เสียงไซเรนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วคฤหาสน์เวย์แลนด์ แสงไฟสีแดงและน้ำเงินของรถตำรวจกะพริบไปมาท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในคฤหาสน์ต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมรี่และทีมวิ่งออกมาจากห้องทำงานของท่านบารอนเวย์แลนด์อย่างรวดเร็ว โดยมีหลักฐานสำคัญอยู่ในกระเป๋าของอเล็กซานเดอร์ "ประตูหน้าถูกปิดตายแล้วครับ!" เฟรเดอริคตะโกน "มีตำรวจอยู่ทุกที่!" "ไปทางห้องครัวครับ! น่าจะมีทางออกด้านหลัง!" เอดิสันซึ่งยังคงบาดเจ็บที่ขาและต้องใช้ไม้ค้ำยันอยู่ กล่าวอย่างเร่งรีบ พวกเขาพุ่งตัวไปตามทางเดินที่มืดมิดและซับซ้อนของคฤหาสน์ โดยมีเบ็นคอยนำทางและคุ้มกันอยู่ด้านหลัง ทุกย่างก้าวของพวกเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เมื่อมาถึงห้องครัว พวกเขาก็พบว่ามันเต็มไปด้วยควันไฟที่ลอยออกมาจากเตาอบที่ถูกเปิดทิ้งไว้ เลดี้อลิซาเบธไอออกมาเล็กน้อย "นี่มันอะไรกันคะ?" "ผมเปิดทิ้งไว้เพื่อสร้างความวุ่นวายครับ" เอดิสันตอบ เบ็นตรงไปที่ประตูหลังที่ถูกล็อกไว้ เขาใช้กำลังทั้งหมดที่มีพังประตูออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงไม้แตกดังสนั่น "ไปครับ!" เบ็นตะโกน พวกเขาพุ่งตัวออกไปในสวนหลังบ้านที่มืดมิดและเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ แต่เมื่อออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง พวกเขาหันไปมอง และเห็นมิสเตอร์คลาร์กวิ่งตามมาพร้อมกับลูกสมุนอีกสองสามคน "พวกแกหนีไม่พ้นหรอก!" มิสเตอร์คลาร์กตะโกน แต่แล้ว จู่ๆ มิสเตอร์คลาร์กก็ล้มลงไปกองกับพื้น เขาไม่ได้ถูกยิงหรือถูกทำร้าย แต่เขาดูเหมือนจะ...หัวเราะ? "แกคิดว่าแกจะจับตัวข้าได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ!" เสียงของมิสเตอร์คลาร์กเปลี่ยนไป มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเสียใจ "ข้าถูกบารอนเวย์แลนด์หลอกมาตลอดชีวิต! ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครอีก!" เขาหันไปมองลูกสมุนที่เหลือ "กลับไปซะ! พวกแกไม่มีทางสู้กับพวกเขาทั้งหมดได้หรอก!" ลูกสมุนของมิสเตอร์คลาร์กดูสับสน แต่พวกเขาก็เชื่อฟังและถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว "คุณกำลังทำอะไรคะ!" เมรี่ถามด้วยความประหลาดใจ "ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง!" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ข้ารู้จักทางลับที่จะออกจากคฤหาสน์นี้ได้!" เขาลุกขึ้นยืนและเดินนำพวกเขาไปยังกำแพงสูงที่อยู่หลังสวนหลังบ้าน "ทางนี้จะนำพวกเจ้าไปสู่ถนนอีกเส้นหนึ่งที่ไร้ผู้คน" "แล้วคุณล่ะคะ?" เลดี้อลิซาเบธถาม "ข้าจะไปมอบตัวกับตำรวจ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ข้าจะเปิดโปงความจริงทั้งหมดที่ข้ารู้เกี่ยวกับ 'เงาแห่งลอนดอน' และบารอนเวย์แลนด์!" เมรี่มองไปที่มิสเตอร์คลาร์ก เธอเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิดและความมุ่งมั่น เธอรู้ว่าเขาคือชายที่ถูกหลอกใช้และถูกหักหลัง และตอนนี้เขากำลังพยายามไถ่บาปในสิ่งที่เขาทำลงไป "ขอบคุณค่ะ" เมรี่กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ "รีบไปซะ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "อย่าให้ความตายของพี่ชายเจ้าต้องไร้ความหมายอีกเลย!" พวกเขาปีนข้ามกำแพงไปตามที่มิสเตอร์คลาร์กบอก แล้ววิ่งไปตามถนนที่ไร้ผู้คนอย่างรวดเร็ว ความช่วยเหลือจากศัตรูเก่า พวกเขามาถึงรถของเอดิสันที่จอดซ่อนอยู่ในตรอกแคบๆ เลดี้อลิซาเบธเป็นคนขับ อเล็กซานเดอร์นั่งอยู่ข้างๆ เอดิสันนอนอยู่เบาะหลัง ส่วนเมรี่และเฟรเดอริคนั่งอยู่เบาะหลังเช่นกัน "เราจะไปไหนกันต่อคะ?" เลดี้อลิซาเบธถาม "เราต้องไปหาผู้สื่อข่าวที่ไว้ใจได้ครับ" เอดิสันตอบ "เราจะเปิดโปงความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น!" พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์รายวันแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมือง มันเป็นสำนักพิมพ์เก่าแก่ที่ดูเงียบสงบ "คุณแน่ใจนะคะว่าจะไม่มีใครทรยศเรา?" เมรี่ถามด้วยความกังวล "ผู้สื่อข่าวที่ผมจะพาไปหาเป็นเพื่อนของผมครับ" เอดิสันตอบ "เขาคือคนเดียวที่ผมเชื่อใจได้" เมื่อเข้าไปในสำนักพิมพ์ พวกเขาก็พบกับชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังง่วนอยู่กับการพิมพ์งานบนเครื่องพิมพ์ดีดเก่าๆ "จอห์น!" เอดิสันเรียก จอห์นเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ "เอดิสัน! นายมาทำอะไรที่นี่! เกิดอะไรขึ้นกับนาย!" เอดิสันเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้จอห์นฟัง ตั้งแต่การหายตัวไปของเฟรเดอริค จนถึงการตามล่ารหัสลับและแผนผังอุโมงค์ใต้ดิน และการเผชิญหน้ากับท่านบารอนเวย์แลนด์! จอห์นฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากความประหลาดใจเป็นความโกรธแค้น "นี่มันน่าตกใจจริงๆ! แล้วหลักฐานอยู่ไหนล่ะ!" อเล็กซานเดอร์หยิบแฟ้มเอกสารออกมา "นี่คือหลักฐานทั้งหมดครับ" จอห์นรับแฟ้มเอกสารมาเปิดอ่าน ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นรายชื่อบุคคลสำคัญในสังคมที่เข้าร่วมใน 'เงาแห่งลอนดอน' "นี่มันจะสั่นสะเทือนลอนดอนทั้งเมืองเลยนะ!" จอห์นกล่าว "ฉันจะพิมพ์ข่าวนี้ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับพรุ่งนี้ให้เร็วที่สุด!" เมรี่มองไปที่จอห์น เธอรู้สึกถึงความหวังที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจของเธอ แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง "น่าประทับใจจริงๆ ที่พวกเจ้าสามารถมาถึงที่นี่ได้" เสียงนั้นกล่าว "แต่ความพยายามของพวกเจ้าก็ไร้ผล!" พวกเขาหันขวับ และพบกับท่านบารอนเวย์แลนด์ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา! ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่น่าขนลุก และมือของเขาก็กุมบาดแผลที่ถูกมีดสั้นแทงไว้ "คุณรอดมาได้อย่างไร!" เมรี่อุทานด้วยความตกใจ "แกคิดว่าข้าจะตายง่ายๆ อย่างนั้นหรือ!" ท่านบารอนเวย์แลนด์หัวเราะ "ข้ามีอำนาจมากกว่าที่แกคิดนัก!" เขากดปุ่มบางอย่างที่อยู่บนโทรศัพท์ และทันใดนั้นเอง ก็มีตำรวจหลายนายบุกเข้ามาในสำนักพิมพ์! "พวกเจ้าทั้งหมดเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลักทรัพย์และทำลายทรัพย์สิน!" ตำรวจนายหนึ่งประกาศ "ตามคำสั่งของท่านบารอนเวย์แลนด์!" "ไม่นะ!" จอห์นตะโกน "เขาโกหก! เขาคือ 'ปรมาจารย์แห่งเงา'!" แต่ตำรวจไม่ฟัง พวกเขาตรงเข้ามาจับกุมตัวทุกคนในทีม และพาพวกเขาไปที่สถานีตำรวจทันที! แสงสว่างแห่งความจริง ที่สถานีตำรวจ เมรี่และทีมถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกัน พวกเขารู้สึกสิ้นหวัง หลักฐานที่พวกเขาสู้มาด้วยชีวิตกำลังจะตกไปอยู่ในมือของท่านบารอนเวย์แลนด์ และความจริงก็กำลังจะถูกฝังกลบไว้ในความมืดมิด "เราจะทำอย่างไรกันดีคะ?" เลดี้อลิซาเบธถามด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง "เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราต้องเปิดโปงความจริงให้ได้!" ทันใดนั้นเอง ประตูห้องขังก็ถูกเปิดออก และชายผู้หนึ่งก็เดินเข้ามา เขาคือ...มิสเตอร์คลาร์ก! "ข้ามาช่วยพวกเจ้าเอง" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ข้าได้เล่าความจริงทั้งหมดให้ตำรวจฟังแล้ว" เขายื่นกุญแจห้องขังให้พวกเขา และบอกว่า "ท่านบารอนเวย์แลนด์กำลังวางแผนที่จะหนีออกจากลอนดอนด้วยรถไฟส่วนตัวของเขา พวกเจ้าต้องไปหยุดเขาให้ได้!" พวกเขาออกจากห้องขังอย่างรวดเร็ว และวิ่งออกจากสถานีตำรวจไปทันที โดยมีมิสเตอร์คลาร์กช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจคนอื่นๆ ให้ เมื่อออกมาได้ พวกเขาก็กระโดดขึ้นรถที่จอดรออยู่ และขับรถไปยังสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกอยู่ "เราจะทันไหมครับ?" เฟรเดอริคถาม "ต้องทันครับ!" เอดิสันตอบ "เราต้องไม่ปล่อยให้เขาหนีไปได้!" เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ พวกเขาก็พบว่าขบวนรถไฟส่วนตัวของท่านบารอนเวย์แลนด์กำลังจะเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา! "เร็วเข้า!" อเล็กซานเดอร์ตะโกน พวกเขาพุ่งตัวไปที่รถไฟ และกระโดดขึ้นไปบนขบวนรถได้อย่างหวุดหวิด ทิ้งให้สถานีรถไฟที่เต็มไปด้วยผู้คนไว้เบื้องหลัง เมรี่มองไปที่กระจกหน้าต่างรถไฟ เธอเห็นท่านบารอนเวย์แลนด์ยืนอยู่ด้านในรถไฟของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เหนือชั้น เขากำลังจะหนีรอดไปได้แล้ว! แต่แล้ว จู่ๆ ก็มีแสงแฟลชสว่างวาบขึ้นจากชานชาลาที่พวกเขาจากมา... "นั่นอะไรคะ?" เลดี้อลิซาเบธถาม เมรี่มองออกไปนอกหน้าต่าง และพบกับจอห์น ผู้สื่อข่าวที่พวกเขาเพิ่งเจอ กำลังยืนถ่ายรูปพวกเขาอยู่ เขาถ่ายรูปพวกเขาพร้อมกับรถไฟที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าท่านบารอนเวย์แลนด์กำลังหลบหนี! ในที่สุด ความจริงก็กำลังจะปรากฏขึ้นแล้ว!เมรี่วิ่งไปตามตรอกซอกซอยที่แคบและซับซ้อนของลอนดอน โดยมีเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของผู้คนดังไล่หลังมาอย่างไม่หยุดหย่อน เธอพยายามหาที่หลบซ่อนที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหญิงในที่สุด เธอก็มาถึงโรงละครเก่าๆ แห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง มันเป็นที่ที่เธอเคยใช้เป็นฐานลับในการสืบสวนคดีต่างๆ ในอดีต"เราปลอดภัยแล้วนะหนู" เมรี่กล่าวพร้อมกับวางเด็กหญิงลง "ไม่ต้องกลัวแล้วนะ"เด็กหญิงยังคงร้องไห้อย่างต่อเนื่อง เมรี่กอดเธอไว้แน่นเพื่อปลอบประโลมในขณะที่เธอกำลังกอดเด็กหญิงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง..."น่าประทับใจจริงๆ ที่เจ้ายังจำที่แห่งนี้ได้"เมรี่หันขวับ และพบกับชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยแววตาที่เฉลียวฉลาด และแววตาที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ"คุณเป็นใครคะ!" เมรี่ถามด้วยความสงสัยชายชราคนนั้นยิ้ม "ข้าคือคนที่เฝ้ารอเจ้ามานานแล้ว"เขาก้าวเข้ามาใกล้เมรี่ แล้วยื่นมือมาสัมผัสที่ใบหน้าของเธอ เมรี่รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าบางอย่างที่ไหลผ่านร่างกายของเธอ"เจ้าคือความหวังสุดท้ายของข้า" ชา
สองสัปดาห์ผ่านไปนับตั้งแต่การล่มสลายของ 'กาลเวลา' องค์กรลับที่เคยบงการโลกเบื้องหลังฉาก เมรี่และทีมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้งในลอนดอน แม้จะมีชื่อเสียงในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเก็บตัวและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมอเจเน็ตยังคงดูแลคลินิกใต้ดินของเธอ มิสเตอร์คลาร์กได้กลับไปใช้ชีวิตในฐานะผู้จัดการสำนักพิมพ์ที่ซื่อสัตย์ ส่วนนักสืบโธมัสก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในวงการตำรวจเช้าวันหนึ่งที่สดใส เมรี่กับเฟรเดอริคตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ตลาดนัดคอเวนต์การ์เดน ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน เสียงดนตรีจากนักแสดงข้างถนนดังคลอเคลียกับเสียงหัวเราะของผู้คนที่เดินจับจ่ายซื้อของ บรรยากาศดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา"นี่แหละชีวิตที่แท้จริง!" เฟรเดอริคกล่าวพร้อมกับสูดหายใจลึกๆ "ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวาย ไม่ต้องมีองค์กรลับมาตามล่า"เมรี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยกับพี่ชายอย่างเต็มที่ แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าบางอย่าง...ราวกับว่าชีวิตที่ไร้ความตื่นเต้นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอโหยหาอีกต่อไปขณะที่พวกเขากำลังเลือกซื้อดอกไม้อยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงระเ
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นไปทั่วศูนย์บัญชาการลับขององค์กร 'กาลเวลา' แสงไฟสีแดงกะพริบไปมา สร้างบรรยากาศที่ตึงเครียดและอันตรายยิ่งกว่าเดิม เมรี่และทีมต้องเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดวิลเลียมส์และเหล่า 'ยมทูต' ที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง"พวกแกไม่มีทางทำลาย 'แกนกลาง' ของข้าได้หรอก!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำราม "ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว!"เขากดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในข้อมือของเขา และทันใดนั้นเอง กำแพงเหล็กขนาดใหญ่ก็เลื่อนลงมาปิดกั้นทางเข้าออกทุกทาง ทำให้พวกเขาติดอยู่ในห้องควบคุมแห่งนี้"ไม่นะ!" เฟรเดอริคอุทาน "เราติดกับแล้ว!""ไม่ต้องห่วงครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ผมรู้ทางออกครับ!"เขาชี้ไปที่ช่องระบายอากาศขนาดเล็กที่อยู่บนเพดาน "เราต้องเข้าไปในนั้น!"แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร ท่านลอร์ดวิลเลียมส์ก็พุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว เขามีพละกำลังและความว่องไวที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปราวกับว่าเขามีพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยเสริม"แกจะต้องเป็นคนแรกที่ตาย!" ท่านลอร์ดวิลเลียมส์คำรามใส่เมรี่เมรี่หลบการโจมตีของเขาได้อย่างหวุดหวิด เธอใช้มีดสั้นป้องกันตัวเองจากคมมีดของท่านลอร์ดวิลเลียมส์ที่พุ่งเ
รถยนต์ของมิสเตอร์คลาร์กแล่นฉวัดเฉวียนไปตามถนนในลอนดอนอย่างรวดเร็ว โดยมีรถของหัวหน้าใหญ่แห่ง 'ยมทูต' เป็นเป้าหมาย พวกเขาขับผ่านผู้คนและรถยนต์คันอื่นๆ อย่างไม่ลดละ การไล่ล่าดำเนินไปอย่างดุเดือดท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของมหานคร"เราต้องไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดครับ!" มิสเตอร์คลาร์กกล่าว "ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้!""สำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนคะ?" เมรี่ถามด้วยความสงสัย"มันอยู่ในใจกลางเมืองครับ" เอดิสันตอบ "เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจอเลย"ในที่สุด รถของ 'ยมทูต' ก็แล่นเข้าไปในอาคารสูงระฟ้าแห่งหนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างน่าตกใจ"นั่นไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "พวกเขาเข้าไปในนั้นแล้ว!""เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" เฟรเดอริคถาม "ระบบรักษาความปลอดภัยที่นั่นเข้มงวดมาก""เราไม่ต้องเข้าไปครับ" มิสเตอร์คลาร์กยิ้ม "เราจะใช้ทางลับ"เขาพาพวกเขาไปยังทางเข้าอุโมงค์ใต้ดินแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารนั้น มันเป็นทางเข้าที่ถูกปกปิดไว้อย่างมิดชิด จนแทบไม่มีใครสังเกตเห็น"อุโมงค์นี้จะนำเราไปสู่ทางเข
สองสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่ลอนดอน ชีวิตของเมรี่และทีมก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่ได้เป็นแค่นักสืบธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้เปิดโปงองค์กรลับที่สั่นสะเทือนสังคมอังกฤษทั้งประเทศ ข่าวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และชื่อของตระกูลแบล็ควู้ดก็กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะนักสืบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้เช้าวันหนึ่ง จดหมายฉบับหนึ่งจากราชสำนักได้ส่งมาถึงพวกเขา มันเป็นจดหมายเชิญให้พวกเขาไปรับรางวัลเกียรติยศที่พระราชวังบักกิงแฮม ในฐานะผู้ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีสำคัญของประเทศ"นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ!" เฟรเดอริคกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราจะได้ไปพระราชวังบักกิงแฮม!""เราไม่ได้ไปเที่ยวครับพี่เฟรเดอริค" อเล็กซานเดอร์กล่าว "เราไปในฐานะผู้ได้รับเชิญให้ไปรับรางวัล"เมรี่มองไปที่จดหมายเชิญ เธอรู้สึกดีใจและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่ในใจลึกๆ เธอก็ยังรู้สึกถึงความกังวลบางอย่างที่ไม่อาจทราบสาเหตุ"ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ" เอดิสันกล่าว "เราจะไปพระราชวังกันวันนี้"พวกเขาแต่งกายในชุดสูทและชุดราตรีที่ดูสง่างาม และนั่งรถม้าคันหรูที่ราชสำนักส่
ท้องฟ้าเหนือลอนดอนเป็นสีเทาหม่น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านก้อนเมฆหนาทึบ บรรยากาศเงียบสงัดราวกับกำลังรอคอยบทสรุปของเรื่องราวที่ยืดเยื้อมานาน เมรี่และทีมยืนเผชิญหน้ากับท่านลอร์ดเอียน เกรย์ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและอำมหิต"คิดว่าการจับกุมผู้การฟิลลิปส์จะหยุดย้าข้าได้งั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนกล่าว "ข้าคือ 'ท่านลอร์ดผู้สูงศักดิ์' ที่แท้จริง และพวกเจ้าทุกคนจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้!"เขาไม่ได้มาคนเดียว ชายฉกรรจ์ในชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากเงามืด รายล้อมพวกเขาไว้จากทุกทิศทาง"พวกแกมีกันแค่หกคน" ท่านลอร์ดเอียนเยาะเย้ย "จะสู้กับคนจำนวนมากอย่างพวกเราได้อย่างไร!""เราสู้เพื่อความถูกต้อง!" เมรี่ตะโกน "ความจริงจะเปิดเผยทุกอย่าง!""ความจริงอย่างนั้นหรือ!" ท่านลอร์ดเอียนหัวเราะ "ข้าคือความจริง! ข้าคือผู้กำหนดชะตากรรมของลอนดอน!"การต่อสู้ครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นแล้ว!เบ็นกับเอดิสันที่อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี พยายามเข้าจัดการกับลูกสมุนของท่านลอร์ดเอียนอย่างสุดกำลัง เฟรเดอริคกับอเล็กซานเดอร์ต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อปกป้องเลดี้อลิซาเบธ เมรี่คว้ามีดสั้นที่มิสเตอร์คลาร์กเก็บไว้ให้เ