Share

บทนำ 2

last update Last Updated: 2025-10-09 23:24:34

บทนำ 2

ดวงตากลมโตหลุบมองมือที่ประสานกันอยู่หน้าตักทันที หลังจากได้ยินคำถามที่มีผลต่อความรู้สึก สุพรรณวดีนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นไปมองคู่สนทนา เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นความอ่อนไหวในแววตาที่กำลังฉายออกมาอย่างชัดเจน ทว่าไม่นานเธอก็พยักหน้าลงและตอบคำถามออกไปเบา ๆ “ได้เห็นนิดหน่อยค่ะ”

“เห็นนิดหน่อยนี่คือยังไง ?” ความอยากรู้ทำให้มัลลิกาถามต่อ พร้อมเอียงคอเล็กน้อย

“ก็ได้เห็นบ้าง…”

คำตอบที่ไม่ชัดเจนนั้นยิ่งทำให้สาวใหญ่งงหนักยิ่งกว่าเดิม จนต้องถามออกไปอีกครั้ง “หมายถึงแค่เห็นเฉย ๆ เหรอ หรือยังไง พี่ไม่เข้าใจ ได้พูดคุยหรือได้ใช้เวลาร่วมกันบ้างไหม”

สุพรรณวดีส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะกลืนน้ำลายหนืด ๆ ลงคอ สายตาเหม่อมองมือตัวเองที่ยังประสานกันอยู่หน้าตัก พลางนึกถึงใบหน้าของลูกชายวัยเจ็ดขวบที่เธออุ้มท้องมาเก้าเดือน ทว่ากลับมีโอกาสเลี้ยงดูแกแค่ตอนแรกเกิดเพียงสามเดือนเท่านั้น มิหนำซ้ำยังเป็นสามเดือนที่เต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคมากมายอีกด้วย

“สักครั้งก็ไม่เคยเลยเหรอ” มัลลิกาถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง เพราะหล่อนทำงานกับสุพรรณวดีมานานถึงสามปีและกำลังจะเข้าปีที่สี่ หล่อนเห็นหญิงสาวเก็บเงินเพื่อบินไปหาลูกที่ประเทศฝรั่งเศสทุกปี บางปีถ้ามีเงินเก็บมากหน่อยก็บินไปหาถึงสองรอบ ถึงจะพอรู้ว่าสุพรรณวดีกับอดีตสามีไม่ได้ติดต่อกันแล้ว แต่หล่อนก็คิดว่าที่รุ่นน้องสาวบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงนู้น ก็คงจะได้เจอหรือไม่ก็ได้พูดคุยกับลูกบ้าง

เขาไม่ให้เจอเหรอ” มัลลิกาถามต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “เอ่อ...พี่หมายถึงพ่อของลูกเอยน่ะ”

“เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเอยไป” สุพรรณวดีตอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปฝืนยิ้มให้รุ่นพี่สาว

“ทำไมล่ะ พี่จำได้ เอยเคยเล่าให้ฟังว่าเอยกับพ่อของลูกจบกันด้วยดีนี่นา คุยกันเรื่องลูกแล้วด้วย แล้วทำไมเขาถึงกีดกันเอยเรื่องลูกล่ะ”

นั่นสิ เป็นเรื่องที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ จนถึงตอนนี้เธอยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมมันถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ ทั้งที่ก่อนจะแยกทางกัน เขาเป็นคนพูดออกมาเองว่าเธอสามารถไปหาลูกได้ตลอด

“เอยก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่เอยไปก็เพราะว่าเอยอยากไปเห็นหน้าลูก แค่เห็นเฉย ๆ เอยก็ดีใจมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้มัลลิกาอีกครั้ง แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะดูไม่ออกว่าเป็นรอยยิ้มที่ฝืนมากเพียงไร เธอพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกตัวเอง

“พี่เข้าใจนะว่าแค่เห็นหน้าก็ดีใจแล้ว แต่อย่างน้อย ๆ เอยก็ควรได้เจอ ได้อยู่กับลูก แบบนี้ก็หมายความว่าเอยไปเสียเที่ยวน่ะสิ ค่าตั๋วเครื่องบินไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ ไหนจะค่าที่พัก ค่ากิน ค่าเดินทางในประเทศอีก”

ไม่ใช่ว่าสุพรรณวดีไม่เคยคิดเรื่องนี้ การเดินทางไปหาลูกแต่ละครั้งเธอต้องใช้เวลาเก็บเงินนานถึงหนึ่งปี เพราะค่าตั๋วเครื่องบินและค่าครองชีพที่สูงของประเทศแถบยุโรปไม่ใช่ราคาที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเธอจะสามารถจ่ายได้โดยไม่คิดอะไร ทุกครั้งที่เธอมีโอกาสได้บินไป เธอก็หวังอยู่ในใจลึก ๆ ว่าจะได้เจอและได้กอดลูกสักครั้ง ทว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาเธอกลับไม่เคยได้รับโอกาสได้นั้นเลย

“เขาน่าจะยุ่ง เอยเลยไม่กล้าไปรบกวน” สุพรรณวดีตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ อันที่จริงเธอไม่รู้หรอกว่าพ่อของลูกจะยุ่งหรือไม่ในช่วงเวลาที่เธอไป เพราะเธอไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย เขาเป็นคนที่ไม่ติดโซเชียล ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บ่อยที่สุดก็คงจะเป็นอีเมลซึ่งใช้เกี่ยวกับงานเท่านั้น ส่วนถ้าใครมีเรื่องด่วนจริง ๆ ก็จะติดต่อผ่านเบอร์มือถือ

ซึ่งพอย้ายไปอยู่ที่โน่น เขาก็จะเปลี่ยนไปใช้อีกเบอร์...ซึ่งเธอไม่มี

ติดต่อผ่านอีเมลบริษัทก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับมาสักครั้ง

ครั้นพอได้ลองคิดอีกแง่ ว่าอาจจะไม่ใช่เพราะเขาไม่เล่นโซเชียล ทว่าเป็นเพราะเขาไม่ยอมรับการติดต่อจากเธอ ก็ทำให้เธอไม่กล้าติดต่อเขาไปอีกในช่วงปีหลัง ๆ และถึงเธอจะติดต่อเพื่อขอเจอลูก เขาก็คงไม่ให้เจอง่าย ๆ เพราะเขาคงเกลียดเธอไปแล้ว

ถ้าเขาอยากให้เจอ เขาก็คงไม่เลือกพาลูกไปอยู่ไกลจากเธอขนาดนั้น

“เอย พี่ว่าแบบนี้มันไม่ใช่แล้วนะ คือเอยเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปตั้งไกล ต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ต้องเคลียร์เวลาให้สิ” สาวใหญ่พูดใส่อารมณ์นิด ๆ อย่างลืมตัว ทว่าครู่ต่อมาก็นึกได้ว่าสุพรรวณดีกับอดีตสามีอาจจะมีปัญหาที่ทำให้มองหน้ากันไม่ติดมากกว่าที่ตนรู้ สาวใหญ่จึงรีบควบคุมอารมณ์ บอกตัวเองให้ใจเย็นลง แล้วยื่นมือออกไปจับมือบางที่ยังประสานกันอยู่บนหน้าตัก ก่อนจะบีบเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ “เอาเถอะ ยังไงพี่ก็เป็นกำลังใจให้เอยนะ เอยยังมีพี่อยู่ข้าง ๆ ตรงนี้ ถ้าเอยมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ เอยมาปรึกษาพี่ได้ตลอด”

สุพรรณวดียกมืออีกข้างไปวางทับมือรุ่นพี่สาวที่วางทับมือตนอยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้ด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบคุณพี่มะลิมาก ๆ เลยนะคะ ใจดีกับเอยตลอดเลย”

“ก็มีกันอยู่แค่นี้นี่ ถ้าไม่รักกันไว้แล้วจะให้ไปรักใคร ให้พี่ไปอยู่กับแก๊งนั้นพี่อยู่ไม่ได้หรอก วัน ๆ เอาแต่จับกลุ่มเมาท์ แล้วก็อวดของแบรนด์เนม ขืนพี่เข้าไปรวมแก๊งมีหวังหมดตัวกันพอดี ลูกผัวไม่ต้องกินแล้วข้าว กินกระเป๋า กินรองเท้าแบรนด์เนมแทน แล้วอีกเรื่องนะ พี่ละหมั่นไส้สุด ๆ ตอนพวกนางประจบประแจงผู้ปกครองของเด็ก แล้วก็ส่งสายตาอ่อยคนนั้นคนนี้ไปทั่วน่ะ พี่บอกเลยนะ ฟิวส์ยังมาบ่นกับพี่เลยว่ากลัวพวกนาง” มัลลิกาว่าด้วยความรู้สึกอคติ หากก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก ส่วน ‘ฟิวส์’ ที่เอ่ยถึงคือหนึ่งในครูต่างชาติที่สอนประจำอยู่โรงเรียนแห่งนี้

ส่วน ‘แก๊งนั้น’ ที่สาวใหญ่พูดถึงคือแก๊งครูสาวคนไทยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีหน้าตาที่สะสวย บุคลิกดี โดดเด่น ทว่าชอบจับกลุ่มกันนินทาว่าร้ายและเหยียดคนที่ด้อยกว่า แต่แปลกที่พวกหล่อนมักได้รับความสนใจจากครูผู้ชายและผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือบางคนก็มีภรรยาอยู่แล้วเป็นตัวเป็นตน

“กลุ่มนั้นเป็นแก๊งสาวโสดนี่คะ จะส่งสายตาให้ใครก็ไม่แปลกหรอก” สุพรรณวดีเอ่ยกลั้วขำ เพื่อนร่วมงานในโรงเรียนนี้เธอไม่ได้มีอคติกับใครทั้งนั้น

“ก็ไม่แปลก แต่พี่หมั่นไส้นี่นะ” สาวใหญ่ยู่ปากบ่นเซ็ง ๆ “เอยของพี่สวยกว่าตั้งเยอะ มีผู้ชายมาขายขนมจีบให้มากกว่าด้วย ทั้งบ๊อบบี้ ทั้งมาร์ค ไหนจะจอร์นอีก แต่พี่ไม่เห็นว่าเอยจะกระดี้กระด้าหรือแสดงอาการดีใจออกนอกหน้าเหมือนพวกนางเลย”

“อ้าว ก็เอยไม่ได้ชอบนี่คะ” เธอไม่ปฏิเสธเรื่องที่มีคนเข้ามาจีบเยอะ ครูฝรั่งที่เข้ามาตีสนิทแบบเนียน ๆ เธอก็ดูออก แต่ประเด็นมันอยู่ที่เธอไม่ได้สนใจใครเลยต่างหาก เธอให้พวกเขาได้แค่มิตรภาพและความเป็นเพื่อนร่วมงานเท่านั้น

“แต่ละคนที่เข้ามารวย ๆ ทั้งนั้นเลยนะ เหมือนมารับจ็อบเป็นครูเพื่อหาประสบการณ์กันเฉย ๆ บางคนพี่ยังเสียดายแทนเลย”

“เอยยังไม่อยากมีใคร อีกอย่างเอยไม่เหมาะกับคนระดับนั้นหรอกค่ะ”

“เอาอะไรมาไม่เหมาะจ้ะ เอยของพี่ออกจะแสนดีขนาดนี้ พี่ว่าเอยเปิดใจให้ใครสักคนเถอะ มีคนดี ๆ หลายคนเลยที่พร้อมจะดูแลเอย”

“เช่นพี่ภพ น้องชายของพี่มะลิหรือเปล่าคะ” สุพรรณวดีเอ่ยยิ้ม ๆ อย่างรู้ทันสาวรุ่นพี่ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มัลลิกาหาโอกาสพรีเซ้นต์น้องชายของตนเองที่ยังโสดให้เธอ

“พี่ว่าพี่เนียนแล้วนะ”

“ไม่เนียนเลยนะ ชัดเจนมาก”

มัลลิกาหัวเราะเขิน ๆ พลางก้มมองนาฬิกาข้อมือ ครั้นเห็นว่าถึงเวลาที่ตนรบกวนเวลารุ่นน้องมามากพอแล้วจึงเอ่ยขอตัว หากก็ไม่ลืมที่จะฝากน้องชายตัวเองส่งท้าย “จะบ่ายแล้ว พี่ไปก่อน อย่าลืมนะเอย ถ้าเปิดใจเมื่อไร ช่วยรับน้องชายพี่ไปพิจารณาด้วย หล่อ รวย นิสัยดี สายเปย์ และที่สำคัญโสดมาก”

“ไว้ถ้าเหงาเมื่อไร เดี๋ยวเอยติดต่อไปนะคะ” หญิงสาวตอบพร้อมขยิบตาส่งให้อย่างคนขี้เล่น ซึ่งรู้กันว่าเป็นแค่การหยอกล้อ ไม่ได้จริงจังอะไร

พออีกฝ่ายเดินลับสายตาไปแล้ว สุพรรณวดีจึงถอนหายใจเบา ๆ ด้วยรู้สึกเหนื่อยอยู่ในใจ ไม่ได้เหนื่อยเพราะคุยกับมัลลิกาก่อนหน้านี้ หากเหนื่อยกับเรื่องที่ค้างคาและสิ่งที่เป็นอยู่ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น

สำหรับสุพรรณวดี ตอนนี้เธอไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลย เธอแค่อยากมีโอกาสได้เจอและได้กอดลูกของตัวเองสักครั้ง แต่ก็เหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากเสียเหลือเกิน เพราะเธอไม่สามารถติดต่ออดีตสามีหรือพ่อของลูกได้เลยสักช่องทาง เหมือนว่าเธอถูกครอบครัวนั้นปิดกั้นไปแล้วโดยสมบูรณ์แบบ

และเขาคนนั้นก็คงจะเกลียดเธอมาก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียสุดโปรด   ตอน...พิเศ๊ษพิเศษ

    ตอน...พิเศ๊ษพิเศษวันนี้ครอบครัวของสุดโปรดกับสุพรรณวดีถือโอกาสมาทำบุญที่วัด เพื่อระลึกถึงบิดาที่ล่วงลับทั้งสองคน โดยมีคุณแก้วมณีกับคุณสุนีย์เป็นธุระ จัดหาอาหารและข้าวของต่าง ๆ มาถวายพระประเสริฐกับชินภัทรจากไปคนละปี ทว่าจากไปในเดือนที่ไล่เลี่ยกัน ทั้งสองครอบครัวเลยตกลงกันว่าต่อไปนี้จะทำบุญระลึกถึงร่วมกันแบบนี้ทุก ๆ ปี“จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังมีคำถาม สามีฉันผิดอะไร ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้” แก้วมณีรำพึงขึ้นมาขณะย้ายมานั่งที่ศาลากลางน้ำ มองปุณยวีร์ให้อาหารปลาโดยมีแม่ของแกยืนดูแลความปลอดภัยอยู่ใกล้ ๆ ส่วนคนเป็นพ่อนั้นอุ้มเด็กชายปัญญวัฒน์วัยหกเดือนซึ่งกำลังหลับปุ๋ยพาดบ่าหล่อนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนี้สามียังมีชีวิตอยู่ คงจะมีความสุขไม่น้อยที่ได้เห็นภาพเดียวกับที่หล่อนเห็นในตอนนี้“คุณภัทรไปดีแล้วค่ะ” สุนีย์ปลอบใจ ทั้งที่ตัวเองก็มีคำถามไม่ต่างกัน เพราะประเสริฐถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย แต่ยังต้องมารับกรรมที่คนอื่นเหวี่ยงมาให้“ฉันพยายามคิดว่าโชคชะตามันกำหนดมาแบบนี้ แต่บางทีมันก็...เฮ้อ” สุดท้ายก็ต้องผ่อนลมหายใจ เมื่อไม่รู้จะอธิบายความหดหู่ใจของตนเองอย่างไรดี“ฉันเข

  • เมียสุดโปรด   ตอนพิเศษ 2 (2)

    ตอนพิเศษ“พี่โปรด เอยถามได้ไหม ทำไมยังเก็บรูปพวกนี้กับของของเอยเอาไว้” เธอผละออกมาเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขา อันที่จริงเธอตั้งใจจะถามหลายครั้งแล้ว หากไม่มีจังหวะได้ถามเลยพอนึกได้เขาก็ไม่อยู่ให้ถาม พอเขาอยู่เธอก็ดันลืม“ทิ้งไม่ลง” เพราะมันเป็นห้องนอนของเราสองคน ข้าวของมากกว่าครึ่งเป็นของสุพรรณวดี เขาทำใจไม่ได้เมื่อจินตนาการว่าของบางส่วนที่เคยอยู่ในห้องนี้จะหายไป และเขากลัวว่าหากทิ้งไปภายในห้องนี้จะไม่มีกลิ่นอายของคนที่เคยเป็นเจ้าของ“ทิ้งไม่ลงหรือเพราะยุ่งจนไม่มีเวลาจัดการกันแน่คะ” เธอเย้าแหย่เขายิ้ม ๆ ด้วยปัจจุบันเธอมีความสุขดีแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกปวดใจแล้วเมื่อพูดถึงอดีต ไม่ว่าเขาจะตอบอย่างไร สุดท้ายมันก็กลายเป็นอดีตอยู่ดี“ถ้าตอบตรง ๆ ก็ประมาณนั้นแหละ ทั้งไม่มีเวลา ทั้งตัดใจทิ้งไม่ลง เลยเอาไว้ก่อน ค่อยตัดสินใจทีหลังว่าจะยังไง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทิ้ง” สุดโปรดกระชับวงแขน กดริมฝีปากลงบนหน้าผากของภรรยาหนึ่งที “ถือว่าเป็นช่วงชีวิตที่แย่สุด ๆ แล้วละ อกหักก็ไม่มีเวลาเสียใจ ปัญหาถาโถมเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน ลูกก็ยังเล็ก”เธอสอดแขนกอดร่างหนา แนบแก้มลงบนแผ่นอกกว้าง “มันผ่านมาแล้วค่ะ”“

  • เมียสุดโปรด   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2“อาทิตย์หน้าพี่ต้องไปฝรั่งเศสนะ รอบนี้ว่าจะพาเอยกับลูกไปด้วย” สุดโปรดเอ่ยขึ้นมาในคืนหนึ่ง หลังจากกินข้าวเสร็จและขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เด็กชายปุณยวีร์เห่อนอนกับพ่อแม่แค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น ผ่านไปไม่ถึงเดือนหนุ่มน้อยก็แยกไปนอนห้องของตัวเอง หากก็มีบ้างที่ขอมานอนด้วยอีก แต่ก็ไม่บ่อยนักตอนแรกพวกเขาต้องไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านของตนกับบ้านของคุณยายสุนีย์ เพราะสุพรรณวดีไม่อยากให้มารดาอยู่คนเดียว แต่เดี๋ยวนี้เธอวางใจมากขึ้นและจะค้างบ้านที่เป็นเรือนหอเสียส่วนใหญ่ สาเหตุมาจากมารดาของเธอรับอุปการะเด็กหญิงคนหนึ่งมาอยู่ด้วยแล้วเด็กคนนี้ชื่ออารียา ชื่อเล่นว่าน้องแอ้ม เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในชุมชุนเดียวกันกับตอนที่เธอและแม่ยังอยู่บ้านเช่า เห็นกันมาตั้งแต่แกอายุห้าขวบ จนตอนนี้น้องอายุได้สิบเอ็ดขวบแล้ว แม่กับพ่อของอารียาเลิกกันไปตั้งแต่แกยังเล็ก ๆ หนูน้อยจึงต้องอาศัยอยู่กับผู้เป็นพ่อที่หาเช้ากินค่ำกันแค่สองคนทว่าเมื่อหลายเดือนก่อนตอนที่สุนีย์ไปทำเรื่องคืนบ้านเช่า ก็ได้รู้ข่าวว่าบิดาของอารียาโดนตำรวจจับข้อหาเสพและจำหน่ายยาเสพติด ผู้สูงวัยรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก สิ่งแรกที่หล่อนนึกถึงคือเด็กหญ

  • เมียสุดโปรด   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1หลังจากสังเกตพฤติกรรมการเล่นโทรศัพท์และแท็บเล็ตของลูกชายมาสักระยะ ก็พบว่าปุณยวีร์ชักจะติดงอมแงมมากขึ้นทุกวัน สุดโปรดกับสุพรรณวดีที่ใจอ่อนผ่อนปรนให้ลูกเล่นมาตลอด จึงตกลงกันว่าต้องหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังก่อนที่ลูกจะติดไปมากกว่านี้ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อตัวลูกในอนาคตโดยวิธีแก้แบบเบสิกที่ทั้งสองคนเห็นพ้องต้องกันก็คือการให้เวลากับลูก ชักชวนแกทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์น้อยที่สุด หรือถ้ามีเวลามากพอก็อาจจะชวนแกไปเที่ยวจังหวัดใกล้ ๆ เพื่อให้แกสนใจสิ่งรอบตัวมากกว่าสิ่งที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตยอมให้แกเล่นได้บ้าง แต่ก็จะมีชั่วโมงการเล่นที่จำกัด“พ่อ ๆ ส่งมาให้ปลื้มเลยฮะ” ปุณยวีร์ตะโกนเสียงดังบอกบิดาที่กำลังเลี้ยงลูกฟุตบอลอยู่อีกฝั่งของสนามขนาดเล็ก“รับนะ” สุดโปรดส่งสัญญาณ ก่อนจะเตะบอลส่งให้ลูกไม่แรงมากนักเด็กชายเตะประคองลูกกลม ๆ ที่พ่อส่งมาให้ได้ไม่มั่นคงสักเท่าไร เนื่องจากเพิ่งหัดเล่นได้ไม่นาน วรพัฒน์ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็ค่อย ๆ วิ่งเหยาะ ๆ ทำเหมือนจะเข้าไปแย่งบอลจากข้างหลัง หนุ่มน้อยเห็นอย่างนั้นก็กางแขนออกกั้นไว้ หากเท้าก็ยังคงประคองลูกบอลอย่างต่อเนื่อง กระท

  • เมียสุดโปรด   ตอนจบ 2

    ตอนจบพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของสุพรรณวดีผ่านไปอย่างเรียบง่าย แขกที่ถูกเชิญมาร่วมงานมีไม่มากนัก เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างจำกัด กอปรกับเจ้าของบ้านอยากจัดแบบเรียบ ๆ จึงชวนแค่เฉพาะคนที่สนิทกันจริง ๆ เท่านั้น“แล้วนี่เอยไม่ย้ายไปอยู่บ้านของคุณสามีเหรอ” มัลลิกาถามขึ้นขณะนั่งดื่มสังสรรค์กันหลังจากเสร็จสิ้นพิธี และแขกบางส่วนได้เดินทางกลับไปแล้ว เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนที่ยังนั่งคุยและนั่งดื่มกันอยู่บริเวณหน้าบ้านสุพรรณวดีละสายตาจากลูกชายกับเพื่อนของแก ที่เพิ่งวิ่งเข้าไปหาคุณย่ากับคุณยายในบ้านมาตอบสาวใหญ่ที่นั่งข้าง ๆ “ไม่ค่ะพี่มะลิ เอยไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียว แต่ก็คงจะไป ๆ มา ๆ แหละค่ะ”มัลลิกาพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะยิ้มแซวแล้วขยับเข้าไปกระซิบ “แหม คุณน้องคะ ไหนตอนแรกบอกพี่ว่าจะไม่กลับไปคืนดีไง” หล่อนพยักพเยิดหน้าไปยังสุดโปรดที่นั่งอยู่อีกข้างของสาวรุ่นน้อง ซึ่งกำลังคุยกับวินทร์และณิชาอยู่ “แบบนี้น้องชายพี่ก็กินแห้วน่ะสิ”หญิงสาวอมยิ้มเขิน ไม่ตอบคำถามแรกเพราะไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร แต่ตอบกลับประโยคหลังแทน “พี่มะลิก็ชงไปเรื่อยเลย เอยกับพี่ภพยังไม่เคยรู้จักกัน จะกินแห้วได้ไงคะ”“ก็พี่จองเอยไ

  • เมียสุดโปรด   ตอนจบ

    บทที่ 24ตอนจบ“ทำไมเมื่อคืนนี้แม่แอบไปนอนห้องพ่อล่ะ” ปุณยวีร์ถามขึ้นมาด้วยสีหน้ายุ่ง ๆ ระหว่างนั่งรับประทานมื้อเช้า เด็กชายไม่ได้โกรธที่พ่อแม่นอนด้วยกัน เพียงแต่งอนนิด ๆ เพราะไม่มีใครชวนตนไปนอนด้วยเลยและที่หนุ่มน้อยรู้ ก็เพราะว่าเมื่อเช้านี้แกตื่นมาแล้วไม่เจอใคร จำได้ว่าก่อนนอนยังมีมารดานอนอยู่ข้าง ๆ ทว่าพอตื่นมากลับไม่เจอเสียอย่างนั้น ปุณยวีร์เกิดความสงสัย ทำไมวันนี้ไม่มีใครเข้ามาปลุกเหมือนทุกวันที่ต้องไปโรงเรียน เด็กชายจึงเดินไปเคาะประตูห้องนอนบิดา และยิ่งงงหนักกว่าเก่าเพราะพ่อล็อกห้อง ทั้งที่ปกติไม่ใช่อย่างนี้ปุณยวีร์ยืนเคาะเรียกพ่ออยู่พักหนึ่ง ไม่นานประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออก เด็กน้อยกำลังจะร้องถาม ทว่าพ่อกลับยกนิ้วขึ้นมาแตะปากไม่ให้ส่งเสียง ก่อนจะกระซิบบอกเสียงเบาว่า‘แม่นอนอยู่’จึงทำให้เด็กชายรู้ว่าเมื่อคืนนี้แม่แอบไปนอนห้องพ่อ โดยไม่บอกเขา!สุพรรณวดีที่ถูกลูกยิงคำถามมาเช่นนั้นก็เกิดอาการอึกอัก สายตาเธอล่อกแล่กหลุบมองถ้วยข้าวต้มไม่รู้จะโฟกัสที่จุดใด หากตอนนี้มีเพียงเธอกับเขาและลูกแค่สามคนก็คงจะไม่เป็นอะไร ทว่ายังมีป้ามาลัยกับสาวใช้อีกสองคนที่ยืนยิ้มอยู่ไกล ๆ เมื่อได้ยินคำถามขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status