แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-09 16:39:04

บทที่ 7

ปราณต์หงุดหงิดตัวเองที่ความคิดนั้นทำให้เขาเกิดอาการร้อนรุ่มในใจแปลกๆ

‘เป็นบ้าอะไรวะปราณต์หยุดคิดเดี๋ยวนี้ นัสรินก็แค่ผู้หญิงมากเล่ห์ที่เคยร่วมมือกับปรัชญ์ล่อลวงเขาให้แต่งงานด้วยเท่านั้น ความรู้สึกเดียวที่เขามีให้เธอ นั่นก็คือรังเกียจการกระทำ ความรู้สึกอย่างอื่นมันไม่เคยเกิดขึ้น และจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่ๆ’

“สวัสดีค่ะหมอปราณต์” นัสรินเอ่ยทักทายเสียงติดจะสั่นๆ แม้จะเริ่มตั้งสติได้บ้างแล้วก็ตาม ทำไมเธอจะต้องตื่นเต้นในเมื่อเขาออกจะมองมาอย่างเย็นชาและดูเหมือนจะหงุดหงิดมากด้วยซ้ำที่เห็นเธอปรากฏตัวที่นี่ แต่เธอไม่ได้ตั้งใจมาพบเขา คนที่อยากพบมากที่สุดตอนนี้ก็คือหมอชัชวาลต่างหาก

“ผมอนุญาตให้เรียกผมว่าหมอปราณต์ได้ เฉพาะคนไข้ของผมเท่านั้น ส่วนคนที่ไม่ใช่คนไข้ ผมไม่อนุญาตให้เรียก” ปราณต์พูดเสียงแข็งกระด้าง

“ขอโทษค่ะ...คุณปราณต์” นัสรินจำต้องกล่าวขอโทษ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก้อนแข็งๆ แล่นขึ้นมาจุกในคอจนแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ปราณต์ก็ยังใจร้ายกับเธอไม่เคยเปลี่ยน คำว่า ‘หมอปราณต์’ ที่เธอเรียกเขานั้นออกจะเป็นคำพูดที่ให้เกียรติด้วยซ้ำ คนที่บ้านของเขาบางคนก็เรียกเขาแบบนี้ แต่คงจำเพาะแต่เป็นเธอกระมังที่ไม่ว่าพูดหรือทำอะไร ก็ดูผิดและไม่ถูกใจเขาไปเสียหมด 

“มาทำอะไรที่นี่” ปราณต์ถามต่อเสียงห้วนๆ แม้จะพอเดาออก ว่าตัวแทนจากบริษัทยาที่นัดกับหมอชัชวาลเอาไว้ ก็คือนัสรินเมียเก่าของเขานั่นเอง

“นัสมาพบอาจารย์หมอชัชวาล เพื่อคุยเกี่ยวกับยาตัวใหม่ที่จะเสนอขายให้โรงพยาบาลค่ะ” นัสรินบอกออกไปด้วยเสียงที่ยังสั่นอยู่เช่นเดิม เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองเลยสักนิด แม้ว่าจะผ่านชีวิตมาจนตอนนี้อยู่ในฐานะแม่หม้ายแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะยามที่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่มีอิทธิพลกับหัวใจตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งตัวเช่นนี้

“แต่แต่งตัวเหมือนจะมาขายอย่างอื่นด้วยนะ”

“นัสมาขายยาค่ะ ไม่ได้มาขายตัว” นัสรินเผลอตอบโต้เมื่อรู้ดีว่าความหมายของปราณต์คืออะไร

“ก็ลองเสนอขายทั้งตัวขายทั้งยาสิ เผื่อว่าจะขายดีกว่าเดิม”

“คุณปราณต์! นัสขอร้องละนะคะเลิกพูดจาดูถูกนัสเสียที หากคุณไม่พอใจที่เจอนัส นัสก็ขอโทษด้วย แต่นัสเองก็ไม่ได้อยากจะเจอคุณ นัสมาพบอาจารย์หมอชัชวาลค่ะ” หญิงสาวเน้นย้ำวัตถุประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน แต่นั่นยิ่งไม่ถูกใจคนฟังมากกว่าเดิม โดยเฉพาะที่เธอบอกว่า เธอเองก็ไม่ได้อยากพบเขา

“อาจารย์หมอไม่ว่าง ให้ผมมาคุยแทน”

“ถ้าคุณปราณต์ไม่สะดวกจะคุยกับนัสก็ไม่เป็นไร นัสจะรออาจารย์หมอว่าง แล้วค่อยมาคุยใหม่กับท่านเองค่ะ” นัสรินเสนอทางออก แล้วขยับไปหยิบเอาโทรศัพท์และกระเป๋าสะพายของตัวเองเพื่อจะกลับไปตั้งหลักใหม่

“อาจารย์ให้ผมมาคุยและตัดสินใจแทนแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคุณ ‘อยากขาย’ ก็ต้องทำให้ผมพอใจ”

นัสรินหน้าแดงกับบางคำพูดที่เขาจงใจเน้นเพื่อเย้ยหยันเธอในเรื่องเก่าๆ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปราณต์ถึงได้จงเกลียดจงชังเธอนัก ทั้งๆ ที่ในช่วงที่เข้าพิธีแต่งงานกันตอนเช้า เขาก็ยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองหรือไม่พอใจใดๆ ออกจะมองเธอเหมือนเห็นใจด้วยซ้ำ แต่เขาคงคิดได้ทีหลังว่าเธอไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลยกระมัง ที่ยอมตกลงแต่งงานกับลูกชายเจ้าหนี้ถึงสองคน พอพลาดจากคนน้องก็แต่งกับคนพี่แบบแทบจะไม่คิดอะไร

“แล้วนัสต้องทำยังไงล่ะคะคุณถึงจะพอใจ”

“ผมหิวแล้ว”

คำตอบของเขาทำให้นัสรินถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะดูว่าปราณต์จะรวนเธอไปเสียทุกทาง หญิงสาวพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับเรื่องงาน เธอเดินทางมาไกลจากกรุงเทพฯ อยากปิดจ็อบให้ได้ในวันนี้วันเดียว เพื่อจะได้ไม่ต้องเดินทางมาที่เชียงใหม่และเจอปราณต์อีก

“งั้นนัสจะรออยู่ที่นี่นะคะ คุณปราณต์ทานข้าวเสร็จ ค่อยกลับมาคุยก็ได้ค่ะ”

“ผมไม่ชอบให้ใครรอ เพราะมันจะทำให้ผมทานข้าวไม่อร่อย”

“คุณปราณต์จะให้นัสทำยังไงคะ”

“ก็ไปกับผมสิ”

“แต่นัสไม่หิวค่ะ”

“ไม่หิวหรือไม่กล้าไปกับผัวเก่าสองต่อสองกันแน่” ปราณต์ทำเสียงหมิ่นๆ พร้อมก้มลงจ้องมองหน้าอดีตภรรยาอย่างท้าทายแกมรู้ทัน

นัสรินหน้าร้อนซ่านเมื่อได้ยินคำว่า ‘ผัวเก่า’ จากปากของปราณต์ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นสีหน้าและแววตาของเขาก็เหมือนกับท้าให้เธอพิสูจน์ตัวเอง ว่าเธอไม่ได้มีเยื่อใยอะไรกับเขาแล้ว หากเป็นคนอื่นที่มั่นใจในตัวเองมากกว่าเธอ คงรับคำท้าของเขาไปแล้ว แต่นัสรินรู้ดีว่าปราณต์พูดเฉียดความจริงแค่ไหน

“นัสก็แค่...”

“กลัวผัวใหม่จะว่าเอา” ปราณต์รีบเอ่ยดักคอ

“นัสยังไม่มีผัวใหม่ค่ะ” หลุดปากไปแล้วนัสรินก็นึกอยากกัดลิ้นตัวเอง เพราะปราณต์อาจจะนึกหัวเราะเยาะเอาได้ว่าเธอไม่มีปัญญาหาผู้ชายอื่นมาแทนที่เขา นัสรินคิดในทางร้ายๆ โดยไม่รู้หรอกว่า คำพูดนั้นทำให้คนฟังแอบโล่งใจแค่ไหน

“อ้อ...ยังไม่มีปัญญาหาผัวเองเหมือนเดิมสินะ”

คำพูดดังกล่าวติดจะหยันๆ ทั้งๆ ที่ในใจนั้นลิงโลดอย่างบอกไม่ถูก ปราณต์ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขากลายเป็นผู้ชายปากจัดตั้งแต่เมื่อไหร่ หรืออาจจะเพิ่งเป็นตั้งแต่ตอนที่เห็นนัสรินเดินเข้ามา หรือเป็นตั้งแต่ที่ได้ล่วงรู้ถึงแผนการของน้องชายกับอดีตภรรยาอย่างนัสรินในวันแต่งงานของเขากับเธอ

“ค่ะ นัสรอคุณพ่อกับคุณแม่หาคนใหม่ให้อยู่ค่ะ” นัสรินยอมรับง่ายๆ ในลักษณะเหมือนประชดกลับไป ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มาปะทะคารมกับคนที่ตัวเองไม่เคยตัดใจจากเขาได้เลย

“ว่านอนสอนง่ายดีนี่ ไปเถอะผมหิวแล้ว”

จบคำร่างสูงก็ก้าวยาวๆ นำหน้าไปยังประตู ทำให้นัสรินจำต้องเดินตาม ไหนๆ ก็เผชิญหน้ากันอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว อดทนต่ออีกสักชั่วโมงจะเป็นไรไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 8

    บทที่ 8ปราณต์เดินมาที่รถของเขาซึ่งอยู่ในลานจอดรถที่ล็อกไว้ให้สำหรับหมอและบุคลากรของโรงพยาบาลโดยเฉพาะ เขาเปิดประตูหน้ารอให้นัสรินก้าวเข้าไปนั่งข้างในก่อน จึงค่อยเดินอ้อมไปฝั่งคนขับมือเรียวเล็กเผลอจิกกระเป๋าตัวเองแน่น เมื่อถูกขังอยู่ในบรรยากาศอันเป็นส่วนตัวแบบสองต่อสองอีกครั้ง ผิดแต่เพียงในรถมันแคบกว่าห้องของหมอชัชวาล แถมปราณต์ก็ไม่ยอมเปิดเพลง จึงทำให้แทบจะได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน นัสรินจำได้ว่ารถคันนี้ตัวเองเคยนั่งคู่กับเขาไม่เกินห้าครั้งตลอดช่วงที่แต่งงานกัน และวันสุดท้ายที่ได้นั่งด้วยกันก็คือวันที่เขามารับไปหย่า จากนั้นเธอกับเขาต่างก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในสมองอย่างอดไม่ได้ ว่าที่นั่งที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้มีใครมานั่งแทนหรือยัง หากเธอกล้ามากกว่านี้และปากจัดเหมือนปราณต์ เธอคงถามเขาไปตรงๆ เหมือนที่เขาถามเธอแล้ว ทว่าความกล้าของเธอห่างไกลกับเขาลิบลับ แต่ที่กลัวไปกว่านั้นก็คือความจริงอันน่าเจ็บปวด หากเขาบอกว่าเขามีคนใหม่แล้ว ดังนั้นนัสรินจึงเลือกจะไม่ยอมรับรู้อะไร ที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของอดีตสามีอีกสิบกว่านาทีต่อมา รถของปราณต์ซึ่งมีนัสรินนั่งมาด้วยก็แล่นเข้าจอดเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 9

    บทที่ 9“ถ้าย้อนเวลาได้นัสจะไม่ทำแบบนั้นค่ะ ที่นัสตัดสินใจทำไปแบบนั้นก็เพราะนัส...” กำลังจะบอกว่าเพราะเธอแอบรักเขามาตั้งแต่ได้เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว เมื่อปรัชญ์ขอยกเลิกการแต่งงานกับเธอและเสนอให้เธอแต่งงานกับเขาแทน เธอจึงไม่ปฏิเสธ “เพราะเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน และเห็นผมเป็นตัวตลกใช่ไหม” ปราณต์ไม่ยอมฟังให้จบก็ชิงพูดแทรกขึ้นตามอารมณ์ที่คั่งค้างอยู่ในใจมาเป็นแรมปี“นัสไม่สามารถที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ แต่นัสก็ชดเชยให้คุณไปหมดแล้วไงคะ”คำว่าชดเชยในความหมายของนัสรินก็คือการคืนอิสรภาพให้เขา และยอมจากไปเงียบๆ โดยไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ทว่าความหมายของปราณต์มันกลับเป็นคนละอย่าง“ด้วยการนอนกับผมแค่คืนเดียวอย่างนั้นเหรอ”“นัสเคยบอกคุณปราณต์แล้วว่านัสไม่ได้ห้ามให้คุณใช้สิทธิ์ความเป็นสามีกับนัส แต่คุณปฏิเสธนัสเองเพราะว่าคุณรังเกียจผู้หญิงอย่างนัส” เธอย้ำเตือนถึงคำพูดของเขาที่เคยพูดกับเธอตั้งแต่คุยกันเรื่องหย่า“แล้วถ้าตอนนี้ผมเกิดอยากจะใช้สิทธิ์ย้อนหลังล่ะ”“คุณปราณต์!” นัสรินเผลอเรียกชื่อเขาเสียงเข้ม แม้อะไรๆ ในตัวปราณต์ไม่เคยเปลี่ยนหลังจากที่เธอไม่เจอเขามาเป็นปี แต่ตอนนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 10

    บทที่ 10 สองทุ่มแล้ว...คลินิกยังคงปิดช้ากว่าเวลาเหมือนทุกวัน เพราะคนไข้มายื่นบัตรรอตรวจเยอะเช่นเคย แต่หมอหนุ่มวัยสามสิบสองก็ยังคงตรวจคนไข้จนถึงคนสุดท้ายอย่างละเอียด โดยไม่คิดจะเร่งรีบหรือตรวจพอแล้วๆ แต่อย่างใด คลินิกแห่งนี้เปิดได้ปีกว่าแล้ว ช่วงแรกๆ คนไข้ยังไม่เยอะเท่าไหร่ กระทั่งมีคนพูดปากต่อปาก ว่าคลินิกแห่งนี้ตรวจรักษาดีและค่ารักษาก็ไม่ได้แพงมากจนคนระดับทำมาหากินเข้ามาใช้บริการไม่ได้ ทำให้มีคนไข้มาใช้บริการเยอะขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งในที่สุดปราณต์ก็ต้องจ้างผู้ช่วยเพิ่ม จากที่ครั้งแรกเขาจ้างแค่พนักงานตรวจความดันและกรอกประวัติคนไข้เพียงคนเดียว ตอนนี้ต้องจ้างเพิ่มอีกหนึ่งคน และยังต้องจ้างผู้มีใบอนุญาตทางเภสัชกรรมมาช่วยจ่ายยาเพิ่มด้วย ปราณต์ลุกจากโต๊ะหลังจากคนไข้คนสุดท้ายออกจากห้องตรวจ จากนั้นก็ตรงไปยังรถของตัวเอง โดยปล่อยหน้าที่ปิด คลินิกให้เป็นของพนักงาน รถแลนด์โรเวอร์สีขาวรุ่นที่มีเพียงหลักร้อยคันในประเทศไทย แล่นออกจากริมฟุตบาทด้านข้างคลินิก มุ่งหน้าไปตามถนนที่เป็นคนละเส้นกับทางกลับบ้าน ไฟซึ่งส่องสว่างอยู่บนเสาไฟฟ้าเริ่มทยอยลดน้อยลงเรื่อยๆ กระทั่งในที่สุดก็มีเพีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 11

    บทที่ 11“วันนี้ฉันเจอนัสริน”ในที่สุดหมอปากหนักก็ยอมพูดความจริง พร้อมกับแอบระบายลมหายใจออกมาเบาๆ และซ่อนบางอย่างเอาไว้ในสายตาที่เคร่งขรึมลงไป แต่คนมองก็สังเกตเห็น“เมียเก่าแกน่ะเหรอ”“อืม...”“เจอแล้วไง ทำไมต้องมานั่งดื่มเหล้าแทนน้ำแบบนี้ หรือว่าเสียดาย เมียคงสวยขึ้นผิดหูผิดตาล่ะสิ หวงก้างว่างั้น” คราวนี้เป็นศาสตราบ้างที่เป็นฝ่ายดักคอ“ไอ้กริช!”“หรือฉันพูดผิด ก็เถียงมาสิโว้ยว่าไม่จริง”“ถ้าจริงแล้วทำอะไรได้” คำตอบนั้นเท่ากับยอมรับกลายๆ“ก็จีบใหม่สิวะ แต่ติดตรงที่ว่าเขามีผัวใหม่หรือยังเท่านั้นละ” ศาสตราถามห่ามๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไม่ให้เกียรตินัสริน แต่ถามแบบจงใจเย้ยคนฟังให้หัวใจร้อนรุ่มเล่น มันสนุกดีพิลึกเวลาเห็นไอ้หมอผู้สุภาพมาโดยตลอดหลุดความดิบๆ เถื่อนๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมา“เห็นบอกว่ายัง” ปราณต์ตอบแบบเสียงแข็งกระด้าง มือที่กำลังเอื้อมไปจับขวดเหล้าเผลอลงน้ำหนักแรงอย่างหงุดหงิด เมื่อคิดถึงรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตาของนัสริน“เชื่อได้เหรอ”“ไม่รู้สิ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรสำหรับฉันสักนิด” ยิ่งฟังคำถามอันตอกย้ำเช่นนั้น ปราณต์ก็ยิ่งเหมือนร้อนรุ่มในอกมากขึ้นเป็นทวีค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 12

    บทที่ 12มันเป็นเรื่องกระอักกระอ่วนจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก เมื่อจู่ๆ ตัวเองก็ต้องมาใส่ชุดเจ้าบ่าว นั่งเคียงคู่เจ้าสาว ให้ใครต่อใครมารดน้ำสังข์พร้อมกับอวยพรให้อยู่กันจนแก่เฒ่า เขาต้องทำหน้าที่แต่งงานแทนน้องชายอย่างปรัชญ์ที่จู่ๆ ก็ประกาศต่อหน้าเขาและแม่ว่ามีเมียแล้ว ซึ่งผู้หญิงที่ปรัชญ์บอกว่าเป็นเมียไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นธรินดาน้องสาวบุญธรรมของเขาที่เขาเองก็แอบปองใจอยู่เงียบๆ มานานแล้วเช่นกัน ปราณต์อยากจะหลอกตัวเองว่าเขากำลังฝันอยู่ ทว่าบรรยากาศที่เต็มไปด้วยผู้คน เสียงบรรเลงของดนตรีไทย ดอกไม้ที่จัดตกแต่งอย่างสวยงามอ่อนหวาน ป้ายชื่อด้านหลังซึ่งเป็นชื่อเขากับชื่อเจ้าสาวเด่นหรา รวมถึงเจ้าสาวหน้าตาหวานซึ้งซึ่งควรจะเป็นน้องสะใภ้เขากำลังนั่งเคียงข้างเขาในพิธีรดน้ำสังข์อยู่จริงๆ เขาไม่ปฏิเสธว่านัสรินเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย รูปร่างอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอมคนหนึ่ง ยิ่งอยู่ในชุดไทยสีทองเช่นนี้ยิ่งขับให้เธอดูงดงามราวกับนางในวรรณคดี แต่ยามนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะชื่นชมความสวยงามใดๆ ต่อผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาทางนิตินัยอย่างสมบูรณ์แล้ว หลังจากเขาและเธอเพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 13

    บทที่ 13“ชื่อในการ์ดเป็นชื่อผมด้วยเหรอ?”“ก็คุณปราณต์เป็นเจ้าบ่าว ก็ต้องเป็นชื่อคุณปราณต์สิคะ นี่อย่าบอกนะคะว่าคุณปราณต์กำลังเล่นมุก ออยขำไม่ทันเลยค่ะ”พินทุสรยังคงยิ้มร่าและหัวเราะเบาๆ เมื่อคิดว่าเจ้าบ่าวของเพื่อนรักช่างมีอารมณ์ขันแบบหน้าตายดีแท้ๆ“ผมขอดูหน่อยได้ไหม”“ได้สิคะ ออยพกติดกระเป๋ามาด้วย ออยเห็นแล้วชอบมากๆ เลยค่ะ การ์ดสวยเก๋เห็นครั้งแรกก็รู้เลยว่าคนเลือกต้องพิถีพิถันมากๆ คุณปราณต์กับยัยนัสคงจะช่วยกันเลือกใช่มั้ยคะ” พินทุสรพูดเป็นต่อยหอย ขณะหยิบเอาการ์ดแต่งงานในกระเป๋าแล้วส่งให้กับปราณต์ โดยไม่ได้สังเกตอาการของเขาแต่อย่างใดตาคมกวาดตามองไปยังตัวหนังสือที่อยู่บนการ์ดแต่งงานสีหวานอย่างตั้งใจ ตัวหนังสือบนนั้นแสดงอยู่อย่างเด่นหรา ว่าชื่อเจ้าสาวเจ้าบ่าวเป็นชื่อนัสรินกับชื่อของเขาจริงๆ ลักษณะของการ์ดก็บ่งบอกชัดว่าถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน กระดาษที่ใช้พิมพ์ก็เป็นกระดาษเนื้อดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาแตะจมูกและติดมือคนจับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพิมพ์เสร็จภายในหนึ่งหรือสองชั่วโมงก่อนที่การแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้น หนำซ้ำคำพูดของหญิงสาวที่บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทกับนัสรินก็ย้ำชัดว่า เรื่องที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 14

    บทที่ 14“ทำไมล่ะนัส” “นัสเป็นห่วงคุณพ่อคุณแม่น่ะค่ะ ท่านสองคนมีนัสคนเดียว” “อ้อ...นึกว่าเรื่องอะไร ผมไม่ได้ให้คุณไปประจำที่โน่นเลยหรอก ไปแค่สามเดือนเท่านั้น พออะไรเข้าที่เข้าทางแล้ว และเราหาตัวแทนที่เป็นคนในพื้นที่ได้ ผมก็จะให้คุณเทรนให้จนคนที่นั่นทำงานได้คล่อง ผมก็จะให้คุณกลับมาประจำที่กรุงเทพฯ ตามเดิม ในระหว่างนี้หากเป็นช่วงวันหยุดแล้วคุณอยากกลับบ้านมาหาครอบครัว คุณก็กลับได้ตลอดเลย ทางบริษัทมีค่าเดินทางให้ ส่วนเรื่องที่พักก็ไม่ต้องห่วงบริษัทเช่าอพาร์ตเมนต์ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ไว้ให้ห้องหนึ่ง เป็นห้องที่ใหญ่และอยู่ได้สบายๆ แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางไปทำงาน บริษัทมีรถยนต์ให้คุณใช้อีกคันหนึ่งด้วย” กิตติบอกถึงสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน จนนัสรินไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลใดมาแย้งได้ “ไม่มีคนไปแทนนัสเลยเหรอคะ” เสียงหวานถามอ่อยๆ “ไม่มีจริงๆ นัส ผมไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสมเท่าคุณเลย ปิยวรรณก็ท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว ส่วนอรอุมาก็ต้องรับส่งลูกทุกวัน มีแต่คุณคนเดียวที่โสดสนิท แล้วเรื่องที่คุณเป็นห่วงพ่อกับแม่ผมก็เข้าใจนะ แต่ก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 15

    บทที่ 15คุ้มลักษิกาแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยสักนิดในความรู้สึกของนัสริน ที่นี่ยังคงใหญ่โต สวยงาม ร่มรื่นและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบล้านนาเช่นเดิม เธอมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ในคุ้มลักษิกาแห่งนี้แค่เพียงสองอาทิตย์หลังจากแต่งงานกับปราณต์ จากนั้นเขาก็พาเธอย้ายออกไปอยู่บ้านเช่า โดยให้เหตุผลกับครอบครัวว่าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ทว่าแท้จริงแล้วเขาพาเธอไปเพื่อจะได้ทรมานใจเธอได้อย่างสะดวกต่างหากแพขนตายาวงอนกะพริบถี่ๆ และรีบสลัดเรื่องของปราณต์ออกไปจากห้วงความคิด เมื่อปรัชญ์จอดรถที่ลานหน้าเรือนไทยทรงล้านนาหลังใหญ่ ขาเรียวก้าวลงจากรถและตามปรัชญ์กับธรินดาเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นนิดๆแม่เลี้ยงลักษิกาเงยหน้าขึ้นจากงานเย็บปักถักร้อย พลางขยับแว่นอย่างไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นอดีตลูกสะใภ้เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับลูกชายและลูกสาวของตน แต่เมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด หญิงวัยกลางคนผู้เป็นประมุขของบ้านก็รำพึงชื่อเจ้าตัวออกมาเบาๆ“หนูนัส...”“สวัสดีค่ะคุณแม่” นัสรินย่อตัวลงนั่งพับเพียบและกราบลงบนตักของแม่เลี้ยงลักษิกา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นให้นางพิศมองอีกครั้ง“หนูนัสจริงๆ ด้วย ไปยังไงมายั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09

บทล่าสุด

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 89

    บทที่ 89เสียงกริ่งหน้าบ้านที่ดังขึ้นอย่างถี่รัว ทำให้ร่างสูงใหญ่ที่กำลังนอนกอดตระกองภรรยาสาวอยู่ในอ้อมแขนอย่างมีความสุขต้องยันกายลุกขึ้น พลางมุ่นคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ใครมากดกริ่งแบบนี้” นัสรินถามสามีอย่างพลอยตกใจไปด้วย เพราะตั้งแต่อยู่บ้านหลังนี้มาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวผมไปดูก่อน นัสรออยู่นี่นะ” ปราณต์เดินออกไปชะเง้อดูที่ระเบียง แสงที่สาดสะท้อนมาจากไฟหน้าบ้าน ทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าคนกดเป็นใคร หนำซ้ำคนกดยังส่งเสียงร้องเรียกเขาราวกับกำลังมีเรื่องร้อนใจสุดๆ อีกต่างหาก“พี่ปราณต์! พี่ปราณต์!”ร่างสูงกลับเข้าห้อง แล้วบอกภรรยาที่นั่งรออยู่บนเตียง เพื่อให้เธอคลายความกังวลว่าคนที่กำลังกดกริ่งหน้าบ้านและส่งเสียงเรียกเขาอยู่นั้นเป็นใคร“ตะวันน่ะ”บอกเสร็จปราณต์ก็ออกจากห้อง โดยมีนัสรินก้าวตามลงไป ทั้งสองเดินออกไปยังหน้าบ้านด้วยกัน และปราณต์ก็กดกุญแจรีโมตเปิดประตูรั้วให้รังสิมันต์“มีอะไรตะวัน”“พี่ปราณต์ต้องช่วยผมนะ เด็กคนนั้นโดนแก้วบาดมือ เลือดไหลเยอะมาก ตอนนี้เด็กนั่นอยู่ในรถผม” รังสิมันต์ไม่ได้เอ่ยชื่อของจันทริกาออ

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 88

    บทที่ 88แสงไฟสีเหลืองอมส้มที่ส่องสว่างทั่วอาณาบริเวณของบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังใหญ่ ยิ่งทำให้บ้านซึ่งถูกออกแบบและปลูกสร้างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูโดดเด่นสวยสะดุดตามากยิ่งขึ้นในยามค่ำคืนเช่นนี้ หากแต่ภายใต้ความสว่างไสวและสวยงามที่ห้อมล้อมบ้านหลังใหญ่ในยามนี้ คนเป็นเจ้าของกลับกำลังอยู่ในห้วงของอารมณ์ซึ่งสวนทางกับบรรยากาศอันแสนสวยงามของบ้านโดยสิ้นเชิง เพราะถูกครอบงำด้วยความโมโหต่อ ‘เด็กในปกครอง’ ที่หายตัวไปตั้งแต่ตอนบ่าย และป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับมาร่างสูงลุกขึ้นเดินไปมาสลับกับมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ซึ่งความหนานุ่มสมราคาของมันกลับไม่ได้ทำให้ความเดือดพล่านในอารมณ์ของรังสิมันต์ลดลงเลยแม้แต่นิด มือใหญ่สมสัดส่วนกับรูปร่างเอื้อมไปหยิบขวดวิสกี้ราคาแพงระยับมาเทลงบนแก้ว ก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันนั้นลงไปในลำคอพรวดเดียวหมด จากนั้นก็กระแทกแก้วลงกับโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์ โดยมี ‘เมสซี่’ แมวพันธุ์แร็กดอลล์ตัวโปรดนั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ บ่อยครั้งที่ตาสีฟ้าของมันเหลือบมองเจ้านายตัวเอง และลุกขึ้นมาคลอเคลีย ตามประสาแมวขี้เล่น แต่พอรู้ว่าเจ้านายกำลังอารมณ์ไม่ดี มันก็กลับไปนั่งที่ของมันแล้วหมอบลงเงียบๆ อย่างไม่กล้าก

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 87

    บทที่ 87“นั่งด้วยกันมั้ย” ปราณต์เอ่ยชวน“ไม่ดีกว่าครับ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนที่กำลังอยู่ข้าวใหม่ปลามัน” รังสิมันต์ปฏิเสธก่อนจะหันไปทางกวินภพเพื่อหาพวก “จริงมั้ยวะอิสร์”“แกมันก็ชอบหาเรื่องกวนตีนชาวบ้านไปทั่ว” กวินภพไม่ได้เออออแต่พูดขัดคอขึ้นมาซะงั้น“เฮ้ย...แกเป็นนักธุรกิจพันล้านนะเว้ยอิสร์ พูดคำหยาบกวนตงกวนตีนแบบนี้ได้ไง เสียภาพพจน์นักธุรกิจหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบหมด”“แกมันบ้าว่ะตะวัน” หนุ่มกรุงเทพฯ ส่ายหน้ายิ้มๆ กับความเจ้าคารมและช่างกวนอารมณ์ชาวบ้านของรังสิมันต์“พี่ก็ว่างั้นละอิสร์”“เฮ้อ...ตอนแรกว่าจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ เปลี่ยนใจดีกว่านั่งกับพี่ปราณต์เลยแล้วกัน” รังสิมันต์แกล้งกวนอารมณ์พี่ชายต่อ ด้วยการจะขยับเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แต่ยังไม่ทันได้นั่งนัสรินซึ่งไปเข้าห้องน้ำก็กลับมาเสียก่อน ทำให้ทั้งสองหนุ่มต้องหันไปทักทายกับหญิงสาวตามมารยาท“สวัสดีครับพี่สะใภ้” รังสิมันต์ทักทายขึ้นก่อนอย่างขี้เล่น ทำให้คนถูกทักเหวอแกมอายนิดๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นกับคำเรียกแบบนั้นสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ เพราะประเมินว่าทั้งสองน่าจะอายุมากกว่าตน“ตะวั

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 86

    บทที่ 86“แน่นอนสิที่รัก ถ้าไม่รู้ใจคุณแล้วผมจะเป็นผัวคุณได้ยังไง ว่าไงจะบอกหรือเปล่าว่าหมายถึงใคร”“นัสหมายถึงหมอเมย์ค่ะ” ในที่สุดนัสรินก็ยอมรับว่าเธอต้องการจะถามเขาว่าเคยพาเมธาวีมาที่นี่หรือไม่“ถ้าบอกว่าเคยล่ะ”“ก็ไม่แปลกใจค่ะ” ปากว่าไม่แปลกใจ หน้าก็ยังดูยิ้ม แต่แววตาและน้ำเสียงนั้นแปร่งไปจนฟังได้ชัด“คราวนี้จะยอมรับได้หรือยังหือว่าคุณหึงผมกับเมย์” คุณหมอผู้ลองใจเมียเริ่มต้อนให้เธอยอมรับความจริงกับเขาเสียที“ยอมรับก็ได้”“ทำไมถึงจำเพาะเจาะจงว่าเป็นเมย์”“ไม่รู้สิคะ อาจเป็นเพราะว่านัสเคยเห็นกับตาว่าคุณกับหมอเมย์สนิทสนมกันแค่ไหนมั้ง”“ผมไม่ได้คิดอะไรกับเมย์เกินกว่าน้องสาว สาบานได้เลย แต่ผมก็ดีใจนะที่รู้ว่าทำให้คุณหึง”“วันที่นัสไปตรวจที่คลินิกว่าท้องหรือเปล่า นัสเจอหมอเมย์ด้วยค่ะ เธอบอกว่าเธอเลิกกับคุณปราณต์แล้ว”“หือ...เลิกกัน?” ปราณต์เลิกคิ้วเข้มขึ้น “ฟังอะไรผิดหรือเปล่านัส”“เธอบอกแบบนั้นจริงๆ นะคะ แต่มาบอกทีหลังว่าเลิกหวังในตัวคุณแล้ว เพราะคุณรักคนอื่นอยู่” นัสรินเล่าให้ฟังตามความจริง พลางคิดถึงเหตุการณ์และสีหน้าของเมธาวีในวันนั้นอย่างจำได้แม่น“ขนาดเมย์ยังรู้ว่าผมรักใคร แล้วทำไม

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 85

    บทที่ 85ปราณต์เป็นฝ่ายขยับมาถือกระเป๋าสะพายของภรรยาที่วางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับโอบเอวเล็กที่ตอนนี้ขยายขึ้นเล็กน้อย ทำให้นัสรินซึ่งยังงงอยู่เล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนทั้งสองจะรู้จักกันต้องขยับตาม แต่ก็ไม่ลืมที่จะร่ำลาหมอพัทธระตามมารยาทอันดี “ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ เดี๋ยววันหลังนัสจะเตรียมสัญญามาให้เซ็น วันนี้นัสขอตัวก่อน” “ครับคุณนัสริน แล้วพบกันครับ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ จากนั้นก็ก้าวตามสามีออกไปขึ้นรถ ปราณต์เดินเงียบๆ แต่ยิ้มในหน้า ซึ่งจากประสบการณ์ที่อยู่ด้วยกันมาพักหนึ่ง ทำให้นัสรินพอจะรู้ว่าเวลาที่ปราณต์เป็นแบบนี้นั่นคือเขากำลังอยู่ในภาวะอารมณ์ดีแบบสุดๆ “ยิ้มอะไรนักหนาคะ พอใจมากหรือไง” นัสรินถามคนที่ซ่อนยิ้มในหน้าอย่างอดไม่ได้ จากสายตาและวาจาที่ฟังดูนุ่มละมุนผิดปกติของหมอพัทธระเมื่อครู่นี้ เธอก็พอจะรู้ว่าเขาคิดยังไงกับสามีของตน “ก็พอใจสิ” “แล้วเป็นไงคะ หมอพัทธระหล่ออย่างที่นัสบอกหรือเปล่า” “หล่อ...แต่ที่ฟังดูน้ำเสียงของนัสเหมือนกำลังหึงผมอยู่นะ อย่าหึงเลยน่า ผมชอบผู้หญิง” คราวน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 84

    บทที่ 84วันนี้เป็นวันครบรอบสามเดือนที่บริษัทส่งตัวนัสรินมาทำงานที่เชียงใหม่พอดี ซึ่งตามกำหนดเดิมเธอจะต้องกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และมีตัวแทนจากบริษัทคนใหม่มาทำงานแทนเธอ แต่จนป่านนี้ทางบริษัทก็ยังไม่ส่งใครมา แถมเธอยังต้องทำงานที่นี่ต่อ ซึ่งคราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ทำชั่วคราวแล้ว หากแต่ต้องประจำอยู่ที่นี่อย่างถาวรนัสรินยังจำวันที่ตัวเองโทร.ไปแจ้งข่าวกับกิตติ ว่าเธอประสงค์จะลาออกจากงาน ตอนนั้นหัวหน้าของเธอดูเป็นเดือดเป็นร้อนมาก เพราะยังหาคนที่ทำงานเก่งอย่างเธอมาแทนยังไม่ได้ แต่เมื่อรู้ว่านัสรินจะลาออกไปแต่งงาน และอยู่ที่เชียงใหม่กับสามี กิตติก็ขอร้องให้เธอทำงานให้ต่อ โดยเสนอจะเพิ่มเงินเดือนให้ สุดท้ายนัสรินก็จำต้องรับปาก โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เธอ ความจริงเธอไม่ได้อยากลาออกเลยสักนิด แต่ที่ต้องบอกหัวหน้าไปเช่นนั้น ก็เพราะปราณต์ขอร้องแกมบังคับ และเมื่อเขาได้รู้ว่าเธอตัดสินใจจะทำงานต่อ หมอหน้าหล่อก็งอนไปหลายวันเหมือนกันนัสรินออกมาจากออฟฟิศก่อนเวลาเลิกเงิน เพราะมีนัดกับลูกค้าซึ่งเป็นหมอของโรงพยาบาลเอกชน เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกับหมอหนุ่มที่ตัวเองกำลังคุยงานด้วยอย

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 83

    บทที่ 83พระอาทิตย์ยามเย็นเริ่มเคลื่อนคล้อยลอยต่ำลงเรื่อยๆ บ่งบอกว่าอีกไม่นานตะวันจะลาลับขอบฟ้าไปแล้ว และความมืดมนของรัตติกาลก็จะมาเยือนในไม่ช้า หากแต่บรรยากาศทั่วคุ้มลักษิกาในยามนี้กลับเต็มไปด้วยความสว่างไสว อันเกิดจากความสุขและปีติยินดี เมื่อข่าวที่ว่าปราณต์กับนัสรินกำลังจะแต่งงานกันอีกครั้ง และตอนนี้ทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันแล้ว แพร่กระจายไปทั่วคุ้มลักษิกาอย่างรวดเร็วปราณต์ตัดสินใจปิดคลินิกอีกวันเพื่ออยู่ทานข้าวเย็นกับครอบครัวตามคำสั่งของมารดา ธรินดาเข้าครัวทำอาหารที่พี่สะใภ้ชอบให้อย่างเต็มใจ ขณะที่ปรัชญ์กับปราณต์นั่งคุยกันตามประสาพี่น้องในห้องนั่งเล่น ส่วนแม่เลี้ยงลักษิกาก็เล่นกับหลาน นัสรินจึงถือโอกาสเดินไปที่เนินเขาหลังคุ้มลักษิกา เพื่อดูแปลงกุหลาบและพระอาทิตย์ตกดินตาคู่สวยมองพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังทอดตัวลงหาเส้นขอบฟ้า พร้อมกับปล่อยความคิดของตัวเองให้ล่องลอยไป ลมหนาวเริ่มพัดพรายมากระทบกาย แต่ยามนี้หัวใจเธอกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น และมันก็อุ่นยิ่งขึ้นเมื่อมีอ้อมกอดของคนที่รักโอบล้อมเข้ามา“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” นัสรินเอียงหน้ามาถามคนที่ยืนโอบกอดตัวเองอยู่ทางด้านหลังเบาๆ“คิดอะไรอยู

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 82

    บทที่ 82“มันน่าโกรธมั้ยล่ะ ผมเป็นหมอแทนที่จะได้รู้เป็นคนแรกว่าเมียตัวเองท้อง แต่กลับเป็นหมอคนอื่นที่รู้ก่อน คุณก็รู้นี่นัสว่าผมอยากมีลูกกับคุณแค่ไหน” ปราณต์เอ่ยออกมาเสียงขรึมๆ“ก็ตอนนั้นคุณกับนัสยังไม่เข้าใจกันนี่คะ อีกอย่างคุณก็ทำให้นัสเข้าใจว่าคุณกับออยมีอะไรลึกซึ้งกันไปแล้ว นัสเลยไม่อยากให้ลูกกลายมาเป็นปัญหาของใคร”“ตอนนั้นผมเข้าใจ แต่เราเข้าใจและคืนดีกันมากี่วันแล้วนัส นัสคิดจะปิดผมไปอีกนานแค่ไหน และมีเหตุผลอะไรที่คุณไม่ยอมบอกผม”“โธ่...ก็นัสยังไม่กล้าบอกนี่คะ อย่าทำหน้าทำเสียงแบบนั้นใส่นัสสิคะ นัสใจไม่ดี”“ถูกต้องแล้วที่คุณจะใจคอไม่ดี เพราะตอนนี้ผมโกรธคุณอยู่ และโกรธมากด้วย” ปราณต์ทำเสียงเข้มใส่ ทำให้คนถูกโกรธยิ่งใจฝ่อ“แล้วทำยังไงคุณถึงจะหายโกรธคะ”“ก็ต้องง้อสิ ไม่ง้อจะให้หายโกรธได้ยังไง”นัสรินขยับตัวเข้าหาพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบกอดที่ต้นคอของเขา ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นแล้วประกบปากตัวเองลงบนปากของเขา จากนั้นเธอก็เริ่มจูบและปราณต์ก็จูบตอบอย่างร้อนแรง กึ่งลงโทษกึ่งปรารถนาปนเปอยู่ในรสจุมพิตนั้น“หายโกรธนัสหรือยังคะ” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างงอนง้ออีกครั้งหลังจากที่ปากของทั้งคู่ผละห่างจากกัน

  • เมีย(ไม่)พลอยโจน   บทที่ 81

    บทที่ 81“ทำไมถึงซื้อไว้ล่ะคะ ที่จริงมีบ้านสวยๆ กว่าบ้านหลังนี้อีกเยอะแยะ หรือถ้าคุณจะสร้างใหม่ก็สร้างได้สบายๆ อยู่แล้ว”“ไม่รู้สิ คงเป็นเพราะว่ามีสิ่งเดียวที่ผู้ชายใจร้ายอย่างผมทำได้เพื่อระลึกถึงคุณมั้ง” ปราณต์พูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเขาไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แววตายามเมื่อนึกถึงความหลังครั้งนั้น ฉายแววเคว้งคว้างสับสนออกมาจนนัสรินรู้สึกได้“นัสก็ผิดค่ะที่เห็นแก่ตัว ถ้าคุณจะเกลียดนัสก็ไม่แปลกหรอก”“แต่ถ้าผมใจกว้าง เปิดใจยอมรับว่าที่นัสทำลงไปก็เพราะรักผม ป่านนี้เราอาจจะมีลูกด้วยกันแล้วก็ได้” ปราณต์พูดถึงลูกอีกครั้ง นัสรินจึงเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของเขา เพราะเธอยังปิดบังเรื่องที่ตัวเองท้องอยู่ แต่ปราณต์ไม่ยอมให้นัสรินหนีไปไหน เขาย่อตัวช้อนอุ้มร่างบางพาเดินไปนอนที่เตียงด้วยกัน“คุณปราณต์อุ้มนัสมาขึ้นเตียงทำไมคะ” นัสรินถามพลางหน้าแดงซ่าน เมื่อครู่ยังคุยกันดีๆ อยู่แท้ๆ แต่เผลอแป๊บเดียวเธอก็ขึ้นมานอนอยู่บนเตียงโดยมีร่างสูงใหญ่ของเขานอนอยู่แนบชิดเสียแล้ว“ก็พามาพิสูจน์ว่าเตียงเล็กไปหรือเปล่าสำหรับเราสองคน”“วันนั้นก็พิสูจน์ไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ”“วันนั้นผมเมา จำอะไรไม่ค่อยได้ ต้องทำตอนมีสติ” คน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status