เมียสุดโปรด

เมียสุดโปรด

last updateLast Updated : 2025-10-11
By:  สามินีUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
68Chapters
37views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

โปรย... หลังจากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น สร้างความบาดหมางรุนแรง…จนทำให้สองครอบครัวซึ่งเกี่ยวดองเป็นมิตรที่ดีต่อกันแตกหัก สุพรรณวดีกลายเป็นบุคคลต้องห้ามสำหรับครอบครัวสามี พวกเขารังเกียจเธอจนถึงขั้นไม่อยากเห็นหน้า หญิงสาวกัดฟันสู้จนสุดความสามารถ หากผลที่ได้กลับไม่ต่างจากเดิม จึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับความจริง รวมถึงยอมรับการตัดสินใจของสุดโปรดซึ่งเป็นสามีที่ขอ ‘หย่า’ พร้อมทั้งตกลงกันในเรื่องการดูแล ‘ลูก’ ที่เพิ่งคลอดออกมาได้เพียงแค่สามเดือน เหมือนว่าการพูดคุยของทั้งสองคนในวันนั้นจะลงเอยด้วยดี… แต่จริง ๆ แล้วกลับไม่ใช่เลย เพราะหลังจากนั้นแค่ไม่กี่เดือนสุดโปรดกับลูกก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้เธอไม่ได้เจอหน้าลูกอีกเลย…

View More

Chapter 1

บทนำ

บทนำ

เสียงพูดคุยแจ้วจ้าวของเด็กปฐมวัยเงียบสงบลงเมื่อถึงเวลานอนกลางวัน สุพรรณวดีซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเด็กอนุบาลหนึ่งทับสองเดินตรวจตราการนอนของเด็กน้อยที่อยู่ในความดูแลของตน ใบหน้าสวยระบายยิ้มพร้อมส่ายไปมาเบา ๆ ด้วยความอ่อนใจระคนเอ็นดูเมื่อเห็นว่าเจ้าแสบทุกคนหลับสนิทกันหมดแล้ว

“หมดฤทธิ์กันแล้วสินะ” คุณครูยังสาวเอ่ยเบา ๆ พลางยอบตัวนั่งลงดึงกระโปรงและจัดท่าทางการนอนให้เด็กหญิงคนหนึ่ง จากนั้นก็ยืดตัวลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปนั่งโต๊ะทำงานซึ่งอยู่มุมข้างประตูห้อง เพื่อเตรียมสมุดการบ้านให้เด็กน้อยทั้งหลายเอากลับไปทำที่บ้านเย็นนี้

“เอยจ๋า เด็ก ๆ หลับหมดแล้วหรือจ้ะ”

ดวงหน้าสวยหวานเงยขึ้นไปมองทางประตูฝั่งซ้ายมือของตน หลังได้ยินเสียงของรุ่นพี่สาวอย่างมัลลิกากระซิบถามพร้อมกับเยี่ยมหน้าเข้ามา สุพรรณวดีส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกเดินออกไปคุยที่หน้าห้องเรียนเพราะกลัวเสียงจะไปรบกวนการนอนของเด็ก ๆ

“หลับกันไปได้สักพักแล้วค่ะ ห้องพี่มะลิหลับหมดยังคะ”

“หลับแล้ว แต่วันนี้เด็ก ๆ ซนกันมาก เพิ่งจะหมดฤทธิ์กันไปเมื่อกี้นี้เอง พี่ล่ะเพลียจริง ๆ” เด็กในความดูแลของมัลลิกานั้นอยู่ชั้นอนุบาลสาม ด้วยความที่เด็กนั้นสนิทสนมกันมานาน จึงทำให้มีระดับความแสบและซนมากกว่าเด็กชั้นอนุบาลหนึ่ง “แต่ดีนะที่วันนี้ไม่มีใครก่อเรื่องอะไร ไม่งั้นพี่ต้องไมเกรนขึ้นแน่ ๆ”

สุพรรณวดียิ้มขำ ด้วยเข้าใจดีว่าการดูแลเด็กในวัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วยิ่งเป็นเด็กที่ไม่ใช่ลูกหรือหลานของตน การจะทำอะไรหรือสั่งสอนอะไรให้แก่เด็กนั้นต้องใจเย็น รอบคอบ รัดกุม ต้องผ่านกระบวนการคิดและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนก่อนเสมอทุกครั้ง เพราะหากผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียวก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลเสียเป็นวงกว้างได้

“แต่พี่มะลิก็เก่งนะคะ จัดการเด็ก ๆ ได้ทุกครั้งเลย” คนอายุน้อยกว่าเอ่ยชมด้วยความจริงใจ และนับถือในความสามารถของมัลลิกา

“โอ๊ย...พี่เจอมาเยอะ เจอมาหมดทุกรูปแบบแล้ว” สาวใหญ่โบกมือไปมากลางอากาศเพื่อกลบอาการเขินหลังถูกชม

“ก็นั่นแหละค่ะ เพราะพี่มะลิมีประสบการณ์ไงคะถึงจัดการทุกสถานการณ์”

“พอ ๆ หยุดชมพี่ได้แล้ว” มัลลิกาบอกปัดอีกครั้ง แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่ใบหน้าจะร้อนผ่าวเพราะความเขินไปมากกว่านี้ “ว่าแต่เอยได้กินข้าวเที่ยงหรือยัง”

“ยังเลยค่ะ เอยว่าเตรียมการบ้านให้เด็ก ๆ เสร็จก่อนแล้วค่อยจะกิน พี่มะลิล่ะคะกินหรือยัง”

“ยังเหมือนกัน มัวแต่วุ่นอยู่กับเด็ก ๆ กว่าจะยอมหลับยอมนอนกัน เอ้อ แล้วเอยมีข้าวยัง”

“มีแล้วค่ะ”

“ห่อมาจากบ้าน ?” มัลลิกาถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว

“ใช่ค่ะ” สุพรรณวดีพยักหน้ารับยิ้ม ๆ เพราะเธอมักจะทำข้าวกล่องจากบ้านมารับประทานตอนกลางวันเกือบทุกวัน สาเหตุเพราะอร่อยถูกปากและประหยัด อีกทั้งยังไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวอีกว่าวันนี้จะกินอะไรดี

“แล้วเย็นนี้ต้องไปสอนพิเศษที่บ้านเด็ก ๆ อีกไหมเนี่ย” สาวใหญ่ถามต่อ

“ไปเหมือนเดิมค่ะ วันนี้มีสอนสองบ้าน”

“หืม สองบ้านเลยเหรอ เยอะไปไหมเอย แล้วเอาเวลาไหนพักผ่อน” มัลลิกาถามด้วยความเป็นห่วง ถึงหล่อนจะรู้ดีว่าสุพรรณวดีมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่หล่อนก็ไม่ค่อยเห็นด้วยหากรุ่นน้องสาวจะโหมทำงานหนักขนาดนี้ หากก็พูดอะไรมากไม่ได้ ได้แต่คอยดู คอยถามอยู่ห่าง ๆ ด้วยความเป็นห่วง “แล้วบ้านของเด็กทั้งสองคนอยู่ไกลกันมากไหม”

“ก็ประมาณสามหรือสี่กิโลได้ค่ะ...” หญิงสาวบอกพิกัดบ้านนักเรียนทั้งสองคนไป “ไม่ไกลเท่าไร”

“ไม่ไกล แต่ถนนเส้นนั้นรถติดมากนะ ตั้งกี่แยกไม่รู้มารวมกันที่เส้นนั้นเส้นเดียว”

สุพรรณวดีได้แต่ยิ้มเหย ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรเพราะมันคือเรื่องจริง การสอนพิเศษเด็กนักเรียนบ้านละหนึ่งชั่วโมงไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร แต่การเดินทางนี่สิ เป็นสิ่งที่เธอต้องวางแผนและควบคุมมันให้ได้ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการจราจรในกรุงเทพมหานครในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ทุกคนต่างแย่งกันใช้ถนน เพื่อให้ถึงจุดหมายของตนให้เร็วที่สุด

“พี่บอกให้ดาวน์รถสักคันก็ไม่เชื่อพี่ เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อย” สาวใหญ่บอกระคนบ่นด้วยความปรารถนาดี เรื่องการจราจรนั้นเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่การมีรถส่วนตัวเป็นของตัวเองอย่างไรก็ย่อมดีกว่า “อีกอย่างเป็นผู้หญิงเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวมันอันตราย แล้วยังต้องกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ อีก เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”

