LOGINมือเล็กบีบที่มือเขาแน่นยามที่คุณหมอของอนามัยในหมู่บ้านแตะสำลีชุบแอลกอฮอล์ลงบนแผลที่หน้าผาก รามิลจับมือเธอเอาไว้เหมือนกัน คอยก้มมองคนตัวเล็กที่หลับตาแน่น ดูท่าแล้วอีกคนคงจะเจ็บมาก แล้วนั่นมันก็ยิวทำให้เขาโมโหเข้าไปใหญ่
"เจ็บมากหรอครับ?"
"อื้ม เจ็บ"
"เดี๋ยวต้องเย็บแผลนะคะ" ดวงตากลมโตขึ้นหลังคุณหมอบอก รามิลแอบยิ้มขำในตอนแรกแต่ใบหน้าน่ารักที่หันมามองด้วยแววตาขอความช่วยเหลือทำให้ต้องแตะมือที่แก้มนิ่มเพื่อปลอบเธอ
"ไม่เย็บได้ไหมคะ?"
"ยังไงก็ต้องเย็บค่ะ แค่ไม่กี่เข็มเอง"
"พี่รามิล...."เสียงเรียกชื่อเขาดึงขึ้นอย่างกับจะบอกให้ขอร้องคุณหมอให้
"ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่นี่" นั่งลงบนเตียงกอบกุมมืออีกคนเอาไว้ตามแน่นขึ้น พยักหน้าบอกคุณหมอให้ได้ทำตามหน้าที่ เอื้อมมือข้างนึงไปลูบแก้มอีกคนไปมาไว้ให้เธอผ่อนคลาย ยามที่เข็มทิ่มลงไปมือที่เขากอบกุมอยู่ก็ยิ่งบีบแน่น
"เจ็บอ่ะ" หยดน้ำใสเริ่มไหลงลงมาอย่างช้าๆจนเขาต้องเกลี่ยออกให้ ไม่นานคุณหมอก็ทำแผลที่หน้าผากเสร็จ ข้อเท้าถูกพันผ้าแก้ปวดเอาไว้ให้ด้วย
รามิลให้คนตัวเล็กนั่งรอเพื่อรับยาจากหมอมาให้แล้วฟังรายละเอียดเวลาทานอยู่สักพัก หันไปอีกทีข้าวหอมก็นั่งหลับพิงเสาอยู่ เดินมาหาทั้งอมยิ้ม สงสัยคงจะเพลียมาก ช้อนตัวอีกคนขึ้นอุ้มแล้วเดินไปส่งที่บ้านพักฝั่งผู้หญิง
"ข้าวหอมเป็นไงบ้างคะพี่รามิล" ปลายฟ้าถามแล้วช่วยรามิลประคองให้ข้าวหอมนอนลง ผ้าห่มดึงมาคลุมกายให้เพื่อนตัวเล็ก นิรินยังยืนกอดอกมองรุ่นพี่ที่ทำให้เพื่อนเธอเป็นแบบนี้อย่างหงุดหงิด
"หมอเย็บแผลให้แล้วแหละ"
"มิ้นท์ เราขอคุยด้วยหน่อย" หันไปพูดกับตัวการที่ยืนอยู่ตรงมุมห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแล้วเดินนำออกไปก่อน
"เราไม่ได้ทำนะมิล" ไม่ทันได้หยุดยืนกันให้ดีเสียงพูดก็ดังไล่หลังมา รามิลหลับตาข่มตาแล้วพรูลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย เมื่อไหร่อีกคนจะเข้าใจสักทีว่าไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงในตัวเขา
"คิดว่าเราจะเชื่อหรอ ก็เห็นอยู่"
"มิลไม่เห็นด้วยตาตัวเองสักหน่อย น้องมันจะพูดอะไรก็ได้อ่ะ"
"แต่ข้าวหอมไม่ใช่คนโกหก" น้ำเสียงหนักแน่นพูดแล้วหันไปมองผู้หญิงทึ่ยืนอยู่ด้านหลังเขา รามิลรู้จักกับคนตัวเล็กมาสักระยะและมั่นใจว่าอีกคนไม่ได้มีนิสัยโกหก แถมทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยืนยันไปในทางเดียวกันหมด แต่เพื่อนเขาก็ยังเลือกจะพูดโกหกป้ายความผิดให้ข้าวหอมว่าอาจจะกำลังไม่พูดความจริงอยู่
"ระหว่างมิลกับน้องนี่ยังไงกันแน่" จับแขนรามิลแล้วถามสิ่งที่ต้องการรู้ ถึงอย่างนั้นเธอมองว่าผู้หญิงอีกคนไม่เหมาะที่จะได้รามิลของเธอไปสักนิด คนตรงหน้าควรจะเป็นของเธอ ถ้าข้าวหอมไม่เข้ามาระหว่างเธอและเขามันอาจจะพัฒนาไปมากกว่านี้ก็ได้
"จะยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่มิ้นท์ต้องรู้ แล้วก็อย่ามาทำแบบนี้อีก เราบอกแล้วว่าเราไม่ชอบ" สะบัดแขนที่เกาะเขาอยู๋ให้ออกห่างแล้วเดินออกไปอย่างนึกรำคาญ ไม่ได้สนใจเสียงเรียกชื่อเขาที่ดังไล่หลังมา
"พี่จะปล่อยไปหรอพี่มิ้นท์ มันมายุ่งกับพี่มิลของพี่นะ" นะโมเดินเข้ามาหาพี่สาวหลังจากเห็นว่ารามิลเดินไปแล้ว ประโยคที่เธอพูดยิ่งฉุดให้อีกคนโมโหจนกำมือแน่น
"พี่ไม่มีวันให้ใครได้มิลไป โดยเฉพาะนังเด็กนี่"
"ข้าวหอมละ?" รามิลเดินมาถามปลายฟ้าที่ยืนเตรียมตัวทำกิจกรรมของค่ายอาสาต่อ เขาไม่ได้เจอคนตัวเล็กตั้งแต่เมื่อวานเย็น มีแค่ยี่หวาที่มาเอาอาหารสำหรับมื้อเย็นไปให้เพื่อนเพราะบอกว่าอีกคนเดินลุกไม่ไหว เดิมทีเขาคิดว่าเช้าวันนี้คงได้เจอเลยไม่อยากเข้าไปเจอตอนที่กำลังพักผ่อน
"ข้าวมีไข้ค่ะ ยี่เอาข้าวกับยาไปให้แล้วพึ่งนอนหลับไป" ยี่หวาเดินกลับมาพร้อมถาดข้าวในมือ
"มีไข้หรอ?" ขมวดคิ้วแล้วถามย้ำกับไปอีกรอบ แสดงว่าแผลที่หัวคงจะอักเสบ แต่ทำไมไม่มีใครบอกเขาตั้งแต่เมื่อวานนะ
"แต่วันนี้เราต้องเดินป่าอ่ะ น้องจะอยู่กับใครว่ะ"ทิวเขาหันไปตั้งคำถาม แพลนวันนี้รุ่นพี่รุ่นน้องต้องเข้าไปทำกิจกรรมในป่า ซึ่งลุกจักรกับชาวบ้านหลายคนเป็นคนนำทางไปด้ย แบบนี้ที่บ้านพักก๋็จะไม่มีใครอยู่ แล้วคนป่วยจะดูแลตัวเองได้ยังไง
"ก็ให้เพื่อนคนใดคนหนึ่งอยู๋ไปสิ" มิ้นท์เสริมขึ้นมาอย่างไม่ชอบใจ ดูก็รู้ว่านังเด็กนี่ตั้งใจอ่อยรามิลของเธอ แล้วดูเหมือนคนตัวสูงก็จะตกหลุมพรางด้วย
"ไม่ต้อง เราสามคนเข้าไปทำกิจกรรมเถอะ ปีหนึี่งต้องมีคะแนนกับรูปกิจกรรม เด๊่ยวพี่อยู่ดูข้าวหอมให้เอง" รามิลพูดแล้วมองคนที่กำลังแสดงอาการไม่พอใจเขา
"รบกวนพี่รามิลรึเปล่าคะ?" ใบหน้าเกรงใจของปลายฟ้าส่งมาจนเขาต้องส่ายหัว ยังไงเขาเองก็อยากอยู่ดูแลอีกคนด้วยตัวเองให้มั่นใจว่าจะไม่เป็นอะไรหนักไปกว่านี้
"ไม่หรอก เดี๋ยวพี่ดูแลเอง"
เสียงบานประตูเปิดเข้ามาแต่คนนอนหลับม่มีทีท่าว่าจะตื่น รามิลนั่งลงข้างคนตัวเล็กแล้วใช้หลังมือแตะที่หน้าผากก่อนเลื่อนมาที่คอ ไอร้อนแผ่ออกมาจนเขารู้สึกถึงมันได้ ใบหน้าอีกคนซีดเซียวแถถมยังมีเม็ดเหงื่อปะปลายผุดตามขมับด้วย บิดน้ำออกจากผ้าที่เขาเตรียมมาด้วยให้พอหมาดแล้วเช็ดซับไปตามใบหน้าหวังให้ความร้อนระบายออกมาบ้าง
"พี่รามิลหรอ" เสียงแหบถามขึ้นมาก่อนคนตัวเล็กจะลืมตามามองเขา
"พี่เองครับ ตัวร้อนมากเลยนะ"
"ไม่ได้ไปเดินป่ากับคนอื่นหรอ?"
"ถ้าพี่ไปแล้วใครจะดูแลข้าวละ ปวดหัวรึเปล่า"เพราะใบหน้าทรมานทำให้เขาอดที่จะถามไม่ได้ มือบางยกขึ้นจับหัวตัวเองแล้วสะบัดหัวไปมาไล่อาการปวดให้คลายลง
"นิดหน่อย ปวดตรงแผลมากกว่า" รามิลส่งมาไปลูบผ้าก็อตปิดแผลแผ่วเบาราวกับกำลังพยายามช่วยให้เธอหายดี
"คงจะอักเสบ เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้ ไข้จะได้ลดลงหน่อย"เช็ดซํบไปตามใบหน้าไล่ลงมาที่คอขาว ถกเสื้อยืดที่เธอใส่นอนขึ้นแล้วล้วงมือเช็ดด้านในให้ ก่อนจะเอาแต่มองจ้องหน้าท้องขาวแบนราบไม่ละสายตาไปไหน
"เลิกมองด้วยสายตาลามกเลยนะ" ข้าวหอมท้วงขึ้นมาทันทีที่เห็นสายตาไม่น่าไว้ใจจากอีกคน ทำไมเอาแต่คิดถึงเรื่องพวกนี้ได้ตลอดเวลาก็ไม่รู้ทั้งที่สภาพเธอตอนนี้ไม่เห็นจะน่าอยากทำอะไรอย่างว่าตรงไหน
"รู้ทันตลอด" ยิ้มขำแล้วดึงเสื้อเธอลงมาปิดอย่างเก่า หันเอาผ้าไปวางไว้ในกาละมังแล้วมองคนที่ยังมองเขาไม่ละสายตาไปไหน เหมือนจะระแวงว่าเขาจะทำอะไรรึเปล่านะ
"หัวพี่ก็คิดแต่เรื่องแบบนี้" จิ๊ปากแล้วมองค้อนใส่ ถึงจะป่วยแต่ก็ไม่ยอมให้มาฉวยโอกาสหรอกนะ
"ก็มันน่าคิด"
"สภาพนี้เนี่ยนะน่าคิด พี่นี่โรคจิตป่ะ" หัวเราะออกมากับคำพูดเธอทันทีที่ได้ยิน ก็ออกจะดูโรคจิตไปหน่อยแต่ว่าพูดจริงทั้งนั้น ก็ไม่รู้ว่าทำไมมองทีไรก็อยากจับฟัดมันทุกที ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้คิดว่าจะน่ารักขนาดนี้นี่นา
"มาอยู่กับข้าว แฟนพี่ไม่ว่าหรอไง"
"ใครครับ?" ได้แต่ขมวดคิ้วแล้วตั้งคำถาม ไม่เห็นจะรู้เลยว่าเขาไปมีแฟนตอนไหนอีก
"ก็พี่มิ้นท์ไง"
"ไม่ใช่แฟนสักหน่อย" ปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดออกไปทันที ปากเล็กยู่ลงแล้วพูดมุบมิบอยู่คนเดียว
"นัวกันขนาดนั้นยังไม่ใช่แฟนกันอีก"
"นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก" รามิลเอื้อมมือไปลูบหัวคนนอนป่วยอยู่ ตอนแรกก็กังวลอยู่ว่าจะต้องคุยเรื่องนี้ยังไง พอเกิดเรื่องเลยคิดว่าคนตัวเล็กคงลืมไปแล้ว แต่เขาคิดผิด เธอยังจำมันได้ดี
"ใครจะไปลืมละ"คนตัวเล็กพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งจนเขาต้องรีบเข้าไปประคอง
"นัวกันก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นแฟนกันสักหน่อย ข้าวกับพี่นัวกันก็ไม่ได้เป็นอะไรกันหนิ" จู่ๆก็เหมือนใจจะกระตุกวูบจนปวดหนึบไปหมด แต่มันก็ไม่ได้ผิดไปจากรามิลพูดสักนิด
เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ต่อให้เป็นของกันและกันกี่ร้อยรอบก็ยังไม่ได้สถานะอะไรอยู่ดี แบบนี้สถานะของเธอกับมิ้นท์ก็คงจะเหมือนกันใช่ไหม มีค่าแค่เรื่องบนเตียง แต่ก็ไม่ได้สำคัญอยู่ดี สักวัันหนึ่งรามิลอาจจะแสดงอาการเบื่อเธอ เหมือนที่ทำกับรุ่นพี่สาวสวยอยู่ตอนนี้ก็ได้
คางมลของคนก้มหน้าถูกรามิลเชยขึ้นมาหา ลูบเรียวคิ้วที่ขมวดกันอยู่ให้คลายลง จูบที่ริมฝีปากบางไปหนึ่งทีแล้วอมยิ้ม
"ถึงจะไม่มีสถานะ แต่สำคัญที่สุด รู้ตัวอยู่ใช่ไหม"
"ไม่รู้หรอก"
"แล้วทำยังไงถึงจะรู้ละ" สบตากับคนที่พูดสวนเขามาแล้วถามออกไปอย่างอยากรู้ ก็ถ้าทำขนาดนี้แล้วไม่รู้อีก เขาต้องทำยังไงละ
"เลิกยุ่งกับพี่มิ้นท์ได้ไหมละ"
"อืมมมม"
"พี่คิดนานอ่ะ" ขำหึในลำคอแล้วบีบจมูกรั้นของคนทำหน้างอนใส่กันอยู่
"ตามบัญชาครับน้องข้าวหอม"
ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา
รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้
รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง







