ขบวนรถไฟส่วนตัวของท่านบารอนเวย์แลนด์เคลื่อนตัวออกจากสถานีอย่างรวดเร็ว เสียงหวูดรถไฟดังสนั่นก้องไปทั่วความมืดมิดของค่ำคืน เมรี่และทีมกระโดดขึ้นไปบนขบวนรถได้อย่างหวุดหวิด หัวใจของพวกเขายังคงเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นจากการไล่ล่า
"เราต้องไปหาเขา!" เมรี่ตะโกน เธอรีบเปิดประตูรถไฟเข้าไปในตู้โดยสาร ตู้โดยสารของรถไฟส่วนตัวคันนี้หรูหราอลังการกว่าที่คิดไว้มาก มีห้องรับรอง ห้องอาหาร และห้องนอนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟระย้าส่องสว่างไปทั่ว ทำให้บรรยากาศดูเคร่งขรึมและลึกลับ "ดูเหมือนเขาจะอยู่ที่ตู้โดยสารสุดท้ายครับ" เอดิสันกล่าว เขาพยุงตัวเองขึ้นยืนโดยใช้ไม้ค้ำยัน พวกเขาเดินไปตามทางเดินแคบๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างตู้โดยสารแต่ละตู้ เสียงล้อรถไฟกระทบรางดัง 'ฉึกฉักๆ' เป็นจังหวะเดียวกับเสียงหัวใจของพวกเขาที่กำลังเต้นระรัว "ระวังนะครับ" เบ็นกล่าว "เขาต้องเตรียมลูกสมุนไว้ที่นี่แน่ๆ" และพวกเขาก็เจอจริงๆ! เมื่อมาถึงตู้โดยสารสุดท้าย พวกเขาก็พบกับลูกสมุนของท่านบารอนเวย์แลนด์สองสามคนยืนเฝ้าประตูอยู่ "ไปได้เลยครับ!" เบ็นตะโกน เขาพุ่งเข้าใส่ลูกสมุนคนหนึ่งทันที การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือดในตู้โดยสารแคบๆ อเล็กซานเดอร์และเฟรเดอริคช่วยกันจัดการกับลูกสมุนคนอื่นๆ ส่วนเมรี่ก็พุ่งเข้าไปที่ประตูห้องของท่านบารอนเวย์แลนด์ทันที "เปิดประตู!" เมรี่ตะโกน ประตูถูกล็อกอย่างแน่นหนา เมรี่ตัดสินใจใช้มีดสั้นที่ได้รับมาจากปู่ทวดงัดประตู และมันก็เปิดออกอย่างง่ายดายราวกับมันไม่ใช่ประตูเหล็ก! "เยี่ยมมากเมรี่!" เฟรเดอริคตะโกน การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย ภายในห้องโดยสารของท่านบารอนเวย์แลนด์นั้นเงียบสงบและเป็นส่วนตัว มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง และมีท่านบารอนเวย์แลนด์นั่งจิบไวน์อยู่บนเก้าอี้นวมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องมา" ท่านบารอนเวย์แลนด์กล่าว "แต่พวกเจ้าก็มาช้าเกินไปแล้ว" เมรี่พุ่งเข้าไปในห้องด้วยความโกรธแค้น "คุณจะหนีไปไหนไม่รอดหรอก! เรามีหลักฐานที่จะเปิดโปงความจริงทั้งหมด!" ท่านบารอนเวย์แลนด์หัวเราะอย่างเยาะเย้ย "หลักฐานอย่างนั้นหรือ? คิดว่าหลักฐานแค่นั้นจะสามารถโค่นล้มข้าได้?" เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ตู้เก็บของที่อยู่ด้านหลัง แล้วหยิบปืนพกออกมา! "ข้าจะไม่มีวันยอมให้แผนการของข้าต้องล้มเหลว!" ท่านบารอนเวย์แลนด์คำราม "ข้าจะควบคุมลอนดอนทั้งเมือง และไม่มีใครจะหยุดข้าได้!" เมรี่ชักมีดสั้นออกมาจากกระเป๋า เธอจ้องไปที่ท่านบารอนเวย์แลนด์ด้วยความเด็ดเดี่ยว "มีดเล่มนี้จะหยุดคุณได้!" "เจ้าคิดว่ามีดเก่าๆ เล่มนี้จะทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรือ!" ท่านบารอนเวย์แลนด์หัวเราะเยาะ "ข้าคือ 'ปรมาจารย์แห่งเงา'!" เขาเล็งปืนมาที่เมรี่และเหนี่ยวไกทันที! "ปัง!" เสียงปืนดังขึ้นกึกก้องไปทั่วห้องโดยสาร เมรี่หลบกระสุนได้อย่างหวุดหวิด แต่กระจกหน้าต่างด้านหลังของเธอก็แตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ! ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง อเล็กซานเดอร์ เฟรเดอริค เบ็น และเอดิสันก็พุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว "ปล่อยเมรี่ไปซะ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน ท่านบารอนเวย์แลนด์หันไปยิงใส่อเล็กซานเดอร์อย่างรวดเร็ว แต่เบ็นใช้ตัวบังกระสุนไว้! "โอ๊ย!" เบ็นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด กระสุนเจาะเข้าที่แขนของเขา เอดิสันพุ่งเข้าไปหาท่านบารอนเวย์แลนด์อย่างรวดเร็ว เขาใช้ไม้ค้ำยันแทงเข้าไปที่ขาของท่านบารอนเวย์แลนด์อย่างแรง! "โอ๊ย!" ท่านบารอนเวย์แลนด์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เขาเสียหลักและล้มลงไป เมรี่เห็นโอกาส เธอพุ่งเข้าไปหาท่านบารอนเวย์แลนด์ และจ่อมีดสั้นไปที่หน้าอกของเขา "คุณไม่มีทางหนีไปได้หรอก!" เมรี่กล่าวด้วยความโกรธแค้น "แกไม่มีทางฆ่าข้าได้หรอก!" ท่านบารอนเวย์แลนด์หัวเราะ "แกไม่มีความกล้าพอที่จะทำอย่างนั้น!" เมรี่ลังเลเล็กน้อย เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถฆ่าใครได้ แต่เธอก็รู้ว่าหากเธอปล่อยเขาไป เขาจะกลับมาแก้แค้นและทำร้ายผู้คนอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงดัง 'ครืน!' ดังขึ้นจากด้านบน รถไฟกำลังจะวิ่งเข้าไปในอุโมงค์! "เราต้องไปจากที่นี่!" เฟรเดอริคตะโกน "มันมืดมาก! เราจะมองไม่เห็นอะไรเลย!" ท่านบารอนเวย์แลนด์ใช้จังหวะนั้นผลักเมรี่ออกไป และเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง! เมรี่มองไปที่ท่านบารอนเวย์แลนด์ แล้วก็มองไปที่หน้าต่างที่แตกอยู่ข้างหลังเธอ เธอมีแผนการบางอย่าง! "ไปค่ะพี่!" เมรี่ตะโกน "เราจะหนีออกจากที่นี่!" เธอพุ่งเข้าไปที่หน้าต่างที่แตก แล้วกระโดดออกไปนอกรถไฟทันที! "เมรี่! ไม่นะ!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน เฟรเดอริคไม่รอช้า เขาคว้ามือของเลดี้อลิซาเบธแล้วกระโดดออกไปตามเมรี่ทันที! อเล็กซานเดอร์และเอดิสันมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องตามน้องสาวไป! "ตามพวกเขาไปเถอะ! ข้าจะจัดการที่นี่เอง!" เบ็นตะโกน เขาใช้มือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บคว้าปืนของท่านบารอนเวย์แลนด์ไว้ อเล็กซานเดอร์พยุงเอดิสัน และพวกเขาก็กระโดดออกไปนอกรถไฟทางหน้าต่างที่แตกไปพร้อมกัน! การร่วงหล่นสู่ความมืด พวกเขาตกลงไปในความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุด! เสียงลมปะทะใบหน้าดังสนั่น เสียงล้อรถไฟที่วิ่งอยู่ด้านบนดังสนั่นหวั่นไหว พวกเขากลิ้งไปตามพื้นดินที่เต็มไปด้วยกรวดและหินอย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกเขาถูกกระแทกเข้ากับสิ่งต่างๆ อย่างรุนแรง เมรี่รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย แต่เธอก็พยายามควบคุมตัวเองให้กลิ้งไปตามพื้นอย่างช้าๆ พวกเขาหยุดลงที่ข้างทางรถไฟอย่างน่าหวาดเสียว พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บและมีรอยถลอกเต็มตัว แต่พวกเขาก็ปลอดภัย "พวกเราไม่เป็นไรใช่ไหม?" เฟรเดอริคถามด้วยน้ำเสียงที่หอบหายใจ "ไม่เป็นไรครับ" อเล็กซานเดอร์ตอบ "แต่เราต้องรีบไปจากที่นี่ ก่อนที่ท่านบารอนเวย์แลนด์จะรู้ว่าเราอยู่ไหน!" เอดิสันพยายามพยุงตัวลุกขึ้น แต่เขาก็ล้มลงไปอีกครั้ง "ขาของผม...มัน...มันไปต่อไม่ไหวแล้วครับ" เมรี่เข้าไปประคองเอดิสัน "เราจะช่วยคุณเองค่ะ" พวกเขาพากันเดินโซซัดโซเซไปตามทางรถไฟที่มืดมิด ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกอยู่ เบ็นได้รับบาดเจ็บที่แขน ส่วนเอดิสันก็บาดเจ็บที่ขาอย่างหนัก เฟรเดอริคก็บาดเจ็บจากการกระโดด แต่พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีแสงไฟดวงหนึ่งส่องเข้ามาหาพวกเขา! "นั่นใครน่ะ!" เลดี้อลิซาเบธตะโกน พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ แต่เมื่อแสงไฟส่องเข้ามาใกล้ขึ้น พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาหาพวกเขา...นั่นคือ มิสเตอร์คลาร์ก! "ข้ามารอพวกเจ้าแล้ว" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าต้องกระโดดหนีออกมาทางนี้" "คุณอยู่ที่นี่ได้อย่างไรครับ!" อเล็กซานเดอร์ถามด้วยความประหลาดใจ "ข้าได้ยินแผนการของเขา" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ข้าคือคนเดียวที่รู้ทุกความลับของท่านบารอนเวย์แลนด์" เขาชี้ไปที่รถยนต์คันหนึ่งที่จอดซ่อนอยู่ในป่าที่อยู่ใกล้ๆ "ไปเถอะ! ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่ที่ปลอดภัย!" เมรี่และทีมมองไปที่มิสเตอร์คลาร์ก พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะเชื่อใจเขาได้หรือไม่ แต่พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว พวกเขาขึ้นรถไปกับมิสเตอร์คลาร์ก และรถก็แล่นออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ทางรถไฟที่มืดมิดไว้เบื้องหลัง เมรี่มองไปที่กระจกหลัง เธอเห็นรถไฟของท่านบารอนเวย์แลนด์แล่นหายไปในความมืดมิด เธอรู้ว่าการต่อสู้ยังไม่จบลง แต่ตอนนี้เธอมีพันธมิตรที่ไม่คาดคิดเข้ามาช่วยแล้วสองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กจอดนิ่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิดของยามค่ำคืน ผู้การฟิลลิปส์ยืนจ้องมองพวกเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก"ส่งสมุดบันทึกนั่นมาให้ข้า!" ผู้การฟิลลิปส์คำราม "แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกแกทุกคน!""ไม่มีทางหรอก!" อเล็กซานเดอร์ตอบ เขาคว้าปืนพกที่เก็บซ่อนไว้ในรถขึ้นมาเล็งไปที่ผู้การฟิลลิปส์"คิดว่าปืนกระบอกเดียวจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ!" ผู้การฟิลลิปส์ยิ้มเยาะ "ข้ามีกำลังคนมากกว่าที่พวกแกคิดนัก!"ทันใดนั้นเอง ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ ผู้การฟิลลิปส์ แล้วชายร่างใหญ่ในชุดสูทสีดำหลายคนก็ลงมาจากรถ"นี่ไง! พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ที่นี่แล้ว!" หนึ่งในนั้นตะโกนสถานการณ์ดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ เมรี่รู้ว่าพวกเขาตกอยู่ในวงล้อมแล้ว"เราต้องสู้ครับ!" เอดิสันกล่าว เขาพยายามพยุงตัวเองให้ยืนได้ด้วยขาที่บาดเจ็บ"เราจะสู้ด้วยกัน!" เลดี้อลิซาเบธกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด!เฟรเดอริคและเบ็นพุ่งเข้าใส่ลูกสมุนของ 'เงาแห่งลอนดอน' อย่างรวดเร็ว พวกเขาต่อสู้กันอย่างไม่ลดละ ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็ยิงปืนใส่คนร้ายอย่างแม่นยำเมรี่และเอดิสัน