“กลืนมันลงไปเดี๋ยวนี้ปองรัก” เขาทำเสียงเข้ม สีหน้าพอใจ และสูดปากส่งเสียงออกมาอยู่ตลอดเวลา
เธอสบตาเขาด้วยน้ำตาคลอหน่วย รีบกลืนสิ่งที่เขายัดเยียดเข้าไปในคอเธอแบบพะอืดพะอม พอเขาชักมันออกเธอก็ทำเหมือนจะอ้วก ชายหนุ่มรั้งร่างเธอขึ้น และประกบริมฝีปากของเขาลงไปในทันที ปลายลิ้นตวัดรัดรึงปลายลิ้นของเธอแบบพัวพันสองมือของเขายังบีบเค้นสะโพกแน่น ๆ ของเธออย่างไม่รามือ
“เก่งมากแม่สาวน้อย” เขาชมเธอเปาะ เมื่อผละริมฝีปากออกมา ก่อนจะยกนิ้วกรีดเช็ดน้ำตาให้
“ฉันถูกใจเธอนะ เธอได้ทำงานที่นี่ ฉันให้เธอเป็นเลขา เดี๋ยวจะให้คนมาตั้งโต๊ะของเธอเอาไว้ที่ในห้องนี้ และหน้าที่ของเธอคือทำให้ฉันมีความสุข” เขาบอกเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ปองรักหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เธอทั้งเจ็บและก็อาย ตอนนี้อยากจะร้องไห้สุด ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เขาปล่อยร่างเธอเป็นอิสระ หญิงสาวรีบจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้อยู่ในสภาพปกติ ไม่ลืมไปหยิบกางเกงในและกระโปรงที่หล่นลงไปอยู่ที่พื้น ด้วยหญิงสาวรู้สึกร่องรักของเธอยังตอดขมิบไม่หยุด เจ็บร้าวจนยืนแทบไม่อยู่ ขาสั่นไปหมด เธอหันหลังให้เขา แล้วใส่กางเกงใน และกระโปรงอย่างรวดเร็ว
ฟาเบียนหยิบกางเกงของตัวเองไปพาดที่เก้าอี้ แล้วบรรจงสวมมันอย่างช้า ๆ สายตาของเขาก็ยังจับจ้องอยู่ที่ร่างบางที่ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
“นั่งลง” เขาออกคำสั่งกับเธออีกครั้ง
ปองรักยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง เธอค่อย ๆ นั่งลงต่อหน้าเขา พลางยกมือขึ้นจัดผมเผ้าที่ตอนนี้กระเซิงไม่เป็นทรง
“เอาเท่าไร” เขาถามเธอออกมาตรง ๆ หยิบเช็คที่อยู่ในลิ้นชักออกมาวางไว้ตรงหน้า
“หนึ่งล้าน”
“หนึ่งล้าน” เธอพูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา พยายามบังคับตัวเองไม่ให้น้ำเสียงแกว่ง
“เธอคิดว่าฉันจะจ่ายให้ค่าพรหมจรรย์ของผู้หญิงมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ปองรักรู้สึกเจ็บไปถึงขั้วหัวใจ เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะของเขา เธอก็อยากจะกรีดร้องออกมา
ฟาเบียนเขียนเช็คให้ปองรักหนึ่งล้านจริง ๆ เขายื่นมันมาตรงหน้าของเธอ
“ปกติฉันจ่ายไม่ถึงล้านนะ แต่เที่ยวนี้ฉันบอกได้เลยว่าประทับใจ แต่...” เขาเว้นระยะการพูด เธอถอนหายใจออกมาเสียงดัง ช้อนสายตามองเขาอย่างเจ็บใจในตัวเอง
“นี่เป็นค่าจ้างตลอดการฝึกงานอยู่ที่นี่ และเธอต้องขึ้นเตียงกับฉันทุกเวลาที่ฉันต้องการ” ปองรักเหมือนโดนตบหน้าแรง ๆ เธอหน้าชาไปหมด เอื้อมมืออันสั่นเทาไปรับเช็คที่เขาโยนมันมาไว้ตรงหน้า
“กลับบ้านได้แล้ว กลับมาทำงานอาทิตย์หน้า เริ่มงานวันจันทร์ นั่นห้องน้ำ เข้าไปเช็กสภาพตัวเองก่อนจะออกจากห้องของผมไป”
หญิงสาวรู้สึกตัวเองไม่มีค่าอะไรเลยตอนนี้ พอขาก้าวพ้นเข้าประตูห้องน้ำไป และปิดประตูสนิท ทำนบน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างรวดเร็ว เธอปิดปากตัวเองร้องสะอึกสะอื้นอยู่ในนั้น
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... เสียงประตูห้องน้ำถูกเคาะถี่
“อย่าพิรี้พิไรอยู่ในนั้นนะ ผมให้เวลาคุณอีกแค่ห้านาที” เขาส่งเสียงดุเข้ามา
ปองรักรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว ล้างหน้าล้างตา และบ้วนปาก เธอหยิบแป้งพัพขึ้นมาตบ ๆ และหาลิปแท่งเดิมขึ้นมาทา เธอนั่งลงไปที่โถชักโครก ฉีดน้ำชำระคราบคาวโลกีย์ของชายหนุ่มออกไปให้หมดพอเธอเปิดประตูออกมาก็ไม่เห็นเขาอยู่ตรงนั้นแล้ว
“น้องปองรักคะ เดี๋ยวรถของที่นี่จะไปส่งให้ดูหอพัก แล้วจะไปส่งที่คิวรถตู้นะคะ อย่างที่บอสบอก เริ่มงานวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่ไปดูหอพักแล้วรับกุญแจที่แม่บ้านคนคุมหอพักได้เลยนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ” ปองรักยกมือไหว้ขอบคุณเลขานุการสาว แต่ก็ไม่กล้าสบสายตากับเธอเลยสักนิดเดียว
หญิงสาวเดินกลับออกไปด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว มันเหมือนตายทั้งเป็นเลย
‘พ่อจ๋า แม่จ๋า จิลรักพ่อกับแม่นะ จิลจะทำทุกอย่างเพื่อพ่อกับแม่ค่ะ’ เธอบอกรักพ่อแม่ ท่านทั้งสองเหมือนกับเป็นยาชูกำลัง และเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะปลอบใจตัวเองได้ดีที่สุดในขณะนี้
สายตาคู่นั้นของฟาเบียนมองตามหลังปองรักไปด้วยความอาวรณ์ เขาน่าจะได้กระแทกเธอต่ออีกทั้งคืน แต่ไม่เป็นไร อดเปรี้ยวเอาไว้กินหวาน เขายิ้มยกอย่างยินดีมากมาย
“เป็นไงบ้างลูกที่ทำงาน” แม่ถามขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าลูกสาว เธอโผเข้ากอดแม่เอาไว้ กำลังใจมีมาอย่างมากมาย เธอนั่งร้องไห้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางจากสัตหีบถึงกรุงเทพฯ
กลับไปบ้านแล้วแพ็คกระเป๋าเสื้อผ้ามานอนกับพ่อและแม่ ปองรักบอกตัวเองต้องทำให้ดีที่สุดในฐานะลูกคนหนึ่งที่จะทำให้ทั้งสองได้
“ไม่เห็นตอบเลยว่า เป็นยังไงบ้าง” แม่ยกมือขึ้นลูบผมของเธอด้วยความรัก
“ดีจ้ะแม่ ดีทุกอย่างเลย เจ้านายก็ใจดี ท่านมีที่พักอย่างดีและปลอดภัยให้ด้วย เนี่ยหนูถ่ายรูปมาให้แม่ดูด้วยแม่จะได้สบายใจ” เธอหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า ตอนนี้นั่งลงไปกับพื้นเสื่อที่แม่ปูไว้ที่พื้น ผู้เป็นแม่ที่นั่งบนเก้าอี้รีบทรุดตัวลงไปนั่งด้วย
“ฮู้... สบายจริง ๆ นะแหละ เขาให้พักกับใครลูก”
“คนเดียวจ้ะแม่” เธอส่งยิ้มให้กับแม่ คุณแม่ซักไซ้เรื่องราวต่าง ๆ อีกพักใหญ่เธอได้แต่สะท้อนในใจ และเสียใจที่ต้องโกหก
“แม่บิลค่าใช้จ่ายในการรักษาพ่อมีไหมจ๊ะ” เธอเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะก็ได้คุยกันคร่าว ๆ แล้วว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีมาทวงค่าใช้จ่ายที่เกินมา
ผู้เป็นแม่หยิบมันออกมาจากกระเป๋าสตางค์เธอพับเอาไว้อย่างดี ปองรักมองดูตัวเลขบนนั้น ‘69,750 บาท’
“แม่จ๋า เดี๋ยวหนูไปจ่ายเลยนะ จะได้ไม่ค้างเขาหลายวัน” เธอรีบลุกขึ้นไป
ก่อนจะมาที่นี่เธอเอาเช็คที่ฟาเบียนเขียนให้ไปขึ้นเงินและฝากเข้าบัญชีที่ห้างใกล้บ้านที่เธอไปเปิดบัญชีไว้แล้ว
ห้าปีต่อมาเด็กสายสายฟ้าอายุได้ 6 ขวบ เขามีน้องสาวอีกหนึ่งคน ชื่อว่าน้องพรีม หรือว่าเด็กหญิง พีรดา ฟรองซัว ตอนนี้อายุ 4 ขวบแล้วและตอนนี้คุณแม่กำลังมีน้องของทั้งสองคนอยู่ในท้องอีกหนึ่งคน คุณพ่อบอกว่าไม่ต้องลุ้น ให้คุณหมออัลตร้าซาวด์ไปเลยว่าเป็นลูกสาวหรือลูกชายสรุปได้ผลออกมาแล้วว่าเป็นลูกชาย ฟาเบียนยิ้มแก้มปริเมื่อรู้เรื่อง ปองรักบอกว่าขอท้องอีกท้องนี้ท้องเดียว จะปิดอู่เลย พอรู้ว่าได้ลูกชายคุณพ่อก็ไฟเขียวให้คุณแม่ทำหมันได้หลังจากที่คลอดน้อง“จิลจ๊ะ ถึงไหนกันแล้ว จิรากับเดียว” ฟาเบียนเดินเข้ามาหาภรรยาคนสวย ตอนนี้เธอกำลังจัดการทุกอย่างเพื่อปาร์ตี้เล็กของสองครอบครัวที่นัดกันสามเดือนครั้ง“โทรมาเมื่อสักครู่ คงจะใกล้ถึงแล้ว” เธอหันไปตอบเขา ฟาเบียนเดินมาเลื่อนเก้าอี้ แล้วดันหลังให้เธอนั่งลง“ให้เด็กจัดการเถิดน่า จะคลอดอยู่แล้ว” ฟาเบียนทำเสียงดุ เธอส่งยิ้มให้สามี เขาก้มหน้าลงมาชิดแล้วจุ๊บไปที่ริมฝีปากของเธอเบา ๆ“คุณแม่ขา พี่สายฟ้าแกล้งลูก” เด็กหญิงพรีมพูดเสียงดังฟังชัดเดินเข้ามาฟ้องคุณพ่อกับคุณแม่ที่นั่งกอดกันอยู่ตรงนั้น“ผมไม่ได้แกล้งนะครับคุณแม่ ยายหนูพรีมขี้ฟ้อง” สายฟ้าทำเสียงดัง ก่อนชักส
“ใครโทรมาจ๊ะ” ฟาเบียนถามปองรัก เขาเดินเปลือยตัวท่อนบน ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก เช็ดหลังเดินเข้าไปหาเตียงเล็กของสายฟ้าที่วางอยู่ใกล้ ๆ เตียงใหญ่ของทั้งคู่“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ” เขามองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ยกมือไปแตะที่หน้าผากขยี้เบา ๆ ก่อนจะหันกลับมาหาปองรักที่นั่งยิ้มรออยู่บนเตียง“จิราโทรมาค่ะ แจ้งข่าวดีว่าท้องได้สี่เดือนแล้ว” สีหน้ายินดีไปกับเพื่อนรักด้วย“จริงหรือจ๊ะ งั้นคุณฟาจะยอมแพ้ได้ไง จัดสิคืนนี้” ว่าแล้วเขาดึงผ้าเช็ดตัวที่พันกายออกไปให้พ้น แล้วก็รวบกอดเมียรักเขาสู่อ้อมแขน ดันร่างภรรยาคนสวยให้นอนลงไป ทาบร่างหนาใหญ่ขึ้นไปทับร่างกายของปองรักเอาไว้ทั้งตัว“ทำหน้าทำตาหื่นเชียว” เธอยกนิ้วจิ้มไปที่จมูกของเขา“คุณฟาจะเอาลูกสาวนะคืนนี้ จิลจะได้ไม่เหนื่อย วุ่นทั้งวันเหมือนเลี้ยงสายฟ้า เด็กผู้หญิงน่าจะน่ารัก แล้วคงพูดง่ายกว่านี้”“แหนะไปว่าลูก สายฟ้าได้ยินน้อยใจแย่” เธอทำจมูกย่นใส่เขา“ลูกสาวจะได้น่ารักเหมือนแม่” ฟาเบียนพูดต่อ“อ่อ... ที่สายฟ้าเป็นทุกวันเนี่ย คงเหมือนคุณพ่อแน่สินะคะ” เธอได้ทีว่าเข้าให้“หื้อ... หาเรื่องนี่นา แบบนี้ต้องลงโทษ” พูดจบเขาก็ฉกใบหน้าลงไปคลุกวงใน ก่อน
ก๊อก... ก๊อก... เคาะได้สองที นิจิตก็เปิดผลัวะเข้ามา เดินตรงมายังเตียงนอนของคนไข้“จิราเป็นอะไรครับ เป็นอะไร ผมโทรหาใครก็ไม่มีใครรับ ไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ตรงนี้กันพร้อมหน้า” เขายืนเหนื่อยหอบเอาการอยู่ ก็ไม่ให้เหนื่อยได้ยังไง วิ่งมาตัวปลิวนิจิตจับมือสุจิราเอาไว้แน่น พอเห็นหน้าซีด ๆ ของเมีย ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เขายกมือขึ้นแตะหน้าผากของเธอเหมือนวัดไข้“เมื่อเช้าก็เห็นดี ๆ อยู่” เขาพูดกับเธอคุณแม่ของนิจิตยกมือของท่านวางไว้บนไหล่ของลูกชายที่ตอนนี้หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้ภรรยาสุดที่รักที่สุดนิจิตยกหน้าขึ้นไปมองแม่“หมอว่ายังไงครับ” เขายังมีสีหน้าเคร่งเครียด สองคุณแม่มองหน้าลูกชายแล้วส่งยิ้มให้นิจิตถึงกับเหวอ“จิราไม่สบาย คุณแม่ยังยิ้มกันออกอีกหรือครับ ดูสิหน้าซีด ตัวซีดหมดแล้ว” เขาว่าแม่ของเขาแบบงอน หันหน้าไปมองเมียรักที่นอนยิ้มกว้างอยู่เช่นเดียวกัน“หึ... อะไร จิราเป็นอะไร” เขารีบเขย่ามือเธอเพราะอยากรู้“ท้องค่ะ พี่เดียว จิราท้อง” คำบอกของเมียทำให้เขากระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ วิ่งไปวิ่งมาในห้องผู้ป่วย ทำสีหน้าว่าดีใจสุด ๆ วิ่งเข้าไปหาคุณพ่อของตัวเอง ก่อนจะกอดท่านเอา
“อะไรกัน พวกแกเป็นใคร” เธอชะงักงันยืนนิ่งอยู่กับที่ตอนนี้ในห้องนอนที่ว่างเปล่าเมื่อกี้เต็มไปด้วยชายฝรั่งฉกรรจ์หน้าตาดี หล่อล่ำกล้ามเป็นมัด ๆ ทาตัวด้วยน้ำมันวาววับ นับได้ตั้งห้าคน ทุกคนกรูกันเขามาจับตัวของทิพย์ดาราเอาไว้ทันที แล้วพูดออกมาเป็นเสียงภาษาอะไรก็ไม่รู้ ที่หญิงสาวไม่เคยได้ยินมาก่อนคนหนึ่งจูบปาก อีกคนล้วงควักท่อนบน อีกคนล้วงจ้วงนิ้วแทรกเข้าไปใต้กระโปรง ทั้งฝ่ามือหนา และริมฝีปากลากไล้ไปทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวหนึ่งในห้าหนุ่มถือกล้องวีดีโอขนาดพอดีมือเอาไว้ด้วยหนุ่มที่จูบปากป้อนยาเม็ดเล็กเข้าไปในปากของเธอ ทิพย์ดาราฝืนกินเข้าไป เพราะเขาไม่ปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระตอนนี้ในหัวสมองของเธอมืดบอดไปหมด ฝ่ามือหนาร้อนที่ระร้ายไปตามลำตัวทำให้เธออารมณ์กระเจิดกระเจิงเพียงหลังขาวเนียนเปลือยเปล่าสัมผัสผ้าปูที่นอน เธอก็หมดอิสรภาพ ร่างหนาใหญ่รุมเร้าทาบทับ และทุกคนต่างกำลังทำให้เธอทรมาน ทิพย์ดาราดิ้นพล่าน ไปด้วยอุปกรณ์ที่บรรดาหนุ่มใช้มันไปบนร่างกายของเธอ และฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่เธอถูกบังคับให้กินไปชายหนึ่งยื่นกระบองของเขาอันใหญ่เขื่องหัวมันแผล็บมาตรงหน้า เธอคว้ามันเข้าไปในปากทันทีแล้
“มาแล้วครับ คุณพ่อกลับมาแล้ว” ฟาเบียนทิ้งข้าวของทุกอย่างใส่ในมือของลัดดา รีบเดินลิ่วพร้อมกับส่งเสียงดังเข้าไปในบ้านสายฟ้าแค่ได้ยินเสียง ก็ดิ้นตัวขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นปู่ คุณคาโรรีบปล่อยตัวเด็กชายลง พอทั้งตัวแตะพื้น เด็กน้อยก็กระเด้งตัวขึ้นคลานสี่ขา แล้วมุ่งหน้าไปตามเสียงเรียกของฟาเบียนคุณพ่อหยุดยืนนิ่งมองดูลูกชายที่คลานเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว พอถึงตัวคุณพ่อ เด็กน้อยก็รีบยึดขากางเกงของคุณพ่อเอาไว้แน่น แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน ปากก็พูดออกเสียงอ้อแอ้ตลอดเวลา“มา เจ้าหนูน้อย” ฟาเบียนโน้มตัวของเขาลงไปอุ้มสายฟ้าขึ้นมาแนบอก แล้วก็ใช้จมูกซุกไซ้ให้หนูน้อยจั๊กจี้ตามลำตัว เด็กชายหัวเราะเอิ้ก ๆ ออกมาอย่างมีความสุข“ดื้อกับคุณแม่ไหมครับลูกพ่อ” ฟาเบียนชวนคุย พลางอุ้มลูกตรงไปนั่งใกล้ ๆ พ่อของเขา“ซนเอาเรื่องเลยแหละ” ผู้เป็นปู่วิจารณ์หลานตัวเล็กสายฟ้าพอได้ยืนบนตักของคุณพ่อแล้ว ก็กระโดดอย่างสนุกอยู่บนนั้น จึงได้เห็นรอยยิ้มอย่างมีความสุขของผู้เป็นปู่และผู้เป็นพ่อ“ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ คุณพ่อขาคุณแม่รออยู่” ปองรักเดินเข้ามาหาทั้งสามคนคุณคาโรรีบลุกขึ้น เดินไปยังสนามหน้าบ้าน สถานที่จัดงานเลี้ย
(“งานแต่งงานสุดหรูของเดียว นิจิต กับหวานใจ สุจิรา ลูกสาวเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง มีเพื่อนฝูงทั้งในและนอกวงการเข้ารวมแสดงความยินดีอย่างมากมาย งานนี้มีความสุขชื่นมื่นกันทั่วหน้า ทีมข่าวหัวเห็ดเก็บภาพมาฝากแฟนคลับของเดียว นิจิต มาให้ดูกันแล้วแต่ที่เซอร์ไพรส์ที่สุดของงาน ต้องเป็นแขกคนนี้ ฟาเบียน ฟรองซัว ควงแขนภรรยาสาวสวย และลูกชายวัยใกล้ขวบมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยสายข่าวแจ้งมาแล้วจ้าว่า นางสาวปองรัก ได้เปลี่ยนไปใช้นามสกุล ฟรองซัว เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนฟาเบียนไป งานนี้เล่นเอาสาว ๆ หลายคนต้องหาคนดามอกกันยกใหญ่สุดท้ายก็ต้องกล่าวอวยพรให้คู่บ่าวสาว และคู่รักทุกคู่ มีความสุข และครองรักกันจนมีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมืองค่ะ”)ทิพย์ดารามองมือถือในมือนิ่ง ภาพคู่บ่าวสาว และคู่นอนเก่าของเธอที่โชว์หน้าหรา ยิ้มกว้างด้วยความยินดี เธอมองฝ่ามือหนาที่วางบนไหล่ของภรรยา และสายตาของฟาเบียนที่จ้องมองปองรักด้วยความรัก แล้วเจ็บหนึบในหัวใจ“มีความสุขกันมากจริง ๆ นะคะ” เธอเอ่ยออกมาน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยาะหยันตัวเอง คนอย่างทิพย์ดาราไม่เคยแพ้ใคร เธอจะเอาฟาเบียนกลับมาให้ได้คราวนั้นเธอเขลาไปเองที่ยอมลบ