LOGIN@วันประกวดดาวเดือน
ข้าวหอมมองตัวเองผ่านกระจกนิ่ง เสียงเอ่ยชมจากช่างแต่งหน้สที่รามิลหามาให้กับเพื่อนสาวคนสนิทดังขึ้นมาไม่ขาดปาก นิรินเดินมาหาแล้วหมุนตัวเธอสำรวจ วันนี้จะยอมให้วันหนึ่งก็แล้วกัน ปกติเพื่อนตัวเล็กไม่เคยแต่งตัวแบบนี้มาก่อน วันนี้ก็เลยดูสวยเป็นพิเศษ
"พี่รามิลเลือกเก่งนะ ทั้งชุดทั้งรองเท้า แกใส่แล้วสวยมากเลย" ยี่หวาพูดพลางพิจารณาทั้งร่างกายของเพื่อนไปด้วย ดูแล้วรุ่นพี่ตัวสูงน่าจะเทสดีมาก หรือไม่ก็คงทำแบบนี้กับสาวๆบ่อย
"เดี๋ยวฟ้ากับยี่ออกไปรอข้างนอกนะ ข้าวกับนิไม่ต้องตื่นเต้นละ"
"ชั้นอ่ะไม่อยู่แล้ว แต่ไอข้าวนู่น ยังไม่ขึ้นเวทีก็สั่นหมดแล้วเนี่ย" หันไปมองข้าวหอมที่ยืนกำชายกระโปรงแน่นแล้วถอนหายใจ จะรอดไหมเนี่ย
แอบส่องมองอยู่ด้านหลังเวทีในตอนที่ยังไม่ถึงคิวของตัวเอง ทุกคนดูมั่นใจเสียจนเธอเองแอบกลัวไปเหมือนกัน ไม่น่าคิดมาทำเรื่องแบบนี้แต่แรกเลย เสียงเรียกคิวเธอทำให้สะดุ้งตกใจ หลับตาฮึบเพิ่มกำลังใจให้ตัวพรูลมหายใจออกแล้วก้าวเดิม สายตาทุกคู่มองมาทำให้ใจเต้นรัว แกจะไม่กลัวข้าวหอม แกเก่ง แกทำได้ ต้องทำได้
"ข้าวหอมดูกังวลน่าดู" ริวรอยสังเกตอาการรุ่นน้องตัวเล็กแล้วพูดขึ้นมา
"คนเยอะแยะก็ไม่แปลกหรอก" คิมหันต์มองไปรอบพื้นที่จัดประกวดที่มาทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ยืนเต็มไปหมด อีกอย่างข้าวหอมก็ถูกตกเป็นคนถูกนินทาตลอดเพียงเพราะเป็นเด็กทุนของมหาวิทยาลัย พอขึ้นไปยืนจุดที่สายตาหลายคู่มองไปแบบนั้นก็คงกลัวมากอยู่
"แล้วไอมิลไปไหนเนี่ย ชวนเรามาดูน้องแต่มันหาย" ทิวเขาหมุนไปทั่วแต่ก็ไม่เจอเพื่อนตัวสูง ชวนมาแล้วก็หนีไปไหน มันบ้าไปแล้วมั้ง
ผู้ประกวดดาวเดือนยืนเรียงแถวกันให้กรรมการได้มองให้ชัดอีกครั้ง จนถึงรอบการมอบดอกไม้เพื่อนับเป็นคะแนนพิเศษ คนสวยคนน่ารักมีผู้คนรุมล้อมให้ดอกไม้กันเต็ม นิรินรับดอกไม้กลับมาแล้วมองไปที่เพื่อนอย่างกังวล ข้าวหอมก้มน่าลงหลบสายตาทุกคู่ ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนที่อยู่ด้านล่าง
"ข้าวมานี่เร็ว" ยี่หวากวักมือเรียกเพื่อนให้เดินมาหาก่อนจะยื่นดอกไม้ในมือให้ด้วยรอยยิ้ม ข้าวหอมจับมือเพื่อนอย่างนึกขอบคุณที่อย่างน้อยเธอก็มีกอดไม้อยู่ในมือบ้าง ถึงจะไม่มากนักก็ตาม
จู่ๆก็มีรุ่นพี่ปีสองต่อแถวเรียงกันเอาดอกไม้มาให้จนเธองุนงง รับดอกไม้มาแล้วกล่าวขอบคุณไม่ขาดปากทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นถึงเป็นแบบนี้
"ได้เยอะเหมือนกันแฮะ" ริวมองอย่างไม่เชื่อสายตา เกินคาดไปจากความคาดหมายมาก
"มึงไปไหนมาไอมิล?" ทิวเขาหันไปถามเพื่อนที่หายไปพักใหญ่แล้วเดินหลับมา ก่อนจะหันไปเห็นช่อดอกไม้ใหญ่ที่อยู่ในมือ
รามิลเดินเข้าไปคนสุดท้ายเรียกเสียงฮือฮาดังลั่น ดอกไม้ในมือเขาช่อใหญ่กว่าใคร หยุดยืนแล้วยื่นให้เธอด้วยรอยยิ้ม ข้าวหอมเงยมองผู้คนที่เริ่มพูดถึงกับเรื่องราวตรงหน้าก่อนจะเอื้อมรับมา
"วันนี้สวยมาก ไม่ต้องกังวลนะครับ" พยักหน้ารับคำรุ่นพี่ตัวสูงก่อนจะยืนขึ้น ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันที่เพียงแค่คำพูดของรามิลทำให้เธอใจชื้นขึ้นมา
เพื่อนสาวคนสนิทของรามิลที่ทำหน้าที่พิธีกรยืนมองและกำมือแน่น แต่เขาไม่ได้หันไปสนใจ ยืนกลับไปรอมุมเดิมกับเพื่อนแล้วไม่จดจ้องไปที่ไหน มีเพียงแค่ข้าวหอมที่ดึงดูดให้เขามองอยู่อย่างนั้น เสียงประกาศผู้ขนะดังลั่นจนเขาปรบมือเสียงดังด้วยรอยยิ้ม ทุ่มเหมาดอกไม้ซะขนาดนั้น ถ้าไม่ชนะ...ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ข้าวหอมยืนถ่ายรูปรวมกับเดือนคณะและกรรมการ รามิลยืนมองแล้วยกนิ้วให้เธอ คนตัวเล็กเสมองไปทางอื่นพยายามไม่สนใจ หมุนเดินกลับหลังแบบไม่ได้ระวัง ก่อนจะรู้สึกถึงข้อศอกของใครบางคนที่กระแทกมาจนเธอเซถลาตกลงจากเวที
"กรี๊ดดดด"
"ข้าว!!" ได้ยินเสียงนิรินเรียกดังลั่น หลับตามเตรียมรับแรงกระแทกที่คงจะมาถึงในไม่ช้า แต่กลับรู้สึกเหมือนมีใครมารับเอาไว้และล้มทับเขาเต็มแรง
"เป็นอะไรไหม?" เสียงคุ้นหูเอ่ยถาม คนตัวเล็กดันตัวเองผละมาก่อนจะเห็นว่าเป็นรามิลที่มารับเธอเอาไว้
"มะ ไม่"
"ค่อยๆลุกนะ" ถูกประคองให้ลุกขึ้นยืนจับหมุนดูให้แน่ใจว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ รามิลมองค้อนไปที่มิ้นท์แล้วจับมือข้าวหอมให้เดินตามออกไปอย่างไม่สนใจว่าใคนจะพูดอะไรบานประตูห้องแต่งตัวถูกผลักเข้าไปด้วยความหงุดหงิด ดันคนตัวเล็กให้นั่งลงก่อนจะปัดฝุ่นที่เลอะตรงหัวเข่าออกให้
"ไม่เป็นอะไรแน่ใช่ไหม เจ็บตรงไหนรึเปล่า"
"อื้ม ไม่เป็นไร"
"เงินสำหรับคืนก่อนหน่ะ พี่โอนให้ครบแล้วนะ" ข้าวหอมแค่พยักหน้าตอบไปเท่านั้น
"ต้องใช้อีกเท่าไหร่ ทำไมยังให้เจ๊ลีหาลูกค้าให้อยู่อีก"
"ไม่รู้สิ"
"พี่ถามได้ไหม หาเงินไปทำอะไรขนาดนั้น"
"ข้าว....เอาไปรักษาแม่" รามิลชะงักไปหลังจากได้ยิน เงยมองสบกับแววตาแสนเศร้า เขาเองพอดูออกว่าอีกคนไม่ได้อยากทำแบบนี้มากนัก แต่คงเพราะไม่มีทางเลือก
"แล้วก็จะทำแบบนี้ไปจนกว่าจะรักษาแม่หายอ่ะหรอ?"
"แล้วมันมีวิธีไหนที่หาเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้เร็วๆบ้างละ" รามิลลุกขึ้นไปนั่งลงข้างเธอ มือสองข้างถูกรวบมากุมเอาไว้ ชีวิตของคนตรงหน้าเขามันดูไม่ง่ายสักนิด วันนั้นหลังจากตื่นมาเขาก็คะยั้นคะยอให้เธอเล่าว่าแผลที่มุมปากเป็นมายังไง เธอที่ภายนอกพยายามทำตัวให้ดูเข้มแข็งมาก แต่ข้างในแสนเปราะบางขนาดนี้
"อยากลองฟังข้อเสนอพี่ดูไหม"
"ข้อเสนออะไร"
"เป็นของพี่แค่คนเดียว"
"หมายถึงอะไร"
"เป็นเด็กของพี่รามิลคนนี้ไงครับ พี่ยอมจ่ายให้ไม่อั้น เราต้องการเมื่อไหร่ก็แค่บอก แต่พี่มีข้อแม้ว่าถ้าพี่ต้องการเมื่อไหร่ เราก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเหมือนกัน"
"ที่พี่ทำอยู่แค่เพราะอยากเอาชนะข้าวหรอ"
"เพราะสนใจต่างหาก เข้าใจให้มันถูกด้วยครับ"
"พี่จะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครใช่ไหม"
"เป็นข้อตกลงระหว่างเราสองคน จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้" ข้าวหอมคิดทบทวบอยู่แล้วตอบรับคำไป อย่างน้อยก็แค่กับรามิลคนเดียว อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปนอนกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้าศักดิ์ศรีของตัวเองที่กำลังเหยียบย่ำอยู่ ก็ทำไปแค่เพราะหวังให้แม่มีชีวิตรอดต่อไปก็เท่านั้า
"มัดจำด้วยจูบก่อน"
"แต่....."
"เดี๋ยวพี่โอนให้เลยหมื่นนึง" นั่งนิ่งยอมให้เขาจูบแต่โดยดีหลังได้ยินประโยคนั้น รามิลใช้มือประคองใบหน้าน่ารักให้เอียงให้ได้องศา ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นคนติดรสจูบแสนหอมหวานของคนตัวเล็กไปซะแล้ว
เสียงประตูเปิดเข้ามาเร้าให้ข้าวหอมผลักอีกคนออกห่าง เพื่อนเธอวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นห่วงพร้อมกับเพื่อนของรามิลที่เดินตามมาด้วย
"เช็ดปากหน่อยไอมิล ลิปสีเดียวกับน้องมันเลย" ริวรีบกระซิบบอกเพื่อนทั้งยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เรื่องรามิลกับข้าวหอมพวกเขารู้กันหมดเพราะเพื่อนเล่าให้ฟัง
ปกติรามิลเป็นคนทุ่มให้กับคนที่ถูกใจมาแต่ไหนแต่ไร แต่ดูเหมือนว่ากับรุ่นน้องตัวเล็กจะสนใจเกินกว่าคนอื่น ถึงแบบนั้นเขาก็ยังไม่ได้รู้สึกมั่นใจว่าสักวันข้าวหอมจะไม่ถูกรามิลเขี่ยถึง เกิดรุ่นน้องคนนี้ตกหลุมรักรามิลขึ้นมา มีหวังเกิดเรื่องแน่
"ขอโทษทีนะคะน้องข้าวหอม พอดีพี่เดินไม่ระวัง" หญิงสาวที่เดินเข้ามาใหม่พูดขึ้นแล้วกอดอกมอง
"ช่วยกล้าให้เหมือนตอนที่พี่ทำได้ไหม พี่จงใจผลักให้ข้าวตกลงมา" ข้าวหอมลุกขึ้นไปประจันหน้าคนที่กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ ขืนรามิลไม่มาช่วยเธอไว้ ป่านนี้ไม่รู้จะเจ็บขนาดไหน
"ทำไมพูดจาใส่ร้ายกันขนาดนี้ละ"
"นิก็เห็นว่าพี่ตั้งใจ เล่นแรงไปป่ะ เกิดข้าวมันเป็นอะไรขึ้นมา จะรับผิดชอบยังไง"
"มิลคะ มิ้นท์ไม่ได้ทำจริงๆนะ"
"เฮ่ออ ข้าวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ พี่รอข้างนอกนะ"
"มิล....."
"ถ้ามิ้นท์ยังไม่ขอโทษข้าวหอมสำหรับเรื่องวันนี้ ก็ไม่ต้องมาคุยกัน"
"ได้ยินชัดไหมคะพี่มิ้นท์ พี่รามิลบอกว่าถ้าพี่ยังไม่จอโทษไอข้าว ก็ไม่ต้องไปคุยกับเขาค่ะ" ยี่หวาพูดเน้นเสียงแล้วหันไปหัวเราะสะใจกับนิรินเสียงดังลั่น
"มิลกับเด็กนี่มันยังไงกันแน่"
"ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอธิบายไม่ใช่หรอ"
"แต่มิลเป็นของมิ้นท์"
"เข้าใจผิดอะไรไปรึเปล่า เราแค่เอากัน ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ"
"มิล!!"
ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา
รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้
รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง







