Masukแต่กับข้าวฟ่างเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้าทำแบบนั้น รักก็ไม่ได้รักนะ เช้าวันรุ่งขึ้น.. “นี่คุณไม่ตื่นไปทำงานรึยังไง?” หญิงสาวปลุกสามีที่กำลังนอนของเธอเพราะปกติช่วงเวลาเช้าแบบนี้เขาก็ตื่นแล้วแต่วันนี้กับนอนยังไม่ตื่น “วันนี้ผมว่าจะไม่ไปนะรู้สึกปวดหัว” เสียงตอบกลับมาจากวุฒิชัยและเขาก็นอนต่อ เป็นอะไรของเขาไม่สบายรึป่าวเธอเอามือของเธอไปแตะดูที่หัวของเขาถึงได้รู้สึกว่าเขาตัวร้อนมาก “ตายแล้ว! คุณไม่สบายเหรอ” ข้าวฟ่างพูดด้วยความเป็นห่วง “ไม่รู้เหมือนกันผมรู้สึกปวดๆ หัว” เสียงของวุฒิชัยตอบกลับมาด้วยเสียงที่อ่อนโรย ข้าวฟ่างรีบลงไปข้างล่างไปหายาลดไข้ที่มีติดไว้ประจำบ้านและน้ำมาให้เขากินและเธอก็ลงไปเอากาละมังเล็กกับผ้ามาเช็ดตัวให้เขา เขาเอามือมาจับที่มือของข้าวฟ่าง “คุณทำอะไร” พูดพร้อมลืมตาเบาๆ มองดูถึงได้เห็นว่าภรรยาของเขากำลังเช็ดตัวให้ นี่ขนาดไม่ได้รักกันเธอยังเป็นห่วงเขาขนาดนี่ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ไปหาเขาพวกเธอเหล่านั้นไม่เคยมาสนใจว่าฉันจะเป็นยังไง เพียงแค่ต้องการให้ซื้อนั้นซื้อนี่ให้ “ก็คุณไม่สบายฉันก็จะเช็ดตัวให้นี่ไงและนี่ยาเอาไปกินซะถ้าไม่หายฉันจะพาไปหาหมอ” เธอเช็ดหน้าเช็ดตัวให้เขาและยื่นยากับน้ำให้กิน หลังจากนั้นเธอก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและลงไปให้แม่บ้านทำข้าวต้มให้ เธอเดินถือขึ้นมาและเอาไปยื่นให้เขา “กินซะ” “คุณทำเองเหรอ?” เขาพูดและแอบยิ้มนึกว่านี่จะเป็นฝีมือของภรรยาเขา “ป่าวหรอกให้แม่บ้านทำฉันทำไม่เป็นหรอก” “โหว นึกว่าจะได้กินฝีมือเมีย” “กินๆ ไปเถอะอย่าเรื่องมาก” เขาทำหน้าอ้อนทำเหมือนไม่มีเรี่ยวมีแรง “ผมกินไม่ไหวคุณป้อนผมหน่อยสิ” หน้าของเขานั่นดูเจ้าเล่ห์มาก “นี่มือก็ไม่ได้หักหนิจะมาบอกให้ป้อนเพื่ออะไร” เธอทำหน้าตาดุใส่เพราะคิดว่าสามีของเธอนั่นมันเจ้าเล่ห์ “ผมไม่สบายอยู่นะอย่างน้อยผมก็เป็นพ่อของลูกคุณนะ” เขายังคงตื้อให้เมียของเขาป้อนทำให้ข้าวฟ่างถอนหายใจอย่างแรงด้วยความเบื่อในความขี้อ้อนของเขา เธอตักข้าวได้ก็ป้อนไปเลยโดยที่ไม่เป่าทำให้ความร้อนจากข้าวไปสัมผัสที่ปากของวุฒิชัยเขาร้องออกมาด้วยความร้อน “โอ้ยยยร้อน!! ทำไมคุณไม่เป่าหน่อยละ” “ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าต้องเป่าก่อนมันไม่ร้อนขนาดนั้นหรอกหน่ะ คุณอย่าเวอร์ไปหน่อยเลย” เธอก็ตักข้าวขึ้นมาใหม่และเป่าให้เย็นและค่อยๆ ป้อนเขา วุฒิชัยทานข้าวจนหมดข้าวฟ่างก็ไปเอาแผ่นลดไข้มาติดให้เขา “คุณนอนอยู่นี่นะเดี๋ยวฉันจะเข้าไปทำงานก่อนถ้าไม่ไหวก็โทรบอกฉันเดี๋ยวฉันรีบกลับมา” จบประโยคนั้นเธอก็เดินออกไปขึ้นรถทำงาน วุฒิชัยมองดูภรรยาที่กำลังเดินไปทำงานและเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว…ยิ้มทำไมกันนะฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอสักหน่อยฉันไม่เคยรักใครเลยหนิคงไม่ใช่หรอก เขาบ่นพรึมพรำกับตัวเองแล้วก็นอนหลับไป 12:20 น. วุฒิชัยที่กำลังนอนอยู่ก็สะดุ้งตื่นเพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูด้วยอาการเพลียเมื่อเห็นชื่อปลายสายที่โทรเข้ามาทำให้เขายิ้มโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะเบอร์ที่โทรเข้านั้นเป็นเบอร์ของภรรยาเขา “ฮัลโหลว่าไงครับ” เขารีบรับสายทันที “คุณเป็นยังไงบ้างกินอะไรรึป่าวเดี๋ยวฉันจะเข้าไปเดี๋ยวซื้อไปฝาก” เธอถามเขาด้วยความเป็นห่วงเพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อของลูกเขา “แล้วคุณไม่ต้องทำงานเหรอ” “ฉันเคลียร์งานที่สำคัญเสร็จหมดแล้วอันไหนไม่เร่งรีบฉันก็ฝากเลขาฉันไว้ ว่าไงคุณจะเอาอะไรรึป่าว” “ผมอยากทานอะไรร้อนๆ คุณไม่ต้องซื้อมาหรอกอยากให้คุณทำให้ทาน” เขาพูดออดอ้อนข้าวฟ่างให้ทำอาหารให้เขาทานแต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าเธอทำอาหารไม่เป็น “คุณจะบ้าเหรอฉันทำอาหารไม่เป็นที่บ้านฉันมีแม่บ้านทำให้ทานตั้งแต่เด็กฉันไม่เคยทำเลยเดี๋ยวฉันแวะซื้อเข้าไปให้” จบประโยคเธอก็ตัดสายทิ้งพร้อมบ่นอยู่คนเดียว….ตาบ้าเอ้ยขนาดฉันเองยังไม่เคยทำทานเองเลยคุณเป็นใครทำไมฉันต้องทำให้ทานซื้อไปให้ก็บุญหัวแล้ว เธอเก็บของเสร็จก็เดินออกจากห้องทำงานไปหาเลขาของเธอเพื่อฝากงานไว้ “คุณฟิวข้าวจะกลับบ้านแล้วนะคะ ถ้ามีเอกสารอะไรที่เร่งด่วนส่งเมลล์มาหาข้าวนะคะส่วนเอกสารที่ต้องเซ็นเก็บไว้ก่อนนะคะเดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าวมาเซ็น” “ได้ค่ะคุณข้าว” หลังจากนั้นเธอก็เดินมาลงที่ลานจอดรถและขึ้นรถขับออกไปที่ร้านอาหารและสั่งซื้อต้มยำทะเลเพื่อไปฝากวุฒิชัยถึงบ้านเธอก็เดินขึ้นไปที่ห้องนอน เห็นสภาพวุฒิชัยที่กำลังนอนโทรมแต่เขาก็อาบน้ำแล้ว เธอเดินตรงไปหาเขา “นี่คุณตื่นขึ้นมาทานต้มยำกับข้าวเร็วคุณทานข้าวเที่ยงยัง?” “ยังเลย คิดถึงเมียจังเลย” เขาพูดและกอดไปที่ข้าวฟ่างทำให้เธอตกใจสุดขีดรีบพลักออก “คุณทำบ้าอะไร” “ก็ผมคิดถึงคุณไงในเวลาที่ผมป่วยก็มีแค่คุณที่ดูแลผม” เขาบอกและจับมือของเธอ “ฉันก็ทำตามหน้าที่เท่านั้นแหละ ไม่ต้องมาคิดถึงฉันหรอกไปคิดถึงสาวๆ ของคุณเถอะเมื่อคืนจะไปค้างกับเขาไม่ใช่รึไง” เธอรีบลุกออกและเดินหนี “คุณหึงผมเหรอ?” “หึงบ้าหึงบออะไรฉันรังเกียจต่างหาก ฉันจะไปทำงานในห้องทำงานคุณอยากได้อะไรก็เรียกละกัน” เธอพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของเธอ ทำให้วุฒิชัยงงว่าเธอเป็นอะไรเดี๋ยวก็ดีเป็นห่วงเขาดีเดี๋ยวก็วีนใส่เขา โกรธที่เราจะไปหาเมรีรึป่าวนะ คงไม่หรอกมั้งเขาไม่ได้คิดอะไรกับเราสักหน่อยเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลิกคิดแล้วทานข้าวดีกว่า ด้านข้าวฟ่างนั่งทำงานก็แอบคิดว่าทำไมเธอต้องเป็นห่วงเขาขนาดนั้นทั้งที่ก็ไม่ได้รักกัน คนที่เธอรักคือภูริทัติต่างหากถึงจะเป็นกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เพราะเขามีลูกมีเมียแล้วก็ตามแต่เธอคิดว่าเธอเองก็ยังรักเขาเธอเองก็พยายามทำใจจากเขาแล้วแต่มันคงไม่ง่ายไปขนาดนั้นเพราะคบกันมาตั้งนาน “คุณๆ ผมลืมถามไปเลยคุณหมอนัดไปฝากท้องอีกเมื่อไหร่” เธอกำลังคิดถึงเรื่องต่างๆ อยู่ก็ต้องสะดุ้งกับเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง วุฒิชัยเปิดประตูห้องทำงานและเดินมาถามถึงเรื่องฝากท้อง “ว่าไงนะ คุณจะเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อนฉันตกใจหมดเลย" “ขอโทษที ผมลืมไปพอดีผมเริ่มดีขึ้นแล้วคุณต้องไปฝากท้องอีกเมื่อไหร่ผมจะได้พาไป” “ไม่จำเป็นหรอกฉันไปคนเดียวได้” เธอพูดและก้มหน้าก้มตาทำงานเพราะไม่อยากจะคิดเรื่องอื่นอีก ตริ่ง!!!เสียงไลน์ของข้าวฟ่างดังขึ้น และไลน์ที่ขึ้นมานั้นก็เป็นไลน์ของวีรภัทร ใครกันหน่ะ เธอพูดและเปิดดูจึงเห็นว่าเป็นวีรภัทร…คุณภัทรนี่มีไลน์เราได้ไง วุฒิชัยเห็นว่าไลน์ที่เด้งเข้ามาเป็นผู้ชายทำให้เขารนใหญ่เลย “ใครไลน์มา?” เขาพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปดู แต่ข้าวฟ่างก็เอาโทรศัพท์ออกหนีเขา “ของใครแล้วทำไมมันก็เรื่องของฉันไหม?” >>>>>ติดตามตอนต่อไป
หลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