Share

บทที่ 16

last update Last Updated: 2024-11-06 12:24:35

บทที่ 16

เทอมสุดท้ายของการเรียนปีสี่และการเป็นนักศึกษาเริ่มขึ้นแล้ว ธรินดารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก เพราะการเรียนและงานสารนิพนธ์ที่ทำคู่กับชนิศาทำให้เธอยุ่งจนแทบไม่มีเวลาคิดเรื่องส่วนตัว

                ร่างบางนั่งตรงข้ามกับคู่บัดดี้ทำสารนิพนธ์และต่างก็กำลังจ้องจอแล็ปท็อปอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนที่ธรินดาจะเป็นฝ่ายสะดุ้งเบาๆ เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในกระเป๋าสะพายดังขึ้น มือเล็กรีบเปิดกระเป๋าและหยิบเอาโทรศัพท์ออกมากดรับ เพราะเกรงใจชนิศาที่เสียงโทรศัพท์ของตนรบกวนสมาธิของเพื่อน

                “สวัสดีค่ะแม่ใหญ่” เสียงหวานเอ่ยตอบต้นสายอย่างนุ่มนวลและไม่ใช้เสียงที่ดังเกินไป

                “แม่จองตั๋วให้เรียบร้อยแล้วนะหนูเล็ก”

                “จองตั๋วไปไหนคะแม่ใหญ่” ธรินดาถามแบบงงๆ เล็กน้อย

                “ก็กลับบ้านไงลูก วันเสาร์นี้ก็เป็นวันหมั้นของตาปรัชญ์กับหนูนัสแล้ว หนูเล็กลืมเหรอลูก” แม่เลี้ยงลักษิกาถามกลับแต่ไม่มีความโกรธหรือหงุดหงิดเจืออยู่ เพราะเข้าใจดีว่าธรินดาคงจะยุ่งจนลืมวัน

                “ตายจริง ขอโทษนะคะแม่ใหญ่ เล็กลืมไปเลยค่ะ”

                “ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่เข้าใจว่าหนูเล็กยุ่งกับการเรียน เอาเป็นว่าเตรียมตัวเดินทางนะ เป็นวันศุกร์ช่วงเย็น ส่วนชุดแม่เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว หนูเล็กไม่ต้องกังวล”

                “ขอบคุณแม่ใหญ่มากๆ ค่ะ วันศุกร์นี้เจอกันนะคะ”

                “จ้ะลูก แล้วเจอกัน”

                แม่เลี้ยงลักษิกาวางสายแค่นั้น ธรินดาที่เบี่ยงตัวหันหลังให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ตอนรับโทรศัพท์หันกลับมาทางเดิมอีกครั้ง โดยพยายามบังคับให้ตัวเองมีสมาธิจดจ่อกับงานสารนิพนธ์ที่กำลังพิมพ์อยู่เช่นเดิม แต่เหมือนสมาธิจะแตกกระเจิงตั้งแต่ได้ยินว่าต้องกลับบ้านเพื่อไปร่วมงานหมั้นของปรัชญ์แล้ว

                “มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเล็ก ดูตาลอยๆ ชอบกล” ชนิศาซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นว่าธรินดาจ้องคอมพิวเตอร์แต่ตากลับดูลอยๆ ซึ่งอาการเช่นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ธรินดาคุยโทรศัพท์เสร็จ

                “เปล่าหรอกศา เพียงแต่ว่าวันศุกร์นี้แม่ใหญ่จะให้กลับบ้านน่ะ ที่บ้านมีงานมงคล”

                “แล้วไม่ดีใจเหรอที่บ้านมีงานมงคล น่าจะเป็นเรื่องดีนะ ทำไมไม่ยิ้มเลย หรือว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ”

                “เปล๊า” รีบปฏิเสธเสียงสูง “เราต้องดีใจสิ ก็นี่ไงยิ้มอยู่นี่ไง”

                ว่าแล้วธรินดาก็รีบปรับสีหน้าให้ดูร่าเริงพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีให้ชนิศาดู แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ได้มาจากความรู้สึกข้างในเลยสักนิดก็ตาม

                “เราว่าเล็กยิ้มแปลกๆ”

                “อะไรของศา พอไม่ยิ้มก็ว่าเครียด แต่พอยิ้มก็ว่าเราแปลกๆ อีก”

                “ก็มันจริงนี่ ปกติเราไม่เคยเห็นเล็กเป็นแบบนี้”

                “ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ทำงานกันต่อดีกว่า”

                ชนิศาจ้องหน้าหวานใสของคนที่พยายามปกปิดความรู้สึกอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงมองหน้าจอแล็ปท็อปเช่นเดิม แม้จะรู้สึกได้ว่าธรินดามีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ แต่ในเมื่อเพื่อนไม่พร้อมจะเล่า เธอก็ไม่คิดจะเซ้าซี้

                บ่ายวันศุกร์ธรินดาตรงไปยังสนามบินทันทีหลังจากที่เลิกเรียน แม้ว่าการเดินทางโดยเครื่องบินจะใช้เวลาไม่มากและแม่ใหญ่บอกเธอเอาไว้ว่าจองตั๋วให้ในช่วงเย็น แต่เธอก็ต้องมาก่อนเวลาเกือบสองชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าจะเช็กอินทันและไม่ตกเครื่อง รอบนี้เธอกลับโดยยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ และไม่ได้เอาอะไรกลับบ้านด้วย นอกจากกระเป๋าสะพายข้างใบเดียว เพราะบ่ายวันอาทิตย์ก็ต้องกลับมากรุงเทพฯ แล้ว

                เครื่องบินในประเทศร่อนลงจอดในสนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ในเวลาเกือบหนึ่งทุ่มกว่า ดีเลย์จากเวลาบินปกติประมาณห้านาทีเนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยเท่าใดนัก โดยกัปตันบนเครื่องได้ประกาศแจ้งล่วงหน้า ซึ่งธรินดาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเวลาเล็กน้อยแค่นั้น เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของการบินและคนบนเครื่อง

                ร่างบางลงจากเครื่องได้ก็ตรงเข้าไปยังอาคารผู้โดยสารทันที ใบหน้าหวานใสเริ่มจะมีรอยยิ้มให้เห็น เมื่อคิดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะได้เจอแม่ใหญ่ผู้ที่รักและเมตตาเธอมากที่สุดแล้ว

                รอยยิ้มเกลื่อนอยู่ทั่วใบหน้าค่อยๆ เจื่อนหายไปฉับพลัน เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนรออยู่ไม่ใช่แม่ใหญ่เหมือนเคย ร่างสูงที่กำลังเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนและจ้องเขม็งมายังเธอราวกับพบเป้าหมายแล้ว ภาพที่ปรัชญ์ถูกหญิงสาวหรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันเองมอง ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับธรินดา เพราะถึงแม้ว่าภาพลักษณ์ของปรัชญ์จะเป็นผู้ชายเซอร์ๆ แต่เขาก็หล่อและดึงดูดสายตาของใครต่อใครแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่สิ่งที่ธรินดาไม่รู้จะรับมืออย่างไรนั่นก็คือการที่พบว่าเขามารอรับเธอ ทั้งๆ ที่คนรออยู่น่าจะเป็นแม่ใหญ่มากกว่า

                ทั้งที่ออกจะตกใจและแปลกใจที่เห็นเขา แต่ธรินดาก็ไม่ได้เดินเลี่ยงไปทางไหน ร่างบางตรงเข้าไปหาเจ้าของร่างสูงนั้นเป็นอัตโนมัติ เหมือนกับว่าเท้าของเธอถูกสายตาคมดุนั้นสะกดให้ต้องเดินไปหาเขา                             

                “สวัสดีค่ะ แม่ใหญ่ไปไหนเหรอคะ ทำไมคุณถึงได้มารับเล็ก” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้เขาพร้อมกับถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“แม่ใหญ่ของเธอไม่ว่างเพราะต้องเทกแคร์ครอบครัวว่าที่คู่หมั้นของฉัน อินแปงขับรถให้แม่เลี้ยง ส่วนพี่ปราณต์มีเคสด่วนตอนเย็น เธอจะถามหาใครอีกมั้ย” เขาตอบแบบลงท้ายด้วยการยียวน น้ำเสียงแข็งกระด้างเช่นเดิม ทำให้ธรินดาคร้านจะตอแยด้วย

                “ไม่ค่ะ” เธอปฏิเสธสั้นๆ ดวงหน้าหวานใสราวกับกุหลาบแรกแย้มนั้นยังคงเรียบเฉย แต่ภายในกลับกำลังพยายามข่มความขุ่นมัวของตัวเองอย่างเต็มที่

                “มีกระเป๋ามั้ย” คราวนี้ปรัชญ์เป็นคนถาม

                “ไม่มีค่ะ”

                “งั้นก็กลับ”

                เขาสรุปง่ายๆ แล้วขยับมาใกล้ธรินดา ยกมือแข็งแรงขึ้นโอบเอวเล็กของเธออย่างสนิทสนม            

“ปล่อยเล็กค่ะคุณปรัชญ์” หญิงสาวบอกเสียงแข็ง พลางขยับตัวจะก้าวหนีออกไปที่ลานจอดรถ แต่ถูกมือที่หนึบราวกับหนวดปลาหมึกเกี่ยวเอวเล็กเอาไว้แนบแน่น

“ก็แค่พี่ชายกอดน้องสาวมันจะแปลกตรงไหน”

“แต่เล็กไม่ใช่”

“อ้อ...ลืมไปว่าเธอไม่ใช่น้องสาวฉันแล้ว แต่เป็น...”

“หยุดนะคะคุณปรัชญ์ แล้วก็ปล่อยเล็กด้วย”

ธรินดาอดหน้าร้อนวูบไม่ได้กับสัมผัสและคำพูดที่เกือบจะหลุดจากปากของปรัชญ์ พวงแก้มใสปรากฏริ้วสีแดงระเรื่อขึ้นจนคนที่กำลังก้มลงมองแลเห็นได้ถนัด พร้อมกันนั้นก็ยังพยายามบ่ายเบี่ยงออกจากการถูกโอบด้วยมือแข็งแรง

                “อย่าดีดดิ้นให้มากนัก ไม่งั้นจะกอดและจูบโชว์คนทั้งสนามบิน”

“ห้ามทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นนะคะ” เสียงหวานบอกอย่างร้อนรน มองซ้ายมองขวาด้วยกลัวว่าคนอื่นจะเห็นว่าตัวเองกำลังถูกปรัชญ์โอบเอว แต่นั่นก็ยังไม่มากเท่ากับกลัวว่าเขาจะทำอะไรห่ามๆ แบบที่เขาว่าจริงๆ

“เธอก็รู้ว่าห้ามฉันไม่ได้ถ้าฉันคิดจะทำ เพราะฉะนั้นก็หยุดดื้อกับฉันถ้าไม่อยากอายคน”

เขาก้มลงกระซิบพร่า ทว่าแววตามุ่งมาดจริงจัง จนทำให้ใบหน้าของคนถูกข่มขู่ซีดเผือดลง และในที่สุดก็ไม่กล้าดื้อดึงอีกต่อไป ร่างบางยอมให้เขาโอบเอวจนมาถึงรถ แต่เธอก็ไม่ยอมพูดด้วย แม้ว่าหลังจากขึ้นรถแล้วปรัชญ์จะยั่วแค่ไหนก็ตาม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียคืนแรม   บทที่ 98

    บทที่ 98“ฉันไม่อยากดื่มนมอย่างอื่น ฉันเก็บปากของฉันไว้ดื่มนมอร่อยๆ จากเต้าของเธอก็พอแล้ว ว่าแล้วก็หิว เล็กจ๋า...ให้ฉันกินนะ” แววตาของคนที่ประท้วงอยู่เมื่อครู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวิบวับและเปล่งประกายความปรารถนาที่มีต่อเธอออกมาอย่างเปิดเผย “ไม่เอาค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาปฏิเสธเสียงเบา เพราะกลัวลูกสาวจะตื่นมาเห็น “แต่ฉันจะ ‘เอา’ นะเล็กจ๋า ตามใจผัวนะครับหนูเล็กคนดี” “โธ่...คุณปรัชญ์” “ไม่โธ่จ้ะที่รัก...ฉันหิว อยากดื่มนม” ปรัชญ์กระซิบบอกความต้องการของตัวเอง พร้อมกับที่ธรินดารับรู้ถึงความตื่นตัวของเขาที่ตอนนี้บดเบียดเธออยู่ไม่ห่าง “ถ้าอย่างนั้นเล็กไปดับไฟก่อนนะคะ” ธรินดาบอกอย่างอายๆ แต่คำตอบนั้นบ่งบอกชัดว่าเธอยอมตามใจเขาแล้ว ปรัชญ์จึงยอมปล่อยให้ร่างเล็กลุกจากตักไปปิดไฟ ส่วนตัวเองขยับขึ้นไปนอนรออยู่บนเตียง ห้องทั้งห้องมืดสนิทเมื่อธรินดายื่นมือไปกดสวิตช์ไฟให้ดับลง เธออาศัยความเคยชินเดินกลับมายังเตียง และค่อยๆ เอนกายลงนอนเคียงข้างสามี ปรัชญ์รีบขยับเข้ามาแนบชิดพร้อมกับกระซิบเรียกเสียงพร่า ท

  • เมียคืนแรม   บทที่ 97

    บทที่ 97“ป๋าก็คิดถึงนิล คิดถึงแม่เล็กของนิลใจแทบขาด” ปรัชญ์ตอบลูกสาวและถือโอกาสอ้อนไปถึงแม่ของลูกด้วย เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพงอยู่ “งั้นก็รีบกลับบ้านสิคะป๋า หมีพูกับแม่เล็กก็รอป๋าเหมือนกันค่ะ” ปรัชญ์ยิ้มออกมาอีกคราเมื่อลูกบอกว่าธรินดาเองก็รอเขาอยู่ ใบหน้าอันหวานซึ้งนั้นลอยเข้ามาในห้วงความคิด ทำให้เขาจำต้องพับหน้าจอแล็ปท็อปลงพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสารที่กางอยู่หลายอันบนโต๊ะ“โอเคครับคนดีของป๋า ป๋าจะกลับเดี๋ยวนี้ละ” “งั้นนิลจะรอจนกว่าป๋าจะมานะคะ นิลถึงจะนอน” “ครับ อีกยี่สิบนาทีเจอกันนะครับ” “ค่ะป๋า เย้ๆ” หลังจากวางสายจากลูกสาว ปรัชญ์ก็ไม่รอช้า รีบขับรถตรงดิ่งกลับบ้านอย่างปราศจากความลังเลใดๆ ทันที งานเอาไว้ก่อนตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลูก เมีย แม่ และหมีพู ซึ่งกำลังรอเขาอยู่ที่บ้านทันทีที่ร่างสูงเดินเข้าบ้าน หมีพูกับเด็กหญิงตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูก็วิ่งมาหาพร้อมกับเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจ โดยมีหมีพูวิ่งตามมาไม่ห่างพร้อมกับกระดิกหางไปมาอย่างดีใจเช่นกัน

