แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-09 16:38:51

บทที่ 6

ร่างสูงเกือบหกฟุตแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู ยัดชายเข้าไปข้างในกางเกงสแล็กเนื้อดี สวมทับด้วยเสื้อกาวน์สีขาว ก้าวออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมกับหมอและพยาบาลอีกหลายคนหลังจากการผ่าตัดคนไข้เสร็จสิ้นลงในเวลาใกล้เที่ยง เพราะการผ่าตัดเคสนี้เป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงต้องใช้ทีมแพทย์และพยาบาลจำนวนหลายคน ซึ่งแม้การผ่าตัดจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็เกินเวลาที่วางแผนกันเอาไว้กว่าหนึ่งชั่วโมง

แพทย์พยาบาลแต่ละคนต่างเดินมุ่งหน้ากลับไปยังที่ทำงานประจำของตัวเอง เช่นเดียวกับปราณต์ที่กำลังมุ่งหน้าเดินกลับห้องพักของตนพร้อมด้วยหมอชัชวาลซึ่งเป็นหมออาวุโสวัยห้าสิบเศษ มีประสบการณ์สูงและเป็นหมอที่เก่งมากคนหนึ่ง ปราณต์ให้ความเคารพและสนิทกับหมอชัชวาลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องผ่าตัดและมีเคสร่วมกันบ่อยครั้ง  ซึ่งหมอชัชวาลเองก็เอ่ยปากชมอยู่บ่อยๆ ว่าหมอวัยสามสิบเศษอย่างปราณต์นั้นทั้งเก่งและเป็นหมอหนุ่มที่ฝีมือดีมากคนหนึ่งของโรงพยาบาล

หมอต่างวัยสองคนเดินคุยกันมากระทั่งเกือบจะถึงหน้าห้องพักของหมอชัชวาล พยาบาลหน้าห้องก็เดินตรงเข้ามาหาคล้ายกับมีธุระที่ต้องแจ้งให้ทราบ

“อาจารย์คะ ตัวแทนจากบริษัทยาที่อาจารย์นัดไว้มารอในห้องอาจารย์ได้เกือบสองชั่วโมงแล้วค่ะ”

        “อ้าว...ตายจริง ผมลืมไปเสียสนิท พอดีเคสเมื่อกี้นี้ก็เกินเวลาด้วย นี่ผมต้องเข้ามหาวิทยาลัยไปประชุมกับอาจารย์ที่นั่นอีก” หมอชัชวาลพึมพำพลางพลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลาอย่างเป็นกังวล เพราะนอกจากจะเป็นหมอประจำที่โรงพยาบาลแล้ว หมอชัชวาลยังเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยด้วย

        “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูจะไปบอกให้เธอกลับไปก่อน แล้วค่อยมาพบอาจารย์วันหลังนะคะ” พยาบาลหน้าห้องของหมอชัชวาลพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าหมอน่าจะไม่สะดวกที่จะพบตัวแทนจากบริษัทยาในเวลานี้

        “ไม่ได้ๆ เกรงใจเขา ให้เขารอตั้งนาน แล้วจะมาบอกให้กลับไป งั้นเอางี้นะผมวานหมอปราณต์ให้ช่วยคุยรายละเอียดแทนหน่อย เป็นเรื่องยาตัวใหม่ของทางโรงพยาบาลนี่ล่ะ หมอปราณต์ตัดสินใจแทนผมได้เลยนะ ผมไว้ใจคุณ” อาจารย์หมอวัยห้าสิบเศษหันไปหาปราณต์และเอ่ยฝากฝังธุระของตัวเอง ปราณต์เป็นหมอที่เก่งและมีคลินิกของตัวเอง เพราะฉะนั้นเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับคุณภาพและราคาของยา จึงเป็นเรื่องที่ปราณต์ต้องตัดสินใจได้อยู่แล้ว

        “ได้ครับอาจารย์”

        “โอเคงั้นตามนี้ ผมฝากด้วยนะ” หมอชัชวาลยกมือขึ้นตบไหล่ของหมอหนุ่มเบาๆ ก่อนจะแยกตัวไปอย่างไม่มีความกังวลใดๆ อีก

        ปราณต์ขยับไปยังประตูหน้าห้องของหมอชัชวาล ยกมือขึ้นเคาะตามมารยาท เพื่อให้คนข้างในรู้ว่ากำลังจะมีคนเข้าไป

        ร่างบางที่นั่งรออยู่ในนั้นคลี่ยิ้มอย่างโล่งอกและสบายใจ หลังจากการรอคอยที่เลยเวลามาเกือบสองชั่วโมงนั้นได้สิ้นสุดลง เธอวางมือถือลงและลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เตรียมจะยกมือขึ้นไหว้หมอชัชวาลซึ่งเธอเพิ่งจะนัดเจอเป็นครั้งแรก หลังจากที่ติดต่อกันทางโทรศัพท์อยู่หลายครั้ง

        “สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ...”

        มือเล็กที่กำลังจะยกขึ้นไหว้ต้องชะงักค้าง ปากหยุดการพูดอย่างกะทันหัน ตัวแข็งทื่อ เลือดในกายเหมือนจะหยุดไหลชั่วขณะ เมื่อสายตาปะทะกับคนที่ผลักประตูเข้ามา เธอเฝ้าภาวนามาตลอดทางว่าขออย่าให้เจอกัน แถมปลอบใจตัวเองว่าโรงพยาบาลออกจะใหญ่โต หากโชคชะตาไม่กลั่นแกล้งคงไม่ได้พบเขาง่ายๆ ทว่าดูเหมือนทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เธอพร่ำอธิษฐานและโชคชะตาต่างร่วมมือกันกลั่นแกล้ง เพราะคนที่เธอไม่อยากเจอมากที่สุด ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

         ไม่ใช่แต่นัสรินที่อยู่ในอาการชะงักค้าง ปราณต์เองก็ชะงักไปครู่หนึ่งเหมือนกัน เพียงแต่เขาควบคุมตัวเองได้ดีกว่าเท่านั้นเอง จึงก้าวเท้าเข้ามายืนตรงหน้าคนที่ตัวเล็กกว่าได้ราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร

        ตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นราคาแพงจ้องมองผู้หญิงที่เป็นอดีตภรรยาอย่างสำรวจ และออกจะหงุดหงิดใจไม่น้อย เมื่อรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปมาก หากจะเทียบกับตอนที่อยู่กับเขา ร่างเล็กที่เคยบอบบางนั้น ตอนนี้สะโอดสะองสมส่วน ดูมีน้ำมีนวลขึ้นจนกลายเป็นผู้หญิงหุ่นดีชวนมอง และดูเหมือนเจ้าตัวจะจงใจอวดหุ่นของตัวเองด้วยการใส่ชุดเดรสรัดรูปสีส้ม แม้จะมีเสื้อสูทเข้ารูปสีดำสวมทับอีกที แต่มันก็ไม่ได้ช่วยปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งที่เขาเคยลูบไล้ด้วยมือมาแล้วเท่าใดนัก  หน้าตาที่เคยไร้เครื่องสำอางเติมแต่งบัดนี้ถูกตบแต่งอย่างประณีต แพขนตาที่งอนยาวเป็นธรรมชาติถูกดัดให้งอนขึ้นกว่าเดิม และปัดด้วยมาสคาราสีน้ำทะเลเข้ม เปลือกตาอ่อนบางเคลือบด้วยอายแชโดว์สีส้มอ่อนๆ เช่นเดียวกับพวงแก้ม ริมฝีปากอิ่มเอิบอยู่ภายใต้ลิปสติกเนื้อเนียนสีเข้ากับสีเปลือกตาและสีแก้ม ผมที่เคยดำขลับยาวสลวยเหยียดตรง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนและถูกดัดให้เป็นลอนใหญ่ตรงช่วงปลาย

นายแพทย์หนุ่มยอมรับว่าอดีตภรรยาของตนดูสวยขึ้นจนเขายืนตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่ให้ตายเถอะ! เขากลับไม่ชอบลุคนี้ของเธอเอาเสียเลย ผัวก็เคยมีมาแล้ว จำเป็นจะต้องทำตัวให้สวยให้เปรี้ยวขึ้นแบบผิดหูผิดตาขนาดนี้มั้ย หรือที่ต้องแต่งให้สวยขนาดนี้ก็เพื่อจะได้หาผัวใหม่ได้เร็วๆ หรือว่าตอนนี้มีไปแล้วก็ไม่รู้ หย่าจากเขามาเป็นปีแล้วนี่

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 89

    บทที่ 89เสียงกริ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้นอย่างถี่รัว ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังนอนกอดตระกองภรรยาสาวอยู่ในอ้อมแขนอย่างมีความสุขต้องยันกายลุกขึ้น พลางมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ใครมากดกริ่งแบบนี้” นัสรินถามสามีอย่างพลอยตกใจไปด้วย เพราะตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้มาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวผมไปดูก่อน นัสรออยู่นี่นะ” ปราณต์เดินออกไปชะเง้อดูที่ระเบียง แสงที่สาดสะท้อนมาจากไฟหน้าบ้าน ทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าคนกดเป็นใคร หนำซ้ำคนกดยังส่งเสียงร้องเรียกเขาราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจสุดๆ อีกต่างหาก“พี่ปราณต์! พี่ปราณต์!”ร่างสูงกลับเข้าห้อง แล้วบอกภรรยาที่นั่งรออยู่บนเตียง เพื่อให้เธอคลายความกังวลว่าคนที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านและส่งเสียงเรียกเขาอยู่นั้นเป็นใคร“ตะวันน่ะ”บอกเสร็จปราณต์ก็ออกจากห้อง โดยมีนัสรินก้าวตามลงไป ทั้งสองเดินออกไปยังหน้าบ้านด้วยกัน และปราณต์ก็กดกุญแจรีโมตเปิดประตูรั้วให้รังสิมันต์“มีอะไรตะวัน”“พี่ปราณต์ต้องช่วยผมนะ เด็กคนนั้นโดนแก้วบาดมือ เลือดไหลเยอะมาก ตอนนี้เด็กนั่นอยู่ในรถผม” รังสิมันต์ไม่ได้เอ่ยชื่อของจันทริกาออ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 88

    บทที่ 88แสงไฟสีเหลืองอมส้มที่ส่องสว่างทั่วอาณาบริเวณของบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่ ยิ่งทำให้บ้านซึ่งถูกออกแบบและปลูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูโดดเด่นสวยสะดุดตามากยิ่งขึ้นในยามค่ำคืนเช่นนี้ หากแต่ภายใต้ความสว่างไสวและสวยงามที่ห้อมล้อมบ้านหลังใหญ่ในยามนี้ คนเป็นเจ้าของกลับกำลังอยู่ในห้วงของอารมณ์ซึ่งสวนทางกับบรรยากาศอันแสนสวยงามของบ้านโดยสิ้นเชิง เพราะถูกครอบงำด้วยความโมโหต่อ ‘เด็กในปกครอง’ ที่หายตัวไปตั้งแต่ตอนบ่าย และป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมาร่างสูงลุกขึ้นเดินไปมาสลับกับมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ซึ่งความหนานุ่มสมราคาของมันกลับไม่ได้ทำให้ความเดือดพล่านในอารมณ์ของรังสิมันต์ลดลงเลยแม้แต่นิด มือใหญ่สมสัดส่วนกับรูปร่างเอื้อมไปหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงระยับมาเทลงบนแก้ว ก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงไปในลำคอพรวดเดียวหมด จากนั้นก็กระแทกแก้วลงกับโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์ โดยมี ‘เมสซี่’ แมวพันธุ์แร็กดอลล์ตัวโปรดนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ บ่อยครั้งที่ตาสีฟ้าของมันเหลือบมองเจ้านายตัวเอง และลุกขึ้นมาคลอเคลีย ตามประสาแมวขี้เล่น แต่พอรู้ว่าเจ้านายกำลังอารมณ์ไม่ดี มันก็กลับไปนั่งที่ของมันแล้วหมอบลงเงียบๆ อย่างไม่กล้าก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 87

    บทที่ 87“นั่งด้วยกันมั้ย” ปราณต์เอ่ยชวน“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนที่กำลังอยู่ข้าวใหม่ปลามัน” รังสิมันต์ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางกวินภพเพื่อหาพวก “จริงมั้ยวะอิสร์”“แกมันก็ชอบหาเรื่องกวนตีนชาวบ้านไปทั่ว” กวินภพไม่ได้เออออแต่พูดขัดคอขึ้นมาซะงั้น“เฮ้ย...แกเป็นนักธุรกิจพันล้านนะเว้ยอิสร์ พูดคำหยาบกวนตงกวนตีนแบบนี้ได้ไง เสียภาพพจน์นักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบหมด”“แกมันบ้าว่ะตะวัน” หนุ่มกรุงเทพฯ ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความเจ้าคารมและช่างกวนอารมณ์ชาวบ้านของรังสิมันต์“พี่ก็ว่างั้นละอิสร์”“เฮ้อ...ตอนแรกว่าจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ เปลี่ยนใจดีกว่านั่งกับพี่ปราณต์เลยแล้วกัน” รังสิมันต์แกล้งกวนอารมณ์พี่ชายต่อ ด้วยการจะขยับเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แต่ยังไม่ทันได้นั่งนัสรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำก็กลับมาเสียก่อน ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องหันไปทักทายกับหญิงสาวตามมารยาท“สวัสดีครับพี่สะใภ้” รังสิมันต์ทักทายขึ้นก่อนอย่างขี้เล่น ทำให้คนถูกทักเหวอแกมอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับคำเรียกแบบนั้นสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ เพราะประเมินว่าทั้งสองน่าจะอายุมากกว่าตน“ตะวั

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 86

    บทที่ 86“แน่นอนสิที่รัก ถ้าไม่รู้ใจคุณแล้วผมจะเป็นผัวคุณได้ยังไง ว่าไงจะบอกหรือเปล่าว่าหมายถึงใคร”“นัสหมายถึงหมอเมย์ค่ะ” ในที่สุดนัสรินก็ยอมรับว่าเธอต้องการจะถามเขาว่าเคยพาเมธาวีมาที่นี่หรือไม่“ถ้าบอกว่าเคยล่ะ”“ก็ไม่แปลกใจค่ะ” ปากว่าไม่แปลกใจ หน้าก็ยังดูยิ้ม แต่แววตาและน้ำเสียงนั้นแปร่งไปจนฟังได้ชัด“คราวนี้จะยอมรับได้หรือยังหือว่าคุณหึงผมกับเมย์” คุณหมอผู้ลองใจเมียเริ่มต้อนให้เธอยอมรับความจริงกับเขาเสียที“ยอมรับก็ได้”“ทำไมถึงจำเพาะเจาะจงว่าเป็นเมย์”“ไม่รู้สิคะ อาจเป็นเพราะว่านัสเคยเห็นกับตาว่าคุณกับหมอเมย์สนิทสนมกันแค่ไหนมั้ง”“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเมย์เกินกว่าน้องสาว สาบานได้เลย แต่ผมก็ดีใจนะที่รู้ว่าทำให้คุณหึง”“วันที่นัสไปตรวจที่คลินิกว่าท้องหรือเปล่า นัสเจอหมอเมย์ด้วยค่ะ เธอบอกว่าเธอเลิกกับคุณปราณต์แล้ว”“หือ...เลิกกัน?” ปราณต์เลิกคิ้วเข้มขึ้น “ฟังอะไรผิดหรือเปล่านัส”“เธอบอกแบบนั้นจริงๆ นะคะ แต่มาบอกทีหลังว่าเลิกหวังในตัวคุณแล้ว เพราะคุณรักคนอื่นอยู่” นัสรินเล่าให้ฟังตามความจริง พลางคิดถึงเหตุการณ์และสีหน้าของเมธาวีในวันนั้นอย่างจำได้แม่น“ขนาดเมย์ยังรู้ว่าผมรักใคร แล้วทำไม

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 85

    บทที่ 85ปราณต์เป็นฝ่ายขยับมาถือกระเป๋าสะพายของภรรยาที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับโอบเอวเล็กที่ตอนนี้ขยายขึ้นเล็กน้อย ทำให้นัสรินซึ่งยังงงอยู่เล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนทั้งสองจะรู้จักกันต้องขยับตาม แต่ก็ไม่ลืมที่จะร่ำลาหมอพัทธระตามมารยาทอันดี “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ เดี๋ยววันหลังนัสจะเตรียมสัญญามาให้เซ็น วันนี้นัสขอตัวก่อน” “ครับคุณนัสริน แล้วพบกันครับ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ จากนั้นก็ก้าวตามสามีออกไปขึ้นรถ ปราณต์เดินเงียบๆ แต่ยิ้มในหน้า ซึ่งจากประสบการณ์ที่อยู่ด้วยกันมาพักหนึ่ง ทำให้นัสรินพอจะรู้ว่าเวลาที่ปราณต์เป็นแบบนี้นั่นคือเขากำลังอยู่ในภาวะอารมณ์ดีแบบสุดๆ “ยิ้มอะไรนักหนาคะ พอใจมากหรือไง” นัสรินถามคนที่ซ่อนยิ้มในหน้าอย่างอดไม่ได้ จากสายตาและวาจาที่ฟังดูนุ่มละมุนผิดปกติของหมอพัทธระเมื่อครู่นี้ เธอก็พอจะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับสามีของตน “ก็พอใจสิ” “แล้วเป็นไงคะ หมอพัทธระหล่ออย่างที่นัสบอกหรือเปล่า” “หล่อ...แต่ที่ฟังดูน้ำเสียงของนัสเหมือนกำลังหึงผมอยู่นะ อย่าหึงเลยน่า ผมชอบผู้หญิง” คราวน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 84

    บทที่ 84วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่บริษัทส่งตัวนัสรินมาทำงานที่เชียงใหม่พอดี ซึ่งตามกำหนดเดิมเธอจะต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และมีตัวแทนจากบริษัทคนใหม่มาทำงานแทนเธอ แต่จนป่านนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ส่งใครมา แถมเธอยังต้องทำงานที่นี่ต่อ ซึ่งคราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ทำชั่วคราวแล้ว หากแต่ต้องประจำอยู่ที่นี่อย่างถาวรนัสรินยังจำวันที่ตัวเองโทร.ไปแจ้งข่าวกับกิตติ ว่าเธอประสงค์จะลาออกจากงาน ตอนนั้นหัวหน้าของเธอดูเป็นเดือดเป็นร้อนมาก เพราะยังหาคนที่ทำงานเก่งอย่างเธอมาแทนยังไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัสรินจะลาออกไปแต่งงาน และอยู่ที่เชียงใหม่กับสามี กิตติก็ขอร้องให้เธอทำงานให้ต่อ โดยเสนอจะเพิ่มเงินเดือนให้ สุดท้ายนัสรินก็จำต้องรับปาก โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เธอ ความจริงเธอไม่ได้อยากลาออกเลยสักนิด แต่ที่ต้องบอกหัวหน้าไปเช่นนั้น ก็เพราะปราณต์ขอร้องแกมบังคับ และเมื่อเขาได้รู้ว่าเธอตัดสินใจจะทำงานต่อ หมอหน้าหล่อก็งอนไปหลายวันเหมือนกันนัสรินออกมาจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกเงิน เพราะมีนัดกับลูกค้าซึ่งเป็นหมอของโรงพยาบาลเอกชน เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกับหมอหนุ่มที่ตัวเองกำลังคุยงานด้วยอย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status