แชร์

บทที่ 4 ข้ามไม่ไหว

ผู้เขียน: เธียรนรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-10 11:23:08

            ผมยังรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกับว่าเมื่อกี้

ผมโดนดูดวิญญาณไปด้วยรสจูบอย่างนั้นแหละ เสาร์อาทิตย์นี้ผมไม่เป็นอันทำอะไรเอาแต่นั่งนิ่งอยู่ในห้องนอนของตัวเองจนพ่อกับแม่ต้องมาเรียกลงไปกินข้าว

             “เป็นอะไรหรือเปล่าช่วงนี้จิตใจเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว” พ่อเอ่ยถามผมขณะที่ผมตักข้าวต้มเข้าปากพลางสายตายังคงเลื่อนลอยมองไปข้างหน้าอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย

             “ต้น”

             “ครับแม่” เสียงของแม่ปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์จนต้องหันไปมองท่านทั้งสองที่จับจ้องมาทางผมด้วยสีหน้าแปลกใจ

             “ช่วงนี้เรียนหนักเหรอลูก” ผมส่ายหน้าระรัว

             “เรียนมหา’ลัยแล้วนะ จะมาเรียนไปเล่นไปเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วนะลูก” แม่เอ่ยเตือน ผมเลยทำเพียงแค่พยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต้มอยู่เงียบ ๆ แล้วเอาจานไปล้างให้สะอาด ผมแอบชำเลืองมองพ่อกับแม่ที่นั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันบนโซฟาก่อนตัวเองจะเดินไปที่บันไดเพื่อที่จะเดินขึ้นห้อง

             ก่อนทางขึ้นบันไดผมก็หยุดนิ่งแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองรูปบนหิ้งนั้นด้วยดวงตาที่หมองหม่น รูปหน้าศพของยายตั้งข้างกับโกฐเก็บอัฐิยังคงทำให้ผมหวนนึกถึงยายอยู่เสมอ

             ยายเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน ก่อนที่ผมจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยและเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมไม่อยากที่จะเรียนหมอ เพราะขนาดพ่อผมเป็นหมอแท้ ๆ แม่ผมก็เป็นพยาบาล แต่พวกท่านก็อุทิศชีวิตให้กับคนไข้หมดแล้วจนมีแต่ผมและยายที่ต้องอยู่กันตามลำพังตอนที่ยายป่วยจนยายตายก็มีแค่ผมที่ดูแลท่าน

             บาดแผลที่ฝังลึกนี้ ยากจะสลัดออกไปจริง ๆ

             ผมเดินขึ้นไปบนห้องแล้วเอาแต่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงนอน มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นมาประทับริมฝีปากของตัวเองแล้วนึกถึงสัมผัสของใครบางคนจนทำเอาผมแทบจะอยากลงไปชักดิ้นชักงอบนเตียง

              ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย ผมควรจะผลักไอ้กรออกไปด้วยซ้ำ ไม่ใช่ยอมให้มันจูบแล้วดันมารู้สึกดีอีกต่างหาก

              ...

              และแล้วก็เป็นวันที่ผมต้องมาเผชิญหน้ากลับไอ้กรอีกครั้งหลังจากคืนนั้น ผิดคาด มันทำเหมือนคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยจนผมได้แต่แปลกใจเล็กน้อย

              “เออมึงคืนนั้นกูเมามากเลย แล้วมึงกลับบ้านยังไงวะ” มันเอ่ยถามขึ้นขณะที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมในห้องเรียน

              “ก็มีแต่กูนี่แหละครับขับรถไปส่งพวกมึงทุกตัวเนี่ย เมาแอ๋กันหมดดีที่ไอ้ต้นกับไอ้คิณมันมีสติอยู่” ไอ้มิลบ่นเสียงดังลั่นระหว่างที่รออาจารย์มา ธิดาแทบจะสำนักไม่ทันแล้วหันไปขอบคุณเพื่อนสุดที่รักด้วยความซาบซึ้งใจ

