Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-11-02 14:20:51

“เสื้อผ้ายังซักไม่เป็น ต่อไปจะทำอะไรกินฮะ...อนาคตถ้าไม่มีพี่ถงคงนอนข้างถนน” เสียงดูดนมสตรอว์เบอร์รีพร้อมกับปากจ้ำจี้จ้ำไชบ่นคนที่ต้องซักผ้าด้วยตัวเอง

เสียงของเสี่ยวหมิงดังขึ้นกลางลานซักผ้าด้านหลังร้านยาตระกูลหวัง อีกคนสั่งอีกคนซักแล้วเสียงตอบกลับหงุดหงิดก็ดังขึ้นเป็นระยะทำให้กู้ถงถงรู้สึกว่าที่นี่เริ่มอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย

โลกที่ผ่านมาเหมือนใช้ชีวิตคนเดียว แม้ว่ามีครอบครัวแต่ไม่เคยได้รับความสนใจ เธอคือเครื่องการันตีความสำเร็จของครอบครัวกับตู้เอทีเอ็มกดเงินเท่านั้น

เมื่อเห็นบรรยากาศแบบนี้แล้วทำให้เธอจัดยารักษาโรคต่าง ๆ ไปด้วยรอยยิ้ม

“เก่งนักไม่ทำเองเล่า...ฉันเป็นคุณชายตระกูลกู้นะ”

“แล้วคุณชายตระกูลกู้ขยี้ผ้าไม่ได้งั้นสิ แล้วนั่นน้ำสะอาดเอาไว้สำหรับล้างเอาผงซักไปใส่ได้ยังไง เขาเอาไว้ล้าง”

“นายจะบ่นอะไรนักหนาเนี่ย”

“ก็นายทำไม่ถูก...เร็วเข้าเดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าว”

หยางเหล่ยไม่เคยชอกช้ำเท่านี้มาก่อน เจ้าเด็กที่เก็บมาเลี้ยงควรจะเป็นคนรับใช้ของเขา แต่ทำไมพี่สาวใจร้ายถึงได้ให้เจ้านั่นมาสั่งเขาราวกับเจ้านายอย่างนี้ล่ะ

ให้ตายเถอะ!

“นายเก่งนักหรือไง”

“แน่นอน ทั้งทำอาหาร ปัดกวาดเช็ดถู ทั้งรับลูกค้าและหาคนไข้เข้าร้าน หมิงน่ะเก่งสุด ๆ เลยล่ะ”

“ราคาคุยเสียไม่ว่า”

“มานี่เดี๋ยวหมิงทำให้ดู” เสี่ยวหมิงว่าเสร็จก็เอาเก้าอี้ไม้ตัวเล็กประจำตำแหน่งของตนเองมานั่งแล้วลงมือขยี้เสื้อให้กับหยางเหล่ย แค่ขยี้เพียงสองสามทีแปรงอีกสองทีแขนเสื้อก็สะอาดแล้ว

“นี่...ดูเอาไว้แล้วก็ทำด้วย พรุ่งนี้เดี๋ยวไม่มีเสื้อผ้าใส่ไปโรงเรียนกันพอดี”

หยางเหล่ยไม่ได้ตกใจที่เจ้าเด็กอ้วนนี่ทำได้ แต่ที่ตกใจคือเสื้อผ้าที่ซักสะอาดเหมือนใหม่ เท่านั้นไม่พอสี หมอง ๆ ก็จางไปหมด

เขาที่คิดว่าตัวเองใส่เสื้อผ้าเก่ามาตลอดจึงซื้อใหม่เรื่อย ๆ เพิ่งเข้าใจว่าที่จริงแล้วคนงานที่บ้านซักผ้าไม่สะอาดต่างหาก ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนหลอกให้ใช้เงินแก้ปัญหาเสมอ

แค่หนึ่งเดือนเขาซื้อชุดใหม่ไปสี่ชุด ทั้งที่ชุดนี้เป็นชุดเก่าด้วยซ้ำ

‘คนที่บ้านใช้ส้นเท้าสักผ้าหรือไง?!’

ท่ามกลางความสงสัยเขาก็ยังคงใช้มือขยี้เสื้อผ้าของตนเองแล้วก็เอาไปล้างน้ำ จากนั้นเอาไปตากที่ด้านหลัง แต่เหมือนมีท่อปล่องอะไรสักอย่างที่มีไอร้อนออกมาด้วยแต่ไม่มีควันทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปถามเจ้าอ้วน

“นี่อะไร”

“คนสมัยก่อนเรียกว่ามังกรดินนะ ท่อนี้ต่อจากเตาไฟในครัวใช้ให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว แต่พี่ถงบอกว่าช่วงนี้เป็นฤดูฝนอากาศชื้นหากตากผ้าตรงนี้จะช่วยให้แห้งเร็วแล้วก็ไม่เป็นเชื้อรา” เสี่ยวหมิงตอบเสร็จก็หันหน้าเดินเข้าไปในครัวก่อนจะหยิบขนมปังที่ซื้อมาส่งให้กับหยางเหล่ย

“อ่ะ...นี่ขนม เงินเสี่ยวหมิงเองเลยนะ เห็นแก่ที่ทำงานเหนื่อยให้เติมพลังก่อน แต่เดี๋ยวต้องมาช่วยกวาดร้านต่อ”

หยางเหล่ยมองเจ้าอ้วนอย่างไม่เข้าใจ นี่เจ้านั่นซื้อขนมให้เขางั้นเหรอ แล้วขนมนี้แพงมากไม่ใช่หรือไง แล้วซื้อให้เขาหมายความว่ายังไง

“นี่รับไปสิ...หมิงก็จะกินเหมือนกัน” เสี่ยวหมิงทำท่าเบื่อหน่ายที่หยางเหล่ยมัวแต่ลีลาไม่ยอมรับขนมสักที เขารอจะกินขนมนี้อยู่ตั้งนาน มันหอมยั่วใจเขาเสียเหลือเกิน

“นี่นายให้ฉัน!” หยางเหล่ยถามอีกครั้ง เพราะนี่คือขนมปังฝรั่งเศสแสนอร่อยเชียวนะ เขาที่มีเงินหนึ่งหยวนแต่หากซื้อแล้วก็ไม่มีเงินกินทั้งสัปดาห์ เขาต้องอับอายเพื่อน แน่ ๆ จึงต้องตัดใจ

“ใช่”

เสี่ยวหมิงส่งขนมปังฝรั่งเศสที่มีกลิ่นเนยหอม ๆ ในห่อกระดาษคราฟสีน้ำตาลให้กับหยางเหล่ย ส่วนเขาก็กัดกินอย่างละเมียดละไมคล้ายกับกำลังดื่มด่ำรสชาติอันแสนอร่อยไว้นาน ๆ จนไม่อยากกลืนเลยล่ะ

หยางเหล่ยรับมาก็จริง แต่ทว่าเขาก็ยังแปลกใจ ตอนนี้หิวแล้วจึงกัดหนึ่งคำ พบว่ามันอร่อยมากจริง ๆ นี่คือชิ้นที่ใหญ่และราคาแพงที่สุดแน่นอนมันต้องอร่อยมาก

ส่วนเจ้าอ้วนหมิงนั้นพริ้มตาหลับน่ามันเขี้ยวมาก ราวกับไม่เคยลิ้มรสของอร่อยมาพันปี เขากินไปเกือบหมดแล้วเจ้านั่นก็เหมือนกัน จากนั้นก็เห็นเจ้าอ้วนนั้นเดินเข้าไปในครัว เขาก็เดินตามไปด้วย

ยิ่งเห็นท่าทางคล่องแคล่วในการทำงานเขายิ่งแปลกใจ เจ้าเด็กนี่ประหลาดนักตัวแค่นี้ทำเป็นทุกอย่างเสียจนตัวเองรู้สึกอายไปเลย เมื่อมองไปหน้าร้านเขาเห็นพี่สาวเดินไปรับของบางอย่างจากคนวิ่งรถลากรับส่งของและคนโดยสาร ในนั้นเหมือนมีกระเป๋าหนึ่งใบแต่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง

ไม่นานนักข้าวที่เจ้าอ้วนหุงก็สุกจากนั้นเจ้าอ้วนก็ยกลงจากเตาเอากระทะขึ้นตั้งแล้วก็ทำอาหารต่อ เขาเห็นเจ้านั่นเดินไปเก็บมะเขือเทศสด ๆ ด้านหลังมาล้างแล้วก็หั่นอย่างรวดเร็วก่อนจะตอกไข่สามฟอง เทน้ำมันในกระทะ ร้อน ๆ ก่อนจะเทไข่กับมะเขือเทศลงไปผัด แล้วโรยด้วยต้นหอม

จากนั้นเจ้าอ้วนก็ทำอาหารอีกสองอย่างก่อนจะได้ยินเสียงปิดร้านแล้วร่างพี่สาวก็เดินเข้ามานั่งที่หัวโต๊ะก่อนจะบอกข่าวร้ายแก่เขา

“แม่เลี้ยงเธอไปล่องเรือสำราญกับเหล่าตระกูลสูง ๆ ฉันให้คนไปเอาของมาให้นายที่นี่แล้ว จากนี้นายต้องอยู่ที่นี่และไปโรงเรียนโดยให้เสี่ยวหมิงไปส่ง”

ว่าไงนะ...ให้เจ้าอ้วนไปส่งเขาทุกวันอย่างนั้นเหรอ เขาได้อับอายพอดี

“แล้วทำไม...” เขาอยากจะถามว่าทำไมคนอื่นถึงไม่ดูแลเขาล่ะ แต่เมื่อคิดถึงสภาพเสื้อผ้าก็ทำให้เขาหุบปากเงียบ

บางที่เขาควรจะทบทวนอะไรด้วยตัวเอง

หยางเหล่ยกินข้าวพร้อมกับพี่สาวและเจ้าอ้วนหมิง เจ้าอ้วนนั้นตักข้าวตัวเองเต็มชามทั้งคีบกับข้าวเสียพูนถ้วยกลัวคนอื่นจะแย่งหรือไง

ส่วนเขากินข้าวแบบเหงา ๆ หากไม่กินก็จะหิวดังนั้นจึงกินไปเงียบ ๆ เมื่ออาบน้ำแล้วเข้าไปในห้องนอนที่ค่อนข้างแคบครั้งแรกเขาก็ถอนหายใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องนอนเบียดกับเจ้าอ้วนหมิงไป

“ห้ามนอนดิ้นนะ...หมิงไม่นอนดิ้นหรอกจะบอกให้”

เจ้าอ้วนบอกก่อนจะห่มผ้าจากนั้นก็หลับเหมือนหมีตายแล้วกัดฟันกรอด ๆ ไม่กัดฟันก็กรนเหมือนหวูดเรือจนเขาถอนหายใจ และเอาแขนก่ายหน้าผาก คิดจนนอนหลับไปเองโดยไม่รู้ตัว

เช้ารุ่งขึ้นเขากลับตื่นด้วยเสียงเจ้าอ้วนที่ปลุกเสียงดัง

“อาเหล่ย...ตื่น...อาบน้ำไปโรงเรียนได้แล้ว~~~”

เขาตื่นขึ้นแล้วมองหน้าเจ้าอ้วนด้วยใบหน้าบูดบึ้ง แต่เมื่อนึกถึงขนมปังที่เจ้าอ้วนแบ่งให้ก็เก็บคำพูดกลืนลงท้องแล้วก็เห็นเจ้านั่นใช้สายตาสั่งให้พับผ้า

เขาจะแย้งอะไรได้ล่ะ

เช้านี้ถงถงคิดว่าควรเสริมเรื่องข่าวลือเรื่องร้านสมุนไพรแซ่หวังสักหน่อย เมื่อวานรักษาด้วยการฝังเข็มแล้วดีขึ้น วันนี้ก็ควรจะมีคนกระจายข่าว

เขาเห็นเสี่ยวหมิงเป็นพี่เลี้ยงให้หยางเหล่ยได้ดี เธอยืนพิงเสา สายตามองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มขำ ๆ จนหวนกลับมานึกได้ว่า บางทีเธอไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ปล่อยให้ชีวิตมันสั่งสอนกันเองบ้าง และตอนนี้เจ้าเด็กอ้วนปากกล้าในร้านสมุนไพรของเธอก็ทำหน้าที่นี้ได้ดี

ห้องน้ำที่ร้านขายยานี้มีสองห้อง ห้องหนึ่งคือห้องของเธอที่เป็นห้องนอนมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตัว ส่วนอีกห้องแยกออกไปอีกด้าน เมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กสองคนต้องรอกันอาบน้ำจึงพูดขึ้น

“เสี่ยวหมิงไปอาบน้ำในห้อง แล้วก็นี่เอาเงินพาอาเหล่ยไปกินโจ๊กในตลาด แล้วพูดเรื่องที่ลุงฟ่านมารักษาที่ร้านเราเมื่อวานด้วย” เธอพูดแล้วขยิบตาให้กับเสี่ยวหมิงและนั่นเป็นสิ่งที่รู้กันว่าเสี่ยวหมิงควรทำเช่นไร

“ไม่ต้องห่วง หมิงจะไม่ทำให้พี่ถงผิดหวังเด็ดขาด เดี๋ยวจะซื้อโจ๊กจากตลาดมาให้ด้วยนะ”

เสี่ยวหมิงรับเงินหนึ่งหยวนสำหรับค่าโจ๊กและค่ารถรางไปส่งหยางเหล่ยที่โรงเรียนก่อนจะวิ่งไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องให้พูดซ้ำ

เด็กสองคนเดินออกมาด้วยกัน ด้านหนึ่งเป็นเสี่ยว หมิงที่ยิ้มเบิกบาน ส่วนอีกด้านหยางเหล่ยที่หน้าบูดเหมือนไม่อยากไปโรงเรียน เจ้าเด็กสองคนเหมือนสลับหน้าที่กันอย่างไรไม่รู้

“รีบไปรีบกลับนะ อย่ามัวโอ้เอ้” ถงถงกำชับแล้วก็เปิดร้านเตรียมตัวรักษาคนในวันนี้อย่างดี และคิดว่าร้านของเธอมียาเกือบทุกชนิดแล้ว เมื่อคืนเธอเข้าห้องปรุงยาพลิกชีวิตเอาไว้แล้ว สำหรับผู้ที่เป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย

แต่นั่นใช้เวลานานทั้งยังได้เพียงสองเม็ดอีกต่างหาก

‘หากใครอยากได้ยาเม็ดนี้ก็ต้องจ่ายหนักสักหน่อยนะ’

“ครับพี่ถงถง หมิงจะรีบกลับมาพร้อมข่าวดีครับ” เสี่ยวหมิงรับคำแข็งขัน พร้อมกับพาหยางเหล่ยเดินออกไปที่ตลาด โดยมีถงถงยืนส่งที่หน้าร้าน

แต่เมื่อหันหน้ากลับหางตาเธอเหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่งที่แอบมองเธออยู่ตรงเสาไฟที่ห่างออกไปสองช่วงจากร้านของเธอ รอยยิ้มแสยะผุดขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับแววตามาดร้ายที่รอรับมืออย่างดี

‘มาสิ...ฉันไม่ใช่ถงถงคนเก่า...ใครเหยียบฉันต้องเจอดีแน่!’
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 67

    “ข้าวสองถ้วยเองนะพี่เขย”“....”!เขาถามภรรยาแต่ว่าเจ้าตัวแสบกลับตอบแทนเสียนี่“ถามถงถงไม่ใช่นาย”“ก็ไม่เอ่ยชื่อเล่า แต่หมิงเหมือนกินได้น้อยเกินไปนะ ว่าจะเพิ่มอีกสักครึ่งถ้วย”ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันแล้วก็ลุกหนีไปคนละทาง ปล่อยให้เสี่ยวหมิงเล่นกับตงตงน้อย“ตงตงน้อย โตเร็ว ๆ นะ น้าหมิงรอเล่นด้วยอยู่

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 66

    หานอวี้เหิงที่พ่ายแพ้ให้กับน้องชาย เพราะว่าน้องสะใภ้คลอดลูกล่วงหน้าก่อนถงถงไปไม่กี่เดือน ทำให้เหลนคนแรกของตระกูลถูกตกไปอยู่กับ อวี้หรง และเขารับภาระหน้าที่ในงานของตระกูลมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีเวลาให้ภรรยา จนกระทั่งภรรยาคลอดลูกชายตัวขาวอวบออกมา และเขาตั้งชื่อว่า อวี้ตง หรือตงตงน้อยของบ้านเขา

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 65

    หลังจากแต่งงานหนึ่งเดือน ข่าวดีก็มีทันทีพร้อม ๆ กับร้านยาตระกูลหวังที่โรงงานผลิตยาและมีเครื่องมือที่ทันสมัยโดยถงถงเป็นคนคิดและให้เขาไปจัดการให้แต่เธอก็เข้าไปคิดสูตรยาให้ห้วงมิติหลอมยาของเธออีกด้วยแต่สิ่งที่ตามมาหลังจากรู้ว่าภรรยาท้องคือภรรยาเหม็นกลิ่นตัวสามี จนเขาเข้าใกล้ไม่ได้เลยและรอให้ภรรยาหลับ

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 64

    “พี่เขยนี่ไปปล้นใครมาถามจริง เมื่อก่อนไม่ค่อยออกไปไหนไม่ใช่หรือไง มีเงินเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ” “นี่คือส่วนเล็กน้อยเท่านั้นขอรับคุณชาย” หา...เล็กน้อย...นี่พี่เขยรวยขนาดไหนกันเนี่ย...หมิง ยอมแล้ว ต่อไปหมิงต้องเอาใจพี่เขยให้มากแล้วล่ะ ส่วนคนที่วางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้วก็กก

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 63

    สองมือเล็กยันหน้าอกของเขาเอาไว้ แต่ไม่สามารถกั้นแรงกระแทกที่ซัดเข้าหายิ่งกว่าระลอกคลื่นตอนทะเลมีพายุ ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออันแข็งแรงจ้วงแทงเธอไม่ยั้ง จนคิดว่าที่ผ่านมาที่เขาบอกว่าเจ็บป่วยมาตลอดเขาหลอกเธอหรือเปล่า “อื้อ...อ๊า...” ร่างของเธอกระตุกเกร็งถี่รัวพร้อมกับความ

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 62

    ลมหายใจของทั้งสองเริ่มถี่ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเมื่อร่างกายของทั้งคู่ไร้สิ่งปกปิด เขาใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจในการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออก จากนั้นทั้งคู่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอนที่เขาทำเอาไว้แต่งตัวให้ภรรยาคนสวย สองมือหนาลูบไล้ภรรยาคนสวยที่เคยสัมผัสอยู่ทุกคืน แต่คืนนี้จะเป็นคืนพิเศ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status