Masuk“นี่รู้จักกันเหรอ?” ภูริทัตเอ่ยปากถามด้วยความไม่พอใจ
“หมายถึงผมกับคุณจาร์เหรอครับ?” วีรภัทรหันไปถามภูริทัต “ใช่” “พอดีผมเคยเจอคุณจาร์เมื่อเดือนที่แล้วที่ทะเลครับเลยทำความรู้จักกัน ว่าแต่พี่รู้จักคุณจาร์ด้วยเหรอ?" วีรภัทรถามภูริทัตแต่จารุวีย์พูดแทรกขึ้นมาตอบแทน “พอดีแม่คุณภูเป็นเพื่อนกับแม่ของจาร์ค่ะแล้วคุณแม่จะกลับมาอยู่ที่ไทยแต่ดันมีธุระเลยให้จาร์กลับมาก่อนและคุณแม่เป็นห่วงถ้าจาร์ต้องอยูู่่คนเดียวเลยให้จาร์มาอยู่กับคุณน้าวรรณชั่วคราว” “คุณน้าที่คุณจาร์เคยพูดถึงก็คือป้าวรรณนี่เอง” “ใช่ค่ะ คุณน้าวรรณนี่แหละค่ะที่พาจาร์ไปเที่ยวทะเลทำให้ได้เจอกับคุณภัทร” จารุวีย์พูดและยิ้มเล็กน้อยทำให้ภูริทัตไม่พอใจที่ทั้งสองดูจะสนิทสนมกันเกินไปและเอ่ยปากพูดกับจารุวีย์ด้วยอาการโมโห “เธอไปรอที่ห้องทำงานของฉันไป ฉันกับตาภัทรจะเข้าประชุมแล้ว” ทั้งที่ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องประชุมแต่ภูริทัตต้องการตัดบทไม่ให้จารุวีย์ได้พูดคุยกับวีรภัทร “ยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอพี่ภูผมขอคุยกับคุณจาร์ก่อนสิ….” “….” “สรุปวันนี้คุณจาร์จะไปทานข้าวกับผมมั้ยครับเดี๋ยวผมพาไปทานอาหารที่เด็ดๆในย่านนี้” วีรภัทรพูดถามจารุวีย์แต่ภูริทัตรีบพูดแทรกขึ้นมาด้วยอาการหวงๆ “ไม่ได้!!..วันนี้จารุวีย์ต้องรีบกลับบ้านคงไปทานอาหารกับแกไม่ได้หรอกตาภัทร” ภูริทัตพูดพร้อมกับทำหน้าดุๆใส่จารุวีย์ “ได้สิคะ พอดีว่าจาร์ก็หิวอยู่เหมือนกันคุณภัทรนี่เลือกร้านมานี่มีแต่ดีๆทั้งนั้น จาร์ตกลงไปค่ะเดี๋ยวจาร์จะนั่งรอคุณอยู่ห้องทำงานคุณภูนะคะ” ยิ่งทำให้ภูริทัตโมโหมากขึ้นแล้วดึงมือของจารุวีย์ไปที่ห้องทำงานของเขา ทำให้วีรภัทรถึงกับงงว่าทำไมภูริทัตทำเหมือนหึงจารุวีย์ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแถมภูริทัตยังมีข้าวฟ่างอยู่แล้ว ทำไมต้องรีบดึงคุณจาร์ไปแบบนั้นนะ พี่ภูทำเหมือนกับว่าหึงคุณจาร์แต่จะเป็นไปได้ไงในเมื่อพี่ภูมีข้าวฟ่างอยู่แล้ว..วีรภัทรพูดกับตัวเองแล้วเดินเข้าไปรอที่ห้องประชุม “นี่!!..เธอจะไปทานอาหารกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไง เธอต้องกลับบ้านไปกับฉันจะไปกับเขารู้จักเขาดีแล้วเหรอ?" ภูริทัตพูดด้วยอาการไม่เป็นตัวเองเหมือนคนที่กำลังหึงคนรัก “ฉันรู้จักเขาดีกว่ารู้จักคุณอีก..แล้วมันจะทำไมเขาก็เป็นน้องชายคุณไม่ใช่เหรอจะมีอะไรน่าเป็นห่วงในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” จารุวีย์พูดทำหน้าตาเฉยมันให้ภูริทัตเริ่มโกรธมากขึ้น “แต่เธอท้องลูกของฉันอยู่นะ และกำลังจะแต่งงานกับฉันไปกับคนอื่นแบบนี้มันดูไม่ดี” “แล้วทีคุณไปกับคุณข้าวฟ่างละ ฉันไม่เห็นว่าอะไรคุณเลย” จารุวีย์พูดขึ้นและทำหน้าตาเคืองๆ “นี่เธออย่ามายอกย้อนฉันนะ” “ฉันพูดความจริงในเมื่อฉันไม่เคยไปยุ่งเรื่องของคุณ..คุณก็อย่ามายุ่งเรื่องของฉันฉันจะคุยจะไปไหนกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ” จารุวีย์พูดจบก็กำลังจะเดินไปนั่งที่โซฟา คำพูดของเธอยิ่งทำให้ภูริทัตโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เขาดึงแขนของจารุวีย์มาและจับหน้าของจารุวีย์ดึงมาจูบที่ปาก..ทำให้จารุวีย์ถึงกับสะดุ้งและรีบผลักเขาออกไป “นี่คุณทำบ้าอะไร!!…,คุณมาทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไงคุณบ้าไปแล้วเหรอ?” จารุวีย์ด่าภูริทัตออกไปด้วยความโมโห “ก็ถ้าเธอยังคิดจะยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอีกฉันจะทำมากกว่านี้อีก เพราะยังไงเราก็จะแต่งงานกันแล้วยังไงฉันจะทำอะไรเธอก็ได้” ภูริทัตพูดขู่จารุวีย์เพราะเขาหึงหวงไม่อยากให้จารุวีย์ไปยุ่งกับใคร แต่เขาก็ยังปากแข็งว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับจารุวีย์ซ้ำยังเกลียดขี้หน้าแต่การกระทำของเขามันสวนทางกัน เขายังเข้าใจว่าเขารักข้าวฟ่าวคนเดียวไม่คิดสนใจใครแต่จริงๆแล้วเขาก็มีความรู้สึกกับจารุวีย์แต่แค่ไม่รู้้ตัวเพราะเขาอยู่บ้านหลังเดียวกันมาเป็นเดือนแถมยังเคยมีอะไรกันและเขายังเป็นผู้ชายคนแรกของจารุวีย์มันทำให้เขาไม่อยากให้จารุวีย์ไปมีใคร “คุณเป็นบ้าอะไรของคุณในเมื่อเราไม่ได้รักกันแล้วคุณจะมาหวงฉันทำไม?” “ใช่เราไม่ได้รักกันแต่เราจะแต่งงานกันแล้ว ถ้าเธอยังไปยุ่งกับคนอื่นคนเขาก็จะมาเยาะเย้ยฉันได้ว่าเมียของฉันไปมีคนอื่น” “แล้วทีคุณยังไปยุ่งกับคุณข้าวฟ่างเลยจะมาห้ามฉันทำไม คุณคิดว่าฉันไม่รู้สึกรึยังไง?” จารุวีย์น้ำตาคลอ..นี่เห็นฉันเป็นตัวอะไรที่จะมาบังคับให้ทำอย่างงั้นอย่างงี้แล้วทีตัวเองทำละคิดว่าฉันไม่มีความรู้สึกหรือยังไง “รู้สึก..?..รู้สึกอะไร” ภูริทัตอมยิ้มเมื่อได้ยินคำนี้ “ป่าวหรอก …” “เธอรู้สึกอะไร..?” ภูริทัตจี้ถามจารุวีย์ “ก็รู้สึกว่าคุณมันเห็นแก่ตัวไง ฉันไม่เคยเจอใครที่เป็นแบบคุณมาก่อน” จารุวีย์พูดแล้วเดินหนีไป ___ก็อกๆๆๆ!!เสียงประตูห้องทำงานของภูริทัตดังขึ้น “เข้ามา” “คุณภูริทัตคะถึงเวลาเข้าประชุมแล้วนะคะ” เลขาของภูริทัตเข้ามาตามไปประชุม “โอเคเดี๋ยวผมออกไปครับ” พูดจบเขาก็เดินไปหาจารุวีย์และพูดกับเธอฉันไปประชุมก่อนเดี๋ยวออกมาฉันจะพากลับบ้านอยากกินอะไรบอกเลขาฉันได้เลย และห้ามเธอไปทานอาหารกับวีรภัทรเธอต้องกลับบ้านกับฉันเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปทานเอง จารุวีย์ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่มองหน้าและภูริทัตก็เดินออกไป เขาเป็นบ้าอะไรของเขาอีกนี่ฉันตามอารมณ์ของเขาไม่ทันแล้ว อิตาภูเป็นไบโพล่าหรือยังไงแล้วฉันควรจะทำไงดีจะเชื่อเขาหรือจะไปกับคุณภัทรดี จารุวีย์คิดด้วยความสับสนเพราะวีรภัทรก็ดีกับเธอแถมยังเอาใจใส่ แต่เธอก็รู้สึกกับภูริทัตเพราะเขาเป็นพ่อของลูกเธอถึงแม้เขาจะทำลายความรู้สึกของเธอมาหลายครั้งแล้วก็ตาม >>>>ติดตามตอนต่อไปหลังจากนั้นวุฒิชัยก็เดินเข้าไปในครัว เขากะจะโชว์ฝีมือการทำอาหารให้เมียเขาดูแต่เมื่อหันกลับไปเมียของเขากับนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาไม่เดินตามเขามาเขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขกไปยืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นเมีย“ทำไมคุณไม่ตามผมมา” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ข้าวฟ่างถึงกับสะดุ้งและเงยหน้ามอง“ไปไหน” เธอถามเพียงสั้นๆ พร้อมหน้าตาที่งงงวย“ไปครัวไงผมจะโชว์ฝีมือ” เธอได้แต่ถอนหายใจแค่ทำอาหารทำไมต้องให้เธอไปดูด้วย“ทำไมฉันต้องไปด้วยคุณทำมาให้กินเฉยๆ ไม่ได้เหรอ”“ก็ได้นั่งรออยู่นี่แหละ” สิ้นสุดเสียงนั้นหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีก็เข้าครัวไปทำอาหารและสักพักก็ถือออกมาให้เมียของเขาทาน ข้าวฟ่างที่นั่งเล่นมือถืออยู่เมื่อได้ยินเสียงวางอาหารเธอก็รีบวางมือถือเพื่อจะชิม“ฉันรอชิมก่อนนะ” สิ้นสุดเสียงเธอก็ใช้ซ้อมตักโดยไม่รอคำตอบจากสามี เมื่ออาหารเข้าปากคำแรกเธอก็ได้รับรสชาติที่แสนอร่อยและไม่คิดว่าเขาจะทำอาหารได้อร่อยขนาดนี้“เป็นไงบ้าง อร่อยมั้ยครับคุณหนูข้าวฟ่าง” ใบหน้าแห่งความคาดหวังให้เมียชมก็จ้องมองไปที่หน้าของเธอ“ก็ไม่เท่าไหร่นะ ก็พอทานได้ให้สอนคุณทำอาหาร” ต่อให้อาหารจะอร่อยแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียฟอร์ม“งั้นเห
“คุณไปเอารูปผมมาจากไหน” ใบหน้าที่แทบจะเก็บรอยยิ้มของเขาไว้ไม่อยู่ทั้งพูดทั้งมองหน้าเธอ“ในเฟชบุ๊คและไลนฺ์คุณไง เอามาไม่ได้เหรอ”“ก็ได้แต่แค่แปลกใจเฉยๆ ไหนคุณบอกไม่อยากลบรูปเขาไงกลัวไม่มีโอกาสได้ถ่ายอีก” คำพูดของเขาดูนอยๆ แต่ความจริงก็หายโกรธตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วแหละแค่แกล้งถามไป“พอมาคิดดูๆ แล้วเขาก็แค่อดีตไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับฉันแล้ว ปัจจุบันนี้ต่างหากที่สำคัญ” เธอพูดและส่งรอยยิ้มหวานให้สามีเธอทำให้หัวใจของเขาพองโตยิ้มออกมาด้วยความเขิน“จริงเหรอผมสำคัญกับคุณขนาดนั้นเลยเหรอ”“เปล่าค่ะ ฉันหมายถึงฉันเองต่างหากที่ยืนอยู่ในปัจจุบันควรที่จะเห็นความสำคัญของตัวเองไม่ควรไปยึดติด” คำพูดของเธอกับทำให้เขาโกรธอีกครั้ง เขาเดินหนีไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของเขาทำให้ข้าวฟ่างเข้าใจในทันทีว่าเขาน้อยใจอีกแล้ว เธอรีบเดินตามเขาไป“คุณเป็นอะไรคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างๆ สามีและยื่นหน้าไปถามเขาทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังน้อยใจเธอ“เปล่าครับ”“ฉันล้อเล่น คุณก็สำคัญเหมือนกันนะไม่งั้นฉันไม่มาง้อถึงที่นี่หรอก” ได้ยินแบบนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็กอดไปที่เอวเธออัตโนมัติ และโน้มตัวไปหอมแก้มเธอ“จริงเหรอ”“คุณ
ข้าวฟ่างเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขานั่งนิ่งเงียบและมองหน้าเธอแปลกๆ เธอจึงเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย“คุณเป็นอะไรรึเปล่าทำไมมองหน้าฉันแปลกๆ”“เปล่า” สายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของเขาก็แสดงออกมาทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าคำปฏิเสธของเขานั้นต้องมีอะไรแน่ๆ“แน่ใจเหรอคะ” เธอถามทวนเขาอีกรอบเพราะรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บความอึดอัดไว้คนเดียวได้เดี๋ยวก็ต้องบอกความต้องการของเขามา ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานแต่เธอมั่นใจว่าเธอรู้จักเขาดีพอ“ผมถามจริงๆ เถอะคุณยังรักคุณภูริทัตอยู่รึป่าว”“คุณถามทำไม”“ผมแค่อยากรู้” บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลกลัวว่าเมียจะยังรักแฟนเก่าอยู่สายตาที่ต้องการคำตอบมองเธอไม่กระพริบสายตา“ฉันไม่รู้แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรแล้ว ไม่แน่ใจว่าไม่รักแล้วรึเปล่า” เธอยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอาจจะไม่รักแล้วแต่แค่ยังเสียดายเวลาที่ผ่านมาเพราะคบกันมาตั้งหลายปีจะให้ลืมสนิทมันคงเป็นไปได้ยากอาจจะแค่นึกถึงแค่นั้น“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รักเขาแล้ว ผมยังเห็นรูปเขาอยู่เต็มโทรศัพท์ของคุณอยู่เลย" เขาแสดงอาการของคนที่ขี้น้อยใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้าวฟ่างเธอไม่คิิดว่าผู้ช
“สวัสดีน้ำหวาน” เธอทักทายกลับโดยไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เธอเหล่ตาไปมองที่ข้างๆ ที่ข้าวฟ่างนั่งเห็นวุฒิชัยก็สะดุดตาในความหล่อเหลาของเขา“ภูไปไหนแล้วละทำไมได้มากับผู้ชายอื่น”“เลิกกันแล้ว”“อุ้ย!ทำไมได้เลิกเหรอเห็นรักกันดีอยู่นะรักกันมาตั้งหลายปีเธอปล่อยภูหลุดมือไปได้ยังไงกันอุส่าแย่งไปจากฉัน”“พูดให้มันดีๆ นะฉันไม่เคยแย่งภูมาจากเธอแต่ภูไม่เคยเป็นของเธอเลยต่างหาก” เธอเงยหน้าขึ้นขิงใส่น้ำหวานอย่างเบื่อหน่ายเพราะน้ำหวานตามราวีเธอไม่เลิกจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีนึกว่าเธอจะเลิกแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม“อย่าทำมาพูดหน่อยเลย ตอนนี้เป็นไงได้ข่าวว่าภูเขามีลูกมีเมียใหม่แล้วหนิ” เธอพูดเยาะเย้ยใส่ทำให้ข้าวฟ่างโกรธเพราะเหมือนมากรีดแผลใจเธอแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนอาจเป็นเพราะเธอได้อยู่ใช้ชีวิตกับวุฒิชัยผู้ชายไม่เอาไหนที่เจ้าชู้ไปวันๆ แต่วันนี้เหมือนราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“มีใหม่แล้วยังไง ฉันก็มีใหม่แล้วเหมือนกันทั้งหล่อรวยเธอละมีปัญญาหาได้สักคนรึยังมาเที่ยวยุ่งเรื่องคนอื่นนี่ ออกไปจากโต๊ะนี่ได้แล้วไปเกะกะลูกตา” เธอเอนหัวไปที่ไหล่ของวุฒิชัยและกอดแขนเขาเพื่อทำใส่น้ำหวานเธอโกรธและ
ข้าวฟ่างยังคงยืนนิ่งกับคำถามของวุฒิชัยอยู่“ขึ้นรถเถอะ”“ตอบผมมาก่อนสิ” สายตาแห่งความคาดหวังมองไปที่หน้าของเธออย่างจริงจังแต่เธอกลับหลบสายตาเขา“ขึ้นรถไปก่อนแล้วฉันจะตอบ” พูดจบขาทั้งสองข้างของเธอก็ก้าวขึ้นรถและยังคงนั่งนิ่งเงียบคิดเรื่องที่เขาถามเธอความสับสนมากมายอยู่ในใจของเธอ“ว่าไงครับ” เขายังคงต้องการคำตอบจากเธออยู่จี้ถามให้เธอตอบ“ฉันไม่รู้เหมือนกัน คุณมันเจ้าชู้ฉันไม่รู้จะเอาคุณอยู่รึเปล่าฉันไม่กล้าเปิดใจเพราะกลัวจะเป็นแบบภูอีก” เธอพูดพร้อมก้มหน้าลง“แต่ผมไม่ใช่เขา ถึงเวลาที่ผมหยุดผมก็หยุดได้ที่ผมทำตัวเจ้าชู้เพราะผมยังไม่เจอคนที่ใช่ แต่ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตครอบครัวที่มีความสุขกับคุณ” เขาพูดด้วยหน้าตาที่จริงจัง“ฉันยังไม่กล้าเปิดใจกับคุณหรอกพูดจริงๆ นะฉันเข็ดกับความรักจริงๆ” สองสายตาของเธอมองไปที่เขาด้วยความรู้สึกที่ดีแต่เธอกลัวจริงๆ เพราะเขาเจ้าชู้จริงๆ ในขณะที่เธอท้องไปหาเขายังนัวเนียกับผู้หญิงอื่นไปทั่วเลย“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่ไอ้หมอนั้น!” เขาพูดเสียงดังด้วยความเคืองที่เธอเอาแต่นึกถึงภูริทัต“ก็คุณเจ้าชู้ไง ผู้หญิงมาหาคุณไม่ซ้ำหน้าจะให้ฉันเชื่อใจคุณได้ยังไง” เธอพูดออกไปแบบนั้
05 : 20 น.เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายเธอเหมือนมีอะไรมากอดอยู่เมื่อก้มลงมามองดูก็เห็นเป็นแขนของวุฒิชัยที่กำลังกอดเธออยู่เธอรีบลุงขึ้นและแขนของเขากับกอดเธอลงไปนอนอีก“นี่คุณมานอนกอดฉันได้ยังไงกันใครอนุญาตให้กอดไม่ทราบ” เธอหันหน้าไปถามเขาด้วยเสียงดุใส่“ไม่มีอะ ผมอยากกอดก็กอดเลยคุณมีปัญหาเหรอนี่เมียผม” เขาพูดหน้าตาเฉยใส่เธอ“แค่เมียในนามเท่านั้นแหละ ฉันเป็นแค่แม่ของลูกคุณเท่านั้น”“ไม่อ่ะ คุณเป็นเมียผมคืนนั้นยังร่วมรักกันอยู่เลย” สิ้นสุดเสียงนั้นก็มีฝามือเล็กๆ ตีลงที่หน้าอกของเขาโอ้ยยยย!! เสียงที่ทำเขาสะดุ้งอาจไม่เจ็บสักเท่าไหร่แต่ก็แสบไม่น้อย“นี่คุณอย่ามาพูดทะลึงนะ คุณมันชอบฉวยโอกาส” เธอโกรธที่เขาพูดเรื่องนี่หรือเขินก็ไม่แน่ใจ“ใจร้ายจังแค่พูดความจริงก็รับไม่ได้” เขากอดเธอให้แน่นกว่าเดิม ยิ่งเธอทำเหมือนหวงตัวแบบนี้ยิ่งชอบเขาไม่ชอบผู้หญิงง่ายๆ แต่เขาก็เอาเหมือนเดิมแต่กับข้าวฟ่างเขารู้สึกว่ามันน่าค้นหาดีเล่นตัวแบบนี้“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” เธอพูดเสียงแข็งให้เขาเลิกกอดเธอ“ไม่นะ ขอนอนกอดก่อน”เปี๊ยะ!! เสียงตีไปที่หน้าอกเขาอีกรอบ ทำให้เขาคายกอดออกอย่างรวดเร็ว“เอะอะก็ตีเป็นลูกเลี้ยงเ







