เช้านี้ปลายฝันรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมาจากห้องก็เจอเข้ากับทศ พ่อเลี้ยงที่นั่งรอเธออยู่ก่อนหน้านี้แล้วพร้อมกับรำพาผู้เป็นแม่
" พร้อมแล้วใช่ไหมลูก ฝัน " ผู้เป็นพ่อเลี้ยงเอ่ยถามกับลูกสาวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด " จ่ะ ฝันพร้อมแล้วเราไปกันเลยก็ได้จ่ะพ่อ " ร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาวธรรมดาสีซีด(แต่ไม่เก่า)ที่เธอชอบใส่ประจำ แต่เมื่อเธอใส่แล้วกลับดูเรียบร้อยแล้วก็น่ารักตามประสาวัยรุ่น ทศมากับลูกสาวเพียงแค่สองคน ตอนนี้เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าคาสิโนใหญ่ที่ทศเคยมาใช้บริการที่นี่บ่อยๆ " พร้อมไหมลูก " ทศจับมือลูกสาวเอาไว้แน่นเพื่อส่งกำลังใจ " พร้อมจ่ะพ่อ ที่นี่ดูใหญ่โตมากเลยนะจ๊ะ เจ้าของที่นี่คงรวยน่าดู " ร่างบอบบางมองดูคาสิโนโดยรอบ เพราะเกิดมาเธอก็พึ่งเคยเจอและก็พึ่งย่างกรายเข้ามาเป็นครั้งแรก " ใช่ลูก เขารวยมาก แต่เขาก็โหดมากเช่นกัน " ทศพูดจบก็จูงมือผู้เป็นลูกสาวเข้าไปข้างในพอมาถึงก็เจอเข้ากับซานโต้มือขวาคนสนิทของเจ้าของผับ " คุณซานโต้ครับ ผมพาลูกสาวมาขัดดอกครับ ผมยังไม่มีเงินมาใช้หนี้เอาลูกสาวของผมทำงานไปก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบหาเงินมาใช้คืนให้เร็วที่สุด " ทศเอ่ยกับชายร่างสูงใส่สูทสีดำทั้งตัว ทั้งน่ากลัวและน่าเกรงขาม ผู้ชายคนนี้เป็นผู้จัดการคาสิโนของที่นี่ พ่วงด้วยตำแหน่งมือขวาของเจ้าของคาสิโน " แล้วลูกสาวของแกอายุเท่าไหร่ แล้วทำอะไรเป็นบ้าง หนี้ของแกเป็นสิบล้านฉันก็ไม่แน่ใจว่านายจะรับลูกสาวของแกไปขัดดอกหรือเปล่า " ซานโต้มองหญิงสาวร่างบอบบางตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับทำท่าทางเหมือนสงสารเพราะเธอเอาแต่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เขามองเข้าไปในดวงตาของร่างบอบบางก็พบกับแววตาที่ใสซื่อเธอคงไม่รู้สินะว่าการที่เป็นผู้หญิงขัดดอกต้องเจอกับอะไรบ้าง " ครับ ผมขอให้เสี่ยเจ้าของคาสิโนพิจารณาดูก่อน ลูกสาวของผมทำงานได้หลากหลายครับทำความสะอาดก็ได้ ทำอาหารก็เป็น หรือจะให้เสิร์ฟอาหารก็ได้ครับ " ทศเอ่ยสรรพคุณของลูกสาว เพราะปลายฝันทำเป็นทุกอย่างจริงๆเธอทำงานมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว " เอาเป็นว่าฉันจะพาเขาไปพบนายก่อน แต่จะรับหรือไม่รับก็อีกเรื่องนึง ตามมา " ซานโต้เดินนำสองพ่อลูกไปยังห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านายซึ่งอยู่บนชั้นสามของคาสิโนแห่งนี้ ซึ่งเป็นชั้นที่เอาไว้ทำงานเกี่ยวกับเอกสารต่างๆมีพนักงานเพียงไม่กี่คนและมีห้องส่วนตัวหนึ่งห้อง ซึ่งเป็นห้องของผู้เป็นเจ้านาย ทั้งสามคนเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องใหญ่ห้องหนึ่ง พร้อมกับซานโต้ที่เคาะประตู แล้วเปิดเข้าไป และเมื่อประตูเปิดออกร่างบอบบางก็ต้องชะงักอีกครั้ง เพราะข้างในนี้กำลังมีชายหนุ่มพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่แสนเซ็กซี่กำลังบดจูบกันอย่างนัวเนีย