“เอยคิดว่ารถมันยังไม่จำเป็นขนาดนั้น เอามาก็มีแต่จะเป็นภาระเพิ่ม” หญิงสาวพูดความคิดในมุมของตัวเองออกไป เพราะการซื้อรถสักคันมันไม่จบที่การจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวแน่นอน นอกจากการผ่อนชำระรายเดือนแล้ว มันยังมีค่าใช้จ่ายนู่นค่านี่ตามมาอีกมากมาย ซึ่งเธอยังไม่พร้อมที่จะแบกรับภาระพวกนั้น “ทุกวันนี้เอยใช้รถสาธารณะก็สะดวกดีนะคะ ชั่วโมงเร่งด่วนก็ใช้รถไฟฟ้า แพงนิดหน่อย แต่ก็ควบคุมเวลาได้”

“เฮ้อ...ถ้าเอยยืนยันมาแบบนั้น พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว แต่ที่พี่บอกคือพี่หวังดีนะ”

“เอยรู้ค่ะ” สุพรรณวดียิ้มรับ ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ดีว่าที่มัลลิกาแนะนำนั้นเพราะเป็นห่วงและหวังดีกับเธอจริง ๆ “แต่เอยยังไม่พร้อมจะรับภาระเรื่องรถจริง ๆ ค่ะพี่มะลิ ทุกวันนี้เงินเดือนที่ได้ หักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือเก็บนิดหน่อย ดีที่ยังได้เพิ่มจากการสอนพิเศษหลังเลิกเรียน”

มัลลิกาพยักหน้ารับ ด้วยรู้ว่าเงินเดือนครูปฐมวัยไม่ได้สูง ถึงจะเป็นโรงเรียนนานาชาติแต่ก็ไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไรขนาดนั้น ถ้าเทียบกับค่าครองชีพก็คือพอ ๆ กัน หากไม่หางานเสริมทำเพิ่มก็คงไม่เหลือเก็บเลย

“แล้วนี่จะบินไปนู้นอีกทีเดือนไหน” สาวใหญ่เปลี่ยนเรื่องคุย ถึงแม้จะทำงานที่โรงเรียนเดียวกันแต่ก็ไม่ได้คุยกันบ่อย เนื่องจากต่างคนต่างมีงานทำ อีกทั้งยังต้องคอยสอดส่องเด็กในความดูแลอยู่ตลอดเวลา จะแอบอู้หรือแวบมาคุยได้เล็กน้อยแค่เฉพาะตอนที่เด็กหลับเท่านั้น

“ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ ใจจริงเอยก็อยากบินเดือนหน้าเลย แต่ก็ต้องลองคำนวณเงินเก็บที่มีก่อน ไม่รู้ว่าจะพอไหม กลัวไปแล้วเป็นเหมือนคราวที่แล้วที่ต้องโทร. ข้ามประเทศมาขอยืมเงินพี่มะลิ”

“นี่ พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ” มัลลิกาขยับเข้าไปใกล้รุ่นน้องสาวอีกนิด พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเบาลงจากเดิม ก่อนจะจะเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ทำสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยคล้ายกำลังหนักใจ ไม่แน่ใจว่าควรจะถามดีหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าถ้าถามออกไปแล้วจะกระทบต่อจิตใจของอีกฝ่ายหรือเปล่า แต่สุดท้ายสาวใหญ่ก็ทนความสงสัยของตนเองไม่ไหว จึงตัดสินใจถามออกไปในที่สุด

“อย่าว่าพี่อย่านั้นอย่างนี้เลยนะเอย ทุกครั้งที่เอยบินไปฝรั่งเศส เอยได้เจอ...เอ่อ...เจอลูกบ้างไหม” ที่สงสัยอย่างนี้ก็เพราะว่าหลังจากที่หญิงสาวกลับมา หล่อนไม่เคยได้ยินอีกฝ่ายเล่าเรื่องลูกให้ฟังเลย ทั้ง ๆ ที่จุดประสงค์ของการบินไปที่นั่นก็เพื่อไปหาลูก

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
68 Chapters
บทนำ
บทนำเสียงพูดคุยแจ้วจ้าวของเด็กปฐมวัยเงียบสงบลงเมื่อถึงเวลานอนกลางวัน สุพรรณวดีซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเด็กอนุบาลหนึ่งทับสองเดินตรวจตราการนอนของเด็กน้อยที่อยู่ในความดูแลของตน ใบหน้าสวยระบายยิ้มพร้อมส่ายไปมาเบา ๆ ด้วยความอ่อนใจระคนเอ็นดูเมื่อเห็นว่าเจ้าแสบทุกคนหลับสนิทกันหมดแล้ว“หมดฤทธิ์กันแล้วสินะ” คุณครูยังสาวเอ่ยเบา ๆ พลางยอบตัวนั่งลงดึงกระโปรงและจัดท่าทางการนอนให้เด็กหญิงคนหนึ่ง จากนั้นก็ยืดตัวลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปนั่งโต๊ะทำงานซึ่งอยู่มุมข้างประตูห้อง เพื่อเตรียมสมุดการบ้านให้เด็กน้อยทั้งหลายเอากลับไปทำที่บ้านเย็นนี้“เอยจ๋า เด็ก ๆ หลับหมดแล้วหรือจ้ะ”ดวงหน้าสวยหวานเงยขึ้นไปมองทางประตูฝั่งซ้ายมือของตน หลังได้ยินเสียงของรุ่นพี่สาวอย่างมัลลิกากระซิบถามพร้อมกับเยี่ยมหน้าเข้ามา สุพรรณวดีส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกเดินออกไปคุยที่หน้าห้องเรียนเพราะกลัวเสียงจะไปรบกวนการนอนของเด็ก ๆ“หลับกันไปได้สักพักแล้วค่ะ ห้องพี่มะลิหลับหมดยังคะ”“หลับแล้ว แต่วันนี้เด็ก ๆ ซนกันมาก เพิ่งจะหมดฤทธิ์กันไปเมื่อกี้นี้เอง พี่ล่ะเพลียจริง ๆ” เด็กในความดูแลของมัลลิกานั้นอยู่ชั้นอนุบาลสาม ด้วยความที่เด็กนั้นสนิทสนมกันมา
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
บทนำ 2
บทนำ 2ดวงตากลมโตหลุบมองมือที่ประสานกันอยู่หน้าตักทันที หลังจากได้ยินคำถามที่มีผลต่อความรู้สึก สุพรรณวดีนั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นไปมองคู่สนทนา เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นความอ่อนไหวในแววตาที่กำลังฉายออกมาอย่างชัดเจน ทว่าไม่นานเธอก็พยักหน้าลงและตอบคำถามออกไปเบา ๆ “ได้เห็นนิดหน่อยค่ะ”“เห็นนิดหน่อยนี่คือยังไง ?” ความอยากรู้ทำให้มัลลิกาถามต่อ พร้อมเอียงคอเล็กน้อย“ก็ได้เห็นบ้าง…”คำตอบที่ไม่ชัดเจนนั้นยิ่งทำให้สาวใหญ่งงหนักยิ่งกว่าเดิม จนต้องถามออกไปอีกครั้ง “หมายถึงแค่เห็นเฉย ๆ เหรอ หรือยังไง พี่ไม่เข้าใจ ได้พูดคุยหรือได้ใช้เวลาร่วมกันบ้างไหม”สุพรรณวดีส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะกลืนน้ำลายหนืด ๆ ลงคอ สายตาเหม่อมองมือตัวเองที่ยังประสานกันอยู่หน้าตัก พลางนึกถึงใบหน้าของลูกชายวัยเจ็ดขวบที่เธออุ้มท้องมาเก้าเดือน ทว่ากลับมีโอกาสเลี้ยงดูแกแค่ตอนแรกเกิดเพียงสามเดือนเท่านั้น มิหนำซ้ำยังเป็นสามเดือนที่เต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคมากมายอีกด้วย“สักครั้งก็ไม่เคยเลยเหรอ” มัลลิกาถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง เพราะหล่อนทำงานกับสุพรรณวดีมานานถึงสามปีและกำลังจะเข้าปีที่สี่ หล่อนเห
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
ครอบครัวใหม่ ?
บทที่ 2ครอบครัวใหม่ ?สุพรรณวดีสอนพิเศษเด็กคนแรกเสร็จประมาณหนึ่งทุ่มนิด ๆ หลังจากรับเงินค่าจ้างและทำการนัดหมายครั้งต่อไปกับผู้ปกครองของเด็กเรียบร้อย ติวเตอร์สาวก็ไม่รอช้ารีบเก็บของเพื่อเดินทางไปยังบ้านของเด็กอีกคนทันที เพราะเกรงว่าอาจจะไปถึงช้ากว่าเวลานัด ถึงระยะทางจะไม่ไกลเท่าไร แต่ในเวลาเร่งด่วนเช่นนี้คนที่ต่อคิวกันใช้บริการรถสาธารณะก็น่าจะมากพอสมควรหญิงสาวหยุดชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินไปยังทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าอย่างเร่งรีบ ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนราคากลาง ๆ ซึ่งกำลังแผดเสียงร้องออกมาจากกระเป๋าผ้าที่สะพายไว้บนไหล่ จากนั้นก็กดรับอย่างไม่รอช้าเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เธอกำลังจะเดินทางไปสอน“สวัสดีค่ะ”[สวัสดีครับคุณเอย ผมอภิวัฒน์ พ่อของน้องโอ๊ตนะครับ]“ค่ะคุณอภิวัฒน์ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ[ที่นัดให้ไปสอนน้องโอ๊ตที่บ้านวันนี้อะครับ ผมขอเปลี่ยนสถานที่ได้ไหมครับ พอดีตอนนี้ผมติดประชุมที่บริษัท คิดว่าไม่น่าจะพาลูกกลับบ้านทันเวลานัด] ปลายสายบอกอย่างเกรงใจที่ต้องเปลี่ยนแปลงการนัดหมายกะทันหัน“แล้วจะเปลี่ยนเป็นที่ไหนคะ”[เป็นที่บริษัท...] ชา
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
ครอบครัวใหม่ ? 2
ครอบครัวใหม่ ?“ตามกำหนดคือเสร็จตั้งแต่หกโมงเย็นแล้วครับ แต่มีหลายเรื่องไม่คุยกันไม่ลงตัวก็เลยลากยาวมาจนถึงตอนนี้ ผมเพิ่งจะได้แวบออกพักทานข้าวนี่แหละครับ” คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวบอกเล่าอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะอธิบายต่อเพื่อให้หญิงสาวเข้าใจมากขึ้น “เหตุผลที่ไม่สามารถยกประเด็นที่เหลือไปประชุมต่อพรุ่งนี้ได้ ก็เพราะวันนี้มีผู้บริหารจากบริษัทพาร์ตเนอร์มาร่วมประชุมด้วย แล้วทางฝั่งนั้นอยากได้ข้อสรุปทุกประเด็นภายในวันนี้ โพรเจ็กต์ด่วนน่ะครับ สถานการณ์ในห้องก็เลยค่อนข้างซีเรียสมากเลยครับ”“อ๋อ...” สุพรรณวดีพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะถามต่อด้วยความสงสัยและเป็นห่วงเด็กนักเรียนตัวน้อย “คุณเลิกงานดึกขนาดนี้ น้องโอ๊ตไม่ง่วงนอนแย่เลยเหรอคะ ไหนพรุ่งนี้จะต้องไปโรงเรียนแต่เช้าอีก”“จริง ๆ ผมจ้างแม่บ้านที่เป็นพี่เลี้ยงด้วยดูแลเจ้าโอ๊ตให้ คนที่คุณเอยเห็นตอนไปสอนที่บ้านนั่นแหละครับ” ชายหนุ่มเล่าไปและหั่นไก่ทอดส่งเข้าปากตัวเองไปด้วย และไม่ลืมหันไปสังเกตดูลูกชายที่กำลังรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย “ปกติถ้าผมติดงานหรือรู้ว่าจะต้องกลับบ้านดึก ผมก็จะโทร. ให้แม่บ้านมารับลูกกลับบ้านไปก่อน แต่พอดีช่วงนี้เขาลากลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
ไม่ลืม
บทที่ 3ไม่ลืม“ตอนนี้นายรู้สึกยังไง มีอาการอะไรบ้าง” เสียงทุ้มของนายแพทย์สุดเขตเอ่ยถามคนไข้กิตติมาศักดิ์ซึ่งกำลังนั่งจิบชาผลไม้อยู่ในสวนหย่อมเล็ก ๆ ภายในบ้าน และกำลังสนใจปลาคราฟหลากสีที่แหวกว่ายอยู่ในบ่อมากกว่าหมอที่กำลังรอฟังคำตอบ “ดูจากอาการแล้วคงไม่เป็นไรมากหรอกมั้ง”“ฉันไม่ได้เป็นไร บอกแล้วว่าไม่ต้องมาตรวจ เสียเวลา” สุดโปรดละสายตาจากปลาคราฟแล้วหันไปพูดกับหมอซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ที่อายุห่างกันเพียงแค่สองปีด้วยน้ำเสียงปกติทว่าติดแหบเล็กน้อย“แม่บอกให้มา แล้วเช้านี้ฉันก็ว่างพอดี แต่ฟังจากเสียง นายน่าจะเป็นหวัดนะ” แพทย์หนุ่มวินิจฉัยอาการของน้องชายคร่าว ๆ “มีอาการอื่นอีกไหม เช่นปวดหัว ตัวร้อน หรือวิงเวียนศีรษะ”“เมื่อวานตัวร้อนนิดหน่อย แล้วก็ปวดหัว แต่วันนี้ดีขึ้นแล้ว” คนเป็นน้องตอบพร้อมยกถ้วยชาผลไม้ขึ้นมาจิบอีกครั้ง“งั้นก็กินยาตามปกติ ไม่นานเดี๋ยวก็หาย ที่บ้านมียากินใช่ไหม”“มี”แพทย์หนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะชวนน้องชายคุยตามประสาพี่น้องที่ไม่เจอกันนาน เพราะต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง เมื่อหกปีที่แล้วสุดโปรดมีเหตุจำเป็นทำให้ต้องย้ายไปทำงานไกลถึงประเทศฝรั่งเศส พอน้องชายกลับมาประ
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
ไม่ลืม 2
ไม่ลืม“เล็งที่ Q. Bangkok แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ” โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมแพงอันดับต้น ๆ ของประเทศ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา สำหรับลูกเท่าไร่เขาก็ยอมจ่าย ทว่าที่ไม่ให้ลูกไปเรียนที่นี่ตั้งแต่แรกเพราะมันค่อนข้างไกลจากบ้าน เขาไม่อยากให้ลูกเสียเวลาไปกับการเดินทาง เพราะมันน่าเบื่อ“อ๋อ โรงเรียนนี้ ฉันมีคนรู้จักเป็นครูสอนที่นั่น ถ้านายเลือกที่นี่ฉันจะฝากให้เขาช่วยดูแลเป็นหูเป็นตาให้”“ใคร นายรู้จักคนที่โรงเรียนนี้ด้วยเหรอ” สุดโปรดหันไปมองพี่ชายด้วยความสนใจ“เมียอาจารย์ของฉันน่ะ เป็นครูที่โรงเรียนนั้นมานานแล้ว อาจารย์เคยเล่าให้ฉันฟังว่าเมียท่านเป็นครู ไม่โหด แต่ก็ไม่ได้ใจดี แต่สามารถเอาเด็ก ๆ อยู่ทุกคน ถ้านายให้ปลื้มไปเรียนที่นั่น ฉันก็จะฝากให้เขาช่วยดูแล”คุณพ่อพยักหน้ารับรู้พลางครุ่นคิดข้อดีข้อเสียไปด้วย “แต่มันไกลบ้านนี่สิ ต้องตื่นตั้งแต่กี่โมง กว่าจะไปถึงโรงเรียน ไหนจะต้องเผื่อเวลารถติดอีก”“มันจะไปยากอะไร นายก็ซื้อคอนโดอยู่กับลูกสักห้องสิ ฉันเห็นใกล้ ๆ โรงเรียนมีอยู่สองสามโครงการ เลือกซื้อสักที่ แค่นี้ก็จบแล้ว” สุดเขตแนะนำวิธีแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ“ใช้เงินแก้ปัญหาสินะ” สุดโปรดว่
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
ไม่ลืม 3
ไม่ลืม“ของลุงอะไรล่ะ ไม่มีใครเป็นของลุงเลย” สุดเขตรีบแก้ตัวกับหลาน แล้วเงยหน้าไปมองสุดโปรดตาขวาง “หาเรื่องให้กูปวดหัวอีกละ เดี๋ยวก็ถึงหูแม่ ถ้าปลื้มเอาไปเล่าให้แม่ฟังก็ซวยกูอีก”“ก็ไม่เห็นเปิดตัวสักที” คนจุดไฟว่าอย่างสบายอารมณ์ ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับสายตาพิฆาตของพี่ชายที่กำลังมองมาสุดเขตถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่หล่อเหลา การงานที่มั่นคง ฐานะทางบ้านและหน้าตาทางสังคม เรียกได้ว่าเพียบพร้อมทุกด้าน แต่กลับไร้วี่แววว่าจะมีคนข้างกาย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้เร่งรีบในเรื่องนี้ จะมีเมื่อไรก็ได้ ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา ทว่ากลับเป็นเรื่องที่ขัดใจคุณนายแม่ยิ่งนัก เจอหน้ากันทีไรก็มักจะบ่นเรื่องที่ลูกไม่ยอมเปิดใจให้ใครสักที“จะให้เปิดตัวอะไร ตอนนี้ใครสักคนยังไม่มีเลย วัน ๆ ทำแต่งาน อยู่แต่ในโรง’บาล จะให้ไปมีใครได้”“ผู้หญิงดี ๆ ที่เข้ามาหานายมีเยอะไป แต่นายไม่ยอมเปิดใจให้ใครเองหรือเปล่า” สุดโปรดถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ พลางยกถ้วยชาที่หายร้อนแล้วขึ้นมาจิบอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมานิดหนึ่ง “เปิดใจให้คนอื่นบ้างสิ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ หรือ
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
ไม่ลืม 4
ไม่ลืม“นายกับคุณชาไม่ได้คิดอะไรกันจริง ๆ เหรอ หรือนายไม่คิดจะจีบคุณชาแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยหรือไง เท่าที่ฉันเห็นและเท่าที่ฟังจากปลื้ม ฉันคิดว่าเธอโอเคมาก ๆ เลยนะเว้ย ดีกับปลื้มทุกอย่าง เข้ากับปลื้มได้ แล้วปลื้มก็เหมือนจะรักคุณชาเหมือนแม่จริง ๆ”“ปลื้มรักคุณชาจริง ๆ แล้วคุณชาก็รักปลื้มมากด้วย” สุดโปรดยืนยันว่าสิ่งที่พี่ชายคิดนั้นเป็นเรื่องจริง ณิชาเข้ามาทำงานกับเขาตั้งแต่ปลื้มอายุยังไม่ถึงขวบ ได้เจอกันเกือบทุกวัน ก็ต้องมีความรักความผูกพันเกิดขึ้นเป็นธรรมดา “จริง ๆ ผู้หญิงดี ๆ และเข้ากับปลื้มได้แบบคุณชาหายาก” ชายหนุ่มพูดต่อตามความรู้สึก“ใช่ไง ฉันถึงได้สงสัยว่าทำไมนายไม่คิดจีบ”“ฉันเคยคิดนะ แล้วก็เคยถามเธอแล้วด้วยว่าอยากมาเป็นแม่ของปลื้มจริง ๆ ไหม แต่เธอปฏิเสธ”“อ้าว สรุปคือนายจีบแล้ว แต่ไม่ติดว่างั้น ?”“อือ”“แล้วยังไงต่อ พอเธอปฏิเสธแล้วนายก็หยุดจีบเลยอะนะ ?” สุดเขตถามต่อด้วยความสงสัยปนอยากรู้“ใช่ ก็เธอไม่ได้คิดอะไรกับฉันมากกว่าเจ้านาย แล้วเธอก็ดูออกว่าที่ฉันถามแบบนั้นไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกพิเศษกับเธอจริง ๆ หรอก ฉันแค่รู้สึกว่าเธอเข้ากับปลื้มได้ และปลื้มก็รักเธอเท่านั้น ซึ่งก็จริง” สุดโป
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
เจอกัน
บทที่ 4เจอกันเย็นวันวันศุกร์หลังเลิกงานสุพรรณวดีไม่ได้รีบเก็บของเพื่อไปสอนพิเศษต่อเหมือนทุกที เพราะเมื่อช่วงบ่ายเธอเพิ่งได้รับสายจากผู้ปกครองของเด็กนักเรียนซึ่งโทร. มาขอยกเลิกนัด เนื่องจากญาติเสียทำให้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกะทันหัน แน่นอนว่าการถูกยกเลิกกลางคันมันทำให้เธอขาดรายได้ ทว่าถ้ามองในแง่ดีก็ถือเป็นการหยุดพักผ่อนหลังจากทำงานต่อกันทุกวันโดยไม่ได้หยุดพักมาตลอดสองเดือนจริงอยู่ที่งานสอนของเธอมันไม่ได้หนัก หากเบื้องหลังก็ต้องใช้เวลาเตรียมตัวและเตรียมแผนการสอน อีกทั้งงานของหญิงสาวไม่ได้มีแค่การสอนหนังสือเด็กเพียงอย่างเดียว เพราะทุก ๆ วันเธอต้องตื่นตั้งแต่เช้าตรู่พามารดาไปตลาด เพื่อหาซื้อวัตถุดิบมาเตรียมไว้สำหรับทำอาหารตามสั่งซึ่งเปิดเป็นร้านเล็ก ๆ ขายที่หน้าบ้านพอกลับมาจากตลาดเธอก็จะมาช่วยแม่จัดเตรียมหน้าร้านจนถึงหกโมงนิด ๆ จากนั้นเธอถึงจะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปทำงานของตน ตกเย็นหญิงสาวก็ต้องไปสอนพิเศษเด็กนักเรียนตามบ้านที่รับเอาไว้ต่อ บางวันก็มีสอนแค่ที่เดียว ทว่าถ้าวันไหนที่เธอเห็นว่าบ้านของเด็กไม่ได้อยู่ไกลกันมาก เธอก็จะรับสอนสองที่ในวันเดียวกัน แม้จะทำให้มีเวลาพักน้อยลง
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
เจอกัน 2
เจอกัน“เข้าใจค่ะ” สุพรรณวดีพอจะได้ยินข่าวที่ลิลลี่มีเรื่องเชิงชู้สาวกับผู้ปกครองของเด็กนักเรียนมาบ้าง และเคยโดนตักเตือนไปแล้ว หากก็ยังมีพฤติกรรมเดิม ๆ แว่วมาให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมมัลลิกาถึงไม่ค่อยอยากแนะนำลิลลี่ให้ไปสอนที่ไหนอีก เพราะกลัวจะมีพฤติกรรมเดิม ๆ เกิดขึ้นให้เสียเครดิตตน“นั่นแหละ พี่บอกเลยว่าพี่เข็ดกับเด็กคนนี้แล้วจริง ๆ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าสวย แต่จะหว่านเสน่ห์ให้ใครก็เลือกหน่อย รู้ทั้งรู้ว่าเขามีลูกมีเมียแล้วก็ยังไม่เว้น” สาวใหญ่บ่นอย่างเอือมระอา “ว่าแต่เอยเถอะ ไม่ว่างจริง ๆ เหรอ สอนไม่ยากหรอก น้องพอมีพื้นฐานมาบ้าง แค่ทบทวนให้เล็ก ๆ น้อย ๆ พวกตัวสะกด สระ วรรณยุกต์อะไรพวกนี้ พอให้เรียนทันเพื่อนในห้อง”“เอยก็อยากรับนะคะ แต่ตอนนี้เอยยังไม่แน่ใจว่าจะว่างไหม คงต้องรอคุณแม่น้องดรีมแจ้งมาก่อน” หญิงสาวปฏิเสธด้วยความเกรงใจ หากในใจกลับรู้สึกอยากรับงานนี้มาก ๆ ทั้งที่ยังไม่รู้ข้อมูลของเด็ก ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใครมาจากไหน สุพรรณวดีนึกแปลกใจตัวเองที่รู้สึกอย่างนี้ ทว่าถึงจะรู้สึกอยากรับมากแค่ไหนก็ต้องตัดใจปฏิเสธไป เพราะอย่างไรต้องให้เกียรติลูกค้าที่จองคิวก่อน“เด็กคนนี้เ
last updateLast Updated : 2025-10-09
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status