“ดีล่ะที่นายมาถึง ยังดีกว่าไม่มา”
“เอ ไม่มาได้ยังไงโทชินาดะ บอกมาก็ต้องมาสิ คนอย่างฉันนัดคำไหนเป็นคำนั้น”
โทชินาดะดูเหมือนจะสัมผัสความรู้สึกและตัวตนเพื่อนคนเดิมเมื่อครั้งเรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างดี
ปางภูเป็นคนที่พูดจริงทำจริง อารมณ์มุทะลุบ้าง ไม่ชอบทำอะไรค้างคา
“นายก็ยังเป็นปางภู คนเดิม”
“กับแฟนสาวของนายล่ะ”
โทชินาดะรับรู้ว่าปางภูมีแฟนสาว
แล้วตั้งแต่เรียนอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ ก่อนจะจบและจากกันมา เพราะมีอะไรนั้น ปางภูไม่ค่อยที่จะปิดบังเพื่อนรักชาวอาทิตย์อุทัย
เช่นเดียวกับโทชินาดะเช่นกัน ทั้งคู่จึงคบกันได้สนิทใจและเปิดเผย
“เธออยู่ที่ต่างประเทศ ทำงานอยู่ แล้วฉันกับเธอ ก็ห่างกันสักพักหนึ่งแล้ว”
“อ้อ เหรอ เพราะทีแรกนึกว่านายแต่งงานแล้ว”
โทชินาดะพยักหน้ารับ
หลังจากได้ยินฟังอารมณ์เศร้าจากน้ำเสียงที่เรียบเป็นปกติ
“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกโทชินาดะ เคยบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเราจะแต่งงานกับใคร คงต้องโทร.ไปบอกนายก่อน นายอยากจะมาร่วมงานแต่งของเราไม่ใช่หรือ”
ปางภูก็พูดเผื่ออนาคต เพราะยังไม่มีวี่แววบังเกิด งานเขียนที่ค่อนหนักซึ่งเขารับผิดชอบ มันก็รัดตัวพอสมควร กับพอๆกับงานธุรกิจส่วนตัว
ที่เขาต้องการทำให้ออกมาดีที่สุด ทั้งสองอย่าง เพราะคิดว่าเรื่องแค่นี้ น่าจะไม่พ้นหนึ่งสมองสองมือเขาได้
ปางภูมักจะคิดอย่างนี้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่มนุษย์อย่างเขาจะกระทำไม่ได้
ถ้าหากปรารถนา นอกเว้นเสียจากมันสุดวิสัยซึ่งมนุษย์จะกระทำได้ เช่นคว้าดาวเดือนมาเป็นของตนเอง
“แล้วนายล่ะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดี”
หนุ่มผิวขาวจากแดนอาทิตย์อุทัยยิ้มใส ด้วยทรงผมตั้งเท่แบบทันสมัย ผ่านการย้อมสีทองดูมีเสน่ห์ไม่น้อย
“ฉันกับมิชิโกะจะแต่งงานปลายปีนี้ ที่ทาคางาวะ กลางกรุงโตเกียว ต้นฤดูหิมะตก อย่าลืมล่ะ นายต้องไปงานของฉันให้ได้”
เมื่อเพื่อนบอกข่าวดี
เขาก็ดีใจแทนเพื่อนด้วย
“ดีใจอย่างมากว่ะ ในที่สุดข่าวดี ของนายเกิดขึ้นก่อนฉันอีก
โทชินาดะ ไม่ลืมแน่ ฉันจะรีบบึ่งไปเลย เมื่อถึงเวลาในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว ที่สนิทสนมคบหากันมานาน”
โทชินาดะยิ้มให้อีกครั้งก่อนเอ่ย
“ไปครั้งนี้ นายอย่าลืมจูงมือสาวไทยคนสวย ว่าที่แฟนนายไปร่วมงานด้วยนะ เพื่อนๆหลายคนก็อยากจะอวยพรอยากพบเจอนายด้วย”
ปางภูพยักหน้า
ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ตระเตรียมงานสะสางเรื่องยุ่ง ไว้ล่วงหน้า
ส่วนต้นฉบับคงจะพกโน๊ตบุ๊คเครื่องโปรด เดินทางไปด้วย
ไม่แน่ล่ะดินแดนสุขสงบของดอกเบญจมาศและชาวอาทิตย์อุทัย คงทำให้เขาเพริดตะลึงกับฉากนิยายเรื่องใหม่
ที่เขาแอบสรรสร้าง ฉากเล็กฉากใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นสักครั้ง และเมื่อมีโอกาสเที่ยว คงอยู่นานเป็นอาทิตย์ สองอาทิตย์
อีกอย่างเกาะฮอนชู กับฮอกไกโดทางตอนใต้ของประเทศเห็นว่าสวยงามตามคำร่ำลือก็อยากจะไปเยือน
แต่เขาจะไปหาคู่รักหรือแฟนสาวจากที่ไหน
ตามคำบัญชาของเพื่อน เขาก็นึกไม่ออก
ภามิญาอยู่ไกลจากเขา เกินกว่าที่จะเรียกร้อง
ขอร้องให้เธอเดินทางกลับมา เพื่อร่วมงานวันแต่งเพื่อนรักคนนี้พร้อมกับเขา
มันคงจะเป็นเรื่องยาก เพราะภามิญามักปฏิเสธเสมอว่า ไม่ว่าง
ปางภูก็เหนื่อยหน่าย การที่ภามิญาจางหายเหมือนหลุดลอยผ่านจากความรู้สึก
เขาก็มีความคิดความรู้สึกเช่นเดิม
คือไม่ได้มีความรู้สึกอย่างที่กระวนกระวาย อาวรณ์ห่วงหามีบ้าง แต่มันก็ไม่ได้มากมาย เหมือนคราวแรกที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ
อีกอย่าง คนอย่างเขา เวลาเหงาเงียบไม่ค่อยมีเท่าไหร่
เพราะเอาเวลาไปทุ่มเท ใส่นิยายจนหมด นี่คือความรัก
ปางภูบอกออกมาจากหัวใจส่วนลึกของตนเอง ระหว่างงานเขียนที่ตนเองรัก กับคนรักมันมีค่าเท่ากัน
ในความคิดเขา สุดแท้แต่ว่าฝ่ายคนรัก
จะทำให้เขาอนาทร หรือสนใจหล่อนมากเพียงไร
เขาพบพานเพื่อนมากมาย ที่เป็นตัวละครของตนเอง มีความสุขกับคนเหล่านั้น ที่ลิขิตรังสรรค์ผ่านปลายหมึกของตนเอง
แบบนี้ล่ะที่เขาอนาทร และดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าตัวตัวของมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณ
เพราะอย่างน้อยตัวละครของเขา มันดิ้นหนีไปจากเขาไม่ได้ ถูกกักขังอยู่ในโลกจินตนาการ ที่พร่ำเพ้อ ถึงกี่ครั้ง กี่รอบไม่มีวันจบ และวันจาง
และอีกอย่าง มันไม่มีวันทรยศ และคิดคดเหมือนใจคน
ที่มีเลือดเนื้อได้ เขาคิดว่าตัวละครพวกนี้ มีความบริสุทธิ์ พร้อมที่เขาจะทุ่มเทรักคนเหล่านี้
ด้วยหัวใจรักที่เต็มเปี่ยม
ถึงเขาทุ่มเทแรงใจเป็นร้อย เขาก็ไม่เคยได้รับความผิดหวังเสียใจกลับมา
“เรื่องงานเขียนของนายเป็นอย่างไรบ้าง”
เขาส่งข่าวคราวเกี่ยวกับงานเขียนของตนเอง ให้เพื่อนคนนี้ทราบอยู่ตลอดเวลา
โทชินาดะจึงถาม
“ก็เรื่อยๆ เขียนด้วยใจสนุก ตอนนี้ออกมาห้าเล่มแล้ว “
“โอ้โฮ เก่งจัง แบบนี้ระดับเบสเซลเลอร์แล้วนะ”
เพื่อนหนุ่มนักเขียนยิ้มตอบเบา
“โน่นใครกันนะ ผู้หญิงชาวไทยทั้งสองคนนั้นสวยน่ารักจริง หน้าหวานกิริยาก็งดงาม นายรู้จักเคยเห็นหน้าหรือเปล่า ป้าง”
โทชินาดะเรียกชื่อเล่น ที่ปางภูเคยแนะนำให้เรียกและออกเสียงให้ฟัง
ยิ้มให้เพื่อนนิดหนึ่งก็ใช้สายตาสำรวจพุ่งตรงไปยังสาวที่กำลังก้าวพาร่างระหงในชุดเครื่องแบบยูนิฟอร์มของพนักงานก้าวเข้ามาภายในอาคารซึ่งเป็นโรงแรมกึ่งคอนโด
หลังจากที่โทชินาดะชี้มือพร้อมบุ้ยใบ้ให้มอง
สาวสวยที่เดินเคียงคู่กัน สาวหนึ่งค่อนข้างเตี้ย แต่อีกสาวที่ดูสูง ถ้าเทียบกันไล่เลี่ยกับเขา ระหงหน้าหวาน กำลังสนใจกับกองเอกสารที่ช่วยกันขนยกจากข้างใน
พร้อมด้วยพนักงานชายอีกสองคน มีเสียงพูดสนทนาที่ดังเล็ดลอดผ่าน ใกล้เข้ามาให้เขาได้ยิน
และพอจับน้ำเสียงได้ยินบ้าง
“นายสนใจหรือยังไง”
เขาส่ายหน้าปฏิเสธ
แต่คิ้วเข้มดกดำของหนุ่มหล่อต่างแดนเงยขึ้น หรี่สายตามองเพื่อน
“ใช่ ฉันรู้สึกชอบ สาวไทยหุ่นเตี้ยคนนั้น เธอมีหุ่นเหมือนมิชิโกะแฟนฉันไม่มีผิดเลย แต่ถึงยังไงมิชิโกะยังน่ารักกว่า”
ท้ายสุดอดให้ความสำคัญแก่แฟนสาวผู้มาก่อนไม่ได้
ชื่นชมเป็นอาหารหวานทางสายตาเท่านั้น
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท