ทำเอาสาวสวยเขินขึ้นมาทันที
ธีรคามมองออก
หล่อนยังอ่อนเยาว์วัย และอ่อนประสบการณ์ในด้านความรัก ถ้าเปรียบกับธีรคาม ชายผู้เจนจัดในความรัก
“ไม่รบกวนแล้วล่ะคะ แหมหวานเสนาะหูเชียว ระวังนะคะมดจะไต่มาตอมปากของพี่ธี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พบเจอกันวันใหม่”
เท่านี้ใบฟางก็ปิดเครื่อง
และนี่ล่ะคือสิ่งที่ธีรคามต้องการ
หลังจากที่เขามีหน้าตาที่บึ้งตึง ซ้ำต้องมาปั้นคำหวาน จนตัวเองรู้สึกเอียนเหมือนกัน
กับวาจาเสแสร้งตลบตะแลงออกมา แต่จะทำอย่างไรได้
เขากำลังจับปลาสองมือณ ขณะนี้แล้วอีกอย่าง เขาอยากจะครอบครองตัวของใบฟาง
หยิบมือถือเก็บเข้าในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง แล้วเดินออกมาที่วงพนันเหมือนเดิม สีหน้ายังบึ้งตึงแบบเดิม
แถมหน้าตาอิดโรยเครียดตามมาอีก
สีสันบนใบหน้าแทบไม่มีความรื่นระเริง
นั่นเพราะรู้สึกเจ็บใจ ที่โดนฝ่ายตรงกันข้ามกินเรียบ แบบฟาดเรียบวุธ จนเขาได้แต่ยืนมองตาปริบๆ อึ้ง
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แม้รู้สึกเสียดาย
แต่นี่ ก็เป็นวิถีของนักพนัน คนที่แพ้ย่อมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแก่ผู้ได้ ยิ่งเป็นเจ้ามือ
และนักเลง มาเฟีย มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนคุมบ่อนพนันหรูนี้ด้วย
สวรรค์สีสาวใหญ่ผู้เจนจัด
หล่อนอ่านเกมอย่างทะลุปรุโปร่ง
เขา หนุ่มหล่อจับภาพนั้นตลอดเวลา
สายตาและหัวสมองของปางภูบันทึกเอาไว้
ไม่แน่หรอกว่า ภาพในบ่อนแห่งนี้จะโผล่ผ่านจินตนาการของเขา ถูกถ่ายทอดลงฉากต่างๆ ในหนังสืออีกครั้ง
สำหรับ หล่อนคนนี้ เขาไม่ชอบจริตผ่านทางสายตาที่ออกลักษณะยั่วยวนของสวรรค์สีเลย บ่งบอกเขารู้ทันหล่อน
ถ้าคิดจะเคี้ยวเขา มันไม่ง่าย เขาไม่ชอบประเภทเรี่ยราด
ไม่เสียยี่ห้อการเป็นนักเขียนหรอก
เจ้าของร่างสูงโปร่งโดดเด่นในชุดเชิ้ตสีเข้ม มีเรื่องอย่างอื่นต้องทำต่อไป
เมื่อเขามาเล่น ครั้นพอถึงเวลาก็คงกลับ
อย่างในเวลานี้เอมอิ่มแล้ว เพราะเขาไม่ถึงกับหลงใหลติดกับดักคำว่าพนัน
เหมือนบางคนที่ได้ไม่เคยพอ บางคนไม่เคยพอกับสิ่งที่ได้ บางครั้งบางคนได้ แล้วนึกย่ามใจทุ่มเทเล่นสุดตัว
อีกครั้งกลับกลายเป็นแพ้ มันตาลปัตรอย่างนี้นี่เอง
และนี่บ่งบอกให้รู้ ว่าเป็นรสชาติการพนัน
ผู้ชายรุ่นน้อง ที่มีสีหน้าเครียดเริ่มกุมขมับ เห็นสีหน้าไม่ดีอย่างนี้บอกได้เป็นอย่างดีว่า โชคร้ายชัวร์ จึงมีสีหน้าดวงตาที่ขวางคนอื่นไปหมด
หนุ่มหล่อเจ้าของดวงตาคมยิ้มเยาะ
เมื่อเขามองไปที่ธีรคาม ซึ่งกำลังกวาดตาหาเงินทุนใหม่จากคนที่รู้จัก แต่ดูเหมือนว่าธีรคามจะพุ่งเป้ามาที่เขา
ถึงแม้รู้จักก็ตาม แต่ก็ผิวเผิน
เพราะคนอย่างเสี่ยปางภู ไม่ยอมรับใครเป็นเพื่อนได้ง่ายนัก
โดยเฉพาะที่มาจากวงพนัน
คนพวกนี้เป็นทุษบุรุษทั้งนั้น คือบุรุษที่ไร้ความดี ฝักใฝ่แต่กีฬาบัตรความชั่วห้าจำพวก
เขาเห็นสีหน้าก็บ่งบอกถึงความปราชัยย่อยยับของนักเล่นหนุ่ม
ส่วนสวรรค์สีสาวใหญ่ท่าทางจริตจกร้านนั้น
หล่อนก็พุ่งสายตาเรียบเฉย มาที่เขา
ธีรคามตัดสินใจเดินมา
“จะกลับแล้วหรือครับเสี่ย”
ธีรคามมักเอ่ยชื่อเขาว่าเสี่ย ปางภูไม่ได้ว่าอะไร
แล้วแต่เรียก อาจจะเป็นเพราะมาดของเขาดูหรู
หรือทรงอิทธิพล กับข้อที่ว่าเข้ามาเล่นทุกครั้ง
เขาไม่เคยที่จะคว้ามือเปล่ากลับบ้าน
ธีรคามจึงเรียกอย่างยกย่องเทิดทูน ปางภูคิดอย่างนี้ล่ะ
“ก็คิดจะกลับเหมือนกัน”
เสียงทุ้มเนิบตอบ เป็นคำพูดที่เหมือนจะชั่งใจ
กำลังจะอ่านเล่ห์เหลี่ยมฝ่ายตรงกันข้ามออก
ผลจากการเล่น ที่ผ่านมาสองสามตา
เขาคว้าเงินจากบรรดาผีการพนัน มาครอบครองจนได้
พอเล่นอีกครั้ง กลับเสียไปนิดหน่อย ตัดสินใจเลิก อันที่จริงเป็นการแสร้ง แสดงของเขามากกว่า
ไม่อยากให้ผู้มีอิทธิพลเจ้าของบ่อนรู้ว่า เขามีแต่คว้าได้ ไม่มีเสีย
จะทำให้ถูกมองด้วยสายตาหมั่นไส้
ก็เลยต้องยอมเสียนิดหน่อย ติดตัวกลับบ้านไป
และนั่นย่อมไม่เป็นผลดีกับเขาอย่างแน่
อย่างที่เข้าใจดีว่า คนในวงการพนัน มันมีคนดีที่ไหน
คนเหล่านี้เต็มใจมั่ว เต็มใจถูกมอมเมา แล้วก็ลุ่มหลง
เพราะนี่คือกิเลสร้ายชนิดหนึ่ง ที่ผลของมันขนาดทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่ง ไม่เหลืออะไรแม้แต่กางเกงในสวมใส่
ถ้าถึงขั้น บ้าการพนันอย่างหัวปักหัวปำ
เขายกตัวอย่างไปที่ธีรคาม
อย่างในเวลานี้มากกว่า เพราะอ่านเกมออก
“เล่นเสียอีกล่ะสิ”
อีกฝ่ายยิ้มแหย เมื่อคนพูดเป็นหนุ่มหล่อมาดหรูพุ่งประเด็นและเข้าใจความรู้สึกจากข้างในคนเล่นเสียตรงเป้า
แทบไม่ให้เขาตั้งตัวเลย
จึงหัวเราะแหะ ที่ดวงคมคมกริบของหนุ่มหล่อเหลา ช่างรู้และคาดเดาใจเขาได้
แต่คนอย่างธีรคามไม่มีล่ะ ที่จะหน้าบาง เขาหนาได้ทุกกาลเวลา
ก็แค่ให้มีเงินอยู่ในมือ สามารถเล่นต่อได้.. จะทำอะไรก็ตาม ต้องหาทางให้ได้
มองเห็นคนกระเป๋าหนักตรงหน้า พอที่จะร้องขอ หยิบยืม
“นายกำลังจะทำอะไรล่ะ”
“แหม เสี่ย นี่รู้ทันผมอีกแล้ว เอ้อ ผม ขอทุนอีกสิเสี่ย อีกครั้งน่า” ธีรคามอ้อนวอนเขา
“อะไรกัน นายจะขอทุน แต่ไอ้คราวก่อน ยังไม่คืนฉันเลยนะสี่หมื่น”
สิ่งที่จดจำอยู่ในหัวสมองของปางภู คือคำนี้
นายธีรคามยืมเงินของเขา ไปละลายบ่อนในการพนันต่อ
จากที่เล่นคราวก่อน เมื่อสักสองเดือนที่แล้ว เขาหวนมาเล่น ยังไม่ได้จ่าย เลยเงยหน้ามองจ้องด้วยรอยยิ้มเยาะ
เมื่อเขาจดจำและทบทวน อีกฝ่ายคงแกล้งลืม ทำเอาธีรคามถึงกับอึ้งสีหน้าเจื่อนทันที
เขาร้อนที่สุด”ในยามนี้ คือเรื่องเงินที่จะได้มา
ปางภูรับรู้ว่าหมอนี่ติดจนงอมแงม
ถ้ามันสามารถขายตัวเอง เพื่อการพนันได้ มันคงทำไปแล้ว
เพราะหลายคราว เขาเห็นแม้กระทั่งภาพที่ธีรคามถอดนาฬิกาและแหวนบางครั้ง เป็นเสื้อเชิ้ตหรูๆราคาแพง ก็ยังเอาเป็นไปสินการพนัน มัดจำกับเจ้าของบ่อน
เพื่อมาถอนเอาคืนในยามที่มีเงิน
เขารู้สึกสังเวชผู้ชายคนนี้ยิ่งนัก
คงจัดสรรอะไรให้ตนเองดีไม่ได้กระมัง เรื่องที่เป็นในแง่งามหรือสิ่งดีๆ จะว่าไปเขามีความรู้สึกและเปรียบธีรคามว่า เหมือนเดนคน เป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ
แต่ไม่อยากจะคิดหรอก อย่างน้อยก็คนคนหนึ่ง
เขาย่อมสงสาร แต่ธีรคามกลับทำตัวแบบนี้ ในสายตาของเขาซึ่งหมิ่นเยาะ เหมือนคนจนตรอก ไร้ศักดิ์ศรี
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม