LOGINฟอด! กดปลายจมูกขโมยหอมแก้มคนในอ้อมกอดไปฟอดใหญ่ คนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดเขาทั้งร่างกายเปลือยเปล่า ใช้นิ้วเกลี่ยผมที่ปกหน้าออกเพื่อให้มองเห็นความสวยของเธอชัดขึ้น
ช่วงหลังมานี้รามิลแอบรอรับอีกคนที่หลังมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง บางวันก็พาไปทานมื้อค่ำ ไปเยี่ยมแม่เธอด้วยกัน หรือแม้แต่รับมาทำเรื่องอย่างว่าที่คอนโด
ข้อตกลงที่มีเพียงเขาและเธอที่รู้ยังคงถูกหยิบยื่นมาใช้ยามที่เขาต้องการให้อีกคนมาด้วยกัน เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่มีความต้องการเรื่องบนเตียงอยู่มาก ความจริงไม่ต้องพยายามมากมายเขาก็มีคนประเคนให้ถึงที่ แต่ทว่าในหัวกลับเอาแต่นึกถึงเวลาที่ได้แสดงบทรักแสนเร่าร้อนกับคนในอ้อมแขนเขาตอนนี้มากกว่า
ทั้งที่เซ็กในคืนนั้นมันแทบไม่มีอะไรหวือหวา แต่กลับลืมไม่ลงเสียที
ส่งปลายนิ้วไล้สัมผัสเปลือกตาลงมาที่แก้มเนียนและจบที่ริมฝีปาก เปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นริมฝีปากของเขาประกบจูบแทนที่ แรงขยับยุกยิกก่อนดวงตากลมจะตื่นขึ้นมามองเขา เรียวคิ้วขมวดเป็นปมคงเพราะไม่พอใจที่เขารบกวนทั้งที่พึ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง
"จูบเมื่อกี้ จ่ายมาเลยหมื่นนึง" มือบางยกขึ้นมาแบตรงหน้าเขาราวกลับเด็กที่กำลังขอเงินจากผู้ใหญ่
"เก็บทุกบาทเลยนะ"
"ไม่งั้นก็เสียเปรียบสิ"
"เราไม่มีทางเสียเปรียบหรอก พี่ต่างหากที่จะหมดตัว"
"แล้วใครใช้ให้กอดให้จูบอยู่ได้"
"ก็มันอดใจไม่ได้อ่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน" นั่นสินะ ทำไมถึงอดใจไม่ได้เลย เพียงแค่เห็นแก้มเนียนก็อยากหอม เห็นริมฝีปากอิ่มก็อยากจูบ เหมือนกับว่ากำลังเสพติดอะไรอยู่
ข้าวหอมดันตัวเองลุกขึ้นทั้งดึงผ้าห่มเป็นไว้ที่อก เตรียมจะก้าวลงจากเตียงแต่รามิลลุกขึ้นตามแล้วกอดเธอเอาไว้ ปลายจมูกสัมผัสลงที่ซอกคอไล่ลงมาที่ไหล่
"พอได้แล้วน่า" ข้าวหอมปรามแล้วดันรามิลออก แขนแกร่งกลับยิ่งกระชับกอดเธอให้แน่นขึ้นอีก
"หอมจังครับ" รามิลยังคงขบเม้มคอสวยอย่างไม่สนใจ มือล้วงไปจับหน้าอกอิ่มบีบขยำอย่างสนุกก่อนจะชะงักไปตอนข้าวหอมตีที่มือเต็มแรง
"พี่นี่ลามกจัง"
"ก็ทำตัวน่าเอาทำไม"
"พูดอะไรของพี่เนี่ย"
"ยังเขินอยู่อีกหรอ เอากันสองสามรอบแล้วนะ"
"ข้าวไม่ได้หน้าหนาเหมือนพี่นี่"
"โหยยย เจ็บไปถึงหัวใจเลยครับ" เอาคางเกยไหล่เล็กของคนตรงหน้าเอาไว้แล้วกอดแน่น ข้าวหอมนั่งนิ่งเพราะขัดขืนไปก็คงไม่มีประโยชน์ ยิ่งใกล้กันมากก็ยิ่งรู้ว่ารามิลเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมากแค่ไหน
แขนแกร่งเอื้อมไปที่ลิ้นชักหัวเตียงก่อนจะหยิบกล่องสีน้ำเงินกำมะหยี่ออกมา รามิลเปิดมันออกทั้งที่ยังกอดเธอเอาไว้อย่างนั้น สร้อยรูปหัวใจเส้นสวยที่ตกแต่งด้วยเพชรเม็ดไม่ใหญ่มากปรากกฏให้เห็น
"สวยไหม?"
"สวยดีนะ พี่ซื้อให้ใครหรอ"
"ให้ใครดูก็ซื้อให้คนนั้นแหละครับ" หยิบสร้อยออกมาจากกล่องปลดตะขอแล้วคล้องคอให้เธอ ผมยาวสลวยถูกปัดไปด้านข้างให้เขาใส่ได้ง่ายขึ้น มือบางจับจี้เอาไว้แล้วหันไปมองรุ่นพี่ตัวสูงด้วยสายตาคาดเดาไม่ถูก
"ซื้อให้ทำไม"
"ก็แค่อยากให้ ไม่ชอบหรอ?"
"มันแพงใช่ไหม"
"ถูกใจไม่มีคำว่าแพงหรอกครับ" จับไหล่เล็กหันมาแล้วมองดู สร้อยเส้นที่เขามองว่าสวยอยู่แล้วกับยิ่งสวยไปอีกยามอยู่ในคอของอีกคน
"ขอบคุณรึยัง ตรงนี้..." ปลายนิ้วจิ้มที่แก้มบอกให้คนตรงหน้ารู้ว่าจะให้ทำอะไรแทนพูดขอบคุณ ข้าวหอมประหม่าอยู่สักพักแล้วหอมแก้มอีกคนตามที่เขาต้องการ รามิลหอมแก้มนิ่มกลับไปด้วยฟอดใหญ่
"พี่หิวไหม ให้ข้าวทำอะไรให้กินไหม"
"รู้ตัวไหมว่าทำตัวเหมือนเป็นผัวเมียกันเลย"
"ไม่ใช่สักหน่อย ใครจะไปอยากเป็นเมียพี่"
"เป็นเมียพี่มันไม่ดียังไงครับ ไหนลองบอกมาสักสองสามข้อหน่อยสิ"
"........"
"ไม่มีใช่ไหมละ ออกจะทั้งหลาอ ทั้งรวย ตามใจเก่ง แถมป๋ามากด้วย ไม่ชอบหรอ" ข้าวหอมมุ่ยหน้าให้คนที่พรีเซนต์ตัวเองไม่เลิก ก็ไม่รู้ว่าจะหลงตัวเองอะไรขนาดนั้น น่าหมั่นไส้
.
.
.
"แกกับพี่รามิลนี่ยังไงนะ พักหลังมาด้วยกันบ่อยจัง" นิรินหรี่ตามด้วยความสงสัย ไม่มีอะไรที่หลุดรอดสายตานิรินคนนี้ไปได้ โดยเฉพาะเรื่องผู้ชายหล่อๆ
"ไม่มีอะไร ก็แค่..."
"ก็แค่บังเอิญเจอกันอีกตามเคย" ยี่หวาพูดประโยคที่เพื่อนเธอพูดทุกครั้งยามถูกตั้งคำถามเรื่องนี้ ความบังเอิญมันไม่มีอยู่จริงในโลกหรอก ทุกอย่างล้วนมาจากความตั้งใสจทั้งนั้น พักหลังมาเพื่อนเธอดูไม่เหวี่ยงวีนรุ่นพี่อย่างรามิลเหมือนก่อน แถมยังดูอารมณ์ดีตลอดเวลาอีกด้วย
"สนใจเรื่องเรียนกันดีป่ะ Material อย่างยากเลย เรียนเข้าใจกันหรอ"
"ข้าวหอมเปลี่ยนเรื่อง"
"ฟ้าก็เอาด้วยหรอ" สามสาวพากันขำเพื่อนที่ทำหน้าบึ้งตึง ปลายฟ้าบีบแก้มนิ่มของเพื่อนอย่างนึกหมั่นเขี้ยว
"ยี่ว่าเราต้องหาเวลาติวอ่ะ วิชานี้ยากมากจริงๆ ขนาดฟ้าเรียนเก่งยังไม่เข้าใจเลย"
"ให้พี่ช่วยติวไหมละ" ข้าวหอมหันไปมองต้นเสียงก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย ออกแรงดึงเพื่อนให้ไปจากทีนี่ก่อนข้อมือจะถูกกระชากจนกายบางกระแทกกับอกของคนที่ยื้อเธอไว้
"ปล่อยข้าวนะพี่เวกัส" คนตรงหน้าทำหน้ายียวนจนเธอพยายามจะสะบัดตัวหนี นิรินกับยี่หวาเดินเข้ามาช่วยจนยื้อกันไปมา เสียงโหวกเหวกดังขึ้นเพราะอีกคนไม่ยอมปล่อยเธอสักที
รามิลกระชากคนที่ฉุดคนของเขาไว้แล้วเหวี่ยงออกไปไกล อีกคนพุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อเขาก่อนเขาจะกระชากกลับ เวกัสเห็นท่าไม่ดีหลังจากตาเหลือบมองดูเพื่อนของคนตรงหน้าเดินมาแต่ไกล จิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วรีบเดินออกไป เอาไว้ครั้งหน้าจะจัดแม่งให้หนักเลย
"ไอนี่มันเป็นใครเนี่ย เห็นเจอข้าวหอมที่ไรมันพุ่งใส่แบบนี้ทุกที" ริวเดินมาถึงแล้วถามทันที
"สร้อยไปไหน?" รามิลถามคนตัวเล็กทันทีสังเกตเห็น อีกคนส่งสัญญาณว่าไม่ให้เขาพูดมันที่นี่ แต่รามิลกลับไม่สนใจเลยสักนิด
"พี่ถามว่าสร้อยไปไหนครับ"
"ยะ อยู่นี่" ข้าวหอมหยิบสร้อยที่เธอเก็บใส่กระเป๋าไว้อย่างดีมาให้ดู รามิลดึงออกจากมือเธอไปแล้วสวมให้อีกครั้ง คนตัวเล็กได้แต่ตกใจที่รุ่นพี่ตัวสูงทำแบบนี้ต่อหน้าทุกคน
"พี่ซื้อมาให้ใส่ ไม่ใช่ให้เก็บ อย่าถอดอีกนะ" สามสาวมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม เป็นไปอย่างที่คิด ให้มองยังไงรามิลกับข้าวหอมก็ไม่ธรรมดาแน่
"แล้วนี่จะไปไหนกันต่อเนี่ย?" คิมหันต์ตัดบทเปลี่ยนเรื่องถามรุ่นน้องที่ยืนนิ่งมองดูรามิลกับข้าวหอมอยู่
"พวกฟ้าจะไปหาที่ติวค่ะ Material ยากมาก แบบมากๆ ไม่เข้าใจเลย"
"ให้ไอทิวติวให้ไหม มันเก่งนะ"รามิลเสนอ
"ยี่ว่าไม่รบกวนดีกว่าค่ะ"
"ไม่รบกวนหรอก พี่ยินดี"
"ถ้าพี่ทิวเขาติวให้ นิรินคนนี้จะตั้งใจเรียนค่ะ" ทุกคนพากันขำคุณหนูนิรินและส่ายหัว
"ไปติวห้องพี่ก็ได้นะ คอนโดพี่อยู่ใกล้มหาลัย มีทุกอย่างครบ" รามิลพูดข้อเสนออีกข้อที่ทำทุกคนงุนงงไปหมด ริวขมวดคิ้วอย่างรู้ทัน ไอเพื่อนคนนี้ต้องคิดอะไรอยู่แน่ ปกติแทบไม่อยากให้ใครไปเหยียบแต่ครั้งนี้กลับเสนอซะเอง
.
.
.
@คอนโดรามิล
"พี่แวะซื้อของกินมาให้เพียบ ระหว่างติวจะได้ไม่หิว" รามิลยกถุงขนมกับเครื่องดื่มให้ทุกคนดู
"รบกวนพี่รามิลคนหล่อจะแย่ แต่ขอบคุณนะคะ"
"น้องนิรินนี่ตาถึงนะครับ ชมพี่หล่อตลอดเลย"
"เอาถุงขนมมาสิ ข้าวเอาไปใส่จานให้" รับถุงในมือรามิลแล้วกำลังจะเดินไปโซนครัวแต่ถูกยี่หวารั้งไว้ก่อน
"แล้วแกรู้หรอว่าต้องไปทางไหน" กลืนน้ำลายลงคอแล้วทำขำบ่ายเบี่ยงไปว่าไม่รู้ ลืมไปเลยว่าไม่มีใครรู้เรื่องที่เธอยอมมากับรามิลถึงที่นี่
รามิลเดินตามคนตัวเล็กหลังจากเขาทำเป็นบอกว่าจะนำทางข้าวหอมเข้ามาในครัว โอบกอดอีกคนไม่ทันได้ตั้งตัวจนเธอสะดุ้ง มือปลาหมึกขยับไปขยำหน้าอกแบบที่ชอบทำ ถกกระโปรงนักศึกษาของคนตัวเล็กขึ้นแล้วล้วงเข้าไปด้านใน
"พี่รามิล จะทำอะไร เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็น"
"พี่จะทำเร็วๆนะ"
"แต่เดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก"
"ก็อย่าครางสิครับ" ปลายนิ้วถูวนรอบจุดกระสันจนความเสียวซ่านเข้าเล่นงาน ยกแขนเรียวขึ้นมาให้ตัวเองได้กัดไว้เพื่อเก็บเสียง รามิลถูวนเร็วและแรงขึ้นกลั่นแกล้งให้คนตัวเล็กกลั้นเสียงครางแทบไม่ไหว
"อย่าใส่เข้าไป อ๊ะ!" ยกมืออุดปากตัวเองที่เผลอส่งเสียงดังตอนนิ้วของเขาสอดใส่เข้าไปในช่องทางรัก
"แฉะเหมือนเดิม เร้าง่ายเหมือนกันนะเรา" ชักนิ้วเข้าออกเร้าอารมณ์คนตัวเล็ก ข้าวหอมทิ้งตัวเอาหลังพิงที่อกเขา มือบางจับข้อมือเขาเอาไว้แต่ไม่ได้ออกแรงรั้งมากนัก
"อื้ม พอแล้ว"
"หยุดตอนนี้ก็ค้างนะ จะเอาแบบนั้นหรอ?" ไม่พูดเปล่าแต่ยังชักนิ้วเร็วขึ้นด้วย แรงตอดรัดทำให้เขาพอใจไม่น้อย พลิกตัวอีกคนหันมา ดันให้เธอยืนพิงเคาเตอร์ครัว นั่งลงดึงกางเกงชั้นในตัวสวยลงมากองที่พื้นก่อนจะยกขาเธอพาดบ่าไว้ข้างหนึ่ง
"พี่รามิลจะทำอะไร ไม่ได้นะ อ๊ะ อื้อ" ลิ้นร้อนแตะลงส่วนนั้นแล้วเลียด้วยความชำนาญ จากที่ห้ามเขากลับกลายเป็นว่าใช้มือขยุ้มผมเพื่อระบายอารมณ์ที่ออกมาแทน หันมองคนอื่นที่นั่งกันอยู่ในโซนห้องนั่งเล่นว่าจะมีใครเดินมาไหมอย่างกังวล ความเสียวซ่านเข้าเล่นงานจนคนตัวเล็กจิกเกร็ง อีกเพียงไม่นานจะถึงจุดสุดยอดแต่เสียงเรียกของริวที่ดังมาแต่ไกลทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก
"อ้าว ไอมิลไปไหนละ"
"คือ...."
"กูอยู่นี่" รามิลลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วใช้นิ้วปาดเช็ดที่ริมฝีปากตัวเอง
"ทำอะไรของมึง"
"กูจะหาของตกบ้างไม่ได้?"
"เออๆ รีบมานะข้าวหอม ไอทิวมันเริ่มละ เดี๋ยวไม่ทันเพื่อน" ข้าวหอมพยักหน้าตอบรับไป ขาเรียวยืนเบียดกันทั้งกางเกงชั้นในยังอยู่ที่ข้อเท้า
"ค้างใช่ไหม"
"ถามอะไรของพี่"
"คืนนี้ไม่ต้องกลับบ้านนะครับ ไว้พี่มาต่อให้"
รามิลเดินเอากระเป๋าเสือผ้าที่ขนไปเฝ้าคนตัวเล็กที่โรงพยาบาบเข้าไปไว้ในห้อง เขาเดินออกมาแล้วเห็นว่าเธอกำลังยืนมองออกไปนอกระเบียงด้วยรอยยิ้ม รามิลเดินไปโอบกอดอีกคนจากด้านหลัง เขาโน้มลงไปหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่จนเะอหัวเราะออกมา "คิดถึงห้องของเราไหมครับ?" "ห้องของพี่ต่างหาก" ข้าวหอมพูดเถียงขึ้น สุดท้ายก็เลยโดนรามิลจับให้หมุนไปหาแล้วดันตัวเธอชิดเอาไว้กับบานกระจก นิ้วยาวจิ้มที่ริมฝีปากเธออย่างไม่ชอบใจกับสิงที่เธอพูดเท่าไหร่นัก แต่เธอกลับเอาแต่ยิ้มทั้งที่รู้ว่าเขาไม่พอใจอยู่ "ไม่ต้องมายิ้มเลย" รามิลขมวดคิ้วใส่แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจอาการของเขาแม้สักนิดแถมยังจะเอาแต่ยิ้มไม่ยอมหยุดอีก แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาเอาไว้แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปกดจูบคนที่เอาแต่ทำหน้าไม่พอใจอยู่ รามิลยังคงตีหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นจนเธอต้องลองทำอย่างเดิมอีกรอบ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอีกตามเคย ข้าวหอมยืนคิดพักใหญ่ก็พอจะคิดอะไรออก มือเล็กจับไล้ตั้งแต่กลางอกเขาจนมาถึงหน้าท้อง ลูบลงไปจนถึงเป้ากางเกงก่อนจะถูกรามิลรวบมือเอาไว้ "พึ่งนะหายดีก็หาเรื่องใส่ตัวเลยหรอ?" "หรือว่าพี่ไม่ชอบละ" สายตาเย้ายวนแบบนั้นนั่นมันอะไร จะเล่นกับใจขอ
รามิลอุ้มร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเข้ามาด้านใน เขาพอจะมีสติขึ้นแล้วถึงได้อุ้มเธอไหว เตียงคนไข้เข็นเข้ามารับร่างไร้เรี่ยวแรงจากมือเขา รามิลวิ่งตามเตียงที่เข็นไปด้วยความเร็ว ก่อนจะต้องหยุดในตอนที่พยาบาลดันเขาออกมาแล้วประตูห้องฉุกเฉิดก็ปิดลงเขาทิ้งตัวลงเต็มแรงราวกับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ใจของเขาหลุดลอยออกไปตั้งแต่ได้เห็นเลือดสีแดงสดเต็มตัวข้าวหอมแล้ว เขานั่งนิ่งสมองไม่อาจประมวลผลก่อนเพื่อนจะเดินเข้ามาหา พร้อมแม่เขาที่นั่งลงข้างกายแล้วลูบแผ่นหลัง"แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่คิดว่าหนูมิ้นท์จะทำถึงขนาดนี้""น้องจะตายไหมครับแม่ ข้างหอมจะตายไหมครับ""แม่ไม่ยอมให้ลูกสะใภ้แม่ตายหรอก""แม่...."รามิลมองหน้าแม่ของเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ความดีของข้างหอมกับแสดงออกให้เธอได้รับรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้รักลูกชายเธอมากแค่ไหน และนั่นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขัดขวางความรักของทั้งสองคนอีกบายประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา เป็นพยาบาลที่วิ่งมาหาด้วยสีหน้าตกใจจนรามิลใจล่วงหล่นไปอยู่ตาตุ่ม"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?""กระสุนถูกจุดสำคัญ แล้วคนไข้ก็เสียเลือดมาก เราจำเป็นต้องผ่าตัดโดยด่วนค่ะ""รักษาได้เลยค่ะ ช่
รามิลลืมตาขึ้นมาด้วยความมึนงง อาการปวดหนึบที่หัวทำให้เขาต้องสะบัดไปมาเพื่อคลายมันลง กว่าจะปรับการมองเห็นได้ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ภาพแรกทำให้ทำเขาเบิกตากว้าง คนตัวเล็กถูกมัดเอาไว้ติดกับเก้าอี้ตรงหน้าเขาทั้งมีผ้ามัดที่ปากเอาไว้ด้วย รามิลพยายามขยับสุดแรงแต่แขนที่ถูกมัดไขว้หลังไว้ทำให้เขาทำตามใจได้ลำบากเขาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหถึงขีดสุด มุมปากสวยมีรอยแผลอยู่ด้วย สถานการณ์ที่เขาสองคนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องบอกจะะรามิลก็รู้ดีว่าใครเป็นคนทำ"ข้าวหอม ไหวไหมครับ?" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับเขาเพราะไม่สามารถพูดออกมาได้ ก่อนบานประตูจะเปิดขึ้นแล้วคนที่เขาคิดไว้ว่าเป็นคนทำจะเดินเข้ามา"มิ้นท์จับเรากับน้องมาทำไม?""เราแค่มีเรื่องคุยกับมิลหน่อย ส่วนนังเด็กนี่....""อย่าทำอะไรข้าวหอมนะ!" คนตรงหน้าเดินแสยะยิ้มมาหาเขาแล้วมองนิ่ง แววตาแสนอาฆาตแค้นนั้นเขาแทบไม่เคยเห็นมันมาก่อน เขาคิดผิดไปสินะที่เข้าไปพัวพันกับผู้หญิงคนนี้ ถึงมาคิดได้ในเวลานี้มันก็สายเกินไปแล้ว"ห่วงมันเหลือเกินนะ ความจริงมันควรจะตายไปตั้งแต่รอบที่แล้วด้วยซ้ำ""เราไม่เคยคิดเลยนะ ว่ามิ้นท์จะเป็นคนแบบนี้""ก็มิลนั่นแหละที่ทำให้เราเ
"สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนไม่ไหว""มึงก็ลองมีเมียมาอ้อนดูบ้างสิว่ะ" รามิลสวนกลับทิวเขาทันควัน ปกติข้าวหอมไม่ใช่คนขี้อ้อนอะไร แต่พออ้อนขึ้นมาทีใจเขาก็อ่อนยวบไปหมด สุดท้ายก็ต้องแพ้ทางทุกที"กูก็มีแล้วไงเมีย""ปากดีเข้าไปเถอะ คนไหนละเมียมึงอ่ะ" เขาพูดเย้าเพื่อนไปแต่เหมือนว่าอีกคนจะหัวเสีบ ก็กำลังพูดความจริงอยู่นี่ นิรินที่เป็นว่าที่คู่หมั้น หรือว่าปลายฟ้าที่มันได้ไปแล้วทั้งตัวทั้งใจละที่เป็นเมีย"อาหารมาแล้ว" คนตัวเล็กจาเป็นประกายทันทีที่อาหารมาเสิร์ฟ ดูแล้วคงจะหิวมากเพราะนั่งทำงานกับเพื่อนมาหลายชั่วโมง"เป็นครั้งแรกเลยนะที่มาร้านเหล้าแล้วสั่งอาหารเยอะขนาดนี้อ่ะ" ข้าวหอมหันไปมองริวแล้วเกาต้นคอแก้เขิน ก็คนมันหิวจะให้ทำยังไงละ ที่อยากมาที่นี่ก็แค่อยากจะดูหน่อยว่าบรรยากาศร้านเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้น"ทานกันได้เลยนะสาวๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง""ก็นึกว่ามีเงินพอเลี้ยงข้าวคนเดียว เลี้ยงเพื่อนข้าวไหวด้วยหรือไง""สบายมาก""เลี้ยงเพื่อนข้าวได้ แต่ห้ามเลี้ยงสาวคนอื่นเชียว""ดูสภาพเพื่อนพี่ มันจะไปเลี้ยงสาวที่ไหนได้" คิมหันต์ขำแล้วส่ายหัว ข้างหอมน่าจะเป็นคนแรกที่เอาเพื่อนเขาอยู่ขนาดนี้ รามิลแทบไม่มอง
"มึงคิดว่าจะเป็นยังไงต่อ?" รามิลมองไปที่ทิวเขาแล้วหยุดนิ่ง คำถาของเพื่อนทำให้นึกคิดอยู๋แต่ก็พอจะเดาได้ไม่อยาก แม่ของคนที่เขาพึ่งแจ้งตำรวจจับคงไม่ยอมปล่อยไปแบบนี้แน่ แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำแล้วก็แค่ต้องรอรับมือกับมันให้ได้ "จะเป็นยังไงก็ให้เป็นไป กูแค่อยากจะปกป้องคนของกู""พี่รามิล" พูดไม่ทันจบเสียงหวานจากคนของเขาก็ดังขึ้นพอดี ข้าวหอมโบกมืออยู่ไม่ไกลแล้วเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มเพื่อนของเธอ วันนี้เขาไม่มีเรียนแต่ก็มานั่งรอรับน้องตั้งแต่เช้า ไม่อยากให้ละสายตาไปไหนอีกแล้ว"เลิกแล้วหรอครับ เรียนเป็นไงบ้าง?""เหนื่อยมาก มีงานต้องทำด้วย" รามิลลูบหัวคนที่ปากยู่ลงยามเราให้เขาฟัง ดูจากสีหน้าแล้วเธฮคงเหนื่อยกับการเรียนมากอย่างที่บอก"พี่รามิลนี่ดีจัง มารอรับข้าวหอมทุกวันเลย" ยี่หวาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว ไม่ว่าจะมีเรียนหรอไม่มี ยุ่งมากแค่ไหนทุกครั้งที่เรียนเสร็จแล้วเดินลงมาก็จะเห็นรามิลมารอเพื่อนเธอแบบนี้ตลอด น่าจะเริ่มตั้งแต่ที่ข้าวหอมโดนแทงจนเข้าโรงพยาบาลวันนั้นละมั้ง"เมียทั้งคนก็ต้องมารอสิครับ""พี่รามิลพูดอะไรเนี่ย!?" อดไม่ได้ที่จะะบีบแก้มเนียนด้วยความหมั่นเขี้ยว ยิ่งในยามที่มันกำลังแดงระเรื่อด
เสียงเรียกจากพนักงานส่งอาหารดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่รามิลออกมาจากห้องน้ำพอดี พอรับของมาจ่ายเงินเสร็จแล้วก็เตรียมมันใส่จานเอาไว้ เหลือมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เดินกลับไปในห้องก็ยังเห็นคนตัวเล็กนอนคุดคู้อยู่บนเตียง รามิลนั่งลงแล้วหอมแก้มเธอแทนการเอ่ยปลุกแต่เหมือนว่าจะไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนมานั่งลูบหัวเธอแทนอย่างเอ็นดูเวลาอาทิตย์กว่าที่เขายุ่งกับการจัดการเรื่องที่คนตัวเล็กเจอมา ขุนเขายอมเปิดปากทั้งหมดว่ามิ้นท์เป็นคนสั่ง จริงๆก็ไม่ใช่ว่ายแมหรอกแต่เป็นเขาที่ไปขู่ต่างหาก ตอนนี้น้องชายของคนตัวเล็กถูกคุมตัวเอาไว้ เหลือก็แค่เพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาที่เขาอยากจะเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง รามิลก็แค่อยากลองให้โอกาสอีกคนเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าชดใช้ที่เป็นต้นเหตุของความแค้นในครั้งนี้เอนตัวลงนอนแล้งดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด หอมแก้มเธออยู่หลายครั้งเป็นการก่อกวนให้คนขี้เซาลืมตาตื่น ครั้งนี้ได้ผลข้าวหอมลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งมุ่ยหน้าใส่คงจะหงุดหงิดที่เขาไปกวนเวลาฝันหวาน"ทำไมงอแงครับ?""ข้าวเปล่างอแงก็แค่ยังนอนสบายอยู่เลย""ขี้เซาจัง จะเที่ยงแล้วครับ ลุกมาทานข้าวได้แล่ว" คนตัวเล็กผุดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งยังทำห







