เช้าวันใหม่ปราภัทรสรรีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกไปจากห้อง เพื่อขึ้นรถไปยังสนามบิน ตั้งแต่เมื่อคืนที่เกิดเรื่องมีนาไม่กลับมานอนที่ห้องเลยไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามีนาอยู่ที่ไหนทั้งคืน ระหว่างที่ร่างบางกำลังลากกระเป๋าไปตามทางเดิน ก็ได้ยินเสียงคมกฤษตะโกนเรียกเธอจากทางด้านหลังตามมาติดๆ
"แก้ม! รอโอมด้วย" ร่างหนากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังร่างบาง
"คุยกับโอมหน่อยนะ"
"______" ปราภัทรสรเดินไปข้างหน้าไม่สนใจชายหนุ่มให้เสียเวลา
"โอมขอร้อง คุยกับโอมหน่อยนะ" คว้าแขนเรียวเอาไว้
"เสียเวลาเปล่า ปล่อย!" มือบางกระชากกลับทันที
"โอมรู้ว่าตัวเองผิด ให้โอกาสโอมอีกสักครั้งนะ โอมสัญญาว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้ว โอมจะปรับปรุงตัวเองใหม่"
"โอมจะมาเสียเวลากับแก้มอีกทำไม โอมอยู่กับใครแล้วมีความสุข โอมก็ควรจะอยู่กับคนนั้น มันก็ถูกแล้ว เราก็แค่ต่างคนต่างไปแค่นั้น"
"ใช่ แก้มพูดถูก โอมควรจะรู้ใจตัวเองได้แล้วว่าขาดนาไม่ได้" มีนาเอ่ยเสริมขึ้น
"หุบปากของเธอไปเลย!" คมกฤษตะคอกใส่มีนา
"ถ้าโอมรักแก้มจริงๆ ก็ปล่อยแก้มไปเถอะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนอยู่กับผู้ชายที่โกหกทำร้ายกันลับหลังอยู่ตลอดเวลาได้หรอก แถมคนที่ร่วมมือด้วยเป็นเพื่อนที่ไว้ใจเชื่อใจอีก ถ้าโอมเป็นแก้มจะรู้สึกยังไง" ปราภัทรสรเอ่ยเสียงสั่นเครือ
"โอมเสียใจ"
"เสียใจเหรอ แต่มันคงไม่เท่าแก้มหรอก ให้มันจบแค่นี้เถอะ ถ้าไม่อยากให้แก้มเกลียดโอมไปมากกว่านี้" พูดจบปราภัทรสรก็เดินไปออกไปทันที
ปราภัทรสรเดินตามหลังพนักงานขับรถของรีสอร์ทไปจนถึงที่รถ จังหวะที่กำลังจะก้าวขาขึ้นรถคณากรก็เอ่ยเรียกเธอขึ้น
"คุณจะกลับแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
"ค่ะ พอดีมีธุระด่วน" ร่างบางหันไปมองหน้าชายหนุ่ม
"เดินทางปลอดภัยนะครับ" คณากรส่งยิ้มให้เธอ
"ขอบคุณค่ะ" ยิ้มรับตามมารยาทแล้วเดินขึ้นรถไปทันที
ทางด้านคมกฤษกำลังรีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเพื่อกลับไปคุยกับปราภัทรสรอีกครั้ง ทั้งที่มีเสียงของมีนาเอ่ยโน้มน้าวไม่ให้ชายหนุ่มตามไปอยู่ตลอดเวลา
"โอมอย่าไปเลยนะ มันไม่มีประโยชน์หรอก เชื่อนานะ"
"ถ้าไม่ช่วยก็หุบปากไป" เอ่ยเสียงดุดัน
"หยุดเถอะ ทุกอย่างมันจบแล้ว มาเริ่มใหม่กับนาเถอะ" มือบางจับกุมมือหนาเอาไว้
"หึ ฝันไปเถอะ ฉันไม่ได้รักเธอ" คมกฤษชักมือออกจากมือบาง
"แต่นารักโอมมากนะ" สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น
"รักงั้นเหรอ รักหรืออยากจะเอาชนะแก้มกันแน่"
"ใช่ และโอมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วย จริงไหม"
"หึ เธอมันก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่เท่านั้นแหละ"
"โอมก็รู้ว่านาเต็มใจ ให้นาเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ แต่สำหรับแก้มต่อให้โอมไปตามง้อขอคืนดีทุกวัน เอาใส่ใจทุกอย่าง แก้มก็ไม่มีวันกลับมารักโอมได้อีก เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนทนใช้แฟนร่วมกับเพื่อนได้หรอก"
"______" คมกฤษชะงักนิ่งไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น
"เปลี่ยนใจเถอะ อยู่เที่ยวกันต่อนะ"
"ไม่! ยังไง ฉันก็จะกลับ เธอจะอยู่ก็อยู่ไป"
"ได้ถ้าโอมกลับ นาก็จะกลับเหมือนกัน" มีนารีบวิ่งออกไปเก็บเสื้อผ้าของตนเองอีกห้องด้วยความรวดเร็ว
ทางด้านปราภัทรสรเมื่อไปถึงสนามบิน เธอก็รีบขึ้นเครื่องทันทีร่างบางทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทั้งน้ำตาไหลเอ่ออาบแก้มทั้งสองข้างด้วยความเจ็บปวดใจ คำพูดของมีนายังคงก้องอยู่ในหัว เธอไม่คิดเลยว่าเพื่อนที่คบกันมานานจะทำร้ายหักหลังเธอได้ลงคอ เห็นเธอเป็นเพียงคู่แข่งหัวใจมาโดยตลอดเพราะแค่ผู้ชายคนเดียว
ปราภัทรสรยอมรับว่าตนเองเสียใจที่ถูกคนรักและไว้ใจทั้งสองคนแทงข้างหลังเธออย่างเลือดเย็น ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเธอได้นอนคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่างว่าความผิดส่วนหนึ่งมันก็เป็นเพราะเธอด้วยที่ใส่ใจชายหนุ่มน้อยไป แต่ในเมื่อชายหนุ่มรักกันก็ควรจะมั่นคงให้มากกว่านี้ มือบางปาดน้ำตาทิ้งพยายามทำใจให้เข้มแข็งให้มากที่สุด
เวลาล่วงเลยไปกว่าครึ่งชั่วโมงปราภัทรสรก็ลงจากเครื่องต่อแท็กซี่ไปยังบ้านมาลา เพื่อจะพูดคุยเรื่องงานหมั้นที่กำลังจะจัดขึ้นประมาณอีกสองเดือนเศษๆ ร่างบางนั่งลงบนโซฟาภายในห้องรับแขกด้วยใบหน้าเศร้าซึม จนมาลาเดินเข้ามาข้างในห้องนั่งลงตรงข้ามเธอ
"ไหนว่าไปเที่ยวทะเลกันไม่ใช่เหรอลูก ทำไมกลับมาเร็วจังเพิ่งไปกันแค่วันเดียวเอง แล้วโอมล่ะลูก" มาลาเอ่ยถามเสียยืดยาว
"แก้มกลับมาคนเดียวค่ะ ที่มาเพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณแม่ค่ะ"
"เรื่องอะไรเหรอ ลูก"
"เรื่องงานหมั้นค่ะ"
"งานหมั้น มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ"
"แก้มอยากให้คุณแม่ยกเลิกงานหมั้นทั้งหมดค่ะ" เอ่ยเสียงสั่นเครือ
"อะไรนะ! แม่ฟังผิดไปหรือเปล่าลูก" มาลาตกใจ
"ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ตอนนี้แก้มกับโอมเลิกกันแล้ว"
"อะไรกัน มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ก่อนหน้านี้ยังรักกันดีๆ อยู่เลย ไม่ใช่เหรอ" มาลายกมือขึ้นทาบอก
"ค่ะ แต่ตอนนี้เรื่องที่เคยค้างคาใจทุกอย่างมันกระจ่างขึ้นแล้ว โอมเขา..." ปราภัทรสรหยุดคำพูดไว้แค่นั้น
"โอมเขาทำไมลูก"
"คุณแม่รอฟังจากปากเขาเองเถอะนะคะ"พูดพลางน้ำตาไหลอาบแก้ม
"แสดงว่ามันต้องร้ายแรงมากเลยสินะ หนูถึงเสียใจมากถึงขนาดนี้" มาลารีบลุกเข้าไปกอดปลอบปราภัทรสรด้วยความสงสาร
"ค่ะ แก้มไม่สามารถรักโอมเหมือนเดิมได้อีกแล้ว แก้มเสียใจค่ะ แก้มทำไม่ได้จริงๆ " ร่างบางรัองไห้สะอึกสะอื้นในอ้อมแขนมาลา
"ถึงแม่จะไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะเรื่องอะไร ในเมื่อหนูไม่ยอมบอกก็ไม่เป็นไร แม่จะถามจากเจ้าตัวเขาเอง" ลูบหลังปราภัทรสรปลอบโยนไปมา
หลังจากที่ปราภัทรสรพูดคุยกับมาลาจบ เธอก็รีบตรงกลับบ้านเช่า พอเห็นหน้ายายบัวที่กำลังยืนขายข้าวแกงอยู่ตรงหน้าบ้านน้ำตาที่เหือดแห้งไปก็ไหลพรั่งพรูออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
"ยายจ๋า" ร่างบางเดินเข้าไปสวมกอดยายบัวร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวสั่นเทา
"แก้มเป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรหนู" ยายบัวตกใจยกมือขึ้นลูบปลอบร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้
"ฮือๆ แก้มขอกอดยายสักพักนะจ๊ะ" เอ่ยเสียงปนสะอื้น
"จ้ะ" ยายบัวลูบศีรษะหลานสาวด้วยความสงสารจับหัวใจ
ใช้เวลาไม่นานปราภัทรสรก็สงบสติอารมณ์ของตนเองกลับมาเป็นปกติ สองยายหลานจึงพากันเข้าไปพูดคุยภายในบ้าน
"มันเกิดอะไรขึ้นลูก หนูถึงได้ร้องห่มร้องไห้ถึงขนาดนี้"
"โอมเขามีคนอื่นค่ะ" เอ่ยออกตามตรง
"ตายจริง! "ยายบัวยกมือทาบอกด้วยความตกใจ
"เขาแอบมีอะไรกันมานานกว่าครึ่งปีแล้วจ้ะยาย" เอ่ยเสียงสั่นเครือ
"ยายไม่คิดเลย ว่าโอมเขาจะเป็นคนแบบนี้ ยายมองคนผิดไปจริงๆ " ยายบัวส่ายหน้า
"แก้มแวะบอกคุณมาลาให้ยกเลิกงานหมั้นทั้งหมดแล้วจ้ะ แต่ยังไม่ได้บอกเหตุผลให้เขาคุยกันเองดีกว่า"
"ดีแล้วล่ะลูก ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ"
"นาจ้ะ ผู้หญิงคนนั้นคือนา แก้มเจ็บเหลือเกิน จ้ะยาย" ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
"โธ่! ลูก หนูต้องเข้มแข็งนะลูก ชีวิตเราไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียว อันไหนที่ทำให้เราเจ็บปวดก็ทิ้งมันไปให้หมดนะลูกนะ" ยายบัวกอดปลอบหลานสาวเอาไว้แน่น
"แก้มจะพยายามจ้ะ ยาย" ซบหน้าลงแนบอกยายบัว
คล้อยหลังปราภัทสรกลับไปคมกฤษก็กลับมาถึงบ้านส่วนมีนาชายหนุ่มไล่ให้เธอกลับบ้านตนเองไป ชายหนุ่มรีบตรงเข้าในบ้านเดินตามหามารดาตนเองไปทั่วบ้านจนไปหยุดในห้องรับแขก
"มาแล้วเหรอ พ่อตัวดี" มาลาเอ่ยขึ้น
"แก้มเขามาหาคุณแม่ กลับไปแล้วใช่ไหมครับ"
"อืม เราไปทำอะไรหนูแก้มเขาล่ะ ถึงได้มาบอกยกเลิกงานหมั้นกับแม่ บอกแม่มาตามตรงเลยนะ "
"แสดงว่าแก้มยังไม่ได้บอกคุณแม่เหรอครับ"
"ใช่ เขาอยากให้แม่ฟังจากปากของโอมเอง บอกมา" มาลาเอ่ยเสียงจริงจัง
"คือ..." คมกฤษพูดอะไรไม่ออก
"บอกแม่มา เรื่องผู้หญิงใช่ไหม" มาลาจ้องหน้าลูกชาย
"ครับ"
"ถ้าจะให้แม่เดาความสัมพันธ์คงจะไปไกลแล้วสินะ"
"ครับ"
"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร"
"นาเพื่อนสนิทของแก้มครับ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ" คมกฤษยอมจำนนทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟานุ่ม
"อืม มันก็สมควรแล้วล่ะ เจ็บที่สุดก็คือเพื่อนนี่แหละ"
"คุณแม่อย่าเพิ่งยกเลิกงานได้ไหมครับ ผมรักแก้มผมเสียแก้มไปไม่ได้จริงๆ "
"แล้วลูกจะทำยังไง ตามง้อหนูแก้มให้คืนดีอย่างนั้นเหรอ ทำกับเขาไว้เจ็บแสบขนาดนี้เขาคงจะดีด้วยหรอก ให้หนูแก้มเขาไปเจอคนดีๆ เถอะ ไม่ใช่ผู้ชายเหลวไหลใจโลเลแบบนี้" พูดจบมาลาก็เดินออกไป
ตกเย็นคมกฤษรีบแล่นรถคันหรูไปยังบ้านเช่า ทันทีที่ก้าวขาลงจากรถชายหนุ่มก็รีบเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านพร้อมกับตะโกนเรียกให้ปราภัทรสรออกมาคุยด้วยอยู่ตรงหน้าประตู คราแรกปราภัทรสรตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่ออกไปพบชายหนุ่มแต่เพื่อตัดสัมพันธ์ให้ขาดเธอจึงจำใจเปิดประตูออกไปเผชิญหน้าคมกฤษอีกครั้ง
"มีอะไรก็ว่ามา" ร่างบางเอ่ยเสียงราบเรียบเฉยชา
"ให้โอกาสโอมอีกครั้งนะ เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ" มองใบหน้าเนียนด้วยความเสียใจ
"ไม่! "
"โอมทำใจไม่ได้จริงๆ ที่ต้องเสียแก้มไป"
"โอมเป็นคนทำมันพังเอง ก็ต้องรับผลของมัน ขอตัว" หมุนตัวจะเดินกลับเข้าบ้าน
"ไม่นะ เห็นใจโอมเถอะนะ" คว้าร่างบางเข้ามาสวมกอดเอาไว้แน่นน้ำตาคลอเบ้า
"เห็นใจงั้นเหรอ แล้วตอนที่โอมกับนามีความสุขด้วยกันบนเตียง มีใครคิดเห็นใจแก้มบ้าง หรือคิดว่าแก้มเป็นแค่ผู้หญิงหน้าโง่คนหนึ่ง ที่จะทำอะไรลับหลังก็ได้ ในเมื่อความชื่อสัตย์ไว้ใจที่แก้มมอบให้โอมมันไม่เคยมีหมายอะไรก็โยนมันทิ้งไปซะ! ปล่อย!" ร่างบางดิ้นขัดขืน
"ไม่! โอมไม่ยอม"
"มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้วโอม ทุกอย่างมันพังทลายไปหมดแล้ว หัวใจแก้มก็เหมือนกัน มันแหลกสลายไปหมดแล้ว อย่าทำให้แก้มเจ็บไปมากกว่านี้เลย ปล่อยแก้มไปเถอะนะ แก้มขอร้อง" เอ่ยพลางน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
คมกฤษได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยๆ ปล่อยร่างบางในอ้อมแขนให้เป็นอิสระช้าๆ ด้วยความเจ็บจุกในหัวใจน้ำตาค่อยๆ ไหลเอ่อออกมาอย่างห้ามความรู้สึกสูญเสียเอาไว้ไม่อยู่ เพราะความเห็นแก่ตัวโลเลไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจของเขาเองถึงได้พาเขามาถึงจุดนี้ มันเป็นเพราะเขาคนเดียว คมกฤษได้แต่โทษตัวเอง ได้แต่มองร่างบางหายลับสายตาไปหลังประตูเท่านั้น