เช้าวันแต่งงาน
ช่วงเช้าที่จัดไว้เป็นพิธีหมั้นของคู่บ่าวสาวที่จัดกันเป็นการส่วนตัวเชิญเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้น ตอนนี้ที่ห้องพักของโรงแรมที่เปิดไว้เป็นห้องแต่งตัวเจ้าสาวกำลังวุ่นวายเพราะเจ้าสาวอย่างพิมพ์ชนกหายไปจากห้อง “เจอยัยพิมพ์หรือยังป้าชื่น” “ไม่เจอะเลยค่ะ คุณผู้ชาย ป้าให้เด็กๆเดินหาในห้องน้ำกับที่ต่างๆ แล้วค่ะ เอายังไงดีคะ” “ตาพรีน ติดต่อพี่พิมพ์ได้ยังลูก” “ไม่ได้ครับคุณพ่อ พี่พิมพ์ปิดเครื่อง” “คุณผู้ชายคะ เมื่อสักครู่มีคนเอาอันนี้มาฝากไว้ให้คุณผู้ชายค่ะ” ป้าชื่นยื่นซองจดหมายสีขาวที่เพิ่งรับมาให้คุณจุมพลด้วยมืออันสั่นเทา คุณจุมพลรับเปิดซองจดหมายอ่านทันที ถึง คุณพ่อที่เคารพรักของลูก ก่อนอื่นลูกต้องกราบขออภัยคุณพ่อด้วยนะคะที่พิมพ์ตัดสินใจหนีการแต่งงานในครั้งนี้ ลูกทำใจไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าและไม่ได้รัก รวมถึงต้องหักหลังสามีและลูกน้อยที่อยู่ในท้อง ลูกขอโทษที่ทำให้คุณพ่อเสื่อมเสียชื่อเสียง หวังว่าคุณพ่อจะให้อภัยลูกสาวคนนี้ที่ทำผิด ถ้าลูกมีบุญวาสนาจะพาหลานกลับมากราบคุณตา คุณพ่อรักษาสุขภาพด้วยนะคะ รักและเคารพคุณพ่อเสมอ พิมพ์ “โธ่ ยายพิมพ์” คุณจุมพลหัวใจแทบแตกสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวตัดสินใจหนีงานแต่งงานเพราะกำลังตั้งท้องลูกน้อยอยู่ นี่เขากำลังจะเป็นคุณตาโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหลานเลย ทำให้คุณจุมพลรู้สึกผิดกับลูกสาว อยากจะขอโทษลูกก็ติดต่อลูกไม่ได้ แล้วงานแต่งงานครั้งนี้ละ เค้าจะต้องจัดการยังไง จะบอกเพื่อนรักยังไงว่าเจ้าสาวหนีไปแล้วพร้อมลูกน้อยในครรภ์แล้ว “ฮัลโล อาทิตย์มึงว่างคุยหรือเปล่า กูมีเรื่องจะปรึกษา” ……… “จะเอาอย่างนั้นเลยเหรออาทิตย์ เราสองคนไม่ได้บังคับลูกเราเกินไปใช่ไหมนะ แล้วลูกเราจะยอมไหม” “เอาอย่างนี้แหละกูว่า เจ้านิลไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กูเคยถามลูกแล้ว” ตอนนี้คุณอาทิตย์กับคุณจุมพลสองเพื่อนรักกำลังแอบมาปรึกษากันก่อนที่จะถึงฤกษ์หมั้น “เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้นะ คนอื่นหรือนักข่าวเค้าก็ต้องสงสัยว่าทำไมถึงยกเลิกงานแต่งงาน ที่สำคัญเค้าจะขุดคุ้ยเรื่องยัยหนูพิมพ์ท้องก่อนแต่งอีก หรือมึงว่าไง” “เดี๋ยวกูต้องถามตาพรีนก่อนว่ะ ว่าจะว่ายังไง แต่ถ้าลูกกูไม่โอเค กูก็คงต้องงยอม บอกตรงๆ กูไม่กล้าบังคับเด็กมันแล้วว่ะ เดี๋ยวเกิดลูกกูหนีไปอีกคนแย่เลย แต่ว่าลูกมึงยอมแน่นะ” “เออ เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงไปคุยกับลูกมึงก่อนเถอะ” “ยังไงกูก็ขอโทษมึงด้วยนะเพื่อน เลยเดือดร้อนกันเลย” “กูนีแหละผิดเองที่อยากให้ลูกมีครอบครัว เลยเดือดร้อนลูกมึงเลยหนีเลย มึงได้เรื่องยังไง บอกกูด้วยนะ เรามีเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงที่จะจัดการ กว่าจะถึงฤกษ์หมั้น” “แล้วพรีนว่ายังไงลูก พ่อแล้วแต่พรีนเลยถ้าพรีนไม่โอเค พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร” “พรีนตกลงครับคุณพ่อ เดี๋ยวพรีนเป็นตัวแทนของพี่พิมพ์เอง ถ้าฝั่่งโน้นเค้าไม่ได้ว่าอะไร” พีรฉัตรค่อนค้างคิดหนัก พอเรียนจบอุตส่าห์กลับมาเซอร์ไพรส์พ่อกับพี่สาว แต่โดนเซอร์ไพรส์กลับเพราะหลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์พี่สาวโดนจับแต่งงาน ยังไม่ทันได้แสดงความยินดีกับพี่สาวเลย ก็เลยเซอร์ไพรส์กลับเพราะพี่สาวหนีการแต่งงานและที่สำคัญพี่พิมพ์ท้อง พอไม่มีเจ้าสาวพ่อของเขาก็มาขอให้เขาเข้าพิธีแต่งงานแทนพี่สาว เพราะเกรงว่าถ้ายกเลิกงานแต่งกลัวนักข่าวและแขกจะอยากรู้ว่าเจ้าสาวหายไปไหนอาจจะไปขุดคุ้ยจนรู้ว่าพี่พิมพ์หนีงานแต่งเพราะท้องก่อนแต่งกับคนอื่น แต่ถ้าเขาเข้าพิธีแต่งงานเป็นเจ้าสาวแทนก็จะแก้ปัญหานี้ได้ แต่อันนี้พ่อบอกว่าแล้วแต่เขา ถึงพ่อไม่บังคับแต่ถ้าเค้าไม่ช่วย พ่อและพี่สาวเดือดร้อนแน่ เขาคงต้องยอมแต่งงานกับเจ้าบ่าวของพี่สาวแทน “งั้น พรีนตกลงครับคุณพ่อ แต่ถ้าแต่งแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้พรีนขอหย่าได้ใช่ไหมครับ” “ได้ซิลูก พ่อขอบใจน้องพรีนมากนะที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้บ้านเรา งั้นพรีนไปแต่งหน้าเลยนะ เดี๋ยวพ่อจะให้คนไปเตรียมชุดมาให้ และโทรบอกทางฝั่งลุงอาทิตย์ก่อน” นิลกาฬถึงกับหัวเสีย ถึงแม้เค้าจะไม่เต็มใจในการแต่งงานในครั้งนี้ แต่พอถึงวันแต่งจริงๆ กลับโดนเจ้าสาวทิ้ง และโดนเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหันเปลี่ยนจากเจ้าสาวผู้หญิงเป็นผู้ชายแทน กลุ้มใจนี่เค้าต้องมีเมียเป็นผู้ชายจริง ๆ หรือเนี่ย เค้าแค่พูดเล่น ๆกับพ่อเองนะว่าเค้าจะแต่งกับผู้ชายปากพระร่วงจริงกู พอเจ้าสาวหนีแทนที่จะยกเลิกงานแต่ง ดันมีเมียตัวแทนมาอีก ดีนะที่ได้ให้พ่อตกลงกับฝั่งโน้นแล้วว่าเป็นการแต่งงานกันในนามเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เจ้าสาวตัวจริงหนีไปเท่านั้น พอแต่งกันไปสักระยะได้อยู่กันไม่ได้พ่อก็อนุญาตให้เขาหย่ากันได้ อยากจะเห็นหน้าผู้ชายที่อยากมีเขาเป็นผัวจังเลยคิดยังไงยอมมาแต่งงานกับผู้ชาย คงไม่ใช่ผู้หญิงมีงูนะถ้ากะเทยขนาดนั้นเขาไม่โอเคเท่าไร่ขอทำใจก่อนแล้วกัน พอได้ฤกษ์พิธีหมั้นฝ่ายเจ้าบ่าวก็มานั่งรอทำพิธีแล้ว เหลือพีรฉัตรที่กำลังเดินมาเพื่อเข้าพิธี ฝ่ายเจ้าบ่าวที่ตอนนี้นั่งในใจเดือดปุดๆ ก็เงยหน้ามองฝ่ายเจ้าสาวทันทีที่อีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามตน ชายหนุ่มถึงกับโล่งอกที่อีกฝ่ายไม่ใช่สาวสอง ผู้หญิงมีงู แต่กลับกัน เจ้าสาวเค้าเป็นผู้ชายหน้าสวยตาคมขนตายาวงอน หน้าตาดีกว่าที่คิด หรือว่าเพราะฝีมือช่างแต่งหน้ากันแน่ที่แต่งหน้าเจ้าสาวออกมาได้ถูกใจเขาขนาดนี้ ไหนจะผิวที่ขาวเนียนมีออร่า เห็นพ่อบอกว่าเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกแต่ไม่นึกว่านอกจากขาวแล้วยังดูเนียนนุ่มอีก หรือว่าเพราะอยู่ในชุดสูทสีขาวนะถึงได้ทำให้ดูขาวนวลละมุนไปหมด หุ่นก็ดูสูงไม่เท่าเขาน่าจะไม่เกิน175 แต่ดูสมส่วน ไม่ได้อ้อนแอ้นตัวเล็ก อย่างฝ่ายรับสมัยนี้เขาฮิตกัน โดยรวมแล้วก็โอเคถือว่าใช้ได้ ฝ่ายพีรฉัตรพอนั่งลงเพื่อเริ่มพิธีหมั้นตามฤกษ์ ระหว่างที่ผู้หลักผู้ใหญ่ทำพิธีอยู่เค้าก็แอบมองฝ่ายเจ้าบ่าวชั่วคราวของตัวเอง แอบเสียดายแทนพี่พิมพ์เลยว่าที่ผัวพี่พิมพ์หล่อมาก หน้าตาคม จมูกโด่งเป็นสันผมหยกศกสีดำถูกเซ็ตไว้อย่างดี ลำคอตั้งตรง ไหล่กว้างๆ นั่นอีกดูแมนสมชายมาก รูปร่างขนาดนั่งอยู่ยังดูดีเลย เสียอย่างเดียวหน้าเฉยเมยมาก ยิ้มเป็นหรือเปล่าพ่อคุณ มัวแต่นั่งพิจารณาว่าที่คนที่เกือบจะได้เป็นพี่เขยรู้ตัวอีกทีมือเรียวก็โดนมือหนาเอื้อมมาดึงเข้าหาร่างสูงเพื่อที่เจ้าบ่าวจะได้สวมแหวนให้เจ้าสาว และหลังมือเรียวโดนดึงขึ้นไปประทับริมฝีปากหนาเพื่อให้ช่างภาพและนักข่าวเก็บภาพสวยๆ ช็อตเด็ดๆ ของคู่บ่าวสาว นั่งจนขาเป็นตะคริวกว่าจะเสร็จพิธีหมั้นในช่วงเช้า ก่อนจะแยกย้ายไปพักก่อนเพื่อฉลองมงคลสมรสในช่วงค่ำ ทำให้ร่างเพรียวถึงกับทรงตัวไม่อยู่ตอนลุกขึ้นเพราะขาชาเป็นตะคริว จนเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ใกล้รีบเข้ามาพยุงด้วยความลืมตัว ทำให้ช่างภาพได้เก็บช็อตเด็ดๆ อีกครั้ง “เอ่อ ขอบคุณครับ” “ไม่เป็นไร คราวหลังก็ควรจะขยับด้วยเวลานั่งนานๆ เลือดมันจะได้ไหลเวียนดี” คนเป็นหมอบ่นยาวก่อนที่จะประคองอีกคนให้ไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆ กับพ่อเจ้าสาวเอง “ขอบคุณนะนิล สำหรับทุกอย่าง” คุณจุมพลเอ่ยกับลูกเขย หลังจากที่รับร่างเพรียวของลูกชายมานั่งข้างตัวเอง ซึ่งนิลกาฬรู้ดีว่าพ่อตาตัวเองไม่ได้แค่ขอบคุณที่ช่วยพยุงคนตัวบางที่โดนตะคริวเล่นงานเมื่อสักครู่ น่าจะรวมถึงที่ยอมแต่งงานกับผู้ชายเพื่อกู้หน้าให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย “ไม่เป็นไรครับ” คุยกันไปสักพักฝ่ายบ่าวสาวก็แยกไปพักผ่อนเพื่อที่จะได้เตรียมตัวอีกทีในงานแต่งช่วงค่ำ“นี่ออเดิร์ฟครับเมีย ต่อไปเป็นของจริงแล้วนะครับ”ร่างสูงของนิลกาฬลงไปนอนบนเตียงสลับหัวกับภรรยาคนสวยก่อนที่แขนแกร่งจะออกแรงยกร่างบางให้ขึ้นมานอนทับบนตัวเอง ไม่ต้องบอกเป็นคำพูดแค่สื่อสารกันด้วยภาษากายภาษาใจ พีรฉัตรก็รู้ได้ทันทีว่าสามีจะต้องการอะไร มือเรียวเอื้อมไปคว้าเอาท่อนเนื้อไร้กระดูกขนาดใหญ่ยักษ์ของสามีมากำไว้แล้วใช้ปลายลิ้นเรียวเลียตรงส่วนหัวหยักไปมา จนเริ่มมีน้ำปริ่มเอ่อออกมา จากนั้นก็อ้าปากอมเจ้าท่อนเนื้อเข้าไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้ แล้วค่อยๆ รูดจากโคนมายังส่วนปลายอีกที ก่อนที่จะอมเข้าไปลึกสุดคออีกครั้งแล้วรูดออกมาอีกทำซ้ำไปเรื่อยๆ ส่วนที่เหลือที่ยาวเกินกว่าที่จะอมเข้าไปในปากได้หมดก็เป็นหน้าที่ของมือนุ่มที่ช่วยรูดอีกที ร่างสูงที่โดนรีดพิษครางเสียวอยู่ใต้สะโพกผายของภรรยา“อูยยย อ๊ะ เมีย เมียจ๋า อึยย เสียวค่ะ เสียวมาก อูยยย ทำไมหนูอมได้ลึกขนาดนี้ ดีค่ะเมีย ดีมากเลย โอยยย”นิลกาฬตอบแทนความเสียวที่ภรรยามอบให้ด้วยการคืนความเสียวให้แก่ร่างบางเช่นกัน ด้วยการผงกศีรษะขึ้นฝังริมฝีปากและลิ้นเข้าไปที่บริเวณรูรักด้านหลัง ใช้ปลายลิ้นร้อนเลียและแหย่เข้าไปในรูรักที่ยังปิดสนิท แล้วใช้น้ิวกล
“จ้ำม่ำเชียวหลานลุง เลี้ยงง่ายๆ นะลูก โตไปอย่าเหมือนพ่อนะครับ” เวทานนท์ที่แวะมาเยี่ยมคลอดพีรฉัตรกับหลาน คุยกับน้องพู่กันตัวน้อยที่คุณพ่อนิลกาฬอุ้มอยู่ หยอกหลานเสร็จแอบแว๊บมาแขวะพ่อมันสักนิดหน่อยแล้วกัน “อ้าว ไอ้ห่าเวย์ เอ่อ ไอ้คุณเวย์ครับ โตไปเหมือนพ่อดีแล้วครับ เนาะลูก จะได้หล่อ เก่งและฉลาดเหมือนพ่อใช่ไหมครับ ยิ้มให้พ่อหน่อยครับคนเก่งของพ่อ” นิลกาฬยับยั้งปากไว้ได้ทันก่อนที่จะเผลอพูดคำหยาบออกไป เมื่อหันไปเจอน้องเนม วรานนท์ ลูกของเพื่อนรักที่ตอนนี้มากับพ่อด้วย ตอนนี้น้องเนมอายุเกือบสี่ขวบแล้วกำลังน่ารักช่างพูดช่างเจรจา ช่างจดช่างจำ จึงไม่ควรที่จะให้เด็กได้ยินคำไม่สุภาพจากผู้ใหญ่ “แด็ดดี้ น้องเนมอยากดูเบบี๋ใกล้ๆ ได้ไหมคร้าบ” เด็กชายวรานนท์ถามบิดาขึ้นเมือเห็นน้องน้อยในห่อผ้าที่ลุงหมออุ้มอยู่ อยากจะเข้าไปดูใกล้ๆแต่ไม่กล้า “ลองขอลุงหมอนิลดูซิลูก ว่าลุงหมอจะว่ายังไง เพราะเบบี๋น้อยเป็นลูกของลุงหมอ” เวทานนท์บอกให้ลูกชายขอนิลกาฬเอง เพื่อที่จะให้น้องเนมกล้าแสดงออก เด็กชายตัวอ้วนหันมามองพ่อของตัวเองแล้วก็หันไปมองนิลกาฬลุงหมอที่ใจดีกับน้องเนมมาตลอด พร้อมกับ
หนึ่งอาทิตย์ก่อนถึงวันกำหนดคลอด เท้าสองข้างของพีรฉัตรบวมขึ้นกว่าเดิมและปวดท้องเตือนเริ่มถี่ขึ้น คุณหมอนิลกาฬจึงให้ภรรยาเข้ามานอนแอดมิทรอคลอดที่โรงพยาบาลของตัวเองเลยเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคลอดก่อนกำหนด และเจ้าของโรงพยาบาลอย่างหมอนิลกาฬก็เตรียมทีมผ่าตัดคลอดให้สแตนบายอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้ในห้องพัก VVIP ระดับเจ้าของโรงพยาบาล เหมือนมีการรวมญาติเพราะทุกคนมาให้กำลงใจคนท้องที่ต้องมานอนอยู่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอดเป็นอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อจุมพล พี่สาวคนสวยอย่างพิมพ์ชนกที่อุ้มลูกสาวตัวน้อยอย่างน้องพริ้มตามด้วยสามีอย่างอิทธิพล ฝั่งของนิลกาฬก็มีคุณพ่ออาทิตย์กับตัวแทนคนงานในบ้านอย่างป้าสายบัว ที่ขออาสาทำอาหารมาให้ทุกๆ คนได้ทานร่วมกันกับคนท้องในทุกๆ เย็น เพราะกลัวพีรฉัตรจะเหงา ตอนกลางวันนิลกาฬก็เอางานมาทำที่ห้องนี้และอยู่เป็นเพื่อนภรรยา ตอนกลางคืนคุณสามีก็จะขึ้นมานอนบนเตียงด้วย จนคนท้องลืมไปเลยว่านอนอยู่โรงพยาบาล เพราะทุกคนช่วยกันทำบรรยากาศให้เหมือนอยู่ที่บ้านตอนนี้พีรฉัตรต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนใกล้รุ่ง เพราะโดนก่อกวนจากลูกน้อยในครรภ์ที่ดูเหมือนจะดิ้นแรงย่ิงกว่าเดิม จนร่าง
“อึก อึก ฮือ ฮึก พี่นิลคิดว่าพรีนน่ารังเกียจหรือเปล่า ปกติเวลาเห็นพรีนเปลือย ไอ้นั่นของพี่นิลแข็ง พี่นิลก็จะจับพรีนกินเลย แต่ตอนนี้ทำไมนิลน้อยแข็งแต่ทำไมพี่นิลยังเฉย เพราะพรีนรูปร่างน่าเกลียดใช่ไหม ฮึก อึก ฮือ พี่นิลถึงไม่กินพรีน”โธ่ เมียเขาคิดได้ยังไง ตอนนี้เมียเขาน่ากินน้อยซะเมื่อไหร่ เขาท่องสวดมนต์ในใจเพื่อข่มใจไม่จับเมียปล้ำในห้องน้ำขนาดแค่ท่องพุทธโธยังผิดๆ ถูกๆ เลยตอนนี้“โธ่เมียจ๋าอย่าเข้าใจผัวผิดซิคะ ที่ผัวไม่จับหนูกินไม่ใช่ผัวไม่รู้สึกรู้สมอะไรนะ ผัวอยากจะจับเมียกระแทกใจจะขาด เพียงแต่กลัวเมียว่าหื่นไม่สงสารลูกสงสารเมีย นี่หนูดูหลักฐานซิไอ้ยักษ์ของผัวแข็งจนไม่อยากจะแข็งแล้ว มันอยากมุดรูเมียไปทักทายเทวดาตัวน้อยในท้องเมียมากเลยตอนนี้ ถ้าอย่างงั้นแสดงว่าเมียจะอนุญาตให้ผัวได้กินเมียได้ใช่ไหมคะ”พอได้ยินคนตัวสูงสารภาพความจริงว่าอยากจะจับตัวเองกินเหมือนกันทำเอาคนเข้าใจผิดคิดว่าผัวไม่อยากทำรักตัวเองใบหน้าเห่อแดงด้วยความเขินอาย หวังพี่นิลคงไม่หาว่าเราหื่นจัดอยากโดนจับกินหรอกนะ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ถ้าพี่นิลจะจับเรากินก็จะยินดีที่สุด ร่างอวบจึงพยักหน้าตอบรับด้วยความเอียงอาย
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนิลกาฬและพีรฉัตรสองสามีภรรยาก็ตกลงกันว่าจะอยู่ที่รีสอร์ตแค่อีกอาทิตย์เดียวก็พากันกลับกรุงเทพ เพราะกลัวทุกคนในครอบครัวพากันเป็นห่วง จนกระทั่งวันกลับนิลกาฬพาภรรยาท้องโตขึ้นเครื่องบินกลับเพราะไม่ต้องการให้คนท้องนั่งรถนาน ส่วนรถของนิลกาฬที่ขับมาจากกรุงเทพก็ให้คนงานที่รีสอร์ตขับกลับไปให้ จนลงเครื่องที่สนามบินที่กรุงเทพคุณอาทิตย์ก็ให้รถที่บ้านมารอรับ พอรถเคลื่อนเข้าไปจอดที่คฤหาสน์เท่านั้นแหละทั้งคุณพ่ออาทิตย์ คุณพ่อจุมพล ป้าสายบัวและบรรดาแม่บ้านและคนรับใช้ต่างก็ออกมาต้อนรับกันใหญ่“สวัสดีครับพ่อๆ สวัสดีครับทุกคน” ร่างอวบอิ่มจากการตั้งครรภ์ยกมือไหว้ทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหลังลงจากรถได้โดยมีคุณสามีประครองโอบเอวอยู่ไม่ห่าง“คุณพรีนของป้าบัว ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ คุณหนูตัวน้อยในท้องด้วยค่ะ” ป้าสายบัวเข้ามากอดร่างอวบอิ่ิมของคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วยความคิดถึง“พรีนก็คิดถึงป้าบัวเหมือนกันครับ” “ป่ะลูกเข้าไปในบ้านกันเถอะจะได้นั่งพัก เดินทางมาเหนื่อยๆ หลานพ่อเพลียแล้วมั้งป่านนี้”คุณอาทิตย์ชวนทุกคนเข้าไปพักผ่อนที่ห้องรับแขก ป้าสายบัวกับเหล่าแม่บ้านก็เต
“เราหันมาคุยกันดีๆนะครับ หนูนั่งเฉยๆก่อนฟังพี่เล่าอย่างเดียวให้จบก่อนนะครับ หนูจะตัดสินใจยังไงพี่แล้วแต่หนูเลย”ร่างสูงของนิลกาฬเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองกับเลขาให้ภรรยาฟัง พร้อมทั้งการจ้างนักสืบตามหาพีรฉัตรมาตลอด จนกระทั่งเจอ“ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะไม่คิดถึงพรีน พอพรีนไม่อยู่ใจของพี่แทบจะขาด พี่เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่พรีน ไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะไม่รู้สึกผิด ไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะนอนหลับสนิท ไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะทานข้าวอร่อยเพราะมันไม่ใช่รสมือของเมียพี่ พี่กินแค่พอประทังชีวิตให้มีแรงตามหาหนูเท่านั้น พี่รักพรีนนะครับ หมอนิลกาฬคนนี้รักคุณพีรฉัตรมากนะครับ ที่รักของพี่ เมียพี่พอจะให้อภัยผัวคนนี้ได้ไหม เรากลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันได้ไหมครับ พี่ขอโอกาสได้ดูแลหนูดูแลลูกของเราด้วยได้ไหมครับ”ร่างสูงพูดออกมาทัั้งน้ำตาเขาคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าของภรรยา พีรฉัตรก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขารับรู้มาตลอดตั้งแต่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลว่าอีกคนตามหาตัวเอง ช่วงเวลาสองเดือนกว่าไม่นึกว่ามันจะทำให้เขาเป็นขนาดนี้ รูปร่างที่เคยสง่างามกลับซูบผอม พ่ออาทิตย์บอกว่าร่างสูงไม่สามารถ