เช้าวันแต่งงาน
ช่วงเช้าที่จัดไว้เป็นพิธีหมั้นของคู่บ่าวสาวที่จัดกันเป็นการส่วนตัวเชิญเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้น ตอนนี้ที่ห้องพักของโรงแรมที่เปิดไว้เป็นห้องแต่งตัวเจ้าสาวกำลังวุ่นวายเพราะเจ้าสาวอย่างพิมพ์ชนกหายไปจากห้อง “เจอยัยพิมพ์หรือยังป้าชื่น” “ไม่เจอะเลยค่ะ คุณผู้ชาย ป้าให้เด็กๆเดินหาในห้องน้ำกับที่ต่างๆ แล้วค่ะ เอายังไงดีคะ” “ตาพรีน ติดต่อพี่พิมพ์ได้ยังลูก” “ไม่ได้ครับคุณพ่อ พี่พิมพ์ปิดเครื่อง” “คุณผู้ชายคะ เมื่อสักครู่มีคนเอาอันนี้มาฝากไว้ให้คุณผู้ชายค่ะ” ป้าชื่นยื่นซองจดหมายสีขาวที่เพิ่งรับมาให้คุณจุมพลด้วยมืออันสั่นเทา คุณจุมพลรับเปิดซองจดหมายอ่านทันที ถึง คุณพ่อที่เคารพรักของลูก ก่อนอื่นลูกต้องกราบขออภัยคุณพ่อด้วยนะคะที่พิมพ์ตัดสินใจหนีการแต่งงานในครั้งนี้ ลูกทำใจไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าและไม่ได้รัก รวมถึงต้องหักหลังสามีและลูกน้อยที่อยู่ในท้อง ลูกขอโทษที่ทำให้คุณพ่อเสื่อมเสียชื่อเสียง หวังว่าคุณพ่อจะให้อภัยลูกสาวคนนี้ที่ทำผิด ถ้าลูกมีบุญวาสนาจะพาหลานกลับมากราบคุณตา คุณพ่อรักษาสุขภาพด้วยนะคะ รักและเคารพคุณพ่อเสมอ พิมพ์ “โธ่ ยายพิมพ์” คุณจุมพลหัวใจแทบแตกสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวตัดสินใจหนีงานแต่งงานเพราะกำลังตั้งท้องลูกน้อยอยู่ นี่เขากำลังจะเป็นคุณตาโดยที่ยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหลานเลย ทำให้คุณจุมพลรู้สึกผิดกับลูกสาว อยากจะขอโทษลูกก็ติดต่อลูกไม่ได้ แล้วงานแต่งงานครั้งนี้ละ เค้าจะต้องจัดการยังไง จะบอกเพื่อนรักยังไงว่าเจ้าสาวหนีไปแล้วพร้อมลูกน้อยในครรภ์แล้ว “ฮัลโล อาทิตย์มึงว่างคุยหรือเปล่า กูมีเรื่องจะปรึกษา” ……… “จะเอาอย่างนั้นเลยเหรออาทิตย์ เราสองคนไม่ได้บังคับลูกเราเกินไปใช่ไหมนะ แล้วลูกเราจะยอมไหม” “เอาอย่างนี้แหละกูว่า เจ้านิลไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กูเคยถามลูกแล้ว” ตอนนี้คุณอาทิตย์กับคุณจุมพลสองเพื่อนรักกำลังแอบมาปรึกษากันก่อนที่จะถึงฤกษ์หมั้น “เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้นะ คนอื่นหรือนักข่าวเค้าก็ต้องสงสัยว่าทำไมถึงยกเลิกงานแต่งงาน ที่สำคัญเค้าจะขุดคุ้ยเรื่องยัยหนูพิมพ์ท้องก่อนแต่งอีก หรือมึงว่าไง” “เดี๋ยวกูต้องถามตาพรีนก่อนว่ะ ว่าจะว่ายังไง แต่ถ้าลูกกูไม่โอเค กูก็คงต้องงยอม บอกตรงๆ กูไม่กล้าบังคับเด็กมันแล้วว่ะ เดี๋ยวเกิดลูกกูหนีไปอีกคนแย่เลย แต่ว่าลูกมึงยอมแน่นะ” “เออ เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงไปคุยกับลูกมึงก่อนเถอะ” “ยังไงกูก็ขอโทษมึงด้วยนะเพื่อน เลยเดือดร้อนกันเลย” “กูนีแหละผิดเองที่อยากให้ลูกมีครอบครัว เลยเดือดร้อนลูกมึงเลยหนีเลย มึงได้เรื่องยังไง บอกกูด้วยนะ เรามีเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงที่จะจัดการ กว่าจะถึงฤกษ์หมั้น” “แล้วพรีนว่ายังไงลูก พ่อแล้วแต่พรีนเลยถ้าพรีนไม่โอเค พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร” “พรีนตกลงครับคุณพ่อ เดี๋ยวพรีนเป็นตัวแทนของพี่พิมพ์เอง ถ้าฝั่่งโน้นเค้าไม่ได้ว่าอะไร” พีรฉัตรค่อนค้างคิดหนัก พอเรียนจบอุตส่าห์กลับมาเซอร์ไพรส์พ่อกับพี่สาว แต่โดนเซอร์ไพรส์กลับเพราะหลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์พี่สาวโดนจับแต่งงาน ยังไม่ทันได้แสดงความยินดีกับพี่สาวเลย ก็เลยเซอร์ไพรส์กลับเพราะพี่สาวหนีการแต่งงานและที่สำคัญพี่พิมพ์ท้อง พอไม่มีเจ้าสาวพ่อของเขาก็มาขอให้เขาเข้าพิธีแต่งงานแทนพี่สาว เพราะเกรงว่าถ้ายกเลิกงานแต่งกลัวนักข่าวและแขกจะอยากรู้ว่าเจ้าสาวหายไปไหนอาจจะไปขุดคุ้ยจนรู้ว่าพี่พิมพ์หนีงานแต่งเพราะท้องก่อนแต่งกับคนอื่น แต่ถ้าเขาเข้าพิธีแต่งงานเป็นเจ้าสาวแทนก็จะแก้ปัญหานี้ได้ แต่อันนี้พ่อบอกว่าแล้วแต่เขา ถึงพ่อไม่บังคับแต่ถ้าเค้าไม่ช่วย พ่อและพี่สาวเดือดร้อนแน่ เขาคงต้องยอมแต่งงานกับเจ้าบ่าวของพี่สาวแทน “งั้น พรีนตกลงครับคุณพ่อ แต่ถ้าแต่งแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้พรีนขอหย่าได้ใช่ไหมครับ” “ได้ซิลูก พ่อขอบใจน้องพรีนมากนะที่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้บ้านเรา งั้นพรีนไปแต่งหน้าเลยนะ เดี๋ยวพ่อจะให้คนไปเตรียมชุดมาให้ และโทรบอกทางฝั่งลุงอาทิตย์ก่อน” นิลกาฬถึงกับหัวเสีย ถึงแม้เค้าจะไม่เต็มใจในการแต่งงานในครั้งนี้ แต่พอถึงวันแต่งจริงๆ กลับโดนเจ้าสาวทิ้ง และโดนเปลี่ยนตัวเจ้าสาวกะทันหันเปลี่ยนจากเจ้าสาวผู้หญิงเป็นผู้ชายแทน กลุ้มใจนี่เค้าต้องมีเมียเป็นผู้ชายจริง ๆ หรือเนี่ย เค้าแค่พูดเล่น ๆกับพ่อเองนะว่าเค้าจะแต่งกับผู้ชายปากพระร่วงจริงกู พอเจ้าสาวหนีแทนที่จะยกเลิกงานแต่ง ดันมีเมียตัวแทนมาอีก ดีนะที่ได้ให้พ่อตกลงกับฝั่งโน้นแล้วว่าเป็นการแต่งงานกันในนามเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เจ้าสาวตัวจริงหนีไปเท่านั้น พอแต่งกันไปสักระยะได้อยู่กันไม่ได้พ่อก็อนุญาตให้เขาหย่ากันได้ อยากจะเห็นหน้าผู้ชายที่อยากมีเขาเป็นผัวจังเลยคิดยังไงยอมมาแต่งงานกับผู้ชาย คงไม่ใช่ผู้หญิงมีงูนะถ้ากะเทยขนาดนั้นเขาไม่โอเคเท่าไร่ขอทำใจก่อนแล้วกัน พอได้ฤกษ์พิธีหมั้นฝ่ายเจ้าบ่าวก็มานั่งรอทำพิธีแล้ว เหลือพีรฉัตรที่กำลังเดินมาเพื่อเข้าพิธี ฝ่ายเจ้าบ่าวที่ตอนนี้นั่งในใจเดือดปุดๆ ก็เงยหน้ามองฝ่ายเจ้าสาวทันทีที่อีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามตน ชายหนุ่มถึงกับโล่งอกที่อีกฝ่ายไม่ใช่สาวสอง ผู้หญิงมีงู แต่กลับกัน เจ้าสาวเค้าเป็นผู้ชายหน้าสวยตาคมขนตายาวงอน หน้าตาดีกว่าที่คิด หรือว่าเพราะฝีมือช่างแต่งหน้ากันแน่ที่แต่งหน้าเจ้าสาวออกมาได้ถูกใจเขาขนาดนี้ ไหนจะผิวที่ขาวเนียนมีออร่า เห็นพ่อบอกว่าเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกแต่ไม่นึกว่านอกจากขาวแล้วยังดูเนียนนุ่มอีก หรือว่าเพราะอยู่ในชุดสูทสีขาวนะถึงได้ทำให้ดูขาวนวลละมุนไปหมด หุ่นก็ดูสูงไม่เท่าเขาน่าจะไม่เกิน175 แต่ดูสมส่วน ไม่ได้อ้อนแอ้นตัวเล็ก อย่างฝ่ายรับสมัยนี้เขาฮิตกัน โดยรวมแล้วก็โอเคถือว่าใช้ได้ ฝ่ายพีรฉัตรพอนั่งลงเพื่อเริ่มพิธีหมั้นตามฤกษ์ ระหว่างที่ผู้หลักผู้ใหญ่ทำพิธีอยู่เค้าก็แอบมองฝ่ายเจ้าบ่าวชั่วคราวของตัวเอง แอบเสียดายแทนพี่พิมพ์เลยว่าที่ผัวพี่พิมพ์หล่อมาก หน้าตาคม จมูกโด่งเป็นสันผมหยกศกสีดำถูกเซ็ตไว้อย่างดี ลำคอตั้งตรง ไหล่กว้างๆ นั่นอีกดูแมนสมชายมาก รูปร่างขนาดนั่งอยู่ยังดูดีเลย เสียอย่างเดียวหน้าเฉยเมยมาก ยิ้มเป็นหรือเปล่าพ่อคุณ มัวแต่นั่งพิจารณาว่าที่คนที่เกือบจะได้เป็นพี่เขยรู้ตัวอีกทีมือเรียวก็โดนมือหนาเอื้อมมาดึงเข้าหาร่างสูงเพื่อที่เจ้าบ่าวจะได้สวมแหวนให้เจ้าสาว และหลังมือเรียวโดนดึงขึ้นไปประทับริมฝีปากหนาเพื่อให้ช่างภาพและนักข่าวเก็บภาพสวยๆ ช็อตเด็ดๆ ของคู่บ่าวสาว นั่งจนขาเป็นตะคริวกว่าจะเสร็จพิธีหมั้นในช่วงเช้า ก่อนจะแยกย้ายไปพักก่อนเพื่อฉลองมงคลสมรสในช่วงค่ำ ทำให้ร่างเพรียวถึงกับทรงตัวไม่อยู่ตอนลุกขึ้นเพราะขาชาเป็นตะคริว จนเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ใกล้รีบเข้ามาพยุงด้วยความลืมตัว ทำให้ช่างภาพได้เก็บช็อตเด็ดๆ อีกครั้ง “เอ่อ ขอบคุณครับ” “ไม่เป็นไร คราวหลังก็ควรจะขยับด้วยเวลานั่งนานๆ เลือดมันจะได้ไหลเวียนดี” คนเป็นหมอบ่นยาวก่อนที่จะประคองอีกคนให้ไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆ กับพ่อเจ้าสาวเอง “ขอบคุณนะนิล สำหรับทุกอย่าง” คุณจุมพลเอ่ยกับลูกเขย หลังจากที่รับร่างเพรียวของลูกชายมานั่งข้างตัวเอง ซึ่งนิลกาฬรู้ดีว่าพ่อตาตัวเองไม่ได้แค่ขอบคุณที่ช่วยพยุงคนตัวบางที่โดนตะคริวเล่นงานเมื่อสักครู่ น่าจะรวมถึงที่ยอมแต่งงานกับผู้ชายเพื่อกู้หน้าให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย “ไม่เป็นไรครับ” คุยกันไปสักพักฝ่ายบ่าวสาวก็แยกไปพักผ่อนเพื่อที่จะได้เตรียมตัวอีกทีในงานแต่งช่วงค่ำนิลกาฬโยนร่างบางให้ลงไปนอนบนเตียงกว้างในห้องตัวเอง ก่อนที่ตัวเขาเองจะรีบถอดเสื้อผ้าจนตอนนี้เป็นชีเปลือยยืนอวดหุ่นสวยด้วยกล้ามเนื้ออยู่ปลายเตียง “ต่อต้านดีนักกับผมที่เป็นสามีเนี่ยถูกกฎหมายเนี่ย ทีกับชู้ก็ยืนนิ่งๆ ให้มันกอด เดี๋ยวผมจะทำให้ดูว่าลีลาผมเด็ดกว่าไอ้ชู้หน้าตี๋นั่นอีก อย่ามาติดใจแล้วกัน”ร่างบางของพีรฉัตรที่โยนลงบนเตียงขยับหนี เขาพยายามที่จะอธิบายให้อีกคนฟังแล้ว แต่คนตัวโตไม่ยอมฟังเขาเอาซะเลย พอเขาขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตามแรงกระชาก ก็โดนคนแรงเยอะอุ้มพาดบ่าเข้าบ้านมา พอดิ้นมากๆ เข้าก็โดนตีที่ก้นจนแสบไปหมดแล้ว ไหนจะโดนจับโยนลงบนเตียงจนจุก ไหนจะคำหยาบคายที่กล่าวหากันนั่นอีก ที่สำคัญตอนนี้อารมณ์ของนิลกาฬน่ากลัวมาก คนตัวสูงก้าวขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไร้ซึ่งอาภรณ์ปิดบังร่างกาย ไหนจะพกอาวุธกลางกายที่ใหญ่โตน่าเกรงขามนั่นอีก ถ้าเขาโดนไอ้นี่ทำโทษคงสลบแน่เลยมันไม่น่าจะเข้ากันได้“ถอยออกไปนะคุณนิล มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดคุณก็ฟังผมบ้างซิ” ร่างบางพยายามจะอธิบายอีกครั้ง“เข้าใจผิดอะไร เข้าใจผิดว่าคุณเป็นคนดีน่ะซิ ที่ไหนได้ร่านชิบหาย พอผมไม่ทำหน้าที่ผัวให้ เลยจะให้ไอ้ตี๋นั่นมาทำแทนเหรอ ฝันไปเถอะผมเ
“คุณพ่อทำไมวันนี้เริ่มทานเร็วล่ะครับ” เสียงของพีรฉัตรดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวขึ้นของร่างเพรียวบางและมีพนักงานทยอยถือกับข้าวเข้ามาเสิร์ฟบรรดาพ่อๆ ที่โต๊ะเพื่อที่จะรับประทานอาหาร พอมาถึงเห็นบุคคลแปลกปลอมนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อๆ ทั้งสองก็ตกใจ มาได้ยังไงเนี่ย“วางเลยลูก น้องพรีนมานั่งเลยจะได้เริ่มทาน วันนี้คุณหมอหิวมาก เห็นว่ายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เที่ยงเลย” พ่อตาออกโรงแทนลูกเขย พีรฉัตรมองหน้าหล่อของคุณหมอที่พ่อบอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ คนตัวสูงแทน “เริ่มแทนเลยตานิล นี่พรีนเค้าทำเองหมดเลยนะ ถ้าต้องปรับปรุงตรงไหนอร่อยไม่อร่อยบอกเชฟพรีนได้เลยนะลูก เชฟเค้าจะได้ปรับปรุง” ถึงเวลาอวยลูกตัวเองบ้าง พอตักอาหารมาเริ่มทานนิลกาฬก็พบว่าอาหารอร่อยถูกปากเขาทุกอย่างสมกับเป็นห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ทุกคนต้องมาทานจริงๆ เขาเพิ่งรู้ว่าพ่อๆ และภรรยาจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ทุกวันเพื่อเป็นเพื่อนพ่อตาเค้า พ่อตาอยู่บ้านคนเดียวจะได้ไม่เหงา นี่เป็นการแสดงความเอาใจใส่อีกรูปแบบหนึ่งของร่างบางที่มีต่อพ่อ “เอ่อ น้องพรีนเมื่อกี้พ่อคุยกับพี่นิลแล้ว ว่าจะให้พี่นิลนั่งรถมาทำงานเ
ตอนนี้พีรฉัตรอยากจะเอาสมาธิมาจดจ่ออยู่กับแค่การขับรถ แต่จิตใจมันไม่รักดีดันไปไขว้เขวกับคนร่างสูงที่วิสาสะนั่งมาด้วย แม้อีกคนจะนั่งอยู่เงียบๆตามที่บอก แต่ก็ไม่นิ่งเอาเสียเลยคอยขยับ คอยปรับแอร์ เปิดเพลงเปลี่ยนเพลงอยู่นั่นแหละ มันทำให้พีรฉัตรไม่มีสมาธิเอาซะเลย เริ่มจะโมโหแล้วนะ“คุณจะลงที่ไหนผมจะได้จอดรถให้ลงได้ถูก” เจ้าของรถถามผู้โดยสารทันที เพราะร่างบางไม่ไหวแล้วขืนนั่งไปด้วยกันต่อ อาจจะเกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับไม่มีสมาธิเป็นแน่“ผมว่าผมบอกคุณแล้วนะว่าคุณพ่อให้นั่งไปส่งคุณจนถึงที่ทำงาน ฉะนั้นคุณขับไปให้ถึงที่ทำงานของคุณเลย คุณจอดรถอย่างปลอดภัยไม่ชนใครเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมก็กลับเอง”“ผม เอ่อ ไม่มีสมาธิขับรถถ้าคุณอยู่ด้วย เพระฉะนั้นผมขอล่ะคุณลงไปจากรถผมหน่อย ผมไม่บอกคุณพ่อหรอก”“ไม่เอา ผมนั่งของผมอยู่เฉยๆ คุณมาหวั่นไหวกับผมเอง คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย”“ผมไม่ได้คิดอะไร ไม่หวั่นไหวอะไรทั้งนั้น ผมแค่รำคาญ ตอนนี้คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้คุณลงจากรถผมซะที ในเมื่อคุณตีมึนพูดยังไงก็ไม่ลง งั้นก็นั่งเฉยๆ แล้วกัน” นิลกาฬนั่งขำอีกคนที่ทำท่าทางฟึดฟัดใส่เขา มองดูแล้วน่ารักดีเหมือนตอนนี้เขากำลัง
“คุณพรีนคะ ป้ามา อุ๊ย คุณนิล”ป้าสายบัวร้องอุทานตกใจที่คนที่มาเปิดประตูเป็นนิลกาฬ ส่วนคนที่ป้าสายเรียกเห็นรางๆ ว่านอนอยู่ที่เตียง แหม! คุณนิลกับคุณพรีนทำเป็นนอนแยกห้องกันแต่สุดท้ายก็มาจู๋จี๋กันอยู่ดี“ว่าไงครับป้าบัว” คนตัวสูงเอ่ยถามป้าบัวเสียงหงุดหงิด สงสัยป้าบัวมาผิดเวลามากวนเวลาจู๋จี๋“เอ่อ พอดีป้านัดกับคุณพรีนไว้ว่าจะทำม้ือเย็นกันค่ะป้าเลยมาตาม ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณนิลกับคุณพรีนตามสบายเลยนะคะ ป้าบัวไม่กวนแล้ว” ป้าสายบัวกำลังจะหันหลังกลับ “ป้าบัวครับ รอพรีนด้วยครับ เดี๋ยวพรีนจะลงไปพร้อมป้าบัว” เสียงร่างบางเรียกมาจากในห้องป้าสายบัวจึงต้องหยุดรอ ส่วนคนร่างบางหลังจากจัดการแต่งตัวเรียบร้อยแล้วรีบออกมาจากห้องเพราะกลัวร่างสูงจะทำอนาจารกับตัวเองอีก “ไหวเหรอ” เสียงร่างสูงถามเพราะต้องการสื่อความหมายให้ป้าบัวเข้าใจผิด ซึ่งได้ผลดีเกินคาดป้าบัวคิดไปไกลว่าที่ร่างสูงของเจ้านายถามภรรยาน่าจะถามด้วยความเป็นห่วงเพราะอาจจะเพิ่งผ่านกิจกรรมรักกันมา ส่วนคนถูกถามหน้าแดงเขินอายไปไม่ถูก จะถามบ้าอะไรอย่างนั้น“ช่วยหลีกทางให้ผมด้วยครับ ผมจะลงไปทำกับข้าวกับป้าบัว”นิลกาฬเลยเบี่ยงตัวออกเพื่อเปิด
เช้านี้เป็นวันหยุดของนิลกาฬ ที่จริงยังไม่อยากตื่นเลยแต่เมื่อคืนตอนเดินเข้ามาในบ้านเขาดันไปได้ยินเสียงของภรรยาในนามนัดแนะกับใครสักคนว่าเจอกันตอนเก้าโมง เพราะความอยากรู้ว่าอีกคนนัดใครไว้ เค้าก็เลยต้องรีบตื่นก่อน เก้าโมงเพื่อมาจับชายชู้ให้ได้คาหนังคาเขา เค้าจะได้มีข้ออ้างกับพ่อขอหย่าเพราะร่างบางมีชู้ทั้งๆ ที่ยังกอดทะเบียนสมรสกับเขาอยู่ แปดโมงครึ่งยังไม่ถึงเวลาที่ได้ยินร่างบางนัดแนะ แต่นิลกาฬก็อยู่ในชุดออกกำลังกาย ทำเหมือนมาออกกำลังกายแถวสนามหญ้าหน้าบ้านเพื่อจะได้จับภรรยาและชู้ให้ได้ตัวเป็นเห็นกันซึ่งๆ หน้า ร่างสูงท้ังวิ่งจ๊อกกิ้งจนเหนื่อย จังหันมายืดเหยียดกล้ามเนื้อบริหารร่างกายแทน จนเวลาเก้าโมงครึ่งก็ยังไม่เห็นร่างบางลงมาหรือคนที่มารับปรากฏตัวเลย เอ๊ะหรือว่านัดกันที่อื่น แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะเนี่ยหรือจะถามจากใครได้ พ่อเขาไม่ได้ล่ะหนึ่งถ้าไปถามมีหวังโดนซักฟอก คุณจุมพลพ่อตาก็ไม่ได้หมดแล้วตัวเลือกแล้ว ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เสียเวลาชิบหาย“อ้าวคุณนิล ป้านึกว่าออกไปกับคุณพรีนซะอีก” ป้าสายบัวทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องอาหาร เหยื่อมาแล้วหนึ่ง คุณหมอยิ้มกริ่มในใจ “พอดีผมตื่น
พอพีรฉัตรเดินมาหาผู้เป็นบิดาที่ห้องอาหาร ก็พบว่ามีคุณอาทิตย์นั่งรออยู่กับพ่อแล้ว “พ่อทิตย์สวัสดีครับ มานานหรือยังครับ”คุณอาทิตย์หันมาหาร่างบางของลูกสะใภ้ทันที“พ่อเพิ่งมาถึงนี่เองลูกว่าจะมาหาเพื่อนดื่มสักหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะลาภปากได้ทานอาหารฟรีของโรงแรมดังระดับ 6 ดาว และเจ้าของโรมแรมมาทำอาหารให้ทานเอง 555” คุณอาทิตย์แซวลูกสะใภ้คนโปรด “เป็นไงบ้างลูก ทำงานสนุกไหมเหนื่อยหรือเปล่า”“สนุกครับ งานเยอะจนหายเหงาเลย” ร่างบางยิ้มตาหยี “พ่อๆ ชิมอาหารดูนะครับพรีนอยากรู้ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง”“แค่เห็นหน้าตาก็ไม่กล้าทานเลยลูก” คำพูดของพ่อสามีที่หวังดีกับพีรฉัตรมาตลอดทำเอาคนฟังใจแป้วไปเลย “ที่พ่อว่าไม่กล้าทานไม่ใช่อะไรนะลูก มันสวย มันดูดีมาก เดี๋ยวพ่อถ่ายรูปไว้หน่อยนะเดี๋ยวจะโพสต์โปรโมทซะหน่อย เดี๋ยวชิมรสชาติก่อนนะ ฮือ มันอร่อยมากลูก ว่าคุณฉัตรทำกับข้าวอร่อยแล้วนะ น้องพรีนแซงแม่มาเลย ไอ้พลมึงลองชิมดู เดี๋ยวว่ากูโม้” พ่อคุณอาทิตย์พูดก็ทำให้คนทำปราบปลื้มยิ้มหวานเลย และหันมารอลุ้นจากคนเป็นพ่ออีก“อือ ใช่รสคล้ายๆ ของคุณฉัตร แต่อร่อยกว่าลูก พ่อว่าห้องอาหารของโรงแรมเรากลับมาบูมอีกแน่เลย” “จริงหรือ
เช้าวันต่อมา คุณอาทิตย์ก็เดินมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทานอาหารเช้าก่อนไปทำงาน หลังจากนั่งลงแค่แป๊บเดียวพีรฉัตรก็เดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้าม “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ ลงมานานหรือยังครับ” ฝ่ายลูกสะใภ้เอ่ยทักทายและถามขึ้น “เพิ่งลงมาก่อนน้องพรีนแปล๊บเดียวลูก เมื่อคืนเป็นไงบ้างนอนหลับหรือเปล่า”“หลับๆ ตื่นๆ ครับ อาจจะเพราะพรีนแปลกที่ก็ได้ คงยังไม่คุ้น”“เดี๋ยวก็ชินลูก”คุณอาทิตย์ไม่รู้จะปลอบใจลูกสะใภ้ยังไงดี“สายบัว ทำไมวันนี้ข้าวต้มรสชาติแปลกๆ ไป” สีหน้าฉงนของเจ้าของบ้าน หันไปถามหัวหน้าแม่บ้านทันทีที่ชิมข้าวต้มปลา“เป็นยังไงบ้างคะคุณท่าน ไม่ถูกปากหรือคะ”“เปล่า มันอร่อยมากต่างหาก วันหลังทำสูตรนี้อีกนะ หนูพรีนลองทานดูซิลูกอร่อยมาก”คุณอาทิตย์เชิญชวนลูกสะใภ้ให้ชิมข้าวต้มที่ตนคิดว่าตั้งแต่แม่ครัวทำมาวันนี้อร่อยที่สุด“คุณท่านต้องบอกคุณหนูพรีนแล้วล่ะค่ะ ว่าให้ทำแบบนี้อีก เพราะข้าวต้มวันนี้ฝีมือคุณพรีนเป็นคนทำค่ะ” ป้าสายบัวบอกเจ้านายยิ้มๆ“อ้าว พ่อเลยปล่อยไก่ตัวเบ่อเร่อเลย ลืมไปเลยว่ามีเชฟอยู่ที่บ้านตัวเอง 5555”“ถ้าคุณพ่อชอบวันหลังพรีนจะทำให้ทานบ่อยๆ ครับ”ขณะที่เจ้าของบ้านกับลูกสะใภ้กำลังทานข้าวต
“ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”“ผมขอไปอยู่บ้านผมได้ไหมต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดี๋ยววันไหนถ้าต้องออกงานด้วยกัน คุณค่อยมารับผมที่บ้านก็ได้”ร่างบางเสนอทางออกให้ทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าจะได้ไม่อึดอัด“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีน่ะซิ พ่อๆ ของเรายอมที่ไหน หรือคุณจะลองขอพวกเค้าดูก่อนก็ได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะแต่งหรอกนะไอ้งานแต่งบ้าๆ เนี่ย”ร่างสูงบ่นยาวแต่ก็ไม่ยอมจอดรถให้อีกคนลงตามคำขอ ตรงกันข้ามเขากลับขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของตัวเองตามเดิมคำว่า งานแต่งบ้าๆ ทำเอาพีรฉัตรได้ยินแล้วถึงกับจุกเหมือนกัน ก็รู้ว่าไม่เต็มใจแต่งงาน แต่ช่วยพูดอะไรที่มันซอฟๆ กว่านี้ได้ไหม คนฟังพอได้ยินแล้วมันก็เจ็บเหมือนกันนะ พอคุณหมอรูปหล่อทำหน้าที่สารถีหนุ่มขับรถคันหรูสัญชาติยุโรปเข้ามาจอดสนิทที่โรงจอดรถของคฤหาสน์ตระกูลธีรวัฒนาวัฒน์ เขาก็กดเปิดประตูแล้วลงจากรถเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ส่วนคนที่โดยสารมาด้วยรีบลงจากรถและเก็บสัมภาระของตัวเองก่อนจะเดินตามเข้าไป แบบงงๆ พอเดินมาถึงห้องโถงของคฤหาสน์ก็เจอชายสูงวั
พอจบพิธิหมั้นและจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ช่วงค่ำก็เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส กว่าจะผ่านพิธีการแต่งงานต่างๆไปได้ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งเหนื่อยทั้งเพลียไหนจะต้องแสร้งทำว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาก เจ้าบ่าวก็คอยดูแลเทคแคร์เจ้าสาวตลอด มีช็อตหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้อิจฉาและฟินไปตามๆ กัน ส่วนเจ้าสาวหน้าสวยก็คอยเดินแจกยิ้มหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมยินดี ถึงแม้พีรฉัตรจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน ไม่ค่อยรู้จักแขกที่คุณพ่อกับลุงอาทิตย์เชิญมาร่วมงานแต่เค้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการเออออห่อหมกไปตามเจ้าบ่าวตอนนี้เหลือขั้นตอนพิธีการสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในห้องหอที่ถูกจัดไว้ที่โรงแรมหรูของครอบครัวศิริวงศ์ไพโรจน์ โดยมีคุณอาทิตย์ และคุณจุมพล พร้อมป้าชื่นมาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอพร้อมกับให้คำอวยในการใช้ชีวิตคู่ “อดทนไว้นะลูก ชีวิตคู่มันอาจจะมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้าง พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองใจเย็นๆ คิดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วพากันผ่านจุดนั้นไปให้ได้ ถึงวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันจะสวยงาม ขอบคุณลูกทั้งสองที่ทำเพื่อพวกพ่อ” คุณจุมพลและคุณอาทิตย์สองเพื่อนซี้ที่อวยพรคู่บ่าวสาวและให้ข้อคิดการครองเรือน