Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-10-09 23:26:02

บทที่ 2

ครอบครัวใหม่ ?

สุพรรณวดีสอนพิเศษเด็กคนแรกเสร็จประมาณหนึ่งทุ่มนิด ๆ หลังจากรับเงินค่าจ้างและทำการนัดหมายครั้งต่อไปกับผู้ปกครองของเด็กเรียบร้อย ติวเตอร์สาวก็ไม่รอช้ารีบเก็บของเพื่อเดินทางไปยังบ้านของเด็กอีกคนทันที เพราะเกรงว่าอาจจะไปถึงช้ากว่าเวลานัด ถึงระยะทางจะไม่ไกลเท่าไร แต่ในเวลาเร่งด่วนเช่นนี้คนที่ต่อคิวกันใช้บริการรถสาธารณะก็น่าจะมากพอสมควร

หญิงสาวหยุดชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินไปยังทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าอย่างเร่งรีบ ก่อนจะหยิบสมาร์ตโฟนราคากลาง ๆ ซึ่งกำลังแผดเสียงร้องออกมาจากกระเป๋าผ้าที่สะพายไว้บนไหล่ จากนั้นก็กดรับอย่างไม่รอช้าเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เธอกำลังจะเดินทางไปสอน

“สวัสดีค่ะ”

[สวัสดีครับคุณเอย ผมอภิวัฒน์ พ่อของน้องโอ๊ตนะครับ]

“ค่ะคุณอภิวัฒน์ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

[ที่นัดให้ไปสอนน้องโอ๊ตที่บ้านวันนี้อะครับ ผมขอเปลี่ยนสถานที่ได้ไหมครับ พอดีตอนนี้ผมติดประชุมที่บริษัท คิดว่าไม่น่าจะพาลูกกลับบ้านทันเวลานัด] ปลายสายบอกอย่างเกรงใจที่ต้องเปลี่ยนแปลงการนัดหมายกะทันหัน

“แล้วจะเปลี่ยนเป็นที่ไหนคะ”

[เป็นที่บริษัท...] ชายหนุ่มบอกชื่อบริษัทที่ตนทำงานอยู่ ก่อนจะถามถึงความสะดวกของอีกฝ่าย [คุณเอยสะดวกมาไหมครับ ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ ส่วนค่าสอนผมจ่ายให้เหมือนเดิม]

“สักครู่นะคะ ฉันขออนุญาตดูพิกัดก่อนค่ะ” หากระยะทางไม่ไกลหรือการเดินทางไม่ยุ่งยากหลายขั้นตอนมาก เธอก็จะไป เพราะเธอไม่อยากรับเงินใครมาฟรี ๆ

[บริษัทผมอยู่ใกล้ ๆ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินครับคุณเอย ลงที่สถานีเพชรบุรี แล้วเดินประมาณห้านาทีก็ถึงเลยครับ]

“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ฉันไปสอนน้องโอ๊ตที่นั่นได้ ว่าแต่พอจะมีร้านกาแฟหรือโต๊ะที่สามารถนั่งนาน ๆ ได้ใช่ไหมคะ”

[มีครับมี ข้างล่างตึกมีแม็คโดนัลเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย สามารถนั่งได้ครับ] คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวอย่างอภิวัฒน์รีบบอกด้วยความดีใจ เพราะตอนนี้เขาค่อนข้างงานยุ่ง ทำให้ดูแลลูกชายวัยแปดขวบได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นการฝากลูกไว้กับติวเตอร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่งสำหรับเขา

“โอเคค่ะคุณอภิวัฒน์ ถ้าไปถึงแล้วฉันจะโทร. หาคุณนะคะ น่าจะอีกสักประมาณสี่สิบนาที” หญิงสาวคำนวณระยะทางกับเวลาที่จะไปถึงคร่าว ๆ ในหัว ถือว่าโชคดีที่ที่ทำงานของอีกฝ่ายอยู่ไม่ไกลมาก อีกทั้งยังเดินทางสะดวก เธอจึงไม่มีปัญหาในการเปลี่ยนสถานที่นัดหมาย

[ได้ครับคุณเอย ขอบคุณมากเลยนะครับ]

“ยินดีค่ะ”

เมื่ออีกฝ่ายวางสายไปแล้ว สุพรรณวดีเก็บสมาร์ตโฟนเข้ากระเป๋าตามเดิม ก่อนจะเดินต่อไปยังบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปยังสถานีรถไฟฟ้า ใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีนิด ๆ เธอก็เดินทางมาถึงจุดหมาย

หญิงสาวต่อสายกลับไปหาอภิวัฒน์อีกครั้งเพื่อแจ้งว่ามาถึงแล้ว จากนั้นก็เข้ามานั่งรอในร้านอาหารฟาสฟู้ด ไม่ถึงสิบนาทีคนที่เธอนัดเอาไว้ก็มาถึง

“สวัสดีค่ะคุณอภิวัฒน์” สุพรรณวดียืนขึ้นแล้วกล่าวทักทายอีกฝ่ายด้วยความสุภาพ พร้อมรับไหว้และส่งยิ้มให้หนุ่มน้อยที่เพิ่งยกมือไหว้ตน “สวัสดีค่ะน้องโอ๊ต”

“ต้องรบกวนคุณเอยด้วยนะครับ พอดีวันนี้ผมงานยุ่งมากจริง ๆ แล้วยังต้องรอประชุมกับอีกบริษัทด้วย” คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวบอกด้วยความเกรงใจ พร้อมผายมือเชิญให้คุณครูสาวนั่งลงตามเดิม “นั่งตามสบายเลยครับ คุณเอยอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ เดี๋ยวผมไปสั่งให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไม่ค่อยหิวเท่าไร” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรระคนเกรงใจ

“สักหน่อยดีกว่าครับ ผมเดาว่าคุณเอยต้องยังไม่ได้ทานอะไรแน่ ๆ เลย เดี๋ยวผมไปซื้อให้ครับ” พูดจบชายหนุ่มก็วางกระเป๋าลูกชายลงบนเก้าอี้ แล้วสาวเท้าตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่มเลยทันที ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับไก่ทอดกับเฟรนช์ฟรายส์เซ็ตใหญ่ “ทานก่อนแล้วค่อยเริ่มสอนก็ได้นะครับ น้องโอ๊ตก็ยังไม่ได้ทานอะไร”

เมื่อผู้ปกครองของเด็กพูดมาอย่างนั้น สุพรรณวดีก็ไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้ เพราะท้องไส้ของเด็กก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ หญิงสาวจึงต้องยอมรับประทานอาหารตามคำเชิญของชายหนุ่ม

“ถ้าคุณเอยไม่รังเกียจผมขออนุญาตนั่งทานด้วยนะครับ เพราะผมก็ยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกัน อีกอย่างก็ยังไม่รู้เลยว่าวันนี้จะประชุมเสร็จตอนไหน” อภิวัฒน์บอกอย่างน่าสงสาร อีกฝ่ายจึงรีบตอบรับ

“ได้สิคะ ทานเลยค่ะ ฉันไม่ได้รังเกียจเลย อีกอย่างอาหารพวกนี้คุณเป็นคนซื้อมา คุณก็ต้องทานได้สิคะ”

“งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ ก่อนจะจิ้มไก่ทอดชิ้นใหญ่ไปใส่จานให้ลูกชายพร้อมหั่นเป็นชิ้น ๆ ให้ การดูแลเอาใจใส่ของพ่อที่มีต่อลูกทำให้สุพรรณวดียิ้มตาม

“ขอบคุณค้าบ” หนุ่มน้อยพูดพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณอย่างน่าเอ็นดู

อภิวัฒน์จิ้มไก่ทอดอีกชิ้นใส่จานให้หญิงสาวคนเดียวบนโต๊ะ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างเต็มใบหน้ารับคำขอบคุณ จากนั้นถึงจิ้มให้ตนเองและเริ่มลงมือรับประทาน ระหว่างนั้นก็ชวนคุยไปด้วย

“วันนี้คุณเอยรีบกลับไหมครับ”

สุพรรณวดีเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่นั่งตรงข้าม สมองครุ่นคิดอย่างรวดเร็วด้วยความไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงถามเธอเช่นนี้ เพียงครู่เดียวก็ต้องตอบออกไปอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ “ก็ไม่ค่อยรีบเท่าไรค่ะ ทำไมเหรอคะ”

ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าอภิวัฒน์คิดกับตนมากกว่าผู้ปกครองกับครูสอนพิเศษ เพียงแต่เขาไม่ได้ล้ำเส้นและรุกจีบจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่เธอก็มักจะระวังตัวและคอยระวังคำพูดของตนเองอยู่เสมอ เพราะบางทีการทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบ อาจจะทำให้อีกฝ่ายคิดไปเองว่าเธอเองก็มีใจเช่นกัน

“อีกสิบห้านาทีผมต้องเข้าประชุมต่อ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะประชุมเสร็จตอนไหน ผมเลยอยากจะขอรบกวนคุณเอยช่วยอยู่เป็นเพื่อนเจ้าโอ๊ตจนกว่าผมจะประชุมเสร็จได้ไหมครับ ผมมีค่าเสียเวลาให้ แล้วเดี๋ยวผมไปส่งคุณเอยที่บ้านด้วยครับ”

“เอ่อ...แล้วตามกำหนดการต้องประชุมเสร็จกี่โมงคะ” สุพรรณวดียังไม่ตอบตกลง แต่เลือกที่จะถามถึงรายละเอียดก่อน อันที่จริงหญิงสาวค่อนข้างหนักใจถ้าจะอยู่ต่อถึงดึก หากก็มีความเกรงใจไม่กล้าปฏิเสธ เพราะสงสารเด็กชายที่ต้องอยู่คนเดียวหลังเรียนเสร็จ อีกอย่างอภิวัฒน์ก็ถือเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ไว้ใจจ้างเธอให้มาสอนพิเศษให้ลูกชายอย่างต่อเนื่อง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียสุดโปรด   บทที่ 105

    ตอน...พิเศ๊ษพิเศษวันนี้ครอบครัวของสุดโปรดกับสุพรรณวดีถือโอกาสมาทำบุญที่วัด เพื่อระลึกถึงบิดาที่ล่วงลับทั้งสองคน โดยมีคุณแก้วมณีกับคุณสุนีย์เป็นธุระ จัดหาอาหารและข้าวของต่าง ๆ มาถวายพระประเสริฐกับชินภัทรจากไปคนละปี ทว่าจากไปในเดือนที่ไล่เลี่ยกัน ทั้งสองครอบครัวเลยตกลงกันว่าต่อไปนี้จะทำบุญระลึกถึงร่

  • เมียสุดโปรด   บทที่ 104

    “เรามีน้องให้เจ้าปลื้มกันนะ เจ้าปลื้มอยากมีน้อง พี่ก็อยากมีเอยตัวน้อย ๆ อีกคน” สุดโปรดเอ่ยขอด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล“แล้วถ้ารอบนี้ได้ผู้ชายอีกล่ะ”“ก็ไม่เป็นไร ถ้าได้ผู้ชาย เราก็ทำใหม่อีก”“แล้วถ้ายังได้ผู้ชายอีกล่ะคะ” สุพรรณวดีลองพูดอีก แล้วรีบพูดดักหน้าก่อนที่เขาจะพูดถึงลูกคนที่สี่ “แต่บอกไว้ก่อนนะว่

  • เมียสุดโปรด   บทที่ 103

    ตอนพิเศษ“พี่โปรด เอยถามได้ไหม ทำไมยังเก็บรูปพวกนี้กับของของเอยเอาไว้” เธอผละออกมาเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขา อันที่จริงเธอตั้งใจจะถามหลายครั้งแล้ว หากไม่มีจังหวะได้ถามเลยพอนึกได้เขาก็ไม่อยู่ให้ถาม พอเขาอยู่เธอก็ดันลืม“ทิ้งไม่ลง” เพราะมันเป็นห้องนอนของเราสองคน ข้าวของมากกว่าครึ่งเป็นของสุ

  • เมียสุดโปรด   บทที่ 102

    ตอนพิเศษ 2“อาทิตย์หน้าพี่ต้องไปฝรั่งเศสนะ รอบนี้ว่าจะพาเอยกับลูกไปด้วย” สุดโปรดเอ่ยขึ้นมาในคืนหนึ่ง หลังจากกินข้าวเสร็จและขึ้นมาอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เด็กชายปุณยวีร์เห่อนอนกับพ่อแม่แค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น ผ่านไปไม่ถึงเดือนหนุ่มน้อยก็แยกไปนอนห้องของตัวเอง หากก็มีบ้างที่ขอมานอนด้วยอีก แต่ก็ไม่บ่อยนัก

  • เมียสุดโปรด   บทที่ 101

    “แล้วตอนนี้ปลื้มอายุเท่าไรฮะ”“แปดขวบแล้วค่ะ”ปุณยวีร์ยกนิ้วทั้งสิบของตนเองขึ้นมากาง แล้วมุ่นคิ้วคิดอยู่สักพัก “เหลืออีกสิบสองปีเหรอฮะ ปลื้มถึงจะเข้าร้านอาพัฒน์ได้”“ใช่แล้วครับ” สุพรรณวดียิ้มกว้างด้วยความภูมิใจ แม้การนับเลขจะเป็นเรื่องปกติของเด็กวัยนี้ หากเธอก็อดชื่นชมลูกไม่ได้อยู่ดี“ก็ได้ฮะ อีกสิ

  • เมียสุดโปรด   บทที่ 100

    ตอนพิเศษ 1หลังจากสังเกตพฤติกรรมการเล่นโทรศัพท์และแท็บเล็ตของลูกชายมาสักระยะ ก็พบว่าปุณยวีร์ชักจะติดงอมแงมมากขึ้นทุกวัน สุดโปรดกับสุพรรณวดีที่ใจอ่อนผ่อนปรนให้ลูกเล่นมาตลอด จึงตกลงกันว่าต้องหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังก่อนที่ลูกจะติดไปมากกว่านี้ ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อตัวลูกในอนาคตโดยวิธีแก้แบบเบสิก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status