LOGIN"หิวอ่ะ กินไรดี" ข้าวหอมหมุนตัวไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังแล้วเอ่่ยปากถาม เพราะช่วงเช้าเธอไปหาแม่ที่โรงพยาบาลเลยยังไม่มีอะไรตกถึงท้องจนถึงตอนนี้ อดทนเรียนทั้งที่ท้องร้องเพราะความหิวแทบทั้งคลาส เสียงโหวกเหวกของเหล่าหญิงสาวดังขึ้นเลยต้องหันไปมองตามอย่างอยากรู้
รามิลเดินเข้ามาด้านในแล้วมองหาใครบางคนเรียกให้นักศึกษาพากันซุบซิบว่าเขามาหาใคร ตาสองคู่สบกันก่อนรามิลจะเดินมาหาทั้งรอยยิ้ม
ข้าวหอมหมุนตัวหันหลังทำหน้าตาเลิกลั่กแล้วหลับตาลงคิดอยู่ในใจว่าขอให้เขาอย่าตรงมาหาเธอเลย ทั้งที่บอกไว้แล้วว่จะไม่บอกใครระหว่างเรื่องของเขากับเธอ แต่อีกคนก็ยังเทียวมาหากันแทบทุกวัน
"พี่มาชวนไปกินข้าว กำลังจะไปกันพอดีใช่ไหม?" รามิลนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างคนตัวเล็ก รอบมองอีกคนที่เอาแต่หันหน้าหลบไปไม่มองเขาแล้วนึกขำในใจ
ข้าวหอมกับเพื่อนนั่งลงบนโต๊ะที่มีเพื่อนของรามิลนั่งอยู่ก่อนแล้วอย่างห้ามไม่ได้ เพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองกันไม่เลิกก็เลยประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก เตรียมตัวจะลุกขึ้นไปสั่งอาหารสำหรับมื้อเที่ยงพอความหิวเข้าเล่นงานอีกรอบ
รามิลรั้งอีกคนเอาไว้แล้วดึงกระเป๋าตังค์ที่เธอถือเอาไว้ออกจากมือ แทนที่ด้วยกระเป๋าของเขาเองที่มันหนาซะจนมองดูก็รู้ว่าในนั้นคงมีเงินอยู่มากจนนับไม่ถ้วน
"อยากทานอะไรก็ซื้อเลย แล้วเอาเงินพี่จ่ายนะ"
"พี่รามิลป๋าจังเลยค่ะ ว่าแต่เลี้ยงแค่ข้าวหอมหรือพวกนิด้วยคะเนี่ย"
"ถามข้าวหอมเลยครับ พี่ให้กระเป๋าตังค์ไปแล้ว"
"เดี๋ยวจะใช้ให้หมดนี่แหละ" ข้าวหอมพูดกระแทกเสียงอย่างหมั่นไส้กับท่าทีอวดรวยของเขา
รามิลมองตามคนตัวเล็กเดินไปแล้วหลุดยิ้ม หันมาเอจไอเพื่อนตัวดีนั่งจ้องนั่งขมวดคิ้วกันเป็นแถบ
"ไหนว่าเป็นความลับ แสดงออกไปป่ะมึงอ่ะ" คิมหันต์ถอนหายใจใส่เพื่อนที่แสดงอาการออกนอกหน้า รามิลดูหลงรุ่นน้องคนนี้ซะจนเขาเองยังนึกแปลกใจ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวไปหมดจนไม่ได้คิดว่าเพื่อนตัวสูงจะติดใจถึงขั้นตามติดอีกคนแจไม่เลิก
"น้องรู้ป่ะว่าพวกกูรู้อ่ะ" ริวถามอย่างจริงจังเพราะดูเหมือนว่ารามิลจะไม่ได้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับขนาดนั้น ในความสัมพันธ์ที่มันอาจไม่มีสถานะหรือไม่มีใครเห็น แต่การที่รามิลเอาตามติดไม่ห่าง ว่างทีไรก็ต้องไปหารุ่นน้องอย่างข้าวหอมตลอดไม่ว่าใครก็มองออกว่ามันไม่ปกติ
"ไม่รู้ ข้าวหอมไม่ให้กูบอกใคร"
"แต่มึงก็เล่าให้พวกกูฟังอ่ะนะ"
"ก็แค่พวกมึง ไม่ใช่คนอื่นป่ะ" รามิลไม่ได้สนใจกับเรื่องที่เพื่อนพูดเพราะเขาไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไร จำได้ว่าสัญญากับคนตัวเล็กว่าจะไม่บอกใคร แต่เขาก็เพียงแค่เล่าให้เพื่อนฟังเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำให้อีกคนเสียหายอะไรสักหน่อย
"จะใครน้องมันก็เสียหาย" ทิวเขาพูดอย่างหัวเสียหลังเห็นว่ารามิลไม่ได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับบทสนทนานี้
"ถ้าพวกมึงไม่เล่า ทุกอย่างก็จบ" ริวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใหพูดไปให้ตายก็เหมือนหูซ้ายทะลุหูขวา ถึงรามิลจะไม่ได้ทำตัวเลวร้ายใส่ข้าวหอมยังไง แต่การเอาเรื่องบนเตียงของเธอมาพูดมันก็ไม่สมควรอยู่ดี เกิดคนตัวเล็กรู้เข้าละก็เป็นเรื่องใหญ่แน่
"อันนี้ของพี่" ข้าวหอมวางชามข้าวให้รามิลพร้อมกับคืนกระเป๋าตังค์เขาไปด้วย รับแก้วน้ำจากปลายฟ้ามาแล้วยื่นให้รามิลที่นั่งยิ่มให้เธออยู่ เขาจะยิ้มอะไรได้ทั้งวัน แทบจะเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที
"ไม่เห็นมีของพวกพี่เลยครับ คนสวยใจร้ายจัง" ริวแซวขึ้นมาจนข้าวหอมอึกอักไม่รู้จะพูดอะไร รามิลยักคิ้วอย่างรู้สึกเหนือกว่าใครแล้วรับแก้วน้ำที่เธอพึ่งยื่นมาให้ขึ้นมาดื่ม
"กระเป๋าตังค์พี่ต้องเอาให้พวกพี่ริวไปก่อนไหม?"
"ไม่อ่ะ ให้มันจ่ายกันเอง"
เพื่อนสาวคู่ขาของรามิลยืนมองอยู่ด้วยแววตาคาดเดาไม่ได้ กำแก้วน้ำแดงในมือแน่นแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะที่เธอมองอยู่ ทำท่าเหมือนกับสะดุดอะไรบางอย่างจนน้ำในแก้วหกเลอะเทอะเต็มตัวข้าวหอมไปหมด
คนตัวเล็กลูบน้ำที่เปอะเปื้อนใบหน้าออกก่อนจะหันไปเผชิญหน้า รุ่นพี่สาวสวยทำเป็นยืนขอโทษเสียงดังให้คนภายในโรงอาหารหันมามอง ถ้าเธอใช้กำลังในตอนที่อีกคนเอาแต่นอบน้อมแบบนี้ คงเป็นเธอเองนั่นแหละที่ถูกมองไม่ดี ลำพังก็แทบจะไม่มีใครชอบเธออยู่แล้ว
"ตั้งใจขนาดนี้ ยังจะมาพูดว่าไม่ได้ตั้งใจอยู่ได้"
"ช่างเหอะนิ" นิรินขมวดคิ้วยามเห็นข้าวหอมนิ่งอย่างนี้ทั้งที่ควรจะโกรธจนได้ต่อปากต่อคำกันสักยกแต่กลับมาพูดเหมือนว่าให้ปล่อยเนี่ยนะ
"แต่มันเห็นเสื้อในหมดแล้วอ่ะ" พูดขึ้นทั้งยกยิ้มมุมปากใส่คนตรงหน้าจนอีกคนทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่นานหลังจากจบประโยคเสื้อแจ็กเก็ตที่รามิลสวมอยูก็ถูกถอดมาคุมเธอไว้แทน จะสู้กับคนพวกนี้ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย แค่ใช้สมองกับมารยานิดหน่อยก็พอ
"ไปล้างเนื้อล้างตัวที่ห้องน้ำดีกว่า" ข้าวหอมแค่พยักหน้าตอบแล้วเดินตามรามิลไปอย่างว่าง่าย จนคนที่พึ่งน้ำหกราดตัวเธอต้องกำมือแน่น
ประตูห้องน้ำหญิงถูกผลักเต็มแรงด้วยอารมณ์หงุดหงิด ดึงเสื้อของรามิลที่คลุมอยู่ออกก่อนจะเปิดน้ำตรงอ่างล้างมือจนสุด รามิลใช้ผ้าเช็ดน้ำชุบน้ำแล้วเช็ดตามลำคอให้ ยื่นผ้าใส่มือเธอเอาไว้แล้วเดินไปกดลงกลอนประตูห้องน้ำ ข้าวหอมหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ
เอวคอดถูกเขาจับยกขึ้นให้นั่งบนอ่างล้างหน้า มือบางจับที่ไหลด้วยความตกใจ หยิบผ้าเช็ดหน้าในมือบางคืนมา เช็ดซับไปตามคอขาวและช่วงอก ปลดกระดุมเม็ดบนของอีกคนออกก่อนมือบางจะจับมือเขาไว้
"พี่จะทำอะไร"
"เช็ดให้ไง เลอะไปถึงข้างในเลยเนี่ย" จับมือของข้าวหอมออกแล้วปลดกระดุมลงจนหมด เช็ดคราบน้ำหวานสีแดงที่เหนียวจนติดตามกายขาวออกให้อย่างบรรจง
"เช็ดเฉยๆสิ จะมาจับนมทำไม"
"รู้ทันเฉยเลย" กำปั้นเล็กทุบที่แขนแกร่งของคนทะลึ่งแล้วดึงผ้ามาเช็ดเอง
"เหนียวไปหมดเลย เพราะพี่นั่นแหละ"
"เกี่ยวอะไรกับพี่ละ
"คู่นอนพี่ไม่ใช่หรอไง"
"ไปได้ยินมาจากใคร" ขมวดคิ้วถามเธอไปทันที ทั้งที่เขาไม่เคยบอกใครเรื่องของเขากับมิ้นท์โดยเฉพาะเธอ มีแค่พวกเพื่อนสนิทที่รู้ แล้วใครมันไปปากบอนอีก
"คนเขาพูดกันให้ทั่วว่าพวกพี่เหมาะสมกันมาก แหวะ"
"หึงหรอ" ก้มหน้าเข้าไปใกล้แล้วถามกวนอารมณ์คนตัวเล็กอย่างชอบใจ
"จะหึงทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกัน" ข้าวหอมผลักใบหน้าหล่อให้ออกห่างแล้วขยัับลงมายืนติดกระดุมเสื้อให้เหมือนเดิม
"ไม่ใช่ว่าเป็นเมียพี่หรอกหรอ"
"ถ้าได้กันแล้วหมายถึงว่าเป็นเมียพี่ พี่มิ้นท์ก็คงเป็นเมียพี่อีกคนสินะ"
"ประชดเก่ง"
.
.
.
.
"มิลคุยกับมิ้นท์ก่อนสิ" รามิลเดินหนีคนที่พยายามจะคุยกับเขาตั้งเรียนจบคลาสจนเดินตามมาถึงที่รถ คนเดินตามรั้งแขนเขาเอาไว้ก่อนเขาจะออกแรงสะบัดออก
"บอกแล้วใช่ป่ะว่าไม่ชอบให้ทำแบบนี้"
"นี่โกรธเราเพราะเด็กนั่นหรอ" เขาไม่ตอบอะไรแล้วเปิดประตูขึ้นรถไปก่อนอีกคนจะวิ่งขึ้นไปเปิดประตูรถอีกฝั่งแล้วขึ้นมานั่งตาม
เขาก็พูดไม่ถูกเหมือนกันว่าโกรธที่ข้าวหอมถูกแกล้งแบบนั้นด้วยไหม แต่แค่ไม่ชอบท่าทีทำตัวเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบนั้นของอีกคน ทั้งที่เขาชัดเจนมาตลอดว่าระหว่างเรามันแค่ไหน
"เราบอกตลอดว่าอย่าไปรังควานใคร ทำไมไม่ฟังว่ะ"
"ก็เด็กนั่นมันมายุ่งกับมิล"
"แล้วยังไง"
"มันอ่อยมิลอยู่นะ"
"ข้าวหอมไม่เคยอ่อยเราเลย เราเข้าหาน้องเอง จบป่ะ" พูดตัดบทแล้วไม่พูดต่อก่อนแขนแกร่งจะถูกอีกคนกอดเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยแนบที่แขนถูไถไปมาออดอ้อน
"ขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว"
"แน่ใจนะ"
"แน่ใจสิ งั้นวันนี้จะไถ่โทษที่ทำผิดให้นะ" เป็นบทสนาทนาที่เขารู้กันดีว่าหมายถึงอะไร รามิลขับรถออกไปทั้งที่ไม่ได้มองว่าข้าวหอมยืนอยู่ตรงนั้น คนตัวเล็กถอนหายใจให้ตัวเองแล้วก้มมองเสื้อที่เธอตั้งใจเอามาคืน เอาไว้ค่อยคืนพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ออกไปด้วยกันแบบนั้น จะไปทำอะไรกันต่อรึเปล่านะ
"ไม่ๆ เขาจะไปทำอะไรกันก็เรื่องของเขาสิ" สะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะยัดเสื้อแจ็กเก็ตเก็บไว้ในกระเป๋าก่อน"
@บ้านข้าวหอม
"กลับบ้านได้แล้วหรอ ไปแรดที่ไหนมาตั้งหลายวัน" หันไปมองพ่อเลี้ยงของเธอที่นั่งดื่มแล้วทักขึ้นมาด้วยคำหยาบ กรอกตามองอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าห้องไป หยิบผ้าขนหนูพาดบ่าเดินเข้าห้องน้ำไม่ทันได้สังเกตสายตาคนเมาที่มองตาม ไม่ทันจะได้ปิดประตูห้องน้ำก็ถูกผลักเข้าไปด้านนเต็มแรง
"พ่อจะทำอะไร"
"โตเป็นสาวขนาดนี้แล้ว ทำหน้าที่แทนแม่แกได้แล้วมั้ง" มือหยาบกร้านส่งมาล้ตามใบหน้าเธอ ขาเรียวถอยหลังหนีก่อนอีกคนจะพุ่งจู่โจมเข้ามา คนตัวเล็กพยายามดันอีกคนออกจนสุดแรง เสื้อนักศึกษาถูกดึงออกจนขาดวิ่น หาจังหวะได้ก่อนจะเตะเข้าไปตรงหว่างขาจนคนตรงหน้าล้มลงด้วยอาการจุก
วิ่งไปในห้องก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์แล้วออกจากบ้านไปทั้งอย่างนั้น โบกมือเรียกแท็กซี่แล้วรีบขึ้นไป บอกจุดหมายที่เธอนึกออกเป็นที่แรกและใกล้เธอมากที่สุดแล้วกอดตัวเองเอาไว้แน่น มือสั่นเทาพยายามกดโทรหาใครอีกคนแต่ไม่ได้รับการตอบรับ
"ถ้าเกิดว่ามีอะไร มาหาพี่ได้ตลอดเลยนะ" ประโยคที่เขาบอกเอาไว้ยังดังก้องในหัว เธอเดินผ่านเข้าไปภายในอย่างง่ายดายเพราะพนักงานที่นี่เห็นเธอมากับรามิลอยู่บ่อยครั้ง ลิฟท์ที่เคลื่นตัวช้าอยู่แล้วกลับยิ่งช้ากว่าเก่าในเวลานี้
ยืนช่างใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูไปสองสามครั้ง ไม่มีเสียงตอบรับใดเลยตัดสินใจจะเคาะอีกรอบแต่บานประตูเปิดออกมาซะก่อน
"ข้าวหอม....." รามิลอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำออกมา ก่อนจะเป็นรุ่นพี่สาวสวยเดินตามหลังมาทั้งที่มีเพียงแค่ผ้าขนหนูพันรอบตัวไว้ แค่ดูก็รู้ว่าทำอะไรกันอยู่
"ขะ ข้าวไม่รู้ว่าพี่มีแขก ปะ ไปก่อนนะ" คนตัวเล็กหมันเตรียมตัวจะเดินไปแต่รามิลรั้งข้อมือไว้แล้วดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด เพียงแค่สบในตาสวยแปปเดียวเขาก็รู้แล้วว่ากำลังจะร้องไห้
"เป็นอะไรครับ? ใครทำอะไร? บอกพี่มา" เพียงแค่เขาถามแบบนั้นหยดน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลออกมาอย่างหนัก แขนเรียวยกขึ้นกอดตอบเขา มือหนาลูบแผ่นหลังปลอบประโลมคนที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
"มิลคะ...."
"กลับไปก่อน"
"แต่ว่า...."
"เราบอกให้กลับไป ไม่เข้าใจหรอ"
ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา
รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้
รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง







