ผ่านไปอีกวัน….
ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย พลางปรับม่านตาให้เข้ากับเเสงที่สาดส่องออกมาจากหน้าต่างกระจกทั้งบาน ที่นี้ที่ไหน? ฉันค่อยๆพยุงร่างของตัวเองลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตา เเต่เมื่อคืนฉันจำได้ว่าพี่นิโครลากฉันขึ้นรถเเล้วขับไปที่ไหนสักเเห่ง เเต่ฉันดันหลับซะก่อน ฉันกวาดมองร่างของเขาเเต่กลับว่างเปล่า ฉันลุกออกจากเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ในตอนนี้ฉันอยากอาบน้ำมากเพราะฉันไม่ได้อาบน้ำตั้งเเต่เมื่อคืนเเล้ว โล่งอกชุดของฉันยังอยู่เหมือนเดิม จากนั้น ฉันก็รีบเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกายทันที ดีหน่อยที่มีเเปรงสีฟันดูเหมือนว่ายังไม่ได้ใช้เลยงั้นเอาอันนี้เเปรงก็เเล้วกัน ส่วนอีกอันหนึ่งพี่นิโครน่าจะเป็นคนใช้เเล้วแน่ๆ ฉันที่อาบน้ำเสร็จแล้ว แต่เสื้อผ่านฉันล่ะ?ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำมีผ้าขนหนูพันรอบอกอวบ จากนั้นฉันก็ถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าออกมีแค่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวดำตามด้วยเสื้อยืดธรรมดาแขนสั้นแขนยาว และมีกางเกงจำลองกางเกงยีนส์สีดำฉันกวาดตามองเรื่อยๆไปจนเห็นบ็อกเซอร์ขาสั้นทั้งตู้นี้ล้วนมีแต่เสื้อผ้าของผู้ชาย ก็เป็นของพี่นิโครเองนั้นแหละ ไม่มีทางเลือกมากนัก ฉันจึงหยิบเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงบ็อกเซอร์สีดำใส่อย่างไม่ได้ขออณุญาติจากเจ้าของเสื้อผ้า ส่วนชุดชั้นในฉันจำเป็นต้องใส่ซ้ำไปก่อน ยกเว้นเเพนตี้นะที่ฉันไม่ใส่ซ้ำอ่ะ เห้อ!อายเเผ่นดินตายเลย ฉันรีบแต่งตัวเพราะฉันต้องหาร่างสูงให้เจออย่างเร็วที่สุด ฉันเดินออกจากห้องนอนหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันที่เดินลงจากบันไดพลางกวาดสายตารอบๆ เป็นบ้านสองชั้นภายในบ้านตกแต่งฟอร์นิเจอร์อย่างสวยงามและสบายตามากๆ ฉันเดินออกมาก็พบกับสระน้ำขนาดใหญ่ตรงหน้าบ้าน ฉันกวาดสายตามองรอบๆเป็นไร่องุ่นทั้งหมด และมีคนงานทำการเก็บเกี่ยวองุ่นใส่เข่งไม้ที่วางไว้ข้างตัว บรรยากาศเย็นสบายบ้านหลังนี้สร้างอยู่บนเนินสูงทำให้มองเห็นไร่องุ่นเขียวขจีมันสบายมากๆเลยล่ะ “ตื่นแล้วเหรอ?” จู่ก็มีเสียงทุ่มพูดจากทางด้านหลังจนฉันสะดุ้งตัวด้วยความตกใจ ฉันหมุนตัวกลับไปมอง เป็นพี่นิโครนั้นเองแต่ว่าเขาหิ้วถุงอะไรมาเยอะแยะขนาดนั้นกัน “หนูอยากกลับบ้าน พาหนูกลับเดี๋ยวนี้เลย” ฉันจำใจต้องพูดกับคนตรงหน้าสุดแสนจะเย็นชา เขาจ้องมองฉันอย่างไม่ล่ะสายตา “ได้ยินรึเปล่าค่ะ หนูอยากกลับบ้าน” ฉันถอนหายใจหนักๆ พร้อมพูดย้ำอีกครั้งที่เห็นว่าพี่นิโครมั่วแต่เงียบไม่ตอบกลับมาสักที “นี่ไงบ้านของเรา คืนดีกับพี่ได้ไหม” “ทำไมต้องคือดีค่ะ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน…เมื่อก่อนเป็นแค่คู่หมั้นแต่ตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันอีกแล้วค่ะ” ภายในใจฉันตอนนี้กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่ฉันพูดออกไป มันทั้งตื่นเต้นหัวใจเต้นถี่รัวอย่างบ้าคลั่ง ฉันไม่เคยพูดกับพี่นิโครหลายประโยคแบบนี้มาก่อนเลย เเต่ฉันไม่คืนดีง่ายๆหรอกนะถึงแม้ว่าฉันรู้สึกดีใจที่เขาง้อฉันแบบนี้ก็เถอะ ใจแข็งไว้เพทาย… “พี่ออกไปซื้อเสื้อผ้ากับชุดชั้นในให้เธอมา พี่ส่งผ้าซักร้านหมดแล้วใส่ได้เลย อืมเราต้องอยู่ที่นี้อีกยาว…พี่ไม่ให้เธอกลับ” พูดจบเขาก็หิ้วของทั้งหมดเข้าไปในบ้าน ฉันก็รีบเดินตามร่างสูงไปติดๆเพราะอยากเปลี่ยนชุดชั้นในเต็มทีแล้ว ฉันเดินตามพี่นิโครเข้ามาในห้องพร้อมปิดประตูลง “เอ่อ…ชุดชั้นในของหนูล่ะค่ะ” ฉันพูดเสียงเบาๆ รู้สึกอายที่เขาไปซื้อเสื้อผ้ารวมถึงชุดชั้นในด้วยเนี่ยสิ “เข้ามาเอาสิ” เขาเดินไปเอาถุงผ้าไปวางที่โต๊ะสำหรับวางของตรงข้ามกับเตียงนอน ฉันที่เห็นดังนั้นก็เดินไปหยิบถุงผ้า แต่ทว่า... “หนึ่งชิ้นแลกหนึ่งจูบ” “นี่พี่…” “ถ้าไม่จูบก็คืนดีกับพี่ก่อนสิ” จุ๊ปจุ๊ป!!! ฉันชั่งใจอยู่แป๊บหนึ่ง จากนั้นก็คว้าต้นคอเขาให้ก้มลงต่ำพร้อมจูบปากติดกันสองครั้งติด โดยที่ร่างสูงไม่ได้ทันตั้งตัวเพราะฉันต้องการชุดชั้นในชิ้นบนชิ้นล่างไงล่ะ ฝันไปเถอะว่าฉันจะคือดีกับเขาง่ายๆหึ ฉันรีบมองหาถุงชุดชั้นใน พอเจอฉันก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที ฉันมองไปยังกระจกแก้มทั้งสองข้างแดงปรั่ง ฉันยกมือลูบเเก้มอย่างรู้สึกเขินอายที่ฉันได้จูบปากเขาไปเมื่อครู่นี้ เขาไม่เคยพูดจาแบบนี้มาก่อนเลยนะ เหมือนว่าเขากำลังจะจีบฉันเลยอ่ะ ฉันไล่ความคิดให้ออกไปแล้วรีบจัดการกับร่างกายของตัวเองให้เสร็จไวๆ เพราะท้องฉันมันเริ่มหิวแล้วตอนนี้ “พี่นิโคร หนูหิวข้าวแล้วอ่ะ” ฉันเดินจากออกห้องน้ำ ก็เห็นพี่นิโครกำลังเอาเสื้อผ้าฉันทั้งหมดที่เขาซื้อมาแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าที่ฉันได้เปิดก่อนหน้านี้ “อืม ไปกันเถอะแม่บ้านทำอาหารไว้แล้ว” โห้อาหารน่ากินทั้งนั้นเลยอ่ะ และเป็นอาหารโปรดของฉันเกือบทุกอย่างเลย “ของโปรดของเธอไม่ใช่เหรอ? กินเยอะๆสิ” เขารู้ได้ยังไงกันล่ะ มีแค่คนในครอบครัวของฉันที่รู้กับเพื่อนของฉันที่รู้ยัยเอวากับยัยน่ารัก เขาต้องไปถามใครสักคนแน่ๆเลย ทีเมื่อก่อนไม่เคยจะสนใจใส่ใจอะไรฉันเลย นิ่งเงียบไม่พูดกับฉันไม่เคยถามฉันก่อน มีแค่ฉันที่ถามไถ่เขาทุกอย่างตอบบ้างไม่ตอบบ้าง จะให้ฉันหายโกรธเขาง่ายๆยังไงกันคิดดูสิ ที่น่าโมโหมากที่สุดคือทิ้งฉันให้อยู่บ้านคนเดียวโดยไม่รู้เลยว่าฉันเสียความรู้สึกมากแค่ไหน เราทั้งสองคนก็ทานอาหารอย่างเงียบๆ ในหัวก็คิดเรื่องเขาเรื่อยเปื่อยแต่ภายในใจฉันเริ่มดีใจยังไงก็ไม่รู้ ฉันไม่เคยเห็นเขามุมนี้มาก่อนเลย เขาเริ่มพูดเยอะหลายเท่า สิ่งไหนที่ฉันไม่เคยเห็นเขาทำกลับได้เห็น พ่อคนเย็นชา…ไม่คิดจะมีมุมน่ารักๆซื้อเสื้อผ้า เอาชุดแขวนใส่ตู้ให้ด้วย แต่ก็รู้หรอกว่าที่เขาทำไปเพราะง้อฉันต่างหากล่ะชิ! “นายครับๆ” ฉันกับพี่นิโครที่ทานอาหารเสร็จพอดี ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งหาท่าทีร้อนร้อนใจ ชายคนนี้แต่งชุดคนสวนน่าจะเป็นคนงานในไร่นี้ เป็นไร่ของพี่นิโครเองเหรอ?ฉันได้ยินเขาเรียกพี่นิโครว่า นาย? “อะไร” เขาพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมมีสีหน้าเคร่งขรึม ต่างจากเมื่อครู่นี้ที่คุยกับฉัน “คือผมอยากขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อนได้ไม่ครับ เมียผมป่วยครับ” เขาที่ได้ยินดังนั้นก็ล้วงกระเป๋าหนังราคาแพง พร้อมหยิบแบงค์พันส่งไปให้หลายสิบใบ “เอ่อ…เงินทั้งหมดนี่ มันเยอะกว่าเงินเดือนผมอีกนะครับ” “มึงเอาไปเถอะ” “ขอบคุณนะครับนาย” จากนั้นคนงานคนนั้นออกรีบออกไป ฉันเผลอมองไปยังใบหน้าหล่อเหล่านั้นอย่างปลื้มใจ อย่างน้อยเขาก็ไม่ละเลยลูกน้องของตัวเอง “มองแบบนี้ กินพี่เลยก็ได้นะพี่ไม่ว่า’’ ฉันเผลอมองหน้าเขาอย่างลืมตัว ฉันกลืนน้ำลายลงคอพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น นี่เขาปากหวานขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกัน เมื่อครู่นี้ที่พูดกับคนงาน นั้นแหละนิสัยพี่นิโครเลยผ่านไปหลายเดือน....ณ โรงพยาบาลตอนนี้ผมกับเพทายรีบมาตามที่ไอ้เเวมไพร์ได้โทรบอกว่า น้องน่ารักกำลังจะคลอดลูก ก็เห็นไอ้เเวมไพร์กับไอ้วายุเเละน้องเอวาที่นั่งรออยู่หน้าห้องคลอดก่อนหน้านี้เเล้ว"ขอให้ผ่าคลอดปลอยภัยทั้งเเม่ทั้งลูกด้วยเถอะ"ผมเดินมาถึงตัวไอ้เเวมไพร์ก็ได้ยินมันขอพรออกมา ส่วนเพทายก็เดินปรี่ไปนั่งลงข้างๆน้องเอวา"มึงไม่ต้อวห่วงหรอกหมอที่นี้เก่งทุกคนอยู่เเล้ว"ผมพูดพร้อมเเตะบ่าอย่างให้กำลังใจมัน เพราะการผ่าตัดมันก็น่ากลัวจริงนั้นเเหละครับ"อีกไม่นานฉันก็จะเกิดลูกเเล้ว ฉันกลัวจังเลยอ่ะ"ตอนนี้อายุครรภ์ของเพทายใกล้เจ็ดเดือนเเล้วล่ะครับ ผมอยากจะบอกว่าผมได้ลูกสาวครับ โคตรดีใจสุดๆเลย"เเกอย่าพึ่งกลัวตอนนี้สิ ไม่ดีต่อลูกห้ามเครียดหรือคิดมากเป็นอันขาดเข้าใจไหม"เสียงน้องเอวาพูดเตือนสติเพทายอย่างเป็นห่วง ผมที่เห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปนั่งข้างเพทายพร้อมปลอบโยนเธอฟืดดดด~"คุณหมอเมียผมกับลูกผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ!"ไอ้เเวมไพร์เดินเข้าไปพร้อมถามหมออย่างร้อนเมื่อหมอเปิดประตูมา"ปลอดภัยทั้งเเม่ทั้งลูกเลยนะครับ ลูกคุณทั้งสองคนเเข็งเเรงดีมากครับ ตอนนี้จะทำการย้านคุณเเม่ไปยังห้องพิเศษ ส่วนลูกทางพย
สองวันผ่านไป....ฉันอาบน้ำเเต่งตัวออกจากคอนโดของพี่นิโครเเละตอนนี้ฉันกับพี่นิโครก็มาถึงไร่องุ่นตั้งเเต่เช้าตรู่ ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย ฉันก็งงเหมือนกันว่าทำไมพี่นิโครต้องรีบมาที่ไร่ขนาดนั้นด้วย เขาเเค่ให้เหตุผลว่ามีธุระด่วนสุดๆกับพี่เรียว เเต่ทำไมเขาต้องพาฉันมาที่บ้านพี่เรียวด้วยล่ะ เเละตอนนี้ฉันก็อยู่กับวิเวียนสองคนในห้องนอนที่ไว้สำรับเเขกโดยเฉพาะ ตัวของพี่นิโครเองก็ไปไหนกับพี่เรียวก็ไม่รู้เหมือนกันหายไปกับกลีบเมฆเลย ทิ้งฉันไว้ให้อยู่กับวิเวียนเนี่ย"พี่เพทายจ้ะ...เอ่อคือ..."วิเวียนพูดอ้ำอึ้งอยู่ ฉันที่นั้งครุ่นคิดเรื่องพี่นิโคร ก็รีบหันหน้าไปมองหน้าวิเวียนอย่างอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไรกับฉันหรือเกี่ยวกับพี่นิโครหรือเปล่า"มีอะไรเหรอจ้ะวิเวียน พูดมาเถอะพี่รอฟังอยู่""คืองี้จ๊ะ วันนี้เป็นวันเกิดของหนูเอง หนูจึงขอพี่นิโครจัดงานเลี้ยงในไร่องุ่นนะจ้ะ"อ๋อวันเกิดวิเวียนเองเหรอ เเล้วทำไมเธอถึงพูดอำอึ่งไม่กล้าบอกฉันด้วยล่ะ?"สุขสันต์วันเกิดด้วยนะจ๊ะวิเวียนมีความสุขมากๆล่ะ^^"ฉันก็รีบอวยพรวันเกิดให้เธอ เธอก็ยิ้มรับออกมาเเต่แววตาของวิเวียนเหมือนยังมีอะไรซ่อนอยู่"วันนี้เป็นวันเกิดของหนู หนูอยากข
ณ บ้านเเวมไพร์ตอนนี้ผมได้พายัยตัวเล็กมาเที่ยวบ้านไอ้เเวมไพร์ตามคำขอ เเละก็ได้ปล่อยให้เธอไปพูดคุยกับน้องเอวากับน้องน่ารักอีกมุมหนึ่ง ส่วนผมเเละไอ้วายุกับไอ้เเวมไพร์ก็นั่งคุยกันที่โต๊ะตรงสวนหลังบ้าน"กูบอกพวกมึงก่อนก็เเล้วกัน อีกสามวันกูจะเเต่งงานกับเพทายที่ไร่ พวกมึงมาร่วมงานด้วยล่ะ"ผมตัดสินใจบอกพวกมันสองคนไป โดยที่ผมมานอนคอนโดนี้เพื่อกะเซอร์ไพรซ์เธอเลย ผมให้ไอ้เรียวกับวิเวียนช่วยจัดสถานที่เเต่งงานเเล้วด้วย เเละได้เลือกชุดเเต่งงานให้เธอหมดทุกอย่าง รอเเค่เธอเเต่งงานกับผมเเค่อย่างเดียวพอ เรื่องอื่นๆผมได้จัดการไว้หมดเเล้ว ส่วนพ่อเเม่ของผมเเละของเพทายก็รู้หมดทุกคนเเล้ว พวกท่านทั้งสี่คนตอนนี้ได้อยู่ที่ไร่เป็นที่เรียบร้อยเพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนเเขกก็ไม่เยอะหรอกนะครับมีก็เเค่คนใหญ่คนโต หัวหน้ามาเฟียด้วยกันทั้งนั้นที่ผมได้เชิญไป งานเเต่งจัดขึ้นอย่างเงียบๆโดยที่เพทายไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย "ยินดีด้วยวะไอ้นิโคร"ไอ้เเวมไพร์พูดเเล้วมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มเเละด้วยความยินดี"จริงเหรอยินดีด้วยนะไอ้นิโคร ส่วนกูเเต่งงานหลังมึงเเค่สองวันเองวะ กูต้องรีบเอาลูกให้ทันพวกมึงหึๆๆ"ไอ้วายุพูดอย่างชอบใจ เเสดงว
ณ คอนโดนิโคร"จะ...จริงเหรอค่ะ เป็นรุ่นพี่เตชินที่พยามไล่ยิงพี่นิโครเองเหรอค่ะพี่เเวมไพร์"เพทายอึ้งในคำพูดของไอ้เเวมไพร์ที่เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นจนจบ เเต่มันดันถูกไอ้วายุยิงตายไปเมื่อวันนั้นเเล้วเหมือนกันเเละเป็นตอนที่ผมสลบไป "ครับพี่ไปสืบหมดเเล้ว ที่มันได้ทำตัวกร่างเพราะมันเป็นลูกนักการเมืองที่มีอำนาจนิดหน่อยครับ""กูขอบคุณพวกมึงมากเลยนะเว้ย ถ้าพวกมึงช่วยกูไม่ทัน มันคงเป่ากระบาลกูตายไปเเล้ว"ถ้าไม่ได้ไอ้วายุกับไอ้แวมไพร์มาช่วยผมคงตายไปเเล้วจริงๆ อย่างน้อยมันก็ได้ตายจากโลกนี้ไป แต่ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่อีกล่ะก็ ผมคงไม่ไว้ชีวิตมันเเน่นอน "ไม่เป็นไรมึง เพราะพวกเราไม่ทิ้งกันอยู่เเล้วเว้ย""อืม…พวกเราไม่ทิ้งกันอย่างที่ไอ้วายุบอกนั้นเเหละ""งั้นชนเเก้วกันเว้ย!"ไอ้วายุพูดพร้อมยื่นเเก้วเหล้าออกมาตรงหน้า จากนั้นพวกเราก็กระดกดื่มจนหมดเเก้วโดยมีเพทายนั้งตักผมอยู่ด้วย ส่วนไอ้วายุก็มีน้องเอวานั้งตักอยู่เหมือนกัน มีเเต่ไอ้เเวมไพร์ที่ไม่ได้พาเมียมาเพราะคิดว่าไปนัดเจอพวกเราที่ผับ ไอ้เเวมไพร์เองก็ไม่กล้าพาน้องน่ารักไปในที่เเบบนั้นเหมือนกันกับผมนั้นล่ะครับ เหตุผลก็คือเมียท้องเคร้ง!!!เ
ณ คอนโดนิโครตอนนี้ผมได้กลับมายังคอนโดของตัวเอง เพราะผมมีเรื่องอยากจะถามไอ้เเวมไพร์กับไอ้นิโครที่ผมเกิดเหตุในวันนั้น เมื่อคืนผมนอนคิดเเล้วว่าก่อนหน้านั้นผมได้โทรหาไอ้เเวมไพร์ ผมก็เเค่อยากรู้ว่าไอ้เวรนั้นมันคือคนๆเดียวกันหรือเปล่า ผมอยากได้คำตอบที่เเน่ชัดเเละที่สำคัญที่สุดคืออยากรู้ว่ามันตายหรือว่าอยู่ ถ้ามันตายล่ะก็ผมไม่ต้องเปลืองเเรง เเต่ถ้ามันยังอยู่ผมนี่เเหละจะฆ่ามันด้วยน้ำมือของผมเอง"เพทายคืนนี้พี่จะเข้าผับไปคุยธุระสำคัญกับไอ้พวกนี้หน่อย เเล้วพี่จะรีบกลับมานะครับ""ไม่เอา~ให้หนูไปด้วยได้ไหมคะน้าาา~"งานเข้าเเล้วไงกู!เอาไงดีวะยิ่งอ้อนซ่ะจนผมอยากลากเธอขึ้นเตียงเเล้วจับเย..ให้เข็ด ถ้าไม่ติดว่าท้องลูกนะผมคงใส่เต็มเเม็กไปเเล้วล่ะครับ "เธอท้องอยู่ด้วยนะ พี่ไม่อยากให้เธอไปในที่เเบบนั้นเลยมันไม่ดีนะครับ"ความเป็นจริงเเล้วมันเป็นพื้นที่อันตรายกับคนท้องด้วยไง เสียงเพลง ควันบุรี่ อีกอย่างกว่าจะได้กลับคอนโดมันก็ดึกด้วยไง ผมอยากให้เธอนอนพักผ่อนมากว่าครับ"เเต่หนูอยากไปนิค่ะ อยากไปเที่ยวด้วยอ่ะ"เพทายเริ่มมีสีหน้างอนอย่างจริงจัง "อย่าดื้อได้ไหม?"ถึงยังไงผมก็พาเธอไม่ได้อยู่ดีมันอันตรายเกินไ
หลายวันผ่านไป...ตอนนี้อาการผมดีขึ้นมากเเล้ว เเผลที่ศรีษะก็หายดีเเล้วด้วย...เเต่ยังอีกบางอย่างคือ...ผมจำอะไรไม่ได้เลย เเต่ทุกคนที่มาดูผมนั้นล้วนคุ้นหน้าคุ้นตาไปหมดทุกคน ผมคิดยังไงก็คิดไม่ออกสักที บางครั้งคิดไปมากๆผมก็เริ่มปวดศีรษะเลยต้องหยุดคิดไป ส่วนเพทายเธอเป็นเมียของผมจริงๆนั้นเเหละครับเพราะผมรู้สึกผูกพันกับเธอ หัวใจเต้นเเรงมากเมื่อตอนลืมตาเห็นใบหน้าของเธอครั้งเเรกที่ผมฟื้นตัวขึ้นมา หลายวันที่ผ่านมาเธอดูเเลผมดีมากๆไม่ออกห่างจากผมเเม้เเต่น้อย ผมอยากจำเธอไห้เร็วๆจังเพราะผมกลัวว่าคำบางคำที่ผมพูดไปนั้นจะทำให้เธอเสียใจหรือเปล่า "โอ๊ย!!!""พี่นิโคร!เป็นอะไรหรือเปล่า"เพทายที่กำลังยืนกวาดขยะอยู่ก็รีบวิ่งเข้ามาที่ผมอย่างตกใจ เมื่อเธอเห็นภาพผมกำลังกุมขมับอยู่จู่ๆอาการปวดศีรษะก็ปวดขึ้นมาอย่างรุนเเรง เเละก็เริ่มมีเหตุการณ์ที่ผ่านนั้นเกิดขึ้นเข้ามาในหัวอย่างซับซ้อน"อ้าวเฮ้ย!ไอ้นิโคร ปวดหัวใช่ไหมเเกต้องรีบผ่อนคลายทำให้สมองโล่งๆอย่างพึ่งคิดอะไรเด็ดขาดไม่อย่างนั้นอาการก็จะเริ่มรุนเเรงมาขึ้น"ไอ้เรียวที่กำลังเดินเข้ามาก็เห็นผมที่นั้งปวดศีรษะอยู่โซฟาพอดีจึงรีบเดินเข้ามาหา ผมก็รีบทำอย่างที่มันพู