เมื่อถึงเวลานัดหนูดีก็ออกมารอลูลิสที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน รอได้เดี๋ยวเดียวคนที่อยากพาเธอไปเที่ยวก็ขับรถมาจอดตรงหน้าเธอ เด็กสาวก้าวขึ้นรถอย่างเซ็งๆ ใจอยากจะไม่มาตามนัดแต่ก็กลัวคำขู่ของเขา เกิดบ้าบิ่นทำอย่างที่พูดจริงๆ เธอคงตายแน่ๆ
สายตาคมดุมองสำรวจการแต่งกายของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย กางเกงขาสั้นแบบที่วัยรุ่นผู้หญิงชอบใส่กัน มันขัดใจเขายิ่งนัก ดีหน่อยที่เสื้อยืดมันไม่ได้รัดรูปอะไรมากมายไม่อย่างนั้นเขาคงต้องหงุดหงิดเพิ่มแน่ๆ “ไม่กลัวร้อนเหรอเบบี๋ ถึงใส่กางเกงขาสั้นมาน่ะ” “ไม่กลัวหรอกค่ะ แล้วนี่จะพาไปไหนเหรอคะ” หนูดีถามอย่างอยากรู้ เพราะลูอิสเล่นไม่บอกอะไรเธอเลย “หนูอยากไปไหนล่ะ บอกป๋ามาได้เลยเดี๋ยวจะพาไปทุกที่เลย แต่ถ้าถามความคิดเห็นคุณป๋าก็ไปบ้านคุณป๋าจะได้ไม่ร้อน” “หนูไม่ไปหรอกค่ะบ้านคุณป๋าน่ะ หนูจะไปจตุจักรอยากไปเดินซื้อของ ถ้าไม่ไปก็จอดรถหนูจะไปเอง” เธอคิดว่านักธุรกิจใหญ่อย่างเขาไม่น่าจะไปเดินในสถานที่ร้อนๆ อย่างนั้นได้ เลยพูดออว่าอยากจะไปที่นั่น “ไม่มีปัญหาหนูอยากไปที่ไหนคุณป๋าก้จะไม่ขัด” ลูอิสรู้ทันความคิดคนตัวเล็ก คิดว่าเขาจะเดินที่ร้อนๆ ไม่ได้ อย่าหวังว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ ไม่มีทางซะหรอก จตุจักรในวันหยุดแบบนี้ ทำให้มีผู้คนมาเดินเลือกซื้อของกันมากมายทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ ในมือของหนูดีนั้นถือพัดเอาไว้คลายความร้อนให้ตัวเอง มืออีกข้างก็ถูกมือใหญ่กุมเอาไว้มั่นสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่หลุด เลยต้องปล่อยเลยตามเลย ร้านแรกที่หนูดีพาลูอิสเดินเข้าก็คือร้านขายเสื้อผ้า มือบางไล่ดูเสื้อที่แขวนเอาไว้บนราวอย่างสนใจ เมื่อเจอตัวที่ถูกใจก็หยิบออกมาทาบที่ตัว แต่ก็ถูกมือใหญ่แย่งเอาไปเสียก่อน ทำให้เด็กสาวนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ “หนูชอบตัวนั้นนะคะ เอามาให้หนูเดี๋ยวนี้นะ” หนูดีแบมือขอคืน กลัวว่าถ้าตาแก่ตัวโตเอาไปแขวนไว้ที่เดิมคนที่กำลังเลือกกันอยู่จะเอาไปเสียก่อน “คุณป๋าไม่ให้ซื้อ เป็นเด็กเป็นเล็กจะมาใส่เสื้อกล้ามได้ยังไง” เรื่องอะไรจะยอมให้เบบี๋ของเขาใส่เสื้อกล้ามเดินโชว์คนอื่นกันล่ะไม่มีทางซะหรอก “เป็นเด็กเป็นเล็กมันเกี่ยวอะไรกัน หนูจะซื้อไปใส่นอน เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะจะไปจ่ายเงิน” คนบ้านี่จะมากะเกณฑ์อะไรเธอนักหนา รู้ว่าเธอยังเด็กอยู่ยังจะมายุ่งด้วยอีก ที่อย่างนี้ไม่เห็นจะว่าตัวเองเลย ไม่ยุติธรรมสักนิด “ถ้าซื้อใส่นอนคุณป๋าก็ไม่ว่าแต่ถ้าซื้อใส่ออกนอกบ้านคุณป๋าไม่ยอม” ลูอิสไม่คืนแต่เดินเอาเสื้อตัวปัญหาไปจ่ายเงินให้แทน “อยากป๋านักก็เป็นคนออกให้หมดเลยละกันนะ” หนูดีย่นจมูกใส่คนที่ยืนจ่ายเงินค่าเสื้อให้เธออย่างหมั่นไส้ “คุณป๋าร้อนมากเลยทูนหัว เราไปหาร้านกาแฟนั่งพักกันก่อนดีกว่า” เขาน่ะยังทนได้แต่สงสารคนตัวเล็กข้างกายมากกว่า ตอนนี้หน้าแดงไปหมดแล้วแต่ก็ยังอยากเดินต่อ อากาศร้อนจัดแบบนี้ไม่เหมาะแก่การเดินกลางแจ้งเลยสักนิด “แต่เราพึ่งจะเดินกันได้แปปเดียวเองนะคะ” แม้จะร้อนแต่ก็ยังอยากที่จะเดินต่อ แต่ลูอิสส่ายหน้าไม่ยอม “ไม่ได้ตอนนี้หนูหน้าแดงไปหมดแล้ว อยากเดินเดี๋ยวคุณป๋าจะพาไปเดินช็อปต่อในห้าง เดินตากแดดร้อนๆแบบนี้จะไม่สบายเอา” ลูอิสไม่รอให้คนตัวเล็กพูดหาข้อ้างเพื่อที่จะได้เดินต่ออีก เขารีบจูงมือบางฝ่าฝูงชนออกไปทันที ไม่หาแล้วที่นั่งตัดสินใจรีบออกไปก่อนที่คนจะเยอะมากกว่านี้ดีกว่า มันไม่คุ้มที่จะต้องมาทนร้อนและเบียดกับผู้คนมากมายขนาดนี้ “ไหนว่าจะหาร้านนั่งไงคะ ทำไมเดินมาที่จอดรถละ” หนูดีหน้างอเมื่อจะโดนพากลับเธอยังเดินไม่จุใจเลย มากับคนแก่ไม่เหมือนมากับเพื่อนเลยสักนิด “คุณป๋าเปลี่ยนใจพาไปเดินห้างดีกว่า” ลูอิสเปิดประตูรถดันร่างเล็กหน้าตูมเข้าไปนั่ง “มาเที่ยวกับคนแก่ไม่เห็นสนุกเลย” เสียงเล็กบ่นหงุงหงิง “มาเที่ยวกับคุณป๋าเนี่ยดีที่สุดแล้ว อยากได้อะไรก็ได้ แถมยังบริการดีอีกต่างหาก แล้วอีกอย่างวันนี้ว่าคุณป๋าไปกี่รอบแล้ว อย่างนี้ต้องทำโทษให้หลาบจะคราวหน้าคราวหลังจะได้ไม่กล้าพูดอีก” ลูอิสคว้าคอเล็กเข้ามาใกล้ๆ แล้วจูบปิดปากเล็กๆ ที่ช่างว่านั้นอย่างหนักหน่วง “ทีนี้จะพูดว่าคุณป๋าแก่อีกไหม หืม ถ้าพูดอีกก็จะจูบอีก” ลูอิสถอนริมฝีปากออกมาแล้วใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆ ที่ปากบวมแดง “ฉวยโอกาส รับว่าตัวเองแก่ไม่ได้ก็เลยหาวิธีมาลงโทษเขา” หนูดีดันหน้าคมออกห่าง เบือนหน้าแดงๆ ออกไปมองนอกกระจกแทน “อ๊ะๆ” พอคำว่าแก่หลุดออกมาลูอิสก็ดึงแขนเด็กสาวให้หันกลับมารับจูบอีก ครั้งนี้มันนานมากกว่าครั้งแรก กว่าคนแก่จะยอมปล่อยหนูดีก็แทบจะหมดลมหายใจ “พอแล้วค่ะหนูหายใจไม่ทัน อื้อ ปล่อย หนูไม่พูดแล้วค่ะคุณป๋าขา” เด็กสาวมุดหน้าเข้าหาอกกว้างเพื่อหลีกเลี่ยงปากร้อนๆ ลมหายใจของหนูดีหอบสะท้านจนลูอิสต้องลูบหลังปลอบประโลม เสียงหัวใจตึกตักจนเขารู้สึกได้ “หึ หึ” ลูอิสยิ้ม กดจมูกลงบนกลุ่มผมหอม แล้วเคลื่อนรถออกทั้งที่ในอ้อมแขนยังคงมีคนตัวเล็กที่ซุกหน้าอยู่กับอกของเขา สงสัยจะเขินจัดเลยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลย ลูอิสพาเบบี๋ของเขามาเดินห้างตามที่ได้บอกไว้ มาถึงก็พาไปทานอาหารก่อนเป็นอันดับแรกเลย เพราะเขาเริ่มหิวแล้ว หลังจากนั้นก็พาไปซื้อข้าวซื้อของให้ทั้งที่หนูดีปฏิเสธว่าไม่อยากได้อะไร และตอนนี้ทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายจิวเวอร์รี่ “สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าต้องการแบบไหนคะ ทางร้านเรามีสินค้าเข้ามาใหม่หลายชิ้นเลยนะคะ” พนักงานสาวแนะนำสินค้าตัวใหม่ให้กับลูอิสและหนูดี “หนูชอบแบบไหน” ลูอิสถามคนตัวเล็กที่ยืนกดโทรศัพท์เล่น ไม่มีทีท่าจะสนใจของสวยงามตรงหน้าเลยสักนิด ถ้าเป็นคนอื่นคงดี๊ด๊าไปแล้ว “ไม่ชอบไม่อยากได้ อยากกลับบ้านแล้ว” หนูดีจะหมุนตัวเดินออกจากร้านแต่ถูกคว้าเอวเอาไว้ก่อน “ไม่เลือกเองงั้นคุณป๋าเลือกให้นะ” ลูอิสมองสิ่งแวววาวที่สะท้อนอยู่ในตาอย่างครุ่นคิด แล้วก็ชี้นิ้วไปที่สร้อยคอที่มีจี้รูปหัวใจล้อมเพชรดวงเล็กน่ารักๆ พนักงานเลยรีบนำออกมาให้ดู “สร้อยเส้นนี้พึ่งเข้ามาวันนี้เลยนะคะ คุณพ่อจะลองสวมให้คุณลูกสาวดูก่อนก็ได้นะคะ” พนักงานสาวยิ้มให้ทั้งคู่ หนูดีถึงกับหัวเราะคิก เมื่อพนักงานคิดว่าเธอกับลูอิสเป็นพ่อลูกกันเลยเล่นตามน้ำไปอย่างนึกสนุก แต่คนที่ไม่สนุกด้วยยืนหน้าบึ้งมองเธอกับพนักงานสาวตาขวาง “ป๊ะป๋าลองสวมให้หนูดูหน่อยสิคะว่าจะเข้ารึเปล่า” หนูดีรวบผมขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวผ่อง รอให้ป๊ะป๋าจำเป็นใส่ให้ “ลองได้เลยค่ะคุณพ่อ” พนักงานก็เชียร์ให้ลองใหญ่เผื่อถ้าลูกค้าลองใส่แล้วชอบเธอก็จะได้ค่าคอม ไม่สนใจว่าลูอิสจะมีสีหน้าบูดบึ้งแค่ไหน ลูอิสหยิบสร้อยขึ้นมาสวมใส่ให้แต่เขาไม่ได้สวมให้อย่างเดียว ยังกดจูบลงบนต้นคอขาวๆ อย่างมันเขี้ยวจนเกิดรอยแดง “ขอโทษนะครับ ผมไม่ใช่พ่อแต่เป็นผัว ทีหลังก็อย่าคิดเองเออเองอีกนะครับ ตกลงผมเอาเส้นนี้คิดเงินเลย” บัตรเครดิตถูกยื่นให้กับพนักงานที่ยืนยิ้มให้เขาอย่างแหยๆ ส่วนเบบี๋ของเขาก็มองค้อนเสียตาคว่ำ เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็รีบเขาออกมาจากร้านทันที"คิดเรื่องลูกของเราอยู่ค่ะ คุณป๋าอยากมีลูกผู้หญิงอีกสักคน หนูว่ายังไงคะ พร้อมที่จะมีให้คุณป๋ารึยัง ลูกสาวเราต้องน่ารักมากแน่ๆ เชื่อสิ" ลูอิสพูดเสียงนุ่ม เอียง หน้าจูบกระหม่อมเมียที่ยื่นหน้าเข้ามาหา "หนูเชื่อค่ะว่าลูกสาวเราต้องน่ารักมากๆ ไว้รอให้บาสเตียนโตขึ้นอีกหน่อยนะคะ ตอนนี้ลูกชายเรายังเล็กอยู่เลย เราควรทิ้งระยะห่างนะคะ อย่าเพิ่งรีบทําให้ท้อง หนูไม่ว่างสิคะคุณป๋า แต่รับรองว่าหนูจะมีลูกสาวที่น่ารักๆ ให้คุณป๋าอย่างแน่นอนไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้ขอแค่เวลาเท่านั้น" หนูดีปล่อยแขนลงแล้วขยับตัวมายืนเคียงข้างสามี เธอต้องการจะมีลูกเพิ่มอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าการเป็นลูกคนเดียวมันเหงาแค่ไหน การมีลูกหลายๆคนยามแก่ชราชีวิตคงไม่เงียบเหงา นี่แหละคือสิ่งที่ปรารถนายามเธอแก่ตัวลง "อืม ก็ไม่ได้บอกว่าจะมีเลยสักหน่อย แต่ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจ ก่อนหน้านี้คิดว่าหนูจะไม่ยอมมีลูกสาวตัวเล็กๆ ให้คุณป๋าได้ชื่นใจเสียแล้ว" รอยยิ้มกระจายเต็มใบหน้าหล่อ มือที่โอบอุ้มลูกชายยกร่างเล็กขึ้นหอมฟอดใหญ่ "แอ้ แอ้" ประท้วงเล็กๆ ก่อนจะยิ้มหัวเราะจนปากบานมองเห็นเหงือกใสๆ พลอยทําให้ป๊ะป๋ากับคุณแม่ยังสาวหัวเราะตามไปด้วย "ลูก
หนูดีทําอาหารอยู่ในครัว บนร่างกายสวมชุดนอนสีแดงสดสั้นจู๋โชว์หน้าอกล้นหลามกับเรียวขาขาวผ่อง เท้าบางสวมรองเท้าส้นตึกสีเดียวกับชุดยืนอยู่หน้าเตา เรียวขาแยกกว้างด้านหลังมีสามีสุดที่รักกําลังยืนซบแหย่นิ้วเข้ากับร่องหลืบของเธอไม่ว่าจะขยับกายไปทางไหนก็ตามเกาะตลอด "คุณป๋าเอานิ้วที่ยัดอยู่ในร่างกายหนูออกไปก่อนได้ไหมคะ ใส่ไว้อย่างนี้มันเสียวนะคนบ้า ไหนบอกว่าหิวข้าวไงคะ ถ้าหิวก็เอาออกจะได้รีบทําข้าวเช้าให้ทาน" หนูดีกระทุ้งข้อศอกใส่หน้าท้องแกร่ง ตื่นเช้ามาก็โดนจัดไปแล้วชุดใหญ่ พอสายเข้าหน่อยก็ร้องหิวแล้วยังบังคับให้ใส่ชุดนอนกับรองเท้าส้นตึกทําอาหารอีกต่างหาก ตั้งแต่มดลูกเข้าอู่นี่เธอก็ไม่เคยได้ว่างเว้นจากเรื่องนี้เลย ต้องเลี้ยงลูกสลับกับเอาใจสามีที่มีความต้องการอันมากล้น บ่นก็หาว่าไม่รักผัว พอไม่บ่นก็ได้ใจใหญ่ งานการก็ไปทำแป๊บๆ เผลอหน่อยเดียวก็กลับบ้านมาเลี้ยงลูก กล่อมลูกหลับก็มากล่อมเธอต่อจนไร้เรี่ยวแรงแทบทุกวัน วันหยุดเป็นไม่ได้ต้องกระเตงลูกกันมาคอนโด ไม่ใช่อะไรหรอก พามาทําหื่นโดยที่ไม่มีใครคอยมารบกวนนอกจากลูกชายตัวน้อย "อือ ก็ทําไปสิคนสวย หนูอยู่ในชุดนี้ตอนทําอาหารโคตรเซ็กซี่เลยรู้ไหมเ
"ได้ทีแกล้งผัวใหญ่เลยนะเบบี๋ ไม่กลัวโดนถล่มหนักจนสลบคาอกคุณป๋าเหรอจ๊ะเมียจ๋า" ลูอิสจ้องแก่นกายในมือนุ่มเขม็ง ร่างกายสมบูรณ์แบบเกร็งเครียดไปทั้งตัว เขาห่างเหินมานานสําหรับกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับเมีย พอโดนกอบกําเต็มอุ้งมือเล็กอย่างนี้ก็แทบจะทนไม่ไหว "โดนถล่มไม่กลัว แต่กลัวจะไม่โดนถล่มมากกว่าขืนชักช้าเราอาจจะอดก็ได้นะคะคุณป๋า" คุณแม่คนสวยขยิบตา คลึงเคล้าท่อนเนื้อในมืออย่างผ่อนคลายต่าง จากสามีสุดที่รักสิ้นเชิง ความอายสูญสิ้นไปนานแล้ว ตอนนี้มีเพียงแรงปรารถนาเพียงอย่างเดียว ต้นขาอวบแบะกว้างระหว่างรูดแก่นกาย ประกายตาเจิดจ้ายามเล่นกับสิ่งที่สร้างความสุขและความทรมานให้แก่เธอไปพร้อมๆ กัน ปลายลิ้นอมชมพูกวาดเลียรอบปาก ก้มหน้าลงตํ่าเท่ากับปลายหัวชี้โด่ แล้วขยับลงไปอีกนิดจนแท่งร้อนผ่าวกระแทกริมฝีปาก "โอ้วว เบบี๋ของผัว จัดการมันให้สยบอยู่ในปากหนูเลยค่ะ เอาลิ้นเล็กๆ กับปากน้อยๆ ของหนูทํารักให้กับคุณป๋าที" ลูอิสแอ่นสะโพกไปข้างหน้าจนแก่นกายติด กับเรียวปากสีสด "อืม หนูคงช่วยคุณป๋าได้เท่านี้แหละค่ะ ให้ทํามากกว่านี้คงไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากกินไอติม" หนูดียิ้มหวานแล้วปล่อยมือที่กํารอบความแ
ในวันนี้คุณหมอได้นัดตรวจสุขภาพของคุณแม่ลูกอ่อนกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลังจากตรวจทุกอย่างเรียบร้อย ด้วยความที่ขี้เกียจฝ่าการจราจรบนท้องถนน กลับบ้าน ป๊ะป๋าสุดหล่อเลยรถเลี้ยวเข้าคอนโดแทน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเด็กชายบาสเตียนมีครบทุกอย่างเหมือนกับที่บ้านเป๊ะ เพราะหากวันใดที่ต้องมาค้างที่คอนโดจะได้ไม่ต้องเตรียมมาจากบ้านให้ยุ่งยาก และในตอนนี้สามคนพ่อแม่ลูกก็นอนเล่นกันอยู่ที่พื้นหน้าโซฟาของห้องนั่งเล่น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ชวนลูกน้อยไร้เดียงสาคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งความหิวโหยเข้ามาเยือน หนูดีจึงอุ้มลูกเข้าเต้าให้ดื่มกินแหล่งอาหารชั้นเลิศ สายตาของป๊ะป๋ารูปหล่อก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมองตามตาละห้อย กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คลอเคลียอยู่แถวบริเวณเหนือหน้าอก ใช้ปากแตะผิวเนื้ออ่อนตรงเต้าข้างที่ลูกชายดูดสลับกับหอมแก้มนุ่มๆ ของลูกไปด้วย หลังจากที่ได้ชิมรสชาติของน้ำนมจากอกเมีย ทุกๆ คืนเขาก็จะต้องกินต่อจากลูก และยังช่วยลดอาการคัดเต้าของเมียเด็กได้เป็นอย่างดี เบบี๋ตัวน้อยเลยไม่ค่อยบ่นสักเท่าไหร่ เพราะตัวเองก็ไม่ต้องทรมาน "เบบี๋จ๋าหนูได้ยินที่คุณหมอพูดแล้วใช่ไหมคะ มดลูกของหนูเข้าอู่ดีแล้ว ด
"ไหลก็ไหลสิคะ เดี๋ยวคุณป๋าจัดการเอง จะดูดไม่ให้เหลือสักหยดเลยคอยดู" ลูอิสดึงชุดนอนเกาะอกสีขาวลง น้ำนมที่ไหลออกมาจากยอดอกบวมเป่งอยู่ตรงหน้า สายตาวิบวับจ้องมองอย่างสนใจ "ทําอย่างนั้นไม่ได้นะ เดี๋ยวลูกร้องหิวขนึ้มาจะยุ่ง อื้อคุณป๋าบาสเตียนติดเต้า อ๊า อย่าแตะมัน หนู หนูเสียว ยะ...อย่า อ๊ะ เจ็บ อย่าดูดแรง" เสียงหวานครวญครา คิ้วเรียวมุ่นขมวดเข้าหากันแน่น ปลายเล็บจิกลงบนบ่า แกร่งด้วยความทรมาน เมื่อถูกครอบครองยอดอก น้ำนมไหลออกจากเต้าทะลักทลาย อีกข้างก็ถูกบีบจนไหลพุ่งออกมาเป็นสาย คุณแม่บางคน้ำนมก็แทบจะไม่มีให้ลูกได้ดูดกินจากเต้า แต่สําหรับเธอนั้นมากพอที่จะให้ลูกกินได้สบายๆ แล้วตอนนี้สามีตัวดีก็กําลังแย่งลูกกิน แถมยังบีบเล่นจนไหลเปรอะเปื้อนตามร่างกายทั้งของเขาและเธอ "อื้ม อร่อยจังเมียจ๋า วิเศษเป็นบ้าเลย ปกติเวลาดูดว่าอร่อยแล้ว แต่พอมีนมไหลออกมาแบบนี่ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่ โอ คุณป๋าแข็งไปหมดแล้วเบบี๋ อ่า อยากให้มัน ไหลตลอดไปจริงๆ เลย พระเจ้ามันเยี่ยมจริงๆ นะ" ลูอิสพึมพําอย่างถูกใจ บีบเต้าอวบพร้อมกันสองข้างจนน้ำมันพุ่งใส่หน้าเขาพร้อมกัน "คุณป๋าจะสนุกเกินไปแล้วนะคะ อ๊ะ อย่าบีบนมเล่นแบบนี้สิคนบ
ก่อนหน้าจะครบเก้าเดือนกิจกรรมบนเตียงระหว่างคู่รักก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ขนาดว่าท้องโตขึ้นคุณป๋าของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดความหื่นลง จนย่างเข้าสู่เดือนที่แปดหนูดีก็ขอร้องให้ยุติเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อลูก ลูอิสก็ต้องยอมจํานนเก็บความต้องการฝังลึกลงไปใต้ดิน รอเวลาทบต้นทบดอกหลังเมียคลอดลูกแล้ว พอถึงกําหนดคลอดหนูดีก็ต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรอเวลาที่ปากมดลูกจะเปิดกว้าง วิธีที่เธอเลือกคลอดเป็นวิธีธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาสามีสุดหล่ออย่างลูอิสก็ได้เข้าไปให้กําลังใจจนชิดขอบเตียง จับมือเมียแน่นคอยลุ้นจนหน้าซีดอยู่ตลอดเวลา พอเมียรักเบ่งลูกออกมาสําเร็จปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก คุณป๋าผู้แข็งแกร่งก็ถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้นทันที พยาบาลที่อยู่ในนั้นเลยต้องรีบปฐมพยาบาลเป็นการด่วน อยู่โรงพยาบาลได้ไม่กี่วันหนูดีกับลูกก็ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านโดยมีลูอิสคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง บางครั้งลูเซียสก็หวังดีจะมาช่วยดูแลบ้าง แต่คนหวงลูกหวงเมียไม่ยอมให้ช่วย จัดการทําเองแทบทุกอย่าง ถ้าให้นมลูกได้เขาก็คงให้ไปแล้ว แต่ติดที่ว่าเขาไม่มีน้ำนมจะให้ลูกกิน "ลูกแม่ทานนมเก่งจังเลยค่ะ บาสเตียนชอบใช่ไหมคะ" คุณแม่ยังสาวอ้มุลูกชายวัยแ