ถ้าเป็นงานเขียนที่ต้องสื่ออารมณ์อย่างละเมียดละไมเพื่อให้สมจริง การสร้างอารมณ์ของนักเขียนจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะด้วยสาเหตุนี้กระมัง
การติดต่อจากคนภายนอกหรือแม้แต่ในแวดวงกลุ่มเพื่อนฝูงที่สนิทด้วย จึงค่อนข้างยาก
บ.ก.สาวใหญ่พอรู้ว่าเพื่อนมีงานล้นมือ หล่อนก็มีงานล้นมือ
บทที่ 2
แต่เธอเชื่อเสมอว่า ปางภูสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่มีความสามารถ มีความอดทนสูง
ในหัวสมองมีความสร้างสรรค์ละเอียดอ่อนในการพิจารณา เท่าที่สังเกต
และหล่อนอ่านจากเนื้องานด้วย ถึงกล้าเอ่ยออกมาได้เต็มปาก
เธอมองผ่านทะลุเข้าไปในเนื้อตัวตนของเขาอย่างคาดเดาได้ทันที ทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รับรู้ถึงขนาดนั้น
บางทีปางภูคิดว่าเพื่อนสาวคนนี้ของเขามีเซ้นต์แบบพิเศษ ที่สามารถอ่านเดาใจคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
การสนทนาเมื่อถูกทิ้งเงียบไปสักพัก
บ.ก.สาวใหญ่วัยเลขสามต้นๆก็เอ่ยคุยเรื่องสัพเพเหระ กระทั่งมาหยุดกึกที่เรื่องหนึ่ง เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัวเป็นอย่างมาก
ประสาเพื่อนฝูงด้วยกันที่ห่วงใยรักใคร่กัน จึงเอ่ยถาม
“แล้วแฟนของเธอ เป็นยังไงบ้างล่ะ ป้าง ยัยเพิร์ลที่อยู่อเมริกา”
“เค้า ก็สุขสบายดีนะแซนดี้ ฉันไม่ห่วงหรอกนะ ยังไงเมื่อเขาตัดสินใจไปแบบนั้นแล้ว ทุกคนในครอบครัวของเขาอยู่ที่โน่นกันหมด แต่เราก็ยังโทร.ติดต่อ รวมทั้งอีเมล์ถึงกัน”
ปางภูไม่อยาก เอ่ยมากกว่านี้
“เธอก็รู้นี่ หนุ่มฝรั่งมันเจ้าชู้จะตาย แล้วยัยเพิร์ลก็ออกจะเจ้าเสน่ห์ ต่างคนต่างอยู่ไกล เธอไม่คิดบ้างหรือไง บางทีใจเขาอาจจะเปลี่ยนแปลง แล้วก็แปรเป็นอื่นก็ได้นะ ป้างตามสภาพแวดล้อม เหตุผลนะหรืออะไรน่ะ มันก็ไม่เท่า รักแท้แพ้ความใกล้ชิดหรอกนะ เธอเคยได้ยินคำนี้หรือเปล่า”
ปางภูครุ่นคิด จริงสินะ รักแท้แพ้ความใกล้ชิด ซึ่ง ปางภูแอบหวั่นๆในใจเช่นกัน
“พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้เธอไม่สบายใจหรือเปล่าล่ะป้าง แต่ เจตนาของฉัน อยากให้เพื่อนต้องเตรียมทำใจเผื่อไว้บ้าง เวลาพลัดตก จากที่สูงจะได้ไม่เจ็บหนัก ไงล่ะ”
ในดวงตาที่แน่วแน่ของทิชากรบอกเช่นนั้น
“ขอบใจนะแซนดี้ แต่เรื่องนี้ขอให้เป็นโชคชะตา รับรองคนอย่างฉัน แข็งแกร่งแน่ ไม่อ่อนแอ แพ้ภัยง่ายหรอก”
มือเรียวบางของสาวร่างระหงอย่างหล่อน
ถูกเกี่ยวก้อยจับจูงด้วยแขนมือที่คร้ามของผู้ชายอกสามศอกที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนหนุ่ม
ตั้งแต่ได้ตอบรับเขาเป็นแฟน ใบฟางมีความเชื่อและสาวสวยลองคาดเดา
เอาจากจินตนาการบวกกับพฤติกรรมของเพื่อนสาวสนิทด้วยกัน บางคนซึ่งมีแฟนแล้ว การมีแฟนแล้วของหล่อน
ก็ยังดีกว่าที่เรียกว่ายังไม่มีผู้ชายมาเหลียวแล
หรืออัตคัดขาดแคลนเรื่องแฟน
และก็สามารถบ่งบอกได้ว่า หล่อนก็ไม่ได้น้อยหน้าคนอื่นหรอก ที่สามารถหาแฟนได้เป็นของตัวเองแล้ว
เมื่อก่อนรู้สึกอายเพื่อนสนิทในกลุ่มเหมือนกัน
ที่เมื่อก่อนเธอยังไม่มีแฟน ปิยารัตน์ เพื่อนซี้อีกคนของเธอที่สนิทกันมาตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล
มีแฟนตั้งแต่อายุสิบสอง กับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนต่างโรงเรียน สุดท้ายทั้งคู่ก็ถูกจับแต่งงาน รวมทั้งเพื่อนสาวของเธอคนนี้
ปัจจุบันเป็นแม่คนไปแล้วตั้งแต่เรียนจากพาณิชย์แถมด้วยลูกชายวัยสามขวบกำลังน่ารัก ด้วยเหตุนี้จะว่าไป
ใบฟางพยายามหาเกราะป้องกันตัวเอง ที่หล่อนจะไม่ต้องตกเป็นข้อครหา แก่เพื่อนฝูงและในเครือญาติที่เธอสนิทด้วย
ซึ่งมักจะมีคำถามประจำเสมอว่า
เรียนมหาวิทยาลัยแล้วใกล้จะจบเมื่อไหร่จะมีแฟนซักที
ใบฟางเบื่อมากกับคำถามนี้
และดูเหมือนพี่ธีรคาม เขาเหมือนจะเป็นผู้ชายคนดังกล่าวที่หล่อนจับยึดเขาเอาไว้ในตอนนี้ เพื่อประชดคนในครอบครัว
ที่มักจะกล่าวหาว่าคนสวยอย่างใบฟาง ยังไม่มีแฟน ไม่สามารถหาแฟนกับเขาได้
แต่ทว่าในที่สุดพี่ธี” คนนี้ของเธอ ก็กลายเป็นแฟนตัวจริงไปจนได้ อย่างที่บอกเมื่อคราก่อน สมัยที่หล่อนยังเป็นเด็กสาวที่แสนไร้เดียงสา
ไม่เคยข้องเกี่ยวกับความรัก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
พอมาถึงวัยช่วงหนึ่ง ก็ถูกผลักดันให้พบเจอ อาจจะเป็นเพราะเพื่อนในกลุ่มคอยกระเซ้าด้วย
และใบฟาง ก็ตอบคำถามนี้กับหัวใจของเธอว่า เป็นเพราะธรรมชาติของมนุษย์เรียกร้องด้วย
หัวใจที่มีเลือดมีเนื้อมีความฝันเพ้อหวานแหววจินตนาการ
ที่อยากได้รับการปกป้องคุ้มครองจากคนที่แข็งแรงกว่า
ยอมรับว่าความรักของเธอ ในขณะนี้อยู่ในช่วงหวานแหวว พี่ธีหนุ่มหล่อมาดผู้ดีคนนี้ของเธอ
กำลังเอ่ยถึงอนาคตโครงการที่ใฝ่ฝันไว้ทั้งสองคน
เพื่อจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นส่วนตัว กับบ้านหนึ่งหลังเล็กๆ ไม่ต้องใหญ่โตมากนัก เป็นแบบทาวเฮ้าส์ชั้นเดียวก็ได้ กับรถยนต์หนึ่งคันยี่ห้อไหนก็ได้
คำมั่นสัญญาของเขานั้นทำให้เธอมีความสุขอย่างมาก
เหมือนน้ำเสียงนั้นยังกระซิบอยู่ที่หูข้างซ้ายตลอด
“ฟางจ้ะ พี่รักฟาง พี่รักฟางคนเดียว”
คำเอ่ยเช่นนี้พร่ำหวานอยู่ในหูของหล่อนตลอด เพียงเท่านี้ใบฟางก็ซึ้งใจในค่าของหล่อนที่มีความหมายต่อเขา ที่พี่ธีรคามให้เกียรติและเป็นสุภาพบุรุษ วันนี้ก็เช่นกันเพื่อตอบแทนและเพื่อชดเชยคำสัญญาที่ให้ไว้ แก่กันเมื่อคราวอาทิตย์ก่อน ที่เธอไม่สามารถปลีกตัวมาได้ เนื่องจากความจำเป็นที่ต้องอยู่เฝ้าไข้มารดา มาบัดนี้มารดาของหล่อนท่านออกจากโรงพยาบาลและกลับมาทำงานตามปกติ
ท่ามกลางความรู้สึกที่โล่งใจของทุกคนในครอบครัว แม้แต่หล่อน บิดาหรือน้องสาว รวมทั้งตัวใบฟาง ได้สลัดความกังวลห่วงใยทิ้งไปจากตัว
นอกจากสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างดูหรู เพราะอยู่ใจกลางเมือง ที่สำคัญเป็นศูนย์การค้าที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สุดด้วย ระหว่างที่ทอดฝีเท้าเดินไปด้วยกัน
สาวสวยอย่างใบฟาง เป็นหญิงสาวที่มีเรือนร่างระหงงามและสะดุดตา ใบหน้ารูปไข่เรียวยาวรับกับดวงตาที่คม จมูกที่ไม่โด่งมากรวมทั้งริมฝีปากบางที่แสนอ่อนหวานได้รูปรวมทั้งความใสซื่อจากตัวตน
เพียงเท่านี้ใบฟางก็เด่นตามาก เนื่องด้วยชุดที่เธอเลือกสวม ไม่ได้ทำให้ธีรคามรู้สึกขายหน้าแต่เพียงนิด
เขารู้สึกพึงพอใจที่ได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของของหล่อน ยิ่งเพิ่มความหวงแหนระหว่างเคียงเดินไปด้วยกัน
ธีรคามรู้สึกว่าเขาโชคดี สาวน้อยนอกจากแสนสวยยังอ่อนหวานเดินเคียงข้าง
หล่อนยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่จับใจเขา เรียกว่าสวยซ่อนเสน่ห์ไว้ข้างใน ท่วงท่าการเดินและอิริยาบถบวกกับเครื่องแต่งกายซึ่งเป็นกระโปรงเนื้อผ้าแบบทันสมัยสีอ่อนหวานเข้ากับลูกไม้ถักทอสีขาว และมาดมั่นที่เธอมีอยู่ด้วย
วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม