"ตลกละ ขึ้นมึงขึ้นกู เพื่อนเล่น?"
"ไม่ใช่ผัวก็แล้วกัน!" ไอติมเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะกระชากผ้าห่มมาคลุมใบหน้า ให้เล็ดลอดเพียงแต่ตาที่ปิดลง ภูพิงค์จ้องเปลือกตาสวย มองหน้าผากมนก่อนจะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ผู้หญิงที่ชื่อไอติมเป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาดสิ้นดี ไม่มีใครเหมือนเธอ เหมือนที่เธอไม่มีวันเหมือนใคร! วันต่อมา ไอติมออกมาจากคอนโดมิเนียมของภูพิงค์ตั้งแต่ตีห้า อันที่จริงเธอตื่นตั้งแต่ตีสี่กว่าๆ ใช้เวลานอนมองหน้าคนข้างๆ เกือบครึ่งชั่วโมง เธอพยายามหาเหตุผล เพราะอะไรถึงยอมทุกอย่าง เพราะอะไรถึงยังอยู่จุดนี้ทั้งที่ระหว่างเธอและหมอนี่ไม่มีสถานะใดๆ ต่อกันเลย เธอก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีทางไป โดนผู้ชายจีบมาก็ตั้งเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่เคยไปจากหมอนี่สักที! นี่ความรู้สึกพิเศษมันทำให้คนตาบอดจริงๆ น่ะเหรอ เหอะ ตลกสิ้นดี! Studio S "ยัยไอ ทางนี้" ของขวัญโบกไม้โบกมือให้เพื่อนรักเมื่อพบไอติมก้าวขาลงมาจากรถแท็กซี่ ผิวที่ขาวออร่า หุ่นที่โดดเด่นสะดุดตาเรียกความสนใจจากใครต่อใครในระแวกนั้นได้เป็นอย่างดี "ฉันมาช้าไปปะ" ว่าไปพลางเหลือบตาดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ขณะเดียวกันก็รวบสายกระเป๋าขึ้นมาคล้องบ่า "ไม่ช้า เอากระเป๋ามาเดี๋ยวฉันช่วยถืิอ" "ขอบใจจ้ะ ไม่เป็นไร รีบเข้าไปข้างในเถอะ" "เคๆ" ของขวัญพยักหน้ารับพลางจูบมือเพื่อนรักเข้าไปด้านใน "พี่ขิม ไอติมมาแล้วค่ะ" ของขวัญร้องบอกพี่สาวตัวเองขณะที่ไอติมยิ้มกว้าง รีบยกมือไหว้พี่สาวของเพื่อนทันที "ไอมาช้าไหมคะพี่ขิม" "ไม่ช้าจ้ะ น้องไอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลยนะ เอาแค่ชิ้นบนก่อน ถ้างานออกมาสวยหากถ่ายชิ้นล่างเดี๋ยวพี่ขอเรียกค่าตัวเพิ่มให้" "จริงเหรอคะ" ไอติมวางมือทาบอกอย่างตกใจ ไม่คิดว่าในวันที่เธอยังไม่พร้อมทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกอย่างจะค่อนข้างเป็นใจ "จริงสิ ไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ พี่รอตรงนี้นะ" "เคค่ะ" ไอติมยิ้มกว้างได้มากกว่าเก่า รอยยิ้มของเธอมันชั่งสะดุดตาใครต่อใคร "อยากมีเงินเยอะๆ ฉิบหาย ไม่อยากให้แกทำในสิ่งที่ไม่ได้อยากทำ" ของขวัญเอ่ยขึ้นอีกครั้งในตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวด้วยกันตามลำพัง "แค่ท่อนบนก่อนปะ เถอะน่ามันได้ตังค์ ถ่ายแปปเดียวก็เสร็จ" "เห้อ เราควรหาแฟนรวยๆ ปะ หาแบบที่พร้อมเปย์อะไรแบบนี้อะ" ไอติมอมยิ้มพลางส่ายหน้า พูดถึงเรื่องแฟนแล้วรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาทันทีเลยเชียว! Line~ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเรียกความสนใจจากไอติมที่จัดการเปลี่ยนชุดชั้นในยี่ห้อดังที่กำลังเป็นกระแสมาแรงอยู่ในขณะนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกือบจะดึงสายตากลับทว่าโทรศัพท์กลับดังซ้ำ ไอติมจึงล้วงมันออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดอ่านข้อความ [ ไอ้หน้าหล่อ : อยู่ไหน? จะออกไปไหนทำไมไม่บอกก่อน ] [ ไอติม : เห็นนายนอนก็เลยไม่อยากกวน ] [ ไอ้หน้าหล่อ : เหตุผลฟังไม่ขึ้น หิวข้าว ] [ ไอติม : ข้าวผัดอยู่ในครัว ] [ ไอ้หน้าหล่อ : ...มันไม่ร้อน ] [ ไอติม : เรื่องมากนี่สนุกปะ? ] [ ไอ้หน้าหล่อ : ใจร้ายว่ะ ] [ ไอติม : ถ้าจะงอแงขนาดนี้นายควรขอฉันเป็นแฟนนะ เป็นแฟนเมื่อไหร่จะโอ๋ให้ทุกรอบเลย ] [ ไอ้หน้าหล่อ : พูดเรื่องนี้บ่อยไปปะ กำลังทำตัวเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ อยู่รู้ตัวไหม... ] "แกพร้อมใช่ไหม" แรงกระตุกที่ข้อมือเล็กทำคนที่เผลอจ้องหน้าจอโทรศัพท์สะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิด ไอติมขานรับเบาๆ ก่อนจะวางโทรศัพท์ตามด้วยการถอดเสื้อคลุม "ฉันคิดถูกใช่ปะที่ติดต่องานนี้ให้แก" "ถูกสิขวัญ พ่อป่วยอยู่นะ" "แต่ถ้าเลือกได้แกก็ไม่รับงานแบบนี้ถูกปะ" "ฉันอยากได้ตังค์นี่นา เถอะน่า ฉันไม่ได้ซีเรียส" "แล้วแน่ใจเหรอว่าจะไม่มีปัญหา ผู้ชายคนนั้น..." "หมอนั่นไม่แคร์หรอก ช่างมันเถอะ ระหว่างฉันและเขา...สถานะมันไม่มีอะไรเลย!" ไอติมกรีดยิ้มให้เพื่อนรัก ร่างบางยืดตัวขึ้น ช่วงล่างสวมกางเกงยีนส์ขายาวสีซีดรัดรูป มีรอยถักตรงขาเป็นเสน่ห์ให้กางเกงธรรมดาดูไม่ธรรมดา ช่วงบนสวมบราสีดำ อวดความขาวผ่องของเนินเนื้อคัดตึง สรีระส่วนอื่นโดดเด่นจนคนพบเห็นต้องเหลียวมอง เพราะอยู่ในวงการแฟชั่น และเรื่องความสวยความงามมันอยู่ในสายเลือด ไอติมแต่งหน้าในโทนที่สวยเปรี้ยว ผมยาวสลวยดัดลอนในส่วนปลายไขว้ไปกองอยู่ทางด้านหลัง การบ้านที่ทำมาเป็นอย่างดีส่งผลให้การทำงานในวันนี้ราบรื่น ไอติมเป็นมืออาชีพมากกว่าที่ใครหลายๆ คนคิด การโพสต์ท่า การวางสรีระของแขนและขา สายตาที่จิกกล้อง การเผยอปากให้น่ามอง สุดท้ายการทำงานจบลงพร้อมทั้งเสียงปรบมือ "เริศมากค่ะน้องไอ สุดยอด" สายขิม พี่สาวของของขวัญชมเปราะไม่ขาดปาก ทีมงานในห้อง แม้แต่ตัวแทนจากแบรนด์เองก็ชมเปราะไม่ได้ต่างกัน "นี่นะ ถ้าไม่ติดที่ทีมงานชักช้า เราได้ออกมากินส้มตำแซ่บๆ กันนานแล้ว ไม่ปล่อยให้อุ้มท้องหิวอยู่แบบนี้หรอก" ของขวัญบ่นอุบไม่ขาดปาก ถึงอย่างนั้นก็ยังเรียกรอยยิ้มจากไอติมได้อยู่ดี "ขอบใจนะที่วันนี้ยอมมาอยู่เป็นเพื่อนฉันทั้งวันเลย ส้มตำมื้อนี้ฉันเลี้ยงก็แล้วกัน"สวนหลังบ้าน"มีมี่ มี่จ๋า~""ก๊อดๆ~" เสียงตอบรับจากนกแก้วซันคอนัวร์ที่เลี้ยงไว้ในบ้านยังเรียกความสนใจจากไอเดียได้เหมือนทุกครั้งมีมี่ นกแสนรู้ที่ถูกฝึกและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นลูกป้อนโบยบินออกจากกรงแล้วมาเกาะที่บ่าของซาเฟียร์ ดวงตากลมใสแป๋วคล้ายกับตาของเด็ก ปากสีดำวาววับท้าทายให้ซาเฟียร์โน้มริมฝีปากไปจุ๊บเบาๆ ที่ปากของนก ไอเดียส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ"มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง" ภพนิพิฐเดินตามมาสมทบ วงแขนอบอุ่นและแข็งแรงโอบที่เอวภรรยาเอาไว้หลวมๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองที่ใบหน้าของผู้เป็นภรรยาในระยะใกล้ สลับกับการหันมองลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เช่นกัน"ไอเดียรักมีมี่เหรอลูก มี่เอ้ย""ก๊อดๆ~" เจ้านกน้อยยังคงส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับการเอียงคอมองผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน ดีแล้วที่เจ้านกแสนรู้ไม่ส่งเสียงกรีดร้อง เพราะหากได้ส่งเสียง รับรองว่าเสียงจะก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณมือเล็กป้อมๆ ของไอเดียยกขึ้นไปลูบเบาๆ ที่หัวนก ความเมตตาอารี เด็กน้อยได้มาจากทั้งผู้เป็นพ่อและคนเป็นแม่ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กสัมผัสกับกลิ่นเจ้าของตัวน้อย ในอนาคตหากไอเดียเดินมาเล่นที่สวน เป็นไปได้ว่านกน้อยที่อยู่ในกรงสวยงาม
ภายในห้องครัว"คนสวยของแด๊ดดี้ทำอะไรอยู่ครับ""อันดาเช็ดจานให้หม่ามี๊ค่ะ""เก่งจังเลยค่ะ ลูกสาวของแด๊ดดี้เก่งที่สุดเลย" เวลาที่อยู่กับลูกๆ และภรรยา ภูมิรพีอ่อนโยนเสมอ ประกายตาคู่นี้ยังคงเด็ดเดี่ยวและมั่นคง รักที่มีต่อภรรยายังคงเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ ส่วนลูกๆ ก็ยังคงเป็นรักที่บริสุทธิ์ของเขาเช่นเดิม"หม่ามี๊ท้องโตแล้ว องศาจะช่วยหม่ามี๊ล้างจานครับ""องศาล้างจาน อันดาเช็ดจานให้แห้งนะ" แด๊ดดี้และหม่ามี๊มองหน้ากัน การที่เด็กสองคนซึ่งเติบโตในเวลาเดียวกัน ใช้ชีวิตในแบบเดียวกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เข้าอกเข้าใจกันดี มันเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่โคตรสบายใจ"แด๊ดดี้ภูมิใจในตัวลูกๆ ที่สุดเลย" องศายิ้ม อันดาเองก็ยิ้มเช่นกัน"ลูกๆ ของแด๊ดดี้ รู้หรือเปล่าครับว่าอาภพและอาภูเกี่ยวข้องอะไรกับแด๊ดดี้""คูมย่าบอกว่า น้องของแด๊ดดี้อันดาต้องเรียกว่าคูมอาค่ะ""เก่งมากครับ อาภพกับอาภูเป็นน้องชายของแด๊ดดี้ แด๊ดดี้รักน้องของแด๊ดดี้มากๆ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน เป็นสายเลือดเดียวกัน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือกันเวลาที่คนใดคนหนึ่งลำบาก จำไว้นะลูก การมีพี่น้องที่รักกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ" เปี่ยมรักอมยิ้มอย่างมีความส
Special 5"สวัสดีค่ะพี่ภูมิ สวัสดีค่ะพี่ภู แด๊ดดี้" หญิงสาวในชุดนักศึกษายกมือไหว้ทุกคนก่อนจะยิ้มให้คนสุดท้ายที่เธอเอ่ยถึงภพนิพิฐรั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาหา จังหวะที่คืนไอเดียสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ปลายจมูกโด่งแอบกดลงที่ขมับบาง สูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างของภรรยาสาวเข้าจนเต็มปอดอย่างเคยชิน"แด๊ดดี้อาบน้ำให้ลูกแล้วเหรอคะ หอมเชียว""เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ""ได้ค่ะ" ซาเฟียร์แจกจ่ายรอยยิ้มให้กับทุกคนเฉกเช่นทุกครั้ง คล้อยหลังจากพี่สะใภ้ ภูพิงค์เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยความไว"น่าอิจฉาคนที่เมียยังใส่ชุดนักศึกษานะ คงเห็นแล้วใจสั่นเป็นบ้า" ภูพิงค์กดยิ้มที่มุมปากพลางปรายตามองเจ้าของหญิงสาวคนที่พึ่งจะอุ้มลูกออกไป ในขณะที่อีกด้าน ภูมิรพีเลือกที่จะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ"เหมือนว่าจะไม่ได้น่าอิจฉาเท่าไหร่หรอก มึงมองไม่เห็นความกังวลที่อยู่ในสายตาของพี่มึงหรือไง" คนที่กำลังถูกพูดถึงกดปลายลิ้นที่มุมปากคนหนึ่งช่างเปิดประเด็น ส่วนอีกคนก็ช่างสังเกตซะเหลือเกิน"ต่อหน้าพี่ต่อหน้าน้องทำเป็นจูบขมับ อยู่กันสองต่อสองนี่เตียงไม่ยับเลยเหรอวะ""ทะลึ่งละ คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องเอาก็รักอยู่ดี""เฉียบ" ภูพิงค์ด
"หนูไม่อยากให้แด๊ดดี้เหนื่อยนี่คะ""ไม่เหนื่อยหรอกน่า ลูกและเธอเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่นะ อย่าคิดมาก" ซาเฟียร์สอดแขนเข้าไปโอบกอดที่เอวสอบ ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มแห่งความสุขประดับขึ้นบนใบหน้างดงาม"หนูโชคดีจัง แด๊ดดี้ของหนูน่ารักที่สุด แด๊ดดี้ทำให้หนูรักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว" คนฟังอมยิ้ม อาศัยจังหวะที่รถติดสัญญาณไฟกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเบาๆ"สายหรือยัง พอมีเวลาให้พี่สักหน่อยไหม" แก้มของคนฟังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ซาเฟียร์กัดปากของตัวเองเบาๆ เธอเข้าใจทันทีว่าผู้เป็นสามีต้องการสื่ออะไร"เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะถึงเลือกที่จะฝากลูกไว้กับคุณย่าแล้วก็มาส่งที่หนูที่มอ.เอง""ฉลาดจัง พี่ขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงได้ไหมล่ะ""แค่พี่ใช้เส้นสายในเรื่องการเรียนของหนู หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้วนะ" ภพนิพิฐระบายรอยยิ้มออกมาถ้าจะให้พูดกันตามความรู้สึก เขาไม่ได้ติดขัดไม่ว่าเธอจะเรียนจบที่ระดับชั้นไหน เหตุผลที่เขายอมให้เธอกลับไปเรียนอีกครั้งเพราะเขาแค่อยากตามใจเธอ อยากเปิดโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำทุกอย่าง ถึงยังไงซะเขาก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องลำบากอยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้
Special 4"แอะ~" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีดังออกมาจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่อยู่ในชุดบอดี้สูทสีครีม ผิวของคนตัวน้อยขาวจั๊ว บ่งบอกว่าได้มาทั้งของพ่อและของแม่ในส่วนของใบหน้าแม้จะออกมาทิศทางของผู้เป็นแม่มากกว่า ถึงอย่างนั้นคนเป็นพ่อก็ยังพยายามโต้เถียงว่าบุตรสาวหน้าตาเหมือนตนเองอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าหนูน้อยไอเดียจะหน้าตาเหมือนใคร ไม่ว่าจะได้พ่อหรือว่าได้แม่มา สุดท้ายก็ลงตัวจนหาที่ติไม่ได้เลยลมเย็นๆ ในเวลาเช้าลอยกระทบลงมาบนเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลา สุดท้ายกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ค่อนข้างคุ้นเคยซึ่งส่งกลิ่นมาจากในห้องนอนก็เรียกสายตาคมกริบให้ตวัดกลับไปมองที่ทิศทางด้านในตามเดิมความหวงแหนผุดขึ้นเมื่อหน่วยตาคมประสานเข้ากับเรือนร่างของภรรยาสาวซาเฟียร์กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหลังให้นมลูกจนครบสามเดือน มีการวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างชัดเจน ในช่วงพักกลางวันคนตัวเล็กจะกลับมาให้นมบุตรที่บ้าน เพราะเหตุผลนี้และอีกเหตุผลคือได้ตกปากรับคำเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น พ่อของลูกจึงยินดีกับการไปเรียนในครั้งนี้ของผู้เป็นเมีย"ทำไมต้องใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้" คนที่อุ้มลูกคาอกมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาพอด
Special 3ภายในบ้านหลังใหญ่ของอัศวราชเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายนอกตัวบ้านคุณปู่ภีมพลซึ่งเป็นที่รักของหลานๆ เก็บกวาดต้นไม้ที่เฉาตาย พร้อมกับการลงต้นไม้ปลูกใหม่ความขยันนี้ไม่ได้มีที่มาที่ไปไกลเท่าไหร่นัก สุดท้ายหลานๆ นั่นแหละที่เป็นแรงผลักดันให้คุณปู่จัดการทุกอย่าง เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ขยันมากยิ่งๆ ขึ้นไป"น้องไอเวียนหัวเหรอลูก แม่ลืมบอกว่าแม้แต่ผักบางชนิด หากมันจะแสลงมันก็แสลงขึ้นมาดื้อๆ เลยนะ" เบญญาถามสะใภ้คนเล็กอย่างไอติมคุณแม่หลังคลอดยังคงสวยสดไม่เปลี่ยน ไอติมหน้ายังสดใส เป็นเรื่องปกติที่คล้อยหลังจากช่วงหลังคลอดในช่วงเดือนแรกผ่านพ้นไป จะมีการเริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์และเพิ่มน้ำนมให้มากขึ้น เรื่องของอาหารแสลงจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังมากเช่นกัน"ไอเวียนหัวนิดหน่อยค่ะแม่""แม่ว่าพักก่อนนะ เดี๋ยวแม่ดูแลอิคคิวให้เอง" คุณย่ายังคงเป็นที่รักของลูกๆ ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือดูแลหลานๆ อยู่เสมอเด็กชายองศา เด็กหญิงอันดาตอนนี้อยู่ในวัยสองขวบเศษ ช่างพูดช่างคุยช่างสงสัย จากนั้นก็เป็นน้องไอเดียลูกสาวของคุณพ่อภพและคุณแม่ซาเฟียร์ที่ลืมตาดูโลกและเข้ามาอยู่ในบ้านอัศวราชเป็นหลานคนที่สาม หนึ่งสัปดาห์ต่อจาก