‘หลายเดือนแล้วนะ ไม่คิดจะกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้างเหรอ’
ร่างอ้วนทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาของบ้านหลังจากกลับมาจากการทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยก่อนจะประโยคตัดพ้อเมื่อรับสายเรียกเข้าเย็นของ
เมื่อวานจะลอยเข้ามาในห้วงแห่งความคิด จริงอย่างที่ท่านว่าช่วงนี้เธอไม่ได้กลับไปเยี่ยมเลย
ช่วงนี้ยุ่งมากทั้งเรื่องงานและเรื่องของหัวใจ สุดสัปดาห์นี้เธออยากกลับไปชาร์จแบตเหลือเกิน ลมหายใจถูกพ่นออกมาขยับตัวลุกจะกลับขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำก็พอดีกับป้ามาลัยเดินเข้ามาหา
“คุณมนจะให้ป้าตั้งโต๊ะเลยหรือเปล่าคะ”
“ยังดีกว่าค่ะ รอพี่เวย์กลับมาก่อนก็ได้”
“ป้าเกรงว่าคุณมนจะรอเก้อนะสิคะ เพราะคุณเวย์เพิ่งโทรมาบอกป้าเมื่อครู่นี่เองว่าไม่ต้องตั้งโต๊ะเผื่อ เพราะจะไปทานข้าวกับเพื่อนที่กลับมาจากเมืองนอก”
เพื่อนอย่างนั้นเหรอ? เธอแค่นยิ้มออกมาเพื่อนที่พี่เวทัศบอกก็คงเป็นแฟนเก่าสินะ
“ถ้าอย่างนั้นมนรบกวนจัดใส่ถาดยกขึ้นมาบนห้องได้ไหม พอดีว่ามนต้องเคลียร์งานที่เอากลับมาทำด้วย นี่ก็ดึกมากแล้วกลัวว่าจะไม่ทัน”
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณมนไปอาบน้ำเถอะค่ะ แล้วป้าจะรีบอุ่นให้แล้วนำไปเสิร์ฟให้นะคะ”
“ขอบคุณนะคะป้า”
หากจะหาคนที่ดีและจริงในกับเธอมากที่สุดรองจากพ่อแม่ก็คงต้องยอมรับว่าเป็นป้ามาลัยนี่แหละมั่ง คอยช่วยเหลือทุกอย่างทำแทนจนเธอแทบจะเป็นง่อยอยู่แล้ว
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จมนลิตาก็เห็นถาดอาหารมาวางรออยู่แล้ว ควันของแกงในถ้วยยังโขมงอยู่เลยแสดงว่าป้ามาลัยเพิ่งเอาเข้ามาให้
มืออวบยกผ้าขนหนูขึ้นเช็ดหัวไปมาส่วนมืออีกข้างก็ล้วงเอาโน้ตบุ๊คขึ้นมาเปิดไฟล์เนื้อข่าวซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ใหม่เกี่ยวกับพวกค้าประเวณีใน
สถานบันเทิงซึ่งร่วมงานกับตำรวจหลายหน่วยงานและเป็นความลับค่อน
ข้างสูง
งานนี้เธอเพิ่งได้รับมอบหมายมาจากฝ่ายบริหารข่าวเมื่อช่วงค่ำ บอกปฏิเสธไปแล้วแต่ผู้ใหญ่ก็ยังขอร้องให้เธอทำเพราะชื่นชอบในผลงานและความใจกล้าในการหาข่าว ขนาดผู้ชายอกสามศอกยังไม่ค่อยกล้าทำกัน
นั่งทำงานไปก็เหลือบดูนาฬิกาไปเพราะเห็นว่าดึกมากแล้วคนเป็นสามียังไม่กลับมาเลย ไม่รู้ว่าป่านนี้ทำอะไรกันไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว
สมองจินตนาการไปต่าง ๆ นานาพลางชะเง้อคอขึ้นมองออกไปยังนอกหน้าต่างเพื่อดูว่ารถของเวทัศกลับมาหรือยังโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่หล่อนคิดเอาไว้เลยสักนิดเพราะเพื่อนที่กลับมาจากเมืองนอกนั้นคือภูริไม่ใช่อินทุภาอย่างที่มนลิตาเข้าใจ
“จะกลับมาทำไมไม่ส่งข่าววะ จะได้ไปรับที่สนามบิน”
“ไปรับให้มันยุ่งยากทำไมวะ งานแกก็ยุ่ง ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ ช่วงนี้เห็นทำรายการ ทำละคร หรือข่าวก็รุ่งไปหมดไม่ใช่เหรอ”
ขายาวยกขึ้นไขว่ห้างเอนหลังพิงพนักเก้าอี้โคลงแก้วเหล้าในมือไปมา ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่เมืองนอกนานก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดหูปิดตาข่าวสารบ้านเกิดเมืองนอนสักหน่อย
“ฉันก็ไม่ได้ยุ่งถึงขนาดเจียดเวลาไปรับเพื่อนรักกลับมาจากเมืองนอกไม่ได้หรอก แล้วคิดไว้หรือยังว่ากลับมาจะทำอะไร”
“อือ คงหางานทำเพื่อเอาประสบการณ์ก่อนแล้วค่อยไปรับช่วงต่องานที่บ้าน ว่าแต่แกเถอะตั้งแต่แต่งงานมาชีวิตคู่เป็นยังไงบ้าง”
“ก็เรื่อย ๆ แกก็รู้ว่าฉันแต่งงานเพราะถูกคุณหญิงระย้าบังคับ”
พอพูดเรื่องเมียบรรยากาศก็ดูหม่นลงทันที เขารีบยกมือห้ามภูริทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะถามเกี่ยวกับมนลิตาอีกรอบ
“ทำไมวะ หรือว่าเมียแกจุกจิกเหมือนคนอื่น”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เลิกพูดเรื่องนี้สักทีว่าแต่แกเถอะทำไมไม่พาแฟนมาเปิดตัวสักที มีอยู่ช่วงหนึ่งถ่ายรูปลงอยู่บ่อย ๆ แต่เห็นแค่หลังกับมือกลัวเพื่อนรู้เหรอว่าแฟนสวย”
“ทีแกแต่งงานยังไม่เชิญเพื่อนสนิทอย่างฉันไปเลย หน้าเมียแกก็ไม่เคยเห็น จะรอให้มีลูกก่อนหรือไงถึงจะพามาแนะนำให้รู้จัก
ภูริย้อนคำกลับ ทำเอาเวทัศหน้าเหี่ยวลงอยู่ไม่น้อยเมื่อพูดถึงเรื่องมีลูกด้วยกัน เพราะเรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
“แกอย่ารู้จักนะดีแล้ว เพราะอีกไม่นานฉันก็จะหย่ากับผู้หญิงคนนั้นแล้ว”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงยืดตัวตรงรีบวางแก้วเหล้าในมือ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยแต่งงานกันมาตั้งสามปีอะไรทำให้เวทัศอยากหย่ากับเมีย
“อ้าว เฮ้ย! ทำไมล่ะ”
“อินกลับมาแล้ว และอย่างที่แกรู้ว่าฉันเองไม่เคยรักผู้หญิงคนนั้นเลยก็แค่แต่งงานตามคำขอของผู้ใหญ่เท่านั้น”
ภูริหรี่ตาลงเมื่อได้ยินว่าแฟนเก่าของเวทัศกลับมาแล้วก่อนจะมีสีหน้าเรียบตึงขึ้นมาโดยที่เพื่อนรักไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย
“แกจะให้เหตุผลในการหย่าว่าแฟนเก่ากลับมาเหรอ มันฟังไม่ขึ้นหรือเปล่าไม่สงสารเมียแกเหรอ อยู่ด้วยกันมาไม่ผูกพันสักนิดเลยหรือไง”
“ผูกพันอย่างนั้นเหรอ”
เวทัศทวนคำ มันก็คงรู้สึกแปลก ๆ นั่นแหละเพราะข้างกายเขามี
มนลิตานอนอยู่ด้วยมาตลอด แต่มันก็เป็นเพียงแค่คู่นอนเท่านั้น ตอนนี้เขาเชยชมและสร้างความเจ็บปวดให้เธอมามากพอแล้ว
ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมานานแค่ไหนแล้วรู้ตัวอีกทีร้านก็ประกาศว่าจะปิดแล้ว ความมึนเมาทำให้เวทัศขับรถกลับเองไม่ไหวจนต้องเรียกใช้บริการคนขับรถแทน
มนลิตายืนกอดอกมองคนเมามายที่นอนแผ่หลาอยู่กลางเตียงหลังจากช่วยกันแบกขึ้นมากับป้ามาลัย สองแขนทิ้งตัวลงข้างลำตัวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำครู่หนึ่ง เดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูชุบน้ำแต่พอมาด
ใบหน้าหล่อแดงก่ำเนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ดวงตาแดงก่ำปรือปรอยลืมขึ้น เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยานคาง
‘ประกาศแต่งฟ้าแลบ! รอบสองกับภรรยาคนเก่ากับไฮโซเวทัศ’พาดหัวข่าวหราทุกแพลตฟอร์มและกลายเป็นประเด็นร้อนทุกออนไลน์กับความรักของทั้งคู่ เพราะไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริงและที่สำคัญเจ้าสาวในวันนี้ไม่ใช่ดาราดังหรือผู้หญิงสวยหน้าตาดีรูปร่างสวยเลย เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่มัดหัวใจของชายหนุ่มได้อยู่หมัด“ยินดีด้วยนะ”เสียงแจ้วของกลุ่มก้อนเดิมดังขึ้นนำทีมโดยพี่ท้อปและตามด้วยน้องเล็กของทีมอย่างเจ้าต้น ก่อนหน้านั้นเจอกันแล้วรอบหนึ่งตอนเธอแวะไปแจกซอง พวกเขายังสนุกสนานเฮฮาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเงียบ ๆ เหมือนเดิมแขกที่เชิญมามีแทบทุกวงการทั้งบันเทิง การเมือง และสายนักข่าว แต่คนที่เจ้าสาวรอมากที่สุดคงหนีไม่พ้นผู้ชายสวมสูทสีครีมกำลังเดินมา“พี่ตุลย์ ขอบคุณนะคะที่มา”“ต้องมาอยู่แล้วน้องสาวคนสวยของพี่แต่งงานทั้งที” กำลังจะยกมือขึ้นยีหัวด้วยความเคยชิน แต่คราวนี้มนลิตาหลบทัน“ฮันแน่ ไม่ได้กินหรอก พี่ยังติดยีหัวเหมือนเดิมเลยนะคะ”“นั่นสิ เป็นสัญชาตญาณของมือมั่ง” ทั้งคู่หัวเราะกันคิกคักจนมองไม่เห็นหัวเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ตรงนั้น“อะแฮม”“อ้าว เจ้าบ่าวยืนอยู่ตรงนี้เหรอ นึกว่ารูปปั้
‘ปัง’เสียงกัมปนาทดังขึ้นสนั่นจนหูอื้อเพราะมันอยู่ใกล้แค่ไม่กี่เมตร ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวเขาผลักคนตัวอ้วนไปอีกทางที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาตรงหัวไหล่เขาชำเลืองมองเลือดสีแดงสดกำลังไหลซึมผ่านเสื้อยืดสีขาวผืนบาง ก่อนจะทรุดลงกับพื้น“กรี๊ดดดด พี่เวย์ ๆ”มนลิตาแทบคุมสติไม่อยู่รีบถลาตัวเข้าไปประคองเวทัศเอาไว้พร้อมกับตะโกนบอกคนแถวนั้นให้เรียกรถพยาบาล ชายหนุ่มเห็นอาการคนรักสติกระเจิงจึงจับมืออวบที่กำลังสั่นระริกเพราะความตกใจมากุมไว้“มน ใจ...เย็น ๆ นะพี่ไม่เป็นไร”“ไม่เป็นไรได้ยังไง เลือดออกขนาดนี้” น้ำตาร่วงหล่นลงแก้ม ความกลัววิ่งเข้ามาแทนที เธอไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะบาดเจ็บแต่กลัวว่าเขาจะตาย“พี่ยังไหว แผลแค่นี้เอง” เวทัศพยายามปลอบเธอ แต่นั้นยิ่งทำให้เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นจนพูดแทบไม่เป็นภาษา“พี่เวย์ ห้ามเป็นอะไรนะ นี่เป็นคำสั่ง ไหนว่าอยากอยู่กับมนและลูกไง ถ้าเป็นอย่างนี้มนจะอยู่ยังไง”“พี่จะไม่เป็นไร มนอย่าร้องนะ” เขาบีบมือเธอแน่นขึ้น ไม่นานเท่าไรหูก็ได้ยินเสียงไซเรนดังแว่วมาเจ้าหน้าที่ทำงานเคลื่อนย้ายร่างของเวทัศขึ้นบนเตียง มนลิตากระโดดขึ้นไปบนรถอ้างความเป็นภรรยาทันที รถพยาบ
ในที่สุดวันเวลาของการรอคอยก็มาถึงสักที ทั้งหมดเดินทางมาถึงภูเก็ตด้วยเครื่องบิน พอมาถึงคนของเวทัศก็นำรถมารับถึงสนามบิน“คุณท่านรออยู่ที่โรงแรมแล้วครับ” คนขับรถบอกกับเวทัศแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้ทุกคนนั่ง รถยนต์เคลื่อนตัวตรงไปโรงแรมทันทีโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหาดกะตะบนแนวสันเขาของเกาะบริเวณหน้าโรงแรมเป็นหาดทรายขาวละเอียด มีลักษณะเป็นวงกว้างและมีความโค้ง คลื่นลมสงบ น้ำนิ่งสามารถลงเล่นน้ำได้และที่นี่ยังมีแนวปะการังแปลกตา ยาวไปจนถึงเกาะปู ทำให้เป็นที่ฝึกดำน้ำ และจุดดำน้ำยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามใต้ทะเล“หูววว พ่อขาทะเล” รถเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าโรงแรมเมทิตาชะเง้อคอขึ้นมองแล้วชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยความตื่นเต้นตายายหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหลานแล้วบอกว่าให้รถจากรถก่อนจะได้เห็นชัด ๆ พอก้าวเท้าลงมาคนเป็นย่าก็ยืนรอต้อนรับอยู่แล้วทำให้หนูน้อยลืมน้ำทะเลใสไปเลย“หนูเมย์...”“คุณย่า”ขาสั้นป้อมวิ่งตรงลิ่วไปหาคุณหญิงระย้า แขนเหี่ยวย่นอ้าแขนรับเจ้าตัวเล็กสู่อ้อมกอดแล้วหอมซ้ายหอมขวาเหมือนเคย“คุณย่าขา หนูเมย์ได้นั่งเครื่องบินด้วย บนโน้นมีเมฆ มีนกด้วยค่ะ”เมทิตาเงยหน้าชี้
สองผู้เฒ่านั่งเล่นอยู่ข้างล่างหันมองหน้ากันเชื่อได้เลยไม่นานทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าลูกสาวพวกเขานั้นใจอ่อนตั้งนานแล้วตอนนี้แค่วางฟอร์มเท่านั้น“แม่มนขา พ่อเวย์ขา” น้ำเสียงและท่าทางแบบนั้นมนลิตาพอจะเดาออกว่าลูกสาวต้องอยากได้หรืออยากไปที่ไหนสักที่แน่นอน“อ้อนจะเอาอะไรอีกคะ”“หนูเมย์อยากไปทะเล วันนี้เพื่อนหนูเมย์บอกว่าพ่อกับแม่พาไปทะเลหนูเมย์อยากไปบ้าง” เด็กหญิงทำหน้าอ้อน ๆ ใส่แม่ หันไปกระพริบตาปริบๆกับคนเป็นพ่อก่อนจะวิ่งอ้อมโต๊ะไปสวมกอดตากับยายเพื่อเอาใจมนลิตาแพ้ทางเวลาเมทิตามาอ้อนเพื่อขออะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตามใจเสียทุกเรื่องแต่เพราะลูกสาวเธอไม่เคยไปทะเลเลยตั้งแต่เกิดมากำลังจะอ้าปากพูดผู้ชายนั่งข้างก็เป็นฝ่ายเสนอขึ้นมา“ถ้าอย่างนั้นเราไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัวดีไหมครับ ผมจะได้โทรบอกคุณแม่ด้วย”“ดีค่ะ ไปๆ ไปเที่ยวทะเลกัน” เมทิตาตอบรับแทนทุกคนแล้วชูสองแขนขึ้นกระโดดหมุนตัวไปมารอบโต๊ะกินข้าวเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของลูกกับมนลิตาทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไม่ต้องมานั่งทำหน้าอมทุกข์เหมือนแต่ก่อน“แล้วเราจะไปทะเลที่ไหนล่ะ ประเทศเรามีทะเลตั้งหลายจังหวัด” ตา
ว่ากันว่าคนเราไม่เคยมีใครเป็นพ่อกับแม่มาก่อนทุกคนมาเริ่มต้นนับหนึ่งเมื่อมีลูกคนแรก ต่างลองผิดลองถูกกันมาทั้งนั้นสงสัยมันจะเป็นเรื่องจริง เหมือนกับเขาตอนนี้ที่กำลังฝึกหัดการเป็นพ่อคน คนอื่นโชคดีที่ได้ฝึกเป็นพ่อด้วยการอุ้มลูก เปลี่ยนผ้าอ้อม กล่อมนอน แตกต่างจากเขาตอนนี้ที่กำลังเป็นลูกค้าให้กับช่างแต่งหน้าตัวน้อย“พ่อเวย์สวยที่สุดเลยค่ะ” หนูเมย์ยื่นกระจกให้คนเป็นพ่อดูกับความภาคภูมิใจในการแต่งหน้า เขายิ้มรับให้ลูกแล้วทำท่าตื่นเต้นบนหัวผูกจุกเป็นต้นมะพร้าวสามต้น คิ้วถูกระบายหนาเป็นปลิง เปลือกตาทาด้วยสีฟ้าเข้ม ขนตางอนปัดด้วยมาสคาร่า โหนกแก้มแดงยิ่งกว่าตูดลิง ไฮไลท์ดั้งพุ่งโด่งจนแทบทิ่มตา ตบท้ายด้วยปากสีส้มเข้ากันกับแก้มสุดๆ“เฮ้ออออ” เวทัศพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ“ถอนหายใจทำไมคะ ไม่สวยเหรอ” เด็กหญิงย่นคิ้ว เวทัศรีบฉีกยิ้มเอาใจลูกสาวเพียงคนเดียว“สวยค่ะ แต่พ่อว่ารอบหน้าเราลองลดความเข้มของสีตา แก้มลงกว่านี้ดีไหม มันจะต้องสวยมากกว่านี้แน่เลย เววี่คอนเฟิร์มคร๊า!”เวทัศดีดตัวสะดีดสะดิ้งราวกับว่าตัวเองเป็นเป็นสาวประเภทสอง แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นตรงประตูทางเข้าและที่น่าอับอา
ช่วงหลังเลิกงานเขาเอาแต่นั่งทำอาหารเกาหลีแทบทุกวันเพื่อที่อย่างน้อยมันก็บรรเทาความคิดถึงผู้หญิงตรงหน้าได้บ้าง และวันนี้เขาก็ได้มีโอกาสทำให้เธอได้กินแล้ว“กินสิ เดี๋ยวเย็นหมดนะ” ชายหนุ่มเลื่อนจานจาจังมยอนมาให้มนลิตาหลุดออกมาจากภวังค์ใช้ตะเกียบเหล็กคีบเส้นสีดำเข้าปาก ทันทีที่ลิ้นสัมผัสกับน้ำซอสสีดำดวงตากลมประกายวาววับขึ้นมาทันทีมุมปากของเวทัศหยักโค้งขึ้นแทบจะถึงติ่งหู หาเรื่องคุยกับง้อตั้งนานแทบจะไม่ได้ผลแต่พอทำของโปรดไว้ให้เขากลับเห็นความสดใสบนใบหน้าของเธออีกครั้งชายหนุ่มเท้าคางบนเก้าอี้มองหญิงสาวกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กว่าจะรู้ตัวว่าถูกอีกฝ่ายเฝ้ามองเธอก็กินอาหารไปจนเกือบหมดโดยลืมชวนคนทำกินเสียด้วยซ้ำ“ไม่กินด้วยกันเหรอคะ”“ไม่ล่ะครับ พี่เห็นมนกินได้ก็ดีใจแล้ว”เอื้อมมือไปหยิบทิชชูจากกล่องไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนน้ำซอสสีดำให้แผ่วเบา ดวงตาทั้งคู่สบกันครู่หนึ่งจนเป็นฝ่ายมนลิตาได้สติขึ้นมาก่อน เธอเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วเช็ดปากด้วยตัวเอง“เรื่องที่เราคุยกันเมื่อคืน...”“มนอยากคุยกับพี่เวย์เรื่องนี้พอดีเลยค่ะ”ยังไม่ทันจะบอกจุดประสงค์จบเลยว่าไม่ต้องรีบเขารอได้ ทว่าหญิงสาวก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาเ