LOGINฟอด! กดปลายจมูกขโมยหอมแก้มคนในอ้อมกอดไปฟอดใหญ่ คนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดเขาทั้งร่างกายเปลือยเปล่า ใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ปกหน้าออกเพื่อให้มองเห็นความสวยของเธอชัดขึ้น
ช่วงหลังมานี้รามิลแอบรอรับอีกคนที่หลังมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง บางวันก็พาไปทานมื้อค่ำ ไปเยี่ยมแม่เธอด้วยกัน หรือแม้แต่รับมาทำเรื่องอย่างว่าที่คอนโด
ข้อตกลงที่มีเพียงเขาและเธอที่รู้ยังคงถูกหยิบยื่นมาใช้ยามที่เขาต้องการให้อีกคนมาด้วยกัน เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่มีความต้องการเรื่องบนเตียงอยู่มาก ความจริงไม่ต้องพยายามมากมายเขาก็มีคนประเคนให้ถึงที่ แต่ทว่าในหัวกลับเอาแต่นึกถึงเวลาที่ได้แสดงบทรักแสนเร่าร้อนกับคนในอ้อมแขนเขาตอนนี้มากกว่า
ทั้งที่เซ็กในคืนนั้นมันแทบไม่มีอะไรหวือหวา แต่กลับลืมไม่ลงเสียที
ส่งปลายนิ้วไล้สัมผัสเปลือกตาลงมาที่แก้มเนียนและจบที่ริมฝีปาก เปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นริมฝีปากของเขาประกบจูบแทนที่ แรงขยับยุกยิกก่อนดวงตากลมจะตื่นขึ้นมามองเขา เรียวคิ้วขมวดเป็นปมคงเพราะไม่พอใจที่เขารบกวนทั้งที่พึ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง
"จูบเมื่อกี้ จ่ายมาเลยหมื่นนึง" มือบางยกขึ้นมาแบตรงหน้าเขาราวกลับเด็กที่กำลังขอเงินจากผู้ใหญ่
"เก็บทุกบาทเลยนะ"
"ไม่งั้นก็เสียเปรียบสิ"
"เราไม่มีทางเสียเปรียบหรอก พี่ต่างหากที่จะหมดตัว"
"แล้วใครใช้ให้กอดให้จูบอยู่ได้"
"ก็มันอดใจไม่ได้อ่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน" นั่นสินะ ทำไมถึงอดใจไม่ได้เลย เพียงแค่เห็นแก้มเนียนก็อยากหอม เห็นริมฝีปากอิ่มก็อยากจูบ เหมือนกับว่ากำลังเสพติดอะไรอยู่
ข้าวหอมดันตัวเองลุกขึ้นทั้งดึงผ้าห่มเป็นไว้ที่อก เตรียมจะก้าวลงจากเตียงแต่รามิลลุกขึ้นตามแล้วกอดเธอเอาไว้ ปลายจมูกสัมผัสลงที่ซอกคอไล่ลงมาที่ไหล่
"พอได้แล้วน่า" ข้าวหอมปรามแล้วดันรามิลออก แขนแกร่งกลับยิ่งกระชับกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
"หอมจังครับ" รามิลยังคงขบเม้มคอสวยอย่างไม่สนใจ มือล้วงไปจับหน้าอกอิ่มบีบขยำอย่างสนุกก่อนจะชะงักไปตอนข้าวหอมตีที่มือเต็มแรง
"พี่นี่ลามกจัง"
"ก็ทำตัวน่าเอาทำไม"
"พูดอะไรของพี่เนี่ย"
"ยังเขินอยู่อีกหรอ เอากันสองสามรอบแล้วนะ"
"ข้าวไม่ได้หน้าหนาเหมือนพี่นี่"
"โหยยย เจ็บไปถึงหัวใจเลยครับ" เอาคางเกยไหล่เล็กของคนตรงหน้าเอาไว้แล้วกอดแน่น ข้าวหอมนั่งนิ่งเพราะขัดขืนไปก็คงไม่มีประโยชน์ ยิ่งใกล้กันมากก็ยิ่งรู้ว่ารามิลเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมากแค่ไหน
แขนแกร่งเอื้อมไปที่ลิ้นชักหัวเตียงก่อนจะหยิบกล่องสีน้ำเงินกำมะหยี่ออกมา รามิลเปิดมันออกทั้งที่ยังกอดเธอเอาไว้อย่างนั้น สร้อยรูปหัวใจเส้นสวยที่ตกแต่งด้วยเพชรเม็ดไม่ใหญ่มากปรากกฏให้เห็น
"สวยไหม?"
"สวยดีนะ พี่ซื้อให้ใครหรอ"
"ให้ใครดูก็ซื้อให้คนนั้นแหละครับ" หยิบสร้อยออกมาจากกล่องปลดตะขอแล้วคล้องคอให้เธอ ผมยาวสลวยถูกปัดไปด้านข้างให้เขาใส่ได้ง่ายขึ้น มือบางจับจี้เอาไว้แล้วหันไปมองรุ่นพี่ตัวสูงด้วยสายตาคาดเดาไม่ถูก
"ซื้อให้ทำไม"
"ก็แค่อยากให้ ไม่ชอบหรอ?"
"มันแพงใช่ไหม"
"ถูกใจไม่มีคำว่าแพงหรอกครับ" จับไหล่เล็กหันมาแล้วมองดู สร้อยเส้นที่เขามองว่าสวยอยู่แล้วกับยิ่งสวยไปอีกยามอยู่ในคอของอีกคน
"ขอบคุณรึยัง ตรงนี้..." ปลายนิ้วจิ้มที่แก้มบอกให้คนตรงหน้ารู้ว่าจะให้ทำอะไรแทนพูดขอบคุณ ข้าวหอมประหม่าอยู่สักพักแล้วหอมแก้มอีกคนตามที่เขาต้องการ รามิลหอมแก้มนิ่มกลับไปด้วยฟอดใหญ่
"พี่หิวไหม ให้ข้าวทำอะไรให้กินไหม"
"รู้ตัวไหมว่าทำตัวเหมือนเป็นผัวเมียกันเลย"
"ไม่ใช่สักหน่อย ใครจะไปอยากเป็นเมียพี่"
"เป็นเมียพี่มันไม่ดียังไงครับ ไหนลองบอกมาสักสองสามข้อหน่อยสิ"
"........"
"ไม่มีใช่ไหมละ ออกจะทั้งหลาอ ทั้งรวย ตามใจเก่ง แถมป๋ามากด้วย ไม่ชอบหรอ" ข้าวหอมมุ่ยหน้าให้คนที่พรีเซนต์ตัวเองไม่เลิก ก็ไม่รู้ว่าจะหลงตัวเองอะไรขนาดนั้น น่าหมั่นไส้
.
.
.
"แกกับพี่รามิลนี่ยังไงนะ พักหลังมาด้วยกันบ่อยจัง" นิรินหรี่ตามด้วยความสงสัย ไม่มีอะไรที่หลุดรอดสายตานิรินคนนี้ไปได้ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายหล่อๆ
"ไม่มีอะไร ก็แค่..."
"ก็แค่บังเอิญเจอกันอีกตามเคย" ยี่หวาพูดประโยคที่เพื่อนเธอพูดทุกครั้งยามถูกตั้งคำถามเรื่องนี้ ความบังเอิญมันไม่มีอยู่จริงในโลกหรอก ทุกอย่างล้วนมาจากความตั้งใสจทั้งนั้น พักหลังมาเพื่อนเธอดูไม่เหวี่ยงวีนรุ่นพี่อย่างรามิลเหมือนก่อน แถมยังดูอารมณ์ดีตลอดเวลาอีกด้วย
"สนใจเรื่องเรียนกันดีป่ะ Material อย่างยากเลย เรียนเข้าใจกันหรอ"
"ข้าวหอมเปลี่ยนเรื่อง"
"ฟ้าก็เอาด้วยหรอ" สามสาวพากันขำเพื่อนที่ทำหน้าบึ้งตึง ปลายฟ้าบีบแก้มนิ่มของเพื่อนอย่างนึกหมั่นเขี้ยว
"ยี่ว่าเราต้องหาเวลาติวอ่ะ วิชานี้ยากมากจริงๆ ขนาดฟ้าเรียนเก่งยังไม่เข้าใจเลย"
"ให้พี่ช่วยติวไหมละ" ข้าวหอมหันไปมองต้นเสียงก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย ออกแรงดึงเพื่อนให้ไปจากทีนี่ก่อนข้อมือจะถูกกระชากจนกายบางกระแทกกับอกของคนที่ยื้อเธอไว้
"ปล่อยข้าวนะพี่เวกัส" คนตรงหน้าทำหน้ายียวนจนเธอพยายามจะสะบัดตัวหนี นิรินกับยี่หวาเดินเข้ามาช่วยจนยื้อกันไปมา เสียงโหวกเหวกดังขึ้นเพราะอีกคนไม่ยอมปล่อยเธอสักที
รามิลกระชากคนที่ฉุดคนของเขาไว้แล้วเหวี่ยงออกไปไกล อีกคนพุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อเขาก่อนเขาจะกระชากกลับ เวกัสเห็นท่าไม่ดีหลังจากตาเหลือบมองดูเพื่อนของคนตรงหน้าเดินมาแต่ไกล จิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วรีบเดินออกไป เอาไว้ครั้งหน้าจะจัดแม่งให้หนักเลย
"ไอนี่มันเป็นใครเนี่ย เห็นเจอข้าวหอมที่ไรมันพุ่งใส่แบบนี้ทุกที" ริวเดินมาถึงแล้วถามทันที
"สร้อยไปไหน?" รามิลถามคนตัวเล็กทันทีสังเกตเห็น อีกคนส่งสัญญาณว่าไม่ให้เขาพูดมันที่นี่ แต่รามิลกลับไม่สนใจเลยสักนิด
"พี่ถามว่าสร้อยไปไหนครับ"
"ยะ อยู่นี่" ข้าวหอมหยิบสร้อยที่เธอเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างดีมาให้ดู รามิลดึงออกจากมือเธอไปแล้วสวมให้อีกครั้ง คนตัวเล็กได้แต่ตกใจที่รุ่นพี่ตัวสูงทำแบบนี้ต่อหน้าทุกคน
"พี่ซื้อมาให้ใส่ ไม่ใช่ให้เก็บ อย่าถอดอีกนะ" สามสาวมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม เป็นไปอย่างที่คิด ให้มองยังไงรามิลกับข้าวหอมก็ไม่ธรรมดาแน่
"แล้วนี่จะไปไหนกันต่อเนี่ย?" คิมหันต์ตัดบทเปลี่ยนเรื่องถามรุ่นน้องที่ยืนนิ่งมองดูรามิลกับข้าวหอมอยู่
"พวกฟ้าจะไปหาที่ติวค่ะ Material ยากมาก แบบมากๆ ไม่เข้าใจเลย"
"ให้ไอทิวติวให้ไหม มันเก่งนะ"รามิลเสนอ
"ยี่ว่าไม่รบกวนดีกว่าค่ะ"
"ไม่รบกวนหรอก พี่ยินดี"
"ถ้าพี่ทิวเขาติวให้ นิรินคนนี้จะตั้งใจเรียนค่ะ" ทุกคนพากันขำคุณหนูนิรินและส่ายหัว
"ไปติวห้องพี่ก็ได้นะ คอนโดพี่อยู่ใกล้มหาลัย มีทุกอย่างครบ" รามิลพูดข้อเสนออีกข้อที่ทำทุกคนงุนงงไปหมด ริวขมวดคิ้วอย่างรู้ทัน ไอเพื่อนคนนี้ต้องคิดอะไรอยู่แน่ ปกติแทบไม่อยากให้ใครไปเหยียบแต่ครั้งนี้กลับเสนอซะเอง
.
.
.
@คอนโดรามิล
"พี่แวะซื้อของกินมาให้เพียบ ระหว่างติวจะได้ไม่หิว" รามิลยกถุงขนมกับเครื่องดื่มให้ทุกคนดู
"รบกวนพี่รามิลคนหล่อจะแย่ แต่ขอบคุณนะคะ"
"น้องนิรินนี่ตาถึงนะครับ ชมพี่หล่อตลอดเลย"
"เอาถุงขนมมาสิ ข้าวเอาไปใส่จานให้" รับถุงในมือรามิลแล้วกำลังจะเดินไปโซนครัวแต่ถูกยี่หวารั้งไว้ก่อน
"แล้วแกรู้หรอว่าต้องไปทางไหน" กลืนน้ำลายลงคอแล้วทำขำบ่ายเบี่ยงไปว่าไม่รู้ ลืมไปเลยว่าไม่มีใครรู้เรื่องที่เธอยอมมากับรามิลถึงที่นี่
รามิลเดินตามคนตัวเล็กหลังจากเขาทำเป็นบอกว่าจะนำทางข้าวหอมเข้ามาในครัว โอบกอดอีกคนไม่ทันได้ตั้งตัวจนเธอสะดุ้ง มือปลาหมึกขยับไปขยำหน้าอกแบบที่ชอบทำ ถกกระโปรงนักศึกษาของคนตัวเล็กขึ้นแล้วล้วงเข้าไปด้านใน
"พี่รามิล จะทำอะไร เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็น"
"พี่จะทำเร็วๆนะ"
"แต่เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก"
"ก็อย่าครางสิครับ" ปลายนิ้วถูวนรอบจุดกระสันจนความเสียวซ่านเข้าเล่นงาน ยกแขนเรียวขึ้นมาให้ตัวเองได้กัดไว้เพื่อเก็บเสียง รามิลถูวนเร็วและแรงขึ้นกลั่นแกล้งให้คนตัวเล็กกลั้นเสียงครางแทบไม่ไหว
"อย่าใส่เข้าไป อ๊ะ!" ยกมืออุดปากตัวเองที่เผลอส่งเสียงดังตอนนิ้วของเขาสอดใส่เข้าไปในช่องทางรัก
"แฉะเหมือนเดิม เร้าง่ายเหมือนกันนะเรา" ชักนิ้วเข้าออกเร้าอารมณ์คนตัวเล็ก ข้าวหอมทิ้งตัวเอาหลังพิงที่อกเขา มือบางจับข้อมือเขาเอาไว้แต่ไม่ได้ออกแรงรั้งมากนัก
"อื้ม พอแล้ว"
"หยุดตอนนี้ก็ค้างนะ จะเอาแบบนั้นหรอ?" ไม่พูดเปล่าแต่ยังชักนิ้วเร็วขึ้นด้วย แรงตอดรัดทำให้เขาพอใจไม่น้อย พลิกตัวอีกคนหันมา ดันให้เธอยืนพิงเคาเตอร์ครัว นั่งลงดึงกางเกงชั้นในตัวสวยลงมากองที่พื้นก่อนจะยกขาเธอพาดบ่าไว้ข้างหนึ่ง
"พี่รามิลจะทำอะไร ไม่ได้นะ อ๊ะ อื้อ" ลิ้นร้อนแตะลงส่วนนั้นแล้วเลียด้วยความชำนาญ จากที่ห้ามเขากลับกลายเป็นว่าใช้มือขยุ้มผมเพื่อระบายอารมณ์ที่ออกมาแทน หันมองคนอื่นที่นั่งกันอยู่ในโซนห้องนั่งเล่นว่าจะมีใครเดินมาไหมอย่างกังวล ความเสียวซ่านเข้าเล่นงานจนคนตัวเล็กจิกเกร็ง อีกเพียงไม่นานจะถึงจุดสุดยอดแต่เสียงเรียกของริวที่ดังมาแต่ไกลทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก
"อ้าว ไอมิลไปไหนละ"
"คือ...."
"กูอยู่นี่" รามิลลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วใช้นิ้วปาดเช็ดที่ริมฝีปากตัวเอง
"ทำอะไรของมึง"
"กูจะหาของตกบ้างไม่ได้?"
"เออๆ รีบมานะข้าวหอม ไอทิวมันเริ่มละ เดี๋ยวไม่ทันเพื่อน" ข้าวหอมพยักหน้าตอบรับไป ขาเรียวยืนเบียดกันทั้งกางเกงชั้นในยังอยู่ที่ข้อเท้า
"ค้างใช่ไหม"
"ถามอะไรของพี่"
"คืนนี้ไม่ต้องกลับบ้านนะครับ ไว้พี่มาต่อให้"
ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา
รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้
รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง







