Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-11-02 14:20:13

“ลุงฟ่านค่อย ๆ ครับ...อย่าเพิ่งลุกขึ้นนอนลงก่อนครับ” เสียงเจ้าผู้ช่วยเด็กของถงถงเอ่ยขึ้นทำให้เธออมยิ้ม และต้องบอกว่าทึ่งในความสามารถเจ้าหนูน้อยผู้นี้จริง ๆ

“นอนลงสักครู่ค่ะ ประเดี๋ยวฉันจะจัดยาให้กินเจ็ดวันติดต่อกันอย่าให้ขาดนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณลุงจะไม่หาย”

เธอเพิ่มระดับความข่มขู่ด้วยเรื่องไม่หายลงไปอีกนิดทำให้คนไข้ต้องระมัดระวังในการกินยามากขึ้น และยาที่เธอจัดให้ ไม่ใช่ยาต้มแต่เป็นยาเม็ดที่เธอหลอมขึ้นเพื่อให้กินง่าย จากนั้นเธอมองไปยังลูกชายของลุงฟ่านที่ยังไม่เชื่อว่าเธอจะสามารถรักษาคุณพ่อของเขาได้จริง ๆ พร้อมกับส่ายหน้า

ก็บอกแล้วอย่าเพิ่งดูถูกความสามารถสตรีเชียว เพราะว่ามันจะทำให้ไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง

เธอจัดยาเสร็จก็ส่งให้คนไข้เธอไม่ได้รับค่ายา แต่เห็นว่าเจ้าคุนหมิงรับไปแล้วจากคุณลุงฟ่านผู้นั้น ทำให้เธอเอาแต่ส่ายหน้ามองเจ้าเด็กแสบผู้นี้ด้วยความมันเขี้ยวจริง ๆ

“พี่ถงอย่าทำหน้าอย่างนั้น สิบหยวนก็เงินทั้งนั้น แม้ว่าจะได้อีกตอนรักษาหายถึงร้อยหยวนก็เถอะ หากเขาไม่กลับมาจ่ายเงินให้เราทำอย่างไรล่ะ”

เสี่ยวหมิงบุ้ยปากไปอีกทางทั้งไม่อยากให้พี่ถงถงหมิ่นเงินสิบหยวนนี่ ใช้ได้ตั้งสองสามเดือนเชียวหากประหยัด

“อย่างนั้นเอาเงินสิบหยวนนี้เก็บไว้เองเถอะ แล้วก็ขึ้นรถรางไปเตรียมรับหยางเหล่ยมาทำงานที่ร้านด้วย ส่วนงานในร้านอยากให้เขาทำอะไรก็จัดการเองก็แล้วกัน พี่สาวจะปิดร้านหลอมยาอีกหน่อย”

“พี่ถงคำไหนคำนั้นนะ สิบหยวนนี่ของหมิงนะ...ห้ามให้เจ้าเด็กขูดรีดนั้นมาปล้นหมิงด้วย”

“เสี่ยวหมิงไม่ลองซื้อขนมปังฝรั่งเศสหน้าโรงเรียน อาเหล่ยกินหรือ” เธอถามพลางแนะนำให้เขาลองกินของอร่อยดูบ้าง มัวแต่เก็บเงินไม่รู้จักใช้

“ไม่เอาหรอกกินข้าวได้ตั้งหลายวัน”

“แล้วไม่อยากทับถมเจ้าลูกคุณหนูเหล่านั้นหรือไง หากเสี่ยวหมิงซื้อขนมปังสองชิ้นกับนมสตรอว์เบอร์รีหนึ่งแก้ว แน่นอนว่าต้องมีแต่คนมอง แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ด้วยเล่า”

เสี่ยวหมิงคิดหนักทันที หากซื้อขนมสองชิ้นกับนม สตรอว์เบอร์รีหนึ่งแก้ว เขาต้องเสียเงินหนึ่งหยวนห้าเหมา แต่ว่าเขาก็มีเงินตอนนี้สี่สิบหยวนแล้วนะ หากไม่รวมกับค่าใช้จ่ายรายเดือนที่พี่ถงให้ไว้ยี่สิบหยวน ตอนนี้เหลือสิบห้าหยวนแล้ว เขาแบ่งเงินเก็บแยกชัดเจนไม่มารวมกัน ดังนั้นหากใช้เงินตัวเองสักนิดหน่อยแลกกับการได้เห็นเหล่าคุณหนูเหล่านั้นมองด้วยความอิจฉา เขาจะเท่แค่ไหนกันนะ

แค่คิดก็สนุกแล้วสิ อิอิ!

หน้าโรงเรียนตอนนี้กำลังเป็นเวลาเลิกเรียน เหล่าลูกชายลูกสาวคนมีตระกูลไปยืนต่อแถวกันซื้อขนมปังฝรั่งเศสที่มีหลายไส้ตรงนั้น กลิ่นเนยที่ใช้อบขนมปังหอมฟุ้งเสียจนท้องหยางเหล่ยร้องจ๊อก ๆ แต่ทว่าหากเขาใช้เงินนี้หมดเท่ากับอาทิตย์นี้เขาต้องอดตอนอยู่ที่โรงเรียน นั่นยิ่งทำให้ตัวเองขายหน้าเพิ่มขึ้นไปอีก

หากตัดใจไม่ซื้อแต่ว่าเก็บเงินไว้กินข้าว เขาจะยอมอับอายดีไหม เขาคิดไม่ตกจริง ๆ มองเห็นเหล่าสหายเดินถือขนมปังแล้วมันยั่วน้ำลายเหลือเกิน

แต่ว่าขณะที่กำลังชั่งใจอยู่นั้น ได้ยินเสียงพูดดังขึ้นจากแถวที่ร้านขนม พร้อมกับร่างเล็กกระดุกกระดิก วิ่งออกมาจากร้านนั้น ในมือถือนมสตรอว์เบอร์รีกับขนมปังฝรั่งเศสอีกสองชิ้นใหญ่ ๆ ทำให้เขามองภาพนั้นด้วยไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง จนต้องขยี้ตาซ้ำ

“นั่นมันเจ้าอ้วนหมิงปากเสียนี่นา” ในใจของหยางเหล่ยเต้นตึกตักตึกตัก เขามองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินหลบไปอีกทาง แต่ทว่ากลับช้ากว่าเจ้าอ้วนหมิงที่ใส่หมวกสีแดงสดแล้วยังตะโกนเสียงดังอีก

“อาเหล่ย...รีบไปเถอะเดี๋ยวไม่ทันรถราง~”

หยางเหล่ยสิ้นหวังทันที เขาไม่อยากให้สหายรู้ด้วยซ้ำว่าตนเองจะขึ้นรถรางวันนี้ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย

ให้ตายเถอะ เงินหนึ่งหยวนในมือทำเขาต้องขายหน้าต่อสหายทั้งโรงเรียน เท่านั้นไม่พอเจ้านั่นยังซื้อของอร่อย ๆ ทำให้คนทั้งโรงเรียนมองตามอย่างรู้สึกสนใจ

อีกอย่างขนมชิ้นนั้นเป็นชิ้นใหญ่และราคาแพงที่สุด แถมยังซื้อถึงสองชิ้นอีกด้วย เจ้าเด็กอ้วนร่ำรวยอะไรนักนะ

“ยังอีก...หมิงบอกให้รีบยังไม่เดินมาอีกนะ หรือเสียงดังไม่พอจะให้ตะโกนอีกไหม”

ครั้งแรกเรียกหยางเหล่ยพอทนแต่หากมีครั้งสองพอเลย เขารีบเดินไปหาเจ้าอ้วนแล้วเดินไปที่รถรางโดยไม่พูดอะไร แต่ตลอดทางสหายก็ทักทายเขา

“หยางเหล่ย นายให้น้องชายมารับเหรอ...โอ้โหน้องชายนายเจ๋งจริง ๆ ซื้อขนมที่แพงที่สุดด้วยเหรอเนี่ย” นั่นเป็นสหายลูกชายนายทหารใหญ่ ซึ่งแม่เล็กให้เขาตีสนิทเอาไว้ แต่ทว่าเจ้านี่นิสัยไม่ค่อยดี

หยางเหล่ยขยับยิ้มมุมปากทั้งที่หางตาเริ่มร้อนวูบ…เขาหันหน้าหนีสายตาสงสัยจากสหายที่ไม่ควรได้รู้เรื่องอะไรแบบนี้

ส่วนเจ้าอ้วนแม้ว่าจะตัวเล็กแต่เดินก้าวฉับ ๆ เร็วกว่าเขาที่ขายาวกว่าไหน ๆ จนกระทั่งไปถึงรถรางเขาต้องหยุดยืนรอเพราะไม่เคยขึ้น แล้วยังต้องรอให้เจ้าหมิงยื่นตั๋วให้อีกด้วย

“เอาไปเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋ว”

เขารับมาอย่างไม่พอใจ ทั้งเจ้าอ้วนยังเลือกนั่งข้าง ๆ เขาแล้วดูดนมสตรอว์เบอร์รีต่อหน้าต่อตาเขาด้วย เขาพยายามไม่มองแล้ว แต่เจ้าอ้วนนั่งเตะขาไปมาอย่างอารมณ์ดีเสียด้วย

เฮ้อ!

