共有

ลูกสาวผู้ถูกทอดทิ้ง

last update 最終更新日: 2025-12-01 13:54:15

          เมื่อทุกอย่างถูกตัดสินใจเป็นอันแน่นอนแล้ว สาวใช้ที่อยู่ในเรือนจึงส่งจดหมายรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งคำพูดของใต้เท้าเว่ยฉือที่เอ่ยกับเข่อซิงกับสถานการณ์ทางฝั่งฮูหยินไปให้เจ้านายของตนรับรู้ ไม่นานนักจดหมายจากเมืองหลวงได้มาถึงบ้านสวน

          "คุณหนู จดหมายจากเมืองหลวงมาถึงแล้วเจ้าค่ะ"

          "ขอบใจเจ้ามาก เจ้าไปทำงานของเจ้าเถิด" เว่ยซูเหม่ยบอกสาวใช้ ก่อนเปิดอ่านจดหมายเพียงลำพัง ครั้นอ่านจนจบน้ำตาของนางไหลเอ่อออกมาอาบสองแก้ม แม้คิดไว้แล้วว่าท้ายที่สุดบิดาของนางต้องตัดสินใจเช่นนี้ ทว่าคำพูดในจดหมายกลับทำให้รู้สึกโศกเศร้าเสียจนกลั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ไม่อยู่

          "ท้ายที่สุดแล้วคนที่ท่านเลือกที่จะถนุถนอมก็ไม่ใช่ข้าอีกเช่นเคย" 

          นางขยำจดหมายนั้นทิ้ง พลันใช้มือทั้งสองข้างปาดน้ำตา ไม่มีเวลาที่ต้องมาเสียใจกับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว ตอนนี้ควรเตรียมตัวกลับจวนถึงจะถูก แม้จะถูกทอดทิ้งสักกี่หน แต่เว่ยซูเหม่ยไม่อาจลืมความจริงได้ว่าคนที่ทอดทิ้งตัวเองเป็นบิดาแท้ ๆ ที่ในอดีตนางเคยเรียกว่าท่านพ่อด้วยความคะนึงหาและเฝ้ารอมาโดยตลอด

          หญิงสาวมองไปยังเรือนไม้หลังเล็กด้วยความผูกพัน แม้อยู่ที่นี่ไร้ความสะดวกสบายไม่มีบ่าวไพร่คอยดูแล เรื่องทุกอย่างในเรือนมีเพียงนางกับหวนปี้ที่ช่วยกันดูแล ทั้งสองคนจึงรักใคร่เปรียบดั่งพี่น้อง

          “คุณหนู ขึ้นรถม้าเถิดเจ้าค่ะ หากไปช้ากว่านี้อาจถูกนายท่านดุนะเจ้าคะ”

          “ไปช้าหรือเร็ว ข้าไม่เห็นว่าจะต่างกันตรงไหน สุดท้ายก็ไม่มีใครมารอรับข้ากลับไปอยู่ดี” สิ้นคำตอบ หวนปี้เดินมากุมมือนางเอาไว้

          “ออกเดินทางได้” หวนปี้บอกคนขับรถม้า เมื่อทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าเรียบร้อยแล้ว รถม้าค่อย ๆ เคลื่อนที่จากบ้านสวนในชนบทไปอย่างช้า ๆ กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วยามล้อหยุดหมุนจอดเทียบท่าหน้าจวนตระกูลเว่ย

          เว่ยซูเหม่ยก้าวเท้าลงจากรถม้าพร้อมกับความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา มีทั้งความรู้สึกเศร้า เสียใจ ดีใจ และว่างเปล่าปะปนกันไปหมดจนทำให้นางไม่รู้ว่าควรรู้สึกเช่นไรก่อนดี สิบสองปีมาแล้วที่ต้องจากเรือนนอนของตัวเองมุ่งสู่ชนบทแสนทุกข์ยาก แม้อยากกินของดี ๆ สักอย่างยังไม่อาจทำได้เลย

          “ท่านพี่ ข้าได้ยินว่าท่านจะกลับมาวันนี้ ข้าเลยมารอท่านอยู่ที่นี่” เสียงของเว่ยเข่อซิงดังขึ้น ทำให้นางหลุดจากภวังค์และหันไปสนใจยังต้นเสียงแทน

          “เข่อซิง ไม่เจอกันเสียนาน บัดนี้เจ้าเติบใหญ่ขนาดนี้เชียวรึนี่”

          “สิบกว่าปีมานี้ ไม่มีวันใดที่ข้าไม่นึกถึงท่าน”

          “ข้าก็เช่นกัน ว่าแต่เจ้ามายืนรอข้าเช่นนี้ไม่กลัวถูกฮูหยินเว่ยดุเอาหรือ” นางเอ่ยถึงเหลียงเฟยฮุ่ยที่แต่งเข้าจวนมานับตั้งแต่มารดานางเสียชีวิต

          “ท่านแม่มัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการจัดเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับท่านกลับมา ไม่มีเวลามาสนใจข้าหรอกเจ้าค่ะ”

          “นางน่ะหรือจัดงานเลี้ยงต้อนรับข้า”

          “เจ้าค่ะ ท่านพี่กลับมาอยู่จวนสักทีเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องจัดงานเลี้ยง”

          “เข่อซิง ข้ารู้สึกเพลียนิดหน่อย ข้าขอกลับเรือนก่อนแล้วกันเอาไว้วันหลังหากเจ้ามีเวลาค่อยมาหาข้าที่เรือนดีรึ่ไม่”

          “ให้ข้าไปส่งไหมเจ้าคะ”

          “ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเสียเรือนที่ข้าอยู่คงเป็นเรือนเดิมอยู่แล้ว”

          “ท่านพี่”

          “เจ้าไม่ต้องมองข้าด้วยสายตาเวทนาเช่นนั้น ข้าชินแล้ว”

          ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ที่เรือนหลังเก่าท้ายจวน ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบไร้ความวุ่นวายจากสายตาผู้คน บรรยากาศแสนคุ้ยเคยพลันทำให้คิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ในวัยเด็ก

          วันเกิดตอนนางอายุได้ห้าขวบ แม่นมไห่นำขนมกุ้ยฮวาจากในครัวมาให้นางเพื่อฉลองวันเกิด แทนที่ทั้งสามคนจะได้กินขนมนี้อย่างที่ตั้งใจไว้ แต่กลับได้กินเพียงหมั่นโถวเท่านั้น

          “เจ้าเป็นแม่นมของคุณหนูใหญ่ใช่รึไม่”

          “ใช่ มีอะไรงั้นหรือ”

          “ขนมกุ้ยฮวานี้เจ้าคงจะนำไปให้นางสินะ” สาวใช้คนนั้นเหยียดตามอง ก่อนจะปัดขนมที่อยู่ในมือแม่นมไห่ทิ้งต่อหน้าต่อตาเว่ยซูเหม่ย

          “นี่เจ้าทำอะไร!”

          “นางเป็นเพียงตัวกาลกิณี เจ้าว่าเหมาะสมแล้วหรือที่นางจะได้กินขนมกุ้ยฮวานี้”

          “เจ้าเป็นเพียงสาวใช้ แต่กลับกล้ารังแกคุณหนูเช่นนี้เห็นทีเจ้าคงไม่กลัวตายแล้วกระมัง”

          “เจ้าน่ะสิที่รนหาที่ตาย สตรีเช่นนางได้กินเพียงหมั่นโถวก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว” เสียงฮูหยินเว่ย ที่ได้ชื่อว่าเป็นมารดาเลี้ยงของนางดังขึ้น ด้านหลังของนางมีสาวใช้ถือหมั่นโถวอยู่ในมือ

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   ตอนจบ

    “ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าทำเรื่องอำมหิตเช่นนี้ เสียทีที่ข้ารับเจ้าเข้าจวนมา หย่งเจิ้ง ขังนางไว้ที่เรือน” หลังจากได้อยู่ด้วยกันตามลำพังนางได้เข้าไปนั่งใกล้เขา “ดูจากที่ตาของเจ้าบวมเป่งเช่นนี้ คงเอาแต่ร้องไห้ใช่รึไม่” เขาว่าพลางยันตัวขึ้นนั่งแล้วใช้มือลูบหัวนางแผ่วเบา “ข้าคิดว่าท่านจะไม่ฟื้นขึ้นมาเสียแล้ว ท่านหมดสติไปตั้งหลายวัน” “ข้อต้องฟื้นอยู่แล้ว เพราะข้ามีคนสำคัญที่ต้องปกป้อง” “อะ แฮ่ม ท่านโหวจะให้จัดการนักฆ่าที่รอดชีวิตอย่างไรดีขอรับ” “จับเข้าคุกหลวงให้หมด ข้าจะยื่นกีฎาให้ฮ่องเต้เป็นผู้ตัดสิน” “แล้วเรื่องฮูหยินเว่ยที่สมคบคิดกับแม่นางเหลียวล่ะขอรับจะให้จัดการเช่นไร” “ข้าจะเป็นคนจัดการเอง” เว่ยซูเหม่ยมองป้ายหน้าจวนตระกูลเว่ยด้วยความรู้สึกดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร ในที่สุดคนชั่วช้าอย่างเหลียงเฟยฮุ่ยถึงคราที่ต้องได้รับกรรมที่นางก่อเสียที “ฮูหยินเว่ย อยู่ที่ใด” “อยู่ข้างในเจ้าค่ะ ฮูหยิน” แม่นมจ้าวออกมาต้อนรับนางด้วยรอยยิ้ม “ที่เรื่องทุกอย่างจบลงเช่นนี้ได้ก็เพราะแม

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   ปกป้องด้วยชีวิต

    สุดท้ายแล้วเว่ยซูเหม่ยก็ไม่ได้ทิ้งรองเท้าคู่นั้น ด้วยเหตุผลที่ว่ารองเท้าของนางเริ่มเก่าแล้ว หากจะทิ้งก็เสียดายจึงได้เก็บกลับมาด้วย “ฮูหยิน ท่านไปให้ช่างทำรองเท้าให้ใหม่ตั้งแต่เมื่อใดกัน ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องล่ะเจ้าคะ” “ใช่ที่ไหนกัน มีคนนำมาให้ข้าน่ะ” “หรือว่าคนผู้นั้นคือท่านโหว” “เจ้ารู้ได้อย่างไร” “เมื่อไม่กี่วันก่อนบ่าวคนสนิทของท่านโหวมาถามขนาดเท้าของท่านกับข้า จะเป็นผู้ใดได้ล่ะเจ้าคะหากไม่ใช่ท่านโหว” “หวนปี้ เจ้าช่างฉลาดหลักแหลมยิ่งนัก” “เพราะข้าได้ท่านมานั่นแหละเจ้าค่ะ” “งั้นรึ” สองนายบ่าวหัวเราะขบขัน “ฉีเยว่ เจ้าบอกพ่อบ้านต่งแล้วหรือยังว่าพรุ่งนี้ให้เตรียมรถม้าไว้ให้ข้าด้วย” “บ่าวบอกเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” “ทำไมเจ้าถึงได้ทำสีหน้าเคร่งเครียดเช่นนี้ มีเรื่องอะไรงั้นหรือ” “บ่าวแค่รู้สึกกังวลนิดหน่อยเจ้าค่ะ” “เจ้าจะกังวลไปไย พรุ่งนี้ข้ากับหวนปี้แค่ไปดูทำเลเปิดร้านใหม่เท่านั้นเอง” “แต่ฮูหยินออกไปโดยไร้คนติดตามนะเจ้าคะ จะไม่ให้เป็นห่วงได้เ

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   ข้าไม่อยากได้รองเท้าอัปลักษณ์คู่นี้

    “วางใจเถิดเจ้าค่ะ แม้คนของข้าจะทำงานพลาดก็ไม่อาจสาวถึงพวกเราได้” “เช่นนั้นข้าจะลองเชื่อใจเจ้าดู” “หมดธุระแล้ว ข้าขอตัวก่อน” “ฮูหยิน ท่านเชื่อใจแม่นางเหลียวจริงหรือ หากแผนที่นางวางไว้ไม่สำเร็จล่ะเจ้าคะ” “แม่นมจ้าว เรื่องนี้ข้าคิดหาทางออกไว้อยู่แล้ว ถ้าแผนของนางล้มเหลวข้าก็แค่ปลิดชีพนางทิ้งเสีย เท่านี้เรื่องทุกอย่างก็ไม่อาจสาวมาถึงข้าได้” “ฮูหยิน ท่านช่างฉลาดนัก” “เจ้าเพิ่งรู้หรือ ฮ่า ๆ ๆ ๆ” นางหัวเราะร่าราวกับเป็นผู้คุมเกม ทั้งที่ตัวเองเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น ตั้งแต่เปิดหอเหม่ยปี้มาร้านปักเย็บของเว่ยซูเหม่ยก็ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะลายปักที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ช่วยดึงดูดชนชั้นสูงเข้ามาเป็นลูกค้าได้ไม่ขาดสายจนทำให้นางมีรายได้มากพอที่จะเปิดร้านปักเย็บอีกแห่งแถวชานเมือง “ขออภัยที่ข้ามาช้า” “ไม่เป็นไรเลยเจ้าค่ะ คุณชาย ที่ร้านยุ่งพอดี” “ถึงอย่างไรข้าก็มาสายจนพลาดพาแม่นางไปหาทำเลเปิดร้านอีกแห่ง” “เรื่องเล็กน้อยเท่านี้เอง ไว้โอกาสหน้าค่อยไปก็ได้เจ้าค่ะ” “แล

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   รู้สึกอย่างที่นางรู้สึก

    สืออันหลงยอมปล่อยมือจากชายหนุ่มตรงหน้า หลังข่มอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ได้แล้ว “คุณชายหยวน เจ็บตรงไหนหรือไม่” “ข้าไม่เป็นไร” “คุณชาย ท่านกลับไปก่อนเถิด” “แล้วข้าจะมาใหม่ ส่วนภาพวาดฝากแม่นางดูแลด้วยนะขอรับ” “ข้าจะเก็บรักษาอย่างดีเจ้าค่ะ” ได้ยินดังนั้นหยวนชางเจี้ยนจึงกลับไปแต่โดยดี ผิดกับเขาที่มองมาที่นางราวกับโกรธแค้นนางนักหนา “นี่สินะ คือเหตุผลที่เจ้าอยากหย่ากับข้าใจจนจะขาด” เขากัดฟันพูด ยามอยู่ด้วยกันตามลำพังในเรือนของนาง ในหูยังได้ยินน้ำเสียงอ่อนนุ่มเป็นห่วงเป็นใยบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เขา “ข้าไม่ยักรู้ว่าท่านโหวผู้สูงส่งอย่างท่านจะรู้จักพาลด้วย ข้าจะบอกท่านให้ว่าเรื่องนี้หาได้เกี่ยวข้องกับคุณชายหยวน” “ไหนเจ้าบอกว่ารักข้า แล้วทำไมเจ้าถึงได้เปลี่ยนใจเร็วเช่นนี้” “ท่านเข้าใจผิดแล้ว ตอนนี้ข้าไม่ได้รู้สึกกับท่านเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว ที่จริงข้าต้องขอบคุณท่านโหวที่ทำให้สตรีโง่งมเช่นข้าตาสว่าง” “อย่าพูดเช่นนี้ให้ข้าได้ยินอีก!” “ทำไมหรือเจ้าคะ ท่านจะสั่งกักขังข้างั้นรึ”

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   เรื่องที่ควรรู้

    หลังจากเว่ยซูเหม่ยหายจากอาการป่วยจึงได้ถามข่าวคราวของฮูหยินเว่ยที่ตนเคยละเลยไปเพราะแต่ก่อนมัวแต่ตกอยู่ในห้วงของความรัก “คนของเราบอกว่าอีกสองวันข้างหน้านางจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมเจ้าค่ะ” “ตระกูลเหลียงน่ะหรือ” “เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นข้าควรเตรียมของขวัญต้อนรับนางกลับบ้านเสียหน่อย เจ้าว่าดีรึไม่” “ฮูหยิน คิดจะทำอะไรหรือเจ้าคะ” นางกระซิบข้างหูสาวใช้คนสนิท “ฝากเจ้าไปจัดการด้วยก็แล้วกัน จำไว้ว่าอย่าฆ่านางเป็นอันขาด” “ทำไมล่ะเจ้าคะ” “เพราะข้าจะทำให้นางมีชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าการตายซะอีก พอถึงตอนนั้นข้าจะให้นางเลือกว่าอยากอยู่หรือตายมากกว่ากัน” คล้อยหลังหวนปี้ไปได้ไม่นานเหลียวลี่อินก็โผล่หน้ามาหานางถึงที่เรือน “เจ้าหายป่วยแล้วมิใช่รึ แล้วใดต้องให้ท่านโหวมาหาที่เรือนทุกวันด้วยเล่า” “พูดเรื่องอะไรของเจ้า” “นี่อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้ หึ น่าขันนัก!” “เหลียวลี่อิน เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดมาตามตรงเถิด ไม่จำเป็นต้องแกล้งพูดหลบเลี่ยงไปมาเช่นนี้” “

  • เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ   อาการป่วย

    “เจ้ารีบไปเรียกท่านหมอมาดูอาการฮูหยินเร็วเข้า! ฮูหยินท่านอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะเจ้าคะ” ท้ายประโยคหันไปพูดกับเว่ยซูเหม่ยที่นอนตัวสั่นอยู่ทั้งน้ำตา “ข้ามาขอพบท่านโหว” ฉีเยว่เอ่ยบอกสาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าเรือน “เจ้าคิดว่าท่านโหวเป็นผู้ใด ถึงได้คิดมาขอพบง่าย ๆ เช่นนี้” “ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกท่านโหว ได้โปรดเถิด” “กลับไปเสีย! ตอนนี้ท่านโหวกำลังยุ่งอยู่” เสียงสาวใช้ทั้งสองทะเลาะกันเสียงดังจนได้ยินไปถึงด้านใน ท่านโหวหนุ่มจึงได้ให้หย่งเจิ้งออกมาดู “พวกเจ้าสองคนเอะอะโวยวายอะไรกัน ไม่รู้รึว่าท่านโหวต้องใช้สมาธิ” “ก็นางน่ะสิเจ้าคะ ข้าบอกไปหลายหนแล้วว่าท่านโหวกำลังยุ่ง แต่นางไม่ยอมฟัง” “ข้ามีเรื่องด่วนที่ต้องบอกท่านโหว” “เจ้าคือสาวใช้ของเรือนฮูหยินนี่ มีเรื่องใดเกิดขึ้นงั้นรึ” “คือว่า ตอนนี้ฮูหยินไม่สบายอาการหนักเอาการ จำเป็นต้องเรียกท่านหมอมาดูอาการ แต่นางไม่ยอมให้ข้าเข้าไป” “วางใจเถิด ข้าจะไปบอกท่านโหวให้ประเดี๋ยวนี้” “ว่าอย่างไร ข้างนอกเกิดเรื่องอันใด” “ส

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status