             “ขอบคุณที่ปากมึงแตะหญิงก่อนแตะเหล้านะเพื่อน กูถึงได้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ” ผมที่ฟังอยู่เงียบ ๆ พอพูดถึงเรื่องปากผมก็อดไม่ได้ที่ต้องมาคิดถึงเรื่องนั้นทุกที

             “กูไม่ได้ทำอะไรแปลก ๆ ไปใช่ปะ กูจำไม่ได้เลย” ไอ้กรยกมือขึ้นมากุมขมับตัวเองพลางทำหน้าครุ่นคิด อีกใจหนึ่งผมก็รู้สึกดีใจที่มันลืม ๆ ไปเรื่องที่มันจูบผมไปซะ ถึงแม้จะอีกใจหนึ่งจะรู้สึกเสียดายก็ตาม

             “มึงลากไอ้ต้นไปเต้นไง” ไอ้คิณว่า

             “จริงดิ แล้วไอ้ต้นเต้นปะ กูอดเห็นสกิลเท้าไฟของไอ้ต้นเลยอะ” ธิดาแสดงสีหน้าเขินอาย

             “กูทำงั้นจริงเหรอวะต้น” ผมพยักหน้ารับ ถ้ามันจำไม่ได้แม้แต่ตอนที่ลากผมไปเต้นก็แสดงว่ามันจำเรื่องที่เราจูบกันไม่ได้ด้วยซ้ำ ก็ดีเหมือนกัน ถ้าเกิดว่ามันจำได้จะกลายเป็นว่าอึดอัดใจกันทั้งคู่ไปเปล่า ๆ “โธ่ กูขอโทษนะไอ้เพื่อนรัก”

             คำว่าเพื่อนรักเข้ามาฝังอยู่ในสมองของผมดังจึก แถมยังเหมือนมีเข็มด้ามเล็ก ๆ มาจิ้มที่หัวใจจนคันยุบยิบชอบกล

             “เออ อย่าเมาอีกนะมึงอะ”

             นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมรู้ว่าตัวเองนั้นคิดไม่ซื่อกับเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างไอ้ภากร ที่แม่งไม่มีอะไรน่าพิศวาสเลยสักนิด ผมทำเหมือนเรื่องคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเก็บความรู้สึกนี้ไว้

กับตัวเองมานานเพราะกลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้วทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมเพราะผมชอบที่มีมันอยู่แบบนี้มากกว่า

            นี่ก็ผ่านมาเป็นเวลากว่าสามปีแล้ว ผมเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ และยังสนิทกับเพื่อนกลุ่มนี้เหมือนเดิม กับไอ้กรก็เหมือนกัน หรือจะเรียกได้ว่าสนิทกว่าเดิมด้วยซ้ำไป

            เพราะจากเพื่อนเฉย ๆ ก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทโดยที่

ไม่รู้ตัว แถมกำแพงของคำว่าเพื่อนสนิทแม่งสูงเกินกว่าที่ผมจะข้ามไปด้วย ระหว่างที่ผมต้องจำใจอยู่เป็นเพื่อนสนิทของมันมาสามปี ผมก็พยายามที่จะตัดใจในทุกวันแต่ก็มุกเดิม ๆ พอมันเข้ามาใกล้ทีไรจิตใจผมมันก็เตลิดไปหมด

            แค่มันมาทำดีด้วย ผมก็ยอมกลับไปอยู่ที่เดิม

           มีช่วงหนึ่งที่มีรุ่นน้องมาจีบมันจนมันมันเริ่มห่างหายไปจากกลุ่มเพื่อน จะเรียกได้ว่านั่นเป็นช่วงแสนสาหัสมากสำหรับผม แต่เพียงไม่ถึงเดือนมันก็กลับมาเหมือนเดิมแล้วบอกว่าน้องยังไม่ใช่สำหรับมัน

            สุดท้ายผมก็กลับมาดี๊ด๊าเหมือนเดิมเพราะไอ้กรก็ทำตัวติดผมเหมือนก่อนหน้านี้ที่มันไม่มีแฟน จะเรียกว่ายังไงดีนะ ผมเหมือนคนไม่ดีเลยที่ดีใจกับการเลิกราของคนอื่นแต่ช่วยไม่ได้

            ผมรู้สึกไปแล้วนี่

            “เอาน้ำอะไรวะ” ผมเดินเข้ามาหาไอ้คิณที่กำลังสั่งน้ำสองแก้ว แก้วหนึ่งสำหรับมันส่วนอีกแก้วของธิดา

            “กูถามอะไรหน่อยดิ” ผมตัดสินใจเอ่ยถามอีกคนระหว่างที่รอคิวอยู่ “มึงสนิทกับธิดามาตั้งนาน มึงไม่รู้สึกอะไรกับมันเลยเหรอ”

            หัวคิ้วมันกระตุกแล้วหันกลับมามองผมอย่างช้า ๆ “ถามแบบนี้มึงชอบธิดาเหรอ ไม่ได้เว้ยมันเป็นของพี่ชายกู”

            “ไม่ใช่ กูแค่อยากรู้อะว่าพวกมึงเป็นผู้ชายผู้หญิงที่ตัวติดกันขนาดนั้นไม่หวั่นไหวบ้างเหรอวะ” ขนาดมันกับไอ้กรเป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ ผมยังหวั่นไหวกับมันตั้งแต่วันแรกที่เจอเลย

            “เอาตรงปะ กูไม่เคยมองธิดาในฐานะของผู้หญิงคนหนึ่ง กูมองว่ามันคือเพื่อน เหมือนที่มึงมองธิดามองกูอย่างนี้แหละ” มันพูดออกมาอย่างราบเรียบเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจอะไรก่อนจะ

รับแก้วน้ำมาจากแม่ค้าแล้วจ่ายเงิน “อีกอย่างนะ กูชอบรุ่นน้องคนหนึ่งอยู่อะ กูให้เขาทั้งใจแล้วไม่มีที่ว่างให้คนอื่นหรอก”

            มันยักคิ้วให้ผมพลางเดินยิ้มไปอย่างกับคนบ้า ผมได้แต่มองตามแล้วกะพริบตาปริบ ๆ เพื่อนกูแต่ละคนก็นะ เฮ้อ

            “แว่น เอาอะไรไหมลูก”

            “เอาโคล่าครับป้า” ผมยืนเหม่อมองป้าเทน้ำใส่ในแก้วก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ผมละไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ ทั้งที่ผมก็อุตส่าห์บอกตัวเองตั้งหลายครั้งแล้ว ว่าผมกับมันเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ใจมันก็แย้งมาตลอดว่าเพื่อนอะไรจูบกัน ขับรถไปรับไปส่ง กินข้าวด้วยกันทุกสามมื้อ นอนกอดกัน เหลืออยู่อย่างเดียวคือเอากันแล้ว

            “เอาโคล่าอีกแก้วครับป้า ผมจ่ายสองแก้วเลย” ยังไม่ทันได้สลัดความคิดบ้า ๆ ออกจากหัวไอ้กรก็เดินมายืนขนาบข้างพลางยื่นเงินไปให้ป้าแม่ค้าก่อนจะยืนล้วงกระเป๋าหันมามองผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

            “มึงมาจ่ายให้กูทำไมเนี่ย” ทำแบบนี้กูหวั่นไหวนะไอ้เหี้ย

            “แค่มึงคนเดียวกูเลี้ยงได้น่า” มันพูดอย่างมาใส่ใจนัก แต่หัวใจผมวิ่งเตลิดออกไปจากร่างที่ยืนตัวแข็งทื่ออย่างกับไร้วิญญาณก่อนที่ผมจะเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง

            “เป็นไรกับกูฮะ ไปเลี้ยงเด็กมึงนู่น” ผมรับแก้วจากป้าแม่ค้ามาดูดแล้วเดินออกไป มันรีบคว้าแก้วแล้วเดินตามมาโอบไหล่ผมตามเดิม

            “มึงยังไม่หายโกรธกูอีกเหรอ กูแค่หายไปส่งแพรที่บ้านจนไม่ได้ไปรับไปส่งมึงแค่สองสัปดาห์เอง” มันว่าเหมือนจะสำนึกผิดก่อนจะเอนศีรษะมาซบกับผมแล้วเบะปากงอแงเหมือนเด็ก

นี่เป็นนิสัยที่ผมรำคาญที่สุดในโลกแต่ทำไงได้เพราะมันเป็นกรไงผมถึงได้รู้สึกว่ามันน่าเอ็นดู

            “กูไม่ได้โกรธเว้ย”

           “เนี่ยมึงโกรธกูชัด ๆ เลย” ผมรีบดันตัวมันให้ออกห่าง

           “พี่คะ” เราสองคนหันไปตามเสียงเรียกของหญิงสาว เธอมองมาที่ผมก่อนจะหลบสายตาราวกับเขินอาย ผมไม่ค่อยคุ้นหน้าเธอเท่าไรจากที่เห็นเธอเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ผมยาวตรงสีน้ำตาล ดวงตากลมโตฉายแววไร้เดียงสา

           “ครับ?” ผมตอบรับด้วยความสงสัย

           “คือว่าหนูชื่อดารันนะคะ หนู... ขอเบอร์พี่ได้ไหมคะ” ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจพลางเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้กรที่ปล่อยมือออกจากไหล่ของผมแล้วสะกิดให้ผมไปกดเบอร์ให้น้องเขาด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม

           “เอ่อ ได้ครับ” ผมรับโทรศัพท์มือถือมาจากสาวรุ่นน้องก่อนจะกดเบอร์ตัวเองแล้วส่งให้ไป หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่พระเจ้าส่งมาให้เพื่อให้ผมตัดใจจากไอ้กรเพื่อเริ่มต้นใหม่สักทีวะ

           “ขอบคุณนะคะพี่ต้น” เธอดูมีท่าทีดีใจเอามาก ๆ แต่ก็ถูกบังไว้ด้วยความเขินอาย

           “รู้จักชื่อพี่ด้วยเหรอ” ผมเอ่ยถามหญิงสาว รู้สึกอึ้งนิดหน่อยที่มีคนรู้จักผมด้วยโดยเฉพาะคนที่มาจากต่างคณะด้วยแล้ว ไม่น่าจะรู้จักกันได้เลย

           “ถ้าเขาไม่รู้จักมึงเขาจะมาขอเบอร์ไหม ต้นคิดต้องหัดคิดได้แล้วนะครับ” ไอ้กรกระซิบที่ข้างหูของผมเป็นการแซวก่อนจะหันไปยิ้มให้รุ่นน้องสาวจนตาหยี “เพื่อนพี่มันซื่อบื้อหน่อยนะครับน้องดารัน”

           “ไม่เป็นไรค่ะ น่ารักดี หนูขอตัวก่อนนะคะ” เธอว่าก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ผมยังยืนอึ้งอยู่จนไอ้กรกลับเข้ามาโอบไหล่ผมเหมือนเคยแล้วออกแรงดันให้ผมเดินกลับมายังโต๊ะที่มีกลุ่มเพื่อนนั่งกินข้าวกันอยู่

          “หายไปไหนนานจังวะ” มิลเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผมออก ไปซื้อน้ำหลังไอ้คิณแป๊บเดียวแต่ไอ้คิณมาถึงโต๊ะแล้วแต่ผมเพิ่งจะมาพร้อมกับไอ้กร

          “กูให้พวกมึงทายว่าเมื่อกี้กูไปเจออะไรมา” กรว่าด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นยิ่งกว่าผมเสียอีก

          “อะไรวะ” ธิดาเอ่ยถาม ความอยากรู้อยากเห็นที่เข้ากับไอ้กรมาที่สุดเห็นจะมีใครไม่ได้นอกจากธิดาเนี่ยแหละ

         “มีรุ่นน้องมาจีบไอ้ต้นเว้ย น่ารักด้วยนะมึง” ทั้งกลุ่มต่างพากันร้องแซวด้วยความตื่นเต้นแล้วผมก็ตกเป็นหัวข้อสนทนาของกลุ่มในทันทีทั้งที่ผมเองยังไม่รู้เลยว่าน้องเขาจะมาจีบผม จริง ๆ หรือแค่มีธุระอะไรหรือเปล่ากันแน่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพื่อนสนิทผมคลั่งรัก   ตอนพิเศษที่ 2 แค่มีมึงทุกที่ ก็คือบ้าน

    “เป็นไงบ้าง” ไอ้กรเดินเข้ามาถามผมหลังจากที่ผมเดินออกมาจากบริษัทหนึ่งหลังจากที่เขานัดมาสัมภาษณ์งานในตำแหน่งผู้จัดการ ผมช้อนสายตามองมันก่อนจะถอนลมหายใจออกมายังไม่ทันได้พูดอะไรไอ้กรก็พูดแทรกขึ้นก่อน “ถ้าเขาไม่รับหรือพูดจาไม่ดีมึงก็ไม่ต้องทนนะคนอย่างมึงไม่จำเป็นต้องของานใครทำด้วยซ้ำขอเงินกูก็พอแต่ถ้าอยากทำงานมาทำงานกับกูก็ได้” “กร ใจเย็น” ผมรีบยกมือห้าม “กูอยากทำงานที่บริษัทนี้มากมึงก็รู้” ผมบอกกรหลายครั้งแล้วว่าผมอยากทำงานที่นี่เพราะเป็นเกี่ยวกับบริษัทวิจัยเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งผมก็สนใจเอามาก ๆ เพราะถือว่าเป็นงานที่มีน้อยมากและเป็นรายใหญ่ในประเทศ หลังจากที่เรียนจบมาผมเลยรีบร่อนใบสมัครมาในทันที “กูรู้ แต่ถ้าเขาไม่อยากร่วมงานกับเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องร่วมงานกับเขา” “แล้วใครเขาไม่อยากร่วมงานกับกู” ผมเลิกคิ้วมองแฟนหนุ่มที่แสดงสีหน้ากังวลออกมา กรขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย “สรุปคือมึงได้งาน” “เออดิ” “...” มันอึ้งจนแทบพูดไม่ออกไม่แสดงสีหน้าอะไรนอกจากอ้าปากค้าง “ไม่ดีใจกับกูหน่อยเ

  • เพื่อนสนิทผมคลั่งรัก   ตอนพิเศษที่ 1 ดาวห้าแฉก รวมตัว

    “ขับรถเล่น ค่ำไหนนอนนั่นสามวันสองคืน” มิลทวนประโยคหลังจากที่ธิดามาเล่าไอเดียบรรเจิดให้พวกเราฟังว่าอยากให้พวกเราพากันขับรถเล่นไปเรื่อย ๆ เที่ยวแถวชายหาด นอนดูดาวหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน “ต้อนรับต้นกลับมาไง พวกมึงไม่ดีใจกันเหรอ” ธิดาว่า “ไปกันแค่พวกเราห้าคนไง” “มึงแน่ใจนะว่าแฟนมึงจะไม่ว่า” ผมเอ่ยถามเพราะต่อให้พี่คุณแฟนธิดาจะสนิทกับพวกเรามากก็จริงแต่การที่แฟนจะไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนผู้ชายทั้งกลุ่มไม่รู้ว่าจะเหมาะสมหรือเปล่า” “สามีจ้ะ แต่งแล้วเรียกสามีได้เนอะ” เพื่อนสาวชูโชว์นิ้วนางข้างซ้ายที่มีแหวนเพชรสะท้อนแสงเข้าตาจนต้องหรี่ตามอง “พี่คุณไม่ว่าอะไรหรอกมีกูไปด้วยแถมให้เงินค่าเปิดโรงแรมมาอีก” คิณอธิบาย “ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ ต้นไปอยู่ต่างประเทศนานให้มาเที่ยวเมืองไทยบ้างก็ดีเหมือน กันมึงว่าปะ” กรหันมาถามความคิดเห็นจากผม ซึ่งถ้าจะให้ผมตอบผมก็คงจะยินดีที่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ แต่ว่าช่วงนี้ผมค่อนข้างจะสับสนกับเวลาหลังจากที่ไปอยู่คนละไทม์โซนมาทำเอาผมสามารถหลับได้ทุกที่เลย “กูเจ็ตแล็กว่ะกลัวไปเที่ยวไม่สนุกจะ

  • เพื่อนสนิทผมคลั่งรัก   บทที่ 28 จบบริบูรณ์

    หนึ่งปีต่อมา และแล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง วันที่ผมจะได้กลับไทยสักทีถึงแม้จะกลับไปชั่วคราวเพราะงานรับปริญญาแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กลับเลยล่ะวะ ไอ้กรมันบ่นทุกวันว่าพยายามจะเคลียร์ตารางงานมาหาผมให้ได้แต่มันก็ยุ่งเสียเหลือเกิน การจะลามาต่างประเทศแค่สองสามวันมันไม่พอจริง ๆ ผมเลยบอกมันว่าไม่เป็นไรยิ่งมันได้ขึ้นมาเป็นรองประธานคณะกรรมการฝ่ายบริหารด้วยแล้วยิ่งปลีกตัวไม่ได้เข้าไปใหญ่ บทบาทหน้าที่สูงขึ้น ความรับผิดชอบก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา หลังจากที่ผมนั่งเครื่องมาเกือบครึ่งวันในที่สุดผมก็มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเสียที ผมก้าวเดินออกมาตามทางเดินด้วยหัวใจที่ฟูฟ่องเตรียมที่จะได้พบหน้ากับคนรัก กรมันบอกว่ามันจะเป็นคนมารับผมเอง ผมเลยตั้งหน้าตั้งตารอเป็นพิเศษ “กร” ผมเรียกชื่อของอีกฝ่ายเบา ๆ จากด้านหลัง เจ้าของชื่อค่อย ๆ หันมาช้า ๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างเมื่อสบตาเข้ากับผม “ต้นคิด” มันเข้ามาสวมกอดผมเอาไว้อย่างแนบแน่นแต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดอยากกอดมันแน่นยิ่งกว่านี้เสียอีก “กูคิดถึงมึงมากเลย” มั

  • เพื่อนสนิทผมคลั่งรัก   บทที่ 27 ถึงเวลาต้องบอกลา ก็ใจหาย Nc

    แค่ถูกมันสัมผัสผมก็อารมณ์กระฉูดจนเกินจะต้านแล้ว “มองค้างขนาดนี้ อิจฉากูหรืออยากได้กู” ผมช้อนสายตาขึ้นไปมองมันด้วยดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยม่านน้ำตา ไม่รู้ว่ามันดูเย้ายวนหรือเปล่าแต่ความรู้สึกของผมตอนนี้ ผมเหมือนผู้ชนะที่ได้มันมาครองเลยแฮะ “มึงมากกว่ามั้งที่อยากได้กู” ผมถอดเสื้อของตัวเองออกก่อนจะโยนไปกองไว้ข้าง ๆ โซฟาจากนั้นก็รั้งท้ายทอยของมันให้ลงมาจูบกับผมอีกครั้ง รสจูบในครั้งงนี้ร้อนแรงราวกับลาดน้ำมันลงบนกองเพลิงที่โหมกระหน่ำจนไม่มีสิ่งใดมายับยั้งได้ ไอ้กรไม่รอช้าอีกต่อไปมันลูบไล้ตามลำตัวของผมอย่างหลงใหล บีบหน้าอกบ้าง บีบสะโพกบ้าง แล้วก็ใช้นิ้วเขี่ยเม็ดบัวจนผมเผลอกระตุกแล้วปล่อยเสียงครางออกมา “คืนนี้กูจะกินมึงทั้งคืนเลย เตรียมตัวไว้เถอะ” มันว่าก่อนจะรีบกระชากกางเกงขาสั้นของผมออกโดยไม่รีรออะไรอีกต่อไป ราวกับประโยคเมื่อกี้มันแค่แจ้งให้ทราบไม่ได้ให้ผมร่วมตัดสินใจด้วยเลย มันลุกขึ้นไปถอดกางเกงของมันออกเหมือนกันก่อนจะหยิบกล่องถุงยางขึ้นมาแกะ ผมเอื้อมมือไปแย่งซองถุงยางของมันมาก่อนจะดันให้มันนั่งลงบนโซฟาอย่างเคย

  • เพื่อนสนิทผมคลั่งรัก   บทที่ 26 ก่อนไป

    “น้องแพรเขาทำคลิปขอโทษแล้วนะเว้ย” ไอ้กรยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้ผมดูคลิปแพรที่ยกมือไหว้ขอโทษแล้วก็สารภาพความผิดทุกอย่างออกมาด้วยปากของตัวเอง ถึงแม้มันจะเป็นภาพที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วแต่พอได้เห็นจริง ๆ ก็รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย “มึงยังเสียใจเรื่องเด็กอยู่อีกเหรอวะ” “กูพยายามคิดในแง่ดีแล้วนะ แต่ไม่รู้ทำไมกูถึงยังรู้สึกผิดอีก” ผมว่าไปตามตรง ในเมื่อแม่เด็กไม่ต้องการอยู่แล้วมันก็คงเป็นทางที่ดีที่สุดที่เด็กจะได้ไม่ต้องเกิดมาลำบากในโลกใบนี้ แต่พอคิดว่าผมมีส่วนด้วยต่อให้จะไม่ได้ตั้งใจมันก็เหมือนตราบาปว่าครั้งหนึ่งผมทำให้เด็กคนนั้นไม่ได้มีโอกาสเกิดมา “เด็กยังตัวเท่านิ้วโป้งอยู่เลยนะเว้ย เขาไม่โกรธมึงหรอก ไม่มีใครโทษมึงเลย เพราะงั้นเลิกโทษตัวเองได้แล้ว” ผมรู้ว่ามันต้องการจะปลอบผมก็เหลือแต่ผมแล้วล่ะที่ต้องปล่อยวาง “เรามาภาวนาให้เด็กไปเกิดในครอบครัวที่ดีกว่านี้กันเถอะนะ” “อือ” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันก่อนจะระบายยิ้มออกมาช้า ๆ “ขอบคุณนะที่อยู่ข้าง ๆ กูมาตลอด” “ไม่ให้อยู่ข้างแฟนแล้วจะอยู่ข้างใครเล่า” มันว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจิ้มแก้มผมเบ

  • เพื่อนสนิทผมคลั่งรัก   บทที่ 25 ให้มันจบลงสักที

    “พี่ต้นนัดแพรมาทำไมเหรอคะ” หญิงสาวรุ่นน้องเดินเข้ามาหาผมในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอดูมีท่าทีหวาดระแวงผมเล็กน้อยไม่ปากดีเหมือนตอนที่คุยโทรศัพท์กัน “พี่อยากเคลียร์เรื่องโพสต์น่ะ” ผมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ หน้าจอมีหน้าโพสต์นั้นอยู่แต่แพรกลับยกยิ้มบาง “โพสต์นี้มันไม่ได้เอ่ยชื่อใครนี่คะ ไม่ได้หมายถึงพวกเราสักหน่อยพี่ต้นจะไปกลัวอะไร พี่ก็รู้นี่ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เอ๊ะ หรือที่กลัวเพราะว่ามันเป็นเรื่องจริงคะ” ผมคงประเมินเธอต่ำไปหน่อย ที่แท้เพียงแค่รอจังหวะที่จะสู้กลับเหมือนกัน “อย่าลืมสิว่าพี่เรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ เว็บบอร์ดมหา’ลัยก็ต้องลงทะเบียนก่อนจะใช้งานได้ คิดว่าข้อมูลแค่นี้พี่จะเจาะไม่ได้เชียวเหรอว่าใครเป็นคนโพสต์” แพรเริ่มหน้าเสียหลังจากที่ผมพูดจบ “แพรก็แค่อยากได้ความยุติธรรมให้ลูกในท้องแพร ยังไงเด็กในท้องแพรก็ต้องมีพ่อ” แพรเริ่มขึ้นเสียงดังจนคนในร้านเริ่มหันมามองเป็นตาเดียวกัน “พี่ต้นคืนพ่อของลูกแพรมาเถอะนะคะ เห็นแก่เด็กที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูลูกนะคะพี่ต้น” ผมปรายตามองหน้าท้องแบนราบของหญิงสาวที่ยืนอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status