หลินเหยาซื่อทำแป้งโดว์ให้เด็กทั้งสองเล่นและสอนปั้นเป็นรูปทรงต่างๆ จางหย่ง จางลี่ ต่างก็ชื่นชอบกันมาก
“ไม่คิดว่าแป้งสาลี่จะเอามาทำแป้งปั้นแบบนี้ได้นะคะ”
“ใช้ดีกว่าดินน้ำมันอีก” หลินเหยาซื่อหัวเราะคิกคัก นั่งมองเด็กๆ ปั้นแป้งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ “ให้เด็กๆ เล่นหน้าบ้านสักยี่สิบนาทีแล้วพาเข้าบ้านนะคะ ฉันจะไปทำงานก่อน”
“เจ้าค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าฮุ่ยชิวนั่งดูเด็กๆ ปั้นดิน ตอนนี้หลินเหยาซื่อใช้ห้องนั่งเล่นเป็นห้องทำงานตัดเย็บเสื้อผ้าตัวอย่าง จึงไม่อยากให้เด็กๆ เข้าไปรบกวนเวลาทำงาน
“ไข่ น้องไก่ไข่แล้วไปเก็บไข่กัน” จางลี่พูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแม่ไก่ร้องกระต๊ากๆ
“เก็บไข่ๆ” จางหย่งพูดขึ้นและทำท่าจะวิ่งไปที่เล้าไก่ใกล้ๆ
“ใจเย็นๆค่ะคุณหนูคุณชาย” ป้าฮุ่ยชิวหัวเราะออกมา จางลี่เป็นผู้หญิงแต่นิสัยใจกล้าอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กผู้ชาย แต่จางหย่งเป็นเด็กชายกลับนิสัยอ่อนโยนว่าง่ายราวเด็กผู้หญิง
“เดี๋ยวป้าเก็บเอง คุณๆ รออยู่ตรงนี้ อ้อ เล่นลูกบอลนี้ก็ได้ค่ะ” ป้าฮุ่ยชิวส่งลูกบอลให้จางหย่งแล้วเดินไปทางเล้าไก่ ครั้งก่อนให้เด็กๆ เก็บไข่เอง ทำไข่แตกคามือ จางหย่งเสียใจจนน้ำตาร่วง คราวนี้นางจึงไปเก็บเอง
จางลี่แย่งลูกบอลให้มือจางหย่ง จางหย่งมองมือที่ว่างเปล่าแล้วก็ได้สติ วิ่งไล่แย่งลูกบอลจากจางลี่ เด็กสองคนวิ่งเล่นแย่งลูกบอลส่งเสียงหัวเราะสดใส ใครเดินผ่านไปผ่านมาต้องหยุดมองด้วยรอยยิ้ม จางหย่งแย่งลูกบอลกลับมาได้ จางลี่แย่งกลับคืน แล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็โยนลูกบอลขึ้นก่อนจะใช้ปลายเท้าเตะไปสุดแรงเลียนแบบที่เคยเห็นในโทรทัศน์ แต่หนูน้อยเสียหลัก หงายหลังก้นกระแทกพื้น ลูกบอลกระเด็นกระดอนออกนอกรั้ว จางหย่งหันซ้ายหันขวาไม่รู้จะช่วยพี่สาวหรือลูกบอลก่อนดี
“ไปเก็บลูกบอล” จางลี่รีบสั่งการ “เดี๋ยวถูกคุณแม่ดุเอาอีก”
ทั้งสองสร้างวีกรรมเล่นของเล่นแล้วพังคามือมานับไม่ถ้วน
จางหย่งวิ่งตามลูกบอลที่กลิ้งไปอยู่นอกรั้วบ้าน เขาอาศัยรูปร่างเล็กและปราดเปรียวมุดช่องว่างของรั้วหน้าบ้านวิ่งตามลูกบอลไป สายตาของเด็กชายตัวน้อยอยู่ที่ลูกบอลลูกนั้น เขาวิ่งไปตะครุบไว้ได้ทัน แต่พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นรถยนต์คันหนึ่งตรงมาทางเขาแล้ว
รวดเร็วจนเด็กชายตัวน้อยยังไม่ทันกะพริบตา ร่างของเขาก็ลอยละลิ่วขึ้นทั้งที่กอดลูกบอลอยู่
เสียงกดแตรรถยนต์หน้าบ้านดังลั่น หลินเหยาซื่อที่กำลังตัดผ้าถึงกับทิ้งกรรไกรแล้ววิ่งออกมาดูทันที แรกทีเดียวเธอเกือบโล่งอกแต่กลับเห็นเพียงจางลี่นั่งอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้าน แต่ไม่เห็นเงาร่างของจางหย่ง ป้าฮุ่ยชิววิ่งหน้าตาตื่นออกมาพร้อมไข่ไก่ในมือก็ตกใจ ทั้งสองสบตากันแล้วมองไปที่นอกรั้วบ้าน
“หย่งหย่ง!”
หลินเหยาซื่อวิ่งไปที่หน้าบ้าน เธอแทบกระชากประตูรั้วให้เปิด ทว่าเบื้องหน้ามีชายหนุ่มอุ้มจางหย่งนั่งบนท่อนแขนของเขา ในมือลูกชายยังกอดลูกบอลอยู่ เด็กชายเห็นมารดาก็ยิ้มกว้าง
“แม่ครับ”
“หย่งหย่ง! ทำไมทำแบบนี้!”
ทั้งตกใจทั้งโกรธ หลินเหยาซื่ออยากจะตีลูกตัวเองนัก ถ้าถูกรถชนขึ้นมา เธอจะทำยังไง แค่คิดหัวใจก็เจ็บ น้ำตาก็รื้นขึ้นมาทันที
“แม่...” จางหย่งเสียงอ่อนลง แค่เห็นตาสวยๆ ของแม่มีน้ำตา ตัวเองก็พาลจะร้องไห้ไปด้วย “ขอโทษครับแม่”
หญิงสาวยื่นมือไปรับ แต่ชายหนุ่มยังกอดเด็กชายไว้ คิ้วเรียวงามเลิกขึ้นประหลาดใจ เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาดำลึกล้ำคู่นั้นอย่างไร้ความหวาดกลัว พลันรู้สึกคุ้นหน้าอยู่บ้าง เหมือน...เหมือนเคยเจอที่ร้านกาแฟหลายวันก่อน
“ขอบคุณที่ช่วยนะคะ แต่ส่งลูกชายฉันคืนมาด้วยค่ะ”
ชายหนุ่มยังคงนิ่งงัน แต่หลินเหยาซื่อขึงตาใส่
“คุณ! ฟังไม่เข้าใจเหรอ”
“แม่...นี่คุณพ่อไง”
คราวนี้หลินเหยาซื่อเป็นฝ่ายนิ่งไปบ้าง เธอพิเคราะห์คนตรงหน้าอีกครั้ง จะว่าไปก็หน้าตาคล้ายๆ กับคนในรูปถ่ายงานแต่งงานอยู่นะ แต่คนนี้ดูผิวเข้ม ผอมลง แต่ท่อนแขนเต็มไปด้วยมัดกล้าม
ไม่ละมั้ง คนหน้าคล้ายมีเยอะไป
ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก เด็กชายที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ได้เต็มปากเต็มคำ แต่คนที่เป็น ‘ภรรยา’ กลับทำหน้าเหมือนไม่เคยรู้จักกัน ต่อให้โกรธเกลียดกันขนาดไหนก็ไม่ใช่ว่าจะทำเป็นไม่รู้จักกันเช่นนี้
ป้าฮุ่ยชิวอุ้มจางลี่ออกมาดูที่หน้าบ้าน ดวงตานางเบิกกว้างก่อนจะพูดออกมา
“คุณผู้ชาย! คุณผู้ชายกลับมาแล้ว”
ชายหนุ่มคนเดิมจ้องมองเด็กหญิงตัวน้อยที่หน้าตาพิมพ์เดียวกับเด็กชายที่เขาอุ้มอยู่ จางลี่ยื่นมือไปข้างหน้า หลินเหยาซื่อรับลูกสาวมาอุ้มไว้เองแล้วกวาดสายตามองอีกฝ่ายเต็มตา เท่าที่เคยอ่านในไดอารี่ของ ‘หลินเหยาซื่อ’ เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ วันที่ตำรวจแจ้งเรื่องอุบัติเหตุ เธอไปดูที่เกิดเหตุและสภาพรถรวมทั้งศพผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนั้น เธอหน้ามืดเป็นลมไป ตำรวจจึงพาส่งโรงพยาบาลและทำให้รู้ว่าตอนนั้นเธอตั้งท้องลูกได้สามเดือนแล้ว การที่รู้ว่าตั้งครรภ์กลายเป็นแรงผลักดันให้เธอพยายามที่จะมีชีวิตอยู่
เขาหายไปกี่ปีกัน
ใบหน้าเด็กฝาแฝดดูอย่างไรก็เห็นโครงหน้าละม้ายคล้ายเขาอยู่หลายส่วน
“ลูก...”
กว่าจะค้นหาเสียงจนพูดออกมาได้ก็ทำเอาชายหนุ่มข่มความรู้สึกบางอย่างลงไป ไม่คิดว่า แค่ ‘คืนเดียว’ ที่มีความสัมพันธ์กันและเขาก็เมามาก จะทำให้มีเด็กน่าตาน่าเอ็นดูถึงสองคนอย่างนี้
“คุณพ่อ!” จางลี่พูดออกมา “คุณพ่อกลับมาแล้ว”
“เข้าไปในบ้านก่อนเถอะค่ะ”
ป้าฮุ่ยชิวพูดขึ้น นางกลัวว่าคุณผู้หญิงจะโกรธจนไล่คุณผู้ชายออกไป อย่างไรก็เป็นสามีภรรยากัน คุยกันปรับความเข้าใจกันจะดีกว่า อย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าลูกที่เพิ่งจะได้พบพ่อครั้งแรก แต่นี่ก็เพราะคุณนายชอบคุยกับเด็กๆ ให้ดูรูปทุกวันจนพวกเขาจำได้ว่า ‘พ่อ’ หน้าตาเป็นอย่างไร
หลินเหยาซื่อได้สติก็พยักหน้ารับ เป็นฝ่ายเดินนำเขาเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มคนนั้นยังคงอุ้มจางหย่งอยู่เพราะเด็กชายก็กอดคอเขาไม่ยอมปล่อย
จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นผูกพันในแววตาคู่นั้น หลินเหยาซื่อไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร ทำไมเธอรู้สึกว่าเขาคือคนที่เคยกุมมือไว้ก่อนที่จะสิ้นใจดวงตาหลังแว่นสายตาตื่นตกใจที่เห็นดวงตาคู่สวยมีหยดน้ำตา “คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า มีอะไรผิดปกติไหม”หญิงสาวใส่หน้าไปมา “ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ทำไมตัวเองถึงมีน้ำตา”เธอพยายามหัวเราะเช่นทุกครั้ง เวลามีอะไรเธอมักจะหัวเราะเสมอ กระทั่งครั้งนี้เธอก็หัวเราะทั้งที่มีน้ำตา ชายหนุ่มยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้ม“สัญญากันแล้วนี่นา ว่าจะไม่หลับไปนานแบบนี้อีก”คราวนี้หญิงสาวตกใจกับคำพูดของเขา“เมื่อกี้คุณหมอพูดว่าอะไรนะคะ”‘คุณหมอ’ ชายหนุ่มยิ้มเศร้า เธอคงจำเขาไม่ได้สินะ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วขยับตัวรักษาระยะห่างระหว่างหมอกับคนป่วย ทั้งที่เขาอยากคว้าเธอมากอดแนบอกเหลือเกิน‘จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เขาจำเธอได้ก็พอ’ชายหนุ่มมองดวงตากลมโตที่ยังมีแววสงสัย เรื่องแบบนี้เล่าไปจะมีใครเชื่อ ตัวเขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยหลังจากภรรยาตายจากได้ห้าปี เช้าวันหนึ่งเขาก็ตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร่างนี้ป่ว
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ มองตัวเองในกระจก ยกมือขึ้นเปิดเส้นผมที่ปรกหน้าเห็นรอยแผลจากการถูกกระแทกต้องเย็บยี่สิบเข็ม คุณหมอแจ้งว่าถ้าเธอต้องการทำศัลยกรรมเพื่อลบรอยแผลเป็นก็ทำได้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอหัวเราะและตอบไปว่า“ไม่เป็นไรค่ะ แผลเป็นนิดเดียว”แต่จริงๆเธอเสียเงินหลายหมื่นหยวน ในปีค.ศ. 2023 นี้ เธอคือผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดา เหลือเงินติดบัญชีอยู่ไม่เท่าไหร่ โชคยังดีที่บริษัทภาพยนตร์ที่เธอรับงานเป็นตัวประกอบเห็นใจให้เงินค่าทำขวัญมาจำนวนหนึ่ง ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นมาจากประกันอุบัติเหตุ เธอจึงไม่ต้องเป็นหนี้สินล้มละลายเพราะการรักษาตัวเอง แต่ข่าวที่เธอช่วยชีวิตคนอื่นก็ทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจ ตอนนี้แม้เธอเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ก็มีหลายบริษัทอยากให้เธอไปร่วมเล่นซีรีย์บทเล็กๆ ถึงอย่างไรหน้าตาเธอก็ไม่ได้สะสวยพอจะเป็นถึงนางเอกได้ และยิ่งตอนนี้มีแผลเป็นที่หน้าผากอีก ต่อให้ใช้ make up ปิดบังยังไง ก็ยังเห็นอยู่ดี แผลเป็นไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ เห็นแล้วก็อดคิดถึงแผลเป็นของผู้ชายคนนึงไม่ได้ แผลเป็นของเขาใหญ่กว่าเธอมาก ผ่านมาหลายปี แผลเป็นนั้นก็เป็นรอยจางๆหลินเหยาซื่อต้องทำกายภาพบำบัดที่โรงพยา
“ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ พ่อก็รักไม่น้อย ปกว่ากัน แล้วพวกลูกล่ะ จะรักน้อง ไม่ว่าน้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือเปล่า”“แน่นอนครับค่ะ พวกเรารักน้อง อยากให้น้องออกมาเร็วๆ จะช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องและเล่นกับน้อง” คนเป็นแม่หัวเราะเสียงใส จะช่วยแม่เลี้ยงน้องหรืออยากเล่นกับน้องก็ไม่รู้เสียงหัวเราะของคนในครอบครัว ละลายความหม่นเศร้าที่เคยปกคลุมในบ้านหายไปหมดสิ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปตรงหน้า“เข้าบ้านเถอะเย็นแล้ว อากาศเย็น เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอา”หญิงสาวมองมือใหญ่แข็งแกร่งที่ยื่นมาตรงหน้า เธอรู้ว่ามือคู่นี้จะคอยประคองเธอไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับเธอที่สัญญาไว้กับเขาว่าจะจับมือเขาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบางที...นี่อาจเป็นเหตุผลที่โชคชะตาส่งเธอมาในปีนี้ 1980 เพื่อได้รับใครสักคน และเพื่อให้หัวใจได้ถูกรัก.จบ.ลืมตาอีกครั้งหญิงสาวลืมตาขึ้นแล้วพบว่า ตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะรู้ว่า ตัวเองตื่นมาในปีค.ศ. 2023 เธอคือผู้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ในอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงแม่น้ำหลินเหยาซื่อจำได้ว่าตอนที่ฟื้นขึ้นมา เธอสบตากับดวงตาคู่หนึ่งแม้เขาจะสวมหน้ากากอนา
คราวนี้เห็นทีจะจบเรื่องแล้วจริงๆ หลินเหยาซื่อถอนหายใจอย่างหอบเหนื่อย เธอถึงกับหมดแรงนั่งลงไปกับพื้น สามีเห็นแล้วก็รีบเข้าไปประคองอุ้มเธอขึ้นมาไว้บนเตียง เขาสั่งการกับเว่ยฉือให้จัดการเรื่องทั้งหมดแทนเขา เมื่อในห้องไม่มีคนนอกแล้ว ลูกทั้งสองคนก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาหาแม่ได้“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นครับ/ค่ะ”เด็กน้อยสองคน ปีนขึ้นเตียงรีบเข้ามากอดแม่ เด็กฝาแฝดคนแย่งกันพูดเสียงดัง บรรยากาศกลับสดใสอีกครั้ง หลินเหยาซื่อส่ายหน้าไปมา บทเรียนต่อไปเธอต้องสอนให้ลูกพูดเสียงให้เบาลงกว่านี้ แต่เอาเถอะ เวลานี้เสียงของลูก ไพเราะที่สุดแล้ว“ขอแม่หอมแก้มเพิ่มพลังหน่อยสิ” หญิงสาวพูดขึ้น เด็กน้อยสองคนก็รุมหอมแก้มกันใหญ่สามีถอนหายใจแล้วค่อยยิ้มออกมา ทั้งที่เมื่อครู่เจอเรื่องอันตรายมากแต่เธอก็ยังยิ้มได้ คนที่บ้าที่สุดอาจจะเป็นภรรยาของเขาก็ได้ คิดแล้วเขาก็หัวเราะออกมาหลินเหยาซื่อเสียงสามีหัวเราะ ก็หันไปทำหน้ายู่ใส่“หัวเราะอะไรคะ”“หัวเราะอะไรคะ/ครับ” ลูกสองคนพูดเลียนแบบแม่“ไม่มีอะไรครับ”คนเป็นพ่อพูดแล้วโบกมือไปมา แต่หลินเหยาซื่อสบตากับลูกทั้งสองส่งสัญญาณ คนเป็นสามีรู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจแสร้งถอยหลัง แต
ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ดาราสาวปวดใจแทบเป็นบ้า ยิ่งเห็นกั๋วคังเหรินโอบกอดหลินเหยาซื่ออย่างปกป้องและความห่วงใย ครั้งหนึ่งอ้อมกอดนั้นเคยเป็นของเธอมาก่อน ทำไมมันถึงมาจุดนี้ได้ ทำไมไม่ใช่เธอที่อยู่ในอ้อมกอดเขา ดาราสาวแหงนหน้าหัวเราะ ท่าทางไม่ต่างจากคนเสียสติ โลกไม่ยุติธรรมเสียเลย เธอมองหน้าชายที่เคยรักผ่านม่านน้ำตา“ทำไมคะ ทำไมคุณไม่รักฉัน ทำไมคุณต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง เขาประคองร่างของภรรยาขึ้น มองเห็นหยดเลือดจากที่เธอกระชากสายน้ำเกลือออกก็ปวดใจ โชคดีที่ลูกสาวลูกชายไม่ได้อยู่ในห้องนี้ เขาไม่อยากให้ลูกๆ ต้องมาเห็นภาพแบบนี้“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว คุณจะรื้อฟื้นทำไม คุณเองก็ไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว ระหว่างที่เราคบกัน ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณมีคนอื่น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ได้ยินดังนี้ ดาราสาวถึงกับหน้าซีดไป เพราะเธอคิดเสมอว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องราวด้านมืดของเธอเลยชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง“ให้มันจบแค่นี้เถอะ คุณมีชีวิตของคุณ ผมมีชีวิตของผม ผมมีภรรยาและลูกที่รักมากและผมต้องดูแลพวกเขา นอกจากหลินเหยาซื่อแล้ว ชีวิตนี้ผมไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว เห็นแก่ควา
หลังจากมั่นใจว่า ในห้องไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว หลินเหยาซื่อจึงลุกขึ้นจากเตียงนอน เธอรู้สึกรำคาญสายน้ำเกลืออยู่บ้าง แต่จะทำอย่างไรได้ก็สถานะตอนนี้เป็นคนป่วยนี้นะเธอไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองอีกเมื่อไหร่ เธอจะหลับไปแบบนี้อีกไหม หลับไปยาวนานถึง 7 วัน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอ แม้กระทั่งหมอ แต่ตัวเธอเอง ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า ชีวิตที่ได้มาใหม่นี้ จะใช้ได้ยาวนานเพียงใด แต่ที่สุดแล้ว ก็ยังมีลมหายใจอยู่ โดยเฉพาะในชาตินี้ เธอรู้ดีว่า มีสิ่งที่สำคัญที่สุดรออยู่ นั่นก็คือ ลูกชายหญิงฝาแฝดของเธอ ที่แม้ซนเหมือนลิง แต่เธอก็รักพวกเขามากแม้ไม่มีความทรงจำที่อุ้มท้องพวกเขา แต่เธอก็รู้สึกว่าทั้งสองเป็นลูกของเธอจริงๆหญิงสาว มองไปที่โต๊ะตรงหัวเตียง มีกระเช้าผลไม้ตั้งอยู่ มีผลไม้หลากชนิด เธอเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลสีสวย เห็นแล้วก็คิดถึงงานที่ทำค้างอยู่ Collection ใหม่ครั้งหน้า เธอน่าจะออกแบบลายผ้า เป็นรูปผลไม้เด็กๆชอบผลไม้สีสันสดใส น่าจะทำลายผ้าแล้ว ทำของอย่างอื่นด้วยก็ดีนะหลินเหยาซื่อคิดฝันไปไกลถึงกิจการของตัวเอง และเม็ดเงินที่จะเข้ากระเป๋า เมื่อมีเงินมาก เธอก็สามารถท