปได้ดี เพราะหน้าตา บุคลิกที่โดดเด่นของมัน แต่มันก็เป็นคนแปลก พอมีคนชวนเข้าวงการมันกลับปฏิเสธ ด้วยเหตุผลอยากเป็นคนธรรมดา ไม่ได้อยากเป็นจุดสนใจของใคร
:::::::::::::::::::::::
เวลารัดสะโพกกูจะเป็นยังไง แต่คืนนั้นมึงทำให้ความฝันกูเป็นจริง”“แต่วันนั้นมึงร้องไห้นะ”“กูสารภาพ ร้องไห้เพราะดีใจว่ะ”“ไอ้ตอแหล” ฉันตีไหล่มันเต็มแรง“ที่ผ่านมามึงหวังฟันกูตลอดเลยใช่มั้ย”“เออ”“ไอ้เพื่อนเหี้ย” ถึงจะด่ามันแบบนั้น แต่ฉันก็รู้สึกไม่ได้โกรธมันจริงจัง อาจเพราะมันพูดความจริง ซึ่งมันดีกว่าการโกหกอยู่แล้ว“แต่กูไม่ได้มีนมใหญ่อย่างกิ๊กมึงนะ หุ่นกูก็ผอมแห้งขนาดนี้”“แต่หอยมึงอวบ กูชอบ”“ไอ้เวร” ฉันตีมันอีกครั้ง และมันก็หัวเราะเสียงดัง“ต่อให้มึงนมเล็กยิ่งกว่านี้ และหอยมึงไม่อวบ กูก็ชอบ กูชอบทุกอย่างที่เป็นมึงนั่นแหละ” น้ำเสียงมันจริงจัง และแววตาก็อ่อนโยนลึกซึ้งจนฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าจะรักมันแบบเพื่อนต่อไปได้หรือเปล่า“มึงรักกูเหรอ” จู่ๆ ฉันก็ถามมันออกไปตรงๆ“ก็แน่นอนกูรักอยู่แล้ว แต่อย่าถามว่าแบบไหน เพราะกูรักมึงทุกแบบ”ฉันคงหวั่นไหวแล้วจริงๆ เพราะจู่ๆ ฉันก็อยากจูบมันอีกครั้ง และฉันก็ทำตามที่คิดอย่างว่องไว มันจูบตอบ เป็นจูบที่ต่างจากเมื่อครู่ เพราะเป็นจูบที่อ่อนโยน ดูดดื่ม ลึกซึ่ง ก่อนจบลงที่มันจูบไปทั่วดวงหน้าของฉันอย่างทะนุถนอม จบลงที่จูบเม้มปลายจมูกฉันเบาๆ แล้วกอดฉันไว้ พร้อม
ยืดที่เวลาลอยคอในน้ำแบบนี้ มันก็รั้งขึ้นสูง กระทั่งมือใหญ่นั้นไล้วนอยู่บนทรวงอก แม้จะมีชุดว่ายน้ำแบบทูพีชที่ซ่อนอยู่ข้างในอย่างมิดชิด แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงแรงสัมผัสจนใจสะท้าน วาบหวิวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ไม่คิดจริงๆ ว่าตัวเองจะไวต่อสัมผัสของมันเร็วขนาดนี้“มึงชอบให้กูทำแบบนี้ ทำไมต้องปฏิเสธ” มันพูด ตอนนี้ก็บีบเค้น และปัดป่ายไปทั่วทรวงอก ฉันสั่นสะท้านกว่าเดิม“ตรี ขอร้องอย่าทำ ไม่ยังงั้นกูจะเป็นคนเหี้ยๆ คนหนึ่งที่นอกกายแฟนจริงๆ เพราะตอนนี้กูไม่ได้ถูกยาปลุกเซ็กซ์ที่ไหน ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ”“กูหยุดก็ได้ แต่คิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกเหรอระหว่างเรา มึงควรบอกเลิกน้องริน ก่อนที่มันจะสายเกินไป”ฉันนิ่งกับคำพูดของมัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่คิด แต่ยอมรับว่าลังเล และยังอยากจะลองนอนกับน้องรินอีกครั้ง เพราะฉันไม่อยากให้เรื่องราวของตัวเองกับไอ้ตรีไปไกลกว่านี้“ถึงกูจะบอกเลิกน้องริน มึงกับกูก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”“เพื่อนที่สามารถนอนกันได้” มันต่อคำของฉันหน้าตาเฉย“มึงเห็นกูเป็นที่ระบายเซ็กซ์ของมึง ไม่ต่างจากกิ๊กของมึงใช่มั้ย”“การที่ได้นอนกับคนที่ผูกพัน มันต่างมาก กูไม่รู้จะอธ
“ตอนนั้นพ่อแม่กูเลิกกัน แม่ก็ไม่อยากให้กูพูดเรื่องพ่อ และตอนนั้นกูกับแม่ก็ไม่ได้รวยไง”“ตอนมึงไปเรียนลอนดอนก็ไม่ได้บอกนะ”“ก็...นั่นแหละ ตอนนั้นมึงกับกูก็แทบไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ ตอนนั้นมึงมีแฟนด้วยนี่ ใช่มั้ย มึงเองก็ไม่ได้สนใจกูเท่าไหร่”“เออ ก็ตอนนั้นเพิ่งเคยมีแฟนก็เลยเห่อหน่อย มึงคงไม่น้อยใจหรอกใช่มั้ย”“นิดหน่อย แต่ตอนนั้นชีวิตกูก็ยุ่งๆ กับการปรับตัวทั้งที่โรงเรียนและปรับตัวเพื่อจะอยู่กับไอ้โทแบบสงบสุข แถมต้องรับมือกับการหาเรื่องของไอ้แทนไท ซึ่งมันก็ดันเรียนที่นั่นเหมือนกัน ดีที่มีไอ้โทคอยจัดการมัน”“ฟังมึงพูดแล้ว ไอ้พี่มึงคนนี้เอาเรื่องเหมือนกันเนาะ เสียดายกูไม่ทันได้รู้จัก ก็ไปซะแล้ว หวังว่าคงไม่ลงนรกเหมือนไอ้ปากหมามันพูดนะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ที่กูรู้แน่ๆ ไอ้แทนไทน่ะ ตายไปมันได้ลงนรกแน่!”ประโยคสุดท้ายของไอ้ตรีทำฉันขนลุก เพราะน้ำเสียงเย็นยะเยือกของมันพอฉันมองมันอึ้งๆ มันก็หัวเราะ“ก็นิสัยแม่งเหี้ยแบบนั้น มึงคิดว่ามันจะได้ขึ้นสวรรค์เหรอ”“เออ ก็จริงของมึง ขนาดกูเจอมันครั้งแรก มันยังเหี้ยใส่ขนาดนี้ บอกตรง ถ้ากูเป็นมึง กูคงฆ่ามันไปแล้วแหละ ไหนจะมาแย่งพ่อ แล้วไหนจะมาเยาะเย้ยถ
ในนาทีนั้นเองฉันแกะมือไอ้ตรีออกข้อมือ แล้วหมุนตัวแล้วจระเข้ฟาดหางไปบนลำตัวไอ้ปากหมาให้ไปนอนบนพื้นทรายอีกรอบก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายจับข้อมือไอ้ตรี และยัยนุ่นเดินลิ่วไปจากตรงนั้นทันทีฉันยังไม่ปล่อยมือจากไอ้ตรี ตั้งใจจะพามันไปซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันสงสัย แต่ไอ้ปีกับไอ้พัทวิ่งตามหลังมา“เฮ้ย พวกมึงจะไปไหนเนี่ย ไม่เล่นน้ำกันหรือไง”“พอดีกูมีเรื่องจะคุยกับไอ้ตรีมัน พวกมึงไปเล่นก่อนเหอะ นุ่นด้วย ไปเล่นกับไอ้สองคนนี้ก่อนนะ” พูดจบฉันก็ลากแขนไอ้ตรีกลับไปยังบ้านพัก“ตกลงมึงกับไอ้ปากหมานั่นคือ...” พอมานั่งในห้องโถงบ้านพักฉันก็ตั้งคำถามที่พอจะเดาออกอยู่บ้าง แต่อยากฟังชัดๆ จากปากไอ้ตรี“มันคือลูกบุญธรรมของพ่อกูเอง”“ตกลงมันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อมึง”“ไม่ใช่ มันเป็นหลานของแม่เลี้ยงกู ที่เขารับมันเป็นลูกบุญธรรมน่ะ กับเมียใหม่ เขาไม่ได้มีลูกด้วยกันหรอก”“อือ...แบบนี้เอง แล้วเรื่องที่ไอ้นั่นพูด มันคืออะไร เร่ร่อนที่ลอนดอน แล้วแฝดคนละแม่คืออะไร ชื่อไรนะ โทเหรอ ลงนรกคือหมายความว่าไงอะ” ฉันจำคำพูดของไอ้ปากหมานั้นได้อย่างแม่นยำ“ตายไง ไอ้โท พี่ชายกูเอง”“เฮ้ย มึงไม่เคยบอกเลยนะว่ามีพี่ชาย และเป็นแฝดคนละแม่คื
ไม่กี่นาทีต่อมาฉันกับยัยนุ่นก็เดินลงมาหาด หาดกว้างก็จริง แต่ผู้คนก็เยอะมาก ไม่รู้พวกมันเดินไปถึงไหน หรือลงเล่นน้ำกันไปแล้ว ฉันกับยัยนุ่นจึงถ่ายรูปกันสองคนไปก่อน“มึงถอยหลังไปอีก ไม่ต้องถ่ายโฟกัสหน้ากู ถ่ายให้เห็นทั้งตัว และให้เห็นทะเลกว้างๆ”ยัยนุ่นบอก“อือ...” ฉันครางรับ แล้วถอยหลังตามที่ยัยนุ่นบอก กระทั่งฉันชนกับร่างใครบางคน“เชี่ย!” ได้ยินเสียงสบถอย่างอารมณ์เสีย ฉันจึงรีบหมุนตัวเพื่อจะขอโทษ เห็นหน้าผู้ชายตัวสูงกว่าฉันแค่นิดหน่อย หน้าตาดีแบบกลางๆ ที่สำคัญดูหัวเสียมาก“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ฉันลนลานขอโทษ คิดว่าจะโดนด่าหรืออะไรมากกว่านั้น แต่อีกฝ่ายมองกวาดร่างฉันอย่างสำรวจ จ้องขาที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นของฉันแล้วยิ้มออกมา“โอ๊ะ ไม่เป็นไรน้อง คนเราไม่ได้มีตาหลังนี่เนาะ ว่าแต่น้องชื่ออะไรครับ”“ขอบคุณนะคะที่ไม่โกรธ ฉันชื่อเก้าค่ะ” ฉันบอกไปตามตรง ไม่ได้ชอบสายตาของหมอนี่นักหรอก แต่เห็นว่าฉันผิดที่ไปชนเขาก่อน เลยไม่อยากแสดงท่าทีอะไรออกไปให้มาก“พักอยู่ที่ไหน”“เอ่อ แถวนี้แหละค่ะ”“บ้านพักของพี่ก็อยู่แถวนี้ บ้านหลังนั้นน่ะ ตึกสีขาวตรงนั้น เห็นมั้ย” เขาชี้มือไปยังบ้านพักเป็นตึกสีขาวทรงโมเด
Chapter 3: กลางทะเลรุ่งเช้าเราเช็กเอ๊าท์แบบเฉียดฉิว ก่อนเดินทางไปหัวหิน เพราะยังไม่ได้เวลาเช็กอิน เราจึงไปกินมื้อเที่ยงกันก่อน กินเสร็จก็ใกล้เวลาเช็กอินจึงเดินทางไปบ้านพักติดชายทะเล บรรยากาศดีมาก จนฉันกับนุ่นร้องกรี๊ดอย่างถูกใจ เพราะเราค้างคืนที่นี่สามคืน“ไอ้ตรีแม่งจองบ้านพักถูกใจมาก”“บ้านดี ติดทะเลขนาดนี้ คืนละสามพันโคตรถูกเลย” ฉันพึมพำขณะเดินชมบ้าน ที่ห้องนอนถึงสามห้อง“นั่นสิ อย่างต่ำมันน่าจะห้าพันเปล่าวะ” ยัยนุ่นพึมพำ ก่อนจะเอ่ยต่อ“ช่างเถอะ เราจ่ายเงินไอ้ตรีไปแล้วนี่ มันก็คงราคาแค่นั้นแหละ”“อือ...” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนเราสองคนจะได้เป็นคนเลือกห้องก่อน แน่นอนเลือกห้องที่วิวดี มองเห็นทะเลจากหน้าต่างข้างห้องพอเก็บเสื้อผ้าข้าวของส่วนตัวเรียบร้อย ยัยนุ่นก็หันมาทางฉัน มองตามันก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร“มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”“วันที่กินเลี้ยงวันนั้น” ฉันจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ยัยนุ่นฟังเรื่องที่อีหมวยมันวางยาปลุกเซ็กซ์ในแก้วเหล้าฉัน“เวรจริงๆ” ฟังจบยัยนุ่มก็พูดเหมือนไม่รู้อะไรมากกว่านั้น“แต่เมื่อคืนจูบกัน หมายความว่าไงวะ”“เอ่อ กูไม่รู้เหมือนกัน ไอ้ตรีมันบ้าว่ะ จู่ๆ ก