อย่างไม่อายฟ้าอายดิน เธอรีบหันหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากจะเห็นภาพติดตาแบบนั้น ต่างจากซานโต้ที่เห็นภาพเหล่านี้เป็นประจำอยู่แล้วจึงไม่สะทกสะท้านอะไร " ขออนุญาตครับนาย นายทศลูกหนี้ของเรามาขอพบครับ " ร่างสูงละออกจากหญิงสาวที่กำลังฟัดนัวเนียกันอย่างเมามันส์ เขาติดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่มันหลุดลุ่ยให้เข้าที่ พร้อมกับเงยหน้ามองผู้มาใหม่นั่นคือลูกหนี้ของเขาอย่างนายทศกับหญิงสาวร่างบอบบางอีกคน ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร ร่างสูงยืนเต็มความสูง นั่นจึงทำให้เห็นถึงความหล่อเหลาร่างกายกำยำรูปร่างสมส่วนด้วยความสูงถึง 185 เซนติเมตร บวกกับหน้าตาที่ออกไปทางฝรั่งจ๋าของเขา เขาคือ มาคัส ไมโลเวอร์ อายุ 35 ปี เจ้าของธุรกิจคาสิโนแห่งนี้ " เธอออกไปก่อนเจนี่ฉันมีธุระที่จะต้องทำ " เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับคู่ขาของเขา ที่โดนัลบอดี้การ์ดมือซ้ายเป็นคนจัดหามาให้ " ค่ะ " หญิงสาวรับคำอย่างว่าง่าย เพราะเธอขึ้นมาที่นี่เพื่อบริการเขาให้ถึงใจแล้วรับเงินกลับไปเพียงเท่านั้น เธอคือเด็กนั่งดริ้งค์ของคาสิโนแห่งนี้ที่สามารถเรียกแขกได้อย่างมากมายต่อคืน ด้วยความเซ็กซี่และความหน้าตาดีของเธอ ถึงแม้เธอจะแอบหวังเล็กๆว่ามาคัสอาจจะติดใจเธอ หากได้ร่วมรักกันสักครั้ง แต่ก็ไม่เป็นไรคราวหน้าเขาอาจจะเรียกเธอกลับมาอีกก็ได้ เธอจึงยอมถอยไปก่อน " ว่ายังไงล่ะนายทศ นั่งก่อนสิ " ร่างสูงที่เอ่ยทักทายกับลูกหนี้พร้อมกับเชิญให้นั่งที่โซฟาสำหรับรับแขกที่เขาและเด็กของเขาเพิ่งใช้งานมาเมื่อสักครู่ ส่วนตัวเขาเองกลับไปนั่งยังโต๊ะทำงานของเขาเหมือนเดิม ทศที่พึ่งเคยเห็นเจ้าของคาสิโนไม่คิดว่าจะยังเด็กขนาดนี้ เขานึกว่าเป็นเสี่ยแก่ๆเสียอีก " คือ..ผมจะมาเจรจาเรื่องการใช้หนี้ครับ " " หรอ...ไหนล่ะเงินสิบล้าน " ร่างสูงที่ถามแต่ยังไม่ยอมละสายตาไปจากร่างบอบบางที่นั่งอยู่ข้างๆนายทศลูกหนี้ของเขา " เงินจำนวนเยอะขนาดนั้น ผมหาไม่ทันหรอกครับ ผมจึงให้ลูกสาวมาทำงานที่นี่เพื่อขัดดอกแทน แล้วถ้าผมรวบรวมเงินได้ครบเมื่อไหร่จะรีบเอามาคืนครับ " ทศรีบเสนอตัวของลูกสาวเพื่อให้ชายร่างสูงที่ดูน่ากลัวและน่าเกรงขามคนนี้ได้พิจารณา " นี่ลูกสาวแกหรอ สวยใช้ได้หนิ " มาคัสมองปลายฝันตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายอมรับว่าเธอมีเสน่ห์น่าดึงดูดมาก แววตาที่ใสซื่อทำให้เขาอยากมองเธออย่างไม่ละสายตา รวมทั้งสัดส่วนที่ได้มาตรฐานของเธอ อกเป็นอก เอวเป็นเอว แถมหน้าอกหน้าใจกะขนาดจากสายตาก็คงจะเต็มไม้เต็มมือไม่น้อย " ครับ คือปลายฝันทำงานได้ทุกอย่างเลยนะครับ ปัดกวาดเช็ดถู หรือแม้กระทั่งทำอาหารหรือเสิร์ฟก็ได้หมดครับ " " งั้นหรอ แล้วนานเท่าไหร่แกถึงจะมีเงินมาใช้หนี้ฉัน ลูกสาวของนายคงไม่ได้มีค่าตัวถึงสิบล้านหรอกใช่ไหม " คำพูดของมาคัสทำเอาปลายฝันมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ เธอก็รู้อยู่หรอกว่าเธอไม่ได้สวยมากแถมยังจนอีกด้วย แต่ก็ไม่ควรประเมินค่าเธอต่ำขนาดนั้น อย่างน้อยๆก็ไม่ควรพูดมันออกมาต่อหน้าเธอ " ครับ ผมทราบดี ผมขอเวลาต่อจากนี้ไม่เกินสองปี ผมจะรีบหาเงินมาใช้หนี้ครับ " ลูคัสมองหน้าของสาวน้อยหน้าหวานที่เขาถูกตาต้องใจ พร้อมกับความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัว " ได้สิ ฉันเองก็ชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้ว แต่ที่นี่ไม่มีงานให้ทำหรอกนะ ตอนนี้มีตำแหน่งเดียวที่ยังว่างอยู่คือเป็นนางบำเรอของฉัน "มาคัสหลังจากที่ช่วยเมียสาวถอดชุดเจ้าสาวออกเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ก้มลงจูบที่แผ่นหลังบางของเธออย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา กลิ่นกายที่ไม่ว่าจะสูดดมสักกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ พร้อมกับเลื้อยไปเรื่อยๆมาจนถึงไหล่บอบบางและมาซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างบ้าคลั่ง กลิ่นกายเฉพาะตัวของเธอที่เขาสูดดมเมื่อไหร่ก็เป็นนั้นต้องเคลิบเคลิ้ม เขาชอบสูดดมกลิ่นกายของเมียตัวน้อยแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเธอทำให้เขารู้สึกมีพลังและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ใช้น้ำหอมส่วนมากกลิ่นของเธอจะมาจากแป้งเด็กอ่อนๆเท่านั้น ทำให้มาคัสรู้สึกผ่อนคลายและอยากเข้าไกลตลอดเวลา " อื้อ...ไม่อาบน้ำก่อนหรอคะที่รัก เดินในงานทั้งวันฝันตัวเหม็นจะแย่ " เธอเอ่ยทักท้วงเขาเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน วันนี้เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งรับแขกแล้วทั้งยังรับมือกับลูกชายตัวน้อยทั้งสองคนที่วิ่งเล่นจนรอบงานอีก " ไม่ต้องอาบหรอกที่รัก คุณตัวหอมจะตาย ผมรอไม่ไหวแล้ว " เขาจับเธอให้หันหน้ามาหาเขาพร้อมกับดันตัวเธอให้ไปชิดกับผนังห้อง ซึ่งตอนนี้เธอมีร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว หลังจากที่เขาถอดชุดแต่งงานของเธอออกเมื่อสักครู่เขาไม่รอช้ารีบถอ
และแล้วก็มาถึงวันที่มาคัสและปลายฝันเข้าสู่ประตูวิวาห์ ที่ทางครอบครัวของมาคัสจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมเกียรติลูกชายคนโตแห่งไมโลเวอร์ " ยัยฝัน เรายินดีด้วยนะ ในที่สุดก็เป็นฝั่งเป็นฝากับเขาสักทีเรื่องจบลงแบบ Happy Ending แบบนี้ฉันก็ดีใจกับแกด้วย " มะลิและเพื่อนสาวคนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในห้องแต่งตัวเจ้าสาวพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน " ขอบใจแกมากนะ วันนั้นถ้าไม่มีแกชีวิตฉันก็ไม่รู้จะเป็นยังไง ขอบคุณที่รักฉันและหลานๆนะ "" แกเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนแท้ แกสุขฉันก็สุข แกเศร้าฉันก็เศร้า " ปลายฝันลุกขึ้นกอดเพื่อนสาวด้วยความดีใจพลันน้ำตาก็กำลังจะไหลลงมา จนเป็นมะลิเองที่ต้องห้ามเอาไว้ก่อน " หยุดร้องไห้ไปเลยนะแก เดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก วันนี้เป็นวันสำคัญของแก แกต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลยรู้ไหม ห้ามร้องไห้เด็ดขาดไม่งั้นถ่ายรูปออกมาจะไม่สวยเอานะ " ปลายฝันนั่งยิ้มให้กับเพื่อนพร้อมกับปาดน้ำตาน้อยๆออก " แต่งตัวเสร็จกันหรือยังลูก ใกล้จะได้ฤกษ์แล้วนะ " รำพาที่ขึ้นมาตามลูกสาวเพราะตอนนี้ใกล้จะถึงฤกษ์ดีแล้ว " เสร็จแล้วจ่ะแม่จ๋า " ปลายฝันตอบผู้เป็นแม่ พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง จึงทำให้รำพาแทบตกตะลึง ลูกสาวของเธอสว
หลังจากที่ปลายฝันตัดสินใจยกคาเฟ่ให้กับนิดหน่อยไปแล้วเพราะเธอรักเหมือนกับครอบครัวจะริงๆ ก็ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯพร้อมกับมาคัสและลูกๆ ทีแรกนิดหน่อยไม่อยากรับเพราะเกรงใจ แต่พอมารู้เหตุผลว่าปลายฝันจะต้องย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรและไม่อยากยกคาเฟ่นี้ให้กับใครนอกจากเธอ เธอจึงต้องรับมันไว้พร้อมกับขอบคุณปลายฝันซ้ำๆที่เอ็นดูเธอขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งสี่คนเดินทางมาถึงคฤหาสน์ไมโลเวอร์เรียบร้อยแล้ว และยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้านกำลังจะเข้าไปแต่คุณหญิงฤทัยและคุณมอร์แดนเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับหลานๆเสียก่อน ด้วยทนไม่ไหวอยากเห็นหน้าหลานๆเต็มแก่แล้ว ได้ยินข่าวว่าพิมพ์เดียวกับพ่อมาเลย " ตามาคัสนี่คือหลานชายทั้งสองคนของพ่อกับแม่ใช่ไหม ทำไมน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ล่ะ " คุณหญิงฤทัยที่จะเดินตรงเข้าไปกอดหลานชาย แต่ผู้เป็นหลานชายก็เดินเข้าไปหลบหลังแม่ของตัวเองโดยอัตโนมัติ " เอ่อ...ลูกเรากลัวแม่หรอมาคัส หรือว่าแม่ทำอะไรผิดไปหรือเปล่า " " เปล่าหรอกครับคุณแม่ เด็กแฝดอาจจะยังเด็ก คงยังไม่ชินน่ะครับ ให้เวลาแกสักหน่อยนะครับคุณแม่ " " ได้ลูก แม่รอได้ แล้วนี่เมียเราใช่ไหมปลายฝันใช่ไหมลูก " คุณหญิงฤทัยเดินเข้าไปหา
มาร์คัสมองหน้าลูกชายพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ ลูกชายของเขาเมื่อโตขึ้นก็ต้องเป็นทายาทสืบทอดที่นี่ต่อจากเขาและน้องชายอยู่แล้ว " ที่นี่ที่ทำงานของพ่อเองครับ แล้วต่อไปก็จะเป็นของลูกทั้งสองคนรู้ไหมครับ " มาคัสบอกกับลูกชายที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกใหม่แห่งนี้ " " จริงหรอครับ ที่ทำงานคุณพ่อทำไมกว้างจัง ไคเลอร์อยากมาที่นี่ทุกวันเลย " " จริงสิลูก พอโตขึ้นลูกก็จะได้มาที่นี่จนเบื่อเลยล่ะ ถึงตอนนี้อย่าบ่นให้พ่อได้ยินก็แล้วกัน " มาคัสให้ลูกชายและภรรยานั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมกับบอกให้เลขาหาขนมมาให้ในระหว่างที่เขาจัดการกับเอกสารตรงหน้า เวลาผ่านไปไม่นานเขาก็จัดการกับเอกสารตรงหน้าจนจะเสร็จแต่เมื่อหันไปมองลูกน้อยทั้งสองคนก็ไม่ยอมนอนทั้งที่เมื่อวานก็นอนกลางวันกันไป " ฝัน ลูกเราไม่นอนกลางวันหรอ "เขาเงยหน้าขึ้นมาถามภรรยาสาว " นั่นสิคะ ปกติตอนนี้แกต้องง่วงแล้ว " มาคัสลุกขึ้นแล้วเดินมาหาลูกชายทั้งสองคนที่ตาแทบจะปิดอยู่แล้ว แต่ยังไม่ยอมหลับสักที " ไคเลอร์ คาร์ลอสทำไมไม่ยอมนอนล่ะลูก " " ผมพวกผมกลัวว่าถ้าหลับแล้วคุณพ่อจะหายไป " คำพูดที่แสนไร้เดียงสาของลูกชายทำเอาเขาแทบชะงัก พร้อมกับปลายฝันที่จุกในอ
เช้านี้ปลายฝันตื่นขึ้นมาทำอาหารตั้งแต่เช้าเธอตื่นแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่มีลูกน้อยเธอต้องทำอาหารเช้าไว้ให้กับลูกของเธอ เพราะตื่นขึ้นมาลูกของเธอก็จะหิวเลย ถ้าเธอไม่ทำอาหารไว้ลูกของเธอก็จะบ่นหิวไม่หยุดแล้วงอแงทั้งวัน แต่ละวันกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวให้เด็กน้อยทั้งสองคนก็กินเวลาไปนานพอสมควร เธอเคยไม่ทำอาหารเช้าไว้รอลูกผลลัพธ์คือเจ้าสองแฝดงอแงหนักมากๆ ทั้งอยากให้เธอกอดไม่ไปไหน ทั้งหิว จนเธอไม่รู้ต้องแยกร่างยังไงเลย มาคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอก็รีบลงมาข้างล่าง กวาดสายตามองไปแล้วเจอกับเธอที่อยู่ในครัว กำลังทำอาหารอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปแล้วกอดเธอจากทางด้านหลัง " อุ๊ย! ทำอะไรของคุณ ฝันตกใจหมด ปล่อยกอดเดี๋ยวนี้นะ " เธอออกคำสั่งกับเขาแล้วร่างสูงก็ปล่อยกอดออกจากเธอแต่โดยดี " ทำอะไรกินครับทำไมหอมจัง " คำพูดนี้ทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เธอทำอาหารให้เขาทานในตอนแรกๆที่ยังอยู่คอนโดด้วยกัน แต่ก็ต้องรีบสลัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันมาโฟกัสที่อาหารตรงหน้าแทน" ซุปมันฝรั่งค่ะ ไคเลอร์กับคาร์ลอสชอบเมนูนี้ แล้วก็ชอบให้ฝันทำให้กินเป็นประจำ " มาคัสฟังที่เธอพูดอย่างตั้งใจพร้อมกับจดจำข้อมูลเกี่ยวกับลูกๆของเข
ร่างสูงใช้ความหน้าด้านหน้าทนเข้าแลกและตอนนี้เขาก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านของเธอเรียบร้อยแล้ว โดยที่เขาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเธอว่าเขาเดินทางดึกๆดื่นคงอันตรายมากแน่ เพราะเขาไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้ ทั้งที่จริงๆแล้วเขามาทำงานที่โรงแรมนี้ก็ออกบ่อย ทำไมเขาจะไม่รู้จักเส้นทางแถวนี้กัน นอกจากเขาจะรู้จักเส้นทางแล้วคนทั้งเมืองยังรู้จักเขาอีกด้วย เพราะครอบครัวเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในแถบนี้ในฐานะนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองนี้ " บ้านหลังนี้มีแค่สองห้อง ซึ่งเป็นห้องของฝันแล้วอีกห้องเป็นของไคเลอร์กับคาร์ลอส คืนนี้คุณนอนที่โซฟาได้ไหมคะ แต่ถ้าคุณนอนไม่ได้จะกลับไปนอนที่โรงแรมของคุณก็ได้นะ " ที่เธอรู้ว่าเขามีโรงแรมเพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาบ้านเธอ เขาได้เล่าให้เธอฟังว่าเพราะต้องมาทำงานที่นี่เขาถึงได้เจอกับเธอโดยบังเอิญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอเธอเพราะเธอมาไกลถึงที่นี่ แล้วเขาก็ไม่ได้มีเส้นสายมากพอที่จะตามหาเธอถึงหมู่บ้านแถวชานเมืองแบบนี้ " ผมนอนที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่ใกล้คุณกับลูก หรือถ้าคุณจะใจดีให้ผมขึ้นไปนอนกับคุณ... " " ไม่ค่ะ " เธอตอบออกไปแบบไม่ต้องคิด ถ้าให้เขาไปนอนกับเธอ