หน้าหลัก / โรแมนติก / เมียทาส / บทที่ 9 ได้แต่ทำใจ

แชร์

บทที่ 9 ได้แต่ทำใจ

ผู้เขียน: สาริศา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-20 12:22:36

“แล้ว... แล้วเกิดอะไรระหว่างคุณโจนาธานกับคุณคาซานดราเหรอคะ อแลนนิส”

“ถ้าฉันเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เธอต้องสัญญาก่อนว่าห้ามเอาไปพูดต่อหน้าคุณอเล็กซานเดอร์เด็ดขาด เข้าใจไหม”

อแลนนิสหันรีหันขวางอย่างลังเล ไม่ค่อยแน่ใจ รอจนสาวใช้คนใหม่พยักหน้าเธอจึงยอมกระซิบกระซาบต่อ

“คุณโจนาธานเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจกับคุณอเล็กซานเดอร์เมื่อสองปีก่อน แรกๆ ก็แค่ไปๆ มาๆ ติดต่อกันเรื่องงาน แต่ต่อมาทั้งคู่ก็สนิทสนมกันจนกลายเป็นเพื่อนสนิท หลังจากที่คุณอเล็กซานเดอร์เริ่มชวนคุณโจนาธานไปพักคฤหาสน์ที่มาซิโดเนีย แนะนำให้รู้จักคุณคาซานดราแล้วก็บรรดาญาติๆ ตั้งแต่นั้นคุณโจนาธานก็คอยแวะเวียนไปเยี่ยมคุณคาซานดราเสมอ เวลาที่คุณอเล็กซานเดอร์ไปติดต่องานต่างประเทศ...”

“...แรกๆ ก็ไม่มีใครเอะใจกันเลยสักคน ต่อมาคุณอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มระแคะระคายว่าเธอมีความรักกับคุณโจนาธาน แต่คุณอเล็กซานเดอร์และผู้ใหญ่ในครอบครัวต่างก็ไม่เห็นด้วย เพราะต้องการให้เธอแต่งงานกับชาวกรีกด้วยกัน คุณคาซานดราถึงกับเสียใจจนล้มป่วย ไม่ว่าคุณอเล็กซานเดอร์จะพยายามพาหมอมาตรวจที่บ้านกี่ครั้ง เธอก็ไม่ยอมให้ตรวจ เอาแต่ขังตัวเองในห้อง...”

“...ท้ายที่สุดคุณคาซานดราตัดสินใจบอกกับเขาว่าเธอเสียตัวให้คุณโจนาธานแล้ว คุณอเล็กซานเดอร์โกรธมาก ถึงกับบินไปตกลงกับคุณโจนาธานที่เอเธนส์ สุดท้ายก็ตกลงให้ทั้งคู่แต่งงานกัน ซึ่งทุกอย่างก็ทำท่าจะเป็นไปได้ด้วยดี...”

“แล้ว... เรื่องเป็นยังไงต่อคะ” เห็นอแลนนิสนิ่งเงียบไป รมิตาก็อดรนทนไม่ไหว ต้องถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้คนเล่า

เจ้าของร่างผอมบางถอนหายใจอีกครั้งแล้วจึงเอ่ยปาก...

“ก่อนวันแต่งงาน คุณโจนาธานก็ยังยอมเข้าพิธีบับติสมา เพื่อเปลี่ยนมานับถือนิกายกรีกออร์โธดอกซ์ตามความต้องการของครอบครัวเดมิทริอุส... แต่พอถึงวันแต่ง... ตอนคุณคาซานดรากำลังเดินลงบันไดบ้าน จู่ๆ เขาก็โทรศัพท์มาพูดอะไรกับเธอสองสามคำ แล้วคุณคาซานดราก็เป็นลม กลิ้งตกลงมาจากบันได ส่วนคุณโจนาธานก็หายตัวไป ติดต่อไม่ได้อีกเลย...”

ผู้ที่ยืนฟังอยู่ถึงกับยกมือขึ้นปิดปากเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองอุทานออกมาอย่างลืมตัว สิ่งที่อแลนนิสบอกเล่าทำให้เธอรู้สึกเห็นใจเจ้าสาวผู้โชคร้ายจากใจจริง

“ที่แย่กว่านั้น... ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าคุณคาซานดราตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว อุบัติเหตุในตอนนั้นก็เลยทำให้เธอแท้ง พอฟื้นขึ้นมาอีกที เธอก็มีสภาพอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้... ไม่ยอมรับรู้อะไรอีกเลย”

“คุณคาซานดรา...” หญิงสาวครวญด้วยความสงสาร

“คุณอเล็กซานเดอร์พาคุณคาซานดรามาพักรักษาตัวที่นี่ตามคำแนะนำของหมอ เพราะที่มาซิโดเนียมีญาติพี่น้องพลุกพล่านเกินไป”

“แล้วทำไมคุณต้องกลับไปที่มาซิโดเนียด้วยล่ะคะ”

“เพราะฉันมีสามีมีลูกอยู่ที่นั่นน่ะสิจ๊ะ... จะให้พวกสาวๆ คนอื่นมาดูแลที่นี่ คุณอเล็กซานเดอร์ก็ไม่ไว้ใจ นี่เขาอุตส่าห์พาเธอมาด้วยตัวเอง แสดงว่าเธอต้องทำงานเก่งไม่เบาสินะ...” สาวใช้รุ่นพี่เปลี่ยนสีหน้าให้ร่าเริงขึ้น กระทุ้งศอกใส่แขนเธอเบาๆ เป็นการหยอกเย้า

เมื่อนึกถึงความร้ายกาจของอเล็กซานเดอร์แล้ว รมิตาไม่สามารถฝืนยิ้มตอบหญิงสาวอีกคนได้ เผลอส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่าเขาพาเธอมาเพราะเธอทำงานเก่งและน่าไว้ใจ

ที่สำคัญ... ไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มยอมเสี่ยงเอาคนที่ไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างเธอมาดูแลพี่สาวของเขา...

“ไม่ต้องทำหน้าเครียดอย่างนั้นหรอกน่า ถึงบ้านจะดูกว้างขวางไปหน่อย แต่งานที่นี่ไม่หนักนักหรอก เพราะกลางวันเรามีแม่บ้านชั่วคราวจากไอเอ มาช่วยดูแลเรื่องทำความสะอาด จริงๆ หน้าที่หลักของเธอก็แค่คอยอยู่เป็นเพื่อนคุณคาซานดราเท่านั้นล่ะ”

“ฉันไม่เคยดูแลคนป่วยมาก่อน ฉันกลัวว่า...”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกจ้ะ... คุณอเล็กซ์เขา... เอ่อ... ฉันหมายถึงคุณอเล็กซานเดอร์เขาได้จ้างพยาบาลพิเศษมาช่วยดูแลในช่วงระหว่างวันด้วยเหมือนกัน... ฉันก็ไม่รู้ว่าจ้างมาทำไมนะ เพราะไม่เห็นว่าหล่อนจะทำตัวให้เป็นประโยชน์อะไรเลย นอกจากนั่งอ่านนิตยสาร กับชี้นิ้วสั่งคนอื่นให้ทำโน่นทำนี่...” อแลนนิสพลั้งปากบ่นราวกับอัดอั้นมานานเต็มที พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังเล่าเรื่องไม่เหมาะสมให้สาวใช้คนใหม่ฟังมากเกินไปแล้ว จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “อย่าไปพูดถึงหล่อนเลยดีกว่านะ... ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่ารีบเข้าห้องไปพักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้ฉันจะบอกเธออีกทีว่าหน้าที่ของเราจะต้องทำอะไรบ้าง”

“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ อแลนนิส” หญิงสาวยิ้มให้

รมิตาทอดสายตามองสาวใช้ร่างผอมบางเดินกลับไปที่หน้าคฤหาสน์ด้วยความกังวล สับสน และหดหู่อย่างบอกไม่ถูก และเธอก็รู้สึกเสียใจแทนที่ได้ยินเรื่องราวอันเศร้าของคาซานดรา แต่...

อเล็กซานเดอร์ เดมิทริอุส...

เขาทำเรื่องร้ายกาจทั้งหมดนั่นด้วยเหตุผลเพียงเพื่อที่จะพาเธอมาดูแลพี่สาวของเขาเท่านั้นจริงๆ หรือ ในเมื่อชายหนุ่มกล่าวหาว่าเธอมีความสัมพันธ์กับโจนาธาน เทรเกอร์ ผู้ที่ทำให้คาซานดราตกอยู่ในสภาพอันน่าเวทนาอย่างนั้น การนำตัวเธอมาดูแลคาซานดราเพื่อชดใช้ความผิดที่เธอไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย... เขาจะให้เธอชดใช้เพียงเท่านี้จริงๆ หรือ...

หญิงสาวยืนเหม่อลอยอยู่นาน แม้ในขณะนี้ความหวาดกลัวและความกังวลใจจะลดทอนลงไปมาก แต่ตราบใดที่เธอยังหาทางแก้ข้อกล่าวหาของเขาไม่ได้ เธอก็ไม่มั่นใจว่าจะต้องเจอสิ่งเลวร้ายใดๆ อีก

รมิตารู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายเป็นครั้งแรก...

คิดถึงมารดาผู้ล่วงลับไปแล้ว...

หากเธอกับมารดาตัดสินใจต่อสู้กับชีวิตในผืนแผ่นดินอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ถึงจะไม่สุขสบายนัก แต่แม่ก็คงจะยังมีชีวิตอยู่กับเธอ และเธอคงไม่ต้องมาพบกับเรื่องราวที่วุ่นวายอย่างในตอนนี้ คิดแล้วแววความเปียกชื้นก็เอ่อซึมออกมาหล่อเลี้ยงดวงตาอันเลื่อนลอยอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่

แต่... มันก็ป่วยการที่จะนึกถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว... รมิตาบอกตัวเอง..

ปลายนิ้วน้อยๆ ยกขึ้นปาดขอบตา ก่อนจะยกถุงเสื้อผ้าใบใหญ่ที่วางเอาไว้บนขั้นบันไดเตี้ยๆ ขึ้นมากอดเอาไว้ พลางหันหลังก้าวเข้าไปในห้องพักชั่วคราว ภาวนาให้ตัวเธอเองสามารถข่มตาหลับและผ่านพ้นคืนนี้ไปได้โดยเร็ว

ห่างออกไปทางปีกขวาด้านหน้าตัวคฤหาสน์ หลังประตูกระจกของระเบียงชั้นสาม สายตาคมกริบคู่หนึ่งยังคงจ้องมองร่างที่แสนจะบอบบางเดินหายเข้าไปในห้องพัก

อเล็กซานเดอร์เองก็กำลังครุ่นคิด... เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงต้องพาตัวเธอที่ซานโตรินีแห่งนี้

แน่นอนว่าชายหนุ่มต้องการให้หญิงสาวได้เห็นสภาพของคาซานดรา... ให้เธอสำนึกว่าเธอเป็นผู้มีส่วนร่วมในการทำลายชีวิตหญิงสาวบริสุทธิ์คนหนึ่ง

แต่หลังจากนั้นล่ะ...

เขากัดฟันแน่นจนกล้ามเนื้อบนสันกรามเกร็งตัวขึ้นเป็นแนว กลางหว่างคิ้วหนาขมวดเป็นริ้วลึก

ใช่... จากนั้นเขาก็จะทรมานเธอ ฉีกทึ้งร่างกาย ทำลายชีวิตของรมิตา

ให้ย่อยยับ แล้วโยนซากอันแหลกเหลวของหญิงสาวคืนให้กับโจนาธานราวกับโยนเศษอาหารให้สุนัข เป็นการตอบแทนด้วยวิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งเขาเห็นว่ามันก็ยังไม่สาสมกับสิ่งที่พี่สาวของเขาต้องเผชิญเสียด้วยซ้ำ

ทำไมอเล็กซานเดอร์จะไม่เคยคิดว่า มันอาจเป็นการเข้าใจผิดอย่างที่คนสนิทของเขาทักท้วง...

ช่างปะไร...

ขอแค่ทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์กันเท่านั้นก็พอแล้ว...

ต่อให้โจนาธานไม่ได้จริงจังกับแม่บ้านชั้นต่ำคนนี้ แต่ชายหนุ่มก็จะทำให้ไอ้อเมริกันสารเลวนั่นรู้ซึ้งจนถึงก้นบึ้งความแค้นของเขาว่า อเล็กซานเดอร์ ซิเซโร เดมิทริอุส คนนี้พร้อมจะทำลายผู้หญิงของมันทุกคนนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

เพื่อให้มันหวาดกลัว... เพื่อให้มันหวาดระแวง...

และวันใดก็ตามที่มันพบผู้หญิงที่มันต้องการจะร่วมชีวิตด้วยอย่างแท้จริง... เขานี่แหละ จะทำให้มันทุกข์ทรมานแสนสาหัสไม่ต่างกันกับคาซานดรา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียทาส   บทที่ 55 ความสุขอวลอยู่ในอากาศ

    ที่ด้านในสุดของโบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์ประจำตระกูล แดเมียน ดูนิซี ยืนรอเจ้าสาวในชุดสูทสีดำ ด้านหลังมีอเล็กซานเดอร์และชายหนุ่มในตระกูลเดมิทริอุสอีกสามสี่คน ยืนเข้าแถวอยู่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวทันทีที่ประตูด้านหน้าโบสถ์เปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าสาว เสียงพูดคุยภายในโถงที่นั่งก็เงียบสนิท บรรดาญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายที่นั่งแยกกันอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวาของห้องต่างพร้อมใจหันไปมองร่างของเจ้าสาวผู้งดงามเป็นสายตาเดียวเสียงดนตรีจากออร์แกนบรรเลงขึ้น คลลรีสจึงค่อยๆ จูงหลานสาวก้าวเดินตามเส้นทางที่ลาดด้วยพรมแดงจากประตูเข้าไปสู่สถานที่ประกอบพิธีด้านในสุด โดยมีรมิตาเดินถือช่อดอกไม้ นำเหล่าเพื่อนเจ้าสาวนับสิบคนในชุดกระโปรงสุ่มสีฟ้าตามหลังมาช้าๆ เป็นขบวนสวยงามน่าชมดวงตาสีเทาของแดเมียนเพ่งมองมาที่ร่างสูงสง่า ภายใต้ผ้าคลุมศีรษะโปร่งบาง คาซานดราก็จับจ้องสายตาของเขานิ่ง สายตาคู่นั้นเป็นคู่เดียวกันกับที่คอยถ่ายทอดความรักและความห่วงหาอาทรณ์มาตลอดเวลานับสิบปีโดยที่เธอไม่เคยรับรู้เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผกผันจนท้ายที่สุดกลับลงเอยด้วยดีแล้ว หญิงสาวก็ต้องนึกขอบคุณอีวานเจลีนผู้มีส่วนทำให้เธออยู่ในสภาพนั้น จนได้

  • เมียทาส   บทที่ 54 วันที่รอคอย

    ในห้องนอนของคาซานดรา มาเรีย เดมิทริอุส ชั้นบนสุดของคฤหาสน์เดมิทริอุสแห่งมาซิโดเนีย เช้าวันนี้เนืองแน่นไปด้วยหญิงสาวต่างวัยกัน จำนวนหลายสิบคน ที่ต่างก็มารวมอยู่เพื่อช่วยเหลือ และดูแลการแต่งตัวให้เธอในวันแห่งความสุขครั้งนี้คาซานดรายืนอยู่หน้ากระจกเงากรอบไม้แกะสลักลวดลายสีทองบานใหญ่ เฝ้ามองเงาร่างของตัวเองในชุดผ้าลูกไม้สีขาวอันหรูหรา ตัวกระโปรงตัดเย็บเป็นสุ่มหนาซ้อนกันนับสิบชั้น ภายนอกประดับด้วยลูกปัดมุก ที่ร้อยระโยงระยางไม่ต่างจากชุดของเจ้าหญิงในนิยายมันเป็นชุดแต่งงานชุดเดียวกันกับที่มารดาของเธอเคยสวมใส่ในวันที่ก้าวเข้ามาสู่ตระกูลเดมิทริอุส และเธอก็ภูมิใจที่ได้สวมใส่มันอีกครั้งในวันที่ก้าวออกจากคฤหาสน์หลังนี้ไปสู่ตระกูลของผู้ที่เป็นสามีผ้าคลุมผมถูกสวมลงบนเรือนผมสีมะกอกที่ถูกเกล้าเป็นทรงสูง ก่อนจะตลบส่วนที่คลุมใบหน้าขึ้น เปิดให้เห็นใบหน้าที่งดงามหมดจด ข้างกายมีร่างอวบท้วมของหญิงวัยสูงวัยและร่างอุ้ยอ้ายของหญิงสาวชาวไทยยืนยิ้มแย้มอยู่เจ้าสาวผู้สวยสมบูรณ์แบบ ก้มลงจูบแก้มคลอรีสและรมิตาด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างที่ใครก็ไม่เคยเห็นมาก่อน“เอาล่ะ ทีนี้หลานของป้าก็พร้อมที่จะเป็นเจ้

  • เมียทาส   บทที่ 53 สิ้นสุดการต่อสู้ของผู้หญิง

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ อีวานเจลีน!!” ชายหนุ่มตะโกนห้าม เสียงของเขาทำให้หญิงสาวทั้งคู่ชะงัก หันมองตามทิศที่มาของเสียง“อเล็กซ์... ไม่นะ!!” คนหนึ่งกรีดเสียงร้องโหยหวน ภาพที่เขาเห็นตำตาอย่างนี้ อีวานเจลีนไม่มีทางจะหาคำอธิบายหรือคำใดๆ มาแก้ตัวอย่างแน่นอน“คุณอเล็กซ์... ช่วยฉันด้วยค่ะ ช่วยลูกของฉันด้วย!!” สองมือโอบอุ้มหน้าท้องเอาไว้ ในเวลานี้เธอไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลย ความห่วงใยทั้งหมดมีเพื่อสิ่งล้ำค้าในร่างกายเธอเท่านั้น“ไม่ต้องกลัวนะ รมิตา!! ลูกของผม... ผมจะต้องช่วยคุณและลูกให้ได้” เขาตะโกนตอบอย่างร้อนรน พลางวิ่งตรงไปยังราวบันไดเหล็กของชั้นล่างที่ตั้งตรงเป็นทางขึ้นไปสู่ระเบียงชั้นสอง“คุณอย่าขึ้นมานะ”เพียงมืออเล็กซานเดอร์จับถูกราวเหล็กเท่านั้น เท้ายังไม่ทันยกขึ้นไปเหยียบขั้นบันไดเลยแท้ๆ เสียงตวาดห้ามของอีวานเจลีนก็ทำให้เขาต้องหยุดชะงักอยู่แค่นั้น“คิดจะช่วยมันเหรอ!! อย่าหวังเลยอเล็กซ์ ในเมื่อฉันไม่ได้ อีหน้าไหนก็ไม่มีทางได้คุณทั้งนั้น!!” อีวานเจลีนคล้ายสุนัขจนตรอก แผดเสียงใส่เขาทั้งน้ำตา“อย่านะ อีวานเจลีน!!” ชายหนุ่มตะโกนลั่น ใบหน้าที่ดูดุดันในยามนี้กลับกลายเป็นเหี้ยมเกรียมไม่แพ้ใบหน้าของหญิง

  • เมียทาส   บทที่ 52 แข่งกับเวลา

    อเล็กซานเดอร์และแดเมียนรีบรุดเดินทางไปยังไนต์คลับที่วาเนสซาทำงานอยู่ ทว่าสภาพการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนทำให้กว่าที่ทั้งคู่จะไปถึง ก็สี่โมงเกือบครึ่งแล้ว สอบถามจนได้ความว่าก่อนหน้านี้สักครึ่งชั่วโมง มีผู้หญิงลักษณะเดียวกันกับอีวานเจลีนมาถามหาที่อยู่ของวาเลอรีน หรือวาเนสซาเช่นกันฟังแล้วชายหนุ่มก็แทบจะล้มทั้งยืน เนื้อตัวเย็นเฉียบ ในขณะที่ฝ่ามือและใบหน้ากลับมีเหงื่อซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว ยังหวังให้มีปาฏิหาริย์สักอย่างบันดาลให้หญิงคนรักของเขารอดพ้นจากเงื้อมมือของคุณหนูแห่งตระกูลเฮเลนิคัสเขารีบซักไซ้ ถามหาที่ตั้งของอพาร์ตเมนต์ จนรู้ว่าอยู่ห่างออกไปเพียงสิบช่วงตึก หากจะฝ่าถนนหนทางที่คับคั่งไปด้วยรถราในเวลานี้ คงไม่ทันการณ์ ชายหนุ่มจึงออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ตรงไปยังเส้นทางที่ได้รับการชี้นำ โดยไม่สนใจเลขาฯ หนุ่มที่อยู่ด้านหลังว่าจะตามเขามาด้วยหรือเปล่า ขอเพียงให้เขาไปถึงอพาร์ตเมนต์แห่งนั้นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอมหาเศรษฐีหนุ่มวิ่งไปได้ครึ่งทางก็สะดุดสายตาเข้ากับผู้หญิงเอเชียในชุดรัดรูปสีสันฉูดฉาดซึ่งเขากำลังวิ่งผ่านไป ผมสีแดงเพลิงของเธอดึงดูดสายตาให้หยุดชะงัก และหันไปจ้องมองอย่างไม่ตั้งใจ

  • เมียทาส   บทที่ 51 คลุ้มคลั่ง

    ร่างที่โถมเข้ามาหาทำให้ขั้วไฟฟ้าเฉียดใบหูอดีตสาวใช้ไปแค่เสี้ยวมิลลิเมตร เสียงลั่นเปรี๊ยะ ทำเอารมิตาขนลุกซู่ มือไม้อ่อนจนเกือบปล่อยแขนของฝ่ายตรงกันข้าม“แกอย่าหลบสิ อีคนชั้นต่ำ อี... แกนะแก... ทั้งที่ฉันวางแผนกำจัดไอ้โจนาธานไปได้แล้วแท้ๆ เหลืออีกไม่เท่าไหร่ก็จะได้แต่งงานกับอเล็กซ์อยู่แล้ว แต่แกเป็นใครมาจากไหน กล้าดียังไงมาแย่งผู้ชายของฉัน”“คุณ... ที่คุณโจนาธานไม่ได้แต่งงานกับคุณคาซานดรา... เป็นเพราะคุณจริงๆ”ใบหน้าของหญิงสาวในเวลานี้หวาดกลัวคนตรงหน้าเสียยิ่งกว่าคราวที่พบกับอเล็กซานเดอร์ ร่างบอบบางถูกเรี่ยวแรงที่มากกว่า ผลักให้ก้าวถอยหลังไปอย่างช้าๆ“หึ! ใช่... ฉันนี่แหละที่หลอกให้มันหนีงานแต่งงาน แล้วก็ฉันนี่แหละที่ผลักนังคาซานดราตกบันไดจนเป็นง่อย”“คุณ... คุณทำอย่างนั้นเพื่ออะไรกัน...” หญิงสาวตกตะลึงมากขึ้นไปอีก ไม่คิดว่าแม้แต่อุบัติเหตุของคาซานดราก็เป็นฝีมือของเธอ ในใจเกิดความกรุ่นโกรธขึ้นมากะทันหัน“ก็เพื่อให้อเล็กซ์โกรธแค้นมันมากที่สุดยังไงล่ะ อีโง่!! มันจะได้ไม่ต้องอยู่เป็นมารผจญฉัน... เหมือนอย่างที่แกกำลังเป็นอยู่ ปล่อยมือฉันนะ!!”อีวานเจลีนดิ้นรน แต่ก็ได้แค่ผลักร่างของรมิตาให้ก

  • เมียทาส   บทที่ 50 ผู้ที่มาถึงก่อน

    บนชั้นสามของอาคารกลางเก่ากลางใหม่ถูกแบ่งเป็นอพาร์ตเมนต์ย่อยๆ จำนวนสี่ห้อง หนึ่งในนั้นเป็นที่อยู่ของวาเนสซา หรือวาเลอรีน อดีตแม่บ้านชาวจีนผู้หันมายึดอาชีพโฮสเตสของไนต์คลับเล็กๆ แห่งหนึ่งใจกลางกรุงเอเธนส์ประตูอพาร์ตเมนต์ถูกเปิดออกพร้อมเรียวขาในรองเท้าส้นสูงสีสันบาดตา ที่ก้าวออกมายืนบิดสะโพกไปมาอย่างเย้ายวน มือเรียวงามยกขึ้นดึงรอยยับยู่บนชุดที่กระชับกับส่วนสัดให้เข้าที่ แล้วจึงขยับกระเป๋าถือรูปทรงทันสมัยให้คล้องอยู่ในตำแหน่งถนัด หันกลับไปหาผู้ที่มายืนส่งอยู่ใกล้ๆ“เธอแน่ใจนะว่าจะไม่ออกไปเดินเล่นกับฉันก่อน...” หญิงสาวชาวจีนถาม “กว่าฉันจะไปทำงานก็อีกตั้งสองชั่วโมง ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะน่า...” พูดพลางยกแขนข้างที่สวมนาฬิการาคาแพงที่ได้เป็นของกำนัลจากแขกประจำขึ้นตรวจเช็กเวลา บอกว่าตอนนี้เหลืออีกสิบนาทีจะห้าโมงเย็น“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ... ในครัวเธอก็มีของกินเหลืออยู่นี่ ฉันอุ่นเสียหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว ทิ้งไว้เสียดายเปล่าๆ” รมิตาตอบยิ้มๆ“ฉันรู้ว่าเธอกินง่ายอยู่ง่ายจ้ะ แต่รู้จักใช้ชีวิตบ้างก็ดีนะ ฉันอุตส่าห์จะพาไปรู้จักผู้คน เปิดหูเปิดตาบ้างก็ไม่ยอมไป” วาเนสซาบ่นกระปอดกระแปด คิดจะหาทางหว่านล้อม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status