สมิติไม่ทำอะไรเธอตามที่เขาพูดจริง แต่ชายหนุ่มถือโอกาสช่วงที่รอแผลเธอหายช้ำสร้างความคุ้นเคยให้เธอด้วยการสัมผัสแตะต้อง โอบบ้าง กอดบ้างจนกฤติกาเริ่มชิน
เช้าวันอาทิตย์เขาออกไปข้างนอกและกลับมาทานข้าวเย็นกับเธอ พบว่ากฤติกาไม่ได้ออกไปไหนเลย
“ออกไปเดินเล่นบ้างก็ได้นะไก่”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไก่อยากพักพรุ่งนี้ต้องไปมหาวิทยาลัย”
สมิติพยักหน้าเข้าใจ เขาขยับตัวลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับที่พัก “งั้นไก่พักพี่จะกลับก่อน เช้าวันอังคารเจอกันพี่จะมารับไปลำปาง”
“ค่ะ”
###############
สมิติพาเธอไปจัดการธุระเรื่องบ้านที่ลำปางในเช้าวันอังคาร โดยที่เขาไปคุยกับเจ้าหนี้ให้เองและนำโฉนดบ้านกลับคืนมา จากนั้นเขาปล่อยให้กฤติกาเข้าบ้านไปหาน้องๆ หญิงสาวซื้อของจำเป็นเข้าบ้านจำนวนหนึ่งพอใช้ไปนาน และซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ไว้ให้น้อง ๆ โทรหาตนเอง ไม่ต้องยืมโทรศัพท์เพื่อนบ้านใช้อีก
ทั้งคู่กลับมาถึงกรุงเทพฯ ในตอนเที่ยงคืน สมิติขึ้นมาบนห้องด้วยเขาวางของลงบนโต๊ะ ขณะที่บอกเธอให้ไปอาบน้ำ
กฤติกาออกมาจากห้องน้ำ ไฟในห้องนอนถูกปิดแล้วเหลือไฟเล็กหัวเตียงเท่านั้น สมิตินอนบนเตียงอยู่ในชุดนอนเขาคงไปใช้ห้องน้ำด้านนอก
“พี่จะนอนที่นี่เหรอคะ”
“ฮื่อ ขี้เกียจขับรถกลับมานอนเถอะไก่ ไม่เหนื่อยเหรอ”
กฤติกาสาวเท้าแบบกล้าๆ กลัวๆ แต่เมื่อเห็นสมิติหลับตาเงียบเธอจึงคลายใจลง หญิงสาวขยับตัวนั่งลงอย่างระมัดระวังเกรงว่าจะรบกวนเขา เธอเอนตัวลงนอนชิดที่นอนอีกฝั่งหันหลังให้สมิติ ความเพลียที่มีทั้งวันทำให้เธอหลับลงไปในเวลาไม่นาน
เช้ามืดกฤติกาลุกไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอจึงกลับมานอน หญิงสาวกำลังจะหลับอีกครั้งต้องลืมตาเบิกโพลงเมื่อถูกดึงไปกอดทั้งตัว สมิติพลิกตัวเธอกลับไปเขากดไหล่เธอให้นอนนิ่งขณะที่มือเธอยันอกเขาไว้อัตโนมัติ
“พี่หมิง” เธอเรียกเสียงเบาก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี ริมฝีปากร้อนจึงประทับลงไปที่แก้มแทน
สมิติลากริมฝีปากเลื่อนไปที่ใบหูและซอกคอ ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดผิวบางทำให้เธอสั่นสะท้านทั้งตัว เธอเกร็งตัวเมื่อรู้สึกว่าเขาใช้ลิ้นดุนดันผิวเนื้อตึงแน่น กฤติกาตัวอ่อนหมดแรงมือไม้อ่อนขึ้นมาเฉยๆ เขาจับมือเธอให้กอดตัวเขาไว้เธอจึงเกาะแน่นเหมือนหาหลักยึด
สมิติเงยหน้าจากซอกคอหอมกรุ่น เขาสบตากับเธอก้มลงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากนุ่มในทีแรก บดเคล้าแนบแน่นในนาทีต่อมาจนเธอต้องเผยอปากเพราะรู้สึกขาดอากาศหายใจ ชายหนุ่มถือโอกาสแทรกลิ้นเข้าไปในปากนุ่ม ดูดซับความหอมหวานรุกเร้ารุนแรงแบบที่อยากทำมาตลอด
มือใหญ่เลื่อนชายเสื้อนอนของเธอขึ้นเรื่อยๆ จนเกาะกุมทรวงอกอวบปลายนิ้วปัดป่ายยอดอกจนเธอขนลุกเกรียวทั้งตัว เขาเลื่อนตัวลงจูบไปตามเนินหน้าอกสมิติรวบชายเสื้อเธอดึงขึ้นจนพ้นศีรษะไปในที่สุด ใช้ปากเข้าครอบครองยอดบัวงามที่กำลังสะท้านสะเทือนอย่างหนัก
กฤติกากอดเขาแน่นเมื่อถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว เธอสอดนิ้วเข้าไปในเรือนผมของเขาที่กำลังซุกซบอยู่ที่หน้าอก เธอหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ปรารถนาที่ถูกปลุกขึ้นมา
สมิติละจากหน้าอกกลมกลึงจูบไปตามท้อง รอยแผลของเธอจางลงจนเกือบหมดเขาจูบแผ่วเบาไปตามรอยช้ำจางๆ เหมือนจะปลอบขวัญเธอ กางเกงนอนของเธอถูกรูดลงไปพ้นข้อเท้าพร้อมกับชั้นในตัวจิ๋ว
กฤติกาหน้าแดง ตัวแดงเมื่อเขาแยกเรียวขาเธอออกกว้างและแทรกตัวลงไปนั่งตรงนั้น ยกข้อเท้าเธอขึ้นจูบแผ่วเบาลิ้นดุนไปตามผิวเนื้อจนเธอจั๊กจี้ปนเสียวสะท้าน
“อย่าค่ะพี่หมิง มันเป็นเท้านะคะ” เธอร้องห้ามแต่เขาจูบเรื่อยขึ้นมาจนถึงต้นขาด้านใน เธอหน้าแดงก่ำผลักศีรษะเขาออกจากเนินเนื้อที่กำลังชุ่มฉ่ำ
สมิติขืนตัวไว้ เขากดจมูกลงไปบนติ่งเนื้อที่อ่อนไหวอย่างยิ่งของอิสตรี ได้ยินเสียงครางแผ่วของเธอยิ่งตวัดลิ้นลงไปตามซอกหลืบคับแคบสีชมพู เขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะยังเป็นสาวบริสุทธิ์แต่คิดว่าเธอคงไม่ได้ผ่านศึกรักมาโชกโชนจึงอยากถนอมเธอให้มากที่สุด
กฤติกาเกร็งตัว มือจิกผ้าปูที่นอนแน่น เธอพยายามบิดตัวหนีแต่สมิติยึดสะโพกเธอไว้แน่น เมื่อความรู้สึกเสียวซ่านพุ่งถึงขีดสุดเธอเกร็งร่างกระตุก ลมหายใจหอบถี่ระรัวรู้สึกผ่อนคลายจนร่างเบาหวิว
เขาไม่รอให้เธอหายใจเป็นปกติ อาศัยจังหวะที่เธอแขนขาอ่อนทิ้งร่างระทดระทวยกับที่นอน เลื่อนตัวขึ้นทาบทับขึ้นเหนือร่างเธอ จูบไปตามทรวงอกหนั่นแน่นอีกครั้งใช้เข่าแยกขาเธอให้กว้างที่สุด จดจ่อตัวตนที่ขยายจนขีดสุดแทรกเข้าในร่างเธอช้าๆ สมิติกัดฟันเมื่อรับรู้ถึงความคับแน่นที่โอบล้อม เขากอดเธอไว้เต็มอ้อมแขนขณะที่กดตัวเองลงจนสุด
“พี่หมิง ไก่เจ็บค่ะ..” เธอผลักอกเขาออกพยายามถดตัวหนีแต่เขายึดไหล่เธอไว้แน่น
“แปบเดียว” เขาปลอบจูบซับน้ำตาที่หางตา “เจ็บนิดเดียวเชื่อพี่นะครับ”
เธอหายใจแรงขึ้นเกร็งร่างเมื่อเขาเริ่มขยับตัว
“ไม่เกร็ง ปล่อยตัวสบายๆ เชื่อพี่นะ” เขาจูบไปตามใบหูขบเม้มเบาๆ เบี่ยงเบนความสนใจจนเธอย่นคอหนี จูบริมฝีปากดูดดื่มจนเธอหายใจไม่ทัน ลำตัวช่วงล่างขยับถี่ขึ้นความเจ็บของเธอหายไป สติของกฤติกาถูกกระชากจนเลือนหายไปตามจังหวะรักที่หนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางเริ่มดังขึ้นแต่คราวนี้เขารู้ดีว่าไม่ใช่ความเจ็บอีกต่อไป
หญิงสาวหวีดร้องในคอหลังจากเดินทางไปถึงฝั่งอีกครั้งเธอรู้สึกถึงความสุขแบบที่ไม่มีอะไรเทียบได้ สมิติทิ้งร่างลงนอนเคียงข้างกันเขาดึงร่างเธอมากอดหันหน้ามาจูบไปตามหน้าผากชื้นเหงื่อ เป็นเซ็กส์ที่เขารู้สึกดีที่สุดครั้งหนึ่งที่เขาเคยมีก็ว่าได้
กฤติกานอนนิ่งชั่วครู่จากนั้นเธอลุกขึ้นเพื่อไปชำระล้างร่างกาย คราบเหนอะหนะทำให้เธอไม่สบายตัวอย่างมาก
“พี่พาไป” เขาดึงร่างเธอมากอดแต่หญิงสาวเบี่ยงตัวออก
“อย่าเลยค่ะ ไก่อยากทำธุระส่วนตัวด้วย”
เขายอมปล่อยเมื่อคิดได้ว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ ความสนิทใจยังมีไม่มากพอที่เธอจะยอมอาบน้ำด้วยกัน ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มเธอแรงๆ คลายแขนออก
“งั้นออกมาเร็วๆ มานอนต่อสักพัก วันนี้พี่หยุดงานจะพาไปข้างนอก”
################
“แกเป็นไงบ้างไก่ หายเงียบไปเลย” นาเดียถามรัวเร็วหลังจากที่กฤติกาโทรหาเธอ
“อือ เรียบร้อยแล้วเพิ่งไปลำปางมาเอาเงินไปใช้หนี้เขาน่ะ” กฤติกาเล่า
“แล้วคุณหมิงเขาโอเคไหม เขาดีกับแกรึเปล่า” นาเดียถามเรื่องที่เธอกังวลที่สุด
“ก็ดีนะ เขาก็ดูแลดีเขาให้มาก้อนแรกสองแสน ให้ฉันไปจ่ายเจ้าหนี้กับซื้อของเข้าบ้าน แล้วให้ย้ายจากหอมาอยู่คอนโดเขา” กฤติกาเล่าตามจริง ได้ยินเสียงเพื่อนถอนใจโล่งอก
“ก็แล้วไปอย่างน้อยเขาก็ดีกับแก แต่มันแย่ตรงที่ถ้าเขาดีมากเราอาจจะรักเขา ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ แกจะลำบากนะ” นาเดียเอ่ยเตือน เมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์แบบนี้มีเรื่องของใจเข้ามาเกี่ยวข้อง คนที่เจ็บที่สุดก็คือคนที่รักก่อน
“ขอบใจนะเดีย ขอบใจทุกเรื่องเลยถ้าไม่มีแกฉันก็คงไม่รู้จะทำไง” กฤติการู้ว่าเพื่อนหวังดี เธอจะระวังใจไม่ให้รักสมิติจะได้ไม่ทุกข์ในวันที่หมดเวลาของเธอ
วันรุ่งขึ้นเธอเห็นสมิติเจริญอาหารเป็นพิเศษ“เมื่อวานพี่เห็นไก่ซื้อขนมมาใช่ไหม ยังมีอยู่รึเปล่า” “ขนมเหรอคะ ขนมไทยนะคะพี่จะทานเหรอ” กฤติกาไม่เคยเห็นเขาชอบของหวานเลยสักครั้ง“อืม อยากกินน่ะยังมีอยู่รึเปล่า” สมิติตอบหญิงสาวจึงเปิดตู้เย็นดูขนมที่ว่า“มีค่ะเป็นทองหยิบกับฝอยทองนะคะ” เธอซื้อมาจัดชุดถวายข้าวพระพุทธ จึงมีเหลือในกล่องไม่มากเธอนำมันมาจัดจานไปใส่คนที่นั่งรอ“อร่อย” สมิติจิ้มทองหยิบใส่ปากสีหน้าดูชื่นอกชื่นใจ ส่วนกฤติกาทำหน้าแหยง“มันหวานมากเลยนะคะ พี่หมิงว่าพอดีเหรอ” สมิติหันมาพยักหน้า ทำสีหน้าจริงจัง“พอดี ไม่เห็นหวานไปเลยจ้ะ เอาอีกนะอันนี้ไก่ซื้อร้านไหนมา”“ร้านหน้าคอนโดนี่เองค่ะ พี่หมิงไม่สบายรึเปล่าคะ” เธอมองเขาอย่างกังวล พักนี้รู้สึกว่าเขาไม่ปกติหลายๆ อย่าง เหมือนผีเด็กเข้าสิงแต่เธอแน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีใครเลี้ยงกุมาร“ไม่นี่ พี่ปกติ” สมิติตอบ เขาไม่รู้สึกว่าเขาเป็นอะไรภรรยาคิดมากไปเองหญิงสาวป้อนโจ๊กให้น้องแมทจนหมดถ้วย 'กินเก่งทั้งพ่อทั้งลูก' เธอคิดในใจ กฤติกาลุกขึ้นจะเข้าไปในครัวแต่ก็ต้องเซเมื่อเธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม“ไก่..” สมิติเรียกเสียงดัง เขารีบมาป
“พี่หมิงคะ ลูกร้อง” กฤติกาตะโกนบอกสามี เด็กชายกรกันต์หรือน้องแมทวัยแปดเดือน กำลังแผดเสียงร้องจ้าเมื่อตื่นมาไม่พบใครในห้อง“จ้า พี่ไปเดี๋ยวนี้ละ” สมิติรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไปดูลูกชาย ส่วนกฤติกากำลังเคี่ยวข้าวผักห้าสีให้ลูกในครัว“โอ๋.. ไม่ร้องนะครับ พ่อเปลี่ยนเพิสให้นะลูก” ชายหนุ่มเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จให้ลูกชายอย่างคล่องแคล่วเพราะทำมาตั้งแต่น้องแมทเกิด พ่อลูกอ่อนอุ้มลูกชายมาไว้ในคอก ตอนนี้น้องแมทคลานได้คล่องแล้ว บางครั้งไปไวมากจนพ่อแม่จับไม่ทัน“มาแล้ว” กฤติกายกถ้วยข้าวบดมาให้ลูก เธอคนๆ วางทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้คลายความร้อนลง“มาค่ะน้องแมท” เธออุ้มเด็กชายขึ้นจากคอกมานั่งที่เก้าหัดกินข้าวของเด็ก หญิงสาวหัดให้ลูกชายนั่งได้เองเพื่อที่ว่าเวลาไปไหนจะได้ไม่ต้องคอยอุ้มตลอดเวลา“พี่หมิงหิวหรือยังคะ” เธอหันไปถามสามี “หิวจ้ะ แต่ไม่รู้อยากกินอะไร” สมิติทำท่าเพลีย “นอนน้อยรึเปล่าคะ มีไข้ไหม” หญิงสาวลุกมาหาเขาเธอใช้มืออังหน้าผากพบว่าเขาตัวเย็น “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก” สมิติจับมือเธอไว้ “คืนนี้ไม่ต้องลุกมาดูแมทนะคะ ไก่จัดการเอง” เธอเริ่มฝึกให้ลูกเลิกมื้อดึกและนอนยาวแล้วตามที่คุยกับค
สมิติไม่ทำอะไรเธอตามที่เขาพูดจริง แต่ชายหนุ่มถือโอกาสช่วงที่รอแผลเธอหายช้ำสร้างความคุ้นเคยให้เธอด้วยการสัมผัสแตะต้อง โอบบ้าง กอดบ้างจนกฤติกาเริ่มชินเช้าวันอาทิตย์เขาออกไปข้างนอกและกลับมาทานข้าวเย็นกับเธอ พบว่ากฤติกาไม่ได้ออกไปไหนเลย“ออกไปเดินเล่นบ้างก็ได้นะไก่” “ไม่เป็นไรค่ะ ไก่อยากพักพรุ่งนี้ต้องไปมหาวิทยาลัย” สมิติพยักหน้าเข้าใจ เขาขยับตัวลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับที่พัก “งั้นไก่พักพี่จะกลับก่อน เช้าวันอังคารเจอกันพี่จะมารับไปลำปาง” “ค่ะ” ###############สมิติพาเธอไปจัดการธุระเรื่องบ้านที่ลำปางในเช้าวันอังคาร โดยที่เขาไปคุยกับเจ้าหนี้ให้เองและนำโฉนดบ้านกลับคืนมา จากนั้นเขาปล่อยให้กฤติกาเข้าบ้านไปหาน้องๆ หญิงสาวซื้อของจำเป็นเข้าบ้านจำนวนหนึ่งพอใช้ไปนาน และซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ไว้ให้น้อง ๆ โทรหาตนเอง ไม่ต้องยืมโทรศัพท์เพื่อนบ้านใช้อีกทั้งคู่กลับมาถึงกรุงเทพฯ ในตอนเที่ยงคืน สมิติขึ้นมาบนห้องด้วยเขาวางของลงบนโต๊ะ ขณะที่บอกเธอให้ไปอาบน้ำกฤติกาออกมาจากห้องน้ำ ไฟในห้องนอนถูกปิดแล้วเหลือไฟเล็กหัวเตียงเท่านั้น สมิตินอนบนเตียงอยู่ในชุดนอนเขาคงไปใช้ห้องน้ำด้านนอก“พี่จะ
“พี่ว่าอะไรนะ” สมิติทวนคำหลังจากที่พีรพัทย์โทรหาเขา “ก็อย่างที่บอกไป เดียโทรมาปรึกษากูว่าเพื่อนเขาจำเป็นต้องใช้เงินแสนสองภายในสามวัน กูพอจะมีเพื่อนดีๆ ที่สนใจน้องเขาไหม น้องเขายอมทุกอย่างแต่ขอให้ชัวร์เพราะเขาเดือดร้อนมาก” พีรพัทย์ทวนอีกครั้ง“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่สนล่ะ” สมิติหยั่งเชิง“กูก็อาจจะหาคนอื่นให้น้องเขา หรือไม่กูก็อาจจะบริจาคให้น้องเขาเอง เงินแค่นี้มึงก็รู้ว่ากูไม่มีปัญหา” พีรพัทย์แกล้งพูด“พี่ว่าไงนะ พี่มีเดียอยู่แล้วไง” สมิติแย้ง“แล้วไงลูกไก่ก็เพื่อนเดีย เพื่อนสนิทกันมาก สองสาวจะได้มีเพื่อนเวลาปรนนิบัติกูไง เดียเขาอาจจะวางใจก็ได้ที่คนนั้นเป็นกู” “หยุด พี่บ้าไปแล้วไหนว่าจริงจังกับเด็กมันจะไปทำให้เดียเสียใจทำไม เอางี้ผมรับเองแต่ผมขอคุยกับลูกไก่ก่อน” สมิติรีบห้ามก่อนที่เพื่อนรุ่นพี่จะจินตนาการบรรเจิดไปมากกว่านั้น ได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะจึงรู้ว่าฝ่ายนั้นล้อเล่น“ก็มาสิ คืนนี้ลูกไก่ต้องมาทำงานที่ร้านอยู่แล้ว” “ไม่ต้องเลย บอกเด็กพี่นะว่าให้บอกลูกไก่เลิกทำงานที่ร้าน เดี๋ยวผมจะออกไปรับตอนนี้เขาอยู่ที่คอนโดของเดียใช่ไหม” สมิติลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน วันนี้งานเขาไม
สมิติกลับมาขึ้นรถ เขาหันมามองกฤติกาที่ยังหน้าซีดเผือดจากเหตุการณ์เมื่อครู่“เจ็บตรงไหนบ้าง เดี๋ยวพี่จะพาไปตรวจที่โรงพยาบาล” เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ จุกเดี๋ยวก็คงหายถ้าจะกรุณา ไปส่งที่ห้องเดียได้ไหมคะ” “ห้องเดียนั่นมันเป็นของเฮียพีท เขาซื้อให้เดียอยู่” สมิติเปรยขึ้นมา กฤติกาเม้มปากแน่น“งั้นไปหอของไก่ก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามันไกลไปเกรงใจเดี๋ยวไปแท็กซี่เองค่ะ” “ยังไม่เข็ดเหรอ” สมิติถามเสียงเรียบ เขาออกรถพาเธอออกจากตรงนั้น ถนนที่ค่อนข้างมืดในตอนหนึ่งนาฬิกาทำให้กฤติกามองทางไม่ชัดเจน ประกอบกับเธอยังจำทางได้ไม่แม่นทำให้เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน“พี่หมิงจะไปไหนคะ” หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางไปไกลกว่าขามา “หอที่ไก่อยู่เป็นหอพักนักศึกษาหรืออพาร์ตเมนท์” เขาย้อนถาม“เอ่อ หอพักนักศึกษาค่ะ อยู่หน้า...” เธอบอกชื่อสถาบันทำให้สมิติเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเธอเรียนที่ไหน “พี่ก็เคยเรียนที่นี่ เราเรียนคณะไหน” “สถาปัตยฯ ค่ะ” “อืมม” เขาทำเสียงในลำคอแบบที่เธอไม่เข้าใจ “เป็นรุ่นน้องพี่ คณะเดียวกันถ้าหมายถึงหอหญิงหน้าสถาบันตอนนี้ประตูคงปิดแล้ว เข้าไม่ได้หรอก” ฟังแล้ว
“ชื่ออะไรครับน้อง อายุครบสิบแปดแล้วใช่ไหม” สุธนผจก.ร้านสัมภาษณ์กฤติกา หลังจากที่นาเดียสาวตัวท็อปของร้านพาเพื่อนมาสมัครงาน“ชื่อกฤติกาค่ะ สิบแปดแล้ว” เธอส่งบัตรประชาชนให้ผจก.ร้านดู“โอเค เด็กใหม่งั้นพี่จะให้เราชงเหล้า เสริฟที่โซนวีไอพีนะฝากน้องเดียเป็นพี่เลี้ยงให้แล้วกัน มีชื่อสั้นๆ ไหมครับน้อง” สุธนส่งบัตรประชาชนคืนและยื่นใบสมัครให้กฤติกาเขียน เธอรับมากรอกรายละเอียดทันที“ลูกไก่ค่ะพี่” นาเดียตอบแทน สุธนพยักหน้าพอใจ“ปกติเด็กเราหน้าที่ชงเหล้า เสริฟก็คือทำตามนั้น เรื่องงานพิเศษร้านปล่อยฟรีสไตล์แล้วแต่ความสมัครใจ แต่ต้องไม่ใช่ทำในร้านนะครับ แล้วถ้าน้องไม่อยากไปต่อกับใครแต่มีแขกเซ้าซี้แจ้งพี่หรือการ์ดร้านได้เลย” สุธนบอกทำให้เธอสบายใจขึ้นเมื่อเสร็จธุระเรื่องเอกสารและสุธนแจ้งค่าตอบแทนแล้ว นาเดียจึงพากฤติกาไปที่ห้องพักของพนักงาน เป็นห้องรวมสำหรับเตรียมตัว แต่งหน้าหรือทำผมมีห้องน้ำสองห้อง นาเดียพาเพื่อนสาวไปที่มุมประจำของเธอ“ทำงานที่นี่ยิ้มไว้เยอะๆ กับแขก ส่วนเพื่อนร่วมงานด้วยกันคบได้พอผ่านๆ อย่าสนิทมากไม่มีใครอยากให้เราได้ดีเกินหน้าหรอกไก่” เธอกระซิบสอน พร้อมกับพาไปเบิกชุดสำ