Share

บทที่ 8

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-02 14:21:58

กู้ถงถงขมวดคิ้วมองไปยังประตูที่มีคนมาเคาะ แต่เวลานี้แล้วฟ้าก็มืดใครกันที่ไม่รู้จักมารยาท มาโวยวายเอาตอนร้านปิดแล้วเธอก็ไม่อยากรับเช่นกัน

“ร้านปิดแล้วค่ะ ค่อยมาพรุ่งนี้เถอะ” กู้ถงถงเองก็ยืนทุบแขนด้วยอาการเมื่อยขบแล้วเช่นกัน หากให้เธอรักษาคนตอนนี้ก็ไม่ไหว ร่างกายเหน็ดเหนื่อยเกินไป แม้ยาจะเตรียมไว้เยอะ แต่มีบางอย่างที่ต้องเร่งหลอมขึ้นมาใหม่เช่นกัน

ปัง ปัง ปัง !

ยังอีกยังไม่หยุดอีกงั้นสิ เฮ้อ...อย่าให้เธอต้องเรียกเจ้าอ้วนออกมาด่านะ

“บอกแล้วไงว่าวันนี้ไม่รับคนไข้เพิ่มแล้ว”

ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่ก็เงียบไปแล้วเช่นกันทำให้เธอเดินเข้าไปหลังครัวก่อนจะบ่นกับเสี่ยวหมิง

“ใครก็ไม่รู้ช่างไม่รู้เวลาเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เขียนป้ายว่าปิดหกโมงเย็นก็แล้วกันมากกว่านั้นไม่ไหวแล้ว”

“พี่ถงอย่าหักโหมเดี๋ยวก็ป่วยไปก่อน นี่ขาหมูร้อน ๆหมิงอุ่นเอาไว้แล้ว ข้าวกำลังหุงรอสักครู่ หรือจะกินส้มก่อนก็ได้นะ ป้าขายส้มในตลาดเอามาฝากตอนที่รอตรวจ” เสี่ยว หมิงเห็นหน้าพี่ถงอ่อนล้าก็อดสงสารไม่ได้

ส่วนหยางเหล่ยเขารู้สึกตัวเองไร้ค่าไปเลย และดูเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน ทั้งที่นี่เขาก็เป็นน้องชายถงถงเหมือนกัน ยิ่งเห็นว่าถงถงต้องรักษาคนเหน็ดเหนื่อยเขาคิดอยากจะทำประโยชน์ให้กับเธอบ้าง

เขาลุกขึ้นจากนั้นก็เดินเข้าไปบีบที่ไหล่ของพี่สาว และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำอะไรเพื่อคนอื่น

กู้ถงถงชะงักค้าง ไม่นึกว่าเจ้าเด็กคนนี้ก็มีน้ำใจทั้งมองอย่างระแวงว่าจะบีบคอเธอแทนหรือเปล่าที่งกไม่ยอมให้เงินกับเจ้านั่นดี ๆ แต่หยางเหล่ยอ่านสายตานั้นออกจึงรีบพูดกลบเกลื่อน

“ก็เมื่อยไม่ใช่หรือไงอยู่นิ่ง ๆ สิ”

ถงถงยิ้มอ่อน ไม่นึกว่าเจ้าเด็กนี่จะมีน้ำใจด้วย เธอจึงปล่อยให้เขานวดไหล่ให้โดยที่เจ้าอ้วนคนเก่งของเธอกำลังต้มไข่คนละฟองเพิ่มด้วย พลางนึกชื่นชมเจ้าเด็กคนนี้ช่างรอบคอบ มองไปบนโต๊ะยังมีผักคะน้าผัดน้ำมันอีก ทำอาหารเก่งไม่เบาเลยนะ จนอดถามไม่ได้

“เสี่ยวหมิงไปหัดทำอาหารจากไหนมา”

“ก็คุณแม่พี่ถงอย่างไรเล่า สอนเสี่ยวหมิงตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเสี่ยวหมิงฉลาดจำเก่ง”

นี่ผ่านมาสามปีเจ้าเด็กคนนี้จำได้ขนาดนี้เชียวเหรอ จนเธอต้องมองใหม่อีกครั้งแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวหมิงควรจะต้องไปโรงเรียนแล้วหรือเปล่า แต่ที่นี่ต้องอายุเจ็ดขวบนี่เนอะกว่าจะเข้าเรียนได้

“เดี๋ยวเจ็ดขวบพี่ถงจะพาไปสมัครเรียน”

“ไม่เอาหรอก หมิงไปเรียนใครจะทำงานให้พี่ถงล่ะ ทำคนเดียวไหวที่ไหนกัน”

“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดไปโรงเรียนจะได้มีความรู้ คนช่วยเดี๋ยวจ้างเอาก็ได้ ดูอย่างอาเหล่ยสิยังไปโรงเรียน”

“แล้วหยางเหล่ยช่วยอะไรได้ ซักผ้าหมิงยังต้องสอน เรื่องเรียนน่ะหมิงไม่สนใจหรอก ง่วงเปล่า ๆ ทำงานสนุกกว่าเยอะเลย”

หยางเหล่ยกัดฟัน แต่เจ้าอ้วนพูดถูกเขาไปโรงเรียนยังทำงานไม่เป็นด้วยซ้ำ

แต่เขาจะไม่ยอมให้เจ้าอ้วนดูถูกเขาตลอดไปหรอกนะ

ถงถงคิดว่าหยางเหล่ยดื้อแล้ว เธอพบคนที่ดื้อกว่าแล้วก็คือเจ้าเสี่ยวหมิง

“ไม่ได้” เธอยืนกรานหนักแน่น

เสี่ยวหมิงบุ้ยปากไม่พอใจ แต่ก็ขัดคำสั่งไม่ได้จึงรับปากไปก่อน

“อีกตั้งสองปี เอาไว้หมิงจะคิดดูก่อน”

ได้เด็กดื้อนี่ยังจะคิดดูก่อนอีกให้ตายเถอะ แต่เธอก็ได้แค่ส่ายหน้า เพราะว่างานในบ้านเจ้าเด็กตัวน้อยทำเก่งยิ่งกว่าจ้างลูกจ้างสองสามคนเสียอีก

“เดี๋ยวจะขึ้นค่าแรงให้เป็นเดือนละยี่สิบหยวนดีไหม”

คำว่ายี่สิบหยวนทำให้หยางเหล่ยตาตื่น เขาเองก็อยากมีเงินเหมือนกันจะได้ไม่ต้องแบมือขอเจ้าเด็กนั่น ตัวเล็กแค่นั้นกลับมีเงินของตัวเองใช้จ่าย แต่เขานี่สิมีอะไรกันนอกจากตัวเปล่า

“แล้วจ้างฉันด้วยได้ไหม” หยางเหล่ยกัดฟันถาม

กู้ถงถงมองหน้าเจ้าเด็กที่อิดออดไม่อยากทำงาน วันนี้เกิดอยากให้เธอจ้างขึ้นมา เขาคิดอะไรอยู่นะ แม้จะทำหน้าสงสัยแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดค่อนขอดให้เสียกำลังใจ

ในเมื่ออาสาทำงานก็คิดว่าเจ้าเด็กนี่คงคิดอะไรได้บ้างแล้ว

“ได้สิ...ฉันจะจ้างนายเท่ากับเสี่ยวหมิง แต่นายต้องเป็นผู้ช่วยเขา เขาสั่งอะไรนายก็ต้องทำ”

เธอหวังจะได้เห็นว่าคนที่มีอีโก้สูงอย่างอาเหล่ยของเธอจะต่อต้านไม่ยอมรับ เพราะคนอย่างเขาหากให้ถูกชี้นิ้วสั่งบ่อย ๆ ก็คงทำไม่ได้นานหรอก อย่างมากก็แค่ชั่วโมงเดียวคงจะถอดใจ แต่คำตอบกลับทำให้เธอคาดไม่ถึง

“ได้สิ...ต่อไปฉันจะกลับบ้านเอง แล้วรีบมาช่วยเจ้าอ้วนหมิง”

เสี่ยวหมิงที่ตักไข่ออกจากกระทะเสร็จแล้วก็หันมายืนเท้าเอวมองอาเหล่ยที่เรียกเขาเจ้าอ้วนไม่หยุด

“นี่...อาหมิงชื่อคุนหมิง หรือเรียกหมิงเฉย ๆ ก็ได้ ไม่ต้องเติมอ้วนไปอยู่ด้านหน้าชื่อ หมิงไม่อยากได้รับเกียรติขนาดนั้น”

กู้ถงถงยิ้มให้กับเจ้าอ้วนของเธอที่วีนได้น่ารักจริง ๆ แม้จะเป็นคู่กัดกันแต่พออยู่ด้วยกันแล้วเธอก็เห็นว่าเสี่ยว หมิง ออกจะเป็นห่วงอาเหล่ยจะตายไป แต่ปากบ่นไม่หยุด

นี่สินะที่เรียกว่า รักกันดีตีกันทุกวัน

หลังกินข้าวเสร็จถงถงก็หลับเป็นตายไปเลย เพราะเหนื่อยมากเกินไป จนกระทั่งถึงเช้าจึงตื่นขึ้นมา ส่วนเสี่ยว หมิงเหน็ดเหนือยแค่ไหนก็ตื่นเวลาเดิม ทั้งยังหุงข้าวทำอาหารตั้งแต่เช้าอีกด้วย

ส่วนอาเหล่ยก็อาบน้ำแต่งตัวทั้งเสื้อผ้าของเขาก็ไม่ได้หมองเหมือนเดิมแล้ว ทำให้เธอมองดูว่าใบหน้าเขาก็แจ่มใสขึ้น คงไม่ได้รับการกรอกหูให้ทำแต่เรื่องไม่ดีจากแม่เลี้ยงล่ะสิ

เด็กยังไงก็คือผ้าขาว หากแต้มสีอะไรไปก็จะออกมาแบบนั้น อยู่ที่นี่ขัดเกลานิสัยสักระยะก็ดีเหมือนกัน หากวันใดเขาเปลี่ยนใจอยากกลับไปเป็นคุณชายกู้เธอก็จะไม่ขัดขวาง

เช้าวันนี้ยังคงเหมือนเดิม คนมารอรักษากันตั้งแต่เช้าพวกเราก็แยกย้ายกันทำงาน อาเหล่ยไปโรงเรียนด้วยตัวเอง เสี่ยวหมิงเป็นผู้ช่วยเธอเป็นแบบนี้ทุกวัน

จนกระทั่งผ่านไปเจ็ดวัน คนที่เธอลืมไปแล้วก็มาเยือนเสียที

“หนูถง...ลุงฟ่านเองจำได้หรือไม่”

กู้ถงถงที่คล้องคอด้วยเครื่องวัดการเต้นของหัวใจกำลังจดรายละเอียดอาการของคนไข้พร้อมกับสั่งยา เงยหน้าขึ้นมองแล้วดูลุงฟ่านที่เดินเองได้คล่องเสียด้วย ผิดจากวันแรกที่เจอกันยังต้องพยุง

“สวัสดีค่ะคุณลุงฟ่าน ฉันขอตรวจตรงนี้อีกสองคนก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปคุยด้วย”

คนไข้ตอนเช้าวันนี้มีเพียงสิบคน นี่ก็เกือบหมดแล้ว เธอจึงรีบจัดการให้เสร็จ ส่วนใหญ่ก็มาด้วยอาการปวดท้อง ปวดหลัง และพวกโรคสตรีที่ไม่ได้ดูแลตัวเอง เธอจึงจัดยาให้ได้ง่ายหน่อย

ลุงฟ่านมองร้านของแม่หนูคนนี้แล้วก็คิดอะไรบางอย่าง เขาเตรียมเงินมาจ่ายแทนเจ้าลูกชายตัวดีที่พนันเอาไว้แต่ก็ไม่กล้าสู้หน้า จึงบ่ายเบี่ยงไม่มาวันนี้กลัวขายหน้าสตรี เขาจึงให้คนขับรถมา และต้องการคุยอะไรบางอย่างกับหนูถงถงอีกด้วย

กู้ถงถงตรวจอาการของลุงฟ่านอีกรอบพบว่าอาการดีขึ้นมากแล้วจริง ๆ เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้เธอยิ้มออก

“เดี๋ยวคุณลุงกินยาที่ฉันจัดให้อีกหนึ่งเดือนนะคะ จากนั้นก็ดูแลสุขภาพให้ดีกินอาหารที่มีประโยชน์ไม่มีไขมันมากจนเกินไป”

เธอจัดยาให้หลังจากพูดจบจากนั้นก็ยื่นยาให้ แต่ทว่าสิ่งที่ลุงฟ่านยื่นมาให้คือเงินปึกหนาจนเธอต้องมองอีกครั้ง

“นี่มัน...” เธอมองลุงฟ่านอย่างแปลกใจพลางยักคิ้วถามอย่างสงสัย

“หนึ่งพันหยวนสำหรับรักษาโรคให้ฉัน ฉันเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ นี่ยังคิดว่าน้อยไปด้วยซ้ำ เทียบไม่ได้กับร้อยหยวนที่พนันเอาไว้หรอก” ฟ่านฉายยื่นเงินนั้นให้เธอโดยไม่นึกเสียดายสักนิด

เขามีเงินมากมาย แต่เมื่อเจ็บป่วยกลับใช้เงินนั้นซื้อให้ตัวเองหายจากโรคไม่ได้ด้วยซ้ำ

“หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ”

“รับไปเถอะ ลูกชายฉันยังไม่กล้าสู้หน้าเธอด้วยซ้ำ แล้วสิ่งที่เธออยากขอก็พูดมาเถอะ ฉันจะจัดการให้อย่างดี”

ถงถงยิ้มเงินจำนวนนี้มากก็จริง แต่สิ่งที่อยากได้มากกว่านั้นก็คือ...

“หนูอยากได้ทะเบียนบ้าน และใบอนุญาตประกอบขายยาอย่างถูกต้องที่สามารถจำหน่ายให้โรงพยาบาลได้”

ใช่เธอคิดว่าไม่ง่ายที่จะได้มันในยุคนี้ ทั้งจะรักษาเหมือนโรงพยาบาลยังต้องมีใบอนุญาต ตอนนี้เธอเพียงสั่งยาให้ในนามคนขายยาเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้โดยการรักษาแบบแพทย์

แต่ว่าเรื่องนั้นเธอรู้ดีว่าต้องจบเฉพาะด้าน แต่เรื่องทำยาเธอถนัดและคิดว่าจะช่วยคนป่วยที่ทรมานจากโรคได้เยอะ

ฟ่านฉายยิ้มให้เธอ เขารับรู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นต้องการแบบนี้เพราะอะไร เจ้าเด็กหมิงนั่นไปซื้อคูปองจากเขาอยู่บ่อยครั้ง และจากการสืบประวัติของเธอเขาก็บังเอิญรับรู้เรื่องมาบ้าง

“เรื่องทะเบียนบ้านเธอใส่ชื่อมาเถอะ พรุ่งนี้เธอจะได้ทะเบียนบ้านพร้อมกับคูปอง ส่วนใบอนุญาตนั้น หากเธอรับปากฉันจะช่วยคนคนหนึ่ง ฉันคิดว่าเขาจะจัดหาให้เธอได้”

สิ่งที่ฟ่านฉายพูดทำให้ถงถงขมวดคิ้ว ช่วยใครกันที่มีอำนาจขนาดนั้น หรือว่าเป็นคนสำคัญในตระกูลใหญ่ ๆ

“ใครงั้นเหรอคะ”

“เอาไว้หนูได้พบเขาก่อนจะรู้เอง”

ลุงฟ่านจากไปพร้อมกับทิ้งเงินจำนวนพันหยวนและสิ่งที่เธอสงสัยเอาไว้ ทั้งยังดูมีลับลมคมในเสียจนเธออยากรู้จริง ๆ

ถ้าเขาคนนั้นสามารถทำให้คนอย่างฟ่านฉายพูดจาแบบนี้ได้…เขาจะเป็นใครกันแน่? และทำไมถึงต้องการให้เธอช่วยด้วย?

แต่ไม่ว่าเขาเป็นใคร หากเธอได้เจอสักครั้งไม่แน่อาจจะพอมีทาง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 67

    “ข้าวสองถ้วยเองนะพี่เขย”“....”!เขาถามภรรยาแต่ว่าเจ้าตัวแสบกลับตอบแทนเสียนี่“ถามถงถงไม่ใช่นาย”“ก็ไม่เอ่ยชื่อเล่า แต่หมิงเหมือนกินได้น้อยเกินไปนะ ว่าจะเพิ่มอีกสักครึ่งถ้วย”ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันแล้วก็ลุกหนีไปคนละทาง ปล่อยให้เสี่ยวหมิงเล่นกับตงตงน้อย“ตงตงน้อย โตเร็ว ๆ นะ น้าหมิงรอเล่นด้วยอยู่

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 66

    หานอวี้เหิงที่พ่ายแพ้ให้กับน้องชาย เพราะว่าน้องสะใภ้คลอดลูกล่วงหน้าก่อนถงถงไปไม่กี่เดือน ทำให้เหลนคนแรกของตระกูลถูกตกไปอยู่กับ อวี้หรง และเขารับภาระหน้าที่ในงานของตระกูลมากขึ้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีเวลาให้ภรรยา จนกระทั่งภรรยาคลอดลูกชายตัวขาวอวบออกมา และเขาตั้งชื่อว่า อวี้ตง หรือตงตงน้อยของบ้านเขา

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 65

    หลังจากแต่งงานหนึ่งเดือน ข่าวดีก็มีทันทีพร้อม ๆ กับร้านยาตระกูลหวังที่โรงงานผลิตยาและมีเครื่องมือที่ทันสมัยโดยถงถงเป็นคนคิดและให้เขาไปจัดการให้แต่เธอก็เข้าไปคิดสูตรยาให้ห้วงมิติหลอมยาของเธออีกด้วยแต่สิ่งที่ตามมาหลังจากรู้ว่าภรรยาท้องคือภรรยาเหม็นกลิ่นตัวสามี จนเขาเข้าใกล้ไม่ได้เลยและรอให้ภรรยาหลับ

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 64

    “พี่เขยนี่ไปปล้นใครมาถามจริง เมื่อก่อนไม่ค่อยออกไปไหนไม่ใช่หรือไง มีเงินเยอะแยะขนาดนี้เลยเหรอ” “นี่คือส่วนเล็กน้อยเท่านั้นขอรับคุณชาย” หา...เล็กน้อย...นี่พี่เขยรวยขนาดไหนกันเนี่ย...หมิง ยอมแล้ว ต่อไปหมิงต้องเอาใจพี่เขยให้มากแล้วล่ะ ส่วนคนที่วางแผนเรื่องนี้เอาไว้แล้วก็กก

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 63

    สองมือเล็กยันหน้าอกของเขาเอาไว้ แต่ไม่สามารถกั้นแรงกระแทกที่ซัดเข้าหายิ่งกว่าระลอกคลื่นตอนทะเลมีพายุ ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออันแข็งแรงจ้วงแทงเธอไม่ยั้ง จนคิดว่าที่ผ่านมาที่เขาบอกว่าเจ็บป่วยมาตลอดเขาหลอกเธอหรือเปล่า “อื้อ...อ๊า...” ร่างของเธอกระตุกเกร็งถี่รัวพร้อมกับความ

  • เภสัชสาวตัวแสบทะลุมิติมาป่วนในนิยายยุค 80   บทที่ 62

    ลมหายใจของทั้งสองเริ่มถี่ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเมื่อร่างกายของทั้งคู่ไร้สิ่งปกปิด เขาใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจในการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออก จากนั้นทั้งคู่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอนที่เขาทำเอาไว้แต่งตัวให้ภรรยาคนสวย สองมือหนาลูบไล้ภรรยาคนสวยที่เคยสัมผัสอยู่ทุกคืน แต่คืนนี้จะเป็นคืนพิเศ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status