การแต่งงานของเราเกิดจากความรักของเธอเพียงฝ่ายเดียว หากเขาต้องการจะหย่า เธอก็พร้อมจะไป "มนยอมแพ้แล้ว เรามาหย่ากันตามที่เวย์ต้องการเถอะค่ะ"
View Moreภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างเกิดเสียงลามกดังสนั่นพร้อมกับเสียงครวญครางของสามีและภรรยาที่กำลังร่วมรักกัน
ไฟราคะปะทุในร่างกายของหญิงอวบอ้วน ดวงตากลมโตสีดำสนิทจับจ้องการกระทำของผู้เป็นสามีโดยไม่เคลื่อนกายไปไหน
“อือ พี่เวย์ตรงนั้นมัน...เสียว”
เว้นช่วงหายใจเบื้องล่างบิดเร้าด้วยแรงกระแทกจากบั้นท้ายของผู้
คุมเกม เธอเห็นเพียงแค่ใบหน้าหล่อเชิดหน้าสูดปากครางเสียงต่ำไม่ต่างกัน
“อะ ออกแล้ว”
เขาสบถคำนั้นออกมาไม่นานจังหวะเร่งเร้าก็กระหน่ำเข้ามาแรงและเร็วเลือดลมทั่วร่างไหลมากระจุกอยู่ตำแหน่งเดียวก่อนกระตุกเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมา
เธอรับรู้ถึงหยดหยาดร้อนผ่าวที่ซัดสาดเข้ามายังส่วนลึก
ร่างกำยำทาบทับลงบนตัวนุ่มนิ่มราวกับหมดแรงถึงขีดสุดก่อนจะพลิกตัวลงที่นอนด้านข้างและหันหลังให้กับผู้เป็นภรรยา ปิดเปลือกตาลงช้า ๆ เข้าสู่ห่วงนิทราในที่สุด ปล่อยให้มนลิตานอนลืมตาอยู่อย่างนั้น
มันไม่ใช่ครั้งแรกแต่เป็นทุกครั้งที่เธอและเวทัศร่วมรักกัน พอเสร็จกิจก็ไม่เคยคิดจะสนใจเธอเลย เขาเพียงแค่ต้องการร่างกายเธอเพื่อไว้ตอบสนองความใคร่ก็เท่านั้น
เช้าแล้วหญิงสาวยังคงนอนลืมตามองผู้เป็นสามี มืออวบยกขึ้นไปแตะระหว่างหัวคิ้วของเขาที่หม่นเข้าหากันเพื่อให้มันคลายตัวออกจากกัน เธอมักเห็นเขาทำหน้าเคร่งเครียดอยู่อย่างนั้นเสมอไม่ว่าจะเวลาตื่นหรือเวลาหลับ
สามปีแล้วที่เวทัศและมนลิตาแต่งงานกันมาโดยที่เขาไม่ได้เต็มใจแต่ก็ไม่อาจฝืนคำสั่งของผู้ใหญ่ได้ เรียกว่าทั้งฝั่งเขาและเธอต่างเป็นคนหัวโบราณและเคร่งครัดในเรื่องสัญญาเป็นอย่างมาก
ตาของเธอเคยช่วยชีวิตปู่ของเวทัศเอาไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนและต่างให้สัญญากันว่าจะให้หลานของทั้งคู่แต่งงานกัน ตอนแรกเวทัศไม่ยอมแต่ง
หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม แต่ที่ยอมเปลี่ยนใจก็เพราะอยากจะแก้แค้นเธอก็เท่านั้น
“เวย์ เราเลิกกันเถอะ ถึงยังไงคุณก็ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นอินไม่อยากต้องมานั่งสู้รบปรบมือกับเธอเพราะต้องแย่งผู้ชายคนเดียว”
“อินพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
เขาส่ายหน้าเล็กน้อยไม่เข้าใจว่าคนรักกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่ เอื้อมจะไปจับมือเล็กทว่าเธอกลับสะบัดออกและถอยห่าง
อินทุภาแสร้งบีบน้ำตาแล้วถอดแหวนคู่รักคืนให้กับเขา ชายหนุ่มส่ายหน้าไม่ยอมรับเธอจึงจำต้องเลือกวางมันไว้บนโต๊ะแล้วหันหลังเดินจากไป
ความเศร้าเสียใจแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น เวทัศเลือกโทษว่าเป็นเพราะมนลิตาจึงทำให้คนรักเลือกทิ้งตัวเองไป หากผู้หญิงคนนั้นเลือกไม่ตอบตกลงแต่งงานกับตัวเองทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้
ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าสาเหตุหลักที่มนลิตาเลือกแต่งงานก็เพราะอยากให้เขาหูตาสว่างจากคนรักสักที แต่ท้ายสุดเขาก็เลือกแก้แค้นด้วยการทุกทรมานเธอทั้งทางร่างกายและจิตใจ
‘ถ้าฉันไม่แต่งงานกับเธอ ชาตินี้เธอคงไม่มีสามีหรอก’
คำพูดเหน็บแนมพร้อมสายตามองมาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเป็นการย้ำเตือนว่าเขาไม่ได้มีใจพิศวาสเธอเลยแม้แต่น้อย รูปร่างอ้วนท้วนอย่างนี้คงหาสามีไม่ได้
มีหลายครั้งมนลิตาถามหาเหตุผลกับตัวเองว่าทนแต่งงานอยู่กินกับผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร สามปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยให้เกียรติหรือว่าบอกใครเลยว่าตนเองคือเมีย เอาแต่ซ่อนเธอเอาไว้ทั้งที่ทำงานบริษัทเดียวกันต่างกันแค่ตำแหน่งเท่านั้น
เขาคือเจ้าของส่วนเธอคือลูกจ้าง...
“ก๊อก ๆ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในช่วงเวลาเจ็ดโมงเช้าของทุกวันร่างเปื่อยเปล่าก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปหยิบชุดคลุมมาสวมเพื่อปกปิดร่างกายก่อนนะเดินนำไปเปิดประตูให้แม่บ้านซึ่งทำหน้าที่ตัวเองด้วยการมาปลุกเธอทุกเช้า
“มนตื่นแล้วค่ะ ป้ามาลัยลงไปเตรียมวัตถุดิบมื้อเช้าเถอะ เดี๋ยวอีกสิบห้านาทีมนตามลงไปนะคะ”
“ค่ะ”
แม่บ้านวัยทองรีบพยักหน้ารับแล้วเดินกลับลงไปด้านล่าง
บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวย่านใจกลางเมืองหลังขนาดกลาง เธอตกลงกับพี่เวทัศว่าจะแยกตัวออกมาอยู่กันสองคนเพราะไม่อยากให้ญาติผู้ใหญ่มาวุ่นวายเพียงแค่ทั้งคู่ตกลงจะแต่งงานกันมันก็มากเกินพออยู่แล้ว ป้ามาลัยซึ่งเคยเป็นทั้งแม่บ้านและพี่เลี้ยงของเวทัศจึงถูกส่งมาดูแลทั้งคู่นับตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้
มนลิตาเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าจัดการเตรียมชุดทำงานให้กับคนที่ยังคงหลับลึกไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นเมื่อเสร็จแล้วเธอก็เดินหายเข้าไปอาบน้ำและยังคงไม่ลืมบีบยาสีฟันเตรียมไว้ให้กับเขาอีกด้วย
ต่อให้เขาเห็นเธอเป็นแค่เมียในความลับแต่หน้าที่หลักของเธอก็คือดูแลเขาในฐานะภรรยาคนหนึ่งไม่เคยให้ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด
“พี่เวคะ แปดโมงเช้าแล้วค่ะ”
เตียงนอนยุบยวบลงตามน้ำหนักตัว มืออวบเอื้อมไปแตะยังหัวไหล่ของเวทัศแล้วออกแรงเขย่าเบา ๆ ร่างกำยำกระตุกเล็กน้อย เขางัวเงียยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่อิดออด มนลิตาจึงเดินลงไปข้างเพื่อเตรียมมื้อเช้าให้ทันเข้าลงไป
“ป้าเตรียมวัตถุดิบเอาไว้พร้อมแล้วค่ะ” ป้ามาลัยรีบบอก
หญิงสาวยิ้มรับ วางกระเป๋าและอุปกรณ์ทำงานลงบนโต๊ะ ถลกแขนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนขึ้นไว้เหนือศอก สมองประมวลว่าจะเริ่มทำอะไรก่อนเป็นอย่างแรก
‘ประกาศแต่งฟ้าแลบ! รอบสองกับภรรยาคนเก่ากับไฮโซเวทัศ’พาดหัวข่าวหราทุกแพลตฟอร์มและกลายเป็นประเด็นร้อนทุกออนไลน์กับความรักของทั้งคู่ เพราะไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริงและที่สำคัญเจ้าสาวในวันนี้ไม่ใช่ดาราดังหรือผู้หญิงสวยหน้าตาดีรูปร่างสวยเลย เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่มัดหัวใจของชายหนุ่มได้อยู่หมัด“ยินดีด้วยนะ”เสียงแจ้วของกลุ่มก้อนเดิมดังขึ้นนำทีมโดยพี่ท้อปและตามด้วยน้องเล็กของทีมอย่างเจ้าต้น ก่อนหน้านั้นเจอกันแล้วรอบหนึ่งตอนเธอแวะไปแจกซอง พวกเขายังสนุกสนานเฮฮาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเงียบ ๆ เหมือนเดิมแขกที่เชิญมามีแทบทุกวงการทั้งบันเทิง การเมือง และสายนักข่าว แต่คนที่เจ้าสาวรอมากที่สุดคงหนีไม่พ้นผู้ชายสวมสูทสีครีมกำลังเดินมา“พี่ตุลย์ ขอบคุณนะคะที่มา”“ต้องมาอยู่แล้วน้องสาวคนสวยของพี่แต่งงานทั้งที” กำลังจะยกมือขึ้นยีหัวด้วยความเคยชิน แต่คราวนี้มนลิตาหลบทัน“ฮันแน่ ไม่ได้กินหรอก พี่ยังติดยีหัวเหมือนเดิมเลยนะคะ”“นั่นสิ เป็นสัญชาตญาณของมือมั่ง” ทั้งคู่หัวเราะกันคิกคักจนมองไม่เห็นหัวเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ตรงนั้น“อะแฮม”“อ้าว เจ้าบ่าวยืนอยู่ตรงนี้เหรอ นึกว่ารูปปั้
‘ปัง’เสียงกัมปนาทดังขึ้นสนั่นจนหูอื้อเพราะมันอยู่ใกล้แค่ไม่กี่เมตร ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวเขาผลักคนตัวอ้วนไปอีกทางที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาตรงหัวไหล่เขาชำเลืองมองเลือดสีแดงสดกำลังไหลซึมผ่านเสื้อยืดสีขาวผืนบาง ก่อนจะทรุดลงกับพื้น“กรี๊ดดดด พี่เวย์ ๆ”มนลิตาแทบคุมสติไม่อยู่รีบถลาตัวเข้าไปประคองเวทัศเอาไว้พร้อมกับตะโกนบอกคนแถวนั้นให้เรียกรถพยาบาล ชายหนุ่มเห็นอาการคนรักสติกระเจิงจึงจับมืออวบที่กำลังสั่นระริกเพราะความตกใจมากุมไว้“มน ใจ...เย็น ๆ นะพี่ไม่เป็นไร”“ไม่เป็นไรได้ยังไง เลือดออกขนาดนี้” น้ำตาร่วงหล่นลงแก้ม ความกลัววิ่งเข้ามาแทนที เธอไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะบาดเจ็บแต่กลัวว่าเขาจะตาย“พี่ยังไหว แผลแค่นี้เอง” เวทัศพยายามปลอบเธอ แต่นั้นยิ่งทำให้เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นจนพูดแทบไม่เป็นภาษา“พี่เวย์ ห้ามเป็นอะไรนะ นี่เป็นคำสั่ง ไหนว่าอยากอยู่กับมนและลูกไง ถ้าเป็นอย่างนี้มนจะอยู่ยังไง”“พี่จะไม่เป็นไร มนอย่าร้องนะ” เขาบีบมือเธอแน่นขึ้น ไม่นานเท่าไรหูก็ได้ยินเสียงไซเรนดังแว่วมาเจ้าหน้าที่ทำงานเคลื่อนย้ายร่างของเวทัศขึ้นบนเตียง มนลิตากระโดดขึ้นไปบนรถอ้างความเป็นภรรยาทันที รถพยาบ
ในที่สุดวันเวลาของการรอคอยก็มาถึงสักที ทั้งหมดเดินทางมาถึงภูเก็ตด้วยเครื่องบิน พอมาถึงคนของเวทัศก็นำรถมารับถึงสนามบิน“คุณท่านรออยู่ที่โรงแรมแล้วครับ” คนขับรถบอกกับเวทัศแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้ทุกคนนั่ง รถยนต์เคลื่อนตัวตรงไปโรงแรมทันทีโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหาดกะตะบนแนวสันเขาของเกาะบริเวณหน้าโรงแรมเป็นหาดทรายขาวละเอียด มีลักษณะเป็นวงกว้างและมีความโค้ง คลื่นลมสงบ น้ำนิ่งสามารถลงเล่นน้ำได้และที่นี่ยังมีแนวปะการังแปลกตา ยาวไปจนถึงเกาะปู ทำให้เป็นที่ฝึกดำน้ำ และจุดดำน้ำยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามใต้ทะเล“หูววว พ่อขาทะเล” รถเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าโรงแรมเมทิตาชะเง้อคอขึ้นมองแล้วชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยความตื่นเต้นตายายหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหลานแล้วบอกว่าให้รถจากรถก่อนจะได้เห็นชัด ๆ พอก้าวเท้าลงมาคนเป็นย่าก็ยืนรอต้อนรับอยู่แล้วทำให้หนูน้อยลืมน้ำทะเลใสไปเลย“หนูเมย์...”“คุณย่า”ขาสั้นป้อมวิ่งตรงลิ่วไปหาคุณหญิงระย้า แขนเหี่ยวย่นอ้าแขนรับเจ้าตัวเล็กสู่อ้อมกอดแล้วหอมซ้ายหอมขวาเหมือนเคย“คุณย่าขา หนูเมย์ได้นั่งเครื่องบินด้วย บนโน้นมีเมฆ มีนกด้วยค่ะ”เมทิตาเงยหน้าชี้
สองผู้เฒ่านั่งเล่นอยู่ข้างล่างหันมองหน้ากันเชื่อได้เลยไม่นานทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าลูกสาวพวกเขานั้นใจอ่อนตั้งนานแล้วตอนนี้แค่วางฟอร์มเท่านั้น“แม่มนขา พ่อเวย์ขา” น้ำเสียงและท่าทางแบบนั้นมนลิตาพอจะเดาออกว่าลูกสาวต้องอยากได้หรืออยากไปที่ไหนสักที่แน่นอน“อ้อนจะเอาอะไรอีกคะ”“หนูเมย์อยากไปทะเล วันนี้เพื่อนหนูเมย์บอกว่าพ่อกับแม่พาไปทะเลหนูเมย์อยากไปบ้าง” เด็กหญิงทำหน้าอ้อน ๆ ใส่แม่ หันไปกระพริบตาปริบๆกับคนเป็นพ่อก่อนจะวิ่งอ้อมโต๊ะไปสวมกอดตากับยายเพื่อเอาใจมนลิตาแพ้ทางเวลาเมทิตามาอ้อนเพื่อขออะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตามใจเสียทุกเรื่องแต่เพราะลูกสาวเธอไม่เคยไปทะเลเลยตั้งแต่เกิดมากำลังจะอ้าปากพูดผู้ชายนั่งข้างก็เป็นฝ่ายเสนอขึ้นมา“ถ้าอย่างนั้นเราไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัวดีไหมครับ ผมจะได้โทรบอกคุณแม่ด้วย”“ดีค่ะ ไปๆ ไปเที่ยวทะเลกัน” เมทิตาตอบรับแทนทุกคนแล้วชูสองแขนขึ้นกระโดดหมุนตัวไปมารอบโต๊ะกินข้าวเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของลูกกับมนลิตาทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไม่ต้องมานั่งทำหน้าอมทุกข์เหมือนแต่ก่อน“แล้วเราจะไปทะเลที่ไหนล่ะ ประเทศเรามีทะเลตั้งหลายจังหวัด” ตา
ว่ากันว่าคนเราไม่เคยมีใครเป็นพ่อกับแม่มาก่อนทุกคนมาเริ่มต้นนับหนึ่งเมื่อมีลูกคนแรก ต่างลองผิดลองถูกกันมาทั้งนั้นสงสัยมันจะเป็นเรื่องจริง เหมือนกับเขาตอนนี้ที่กำลังฝึกหัดการเป็นพ่อคน คนอื่นโชคดีที่ได้ฝึกเป็นพ่อด้วยการอุ้มลูก เปลี่ยนผ้าอ้อม กล่อมนอน แตกต่างจากเขาตอนนี้ที่กำลังเป็นลูกค้าให้กับช่างแต่งหน้าตัวน้อย“พ่อเวย์สวยที่สุดเลยค่ะ” หนูเมย์ยื่นกระจกให้คนเป็นพ่อดูกับความภาคภูมิใจในการแต่งหน้า เขายิ้มรับให้ลูกแล้วทำท่าตื่นเต้นบนหัวผูกจุกเป็นต้นมะพร้าวสามต้น คิ้วถูกระบายหนาเป็นปลิง เปลือกตาทาด้วยสีฟ้าเข้ม ขนตางอนปัดด้วยมาสคาร่า โหนกแก้มแดงยิ่งกว่าตูดลิง ไฮไลท์ดั้งพุ่งโด่งจนแทบทิ่มตา ตบท้ายด้วยปากสีส้มเข้ากันกับแก้มสุดๆ“เฮ้ออออ” เวทัศพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ“ถอนหายใจทำไมคะ ไม่สวยเหรอ” เด็กหญิงย่นคิ้ว เวทัศรีบฉีกยิ้มเอาใจลูกสาวเพียงคนเดียว“สวยค่ะ แต่พ่อว่ารอบหน้าเราลองลดความเข้มของสีตา แก้มลงกว่านี้ดีไหม มันจะต้องสวยมากกว่านี้แน่เลย เววี่คอนเฟิร์มคร๊า!”เวทัศดีดตัวสะดีดสะดิ้งราวกับว่าตัวเองเป็นเป็นสาวประเภทสอง แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นตรงประตูทางเข้าและที่น่าอับอา
ช่วงหลังเลิกงานเขาเอาแต่นั่งทำอาหารเกาหลีแทบทุกวันเพื่อที่อย่างน้อยมันก็บรรเทาความคิดถึงผู้หญิงตรงหน้าได้บ้าง และวันนี้เขาก็ได้มีโอกาสทำให้เธอได้กินแล้ว“กินสิ เดี๋ยวเย็นหมดนะ” ชายหนุ่มเลื่อนจานจาจังมยอนมาให้มนลิตาหลุดออกมาจากภวังค์ใช้ตะเกียบเหล็กคีบเส้นสีดำเข้าปาก ทันทีที่ลิ้นสัมผัสกับน้ำซอสสีดำดวงตากลมประกายวาววับขึ้นมาทันทีมุมปากของเวทัศหยักโค้งขึ้นแทบจะถึงติ่งหู หาเรื่องคุยกับง้อตั้งนานแทบจะไม่ได้ผลแต่พอทำของโปรดไว้ให้เขากลับเห็นความสดใสบนใบหน้าของเธออีกครั้งชายหนุ่มเท้าคางบนเก้าอี้มองหญิงสาวกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กว่าจะรู้ตัวว่าถูกอีกฝ่ายเฝ้ามองเธอก็กินอาหารไปจนเกือบหมดโดยลืมชวนคนทำกินเสียด้วยซ้ำ“ไม่กินด้วยกันเหรอคะ”“ไม่ล่ะครับ พี่เห็นมนกินได้ก็ดีใจแล้ว”เอื้อมมือไปหยิบทิชชูจากกล่องไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนน้ำซอสสีดำให้แผ่วเบา ดวงตาทั้งคู่สบกันครู่หนึ่งจนเป็นฝ่ายมนลิตาได้สติขึ้นมาก่อน เธอเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วเช็ดปากด้วยตัวเอง“เรื่องที่เราคุยกันเมื่อคืน...”“มนอยากคุยกับพี่เวย์เรื่องนี้พอดีเลยค่ะ”ยังไม่ทันจะบอกจุดประสงค์จบเลยว่าไม่ต้องรีบเขารอได้ ทว่าหญิงสาวก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาเ
Comments