1เดือนผ่านไป….
วันนี้เป็นวันแต่งงานไอ้แวมไพร์กับน้องน่ารัก ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวกับไอ้วายุสองคน ผมแสดงความยินดีทั้งสองคนที่ได้ครองรักกันอย่างสมบูรณ์เเบบ แต่ผมเองกลับง้อเพทายไม่สำเร็จสักที…ผมต้องทำยังไงดีครับ ผมอยากง้อเก่งๆเหมือนกับคนอื่นๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น ผมได้ไปเสร์ชหาวิธีคำง้อต่างๆ เป็นแฟนกันต้องทำยังไงบ้าง สิ่งเหล่านี้ผมได้ไปศึกษาอ่านมาหมดทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรู้จักใส่ใจ เอาใจ รู้จักง้อแฟน ผมอยากขอแก้ตัวกับเพทายอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เธออยู่ในชุดราตรีสีชมพูสวยมาก แต่ชุดเธอสั้นไปหน่อยจึงเริ่มหงุดหงิดใจ ทุกการกระทำของเธอ อยู่ในสายตาผมทุกนาที ผมแทบไม่อยากมองคนอื่นเลยนอกจากกเพทายเมียของผม… “แขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้วนะครับทุกท่าน” เสียงพิธีกรกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการอยู่บนเวที ผมละสายตาจากร่างเพทายมองไปยังบนเวที แขกในงานล้วนมีแต่คนมาฐานะรวย รวมถึงหัวหน้ามาเฟียผู้มีอิทธิพล ร่วมมาแสดงความยินดีกับไอ้แวมไพร์ด้วย ลืมบอกไปว่าพวกเราเป็นหัวหน้ามาเฟียดั้งเดิมที่สืบทอดมาจนถึงรุ่นลูก “ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีนี้ด้วยครับ” ผมมองไอ้พี่แวมไพร์จับมือน้องน่ารักขึ้นสู่บนเวที พลางยกยิ้มมุมปากที่เห็นใบหน้าไอ้แวมไพร์ล้วนมีแต่ความสุข “ลำดับต่อไปขอให้ทุกคนมาร่วมเป็นสักขีพยาน ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวคำกล่าวคำปฏิญาณรักทั้งสองฝ่ายครับ” เเปะๆๆๆๆ สิ้นเสียงพิธีกร ผมก็ตบมือให้แก่คู่บ่าวสาว ทุกคนในงานก็ร่วมตบมือด้วยเช่นกัน “กูเห็นไอ้แวมไพร์ยิ้มมากที่สุด ก็วันนี้ล่ะวะ” ไอ้วายุที่ยืนอยู่ข้างผมก็พูดขึ้น มันก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเหมือนกัน “อืม…เห็นเพื่อนมีความสุข กูก็มีความสุขเหมือนกัน” ผมพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก ดีใจกับมันจริงๆที่ได้เจอผู้หญิงที่มันรัก ผมละสายตา เลือบมองไปยังเพทายที่ยืนจากผมไม่ไกลมากนัก ผมรู้สึกว่าเธอกำลังแอบมองผมอยู่….ใช่จริงด้วย ขณะที่ผมซัดสายตาไปหา เธอก็มีท่าทีเลิ่กลั่กพลางหลบสายตาอย่างรวดเร็ว แล้วมองไปยังน้องน่ารักกับไอ้แวมไพร์ที่ยืนอยู่บนเวที ผมยกยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดูเธอ "ผมไม่นึกว่าชีวิตนี้ผมจะได้เจอเธออีกครั้ง เธอเป็นรักเเรกพบของผม ผมไม่เคยรู้สึกใจสั่นตอนพบหน้าผู้หญิงเลยสักคน ผมคิดว่าใจผมคงด้านชากับเรื่องเหล่านี้...เเต่เปล่าเลย หัวใจผมเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะเมื่อผมเห็นหน้าน่ารักเป็นครั้งเเรก เธอเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักความรักในครั้งนี้ ตอนที่เราทะเลาะกัน มันทำให้ผมรู้ใจตัวเองว่าผมอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีเธอ...น่ารัก…ต่อจากนี้ไปทั้งชีวิตเธอเป็นของฉันเเค่คนเดียวไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุข ฉันอยากให้เธอจับมือฉันไว้เเน่นๆห้ามปล่อยฉันเป็นอันขาด เเละฉันจะสัญญาด้วยชีวิตของฉันว่าจะดูเเลเธอไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตายจากกัน ฉันรักเธอ~" ผมยืนฟังสิ่งที่ไอ้แวมไพร์พูด มันทำให้ผมรู้สึกผิดกับเพทาย...ที่ผ่านมาผมไม่เคยได้พูดคุยเเละไม่ได้ใส่ใจอะไรเธอเลย… "หนูไม่คิดว่า...ลูกที่ไม่มีพ่อมีเเม่เหมือนกับคนอื่นๆ...จะโชคดีได้สามีที่ดีและรักหนูมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาหนูไม่รู้ว่าหนูตกหลุมรักพี่เเวมไพร์ไปได้ยังไง พี่เเวมไพร์ชอบด่าทั้งดุเเละทำหนูเสียใจบ่อยมาก จนวันเวลาผ่านไปพี่เเวมไพร์กลับเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน พี่เเวมไพร์ปรับตัวเข้าหากับหนูได้ดีมาก จากคนใจร้อนก็กลายเป็นคนใจเย็น จากคนพูดจาหยาบคายกลายเป็นคนพูดเพราะซึ้งกินใจ...หนูตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกพี่มาเป็นเจ้าบ่าวของหนู…พี่แวมไพร์ค่ะ...ทั้งชีวิตนี้หนูขอสัญญาว่าจะเป็นภรรยาที่ดี ร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรหนูสัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือพี่เเวมไพร์เด็ดขาด ขอบคุณที่รักคนอย่างหนูนะคะ หนูรักพี่เเวมไพร์เท่าชีวิตของหนูเหมือนกันค่ะ " น้องน่ารักพูดจบ ไอ้เเวมไพร์ก็คว้าร่างของน้องน่ารักไปจูบท่ามกลางผู้คนที่ยืนมองอยู่ ผมมองดูก็อิจฉามันนะครับที่ได้แต่งงานสมหวังคนแรกในกลุ่ม เเปะๆๆๆๆๆๆๆ หู้ยๆๆอร๊ายยยย ผมตบมือขึ้นพร้อมกับทุกคนในงานและเสียงโห้เเซวกันดังลั่น "คนไหนที่ยังโสดหรือคนไหนที่ยังไม่เเต่งงาน รีบมารับดอกไม้กันนะคะ" หลักจากที่ไอ้แวมไพร์ถอนจูบออก น้องน่ารักก็รีบพูดประกาศทางไมค์ ผมมองไปยังน้องเอวาที่ฉุดกระชากลากดึงเพทายให้ออกไปรับดอกไม้ เธอขืนตัวแต่ก็ต้องยอมแพ้ให้น้องเอวาที่ลากดึงจนอยู่หน้าเวทีอย่างสำเร็จ ผมยิ้มออกมาให้กับความน่ารักของเธอ ขอให้เพทายรับช่อดอกไม้ให้ได้ทีเถอะ… “นี่เมียกูไม่อยากแต่งงานเลยเนอะ หึๆๆ” ไอ้วายุที่มองไปยังน้องเอวา ที่แหกปากร้องลั่นว่าเธอต้องได้ช่อดอกไม้ ทำให้ทุกคนในงานหัวเราะกันดังลั่น “หึ” ผมแค้นหัวเราะออกมาเท่านั้น แล้วยืนมองเพทายอย่างไม่ละสายตา ต่อให้เธอไม่ได้ช่อดอกไม้นั้น ผมก็พร้อมที่จะขอเธอแต่งงานอยู่ดี "จะโยนเเล้วนะคะ 1!2!....3!!!" สิ้นเสียงน้องน่ารักก็โยนช่อดอกไม้ออกไป ผมหันไปมองช่อดอกไม้ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศเเละตรงมาที่ผมยืนอยู่กับไอ้วายุ ผมที่เห็นเเบบนั้นก็รีบจับช่อดอกไม้ทันที ทำให้สายตาทุกคนมาหยุดอยู่ที่ผมเพียงผู้เดียว ผมเห็นว่าช่อดอกไม้อยู่ในมือของผมแล้วเลยใช้โอกาศนี้ เดินเเหวกผู้คนไปยังเพทายที่ยืนอยู่ ทุกคนในงานนี้ก็มองดูอย่างลุ้นๆไปตามกัน พอถึงหน้าเพทายผมก็คุกเข่าลงตรงหน้าของเธอ พร้อมยื่นช่อดอกไม้ที่รับได้จากเมื่อครู่นี้ส่งไปให้เธอ "เเต่งงานกับพี่นะเทพาย" เสี่ยงทุ่มนุ่มๆที่ไม่เคยได้พูดออกมาก่อน แต่ผมพูดตามความรู้สึกล้วนๆที่มี "เเต่งเลยๆๆๆ" น้องเอวาที่ยืนอยู่ข้างๆเพทายก็ส่งเสียงร้องเชียร์ออกมาเป็นคนแรก "เเต่งเลยๆๆๆๆ" ส่วนน้องน่ารักก็พูดออกทางเสียงไมค์เหมือนกัน ทำให้ทุกคนในงานก็เริ่มส่งเสียงร้องเชียร์ตามๆขึ้น เเต่งเลยๆๆๆๆๆ "ค่ะหนูเเต่ง" เพทายพูดพร้อมรับช่อดอกไม้จากในมือของผมไป ผมลุกขึ้นก็รีบดึงเธอเข้าไปกอดอย่างดีใจ หัวใจของผมเต้นอย่างรั่วๆ ผมลุ้นคำตอบเธอจนเหงื่อแตกตามกรอบหน้า วุ้ๆๆๆกรี๊ดดดๆๆๆ ทุกคนที่ลุ้นอยู่ก็ร้องอย่างดีใจไม่ต่างจากผม 3ชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดงานเเต่งงานในค่ำคืนนี้ก็ได้เป็นอันจบลงอย่างสมบูรณ์ เเขกทุกคนก็เเยกย้ายกันกลับหมดเหลือเเค่พวกเราที่นั่งคุยเรื่องต่างๆและดื่มเหล้ากันอย่างสนุกสนานจนเกือบตี1 "พี่นิโครค่ะ ที่หนูตอบตกลงเเต่งงานไป หนูเเค่ไม่อยากให้พี่นิโครต้องผิดหวังต่อหน้าคนอื่นนะคะ ความเป็นจริงเเล้ว…หนูไม่คิดจะเเต่งงานกับพี่นิโครเลยค่ะ" ผมที่นั่งพูดคุยกับไอ้แวมไพร์เเละไอ้วายุอย่างขำๆ ในใจมีความสุขล้นที่เพทายตอบตกลงแต่งงานกับผม เป็นอันต้องจบลงเพียงเพราะเพทายเอ่ยคำพูดออกมา สิ้นเสียงเพทายพูดจบเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ทุกคนบนโต๊ะเงียบหมดทุกคน "หึ...เธอเป็นเมียพี่ พี่ไม่ยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด" ผมแสยะยิ้มออกมา พร้อมพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งจ้องมองไปยังใบหน้าของเพทายที่มั่วเอาเเต่หลบสายตาผม ผมไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด ไม่ปล่อยเธอไปไหนอีกแล้วเธอต้องแต่งงานและอยู่กับผมตลอดไป "พี่ไม่สิทธิ์ในตัวหนู ตั้งเเต่หนูถอนหมั้นพี่นิโครเเล้วค่ะ" "ได้...พี่จะทำให้มีสิทธิ์ในตัวเธอเองเพทาย" "พี่จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยหนูนะ หนูบอกให้ปล่อยหนูไง" สติผมขาดกระเจิง ผมลุกขึ้นและก้าวเดินไปยังเพทายที่นั่งตรงข้ามกับผม พร้อมฉุดร่างของเธอให้ลุกขึ้นมาผมมา โดยไม่สนสายตาเพื่อนๆที่มองมาสักนิด ผมฉุดให้เธอเดินตามผมมา จนถึงรถหรูที่จอดอยู่หน้าโรงแรม "ปล่อยหนูนะ หนูบอกให้ปล่อยหนูไง ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ!!" "ให้พี่ปล่อยตรงไหนดีล่ะ ปล่อยนอก ปล่อยใน หรือปล่อยในปากของเธอ..." เธอพยามแกะมือผมออกเป็นอันต้องหยุดนิ่งพร้อมอ้าปากค้างเบิกตาโต ที่ได้ยินประโยคที่ผมพูดออกไปเมื่อครู่นี้ ผมจึงรีบดันร่างเธอเข้าไปในรถ ข้างเบาะคนขับทันที “ถ้าเธอประตูลงมา ฉันจะจับกระเเทกเธอในรถและตรงนี้ด้วย ลองดูสิ..” ผมชี้นิ้วอย่างออกคำสั่ง เพราะเห็นว่าเธอจะลงออกจากรถ เธอที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็เม้มแน่นและนั้งอย่างเงียบๆไม่กล้าพูดออกมา ผมรีบปิดประตูรถฝั่งเธอ แล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งพลางสอดตัวเข้ามายังในรถ และขับรถออกมาจากโรงเเรมอย่างเร็ว “พี่นิโครจะพาหนูไปไหนค่ะ” เพทายรีบถามขึ้นเพราะเส้นทางที่ผมขับนั้นไม่ได้คุ้นตาเธอเท่าไรนัก ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ต่อให้เธอพยามถามผมเท่าไรผมก็เงียบใส่เธอตลอด จนเธอผล็อยหลับไปในที่สุด ผมชะลอรถหักพวงมาลัยเทียบฟุตบาท และถอดเสื้อสูทตัวนอกออกมา เอาไปคลุ่มร่างของเธอที่นอนหลับอย่างสนิท จากนั้นผมก็เคลื่อนรถออกไปในทันที…ผ่านไปหลายเดือน....ณ โรงพยาบาลตอนนี้ผมกับเพทายรีบมาตามที่ไอ้เเวมไพร์ได้โทรบอกว่า น้องน่ารักกำลังจะคลอดลูก ก็เห็นไอ้เเวมไพร์กับไอ้วายุเเละน้องเอวาที่นั่งรออยู่หน้าห้องคลอดก่อนหน้านี้เเล้ว"ขอให้ผ่าคลอดปลอยภัยทั้งเเม่ทั้งลูกด้วยเถอะ"ผมเดินมาถึงตัวไอ้เเวมไพร์ก็ได้ยินมันขอพรออกมา ส่วนเพทายก็เดินปรี่ไปนั่งลงข้างๆน้องเอวา"มึงไม่ต้อวห่วงหรอกหมอที่นี้เก่งทุกคนอยู่เเล้ว"ผมพูดพร้อมเเตะบ่าอย่างให้กำลังใจมัน เพราะการผ่าตัดมันก็น่ากลัวจริงนั้นเเหละครับ"อีกไม่นานฉันก็จะเกิดลูกเเล้ว ฉันกลัวจังเลยอ่ะ"ตอนนี้อายุครรภ์ของเพทายใกล้เจ็ดเดือนเเล้วล่ะครับ ผมอยากจะบอกว่าผมได้ลูกสาวครับ โคตรดีใจสุดๆเลย"เเกอย่าพึ่งกลัวตอนนี้สิ ไม่ดีต่อลูกห้ามเครียดหรือคิดมากเป็นอันขาดเข้าใจไหม"เสียงน้องเอวาพูดเตือนสติเพทายอย่างเป็นห่วง ผมที่เห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปนั่งข้างเพทายพร้อมปลอบโยนเธอฟืดดดด~"คุณหมอเมียผมกับลูกผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ!"ไอ้เเวมไพร์เดินเข้าไปพร้อมถามหมออย่างร้อนเมื่อหมอเปิดประตูมา"ปลอดภัยทั้งเเม่ทั้งลูกเลยนะครับ ลูกคุณทั้งสองคนเเข็งเเรงดีมากครับ ตอนนี้จะทำการย้านคุณเเม่ไปยังห้องพิเศษ ส่วนลูกทางพย
สองวันผ่านไป....ฉันอาบน้ำเเต่งตัวออกจากคอนโดของพี่นิโครเเละตอนนี้ฉันกับพี่นิโครก็มาถึงไร่องุ่นตั้งเเต่เช้าตรู่ ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย ฉันก็งงเหมือนกันว่าทำไมพี่นิโครต้องรีบมาที่ไร่ขนาดนั้นด้วย เขาเเค่ให้เหตุผลว่ามีธุระด่วนสุดๆกับพี่เรียว เเต่ทำไมเขาต้องพาฉันมาที่บ้านพี่เรียวด้วยล่ะ เเละตอนนี้ฉันก็อยู่กับวิเวียนสองคนในห้องนอนที่ไว้สำรับเเขกโดยเฉพาะ ตัวของพี่นิโครเองก็ไปไหนกับพี่เรียวก็ไม่รู้เหมือนกันหายไปกับกลีบเมฆเลย ทิ้งฉันไว้ให้อยู่กับวิเวียนเนี่ย"พี่เพทายจ้ะ...เอ่อคือ..."วิเวียนพูดอ้ำอึ้งอยู่ ฉันที่นั้งครุ่นคิดเรื่องพี่นิโคร ก็รีบหันหน้าไปมองหน้าวิเวียนอย่างอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไรกับฉันหรือเกี่ยวกับพี่นิโครหรือเปล่า"มีอะไรเหรอจ้ะวิเวียน พูดมาเถอะพี่รอฟังอยู่""คืองี้จ๊ะ วันนี้เป็นวันเกิดของหนูเอง หนูจึงขอพี่นิโครจัดงานเลี้ยงในไร่องุ่นนะจ้ะ"อ๋อวันเกิดวิเวียนเองเหรอ เเล้วทำไมเธอถึงพูดอำอึ่งไม่กล้าบอกฉันด้วยล่ะ?"สุขสันต์วันเกิดด้วยนะจ๊ะวิเวียนมีความสุขมากๆล่ะ^^"ฉันก็รีบอวยพรวันเกิดให้เธอ เธอก็ยิ้มรับออกมาเเต่แววตาของวิเวียนเหมือนยังมีอะไรซ่อนอยู่"วันนี้เป็นวันเกิดของหนู หนูอยากข
ณ บ้านเเวมไพร์ตอนนี้ผมได้พายัยตัวเล็กมาเที่ยวบ้านไอ้เเวมไพร์ตามคำขอ เเละก็ได้ปล่อยให้เธอไปพูดคุยกับน้องเอวากับน้องน่ารักอีกมุมหนึ่ง ส่วนผมเเละไอ้วายุกับไอ้เเวมไพร์ก็นั่งคุยกันที่โต๊ะตรงสวนหลังบ้าน"กูบอกพวกมึงก่อนก็เเล้วกัน อีกสามวันกูจะเเต่งงานกับเพทายที่ไร่ พวกมึงมาร่วมงานด้วยล่ะ"ผมตัดสินใจบอกพวกมันสองคนไป โดยที่ผมมานอนคอนโดนี้เพื่อกะเซอร์ไพรซ์เธอเลย ผมให้ไอ้เรียวกับวิเวียนช่วยจัดสถานที่เเต่งงานเเล้วด้วย เเละได้เลือกชุดเเต่งงานให้เธอหมดทุกอย่าง รอเเค่เธอเเต่งงานกับผมเเค่อย่างเดียวพอ เรื่องอื่นๆผมได้จัดการไว้หมดเเล้ว ส่วนพ่อเเม่ของผมเเละของเพทายก็รู้หมดทุกคนเเล้ว พวกท่านทั้งสี่คนตอนนี้ได้อยู่ที่ไร่เป็นที่เรียบร้อยเพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนเเขกก็ไม่เยอะหรอกนะครับมีก็เเค่คนใหญ่คนโต หัวหน้ามาเฟียด้วยกันทั้งนั้นที่ผมได้เชิญไป งานเเต่งจัดขึ้นอย่างเงียบๆโดยที่เพทายไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย "ยินดีด้วยวะไอ้นิโคร"ไอ้เเวมไพร์พูดเเล้วมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มเเละด้วยความยินดี"จริงเหรอยินดีด้วยนะไอ้นิโคร ส่วนกูเเต่งงานหลังมึงเเค่สองวันเองวะ กูต้องรีบเอาลูกให้ทันพวกมึงหึๆๆ"ไอ้วายุพูดอย่างชอบใจ เเสดงว
ณ คอนโดนิโคร"จะ...จริงเหรอค่ะ เป็นรุ่นพี่เตชินที่พยามไล่ยิงพี่นิโครเองเหรอค่ะพี่เเวมไพร์"เพทายอึ้งในคำพูดของไอ้เเวมไพร์ที่เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นจนจบ เเต่มันดันถูกไอ้วายุยิงตายไปเมื่อวันนั้นเเล้วเหมือนกันเเละเป็นตอนที่ผมสลบไป "ครับพี่ไปสืบหมดเเล้ว ที่มันได้ทำตัวกร่างเพราะมันเป็นลูกนักการเมืองที่มีอำนาจนิดหน่อยครับ""กูขอบคุณพวกมึงมากเลยนะเว้ย ถ้าพวกมึงช่วยกูไม่ทัน มันคงเป่ากระบาลกูตายไปเเล้ว"ถ้าไม่ได้ไอ้วายุกับไอ้แวมไพร์มาช่วยผมคงตายไปเเล้วจริงๆ อย่างน้อยมันก็ได้ตายจากโลกนี้ไป แต่ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่อีกล่ะก็ ผมคงไม่ไว้ชีวิตมันเเน่นอน "ไม่เป็นไรมึง เพราะพวกเราไม่ทิ้งกันอยู่เเล้วเว้ย""อืม…พวกเราไม่ทิ้งกันอย่างที่ไอ้วายุบอกนั้นเเหละ""งั้นชนเเก้วกันเว้ย!"ไอ้วายุพูดพร้อมยื่นเเก้วเหล้าออกมาตรงหน้า จากนั้นพวกเราก็กระดกดื่มจนหมดเเก้วโดยมีเพทายนั้งตักผมอยู่ด้วย ส่วนไอ้วายุก็มีน้องเอวานั้งตักอยู่เหมือนกัน มีเเต่ไอ้เเวมไพร์ที่ไม่ได้พาเมียมาเพราะคิดว่าไปนัดเจอพวกเราที่ผับ ไอ้เเวมไพร์เองก็ไม่กล้าพาน้องน่ารักไปในที่เเบบนั้นเหมือนกันกับผมนั้นล่ะครับ เหตุผลก็คือเมียท้องเคร้ง!!!เ
ณ คอนโดนิโครตอนนี้ผมได้กลับมายังคอนโดของตัวเอง เพราะผมมีเรื่องอยากจะถามไอ้เเวมไพร์กับไอ้นิโครที่ผมเกิดเหตุในวันนั้น เมื่อคืนผมนอนคิดเเล้วว่าก่อนหน้านั้นผมได้โทรหาไอ้เเวมไพร์ ผมก็เเค่อยากรู้ว่าไอ้เวรนั้นมันคือคนๆเดียวกันหรือเปล่า ผมอยากได้คำตอบที่เเน่ชัดเเละที่สำคัญที่สุดคืออยากรู้ว่ามันตายหรือว่าอยู่ ถ้ามันตายล่ะก็ผมไม่ต้องเปลืองเเรง เเต่ถ้ามันยังอยู่ผมนี่เเหละจะฆ่ามันด้วยน้ำมือของผมเอง"เพทายคืนนี้พี่จะเข้าผับไปคุยธุระสำคัญกับไอ้พวกนี้หน่อย เเล้วพี่จะรีบกลับมานะครับ""ไม่เอา~ให้หนูไปด้วยได้ไหมคะน้าาา~"งานเข้าเเล้วไงกู!เอาไงดีวะยิ่งอ้อนซ่ะจนผมอยากลากเธอขึ้นเตียงเเล้วจับเย..ให้เข็ด ถ้าไม่ติดว่าท้องลูกนะผมคงใส่เต็มเเม็กไปเเล้วล่ะครับ "เธอท้องอยู่ด้วยนะ พี่ไม่อยากให้เธอไปในที่เเบบนั้นเลยมันไม่ดีนะครับ"ความเป็นจริงเเล้วมันเป็นพื้นที่อันตรายกับคนท้องด้วยไง เสียงเพลง ควันบุรี่ อีกอย่างกว่าจะได้กลับคอนโดมันก็ดึกด้วยไง ผมอยากให้เธอนอนพักผ่อนมากว่าครับ"เเต่หนูอยากไปนิค่ะ อยากไปเที่ยวด้วยอ่ะ"เพทายเริ่มมีสีหน้างอนอย่างจริงจัง "อย่าดื้อได้ไหม?"ถึงยังไงผมก็พาเธอไม่ได้อยู่ดีมันอันตรายเกินไ
หลายวันผ่านไป...ตอนนี้อาการผมดีขึ้นมากเเล้ว เเผลที่ศรีษะก็หายดีเเล้วด้วย...เเต่ยังอีกบางอย่างคือ...ผมจำอะไรไม่ได้เลย เเต่ทุกคนที่มาดูผมนั้นล้วนคุ้นหน้าคุ้นตาไปหมดทุกคน ผมคิดยังไงก็คิดไม่ออกสักที บางครั้งคิดไปมากๆผมก็เริ่มปวดศีรษะเลยต้องหยุดคิดไป ส่วนเพทายเธอเป็นเมียของผมจริงๆนั้นเเหละครับเพราะผมรู้สึกผูกพันกับเธอ หัวใจเต้นเเรงมากเมื่อตอนลืมตาเห็นใบหน้าของเธอครั้งเเรกที่ผมฟื้นตัวขึ้นมา หลายวันที่ผ่านมาเธอดูเเลผมดีมากๆไม่ออกห่างจากผมเเม้เเต่น้อย ผมอยากจำเธอไห้เร็วๆจังเพราะผมกลัวว่าคำบางคำที่ผมพูดไปนั้นจะทำให้เธอเสียใจหรือเปล่า "โอ๊ย!!!""พี่นิโคร!เป็นอะไรหรือเปล่า"เพทายที่กำลังยืนกวาดขยะอยู่ก็รีบวิ่งเข้ามาที่ผมอย่างตกใจ เมื่อเธอเห็นภาพผมกำลังกุมขมับอยู่จู่ๆอาการปวดศีรษะก็ปวดขึ้นมาอย่างรุนเเรง เเละก็เริ่มมีเหตุการณ์ที่ผ่านนั้นเกิดขึ้นเข้ามาในหัวอย่างซับซ้อน"อ้าวเฮ้ย!ไอ้นิโคร ปวดหัวใช่ไหมเเกต้องรีบผ่อนคลายทำให้สมองโล่งๆอย่างพึ่งคิดอะไรเด็ดขาดไม่อย่างนั้นอาการก็จะเริ่มรุนเเรงมาขึ้น"ไอ้เรียวที่กำลังเดินเข้ามาก็เห็นผมที่นั้งปวดศีรษะอยู่โซฟาพอดีจึงรีบเดินเข้ามาหา ผมก็รีบทำอย่างที่มันพู