Share

Chapter 2

Author: anyanee2009
last update Last Updated: 2025-11-12 17:01:36

Chapter 2

          “เพชรกล้าไม่ใช่ลูกของฉันค่ะ ฉันเป็นเพื่อนแม่ของเพชรกล้า” รัชนีกรบอกให้เขาเข้าใจ “เพชรครับ แม่มาแล้วนะลูก เรารีบกลับไปที่ห้องแต่งตัวดีกว่านะ จะได้ไปเตรียมตัวขึ้นแสดง”

          “ฮะ ไปหาแม่กันฮะ” สีหน้าเพชรกล้าดีใจที่มารดามาทันตามสัญญา “ผมไปก่อนนะฮะคุณลุง”

          “เพชรแสดงในงานการกุศลของสมาคมคุณหญิงลัดดาใช่ไหมครับ” ปราณปวิชถาม

          “ใช่ค่ะ เพชรได้รับทุนน่ะค่ะ และเป็นตัวแทนโรงเรียนมาแสดงในงานวันนี้ค่ะ” คนที่ตอบคือรัชนีกร “ฉันกับเพชรขอตัวก่อนนะคะ ใกล้ถึงเวลาแสดงแล้ว”

          ปราณปวิชไม่ได้พูดโต้ตอบ เขาส่งยิ้มให้น้าหลานที่เดินจูงมือกันไปยังห้องจัดเลี้ยง ขณะที่เพชรกล้าเดินตามรัชนีกร เด็กชายได้หันมามองหน้าปราณปวิชที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองไปยังสองน้าหลาน ทั้งสองจึงมองสบตากันแล้วยิ้มให้กัน

          บนเวทีมีการแสดงของตัวแทนเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษา ผลัดเปลี่ยนมาสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะกับปราณปวิชที่เฝ้ารอคอยดูการแสดงของเด็กชายที่เขาเดินชนตรงทางเข้าห้องน้ำแบบใจจดใจจ่อ ซึ่งปกติแล้วเขาจะเฉยๆ กับการแสดงเหล่านี้ที่นั่งดูตามมารยาท ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่ เขาตั้งตารอเลยก็ว่าได้ ปราณปวิชอดแปลกใจไม่ได้ว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้

          เมื่อถึงคิวโรงเรียนวัดไผ่วัวนักเรียนจำนวนเก้าคนขึ้นมาแสดงบนเวที ปราณปวิชที่นั่งอยู่โต๊ะแถวหน้าสุดยิ้มกว้างและโบกมือให้เพชรกล้าที่ยืนอยู่แถวหน้า เพชรกล้าเห็นปราณปวิชจึงยิ้มให้และแสดงตามที่ฝึกซ้อมไว้

          “เด็กผู้ชายที่อยู่แถวหน้าสุดหน้าตาเหมือนปราบตอนเด็กๆ เลยนะ” ปริญญาพูดกับภรรยาที่หันไปมองเด็กชายคนดังกล่าวตามสามมีบอก

          “เหมือนจริงด้วยค่ะ” คุณหญิงนารถลดาเห็นด้วยกับสามี “คุณไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนหรือเปล่าคะ”

          คนเป็นภรรยาเย้าสามี

          “ผมจะไปทิ้งเชื้อที่ไหนได้ล่ะ คุณก็รู้นี่ว่า ผมทำหมันตั้งนานแล้ว นู่นลูกชายเรามากกว่า ไปทิ้งเชื้อไว้กับผู้หญิงคนไหนหรือเปล่า” นารถลดาเมื่อได้ยินสามีพูดก็หันมาทางบุตรชาย พูดยิ้มๆ

          “พ่อบอกว่าเด็กผู้ชายที่อยู่แถวหน้า หน้าตาเหมือนแกตอนเด็ก แกไปทิ้งเชื้อไว้กับผู้หญิงคนไหนหรือเปล่าเนี่ย”

เป็นคำถามที่ไม่ได้มีความจริงจัง เป็นเพียงการเย้าแหย่ระหว่างแม่ลูก เพราะรู้ดีว่า ลูกชายป้องกันเรื่องนี้ดี แล้วไม่ยอมมีลูกกับหญิงสาวคนใดนอกจากสตรีคนหนึ่งที่จากลาไปเมื่อเจ็ดปีก่อน

          “ผมน่ะเหรอครับจะไปทิ้งเชื้อไว้กับผู้หญิงคนไหน ผมหวงเชื้อผมจะตายไป ไม่มีทางหลุดไปอยู่ในรังไข่ของใครแน่นอนครับ” ปราณปวิชตอบอย่างมั่นใจ

          “ผมว่าไม่มีใครทิ้งเชื้อ คงจะเป็นคนหน้าเหมือนทั่วๆ ไปน่ะ อย่างเช่นหน้าเหมือนดารา เหมือนนักการเมืองที่เขาเอามาล้อเลียนสนุกๆ ตามที่เราเห็นกัน”

          “ถูกต้องนะครับ” คนเป็นลูกเห็นด้วยทันที ไม่ได้ติดใจอะไรกับคำพูดหยิกแกมหยอกของบิดาที่ว่า “ไปทิ้งเชื้อ” เพราะคนอย่างปราณปวิชระวังเรื่องนี้มาก ไม่มีวันผิดพลาดแน่นอน  ปราณปวิชละความสนใจเรื่องที่บิดามารดาพูดหันหน้าไปมองเวทีอีกครั้ง ส่งยิ้มให้เพชรกล้าและดูการแสดงจนจบ

          เด็กๆ พากันก้าวลงจากเวทีก่อนพากันเดินกลับไปยังห้องแต่งตัวที่อยู่ใกล้กัน เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่ามีผู้ปกครองคอยบุตรหลานอยู่ หนึ่งในนั้นคือพวงชมพูที่วันนี้มาให้กำลังใจลูกชายก่อนขึ้นแสดงแต่ไม่ได้เข้าไปดูหน้าขอบเวที เป็นเพราะการแสดงครั้งนี้จัดขึ้นในโรงแรม เวทีจึงถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะกิจและอยู่ในพื้นที่งานจัดเลี้ยง ไม่มีด้านหลังเวทีหรือด้านข้างเวทีให้ผู้ปกครองดูบุตรหลานแสดง หากเข้าไปคงไปยืนออดูกันหน้าเวที อีกเหตุผลหนึ่งคือ ทางทีมงานเกรงว่าหากให้ผู้ปกครองเข้าไปดูการแสดงในงานจะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย จึงไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าไป ให้ได้เฉพาะคุณครูที่มากับเด็กเท่านั้น ซึ่งผู้ปกครองก็เข้าใจในเหตุผล

          แม้ว่าพวงชมพูจะไม่ได้เข้าไปดูการแสดงของบุตรชาย แต่เธอก็ไว้วานให้ครูนงเยาว์อัดวีดิโอลงในมือถือ เพื่อที่จะได้ดูการแสดงของเพชรกล้าภายหลัง

          “เพชรเต้นเก่งมากเลยนะ เก่งกว่าทุกคนเลย” นงเยาว์บอกพวงชมพูขณะคืนมือถือให้

          “ขอบคุณค่ะครูปิ่น” พวงชมพูกล่าวของคุณนงเยาว์ ก่อนก้มหน้ามองบุตรชาย “เพชรของแม่เก่งที่สุดเลยครับ”

          พูดจบก็หอมแก้มเพชรกล้าฟอดใหญ่ด้วยความรักทั้งหมดที่มี เพชรกล้าคือของขวัญจากฟากฟ้าที่แม้นว่าจะไม่ได้เกิดมาจากความรักระหว่างพ่อกับแม่ และไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของคนเป็นพ่อ แต่เธอก็ไม่คิดฆ่าลูกน้อยเพื่อผลักไสความรับผิดชอบ พวงชมพูฟูมฟักดูแลตัวเองให้ดีที่สุด แม้ว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตก็ตาม เพราะไม่เพียงแค่ดูแลตัวเองกับลูกในครรภ์ เธอต้องดูแลมารดาที่ป่วยกระเสาะกระแสะ กว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ พวงชมพูร้องไห้ไปหลายปี๊บ ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคุ้มค่ากับความเหน็ดเหนื่อยและอดทน 

          “ฉันว่ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพชรเถอะ จะได้รีบกลับ” รัชนีกรบอกสองแม่ลูก พวงชมพูทำตามที่เพื่อนรักบอก พาลูกชายไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเดินออกจากห้องแต่งตัวหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย

          “ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ เกิดปวดฉี่ขึ้นมา” พวงชมพูบอกรัชนีกรที่พยักหน้ารับรู้ ก่อนชี้บอกเพื่อนว่า ห้องน้ำไปทางไหน พวงชมพูเดินไปตามทางที่รัชนีกรชี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียลับบำเรอแค้น   Chapter 77

    Chapter 77 “เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นหลังจากวันที่เพชรทำการแสดง กล้ามเนื้อขาและแขนของปราบดีขึ้น ปราบมารู้ในวันที่หัดเดินกับตั้ม วันนั้นชมไม่อยู่ออกไปเอายาให้แม่ ปราบเดินได้หลายก้าว ปราบเลยมีความตั้งใจว่า จะไม่บอกเรื่องนี้ให้ชมรู้เพื่อจะได้มอบเป็นของขวัญวันเกิดให้ชม ปราบหัดเดินกับตั้มบ่อยขึ้นตอนที่ชมไม่อยู่บ้าน ไปรับเพชรบ้าง ไปทำธุระอื่นๆ บ้าง แต่เวลาชมอยู่ปราบก็จะทำเหมือนยังเดินไม่ได้ ส่วนเรื่องพูดก็ดีขึ้นพร้อมกับแขนขา หัดขยับปาก นวดปากและหัดพูด จนมาถึงวันนี้อาการปราบดีขึ้นมาก คุณหมอบอกว่าเกินเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ อีกสักหน่อยก็คงหายเป็นปกติ เป็นไงลูก ของขวัญวันเกิดชิ้นนี้คงถูกใจชมนะ” พวงชมพูยืนฟังเรื่องเซอร์ไพร์สด้วยรอยยิ้ม เธอไม่โกรธที่ปราณปวิชปิดบังเรื่องนี้กับตน รวมถึงทุกคนในที่นี้ด้วย พวงชมพูดีใจด้วยซ้ำไปที่สามีหายจนเกือบเป็นปกติ “เป็นของขวัญที่ดีที่สุดในโลกค่ะแม่” พวงชมพูตอบทั้งน้ำตา โผกอดร่างสามี “ชมดีใจที่สุดค่ะพี่ปราบ” ปราณปวิชยกลำแขนกอดร่างเมียรัก อยากกอดแบบนี้นานแล้ว หลายครั้งที่เขาอยากกอด อยากหอม อยากทำอะไรหลายๆ อย่าง ทว่าก็เก็บความอยากนั

  • เมียลับบำเรอแค้น   Chapter 76

    Chapter 76 ปราณปวิชนั่งอยู่ในรถวีลแชร์ระบบไฟฟ้า แล้วรถที่เขานั่งกำลังถูกเข็นเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ภายในโรงแรมหรูกลางกรุง ที่วันนี้มีงานกาล่าดินเนอร์และมีการแสดงให้ความบันเทิงหลายชุด หนึ่งในหลายชุดคือการแสดงของเพชรกล้ากับเหล่าเพื่อนในโรงเรียนสอนร้อง เล่นและเต้นแสดงที่เด็กชายเรียนอยู่ ครอบครัวปราณปวิชจึงมาให้กำลังใจเพชรกล้าครบทุกองค์ประชุม รวมถึงเหล่าพี่เลี้ยงนามว่ารัชนีกรกับรวิกาญน์ รวมถึงวรเทพก็มาดูการแสดงของหลานรักครั้งนี้ด้วย ก่อนการแสดงเพชรกล้าที่ตอนนี้แต่งตัวเสร็จรอเวลาขึ้นเวที ได้เดินมาหาบิดาที่นั่งอยู่บนโต๊ะวีไอพี เด็กชายขึ้นไปนั่งบนตักบิดาที่ก้มหน้าหอมแก้ม “เพชรมาขอกำลังใจจากพ่อฮะ” ปราณปวิชยิ้ม หอมแก้มบุตรชายแทนคำพูด เพชรกล้ายิ้ม หอมแก้มบิดาตอบกลับ ก่อนลงจากตักแล้วเดินไปยังห้องเตรียมตัวแสดงโดยมีรัชนีกรเดินไปพร้อมกันด้วย อีกสิบนาทีต่อมาเด็กชายเพชรกล้าขึ้นไปแสดงบนเวทีร่วมกับเพื่อนอีกเจ็ดคน ปราณปวิชมองดูลูกชายเต้นบนเวทีด้วยรอยยิ้ม เขาพยายามยกแขนขึ้นเพื่อโบกมือให้ เพชรกล้า แต่ก่อนกว่าเขาจะยกแขนได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมคว

  • เมียลับบำเรอแค้น   Chapter 75

    Chapter 75“วันนี้ชมทำแกงเผ็ดเป็ดย่างให้พี่ปราบกินด้วยนะคะ” พวงชมพูวางถาดที่ใส่อาหารจานโปรดของเขาลงบนโต๊ะลาก จากนั้นก็มาปรับเตียงนอนให้เขาอยู่ในท่านั่งเพื่อสะดวกในการกินข้าว “ค่อยๆ อ้าปากนะคะ”พวงชมพูบอกสามีที่อ้าปากรับอาหารรสชาติอร่อย ค่อยๆ เคี้ยวและกลืนลงคอ พวงชมพูหยิบแก้วน้ำให้สามีจิบเพื่อให้น้ำทำให้คล่องคอ“พี่ปราบอยากกินของหวานเป็นอะไรคะ วันนี้มีสัปปะรดลอยแก้ว หรือว่าจะเอาผลไม้คะ มีแอปเปิ้ล ส้ม แก้วมังกรค่ะ” เธอพูดไปป้อนข้าวเขาไป “วันมะรืนกล้าต้องขึ้นทำการแสดงที่โรงแรมค่ะ เป็นงานการกุศลที่คุณแม่เป็นโต้โผใหญ่ ชมเตรียมชุดหล่อๆ ไว้ให้พี่ปราบแล้ว เราจะได้ไปดูลูกเต้นด้วยกันค่ะ”ปราณปวิชพยักหน้ารับรู้ มองภรรยาที่ปรนนิบัติตนอย่างดีทั้งน้ำตา การที่เขาตกอยู่ในสภาพนี้ ทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง อย่างหนึ่งที่แน่ชัดคือ สถาบันครอบครัวของเขาแข็งแรงมาก มีความรักและความเอาใจใส่ต่อกัน ไม่มีใครทอดทิ้งเขาสักคน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นห่วง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องอดีตให้ตนเจ็บช้ำ มีแต่ให้กำลังใจให้เกิดความฮึกเหิมฮึดสู้กับอาการป่วย“ขะ...ขอ...โทด” การพูดของปราณปวิชเป็นอีกเรื่องที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่เป็นการพูดค

  • เมียลับบำเรอแค้น   Chapter 74

    Chapter 74“เรื่องนี้ต้องให้คุณหมอตอบนะคะ อีกสักครู่คุณหมอก็จะออกมาค่ะ”“เดี๋ยวผมกับแทคไปจัดการเรื่องห้องพักให้เองครับ คุณพ่อคุณแม่รอฟังอาการปราบอยู่ที่นี่นะครับ” อิสทัชอาสา“ขอบใจมากทัช แทค” สองหนุ่มยิ้มก่อนเดินไปจัดการเรื่องห้องพักให้เพื่อนรักอีกราวสิบนาทีต่อมา นายแพทย์มงคลผู้ให้การรักษาเดินออกมาจากห้องผ่าตัด มงคลแจ้งกับญาติคนไข้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้อาจทำให้สมองของปราณปวิชช้ำ ผลข้างเคียงคือทำให้แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ หรือจะเรียกว่าเป็นอัมพาต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูอาการตอนฟื้นอีกทีว่า จะออกมาในทิศทางใดได้ยินเพียงแค่นี้ทุกคนก็ปล่อยน้ำตาออกมา เพราะไม่คิดว่าปราณปวิชจะตกอยู่ในอาการเช่นนี้ ทว่าทุกคนก็คิดในทางเดียวกันว่า ก็ยังดีกว่ายมทูตคร่าชีวิตเขาไป ไม่ว่าปราณปวิชเป็นอย่างไร ทุกคนก็พร้อมดูแลเขาเต็มที่ โดยเฉพาะพวงชมพูที่เวลานี้โทษตัวเองว่า เพราะตนทำให้ปราณปวิชต้องเป็นเช่นนี้พวงชมพูไม่ต้องการให้ปราณปวิชตายหรือเป็นอัมพาต พวงชมพูแค่ต้องการให้เขารู้สึกเจ็บปวดกับอดีตที่เคยทำไว้กับตนแค่นั้น...แค่นั้นจริงๆ7 เดือนต่อมา ในเรื่องร้ายยังมีความโชคดี อาการของปราณปวิชไม

  • เมียลับบำเรอแค้น   Chapter 73

    Chapter 73“เจ็ดปีที่ผ่านมา มีใครมีความสุขแบบเต็มอิ่มบ้าง ลุงเชื่อว่าไม่มี ที่เห็นกับตาทุกวันคือปราบ ปราบไม่มีความสุขเลยนับตั้งแต่ชมจากไป ปราบบอกความจริงกับตาลเรื่องของชม แล้วยังบอกด้วยว่า หัวใจของเขามีแต่ชมคนเดียว ตาลเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายนะ เมื่อรู้ว่าปราบไม่รักก็ไม่ได้ตื้อหรือโวยวาย ทั้งคู่จึงจบกันด้วยดี หลังจากนั้นหนึ่งปีตาลก็แต่งงานกับนักธุรกิจชาวเยอรมัน ปราบยังไปงานแต่งงานตาลเลย พอกลับมาจากงานแต่งก็เอาแต่ดื่มเหล้าอยู่สามวัน ดื่มไปก็ร้องไห้ไปเพราะคิดถึงชม ปราบอยากมีงานแต่งงานบ้าง อยากแต่งชุดเจ้าบ่าวโดยที่เจ้าสาวคือชม เมื่อรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เหล้าจึงเป็นที่พึ่งทางใจอย่างเดียว มาห่างดื่มก็ตอนแม่ไปขอร้องนี่แหละ” ปริญญาเล่าอีกเรื่องให้พวงชมพูฟัง “ปราบเคยคิดออกตามหาชมนะ แต่ลุงคิดว่าคงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะวันนั้นอรกับชมก็ประกาศตัดขาด แล้วยังเรื่องที่ปราบทำกับชมอีก บางทีเวลาเจ็ดปีอาจเป็นบทลงโทษปราบไปในที ทำให้ปราบรู้ซึ้งถึงคำว่าเจ็บปวดทางใจที่หนักหนาสาหัสกว่าที่ชมเจอ ตอนนี้ลุงคิดว่า มันสมควรกับเวลาแล้วนะ ที่พวกเราจะมีความสุขกันเสียที ชมคิดเหมือนลุงไหมลูก” พวงชมพูน้ำตาไหล เธอน้ำมือ

  • เมียลับบำเรอแค้น   Chapter 72

    Chapter 72“ชมแม่ว่า...” เอมอรได้ยินก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าลูกสาวจะยื่นเงื่อนไขนี้ ปริญญากับนารถลดาก็พลอยตกใจไปด้วย“แม่ไม่ต้องยุ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องของชมกับเขา ถ้าเขากล้าทำตามที่ชมบอก ชมก็กล้าทำตามข้อตกลงค่ะ” ในใจพวงชมพูคิดว่าปราณปวิชไม่กล้า “ว่าไงกล้าหรือเปล่า”“ชมก็คอยดูก็แล้วกัน” คำพูดของพวงชมพูว่าน่าตกใจแล้ว การกระทำของปราณปวิชน่าตกใจยิ่งกว่า ตอนนี้เขาหมุนตัววิ่งออกไปจากบ้าน ท่ามกลางความตกใจของทุกคน“ปราบลูก ปราบจะไปไหน” นารถลดาวิ่งตามลูกชาย ปริญญา เอมอรกับพวงชมพูจึงวิ่งตามไปด้วย แต่ก่อนพวงชมพูจะวิ่งตามรั้งท้ายไป เธอสั่งให้เพชรกล้าอยู่ที่บ้าน สั่งเสร็จจึงรีบวิ่งออกไปบ้านที่พวงชมพูอาศัยอยู่เป็นซอยย่อย ความยาวของซอยนี้ประมาณสามร้อยเมตร บ้านของเธออยู่ห่างจากถนนหลักที่ตัดผ่านไปถนนใหญ่ได้ถึงสองถนน รถยนต์จึงค่อนข้างมาก ปราณปวิชวิ่งออกจากบ้านพวงชมพู ก่อนวิ่งออกไปยังถนนสายหลักที่อยู่ห่างจากบ้านของเธอประมาณหนึ่งสิบเมตร ขณะที่กำลังก้าวเท้าวิ่งอยู่นั้น เขาหันไปมองรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนน ระยะห่างจากตัวเขากับรถเป้าหมายคันนั้นราวสิบเมตร เขาวิ่งออกไปยืนกลางถนนอย่างไม่ลังเล หมายให้รถคันนั้นชนตนเอง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status