พ่อบ้านของคฤหาสน์แอเรียนารีบเดินออกไปต้อนรับบารอนแห่งคอนเนอร์ในทันที
“คุณหนูออกไปข้างนอกครับท่านบารอน ส่วนท่านดัชเชสไม่อยู่ที่นี่ ข้าจะแจ้งเรื่องการมาเยือนของท่านบารอนให้คุณหนูทราบนะครับ” ลีออนรู้สึกเสียดายมากทีเดียว เขาอยากจะมาพบเจอกับโอฟีเลียตัวจริงที่ไม่ใช่โอฟีเลียในรูปวาด เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่เห็นภาพวาดที่แกรนด์ดัสเชสส่งมาให้ ยิ่งได้รู้ว่าโอฟีเลียดูแลคฤหาสน์แอเรียนาตั้งแต่อายุยังน้อยเพียงคนเดียว มันยิ่งทำให้ลีออนประทับใจในความเก่งกาจของสตรีผู้นี้ เสียดายที่เขาและเธอไม่ได้พบเจอกัน เขารีบร้อนมาที่นี่เพราะได้รับจดหมายจากแกรนด์ดัชเชส เป็นข้าเองที่เสียมารยาท คราวหน้าข้าจะนัดวันล่วงหน้านะครับ ฝากจดหมายฉบับให้ไว้ให้เลดี้แอเรียนาด้วยนะครับ ครั้งหน้าข้าจะเดินทางมาที่นี่ในสภาพที่พร้อมมากกว่านี้” พ่อบ้านวัยชราก้มหน้าลง “ครับท่านบารอน คฤหาสน์แอเรียนายินดีต้อนรับท่านเสมอ” รถม้าที่ใหญ่โตและทำมาจากเหล็กกล้าชั้นดี ได้วิ่งออกไปจากคฤหาสน์แอเรียนา คาลอสเดินเข้าไปหาพ่อบ้านด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “คุณชายท่านนั้นมาหาคุณหนูอย่างนั้นหรือครับ” พ่อบ้านวัยชราพยักหน้า “ปีนี้คุณหนูก็อายุ 18 แล้ว อีกไม่กี่เดือนที่พระราชวังจะมีการจัดงานเลี้ยงบรรลุนิติภาวะของเลดี้ชนชั้นสูง ท่านแกรนด์ดัชเชสได้ส่งชื่อของคุณหนูไปร่วมงานที่พระราชวังเรียบร้อยแล้ว” งานเลี้ยงพิธีบรรลุนิติภาวะนั้นจัดขึ้นมาเพื่อประกาศอย่างเป็นนัยๆ ว่าสตรีผู้ที่เข้าร่วมพิธี ถึงวัยอันสมควรที่จะแต่งงานแล้ว เขาไม่คิดว่าโอฟีเลียจะไปร่วมงานเลี้ยงไร้สาระเช่นนั้นเพราะวันๆ นางมุ่งมั่นเอาแต่หาเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “แล้ว..ท่านดัชเชสไม่ว่าอะไรอย่างนั้นหรือครับ ข้าเห็นว่าท่านดัชเชสไม่ชื่นชอบให้คุณหนูเข้าสังคมเท่าไหร่นัก” พ่อบ้านพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียดเมื่อได้ยินคำถามนั้น และเพราะว่าคาลอสในสายตาของพ่อบ้านเขาคือบุรุษที่ท่านดัชเชสพาเข้ามาที่นี่ พ่อบ้านจึงค่อนข้างไว้ใจคาลอสมากทีเดียว “เรื่องนั้นท่านดัชเชสไม่รู้ และเจ้าก็ไม่ควรบอกท่านดัชเชสด้วย คุณหนูจำเป็นจะต้องแต่งงานในสักวันหนึ่ง ข้ารับใช้อย่างเราทำได้เพียงสนับสนุนแนวคิดที่ถูกต้องของท่านแกรนด์ดัชเชสเท่านั้น” คาลอสหยักยิ้มขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร เขาพยักหน้าเพื่อเป็นเชิงว่าเข้าใจ โอฟีเลียไม่สมควรไปงานเลี้ยงไร้สาระพวกนั้นแม้แต่นิดเดียว ด้วยใบหน้าของนางแล้วหากไปที่นั่นคงจะเป็นเลดี้ที่ถูกขอเต้นรำมากที่สุดอย่างแน่นอน ให้ตายสิ..เขาไม่อยากจะทำเช่นนี้หรอกนะ แต่เพราะว่าเขาจะตกที่นั่งลำบากหากว่านางไปอยู่ในมือของบุรุษผู้อื่นน่ะ “ข้าเห็นกับตาเลยนะครับว่าบารอนท่านนั้นเดินทางเข้ามาเพื่อแสดงตัวว่าจะเป็นคู่ควงของคุณหนู เขามีท่าทางของคนเจ้าชู้อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ข้าหวั่นใจมากเหลือเกินว่าคุณหนูผู้แสนน่ารักของเราจะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมที่แสนแพรวพราวของบุรุษท่านนั้น..” ใบหน้าของดัชเชสเอเวียดำคล้ำขึ้นมาในทันที “นี่พี่สาวของข้า จัดแจงเรื่องการส่งโอฟีเลียไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่พระราชวังอย่างนั้นหรือ? ทั้งๆ ที่หากลูกสาวข้าไปที่นั่นอาจจะถูกข่าวลือของข้าในอดีตเล่นงานเอาก็ได้ ทุกคนจะต้องชี้นิ้วไปที่นางแล้วกล่าวว่านางคือบุตรีที่เกิดจากสตรีที่หย่าร้าง..ให้ตายเถอะพี่สาวของข้าคิดอะไรอยู่กันนะ” คาลอสกระตุกยิ้มที่มุมปาก “แต่ถึงอย่างนั้นท่านแกรนด์ดัชเชสก็ส่งชื่อของคุณหนูไปร่วมงานแล้วนี่ครับ ข้าไม่อยากจะกล่าวเช่นนี้เท่าไหร่ แต่ในเมื่อชื่อของคุณหนูถูกส่งไปที่พระราชวังแล้ว จะไม่ไปร่วมงานก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ..ข้าสงสารท่านดัชเชสและเป็นห่วงคุณหนูในเรื่องนั้นมากทีเดียว สตรีที่มีใบหน้างดงามเช่นคุณหนูจะต้องมีบุรุษมากมายเข้าหาอย่างแน่นอน..” เอเวียยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เธออยากจะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงกับลูกสาวมากทีเดียว แต่หากว่าเธอปรากฏตัวขึ้นในงานก็มีแต่จะทำให้ผู้คนจ้องมองที่โอฟีเลียมากขึ้นเท่านั้น ท่านพี่เอสเทียก็สุขภาพไม่ค่อยดี ไม่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ ส่วนหลานชายของเธอ อาม่อนเป็นพวกไม่ได้เรื่องเท่าไหร่นักจะฝากเขาดูแลโอฟีเลียก็ไม่ได้เรื่องอย่างแน่นอน เธอควรจะทำเช่นไรดีนะ..ในแววตาที่มีความห่วงใยคละเคล้ากับความเจ็บปวดนั้นกวาดตามองไปรอบๆ อย่างใช้ความคิด แล้วสายตาของเอเวียก็มาหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของเธอ “เจ้าไงคาเซล เจ้าไปร่วมงานกับโอฟีเลียได้นี่นา..” คาลอสแสร้งทำหน้าตกใจ ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงเล็กน้อย “เป็นข้าจะดีอย่างนั้นหรือครับ จะให้คุณหนูควงคู่กับทาสที่ไร้ยศศักดิ์เช่นข้าเข้าไปในงานเลี้ยงพิธีบรรลุนิติภาวะ นั่นไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมเลยครับท่านดัชเชส” ที่เขากล่าวมานั้นก็มีเหตุผล บอกตามตรงว่าเธอมองเด็กหนุ่มผู้นี้มานานมากทีเดียวก่อนที่จะลงมือล้างสมองของเขา เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสตรีและตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง จะเป็นสามัญชนหรือว่าเป็นอะไรเธอก็ไม่สนใจหรอก เธอแค่ต้องการบุรุษที่รักลูกสาวของเธอจริงๆ เท่านั้นเอง ไม่ต้องมียศศักดิ์สูงส่งแค่รักโอฟีเลียเพียงผู้เดียวเท่านั้นก็พอ “ข้าจะประกาศออกไปว่าเจ้าคือคู่หมั้นของนาง แบบนั้นดีหรือไม่ ข้ามีญาติห่างๆ อยู่ทางใต้ของจักรวรรดิ บอกกล่าวไปว่าเจ้าคือลูกชายของพวกเขา” คาลอสยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ “แล้วคุณหนูจะยินดีอย่างนั้นหรือครับ..” “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ข้ารู้ดีมากกว่าใคร ว่าเจ้าหวังดีกับโอฟีเลียมากที่สุด และนางเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังคำของข้า ข้าบอกว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของนาง นางย่อมขัดใจข้ามิได้..” คาลอสระบายยิ้มหวานออกมา เขาคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมกับก้มหน้าลง “ขอบคุณนะครับท่านดัชเชสที่ท่านเชื่อใจข้า ข้าจะปกป้องและดูแลคุณหนูเองครับ เพราะสำหรับข้าแล้วคุณหนูสำคัญมากที่สุดเลยครับ..” เอเวียยกยิ้มขึ้นมา “เรื่องนั้นข้ารู้ รีบไปรอรับโอฟีเลียที่ด้านล่างเถอะ อ่อ..บอกพ่อบ้านให้มาหาข้าด้วย ข้าจะให้เขาเขียนจดหมายเพื่อปฏิเสธบารอนจอมเจ้าชู้คนนั้นไปซะ” เบนจามินรายงานมาว่าสาเหตุที่ดัชเชสและดยุคหย่ากันคือท่านดยุคไม่ได้แสดงความรักกับดัชเชสมากพอสมควร แต่เมื่อหย่ากันท่านดัชเชสมารู้ทีหลังว่าท่านดยุคนอกใจและมีบุตรนอกสมรสเก็บซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดทีเดียว เพราะแบบนั้นบุรุษที่ท่านดัชเชสไม่ชอบใจคือพวกคนเจ้าชู้ล่ะ แต่บารอนคอนเนอร์เป็นคนดีมากเกินไป ข่าวลือตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็มีแต่สรรเสริญ เยินยอหมอนั่น เขาจำเป็นที่จะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่าบารอนเป็นคนเจ้าชู้ แค่บอกว่าดูเหมือนคนเจ้าชู้เท่านั้นเอง สาบานได้เลยว่าเขาไม่อยากทำแบบนี้ ไม่อยากจะใส่ร้ายใครเลยจริงๆอีกสามเดือนต่อมาหลังจากที่องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีทรงจัดงานอภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ ก็มีงานแต่งงานของเลดี้ แอเรียนาและเคาน์แห่งอัคราฟในปีนั้นถือเป็นปีที่มีงานที่แสนยิ่งใหญ่หลายงานมากทีเดียว“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าจูเลียนจะตั้งครรภ์ก่อนเรา พระเจ้าช่วยนี่ข้ากำลังรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้ต่อมาร์โค”ข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินีถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหลังจากพิธีอภิเษกผ่านพ้นไปเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น คาลอสแทบจะนั่งไม่ติดเพราะเขาคิดว่าเขาน่าจะมีบุตรคนแรกก่อนองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก แต่มันกลับกลายเป็นว่าจูเลียนตั้งครรภ์ก่อนโอฟีเลีย หรือว่าร่างกายของเขามันจะมีปัญหากันนะ?โอฟีเลียมองสามีของเธอด้วยความรู้สึกนึกขำอยู่ในใจ“เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาที่เหมาะสมลูกของเราก็น่าจะมาเอง ท่านไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่คะที่รัก..”หลังกล่าวจบเธอก็หอมแก้มเขาด้วยความมันเขี้ยว ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้วถึงสองฤดูแต่ท่านแม่ของเธอยังคงสุขภาพแข็งแรงดีอยู่ หลังจากที่จูเลียนแต่งงานท่านแม่ก็เริ่มกลับมาเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และในยามนี้ท่านแม่ของเธอคือท่านหญิงเอเวียที่เก่งกาจเรื่องกา
ครั้งแรกที่เขามองเห็นใบหน้านั้น เมื่อเขามองทอดออกไปยังสวนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีเรือนผมสีทองสว่าง เธอกำลังฮัมเพลงในขณะที่มือทั้งสองข้างจับไม้กวาดแล้วเริ่มกวาดใบไม้ในสวนที่แสนกว้างใหญ่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ สตรีผู้นั้นคือบุตรนอกสมรสของเซอร์เกรท เธอคือนางเอกของเรื่องนี้ และใบหน้านั้นแสนงดงามสมกับตำแหน่งนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาอยู่ในร่างขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ที่มีอนาคตจะต้องตายได้อย่างไรกัน แต่ในเมื่อเขาเข้ามาอยู่ในนิยายที่เคยอ่านเช่นนั้นเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะหาทางเอาชีวิตรอดความตาย เขาคิดแบบนั้นจนตัวเองได้ลิ้มรสการมีอำนาจในครั้งแรก ใช่แล้ว..คนจำนวนมากก้มหัวให้เขาในช่วงเวลาที่เขาเดินผ่าน คำสรรเสริญเยินยอพวกนั้นทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับตำแหน่งองค์จักรพรรดิ และนั่นทำเขารู้สึกโลภขึ้นมา เขาอยากจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นทำให้เขาใช้ความคิดมากมายเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นองค์จักรพรรดิต่อไป และคนที่เขาจะสามารถพึ่งพาได้นั่นก็คือจูเลียน นางเอกของเรื่องนี้ ความประทับใจจากครั้งแรกที่เราพบเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นมีการเรียกประชุมสภาขุนนางอย่างเป็นการเร่งด่วน แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อคืนทำให้ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้มีการผลัดเปลี่ยนองค์จักรพรรดิ อีกทั้งเรื่องกำหนดระยะเวลาของการครองราชย์องค์จักรพรรดิตัวแทนอย่างองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ก็เลยกำหนดมามากแล้ว เหล่าขุนนางมองเห็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขององค์รัชทายาท การแสดงตัวเพื่อปกป้องและเยียวยาผู้เสียหายทำให้เหล่าขุนนางอดชื่นชมความเก่งกาจและมีน้ำใจของพระองค์มิได้“กระหม่อมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่จะจัดงานราชาภิเษกขึ้นมา จะได้เรียกความเชื่อมั่นในราชวงศ์ของประชาชนกลับมา..”คาลอสเข้าร่วมประชุมในฐานะของท่านเคาน์แห่งอัคราฟ เขากำลังมองดูท่าทีขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์อยู่ พระองค์มิกล่าวคำใดออกมาเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพราะเรื่องราวที่กำลังกดดันพระองค์อยู่นี้มันทำให้พระองค์หาวิธียืดเยื้อต่อไปอย่างยากลำบาก“พวกท่านอย่าพึ่งกดดันเสด็จอาเลยครับ เรื่องพิธีราชาภิเษกรออีกหน่อยก็ได้ ระหว่างนี้พวกเราก็ช่วยกันจับตาดูพวกชาวบ้านไม่ให้ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านราชวงศ์ก็พอ..”คำกล่าวนั้นของมาร์โคถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจียมตัวแต่มันคือการเน้น
มาร์โคเดินกลับมาที่แอเรียนาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเนื้อย่างเสียบไม้ในมือ ที่สวนด้านหน้าของคฤหาสน์เขามองเห็นเพียงแค่เลดี้แอเรียนาเท่านั้น“นักบุญหญิงผู้นั้นนางหายไปไหนแล้วครับ..ข้าซื้อของมาฝากนางด้วย อ่อ..แล้วก็มีในส่วนของเลดี้ด้วยนะครับ”โอฟีเลียสูดลมหายใจเขาลึกๆ“เรามาพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมาดีไหมเพคะองค์รัชทายาท”น้ำเสียงและท่าทีของเธอมันเริ่มเปลี่ยนไปในทันที นั่นทำให้มาร์โครับรู้ได้เลยว่าจะต้องมีเรื่องที่เคร่งเครียดรอเขาอยู่อย่างแน่นอน“ได้เลยครับ เลดี้มีเรื่องอะไรจะกล่าวก็พูดแบบตรงไหนตรงมาได้เลย..”โอฟีเลียไม่อ้อมค้อมเธอเริ่มพูดคุยเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปเพื่อให้มาร์โคได้รับฟังอีกด้านหนึ่งของงานเทศกาล คาลอสพาจูเลียนเดินทางไปยังท่าเรือของแอเรียนา เขาส่งนางขึ้นเรือด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะไปรับเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เพราะอย่างนั้นดูแลตัวเองให้ดี..ให้เวลาเป็นเยียวยาในทุกความเจ็บปวดของเจ้า.”จูเลียนพยักหน้า เธอยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดท่านพี่คาลอสเอาไว้“ข้าจะกลับมาอีกครั้งในวันที่พี่ทั้งสองคนแต่งงานกันนะคะ..พี่คู่ควรกับท่านพี่โอฟีเลียผู้งดงามของข้ามากจริงๆ ทั้
จูเลียนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา เธอเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมองบุรุษที่ด่าเธอ และเมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเธอก็ขมวดคิ้วในทันทีองค์รัชทายาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เธอไม่พร้อมและไม่อยากจะพบเจอเขาในยามนี้เลย“ยื่นมือมาสิ ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง”เขายื่นมือมาให้เธอเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา แต่จูเลียนไม่คิดทำเช่นนั้น เธอพยุงตัวเองเพื่อลุกขึ้นด้วยตัวเอง“ขอบพระทัยเพคะ..หม่อมฉันสบายดี เพราะอย่างนั้นขอตัวก่อนนะเพคะ”มาร์โคมองนักบุญหญิงที่ปกตินางจะดูน่ารักและสดใสอยู่เสมอในยามที่นางอยู่ข้างกายของท่านอา แต่ทว่าในวันนี้นางกลับร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร คงเพราะว่านางไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ“ข้าไปด้วยสิ ดูจากที่เจ้ากำลังมุ่งหน้าเดินทางออกไปจากพระราชวังแล้ว แสดงว่าเจ้าจะต้องกำลังออกไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างแน่นอน ข้าก็อยากไปที่นั่นอยู่เหมือนกัน ดูสิข้าอุตส่าห์ปลอมตัวมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะ..พาข้าไปด้วยสิ”เธอมองหน้าเขาอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง“พระองค์...มีเงินไหมเพคะ..”มาร์โคหัวเราะออกมาเบาๆ“มีสิ มีเยอะมากพอสมควรเลย พาข้าออกไปแล้วข้าจะให้เงินเจ้าเอง อยากซื้ออะไรข้าจะซื้อ
“ดูเหมือนว่าข้าจะติดค้างคำขอบคุณกับท่านบารอนนะคะ ข้าขอขอบคุณที่ท่านพาข้าไปที่กลุ่มการค้าเทอรัน และขอโทษด้วยสำหรับการหลอกลวงท่าน..”บอกตามตรงว่าในใจของลีออนเขาไม่ได้อยากได้รับคำขอบคุณจากเธอเลยเพราะมันหมายความว่าเรื่องราวของเราทั้งสองคนมันจบลงแล้วยังไงละ“เลดี้จะกลับไปหาเขาอย่างนั้นหรือครับ”โอฟีเลียไม่ได้ตอบคำถามนั้นของลีออน เธอส่งยิ้มให้เขาแทนคำตอบ“หากว่าท่านบารอนมีสิ่งใดอยากให้ข้าช่วยเหลือก็บอกกล่าวมาได้เลยนะคะ ข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่”ลีออนขบเม้มริมฝีปากแน่น เขามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างไร้ที่มา อีกฝ่ายไม่ได้ผิดเลยสักนิดเดียวที่ปฏิเสธ เพราะความรู้สึกของใครก็ต้องให้คนคนนั้นรับผิดชอบเอาเอง เธอไม่ผิดที่ไม่รักเขา แต่เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดที่เขาดันไปรักเธอและคาดหวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้“ครับ..หากมีเรื่องที่ต้องการช่วยเหลือข้าจะไปหาเลดี้นะครับ ท่านเองก็เช่นกันหากว่าท่านมีเรื่องใดให้ข้าช่วยเหลือ..”หากว่าในวันข้างหน้าชายผู้นั้นหลอกลวงและทำให้เธอเจ็บปวดอีก“ก็มาหาข้านะครับ”โอฟีเลียก้มหน้าลงเล็กน้อย“ขอบคุณท่านบารอนมากนะคะ ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริงๆ”เธอกำลังท