  • เมียคืนแรม   บทที่ 96

    บทที่ 96นัสรินเดินเข้าบ้านด้วยอาการของคนที่มีเรื่องครุ่นคิดอยู่ในใจ ทำให้ไม่เห็นว่าพ่อกับแม่นั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องโถงชั้นล่าง พลตรีชยุตกับคุณนิภาหันไปมองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นคุณนิภาก็เป็นฝ่ายส่งเสียงทักลูกสาว“ไงยัยนัส ไปบ้านพี่ปรัชญ์มาโอเคหรือเปล่าลูก”“อ้าว...คุณพ่อคุณแม่ อยู่นี่เองเหรอคะ” นัสรินเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าบิดามารดาของตนนั่งอยู่ตรงนั้น เธอมัวแต่คิดเรื่องที่ปรัชญ์เพิ่งคุยด้วย ทำให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ รวนไปเสียหมด“เป็นอะไรไปลูก ทำไมดูหน้าเครียดๆ แบบนั้น ทะเลาะกับตาปรัชญ์มาเหรอ”“เปล่าค่ะคุณแม่ นัสแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะค่ะ” นัสรินตอบมารดาเสียงนุ่ม ก่อนจะขยับไปนั่งลงข้างๆ“มีอะไรเล่าให้พ่อกับแม่ฟังได้หรือเปล่า” พลตรีชยุตพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงลูกสาวคนเดียว เพราะปกตินัสรินไม่ค่อยมีท่าทีเหม่อลอยให้เห็นบ่อยนักนัสรินมองหน้าบุพการีทั้งสองอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจขอคำปรึกษาเพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอคนเดียว มันเกี่ยวข้องกับบิดามารดาของเธอด้วย“เมื่อกี้นี้พี่ปรัชญ์เพิ่งจะบอกว่าพี่ปรัชญ์มีคนรักอยู่แล้ว และอยากให้นัสแต่งงานกับคุณปราณต์แทนค่ะ”“ว่าไงนะลูก!” คุณนิภาอุทา

  • เมียคืนแรม   บทที่ 95

    บทที่ 95“แต่คุณปราณต์ไม่ได้ชอบนัสนะคะ อีกอย่างคุณปราณต์อาจจะมีคนรักอยู่แล้วเหมือนที่พี่ปรัชญ์มี” น่าแปลกที่คราวนี้เธอกลับแคร์ความรู้สึกของปราณต์ขึ้นมาเสียมากมาย เดือดเนื้อร้อนใจไปหมดกับความจริงที่ว่าเขาอาจมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ทั้งๆ ที่ตอนถูกพ่อแม่บังคับให้หมั้นกับปรัชญ์เธอกลับไม่ตระหนักเลยว่าปรัชญ์อาจจะมีคนรักอยู่แล้ว คิดแต่ว่าหากปรัชญ์ยอมหมั้นเธอก็ยอมหมั้นตามที่ผู้ใหญ่ต้องการเท่านั้นก็พอ“พี่ปราณต์ยังไม่มีใครหรอก ถ้านัสอยากแต่งกับพี่ปราณต์พี่จัดการให้ได้” “แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมัดมือชกคุณปราณต์เลยนะคะพี่ปรัชญ์” “ก็เหมือนกับที่แม่บังคับพี่ให้แต่งงานกับนัสนั่นละ แม่ก็คิดแค่ว่าพี่ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ที่พี่พูดอย่างนี้นัสอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าหรือถูกโยนให้คนนั้นทีคนนี้ทีนะ แต่พี่ไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองและไม่อยากให้ธรินดาต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้” “นัสเข้าใจค่ะและขอบคุณที่พี่ปรัชญ์บอกนัสตรงๆ แต่นัสขอถามอะไรตรงๆ บ้างได้มั้ยคะ” นัสรินยังหนักอึ้งในเรื่องที่ปรัชญ์เสนอมา แต่เธอก็ยังอยากจะรู้ความจริงจากใจเขาให้หมดเปลือกเสียก่อน“ได้ส

  • เมียคืนแรม   บทที่ 94

    บทที่ 94 สี่เดือนก่อน... รถซีดานแบรนด์ยุโรปราคาสองล้านกว่าๆ แล่นออกจากอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่ หลังจากที่ปรัชญ์บอกว่าจะพาคู่หมั้นสาวไปส่ง นัสรินหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนขับที่เมื่อครู่นี้ยังพูดจากวนประสาทแม่ของเขาอย่างมีสีสันอยู่เลย ทว่าบัดนี้เขาอยู่ในอิริยาบถที่เงียบขรึมราวกับเป็นคนละคน แม้จะไม่ถึงกับทำให้อึดอัด แต่คนคุยไม่เก่งแบบเธอก็ไม่กล้าชวนคุย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขากับเธอได้พบกัน หลังจากหมั้นเสร็จปรัชญ์ก็ไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมเยือนในฐานะคู่หมั้นเลยสักครั้ง นัสรินรู้ดีว่าปรัชญ์เองก็คงจะถูกบังคับให้หมั้นเช่นเดียวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจหากเขาจะไม่ใส่ใจหรือทำตัวไม่เหมือนกับคู่หมั้นคู่อื่นๆ “นัสรีบกลับบ้านหรือเปล่า” ปรัชญ์หันมาถามเป็นประโยคแรกหลังจากที่รถแล่นออกมาพ้นอาณาเขตบ้านได้พักใหญ่ “เปล่าค่ะ นัสว่างทั้งวันค่ะพี่ปรัชญ์” “งั้นแวะดื่มกาแฟกับพี่ก่อนนะ ข้างหน้ามีร้านบรรยากาศดี กาแฟก็อร่อย” ปรัชญ์ชวนด้วยท่าทีเป็นกันเองทำให้นัสรินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น “ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคำและยิ้มบางๆ

  • เมียคืนแรม   บทที่ 93

    บทที่ 93“เปิดดูสิ เปิดตอนนี้เลยนะเล็ก” ปรัชญ์เชียร์ทั้งปาก ทั้งสายตา ทั้งสีหน้าที่เหมือนอยากจะให้เธอได้เห็นเหลือเกินว่าของที่อยู่ในกล่องคืออะไร ซึ่งตอนแรกธรินดากะว่าจะเก็บไว้เปิดพรุ่งนี้เช้า แต่เมื่อสามีคะยั้นคะยอเช่นนั้น เธอจึงต้องค่อยๆ แกะโบที่ผูกอย่างสวยงามนั้นออก ก่อนจะเปิดฝากล่องเป็นลำดับสุดท้าย และแล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นก็ทำให้แก้มนวลแดงซ่าน เธอหยิบมันขึ้นมาดูสลับกับมองคนให้อย่างเขินอายสุดกำลัง“นี่มันอะไรกันคะคุณปรัชญ์”“ก็ชุดนอนไง มีหลายชุดด้วย ผ้าดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ” ปรัชญ์ตอบอย่างรื่นรมย์“แล้วทำไมมันโป๊แบบนี้ล่ะคะ” ธรินดาถามเพราะถึงแม้ว่าชุดนอนแต่ละชุดที่อยู่ในกล่องนั้นมันสวยและผ้านิ่มมากก็จริง แต่มันกลับเซ็กซี่สุดๆ ทุกตัวล้วนแต่คอเว้าลึกอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเวลาใส่จะต้องโชว์เนินอกแน่ๆ แถมยังสั้นเต่อจนเกือบถึงโคนขา บางชุดก็เป็นแบบสองชิ้น ชิ้นบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวในลักษณะอวดโชว์เนินเนื้อ ชิ้นล่างเป็นแค่กางเกงชิ้นน้อย เหมือนกับออกแบบมาเพื่อขยี้ใจชายโดยเฉพาะ แล้วเธอจะกล้าใส่ได้อย่างไร“โป๊ที่ไหน เขาเรียกว่าเซ็กซี่ต่างหาก ฉันอยากเห็นเมียเซ็กซี่บ้างไม่ได้เหรอ”“ถ้าชอบผู้หญิงเซ็ก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status