ธีรคามสีหน้าบึ้งตึง กระอักกระอ่วน เมื่อไม่ได้ แต่ก็ยังด้านหน้าขอร้องอีกครั้ง
“น่าเสี่ย ผมสัญญาว่าจะหามาชดใช้ให้ มันติดหล่มจริง สนุก อยากจะเอามาต่อทุน ผมแน่ใจว่าคราวนี่ผมคงกู้ทุนคืนได้หมด แหม.. เสียไปไม่เท่าไหร่หรอก แค่เจ็ดแสนเอง จิ๊บๆเสี่ย ผมเคยได้กลับมาคืนเกือบจะล้านแน่ะ”
หมอนี่โม้มากไปมั้ง
ปางภูครุ่นคิดอยู่ในใจ คงจะตะล่อมหาทางหยิบยืมเงินของเขา แต่เขายังใจแข็ง คราวก่อนมันยังไม่มีทีท่าว่าจะชดใช้ให้สักนิด
เขาเลยมองข้ามผ่านสายตา เพราะคิดว่าเงินขุ่นมัวจากกองพนันเหล่านี้ มันจะมีปัญญา หาชดใช้เขาหรือเปล่าล่ะ
แค่สี่ซ้าห้าหมื่น ยังไม่มีปัญญาจะจ่ายให้เจ้าหนี้
ถ้ามันพอกพูนขึ้นไปล่ะจะว่ายังไง
แล้วมันบอกว่ามันเล่นได้เกือบล้าน เอาไปไว้ไหนหมด
ราคาคุยหรือเปล่า
“ไหนเอาหลักฐานมาโชว์หน่อยสิว่าเล่นได้”
ฮึ เสี่ยหนุ่มแค่นยิ้มรู้สึกระอาใจ และมีความรู้สึกว่ามันด้านหน้ามาขอ และถึงขนาดนี้ เขาก็คงจะใจอ่อน
สีหน้าของธีรคามดูเหมือนจะเอาให้ได้ อ้อนวอนขอ
“น่าเสี่ย ผมสัญญานะ เล่นได้คราวนี้ เงินจะถึงมือเสี่ยทันที เพื่อให้เสี่ยไว้ใจผม เราจะได้คบกันนาน”
ฮึ คบ นึกว่าคนอย่างเขาอยากจะคบมันเป็นเพื่อนหรือไง
คนอย่างธีรคามหน้าทั้งด้านและหนา
ยัดเยียดตัวเองมาเป็นเพื่อนของเขามากกว่า
เพราะคนที่ปางภูอยากจะคบ ต้องไม่ด่างพร้อย แต่เป็นคนที่ขาวสะอาดด้วยศีลธรรม ด้วยความดีที่จะชักจูงคนอื่น มุ่งไปที่ประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าส่วนตัว
ปลิ้นปล้อนกะล่อนตอแหลเก่งอย่าง ธีรคาม นึกว่าเขาไม่รู้ทัน ไอ้ปลากระโห้ จิ้งเหลนไฟตัวนี้หรือไง
มันคุยให้ฟังด้วยไม่ใช่หรือว่า มีแฟนสาวสวย
เขาไม่ได้มองไปที่สวรรค์สีหรอก
ผู้หญิงอย่างสวรรค์สี คงห่างไกลไปจากคำนั้น เพราะผู้ชายอย่างธีรคาม แม้คว้าเอาหล่อนมาขึ้นเตียงก็ตาม เขาคงไม่เลือกที่จะให้หล่อนจดทะเบียนเป็นเมียแต่งหรอก
สวรรค์สีจะมีอะไร หล่อนเป็นหมอนวด นอกจากร่างกายที่แลกเปลี่ยนเป็นเงินตราเท่านั้น ตะเกียกตะกายไปร่านในกระทะทองแดงดอกงิ้ว
ใช่หล่อนเป็นโสเภณีที่เจนจัดพอสมควรล่ะ
จะให้เขามองหล่อนในแง่ดีได้ยังไง
หล่อนยังเคยพูดจาเกี้ยวเขา เพื่อให้เขาตามหล่อนไปที่บ้าน เพื่อปลดเปลื้องด้วย แต่เขาสะแยะยิ้มกระแทกคำพูดใส่หน้าออกไปว่า
เขาไม่ใช่เหยื่อ กรุณาอย่าลากเขาไปทำเรื่องชั่วพรรค์นี้
เขาไม่ใช่เป็นประเภทที่อยากจะขึ้นเตียงกับใคร ก็มาชวนง่าย ฮึ
อย่างเขามันซับซ้อน ความต้องการ เพราะสเปกต์ของเขา ไม่ยอมบอกใครหรอก จนกว่าเขาจะเจอผู้หญิงคนนั้น
สวรรค์สีเลยต้องหน้าม้าน อายจนสีหน้าของหล่อนชากระด้างนิ่วหน้าด้วยอารมณ์โกรธ
ที่ผู้ชายอย่างเขา ไม่ยอมตกเป็นเครื่องนอนของเล่นของหล่อน
บอกแล้วไง เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทหน้ามืดตามัว
อยู่ที่ไหน ให้อารมณ์ใฝ่ต่ำมันสิงสู่ ก็ฟาดดะไม่เลือกอย่างธีรคาม
ประวัติของธีรคามฉาวโฉ่โชนเรื่องเพศจะตาย
มีหรือที่เขาไม่รู้ ยิ่งมาเจอกับสวรรค์สีเจนจัดพอกัน
ทั้งคู่ก็คงไม่ต่างไปกับผีเน่ากับโลงผุ
ถึงมาโคจรและได้มาอยู่ด้วยกัน จนเห็นไส้เห็นพุงกัน
