Share

ตอนที่ 10 กล่องมหัศจรรย์

Author: Jiulin
last update Last Updated: 2024-12-15 11:05:06

“เยี่ยม!”

เจ้าอาวาสขมวดคิ้วมองนางนิ่ง ‘เด็กคนนี้คงไม่เล่นอะไรแผลงๆหรอกนะ’

จ้าวซูหลินรีบหยิบเอาของสิ่งนั้นในกล่องออกมาทันที ก่อนจะยื่นไปให้เจ้าอาวาสดู

“ท่านดูสิ เป็นตามที่ข้าขอจริงๆด้วย”

“หยึย! คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย”

“อะไรกันเจ้าคะ ก็แค่ตุ๊กแกตัวเดียวท่านกลัวทำไมกัน”

“มะ มันจะตัวใหญ่เกินไปไหม”

“น่ารักออก”

‘ตรงไหน’

“จะ…เจ้าไปเถอะ กลับไปได้แล้ว”

“ทำไมกัน ข้ายังมีเรื่องที่จะปรึกษาท่านอยู่นะเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นก็เก็บเจ้าสิ่งนั้นไปเสียก่อนสิ”

“น่ารักจะตายไป”

จ้าวซูหลินถึงจะบ่นๆไปแต่ก็ยอมเก็บตุ๊กแกตัวเขื่องลงในกล่องทันที

“เฮ้อ...เหตุใดเจ้าถึงได้ต่างจากนางนักนะ จ้าวซูหลินคนก่อนทั้งอ่อนโยนและขี้อาย แต่เจ้า…”

“ก็ข้าไม่ใช่นาง”

“มันก็ใช่”

“ข้าอยากรู้ว่าข้าจะได้กลับบ้านหรือไม่”

“มันอยู่ที่ชะตาลิขิต”

“เอาอีกแล้วอะไรๆก็ชะตาลิขิต ท่านพูดอย่างอื่นเป็นหรือไม่”

“ข้าพูดตามที่ข้าหยั่งรู้มาข้าอยู่ที่นี่เพื่อรอเจ้ามานานนับหลายปีแล้ว ต่อไปนี้ก็จะได้เป็นอิสระได้ออกไปทำตามสิ่งที่ข้าต้องการเสียที”

“ท่านจะไปไหนหรือเจ้าคะ”

“นางหนูเจ้าเองก็มีของวิเศษนี้แล้วอยากได้สิ่งใดก็ขอเพียงแค่ปรารถนาในใจ แต่ก็มีข้อจำกัดอย่าได้โลภมากอย่าได้คิดชั่วร้ายไม่เช่นนั้นกล่องนี้จะหายไปตลอดกาล”

จ้าวซูหลินมองกล่องในมือนิ่งก่อนจะเงยหน้ามองไปที่เจ้าอาวาสอีกครั้ง

“แล้วท่านจะไม่อยู่ที่นี่แล้วเช่นนั้นหรือเจ้าคะ”

“ข้าเองก็มีสิ่งที่ต้องทำ มีที่ที่อยากไปเช่นเดียวกันกับเจ้า”

“เฮ้อ…เช่นนั้นข้าขอบคุณที่ท่านตั้งหน้าตั้งตาอยู่รอข้านะเจ้าคะ”

“ก็บอกไปแล้วว่าเป็น…”

“พอแล้วเจ้าค่ะข้ารู้แล้ว”

‘อะไรๆก็ลิขิตสวรรค์อยู่นั่นล่ะ’

“ข้าจะไปส่งเจ้าเอง”

 “ข้าว่าข้าน่าจะจำทางออกได้เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นหรือ”

เมื่อจ้าวซูหลินเดินออกมาจากอารามก็พบซั่วอิงกำลังนั่งตบยุงอยู่เพียงลำพังใต้ต้นไม้ใหญ่

“พระสนมข้ารอท่านนานมากเลยนะเพคะ แล้วนั่นถืออะไรมาหรือเพคะ”

“กล่องไม้ของข้าน่ะ ข้าลืมมันเอาไว้เมื่อครั้งที่มาครั้งที่แล้ว พวกเรากลับกันเถอะ”

“พระสนม”

“อะไรอีก”

“ข้าว่าที่นี่แปลกๆนะเจ้าคะ”

“แปลกอย่างไร”

“ก็…”

จ้าวซูหลินหันมองไปรอบๆ ‘เหตุใดตอนที่มาถึงไม่เห็นจะมีต้นไม้เยอะเช่นนี้กันล่ะ’

“ข้าบอกแล้วว่าข้าจะไปส่งพวกเจ้าเองตามข้ามา”

จ้าวซูหลินจำต้องเดินตามเจ้าอาวาสไปทันทีโดยมีซั่วอิงเดินตามหลังนางไปติดๆ เดินกันไม่นานก็มาถึงตีนเขาเสียที

“ขอบคุณท่านเจ้าอาวาสมากนะเจ้าค่ะ”

“โชคดีล่ะนางหนูจำเอาไว้มีเพียงตัวเจ้าเท่านั้นที่จะพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นจงตั้งสติให้มั่นแล้วเจ้าจะพบหนทางออกในเรื่องนั้นเอง”

จ้าวซูหลินค้อมคำนับเจ้าอาวาสอีกครั้งแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับพบกลับความว่างเปล่า

“หายไปไหนแล้ว เร็วชะมัด”

“พระสนมไปกันเถอะเพคะ”

“อืม”

พวกนางเดินลัดเลาะป่ารกร้างก่อนจะเข้าสู่ตัวหมู่บ้าน เดินไปตามรั้วราชวังเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ยักษ์บานนั้น รอยยิ้มของจ้าวซูหลินที่ยิ้มมาตลอดทางก็ค่อยๆหุบลง

 “เฮ้อ… ข้าไม่อยากกลับเข้าไปข้างในเลยซั่วอิง”

“ทำอย่างไรได้ล่ะเจ้าคะพวกเราเป็นคนของวังหลวงแล้ว อีกอย่างท่านเป็นถึงพระสนมย่อมไม่มีทางที่จะออกจากวังหลวงแห่งนี้ได้”

จ้าวซูหลินเบ้ปากก่อนจะนั่งลงตรงขอบพักประตู

“เฮ้อ … ชีวิตของข้าช่างน่าเวทนายิ่งนัก”

“พระสนม ถึงอย่างไรท่านก็มีตำแหน่งย่อมอยู่ในวังได้สบายอยู่แล้วนะเพคะ”

“แล้วหากว่าฮ่องเต้ตายล่ะ เหล่าสนมเช่นข้าไม่ต้องตายตามไปด้วยหรอกหรือ”

พรู๊ดดด….~

ฮ่องเต้ที่นั่งรอคอยการกลับมาของนางอยู่บนหลังคามาเนิ่นนานนับหนึ่งชั่วยาม[1]เห็นจะได้ เขากำลังนั่งดื่มเหล้าองุ่นที่นางให้ไว้ก่อนจะออกไปนอกวังอยู่ แต่เมื่อได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ก็ทำเอาเขาสำลักเหล้าทันที

“นี่นางกล้าแช่งข้าเลยงั้นหรือ”

“ฝ่าบาทโปรดทรงระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ พระสนมอาจจะไม่ทันระวังอีกทั้งนางอาจจะคับแค้นใจที่ถูกทอดทิ้งเพียงลำพังที่ท้ายวังแห่งนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าก็ไม่ได้คิดจะลงโทษนางเสียหน่อย”

“ดูท่าทางพระสนมจะมีความสุขมากเมื่อออกจากวังนะพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“เจ้าจะพูดอะไร”

“ถ้าหากว่าฝ่าบาททรงปล่อยพระสนมไป..”

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรตามกฎหากนางไม่ได้ทำสิ่งใดผิดย่อมปลดนางจากตำแหน่งนี้ไม่ได้ หรือหากไม่ได้สร้างผลงานให้แก่วังหลวงย่อมไม่มีทางขอพระราชทานรางวัลจากข้าเพื่อออกจากวังได้เช่นกัน”

“เช่นนั้นก็ทำเสียสิพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“ฝ่าบาทเป็นเพียงคนเดียวที่จะปลดปล่อยนางได้หรือว่าความจริงแล้วฝ่าบาทเองก็ไม่อยากจะปล่อยพระสนมไปจริงๆล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้หันพระพักตร์ไปมององค์รักษ์คนสนิทของเขาทันที

‘ใช่ ในใจของข้าไม่อยากที่จะปล่อยนางไปเองนั่นล่ะ’

‘เฮ้อ….เหตุใดข้าถึงเป็นคนแบบนี้กันนะ’

- - - - - - - - - - 

[1] 1 ชั่วยาม = 2 ชั่วโมง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 32 คำอธิษฐานที่เป็นจริง

    -5 ปีผ่านไป-เทศกาลโคมไฟวนเวียนกลับมาในอีกรอบปีแล้ว แต่ปีนี้นั้นจ้าวซูหลินกลับรู้สึกว่าช่างเงียบเหงายิ่งนัก ในทุกๆปี นางจะนั่งชมโคมไฟรูปแบบต่างๆกับฮ่องเต้เสมอแต่มาปีนี้กลับต้องนั่งเหงาเดียวดายอยู่เพียงลำพัง“ฝ่าบาท หากชาติหน้ามีจริงขอให้พวกเรากลับมาพบกันอีกครั้งนะเพคะ”ฮ่องเต้ฮั่วจงสวรรคตไปเมื่อหนึ่งปีก่อนหลังเทศกาลโคมไฟของปีที่แล้วพอดี จ้าวซูหลินไม่อาจยื้อชีวิตพระองค์ได้อีกต่อไปแล้วอาจเพราะเครื่องมือที่มีไม่มากพอและตัวนางเองก็ไม่อยากทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแม้จะเป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่ฮ่องเต้ฮั่วจงต้องสวรรคตในวัยเพียงแค่สี่สิบชันษา และแม้นางอยากที่จะยื้อชีวิตให้เขาได้อยู่กับนางนานๆมากกว่านี้แต่นางก็ไม่อยากฝืนชะตาลิขิตอีกต่อไปได้เพียงแค่หวังว่าหากชาติหน้ามีจริง นางและเขาจะกลับมาพบกันในสถานะที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในชาตินี้ มีเพียงกันและกันและสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยไม่ต้องผิดต่อใคร-โรงเตี๊ยมฟู่อันหลง-เช้าวันนี้จ้าวซูหลินรู้สึกว

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 31 งานแต่งงาน

    ฮ่องเต้และฮองเฮาเดินเข้ามาในงานด้วยท่วงท่าสง่างามยิ่ง ฮ่องเต้นั้นสวมฉลองพระองค์ด้วยชุดสีเหลืองทองอร่ามปักลายมังกรงามสง่า ส่วนฮองเฮาสวมชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการตาปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทองทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความสูงค่าทรงสง่าดูมีท่วงท่าของพระมารดาของแผ่นดินเป็นอย่างมาก บนโถงพิธีมงคลเทียนสีแดงถูกจุดสว่างตำแหน่งเก้าอี้สูงมีฮ่องเต้และฮองเฮาประทับอยู่ ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางที่หลี่กงอี้เชื้อเชิญมาร่วมงานรวมตัวกันอยู่ไม่น้อย“ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว” ผู้ดูแลจวนเดินออกมายืนป่าวประกาศด้วยเสียงอันดังดนตรีมงคลก็เริ่มบรรเลง เกี้ยวเจ้าสาวหามมาถึงนอกประตูใหญ่ของจวนตระกูลหลี่แล้ว ซั่วอิงถูกประคองลงจากเกี้ยวขณะนั้นก็ได้ยินเสียงประทัดดังปึงปังความปีติยินดีเบิกบานลั่นทั่วทั้งท้องฟ้าพรมสีแดงถูกปูมาจนถึงใต้เท้าของนาง “เจ้าสาวมาแล้ว” มีคนร้องขึ้น ซั่วอิงถูกประคองมาถึงหน้าโถงรับแขก จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากจ้าวซูหลินสาวใช้สองคนประคองซั่วอิงซ้ายขวาเดินเข้ามาในพิธีชุดมงคลแดงปักท

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 30 หลี่กงอี้จะมีฮูหยินแล้ว

    เวลาล่วงเลยผ่านไปอีกปีแล้วจ้าวซูหลินยังคงอาศัยอยู่ในวังเพื่อถวายการรักษาฮ่องเต้อย่างต่อเนื่อง หลายๆครั้งที่นางพาฮ่องเต้แอบหนีออกจากวังเพื่อไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านในหลายๆหมู่บ้าน อะไรที่เขาไม่เคยทำจ้าวซูหลินก็พาทำหมดทุกอย่างหลี่กงอี้ที่เดิมทีเป็นกังวลเกี่ยวกับพระวรกายของฝ่าบาทแต่เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ยังคงแข็งแรงไปไหนมาไหนได้ไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเขาจึงไม่เอ่ยคัดค้านใดๆ ทำได้เพียงแค่ตามทั้งสองคนไปในทุกๆที่เท่านั้น“ท่านกงอี้”“แม่นางซูหลิน มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ”“เปล่าเสียหน่อยข้าเพียงแค่จะถามท่านว่าท่านไม่คิดจะแต่งงานบ้างหรือ”“ข้าหรือ?”“ใช่สิเจ้าคะ”“ข้าเห็นนะ ท่านแอบไปที่โรงเตี๊ยมของข้าบ่อยๆ”“อะไรกันนั่นข้าไม่ได้สั่งเสียหน่อย เจ้าไปที่นั่นทำไม? คงไม่ได้แค่ไปกินข้าวกระมัง”“อะเอ่อ ฝ่าบาทคือว่า”“ว่าอย่างไร อ้ำอึ้งอยู่ได้”“คือว่ากระหม่อม”“เจ้าชอบซั่วอิงงั้นหรือ แค่ช

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 29 มิตรภาพของสองเรา

    “ก็ฮองเฮาอย่างไรเล่าเพคะ คนที่มีอำนาจในวังหลังมากสุดก็คือฮองเฮา ลองใครกล้านินทาหม่อมฉันดูสิฮองเฮาต้องออกหน้าจัดการแทนแน่นอน”“แล้วการที่เข้ามาดูแลรักษาอาการของพระองค์มันผิดตรงไหนกัน ใครๆก็รู้ว่าหม่อมฉันเป็นหมอ”“ข้าไม่ได้ว่าอะไร กลัวก็เพียงว่าคนที่เจ้าชอบจะมองเจ้าไม่ดี”“หม่อมฉันไม่มีลูกตาให้มองใครแล้วนะเพคะ”“แล้วเจ้ามองใครอยู่หรือ”จ้าวซูหลินยิ้มเบาๆนางไม่ตอบคำถามนี้แต่กลับกำลังค้นหาขวดยาเพื่อนำมาให้ฮ่องเต้เสวยอีกครั้ง“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าข้ากินยาแล้วหรือ”“นั่นยาของหมอหลวง ส่วนนี่ของหม่อมฉัน”“ได้อย่างไรข้ากินแล้วนะ”“อย่าดื้อสิเพคะ หากท่านหายดีในเร็ววันหม่อมฉันจะพาพระองค์อบออกไปเที่ยวนอกวัง”“เที่ยวนอกวัง?”“ใช่แล้วเพคะ”“ไม่กี่วันข้างหน้าก็ถึงเทศกาลโคมไฟแล้วนะเพคะ หม่อมฉันอยากไปดูโคมไฟสวยๆ ฝ่าบาทก็ต้องไปกับหม่อมฉันด้วยนะเพคะ”จ้าวซูหลินยิ้มก่อนจะยื่นเม็ดยาที่นางสกัดออกมาเองใส่พระหัตถ์ของฝ่าบาทฮ่องเต้ถอนพระปัสสาสะเล็กน้อย‘เอาก็เอา อย่างน้อยถ้าหายดีก็จะได้พานางไปเที่ยวเล่

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 28 เด็กดื้อ

    “ท่านน่าจะบอกข้าให้รู้เร็วกว่านี้”“ก็ฝ่าบาทไม่ยอมให้ข้าบอกท่านนี่นา เอาแต่ขู่ข้าว่าหากข้าปากโป้งไปบอกท่านจะตัดหัวข้าทิ้งเสีย ข้าเป็นองค์รักษ์ไม่กลัวตายหรอกนะแต่ข้าเพียงแค่กลัวว่าจะไม่มีใครอยู่คอยดูแลพระองค์ก็เท่านั้นเอง”‘ไม่กลัวตายเลยจริงจริ๊ง’“ใช่สินะ ใครจะไปรู้พระทัยฝ่าบาทเท่าท่านกัน”“แต่ก็อย่างที่ข้าตำหนิท่าน หากบอกข้าเร็วกว่านี้อาการของฝ่าบาทก็จะไม่ทรุดลงเร็วเช่นนี้”“แล้วแม่นางซูหลิน ฝ่าบาทจะทรงหายดีใช่หรือไม่”“ท่านรู้จักข้ามานานรู้ใช่หรือไม่ว่าข้าไม่พูดโกหก แม้บางครั้งจะจำเป็นต้องโกหกก็ตาม”“ข้ารู้”“ฝ่าบาทร่างกายอ่อนแอลงอย่างมากสุดก็ห้าปี”“ห้าปีงั้นหรือ”“พอจะจัดการอะไรๆ ได้ใช่หรือไม่”“ข้านึกว่าจะไม่นานเพียงนั้น”“ท่านกงอี้!”“ข้าพูดเรื่องจริงทั้งไทเฮาและฮองเฮาต่างก็วิตกเพราะรัชทายาทเองก็อายุได้เพียงสิบชันษายังไ

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 27 หนทางที่นางได้เลือกแล้ว

    “สะ สนมซู ไม่ใช่ว่าเจ้าตายไปแล้วหรอกหรือ แล้วเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่!”“ไทเฮา ฮองเฮา เรื่องนี้หม่อมฉันจะมาอธิบายทีหลังนะเพคะ ตอนนี้ให้หม่อมฉันตรวจอาการของฝ่าบาทก่อน”“เจ้ารักษาคนเป็นหรือ”“ฮองเฮาที่กระหม่อมพาพระสนมมาก็เพราะว่านางมีฝีมือทางการแพทย์พ่ะย่ะค่ะ เห็นสมควรให้นางลองรักษาฝ่าบาทไม่ดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ”ฝ่าบาทที่เดิมกำลังจะบรรทมต่อเพราะฤทธิ์ยาที่หมอหลวงให้กิน แต่ก็ต้องตื่นตกใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่าจ้าวซูหลินมาที่นี่‘มาได้อย่างไร?’ฮ่องเต้รีบทอดพระเนตรดูคนตรงหน้าทันที‘ชัดเลย จ้าวซูหลินจริงๆ! ต้องเป็นเจ้าบ้าหลี่กงอี้แน่ๆ อยากหัวหลุดจากบ่ามากหรืออย่างไรกัน’หลี่กงอี้ที่เหมือนจะรู้ตัวว่ามีสายตาอาฆาตจากฝ่าบาทมุ่งมาทางเขาก็รีบหลบไปที่หลังของจ้าวซูหลินทันที นางแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆหลี่กงอี้ก็มาหลบที่หลังของนางแต่เมื่อหันไปมองดูคนบนเตียงก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!“ตะ…ใต้เท้า!”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status