และมีตระกูลของพี่สะใภ้นั้นเป็นเจ้าของและดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ของบริษัทและเป็นผู้อำนวยการ
การทำงานของทิชากรจึงเป็นที่ถูกตาต้องใจผู้ใหญ่เนื่องจากเธอมีศักดิ์เป็นเครือญาติ จึงให้การสนับสนุนเต็มที่
จนเธอได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่เป็นบ.ก.ตัวเล็กแต่ใจใหญ่
เธอสนิทสนมกับนักเขียนหนุ่มปางภู ซึ่งปัจจุบันเป็นทั้งนักธุรกิจ เป็นเสี่ยหนุ่มที่ครอบครัวดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจทัวร์ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านของตระกูล
และได้แตกแขนงแยกย่อยจากการเจริญเติบโตทางธุรกิจอีกสองสามบริษัท ตั้งอยู่ในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ทำให้เขาไม่มีเวลาบริหารงานได้อย่างเต็มที่
เพราะส่วนหนึ่งเอาเวลาว่างแวบไปเขียนนิยาย
ซึ่งทิชากรบ.ก.สาวใหญ่ยังทราบไม่หมดด้วยซ้ำว่า ครอบครัวของเสี่ยหนุ่ม นักเขียนรูปหล่อของเธอนั้นที่ว่ากิจการมีมากมาย เกี่ยวกับธุรกิจ
แต่ถึงอย่างไร เป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง
ที่ปางภูสามารถปลีกตัว หาเวลาว่างมาเขียนหนังสือส่งให้เธอ ทั้งรายสัปดาห์ อย่างโนเวล รวมทั้งรายปักษ์
เธอกับเขาพบกันครั้งแรกในฐานะนักเรียนโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัย จึงได้สนิทสนมและคบหากันในฐานะเพื่อนตั้งแต่ชั้นประถมจนจบชั้นมัธยม
กาลเวลาที่ผ่านไปนานถึงสิบสองปี ของคำว่าเพื่อนยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม และไม่เคยเปลี่ยนแปลงจากคำนี้
เขากับทิชากรนั้นมันไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากคำว่า เพื่อน
ซึ่งเป็นมิตรภาพแท้ที่บริสุทธิ์
จากความรู้สึกของเพื่อนที่มีต่อกัน มันไม่มีความรู้สึกละเอียดอ่อนที่เรียกว่า ความรักหรือความใคร่เข้ามาปะปนเลย
ถึงเวลานี้ชายหนุ่มก็ยังยืนยันเสียงเด็ดขาด ถ้าถามดูกับใจของตัวเองแล้ว
ปางภูค่อนข้างเป็นหนุ่มหล่อที่เจ้า
้่งบริษัทซึ่ง่งหนุ่มหล่อเคยผ่านเสน่ห์วัยสามสิบสองปีของเขาเช่นนี้ เขาจะไม่คิดเรื่องแต่งานเลยหรือไร?
เป็นไปไม่ได้ และคำตอบ คือ คิดและมีคำตอบว่าอยากจะแต่ง แต่ก็ต้องรอเวลาให้พร้อมและเหมาะสมก่อน
อันที่จริงนั้นเขาเองก็มีแฟนสาวอยู่แล้ว เธอมีชื่อว่า เพิร์ล หรือภามิญา พำนักอยู่กับครอบครัวที่ ประเทศอเมริกา
ระหว่างเขากับแฟนสาว ก็เป็นที่รับรู้ของทิชากรด้วย
มือเรียวอวบของหญิงสาวใหญ่ผายมือเชื้อเชิญนักเขียนหนุ่มเพื่อนรักเข้าไปใน
งียบ อ่านมานาน อ่านไปสักพักก้ห้องพิเศษ
สำหรับใช้ต้อนรับอาคันตุกะคนพิเศษหรือบรรดาแขกเหรื่อลูกค้าที่เข้ามาติดต่องานในบริษัท
หนุ่มหล่อกวาดตามองสำรวจเล็กน้อย ก่อนที่ร่างสูงจะทรุดกายลงนั่งบนพนักเบาะนั่งสีกำมะหยี่น้ำตาลแดง
นั่งตัวตรงอดไม่ได้ที่จะชำเลืองสายตามองภาพวาด เป็นภาพที่ถูกแขวนไว้ในบนผนังห้อง
และมีตู้โชว์เครื่องประดับจากต่างประเทศและปกของนิตยสารที่ผ่านมา
รวมทั้งฉบับล่าสุดวางอยู่ในกระจกแก้วสี่เหลี่ยม
และเบื้องหน้าจึงเป็นโต๊ะกระจกแก้วทรงกลม มีที่เขี่ยบุหรี่วางอยู่ด้วย เผอิญปางภูสูบบุหรี่เป็นบางครั้ง ไม่ถึงกับติดและเหล้าก็เช่นกัน เวลามางานสำคัญของเพื่อนสนิทอย่างนี้ และเมื่อตอนที่อยู่บ้าน เขาก็ไม่ค่อยชอบสูบบุหรี่
งานเขียนของเขาจะขับเค้นออกมาจากมันสมองลักษณะสบายๆ ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งพวกนี้เข้าช่วย มันเป็นความเคยชินอีกนั่นแหละ ที่เขาจะให้คำตอบนี้
ทิชากรในฐานะหัวเรือใหญ่ของที่นี่แถมด้วยเพื่อนสนิทที่เป็นคนเอ่ยชักชวนมาในวันนี้ ซึ่งต้องมีเรื่องสำคัญที่เธอจะเอ่ยพูดและตระเตรียมเอาไว้แล้ว
เพื่อนหนุ่มนักเขียนของเธอ เพิ่งเดินทางมาถึงอยากจะให้เขานั่งพักหายใจหายคอคล่องเสียก่อน
ที่จะเริ่มเรื่องคุยกันเป็นงานเป็นการ
สาวใหญ่เจ้าของสถานที่เอ่ยกล่าวกับเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง ไม่ได้เคร่งเหมือนใช้กับคนอื่น
“เชิญ นั่งตามสบายไปก่อนนะ ป้าง เพิ่งมาถึงนี่ คงเพลีย และเหนื่อย ทานอะไรเย็นหรือเปล่า ที่นี่มีน้ำส้มคั้น บ๊วยหรือน้ำเปล่า”
ถามเพื่อนเพราะเห็นว่า เขาคงนึกกระหายน้ำ
”ขอเป็นบ๊วยก็แล้วกัน นึกอยากทานพอดีเลย คงชุ่มคอแก้กระหาย”
หนุ่มหล่อยังเอ่ยตอบเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติคือนุ่มใสของเขา
“งั้น เธอรอสักครู่นะ ฉันจะไปบอกเด็กให้นำมาให้ ระหว่างที่อยู่รอฉันสักประมาณห้านาที คือ ฉันขอเข้าห้องน้ำน่ะ”
ทิชากรสาวใหญ่บอกจุดประสงค์ของตัวเองที่เกิดขึ้นมาฉับพลัน
หนุ่มหล่อเพื่อนสนิทจึงพยักหน้าให้เบา จากนั้นเปลี่ยนอิริยาบถของตัวเองด้วยการยกมือขึ้นกอดอกในลักษณะท่วงท่าสบาย
เพื่อรอเพื่อนสนิทบ.ก.สาวใหญ่ของที่นี่ต่อไป
ื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นนระหว่างนั่งครุ่นคิดหนุ่มหล่อในฐานะนักเขียนเริ่มมีชื่อ
ขมวดคิ้วเรียวหนาเป็นปื้นคงความเจ้าเสน่ห์ได้อย่างมากทีเดียว เพื่อนบางคนบอกว่าชอบขนคิ้วที่นอกจากเข้มดำสนิทยังพาดเฉียงคล้ายปีกนก ทำให้ส่วนหนึ่งของใบหน้านั้นปางภูแลดูสะดุดตาตรงนี้
วันนี้สิ่งที่เขาเตรียมมาให้เพื่อน คือไฟล์งานต้นฉบับ ซึ่งไม่ทราบว่าทิชากรจะมีความพึงพอใจแค่ไหน
ซึ่งเขานั้นไม่สามารถจะบอกได้ ต้องรอคำตอบจากหล่อน เพราะดูเหมือนจะมีฐานะเขียนงานออกมาตามใบสั่งของเพื่อนไปแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างนี้
ทิชากรทั้งคะยั้นคะยอแกมขมขู่บังคับรวมทั้งให้กำลังใจใส่ไปด้วยว่า
“เธอต้องทำได้นะ ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้แน่ ป้างเพราะฉันเชื่อในฝีมือเธอ”
นี่ไม่ใช่หรือที่เป็นกำลังใจตามติดมาจากน้ำคำที่เชื่อมั่นของเพื่อนทุกครั้ง
จนทำให้เขามีวันนี้ สามารถสร้างโลกส่วนตัวของตัวเองที่เรียกว่านิยาย ให้เข้าไปอาศัยจมปลักอยู่กับจินตนาการ ที่มิรู้วันคืนมาอย่างยาวนาน
ด้วยใจรักที่สัมผัสแล้วนอกจากซาบซึ้งดูดดื่ม
ยังให้คำตอบว่ามันกล่อมใจให้มีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง และไม่เคยสร้างปัญหาเดือดร้อนอะไรให้แก่เขา
พิษภัยของมันไม่มีเลย
หนุ่มหล่อตัดสินใจเอ่ยมาตรงๆ การสนทนาดำเนินไปเรื่อยระหว่างนั้นแม่บ้านในออฟฟิศประจำบริษัทก็ยกแก้วน้ำบ๊วยเย็น มาวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่มแล้วก็ขอตัวเดินจากไป
ปางภูชอบใช้ชีวิตอย่างราบเรียบ มีความสุขแบบปกติส่วนตัว ที่ไม่ชอบให้ใครวุ่นวายและเกี่ยวข้อง ถามว่าเขามีจินตนาการในโลกของความคิดสูงมั๊ย ต้องขอตอบว่าสูง นักเขียนเกือบทุกคนเป็นลักษณะเช่นนี้
ยิ่งเป็นงานที่ตัวเองรักชอบ นักเขียนชื่อดังบางคนถึงกับปิด
ล็อกกลอนประตูในห้อง ทำงานโดยไม่ให้ใครมายุ่มย่ามรบกวน แม้จะเคาะประตูก็ควรให้เป็นเวลา
รวมทั้งเวลาทานอาหาร หรือพักผ่อน ตั้งขึ้นมาเองเลยว่า สามารถถามหรือเข้าไปรบกวนในเวลาช่วงไหนได้
บางคนแทบไม่รับโทรศัพท์ เพราะจะนั่งขีดนั่งจับปากกาเขียนอยู่ในอารมณ์ส่วนตัว
ยิ่งปางภู เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท