เชอรี่เอ่ยปากชวนหลังจากที่เธอคลอเคลียกับมาคัสหนุ่มรูปหล่อและรวยมาก จนเธออดไม่ไหวแล้วอยากจะขึ้นเตียงกับเขาเต็มที แต่ติดอยู่ที่ร่างสูงไม่ยอมเอ่ยชวนสักที " อยากแล้วหรอ ได้สิ ไปกันเลย "ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับจับมือของเชอรี่เอาไว้แน่นพร้อมกับมือหนาอีกข้างหนึ่งก็จับมือวิไลไว้เช่นกัน เสี้ยววินาทีหนึ่งก็หันมามองร่างบอบบางแล้วก็เบือนหน้านี้ไปพูดกับมาร์ตินแทน " เดี๋ยวกูขึ้นห้องสักพักนะเว้ย แล้วเดี๋ยวกูลงมาดื่มต่อ " " แล้ว?....เออ ให้มันเร็วๆด้วยล่ะไม่งั้นพวกกูกลับก่อนนะเว้ย " คราวนี้ไม่ใช่มาร์ตินที่พูดแต่เป็นอเล็กซ์พูดขึ้นมาแทน เพราะเขาเห็นว่ามาคัสมากับปลายฝันแต่ทำไมถึงปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียว แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามต่อเลยตัดบทไปแบบนั้น ส่วนมาร์ตินเขาลอบมองชายหญิงสลับกันระหว่างมาคัสและปลายฝัน เขารู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลแฝดผู้พี่ของเขาตอนนี้เดินไปกับผู้หญิงสองคนนี้อย่างง่ายดายนักจนผิดปกติ " เออไม่นานหรอก " หลังจากพูดตอบก็จูงมือทั้งสองสาวผ่านหน้าของปลายฝันไปอย่างไม่สนใจ แล้วเดินขึ้นไปอีกชั้น ซึ่งเป็นชั้นสำหรับนักท่องราตรีที่กลับบ้านไม่ไหวสามารถเช่าที่พักที่นี่ได้เลย ปลายฝัน ร
จากคำพูดของเขาแสดงว่าในอีกไม่นานนี้ เขาก็กำลังจะหมั้นแล้วอย่างนั้นหรือ แล้วเธอล่ะเขาจะเก็บเธอไว้เป็นคนในความลับแบบนี้ได้ไปถึงเมื่อไหร่กัน หากเขามีคู่หมั้นสักวันคู่หมั้นของเขาก็ต้องรู้เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะพยายามปิดมันมากแค่ไหนก็ตามเรื่องอื้อฉาวแบบนี้มันแดงเร็วนักล่ะ " งั้นมึงก็พาคุณปลายฝันกลับไปเถอะ แล้วคราวหน้าถ้าจะพาเธอมาแล้วปล่อยเธอไว้แบบนี้ กูว่าให้เธอรอมึงอยู่ที่คอนโดมึงจะดีกว่านะ "มาร์ตินเป็นคนบอกกับผู้เป็นพี่ชาย ไม่เข้าใจในสิ่งที่มันกำลังทำ ดูก็รู้ว่าชอบเขายังจะทำไม่ดีใส่เขาอีก " อืม กูกลับล่ะ " มาคัสอุ้มร่างบอบบางขึ้นมาไว้แนบอก โดยที่ไม่ปลุกเธอแล้วเดินออกไปยังลานจอดรถ วันนี้เขาขับรถมาเองโดยไม่มีบอดี้การ์ดสักคนทางฝั่งของมาร์ตินพร้อมกับแก๊งค์เพื่อนก็ได้พูดคุยปรึกษาหารือกันเรื่องนี้ " มึงเห็นอาการไอ้มาคัสไหมวะ " อเล็กซ์เริ่มเอ่ยขึ้น " อาการอะไรของมึง " " ก็ปกติไอ้มาคัสหิ้วผู้หญิงมาด้วยซะเมื่อไหร่แถมมาถึงมันก็ไม่เป็นตัวของตัวเองอีก ทำเหมือนพยายามประชดเจ้าหล่อนตลอดเวลาพยายามทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกเสียใจ เหมือนมันกำลังพยายามด้อยค่าเธอ " มาร์ตินเอ่ย เพราะเขาลอบสังเกตุอาการของผ
ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองเปลือยเปล่าโดยการปลดเปลื้องของมาคัส เขาไม่รอช้าขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ พร้อมกับริมฝีปากหนาประกบจูบกับริมฝีปากบางอย่างเราร้อน ไม่มีการแสดงถึงความอ่อนโยนเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างบอบบางรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกาย สัมผัสที่เขามอบให้นอกจากไม่มีความอ่อนโยนแล้วยังมีแต่ความดิบเถื่อน แต่มันแปลกตรงที่เธอกลับชอบและไม่ปฏิเสธเขาเลยสักนิด แถมยังยอมให้เขาได้ทำตามใจ " อื้มมมม....หวานจังคนสวย "เขาชมเธอหลังจากผละออกจากการบดจูบ แล้วจัดการแยกเรียวขาสวยของเธอแยกออกจากกันเป็นรูปตัวเอ็ม จากนั้นก็เลื่อนตัวมาอยู่ตรงกลางหว่างขาของเธอ ชักแก่นกายเพียงไม่กี่ทีจากนั้นก็กดมันเข้าไปในช่องทางรักของเธอทีเดียวจนมิดลำ " อ่าาสส์ เสียวหัวชิบ... "" อ๊ายยย...กรี๊ดดด!!! เจ็บฝันเจ็บ "ร่างบอบบางสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับกรีดร้องเพราะเขาโจนจ้วงเข้ามาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเธอเริ่มได้สติแล้วผลักเขาเป็นพัลวัน แม้ว่าเธอจะเคยร่วมรักกับเขามาก่อนแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ไม่กี่ครั้งถึงทำให้เธอยังปรับตัวเข้ากับเขายังไม่ได้ ขนาดของเขามันใหญ่เกินกว่าที่ร่างกายของเธอจะต้านทาน " ทนอีกหน่อยนะคนสวย อีกสักพักเธอก็จะไม่เจ็บ
ร่างสูงที่พึ่งนั่งทำงานอยู่ในคาสิโนสุดหรู เวลาผ่านไปไม่นานเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นและไม่ใช่ใครที่ไหนที่โทรมา ผู้เป็นมารดาของเขานั่นเอง " ครับแม่ " " ตามาคัส แม่นัดหนูดารินให้แล้วนะลูก วันนี้ลูกไปรับน้องที่กองถ่าย แล้วก็ออกไปกินข้าวด้วยกันจะได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ " คุณหญิงฤทัยที่จัดแจงทุกอย่างไว้ให้กับผู้เป็นลูกชายจนเสร็จสรรพ " ครับ ไว้ผมจะรีบไป " " ดูแลน้องให้ดีนะลูก น้องน่ารักอ่อนหวาน แม่มั่นใจว่าลูกจะต้องชอบเหมือนที่แม่ชอบน้องแน่นอน แล้วก็วันมะรืนนี้มีงานประมูลเครื่องเพชรชวนน้องไปด้วยกันนะลูก ถือว่าเป็นการเปิดตัวเลยก็ได้ " " ครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับแม่ " " จ่ะลูก " หลังจากที่วางสายไปจากผู้เป็นมารดามาคัสก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรง เขาไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือคิดถูกที่ตามใจผู้เป็นมารดาแบบนี้ แม่ของเขาอยากอุ้มหลาน แต่ตัวของเขาไม่ชอบให้ใครมาบังคับโดยเฉพาะการแต่งงาน เขาเงยหน้าขึ้นนั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับนึกไปถึงใบหน้าหวานๆของปลายฝัน ทำไมช่วงนี้เธอถึงเข้ามามีอิทธิพลต่อจิตใจของเขานะ ทั้งๆที่เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงขัดดอก " เฮ้อ... " ร่างสูงสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกพ
เมื่อมาถึงในร้านอาหารดารินก็จัดการสั่งทุกอย่างที่ตัวเองอยากกินจนเสร็จสรรพ โดยที่เธอถามความต้องการของมาคัสแล้ว แต่ชายหนุ่มกลับบอกว่าแล้วแต่เธอ เธอถามเขาว่าเขาชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรแต่ก็ได้คำตอบกลับมาเพียงว่าเขากินทุกอย่างตามใจเธอแบบนั้น เธอจึงไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวเขาในเชิงลึกเลย ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟเธอก็ชวนเขาคุยสารพัดอย่าง จนมาคัสเองเริ่มอึดอัดและรำคาญ " พี่มาคัสคะ พี่ทำงานอะไรอยู่หรอเห็นคุณป้าบอกว่างานที่พี่ทำค่อนข้างเสี่ยงอันตราย " ดารินเอ่ยถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาทำอาชีพอะไร " ธุรกิจคาสิโนครับ แต่ถูกกฎหมายสานต่อธุรกิจจากที่คุณพ่อของพี่ได้ทำเอาไว้แล้ว แม่ของพี่คงเล่าให้น้องดารินฟังหมดแล้ว แล้วพี่ก็ทำผับ ไม่รู้ว่าดารินจะรังเกียจธุรกิจสีเทาของพี่หรือเปล่า " เขาบอกเธอออกไปตามตรง หากเธอรับไม่ได้เขาจะได้บอกผู้เป็นแม่ให้หาคนใหม่ " ใช่ค่ะ คุณป้าเล่าให้ดารินฟังคร่าวๆแล้ว แต่ดารินไม่รังเกียจหรอกค่ะทุกอาชีพก็มีเกียรติด้วยกันทั้งนั้น แต่ดูพี่มาคัสท่าทางจะเจอกับสาวๆสวยๆมากหน้าหลายตาอยู่ไม่น้อยนะคะ " เธอที่รู้ดีเพราะคู่ขาคนเก่าของเธอก็ทำอาชีพเหมือนกับมาคัส เธอจึงรู้ว่า
แล้วก็มาถึงวันที่มาคัสจะต้องไปรับดารินไปงานประมูลเครื่องเพชรการกุศล เขาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยในชุดสูทสุดหรูพร้อมกับเดินออกมานอกห้องจนทำให้ปลายฝันที่นั่งอยู่บนโซฟาอดจะถามเขาไปไม่ได้ " พี่มาคัสจะไปไหนหรอคะ " หลังจากถามเขาเสร็จแล้วเธอก็ก้มหน้าลง สิ่งที่เธอทำไปคือสิ่งที่เขาห้ามเอาไว้ตลอด ว่าห้ามถามซักไซร้ ห้ามหึง ห้ามหวง เธอจำมันได้ขึ้นใจ ส่วนมาคัสเองที่เห็นเธอถามแบบนั้นเป็นครั้งแรกเขากลับไม่ได้รู้สึกโกรธแต่รู้สึกดีมากกว่าที่อย่างน้อยเธอก็ยังสนใจเขาบ้าง " คืนนี้พี่จะไปงานประมูลเครื่องเพชรน่ะ ไว้พี่จะรีบกลับมา อย่าไปเถลไถลที่ไหนล่ะ " เขาตอบเธอกลับไปโดยไม่ได้บอกว่าจะไปกับใคร แล้วร่างบางเองก็คิดว่าที่เขาไปคงเกี่ยวกับธุรกิจของเขานั่นแหละ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนัก" ค่ะ รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสายเอา "เธอที่เห็นเขามีธุระสำคัญก็บอกให้เขารีบไปด้วยกลัวว่าเขาจะเสียการเสียงาน มาคัสเดินตรงมาที่เธอ พร้อมกับก้มลงมาหอมที่เรือนผมสวยของเธอแล้วก็ออกไปพร้อมกับโดนัลบอดี้การ์ดมือซ้ายของเขา โดยมีซานโต้อยู่ดูแลเธออย่างเช่นทุกวัน มาคัสไปรับดารินมาจนถึงงานประมูลเครื่องเพชร พอลงมาจากรถเหล่าบรรดานักข่
หลังจากที่นักข่าวสอดส่ายสายตากันจนเห็นคนที่ประมูลเครื่องเพชรชุดนั้น ซึ่งประกอบไปด้วยสร้อยคอ กำไลและแหวน คนๆนั้นก็คือมาคัส " ห้าร้อยล้านบาทครั้งที่หนึ่ง ห้าร้อยล้านบาทครั้งที่สอง ห้ารอยล้านบาทครั้งที่สาม ปึ้ง!! " สิ้นสุดเสียงเคาะหยุด เครื่องเพชรชุดนั้นก็ตกเป็นของมาคัสทันที และทุกคนในงานก็คิดเหมือนกันว่าสาวน้อยที่มากับเขาในวันนี้ต้องเป็นคนได้เครื่องเพชรชุดนี้ไปแน่ เครื่องเพชรที่แสนล้ำค่าก็ต้องเหมาะกับบุคคลที่สำคัญที่สุดของมาคัสอย่างเช่นดาริน ซึ่งดารินเองก็ยิ้มแก้มแทบฉีก เธอดีใจที่มาคัสประมูลเครื่องเพชรที่แพงที่สุดในงานนั้น เธอมั่นใจว่าเขาต้องมอบให้เธอแน่ และที่สำคัญเมื่อเขาประมูลไปแบบนั้นมันทำให้เขาดูหล่อเท่ห์มากขึ้นไปอีกสำหรับดาริน " โดนัลจัดการเรื่องเครื่องเพชรชุดนั้นให้ฉันด้วย " มาคัสหันไปสั่งบอดี้การ์ดที่มากับเขาด้วยในวันนี้ ซึ่งโดนัลก็รับคำแต่โดยดีและเลี่ยงไปอีกทางหนึ่งเพื่อไปจัดการกับเพชรชุดนั้น " พี่มาคัสสนใจเรื่องเพชรแบบนี้ด้วยหรอคะดารินไม่ยักรู้ " เธอโยนหินถามทางและหวังลึกๆว่าเขาจะตอบว่าเครื่องเพชรชุดนั้นสำหรับเธอ " ครับ พี่เห็นว่ามันสวยดีและเป็นของหายากเลยประมูลเอามาไว
พอกลับมาถึงคอนโด มาคัสก็รีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าทั้งห้องมืดสนิท เขาจึงเปิดไฟและตรงเข้าไปยังห้องนอนก็เจอปลายฝันที่นอนหลับไปแล้ว เครื่องเพชรที่เขาถือมากะว่าจะมอบให้เธอทันทีที่มาถึง เขาจึงต้องพับเก็บมันไว้ก่อน เขาเก็บมันไว้ในลิ้นชักหัวเตียงพร้อมกับล็อคกุญแจไว้อย่างดี คิดเอาไว้ว่าพรุ่งนี้ค่อยเอาให้เธอก็ยังไม่สาย ร่างสูงหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำใช้เวลาเพียงไม่นานก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่แล้วเดินตรงเข้าไปนอนพร้อมกับรั้งร่างบอบบางของเธอเข้ามากอดไว้แนบอก ทั้งที่ตัวเขามีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่แบบนั้น ปลายฝันเองรู้สึกตัวตั้งแต่ที่เขาเข้ามาแล้วเปิดไฟเธอก็ตื่นขึ้นมา เพราะปกติเธอเป็นคนตื่นง่าย แต่เธอเลือกที่จะไม่ลืมตาขึ้นมาเพราะยังไม่อยากคุยอะไรกับเขาในตอนนี้ เขาคงไม่รู้สินะว่าที่เขาไปวันนี้มันมีถ่ายทอดสดออกทีวีด้วย เขาเลือกที่จะบอกเธอว่าไปงานประมูลเพชร ใช่เขาไม่ได้โกหกแต่เขาแค่บอกไม่หมดว่าเขาไปกับใคร เขารั้งเธอเข้าไปนอนกอดแนบอกเอาไว้ เธอก็ไม่ขัดขืนแล้วก็หลับตาลงอยู่แบบนั้นสักพักเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราจริงๆ เช้านี้ปลายฝ
มาคัสหลังจากที่ช่วยเมียสาวถอดชุดเจ้าสาวออกเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ก้มลงจูบที่แผ่นหลังบางของเธออย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา กลิ่นกายที่ไม่ว่าจะสูดดมสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ พร้อมกับเลื้อยไปเรื่อยๆมาจนถึงไหล่บอบบางและมาซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างบ้าคลั่ง กลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอที่เขาสูดดมเมื่อไหร่ก็เป็นนั้นต้องเคลิบเคลิ้ม เขาชอบสูดดมกลิ่นกายของเมียตัวน้อยแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเธอทำให้เขารู้สึกมีพลังและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ใช้น้ำหอมส่วนมากกลิ่นของเธอจะมาจากแป้งเด็กอ่อนๆเท่านั้น ทำให้มาคัสรู้สึกผ่อนคลายและอยากเข้าไกลตลอดเวลา " อื้อ...ไม่อาบน้ำก่อนหรอคะที่รัก เดินในงานทั้งวันฝันตัวเหม็นจะแย่ " เธอเอ่ยทักท้วงเขาเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน วันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งรับแขกแล้วทั้งยังรับมือกับลูกชายตัวน้อยทั้งสองคนที่วิ่งเล่นจนรอบงานอีก " ไม่ต้องอาบหรอกที่รัก คุณตัวหอมจะตาย ผมรอไม่ไหวแล้ว " เขาจับเธอให้หันหน้ามาหาเขาพร้อมกับดันตัวเธอให้ไปชิดกับผนังห้อง ซึ่งตอนนี้เธอมีร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว หลังจากที่เขาถอดชุดแต่งงานของเธอออกเมื่อสักครู่เขาไม่รอช้ารีบถอ
และแล้วก็มาถึงวันที่มาคัสและปลายฝันเข้าสู่ประตูวิวาห์ ที่ทางครอบครัวของมาคัสจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติลูกชายคนโตแห่งไมโลเวอร์ " ยัยฝัน เรายินดีด้วยนะ ในที่สุดก็เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาสักทีเรื่องจบลงแบบ Happy Ending แบบนี้ฉันก็ดีใจกับแกด้วย " มะลิและเพื่อนสาวคนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในห้องแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน " ขอบใจแกมากนะ วันนั้นถ้าไม่มีแกชีวิตฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอบคุณที่รักฉันและหลานๆนะ "" แกเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนแท้ แกสุขฉันก็สุข แกเศร้าฉันก็เศร้า " ปลายฝันลุกขึ้นกอดเพื่อนสาวด้วยความดีใจพลันน้ำตาก็กำลังจะไหลลงมา จนเป็นมะลิเองที่ต้องห้ามเอาไว้ก่อน " หยุดร้องไห้ไปเลยนะแก เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก วันนี้เป็นวันสำคัญของแก แกต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหม ห้ามร้องไห้เด็ดขาดไม่งั้นถ่ายรูปออกมาจะไม่สวยเอานะ " ปลายฝันนั่งยิ้มให้กับเพื่อนพร้อมกับปาดน้ำตาน้อยๆออก " แต่งตัวเสร็จกันหรือยังลูก ใกล้จะได้ฤกษ์แล้วนะ " รำพาที่ขึ้นมาตามลูกสาวเพราะตอนนี้ใกล้จะถึงฤกษ์ดีแล้ว " เสร็จแล้วจ่ะแม่จ๋า " ปลายฝันตอบผู้เป็นแม่ พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง จึงทำให้รำพาแทบตกตะลึง ลูกสาวของเธอสว
หลังจากที่ปลายฝันตัดสินใจยกคาเฟ่ให้กับนิดหน่อยไปแล้วเพราะเธอรักเหมือนกับครอบครัวจะริงๆ ก็ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯพร้อมกับมาคัสและลูกๆ ทีแรกนิดหน่อยไม่อยากรับเพราะเกรงใจ แต่พอมารู้เหตุผลว่าปลายฝันจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรและไม่อยากยกคาเฟ่นี้ให้กับใครนอกจากเธอ เธอจึงต้องรับมันไว้พร้อมกับขอบคุณปลายฝันซ้ำๆที่เอ็นดูเธอขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งสี่คนเดินทางมาถึงคฤหาสน์ไมโลเวอร์เรียบร้อยแล้ว และยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกำลังจะเข้าไปแต่คุณหญิงฤทัยและคุณมอร์แดนเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับหลานๆเสียก่อน ด้วยทนไม่ไหวอยากเห็นหน้าหลานๆเต็มแก่แล้ว ได้ยินข่าวว่าพิมพ์เดียวกับพ่อมาเลย " ตามาคัสนี่คือหลานชายทั้งสองคนของพ่อกับแม่ใช่ไหม ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ล่ะ " คุณหญิงฤทัยที่จะเดินตรงเข้าไปกอดหลานชาย แต่ผู้เป็นหลานชายก็เดินเข้าไปหลบหลังแม่ของตัวเองโดยอัตโนมัติ " เอ่อ...ลูกเรากลัวแม่หรอมาคัส หรือว่าแม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า " " เปล่าหรอกครับคุณแม่ เด็กแฝดอาจจะยังเด็ก คงยังไม่ชินน่ะครับ ให้เวลาแกสักหน่อยนะครับคุณแม่ " " ได้ลูก แม่รอได้ แล้วนี่เมียเราใช่ไหมปลายฝันใช่ไหมลูก " คุณหญิงฤทัยเดินเข้าไปหา
มาร์คัสมองหน้าลูกชายพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ลูกชายของเขาเมื่อโตขึ้นก็ต้องเป็นทายาทสืบทอดที่นี่ต่อจากเขาและน้องชายอยู่แล้ว " ที่นี่ที่ทำงานของพ่อเองครับ แล้วต่อไปก็จะเป็นของลูกทั้งสองคนรู้ไหมครับ " มาคัสบอกกับลูกชายที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกใหม่แห่งนี้ " " จริงหรอครับ ที่ทำงานคุณพ่อทำไมกว้างจัง ไคเลอร์อยากมาที่นี่ทุกวันเลย " " จริงสิลูก พอโตขึ้นลูกก็จะได้มาที่นี่จนเบื่อเลยล่ะ ถึงตอนนี้อย่าบ่นให้พ่อได้ยินก็แล้วกัน " มาคัสให้ลูกชายและภรรยานั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมกับบอกให้เลขาหาขนมมาให้ในระหว่างที่เขาจัดการกับเอกสารตรงหน้า เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็จัดการกับเอกสารตรงหน้าจนจะเสร็จแต่เมื่อหันไปมองลูกน้อยทั้งสองคนก็ไม่ยอมนอนทั้งที่เมื่อวานก็นอนกลางวันกันไป " ฝัน ลูกเราไม่นอนกลางวันหรอ "เขาเงยหน้าขึ้นมาถามภรรยาสาว " นั่นสิคะ ปกติตอนนี้แกต้องง่วงแล้ว " มาคัสลุกขึ้นแล้วเดินมาหาลูกชายทั้งสองคนที่ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว แต่ยังไม่ยอมหลับสักที " ไคเลอร์ คาร์ลอสทำไมไม่ยอมนอนล่ะลูก " " ผมพวกผมกลัวว่าถ้าหลับแล้วคุณพ่อจะหายไป " คำพูดที่แสนไร้เดียงสาของลูกชายทำเอาเขาแทบชะงัก พร้อมกับปลายฝันที่จุกในอ
เช้านี้ปลายฝันตื่นขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่เช้าเธอตื่นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่มีลูกน้อยเธอต้องทำอาหารเช้าไว้ให้กับลูกของเธอ เพราะตื่นขึ้นมาลูกของเธอก็จะหิวเลย ถ้าเธอไม่ทำอาหารไว้ลูกของเธอก็จะบ่นหิวไม่หยุดแล้วงอแงทั้งวัน แต่ละวันกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวให้เด็กน้อยทั้งสองคนก็กินเวลาไปนานพอสมควร เธอเคยไม่ทำอาหารเช้าไว้รอลูกผลลัพธ์คือเจ้าสองแฝดงอแงหนักมากๆ ทั้งอยากให้เธอกอดไม่ไปไหน ทั้งหิว จนเธอไม่รู้ต้องแยกร่างยังไงเลย มาคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอก็รีบลงมาข้างล่าง กวาดสายตามองไปแล้วเจอกับเธอที่อยู่ในครัว กำลังทำอาหารอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกอดเธอจากทางด้านหลัง " อุ๊ย! ทำอะไรของคุณ ฝันตกใจหมด ปล่อยกอดเดี๋ยวนี้นะ " เธอออกคำสั่งกับเขาแล้วร่างสูงก็ปล่อยกอดออกจากเธอแต่โดยดี " ทำอะไรกินครับทำไมหอมจัง " คำพูดนี้ทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เธอทำอาหารให้เขาทานในตอนแรกๆที่ยังอยู่คอนโดด้วยกัน แต่ก็ต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันมาโฟกัสที่อาหารตรงหน้าแทน" ซุปมันฝรั่งค่ะ ไคเลอร์กับคาร์ลอสชอบเมนูนี้ แล้วก็ชอบให้ฝันทำให้กินเป็นประจำ " มาคัสฟังที่เธอพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับจดจำข้อมูลเกี่ยวกับลูกๆของเข
ร่างสูงใช้ความหน้าด้านหน้าทนเข้าแลกและตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว โดยที่เขาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอว่าเขาเดินทางดึกๆดื่นคงอันตรายมากแน่ เพราะเขาไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วเขามาทำงานที่โรงแรมนี้ก็ออกบ่อย ทำไมเขาจะไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้กัน นอกจากเขาจะรู้จักเส้นทางแล้วคนทั้งเมืองยังรู้จักเขาอีกด้วย เพราะครอบครัวเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในแถบนี้ในฐานะนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ " บ้านหลังนี้มีแค่สองห้อง ซึ่งเป็นห้องของฝันแล้วอีกห้องเป็นของไคเลอร์กับคาร์ลอส คืนนี้คุณนอนที่โซฟาได้ไหมคะ แต่ถ้าคุณนอนไม่ได้จะกลับไปนอนที่โรงแรมของคุณก็ได้นะ " ที่เธอรู้ว่าเขามีโรงแรมเพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาบ้านเธอ เขาได้เล่าให้เธอฟังว่าเพราะต้องมาทำงานที่นี่เขาถึงได้เจอกับเธอโดยบังเอิญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอเธอเพราะเธอมาไกลถึงที่นี่ แล้วเขาก็ไม่ได้มีเส้นสายมากพอที่จะตามหาเธอถึงหมู่บ้านแถวชานเมืองแบบนี้ " ผมนอนที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้คุณกับลูก หรือถ้าคุณจะใจดีให้ผมขึ้นไปนอนกับคุณ... " " ไม่ค่ะ " เธอตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด ถ้าให้เขาไปนอนกับเธอ
ปลายฝันที่จมอยู่กับความคิดของตัวเองภายใต้อ้อมกอดอบอุ่นของเขา ที่เธอเองก็โหยหามันเช่นกัน เขาบอกคิดถึงเธอแต่สิ่งที่เธออยากได้ยินไม่ใช่คำนี้เลยสักนิด เธออยากได้ยินคำพูดที่สามารถยืนยันได้ว่าเธอกับเขาคิดตรงกัน เธอจะไม่ยอมให้อภัยเขาจนกว่าเขาจะพูดคำนั้นออกมา " แต่ฝันไม่อยากกลับไปเป็นนางบำเรอของคุณอีกแล้ว ตอนนี้ฝันมีชีวิตใหม่แล้ว แล้วเด็กๆก็อยู่ได้โดยที่มีฝันเป็นแม่แค่คนเดียว " มาคัสใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่มีทางทนได้แน่หากไม่มีเธออยู่ในชีวิต " โถ่ฝัน คุณไม่ใช่นางบำเรอ และผมไม่มีทางให้คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรอกนะ คุณเป็นเมียผมมาตั้งแต่ทีแรกผมไม่เคยคิดแบบนั้นกับคุณเลย ผมขอโทษที่ตอนนั้นปากผมมันไม่ดี ผมมันปากเสีย คุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะ ผมอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีคุณกับลูกๆ " " จะลงโทษคุณยังไงก็ได้อย่างนั้นใช่ไหมคะ " มาคัสถึงกับหน้าซีดเผือก เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาและสายตาแบบนั้นของเมียตัวน้อย " ครับ ผมยอมทุกอย่างขอแค่คุณไม่ทิ้งผมไป แล้วกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม " " คุณต้องเอาชนะใจเด็กๆให้ได้ก่อนถ้าคุณเข้ากับไคเลอร์และคาร์ลอสไม่ได้คุณ
มาคัสทำหน้าสงสัยว่าทำไมเธอต้องบอกว่าไม่ใช่ลูกของเขาในเมื่อ DNA บนหน้าของเด็กแฝดทั้งสองคนก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าเหมือนเขาขนาดไหน ต่อให้เธอจะโกหกยังไงเขาก็ไม่มีทางเชื่อ ลูกของเขาเขาทำเองกับมือแถมยังสำเนาถูกต้องขนาดนี้อีกด้วย " คุณอย่ามาโกหกผมฝัน คุณหนีผมมาพร้อมกับลูกทำไมผมจะไม่รู้ " ปลายฝันรู้สึกตกใจอีกครั้งทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้บอกใครเลยนอกจากมะลิผู้เป็นเพื่อนสาวแล้วก็ครอบครัวของเธอ หรือว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นคนบอกเขา แต่เธอก็กำชับไว้แล้วว่าให้เก็บไว้ให้เงียบที่สุด " ใครเป็นคนบอกคุณว่าฉันหนีมาพร้อมกับลูก " " ไม่ต้องมีใครบอกผมก็รู้ แล้วถ้าผมจะหาหลักฐานมันก็ไม่ยากหรอกนะปลายฝัน อีกอย่างเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม คุณจะมาพรากลูกพรากพ่อเขาแบบนี้ไม่ได้ " ในเมื่อพูดกับเธอดีๆแล้วเธอไม่ฟังก็คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง " คุณหมายความว่ายังไง คุณจะมาแย่งลูกของฝันไปอย่างนั้นหรอ ฝันไม่ยอมหรอกนะ " มาคัสกระตุกยิ้มที่มุมปาก " ถ้าอย่างนั้นคุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของผม " เมื่อเขาต้อนเธอจนจนมุมร่างบอบบางจึงปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป " ค่ะ เขาเป็นลูกของคุณฉันไม่ปฏิเสธ แต่เรื่องมัน
หลังจากที่ถามทางจากพนักงานคนนั้นแล้วเขาก็ขับรถออกมาเพื่อไปยังคาเฟ่แห่งนั้น เนื่องจากช่วงนี้เขาเคลียร์ปัญหาของโรงแรมเสร็จหมดแล้วเขาจึงว่างทั้งวัน และคงเป็นการดีไม่น้อยถ้าได้เค้กของเธอมาเพิ่มยอดขายให้กับโรงแรมและดึงดูดความสนใจจะนักท่องเที่ยวได้ และในที่สุดเขาก็มาถึงคาเฟ่แห่งนี้หลังจากที่ตามหาอยู่สักพัก เขามองก็ไปด้านในถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็กๆแต่คนก็แน่นถนัดตาเหมือนที่พนักงานของเขาบอกจริงๆ เมื่อเขาเดินเข้ามาด้านในแล้ว ก็เห็นโต๊ะว่างที่อยู่ตรงมุมสุดซึ่งเป็นมุมอับ เขาก็เลยไปนั่งตรงนั้นสักพักก็มีพนักงานมารับออเดอร์ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆมีพนักงานแค่ไม่กี่คน คนที่มาหาเขาก็คงจะเป็นของเจ้าของร้านสินะ " สวัสดีค่ะคุณลูกค้า วันนี้รับอะไรดีคะ " นิดหน่อยเธอยื่นเมนูน้ำและของหวานเพื่อให้กับชายรูปหล่อคนนี้ เขามองจนเธอนึกแปลกใจไม่ได้เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้แถวนี้เลย " คุณเป็นเจ้าของร้านนี้หรอครับ? " ในระหว่างที่เขากำลังเลือกเมนูของว่างอยู่นั้นเขาก็ได้ถามกับผู้หญิงคนนี้ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านทันที " ไม่ใช่หรอกค่ะ ดิฉันเป็นแค่ผู้จัดการร้านนี้เท่านั้น ตอนนี้เจ้าของร้านยังไม่เข้ามานะคะ น่าจะ