ปางภูปฏิเสธทุกรอบนั่นล่ะ หล่อนมันไม่ใช่แค่คาวจัดอย่างเดียว แต่มันสกปรก ไปด้วยหยาบทั้งจิตใจและเรือนกาย
แม้แต่กลิ่น ยามไปยืนอยู่ใกล้ๆ ปางภูยังต้องเบือนหน้าหนีเลยไม่อยากให้มันแปดเปื้อนตัวเขา
“นะเสี่ย ผมไหว้ล่ะ ผมขอร้องเถอะ”
ฮึ ในที่สุดคนอย่างธีรคามก็ตกต่ำเสียจนต้องยกมือไหว้เขา
คงจะใช้ลูกไม้แบบที่ได้ผลอย่างที่สุด
แล้วเขาก็ใจอ่อน เป็นเพราะมันเบื่อระอา เลยควักเงินออกไปให้ อย่างไม่อยากจะควักนะ รำคาญเหลือเกิน มันจะได้จบให้เสียที
เพราะเขาอยากจะกลับบ้าน อีกหน้าที่ของการเขียนหนังสือ รออยู่
หนุ่มหล่อคิดอย่างนั้น นิยาย เป็นความรักส่วนตัวในจินตนาการของเขา สำคัญกว่าการพนัน ที่เข้ามาเล่นแก้เครียด
อีกหน่อย เข้าไปบ้าน ก็คงเปิดจอคอมนั่งทอดฝันจินตนาการของตนเองต่อ เพราะเขาไม่รู้สึกเหนื่อย
เป็นเวลาประจำของการปั่นนิยาย สมองและความรู้สึกมันจะไหลมาเอง ชนิดที่เหมือนสายน้ำต้องคว้าเอาความคิดเหล่านั้นให้ทัน ถ้าไม่ทันก็แล้วไป
เรื่องเงิน เขาไม่หวังว่าจะได้คืน
ดูเหมือนจะคาดเดาไปถึงในสันดานลึกของธีรคาม
อย่างมันแบมือขอคนอื่นได้ง่าย แต่ไอ้เรื่องคืนเห็นจะยาก
“ฉันจะให้ แต่ไม่เชื่อหรอกว่า คนอย่างนายจะหาทางคืนฉัน
ธีรคาม แต่ถึงอย่างไรก็ตามนะ คนเรา ถ้าติดหนี้ใคร ก็ควรจะหาทางชดใช้ ไม่งั้นตายไป นายต้องตามไปชดใช้ด้วยชาติหน้า แค่นี้ล่ะ ฉันไปแล้ว ถึงเวลากลับ”
จากนั้นปางภูก็กระแทกฝีเท้าของตนเองก้าวจากไป
ธีรคามมองตามด้วยสายตาหมิ่นเยาะ ที่ถูกขัดเคืองขบกรามบดแน่น แม้จะได้เงินแล้ว แต่ก็นึกหมั่นไส้ นายเสี่ยเศรษฐีตัวจริงคนนี้
รับรู้ดีกว่านามสกุลโภคายุทธของ ปางภูเป็นมหาเศรษฐีนักธุรกิจตัวจริง
ไม่เหมือนเขาที่เป็นผู้ดี และมีแค่เปลือกเท่านั้น
อีกอย่างเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว ที่เขาไม่นึกภูมิใจ เป็นความลับจนวันตาย เขาไม่ยอมรับความจริง
ทำไม โชคชะตา ถึงสร้างลิขิตชีวิตของเขาให้เป็นแบบนี้
เขารับรู้กับวาจาคมกริบดุจใบมีดโกนของเสี่ยปางภูแล้ว
รับรู้มาแต่ไหนแต่ไร ผู้ชายประเภทขวานผ่าซาก
ที่ไม่ยอมให้อะไรมาขวางคำพูด เกลียดชอบก็แสดงออกมาตรง
เขาจึงอดสั่นหนาวๆร้อนๆกับคำพูดของปางภูไม่ได้ หมั่นไส้
ดีแต่ว่ากระแทกเท้าไปแล้ว
เขาหมดห่วงเงินจำนวนหลายหมื่นสด ก็มาอยู่ในอุ้งมือของเขาเรียบร้อย จากนั้นเดินเข้าไปในวงบาคาร่าต่อ
สวรรค์สีนวยนาดเข้ามาควงแขนเขา สีหน้าของหล่อนยิ้มเยาะ
“ผัวจะเอาไปต่อทุนหรือละลายทุนกันแน่ อีสีเห็นแบมือขอพ่อรูปหล่อ เขาก็ให้มาง่ายๆ นี่สีบอกนะคะ ผัวขา ต้องไม่เล่นเสีย”
“ยุ่งอะไรกะเธอด้วย”
เขาตะคอกใส่สวรรค์สี
จนหล่อนเงียบกริบ
แต่ยังมีสีหน้าฮึดฮัดขัดเคือง
“เป็นผู้หญิงบนเตียงนอนของฉันก็อยู่เฉย ส่วนหนี้ฉันหามาเอง ฉันจะรับผิดชอบแน่ ไม่รู้หรือไง ฉันต้องได้ ต้องได้อย่างเดียว เห็นมั๊ยตาที่ผ่านมาเสีย จนแทบจะไม่เหลือเงินกลับบ้าน เพราะเธอ”
“แหม..คงไม่ถึงกับขนาดล่อนจ้อนเหลือแต่กางเกงในกลับบ้านนะคะ ผัวขา ไม่งั้นอีสีคนนี้ จะหัวเราะให้ฟันหักฟันโยกไปเลยทีเดียว ฮึ”
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท