มาร์ตินตอนนี้อยู่บนรถสปอร์ตคู่ใจของเขาที่ลงสนามมาเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเพื่อนของเขาอีกสี่คน ไทป์ อเล็กซ์ คาร์สันและคริสต์ ซึ่งเมื่อทั้งห้าคนได้ลงสนามเมื่อไหร่สนามแห่งนี้ก็แทบลุกเป็นไฟเพราะทั้งหมดล้วนมีฝีมือด้วยกันทั้งนั้น แต่วันนี้มาร์ตินจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะเดิมพันของเขาคือแม่กวางน้อยที่อยู่ในห้องนั้น ถึงแม้ว่าเขาอยากจะแกล้งเธอด้วยการทำให้เธอกลัวแต่ก็ไม่เคยคิดให้เธอตกเป็นของคนอื่นเพราะเธอต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
เมื่อสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้นพวกเขาทั้งห้าคนก็ทะยานออกไปจากจุดเริ่มต้น ผ่านโค้งแล้วโค้งเล่าก็ยังเป็นคริสต์ที่นำเพื่อนๆทุกคนอยู่ในตอนนี้ ส่วนมาร์ตินเองที่เขาไม่ได้รีบเร่งอะไรเพราะเขาจะเร่งในช่วงสุดท้ายตอนนี้ปล่อยให้สาวน้อยคนนั้นลุ้นไปเล่นๆก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลานั้นแล้วเขาเร่งเครื่องจนสุดกำลังและสุดท้ายก็เป็นเขาที่เบียดแซงคริสต์ชนะไปแบบฉิวเฉียด ทำเอาเขาแทบใจหายใจคว่ำเหมือนกัน " โห่...ไอ้มาร์ตินมึงก็ไม่ยอมออมมือให้พวกกูบ้าง " เป็นคริสต์ที่เอ่ยแซวเจ้าของสนามอย่างมาร์ติน หลังจากที่ลงจากรถกันหมดทุกคนแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ายังไงวันนี้มาร์ตินก็ต้องสู้สุดกำลังอยู่แล้ว แต่ก็อยากจะพูดแกล้งเพื่อนสนุกบ้าง แต่มาร์ตินก็ไม่ตอบเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากตอบกลับไปเท่านั้น " มึงก็รู้ว่าวันนี้มันแพ้ไม่ได้ มึงก็ไปแซวมันอยู่นั่นแหละ ปากก็บอกว่าไม่ชอบเขาแต่การกระทำมึงนี่ไม่ใช่เลยไอ้เสือร้าย " คราวนี้เป็นคาร์สันที่เอ่ยแซว เพราะตอนที่กำลังจะออกตัวเขาก็สังเกตสีหน้าของมาร์ตินที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดอยู่เหมือนกัน " สงสัยเพื่อนเราจะมีแววกลัวเมียซะละมั้ง " เป็นไทป์ที่เอ่ยแซวขึ้นอีกคน " ใครบอกว่ากูกลัวเมีย คนอย่างมาร์ตินไม่เคยกลัวเมียโว้ย! " มาร์ตินรีบแก้ตัวออกไปเป็นพัลวัน " มึงมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ถึงรู้ว่าตัวเองไม่กลัวเมีย " " ก็... " เขาถึงกับพูดไม่ออกเพราะมันจริงอย่างที่เพื่อนว่าเขายังไม่มีเมียแล้วเขาจะรีบแก้ตัวไปทำไม แต่ไม่ทันแล้วล่ะตอนนี้เพื่อนมันขำกันใหญ่แล้ว " เออช่างเถอะ ตอนนี้มึงรีบไปดูว่าที่เมียแต่งมึงก่อนดีกว่าไหม ป่านนี้ช็อคไปแล้วมั้ง " เป็นคริสต์ที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมาร์ตินที่รีบเดินขึ้นไปยังห้องกระจกที่เขาขังเธอไว้ในนั้น พอมาถึงก็เจอกับเธอที่นั่งอยู่ที่โซฟาอย่างเงียบๆเมื่อเห็นเขาเข้ามาเธอก็ยังเลือกที่จะไม่พูดอะไร เนยหวานทันทีที่รู้ว่าเขาแข่งชนะเธอยอมรับว่าเธอดีใจและรู้สึกโล่งใจมากที่ตัวเองไม่ต้องตกเป็นของใคร แต่ในใจของเธอตอนนี้รู้สึกโกรธเขามากกว่า ถ้าเขาไม่รักเธอเธอก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะเพราะว่าจุดเริ่มต้นของเธอและเขามันมาจากการบังคับจากทางผู้ใหญ่ แต่แค่ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายใจดำกับเธอจนถึงขั้นเอาเธอมาเป็นของเดิมพันแบบนี้ ถ้าหากว่าเขาแพ้ขึ้นมาเธอไม่ต้องตกไปเป็นของคนอื่นหรอกหรอ แล้วเธอผิดอะไรกันทำไมเธอถึงต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย พอเขาเข้ามาในห้องเธอก็มองหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป เพราะสิ่งที่เธอต้องการตอนนี้คือกลับบ้านและไม่อยากมองหน้าเขาอีกแล้ว " ไง นั่งนิ่งเชียว " มาร์ตินที่เดาอารมณ์ของเธอไม่ออกเพราะเธอมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่งจนขนลุก " ถ้าธุระวันนี้ของคุณเสร็จแล้วปล่อยฉันสักทีนะคะฉันจะได้กลับบ้าน " คำพูดของเธอทำเอาเขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยทั้งๆที่มีผู้หญิงตั้งมากมายอยากอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่เธอกลับอยากตีตัวออกห่างจากเขา " ยัง ฉันยังต้องไปฉลองชัยชนะกับเพื่อนต่ออีก ซึ่งเธอต้องเป็นคนไปด้วย " เขาพูดท่ามกลางความงงงวยของเพื่อนๆแต่ทุกคนก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะวันนี้มาร์ตินไม่ได้ชวนให้พวกเขาไปนั่งดื่มด้วยกันเพิ่งจะรู้เมื่อสักครู่พร้อมกันเนี่ยแหละ " แล้วทำไมเนยต้องไปด้วยล่ะคะ " " เพราะเธอกำลังจะเป็นเมียฉันไง ไม่ดีหรอ ฉันอุตส่าห์ให้สิทธิพิเศษเธอไปตามเฝ้าฉันถึงที่ " " แล้วทำไมเนยจะต้องไปตามเฝ้าคุณด้วยล่ะคะ ยังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ถึงแม้ว่ากำลังจะเป็นเมียแต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นเลย เนยไม่ไปค่ะ พาเนยกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย ถ้าเนยไปด้วยคุณก็จะต้องหาทางแกล้งเนยอีกจนได้ " " หึ! ทำไมกลัวหรอ? " " ใช่ค่ะเนยกลัว ก็เพราะใครล่ะคะที่ทำให้เนยต้องกลัว คุณไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่คุณทำลงไปเพื่อความสะใจมันทำให้เนยมองคุณเปลี่ยนไปเลย เนยเคยคิดนะว่าคนเราอยู่ด้วยกันถึงแม้ว่าจะไม่ได้รักกันถ้าทำดีต่อกันก็คงจะอยู่กันได้แบบยาวๆแต่เมื่อเนยมาเห็นวันนี้แล้ว เราคงไปกันไม่ได้หรอกค่ะ แล้วคุณก็ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะต้องแต่งงานกับเนยถฃเพราะหลังจากวันนี้ไปเนยจะไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่ว่าให้ยกเลิกงานแต่งบ้าๆนี้ซะ " ด้วยความโมโหปนน้อยใจทำให้ร่างบอบบางพูดออกมาตามที่ใจคิดไปหมดทุกอย่างโดยไม่แคร์ว่าเขาหรือเพื่อนเขาจะรู้สึกยังไง ตอนนี้เธอแค่อยากไปไหนก็ได้ที่พ้นหน้าเขาไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว ส่วนมาร์ตินเองเมื่อได้ฟังเธอพูดแบบนั้นเขากลับรู้สึกผิดขึ้นมาบ้างแล้ว เขาไม่คิดว่าที่เขาแกล้งเธอจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาคิดแค่ว่าเธอคงจะน้อยใจแต่ไม่คิดว่าเธอจะโกรธเขาหนักขนาดนี้จนถึงขั้นจะล้มเลิกงานแต่ง แล้วใครจะสนกันล่ะในเมื่ออยากแต่งนักเขาก็จะให้แต่งและไม่ยอมยกเลิกเด็ดขาด " เธอคิดว่าเธอกำลังเล่นขายของหรือไงเนยหวาน ที่คิดอยากจะแต่งก็แต่งคิดอยากจะยกเลิกก็จะล้มเลิกไปง่ายๆ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกในเมื่อเธอเลือกที่จะแต่งงานกับฉันตั้งแต่แรก ก็อยู่กันแบบทุกข์ทรมานแบบนี้แหละ ฉันไม่มีทางล้มเลิกงานแต่ง แล้วเธอก็ไม่มีวันทำสำเร็จด้วย จำใส่สมองของเธอไว้ซะ " คำพูดของเขาทำเอาเธอถึงกับกำมือแน่น ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขาแค่ต้องการจะแกล้งเธอ แล้วเรื่องงานแต่งนี่ไม่ใช่เธอหรอกที่กำลังจะเล่นขายของ แต่เป็นเขาต่างหากที่กำลังจะเล่นขายของเอาความรู้สึกของเธอมาล้อเล่น ถ้าจะทำให้เธอเจ็บหลังจากแต่งงานกันไปบอกเลยว่าไม่มีทางเพราะคนแบบเธอจะไม่มีวันรักคนไร้หัวใจอย่างเขาเด็ดขาด" อื้อ....อ๊ะ " ท่อนเนื้อลำใหญ่ถูกกระแทกเข้ามาโดยร่างสูงทีเดียวจนมิดลำหลังจาดจบคำพูดของเขา เขาไม่แม้แต่แช่แก่นกายเอาไว้ด้วยซ้ำ จับเธอกระแทกอย่างรุนแรงเพราะอารมณ์สวาทของเขาตอนนี้อดทนรอกับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก! " อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ เบาหน่อยค่ะเนยจุกไปหมดแล้ว " ร่างบอบบางที่ส่งมือเรียวเล็กทั้งสองข้างดันไว้กับเอวหนา สัมผัสของมือเรียวเล็กที่อยู่ตรงบริเวณซิกแพคของเขา ทำเอาร่างสูงสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าเพียงแค่มือน้อยๆของเธอสัมผัสมันกลับทำให้อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านอย่างห้ามไม่ได้ " อ่าาส์ ดีชะมัด ของเธอตอดพี่แน่นจนพี่แทบจะไม่ไหวแล้ว " เขายังคงตอกอัดท่อนเนื้อเข้าไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย ส่วนร่างบอบบางเองก็ทำได้แค่ผลักหน้าท้องของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาโจนจ้วงเข้ามาลึกจนเกินไป เพราะแค่นี้เธอก็จุกจนพูดไม่ออกแล้ว ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!เสียงท่อนเนื้อกระทบกับร่องรักของร่างบอบบาง เรียกเสียงครางต่ำๆจากมาร์ตินได้ไม่น้อย เขาจับขาเธอยกออกจากการพาดไว้บนไหล่กว้าง แล้วเปลี่ยนให้เธอนอนตะแคงข้างพร้อมกับจับขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นพาดไว้กับลำแขนแกร่งพร้อมกับตัวเขาที่เข้าไ
เมื่อเดินขึ้นมาถึงจนถึงหน้าห้องนอนของเนยหวานแล้ว มาร์ตินก็ใช้ให้เธอเปิดประตูและตัวเขาก็อุ้มเธอไปวางที่เตียงอย่างเบามือ ความอ่อนโยนบวกกับสายตาที่ส่งมาของเขาทำเอาเธอใจสั่นเข้าให้แล้ว" นอนเฉยๆได้ไหมคะ คืนนี้เนยไม่ไหวเมื่อคืนก็ยังระบมไปทั้งตัวไม่หาย พี่มาร์ตินไม่อ่อนโยนกับเนยเลยสักนิด " ร่างบอบบางทำสายตาอ้อนๆกระพริบตาปริบๆ หวังให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอมันเหมือนเป็นการกระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์สวาทมากยิ่งขึ้น สายตาเอยท่าทางเอย น่าฟัดชัดมัด " คืนนี้ฉันจะทำเบาๆ " เขายังคงหลอกล่อให้เธอเชื่อคนอย่าง มาร์ติน ไมโลเวอร์ ไม่เคยอ่อนโยนเรื่องบนเตียงอยู่แล้ว " ไม่เอาเนยไม่เชื่อ " " เอา! " เขาพูดเพียงแค่นั้นก็ก้มลงมาประกบจูบปากของเธออย่างเร่าร้อน โดยไม่ปล่อยให้เธอได้ต่อต้านอีกต่อไป เขายอมรับว่าทีแรกคิดถึงเธอจนนอนไม่หลับ เลยกะว่าจะลงไปเดินเล่นดับความฟุ้งซ่านของตัวเองสักหน่อย พร้อมกับหาอะไรดื่มแต่โชคดันเข้าข้างที่เห็นเธอยังไม่หลับไปเสียก่อนเขาจึงหาทางเข้ามานอนกอดเธอแบบนี้ " อื้อ...เนยยังปวดท้องอยู่เลยไว้วันหลังได้ไหมคะ " ส่วนร่างสูงที่พอผละจูบออกมาแล้ว เนยหวานก็รีบใช้โอกาสนี้บอ
เวลาผ่านไปค่อนคืน ร่างบอบบางที่นอนไม่หลับเพราะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ท้องไปหมดแล้ว เธอนอนปวดอยู่อย่างนี้ตั้งแต่หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้ว พอขึ้นมาข้างบนเธอก็ปวดท้องจนไม่เป็นอันทำอะไร ปกติเธอก็จะไม่ปวดมากขนาดนี้สงสัยคงเพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้วตอนเย็นดันมากินเผ็ดมากๆอีก ร่างกายก็เลยเริ่มไม่ไหว " หิวชะมัดเมื่อไหร่จะเช้านะ " ร่างบอบบางเริ่มกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองหลังจากที่คิดว่าจะอดทนจนถึงตอนเช้า ถึงจะไปทำข้าวต้มกินสักชาม แต่ดูเวลาตอนนี้ห้าทุ่มกว่าๆทุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้วมั๊ง แล้วเธอก็ทนความหิวไม่ไหวอีกต่อไปจึงลงมาข้างล่าง พอเธอเปิดประตูห้องนอนก็มองซ้ายมองขวาปรากฏว่าห้องนอนของสามีหมาดๆของเธอนั้นปิดสนิท เขาอาจจะกำลังจู๋จี๋กับแฟนข้างในก็ได้ แต่ใครจะสนกันล่ะตอนนี้เธอสนใจแค่ท้องน้อยๆของเธอต้องอิ่มเท่านั้น คิดได้ดังนั้นก็รีบดิ่งลงไปที่ห้องครัวพร้อมกับเปิดตู้เย็นดูของสดตรงหน้าว่ามีอะไรพอจะทำกินได้บ้าง พอเห็นผักต่างๆยังคงเหลือจึงรีบเอามาทำผัดผักรวมมิตรใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ทำทุกอย่างจนเสร็จได้ผัดผักรวมมิตรพร้อมกับไข่เจียวหอมๆ เธอรีบตักข้าวแล้วนั่งกินในครัวนั่นเลย โดยไม่ได้สนใจ
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนเย็น โดยที่เนยหวานไม่รู้เลยว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่ตอนไหน ตื่นขึ้นมาอีกทีท้องฟ้าข้างนอกก็มืดเสียแล้ว เธอรีบมองดูนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือก็พบว่าตอนนี้ทุ่มกว่าแล้วจึงรีบล้างหน้าแล้วเดินลงมาข้างล่าง แต่เมื่อมาถึงก็เจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิด " เมียของคุณมาโน่นแล้วค่ะ " ผู้หญิงที่ชื่อนีน่าคนที่มาป่วนงานแต่งของเธอเมื่อคืนหนิ เธอจำได้ดี ว่าแต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เนยหวานรีบเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆเพราะหากจะเดินหนีไปก็คงไม่ทันแล้ว มาร์ตินมองเห็นเธอเข้าแล้ว " นี่เธอกะจะนอนกินบ้านกินเมืองเลยหรือไงเนยหวาน งานบ้านก็มีไม่คิดจะมาทำช่วยนิ่มหน่อยหรอ " เขาดุเธอต่อหน้าของนีน่าทำให้เธอได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เพราะเธอเผลอหลับไปนานมากจริงๆ แต่จะให้ทำไงได้ก็เธอเพลียมาก ส่วนนีน่าก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจที่มาร์ตินดุยัยนี่ต่อหน้าเธอ " ขอโทษค่ะต่อไปเนยจะไม่ทำอีก พี่นิ่มเนยขอโทษนะคะที่ไม่ได้ลงมาช่วย " " อุ๊ยไม่เป็นไรเลยค่ะคุณเนย งานบ้านไม่ได้มีอะไรมากนิ่มทำคนเดียวได้ค่ะ " นิ่มรีบปฏิเสธเป็นพัลวันเพราะความเกรงใจจะมาให้เจ้านายช่วยงานลูกน้องแบบนี้ได้ยังไง เธอทำค
ในเช้าวันใหม่บรรยากาศภายในห้องสวีทที่ถูกจัดเอาไว้เป็นห้องหอสำหรับคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน ตอนนี้มาร์ตินได้ตื่นขึ้นมาแล้วพร้อมกับนอนมองหน้าของเธออยู่แบบนั้น เขาจัดท่าทางให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาตั้งแต่เมื่อคืน เธอก็นอนหลับแบบไม่ไหวติง คงจะเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน พร้อมกับทบทวนกับตัวเองว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี แต่ความคิดทางฝ่ายอาธรรมก็เอาชนะไปจนได้ เพราะแผนการที่เขากำลังจะทำเขายังคิดจะทำมันต่อ แม้ว่าเธอจะเป็นเมียของเขาโดยสมบูรณ์แล้วทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เกิดขึ้นมาด้วยความรัก ต่อจากนี้เขาจะทำให้เธอเจ็บทุกทางและขออย่าจากเขาไปเอง และแน่นอนการที่เธอเข้ามาหาเขาเป็นเพราะผลประโยชน์เพราะฉะนั้นช่วงเวลาหลังจากที่หย่ากันเธอจะไม่ได้อะไรจากเขาไปเลย ร่างบอบบางลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับเขาที่นอนมองเธออยู่ก่อนแล้ว " ตื่นแล้วหรอ ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าซะสิเราจะต้องออกจากที่นี่กันแล้ว ฉันจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านหลังนึงที่ฉันซื้อเอาไว้ " ร่างบอบบางคิดตามด้วยความงุนงง เมื่อคืนเขายังพูดกับเธอดีๆอยู่เลย แต่พอมาเช้านี้กลับทำเสียงแข็งพร้อมกับพูดอะไรก็ไม่รู้ " พี่มาร์ตินหมายความว่ายังไงคะ เราไม่ไ
ร่างบอบบางใบหน้าแดงซ่านไปด้วยความเขินอาย ก็เล่นมาถามเธอแบบนี้จะให้เธอตอบไปแบบไหนกันเล่า เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เธอเขินจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ตาบ้านี่แพรวพราวชะมัด " ถ้าไม่ตอบฉันจะถือว่าเธอเสียวนะ " " อื้อ... " จบคำพูดของเขาก็ตามมาด้วยเสียงร้องครางระงมของร่างบอบบางเพราะเขาเล่นสอดนิ้วมือเข้าไปถึงสามนิ้วเพื่อเปิดทางให้เขาเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และชักเข้าชักออกแบบนั้นอยู่สักพักร่างบอบบางก็เริ่มกระตุก " เนยไม่ไหวแล้วค่ะ จะเสร็จ " เธอบอกเขาไปตามตรง เพราะตอนนี้มองเห็นสวรรค์รำไรอยู่ตรงหน้าแล้ว มีแค่เขาเท่านั้นที่จะช่วยเธอปลดปล่อยได้ " ปล่อยมันออกมาตามความต้องการเลยสาวน้อย แล้วเธอจะมีความสุข " กรี๊ดดด!!!เขารัวนิ้วมือเข้าออกจนเธอต้านทานไม่ไหวกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม พร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานอาบนิ้วของเขามากมาย แล้วมาร์ตินแทนที่ผละออก แต่เขากลับก้มลงไปปาดเลียน้ำหวานของเธอดื่มกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ถ้าถามว่าเขาเคยทำแบบนี้กับใครไหม ตอบได้เลยว่าไม่ แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะทำด้วย แต่พอเห็นน้ำหวานของร่างบอบบางตรงหน้านี้แล้วมันทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องลงไปฉกชิมจนหมดทุกอยาดหยดแบบนี้ " อื้อ...อย่