เมื่อไหร่ชีวิตเขาจะหลุดพ้นจากเจ้าอ้วนหมิงเสียที ขนาดถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมกับพี่สาว ก็ยังไม่วายต้องมาพบกันอีก แล้วที่สำคัญวันนี้เขาต้องไปทำงานที่ร้านของพี่สาว

เกิดมาเขายังไม่เคยทำงานอะไรสักอย่าง แล้วเขาจะทำได้ไหมล่ะ เฮ้อ!

ลั้น ลัน ลา ล้า ลัน ลา!

เสี่ยวหมิงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาค่อย ๆ ละเมียดละไมกินนมสตรอว์เบอร์รีอย่างช้า ๆ ใช้เวลายี่สิบนาทีรถรางก็ถึงหน้าปากซอยที่ตั้งร้านขายยาตระกูลหวังแล้ว เสียงจอแจของผู้คนกำลังเลือกซื้อของกลับบ้านไปทำอาหาร กับเสียงกระดิ่งจักรยานดังบอกให้หลบทาง

ยุคนี้บ้านไหนมีจักรยานถือว่าเป็นคนค่อนข้างมีฐานะพอสมควร ราคาจักรยานอยู่ที่ 120-150 หยวนและเป็นยานพาหนะหลักของผู้คนอีกด้วย

ส่วนพวกรถยนต์ จะเป็นพวกระดับมหาเศรษฐีเท่านั้นถึงจะมีเงินซื้อ ตระกูลกู้ก็จัดอยู่หนึ่งในนั้นด้วย

ถงถงออกจากห้องหลอมยาด้วยความเมื่อยล้า เธอพบว่าในห้องหลอมยาของเธอมีสมุนไพรหายากมากมาย และมียาที่เรียกว่าอยากพลิกชีวิตอยู่ในตำราของห้องนั้นด้วย เธอลองผิดลองถูกจนกระทั่งหลอมยาไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วเมื่อยขบมากจึงออกมาพักผ่อน เมื่อมองไปยังหน้าร้าน เห็นร่างเจ้าเสี่ยวหมิงถือขนมปังชิ้นใหญ่มาสองชิ้น กับนมสตรอว์เบอร์รีแก้วใหญ่เดินกลับมาด้วยใบหน้าเบิกบาน บอกให้รู้ว่าคงจะอร่อยมากสินะ

แต่เมื่อหันกลับไปมองอาเหล่ย ในมือของเขาว่างเปล่าทำให้หางคิ้วเธอเลิกขึ้น ก่อนจะยิ้มนิด ๆ

เธอรู้ได้ทันทีว่า เจ้าคนนี้ที่จริงก็มีหัวคิดอยู่บ้าง เพียงแต่ต้องขัดเกลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ก็ชินกับการที่แม่เลี้ยงตามใจมาหลายปี ย่อมต้องเกเรเป็นเรื่องธรรมดา

เอาเถอะแค่เห็นว่าไม่ได้เกินเยียวยา เธอก็นับว่ามาถูกทางแล้วล่ะ

แต่ใบหน้าที่คว่ำเหมือนกระบวยตักน้ำนี่สิทำให้เธออดอมยิ้มไม่ได้

“กลับมาแล้วก็ไปเปลี่ยนชุด ชุดอยู่นั่นส่วนเสื้อผ้าก็ซักเสียด้วย ซักเองเป็นไหม”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่งนั่นทำให้คนเพิ่งกลับจากโรงเรียนแล้วกำลังหิวหัวเสีย

“ฉันจะเคยทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไงเล่า ทุกทีคนรับใช้ทำให้ไม่ใช่หรือไง”

ถงถงยกมุมปากขึ้น ตอนอยู่ที่บ้านนั้นหากพี่สาวคนดีคนนี้ไม่คอยดูแลเสื้อผ้าให้ มีหรือจะได้มีเสื้อผ้าที่สะอาด ๆ แต่เจ้าของร่างเป็นคนดีเกินไปยังไงล่ะ แล้วนั่นสีเสื้อหมอง ๆ แบบนั้นได้ดูแลเสื้อผ้าดีหรือเปล่าเถอะ

แม้จะมองเห็นความแตกต่างระหว่างที่เจ้าของร่างอยู่กับไม่อยู่ชัดเจน แต่เธอเลือกจะนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ปล่อยให้ความจริงค่อย ๆ ปรากฏขึ้นเองก็แล้วกัน

“หากจะทำงานที่นี่ นายก็ต้องค้างที่นี่ นอนกับเสี่ยวหมิงแล้วก็ช่วยเขาทำงาน ส่วนของใช้ส่วนตัวก็ต้องทำเอง เสื้อผ้าเสี่ยวหมิงทุกตัวล้วนซักเองทั้งยังสะอาดเหมือนใหม่ ส่วนอาเหล่ยหากเธอไม่มีตาฉันก็ไม่รู้จะสั่งสอนเธอว่ายังไงแล้ว”

หยางเหล่ยกำหมัดกัดฟันแน่น นี่เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเขาหรือนังปีศาจกันแน่...

แต่ตอนนี้เขายังต้องพึ่งพาพี่สาวใจร้ายคนนี้ อีกหน่อยเถอะรอให้คุณพ่อหายดีเขาจะขอเงินรายเดือนจากคุณพ่อให้ได้

เขาเดินกระแทกเท้าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นก็เริ่มจัดการเสื้อผ้าของตนเองอย่างเก้ ๆ กัง ๆ โดยที่มีเจ้าอ้วนยืนกินขนมแล้วก็ยืนบ่นเขาไปด้วย

“ทำดี ๆ สิ ผงซักฟองเททีละน้อยแบบนี้อย่างนั้น ๆ”

กู้ถงถงยืนมองภาพนี้ด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ตั้งตาคอยว่ายายแม่เลี้ยงจะมาอาละวาดที่ร้านของเธอเมื่อไหร่ แต่จากสภาพหยางเหล่ยหายไปสักสองสามวันก็คงไม่ตามหาหรอก หรือที่แท้แม่เฮงซวยคนนั้นก็รอให้หยางเหล่ยออกมาเองด้วยกระมัง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 67

    “ข้าวสองถ้วยเองนะพี่เขย”“....”!เขาถามภรรยาแต่ว่าเจ้าตัวแสบกลับตอบแทนเสียนี่“ถามถงถงไม่ใช่นาย”“ก็ไม่เอ่ยชื่อเล่า แต่หมิงเหมือนกินได้น้อยเกินไปนะ ว่าจะเพิ่มอีกสักครึ่งถ้วย”ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันแล้วก็ลุกหนีไปคนละทาง ปล่อยให้เสี่ยวหมิงเล่นกับตงตงน้อย“ตงตงน้อย โตเร็ว ๆ นะ น้าหมิงรอเล่นด้วยอยู่

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 66

    หานอวี้เหิงที่พ่ายแพ้ให้กับน้องชาย เพราะว่าน้องสะใภ้คลอดลูกล่วงหน้าก่อนถงถงไปไม่กี่เดือน ทำให้เหลนคนแรกของตระกูลถูกตกไปอยู่กับ อวี้หรง และเขารับภาระหน้าที่ในงานของตระกูลมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีเวลาให้ภรรยา จนกระทั่งภรรยาคลอดลูกชายตัวขาวอวบออกมา และเขาตั้งชื่อว่า อวี้ตง หรือตงตงน้อยของบ้านเขา

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 65

    หลังจากแต่งงานหนึ่งเดือน ข่าวดีก็มีทันทีพร้อม ๆ กับร้านยาตระกูลหวังที่โรงงานผลิตยาและมีเครื่องมือที่ทันสมัยโดยถงถงเป็นคนคิดและให้เขาไปจัดการให้แต่เธอก็เข้าไปคิดสูตรยาให้ห้วงมิติหลอมยาของเธออีกด้วยแต่สิ่งที่ตามมาหลังจากรู้ว่าภรรยาท้องคือภรรยาเหม็นกลิ่นตัวสามี จนเขาเข้าใกล้ไม่ได้เลยและรอให้ภรรยาหลับ

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 64

    “พี่เขยนี่ไปปล้นใครมาถามจริง เมื่อก่อนไม่ค่อยออกไปไหนไม่ใช่หรือไง มีเงินเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ” “นี่คือส่วนเล็กน้อยเท่านั้นขอรับคุณชาย” หา...เล็กน้อย...นี่พี่เขยรวยขนาดไหนกันเนี่ย...หมิง ยอมแล้ว ต่อไปหมิงต้องเอาใจพี่เขยให้มากแล้วล่ะ ส่วนคนที่วางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้วก็กก

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 63

    สองมือเล็กยันหน้าอกของเขาเอาไว้ แต่ไม่สามารถกั้นแรงกระแทกที่ซัดเข้าหายิ่งกว่าระลอกคลื่นตอนทะเลมีพายุ ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออันแข็งแรงจ้วงแทงเธอไม่ยั้ง จนคิดว่าที่ผ่านมาที่เขาบอกว่าเจ็บป่วยมาตลอดเขาหลอกเธอหรือเปล่า “อื้อ...อ๊า...” ร่างของเธอกระตุกเกร็งถี่รัวพร้อมกับความ

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 62

    ลมหายใจของทั้งสองเริ่มถี่ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเมื่อร่างกายของทั้งคู่ไร้สิ่งปกปิด เขาใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจในการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออก จากนั้นทั้งคู่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอนที่เขาทำเอาไว้แต่งตัวให้ภรรยาคนสวย สองมือหนาลูบไล้ภรรยาคนสวยที่เคยสัมผัสอยู่ทุกคืน แต่คืนนี้จะเป็นคืนพิเศ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status